ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กฎของเข็มทิศ ` ✧

    ลำดับตอนที่ #2 : 01 ✧ ไม่มีวันกลับมา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.88K
      633
      7 พ.ค. 64


    01

    ไม่มีวันกลับมา

     

    อาจจะเป็นเพราะฉันที่ทำให้วันดีดีหายไป
    อาจจะเป็นเพราะเธอที่ทำให้รักเราไม่ไปไหน

    ไม่มีวันกลับมา - Greasy Cafe

     


    คุณหนู กินข้าวก่อนสิคะ ป้าทำข้าวต้มปลาของโปรดไว้ให้ค่ะเสียงแหบหวานของหญิงวัยกลางคนเอ่ยบอกเมื่อเห็นลูกชายคนโตของตระกูลเดินเข้ามาภายในครัว คาดว่าคงตื่นนอนสักพักใหญ่แล้วแต่เพิ่งจะเดินลงมาชั้นล่าง เดี๋ยวป้าอุ่นให้นะคะ

    ไม่เป็นไรครับ ผมกินได้ เข็มทิศตอบกลับพลางเดินไปหย่อนกายนั่งบนเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์บาร์ ปกติแล้วหากคุณแม่กับคุณพ่ออยู่บ้านจะกินข้าวเช้าพร้อมกัน ทว่าวันไหนทั้งสองออกไปทำงานก่อนหรือใครคนใดคนหนึ่งมีธุระ เขาจะนั่งกินตรงเคาน์เตอร์บาร์แทน ศาไปไหนแล้วครับคุณปาย

    ออกไปส่งคุณน้ำเงินที่มหาลัยแล้วค่ะ เธอหันมายิ้มพลางตักข้าวต้มปลาลงชามก่อนเดินเอามาวางให้ เอ้อ คุณรัศเธอบอกว่าถ้าคุณหนูตื่นแล้วให้ไปหาที่ห้องทำงานหน่อยนะคะ

    “คุณแม่อยู่เหรอครับวันนี้ ผมนึกว่าออกไปทำงานแล้ว”

    “อยู่ค่ะ เห็นว่าคุณนิ่มจะมาหา”

    “คุณปายรู้ไหมครับว่าเรื่องอะไร” เขาถามด้วยความสงสัย คุณปายเปรียบเสมือนแม่คนที่สองของเขากับองศาเลยด้วยซ้ำเพราะคอยดูแลมาตั้งแต่เด็ก

    “ป้าไม่ทราบเลยค่ะ แต่คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไรเพราะวันนี้คุณรัศดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ”

    “โอเคครับ ...แล้วคุณปายกินอะไรหรือยัง”

    “เรียบร้อยแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นคุณหนูตามสบายนะคะ เดี๋ยวป้าขอเข้าครัวเล็กก่อน จะเตรียมอาหารเที่ยงให้ค่ะ”

    “ขอบคุณนะครับคุณปาย”

    ปกติแล้วเขาจะไม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นระหว่างอยู่บนโต๊ะอาหาร แต่หากนั่งอยู่คนเดียวถือว่าเป็นเวลาส่วนตัวทว่าไม่ได้เอื่อยเฉื่อยจนไม่เป็นอันกินหรอก เขาไถนิ้วลงบนบหน้าจอไล่ดูข่าวสารบนโลกออนไลน์ เมื่อไม่มีอะไรน่าสนใจแล้วจึงวางมันลงแล้วกินข้าวต้มฝีมือคุณปายจนหมดก่อนไปล้างชามให้เรียบร้อย

    หลังจากนั้นเขาเดินมายังห้องทำงานของคุณแม่ซึ่งอยู่ชั้นล่าง เคาะประตูสองสามครั้งเพื่อบอกให้คนด้านในรู้ตัวก่อนเปิดเข้าไป ชายหนุ่มลอบยิ้มเมื่อเห็นว่าเจ้าของห้องกำลังนั่งมองแท็บเล็ตเลื่อนดูรูปลายเล็บแบบต่างๆ พอเจอกับคุณแม่ของน้ำเงินก็พากันเข้าวงการทำเล็บ

    ตื่นเร็วจังเลยค่ะ วันหยุดแท้ๆ เธอกล่าวติดหัวเราะก่อนหันหน้าจอแท็บเล็ตบนตักมาให้เขาดู พี่เข็มว่าลายนี้สวยไหมคะ แม่ว่าจะส่งให้พี่ไพลินดู

    สวยดีครับ แต่กลิตเตอร์เยอะแบบนี้มันจะหลุดเอาหรือเปล่าลูกชายคนโตแสดงความคิดเห็นก่อนถามด้วยความสงสัยเพราะเขาไม่มีความรู้เรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่

    อืมม ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวแม่ลองหาลายอื่นไปเผื่อเลือกดีกว่าเนอะ

    ครับ แล้วให้คุณปายเรียกผมมาหา มีอะไรหรือเปล่าเข็มทิศวกเข้าเรื่องของตนเองทันใด คำถามของเขาทำให้มารดาละความสนใจจากลายเล็บทันที เธอหันหน้ามามองเขาแล้วฉีกยิ้มกว้างเหมือนมีเรื่องอะไรดีๆ สักอย่าง

    วันนี้นิ่มจะมาหาแม่ค่ะ พาน้องมาด้วย

    ยอมมาที่บ้านด้วยเหรอครับรายนั้นชายหนุ่มถามติดหัวเราะเมื่อได้ยินว่านับจะมาที่นี่ คาดว่าอย่างไรเสียก็โดนบังคับให้มา ไม่มีทางที่จะเอ่ยปากร้องขอว่าจะมาเหยียบบ้านเขาด้วยตัวเองหรอกและมั่นใจว่าหากเจอหน้าเขาคงได้ทำหน้างอใส่เหมือนทุกที

    มาสิคะ นี่แม่บอกไปหรือยังเอ่ยว่าจะให้พี่เข็มช่วยสอนงานให้น้องรัศมีเอียงคอถามเหมือนไม่รู้เรื่องราว ส่วนลูกชายขมวดคิ้วมุ่นเลยต้องอธิบายต่อ น้องนับเรียนจบแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปหางานทำค่ะ นิ่มจะให้น้องช่วยงานที่บ้านเลยอยากให้น้องนับเรียนรู้จากบ้านเราไป

    “…”

    พี่เข็มโอเคไหมคะ มารดาถามซ้ำเมื่ออีกฝ่ายเงียบเสียง สีหน้าครุ่นคิดเหมือนไม่อยากตกลงปลงใจ ไม่โอเคหรือคะ

    ผมไม่มีปัญหาหรอกครับ ถ้านับตกลง เข็มทิศไม่ได้มากเรื่องอยู่แล้ว ไม่มีปัญหากับการสอนงานด้วยทว่าเด็กคนนั้นน่ะจะยอมให้เป็นแบบนั้นหรืออย่างไร

    นิ่มคอนเฟิร์มว่าน้องตกลงค่ะ แต่แม่ยังไม่ได้คุยกันว่าจะให้เริ่มงานเมื่อไหร่ วันนี้ถึงจะรู้เรื่อง

    คุณน้านิ่มได้ไปบัง...เข็มทิศยังถามไม่ทันจบประโยค เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน เขาเอี้ยวใบหน้าไปมองเมื่อประตูเปิดออกจึงพบกับบุคคลในบทสนทนา สวัสดีครับคุณแม่

    สวัสดีค่ะพี่เข็ม นิ่มขานตอบด้วยรอยยิ้มก่อนเดินเข้ามาหา ยกมือจับไหล่คนที่เป็นเหมือนลูกชายอีกคนหนึ่งด้วยความรัก ก่อนเบนหน้าไปหาน้องนับที่เดินตามหลังมา

    คุณแม่สวัสดีครับ นับเงินเอ่ยปากสวัสดีคุณแม่รัศมี แม้จะเลิกกับพี่เข็มไปแล้วแต่ยังเรียกว่าแม่เหมือนเดิม คุยกันไปก่อนได้ไหมครับ นับขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึง

    ได้ค่ะ น้องนับรีบไปรีบมานะคะ รัศมียิ้มรับแล้วผงกศีรษะให้ เมื่อนับเงินเดินออกไปแล้วจึงหันมองหน้าลูกชาย พี่เข็ม

    ครับ?”

    แม่ขอคุยธุระสักครู่ค่ะ พี่เข็มไปอยู่คุยกับน้องนับก่อนนะคะ

    เข็มทิศพยักหน้ารับคำสั่ง เห็นกันอยู่ว่าเป็นแผนของพวกคุณแม่ ปกติแล้วเวลาพูดคุยธุระกันมีหรือจะไล่เขามาข้างนอกเพราะส่วนมากชอบความเห็นของเขาอยู่เสมอ ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องทำงานแล้วตรงไปทางหน้าห้องน้ำ ดักรอเด็กที่เจอหน้ากันแล้วไม่มีให้แม้กระทั่งรอยยิ้ม

    เขายืนกอดอกพิงกำแพงรออยู่ครู่หนึ่งคนด้านในห้องน้ำก็เปิดประตูออกมา พอเห็นเขาเรียวคิ้วก็ขมวดเข้าหากันมุ่น วันนี้นับเงินสวมเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์สบายๆ อย่างที่ชอบใส่เป็นประจำ

    เธอเป็นโรคจิตเหรอ

    นั่นล่ะคำทักทาย เข็มทิศไหวไหล่แล้วหยักยิ้มเหมือนไม่ใส่ใจ น้องฟึดฟัดใส่แล้วทำทีจะเดินหนีเขาจึงต้องเดินไปดักหน้าเอาไว้เสียก่อน

    แม่เธอกับแม่พี่คุยธุระอยู่ พี่โดนไล่ออกมา

    แบบเธอเนี่ยเหรอโดนไล่ออกมานับเงินช้อนใบหน้ามองด้วยความข้องใจ ยอมรับว่าไม่เชื่อเลยสักนิดเดียว

    ใช่สิ พี่จะหลอกเธอทำไมคนโตกว่าย่นคิ้วเข้าหากัน เธอก็รู้ว่าพี่ไม่เคยโกหก

    ...

    เชื่อกันหรือเปล่าล่ะ

    ถ้าเธอมีงานก็ไปทำ นับนั่งคนเดียวได้เขาชิงเปลี่ยนเรื่อง ปฏิเสธไม่ได้หรอกเพราะมันเป็นความจริง ตั้งแต่คบกันมาเข็มทิศไม่เคยโกหกเขาเลยสักครั้ง

    รู้ได้ยังไงว่าคุณแม่สั่งให้พี่มาอยู่กับเธอ

    แค่เดานับเงินมุ่ยหน้า อยากตบปากตัวเองหลายๆ หนที่พูดออกไปโดยไม่คิด เข็มทิศจึงปั่นประสาทเขาอีกแล้วเพราะมันเป็นแบบนี้เสมอ ต่อให้เลิกกันมานานแต่คุณแม่รัศมีชอบสั่งให้พี่เข็มตามมาคอยดูแลเขา

    และใช่... เข็มทิศไม่เคยปฏิเสธคำสั่งเหล่านั้น

    แต่ชอบมากวนอารมณ์มากกว่าดูแลเหมือนตอนนี้

    เก่งจัง

    เธอไม่กวนประสาทนับได้ไหม

    พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยครับยกยิ้มมุมปากเมื่อยั่วอารมณ์ของน้องได้ ความจริงแล้วอีกฝ่ายไม่ได้ขี้หงุดหงิดแต่อย่างใด แต่ตอนนี้เข็มทิศเป็นบุคคลผู้อยู่ในสถานะที่นับเงินไม่อยากนับญาติด้วย คุณแม่บอกว่าเธอตกลงมาทำงานกับพี่

    โดนบังคับ เขาตอบกลับทันควัน สีหน้าเรียบเฉยแต่สามารถบอกให้รู้ได้ว่าไม่พอใจ ถ้าไม่มีเรื่องจำเป็น....

    นับจะไม่มาให้เธอเจอ เสียงทุ้มตอบกลับประโยคถัดไปอย่างรู้ทัน เขาได้ยินมันบ่อยครั้งจนท่องจำได้ขึ้นใจ เธอพูดบ่อยจนพี่จำได้แล้ว

    ถ้าจำได้คราวหลังก็รู้ไว้เลย เรื่องไหนที่ต้องมายุ่งกับเธอ คือนับโดนบังคับ

    เธอจะเกลียดอะไรพี่ขนาดนั้นครับ เข็มทิศถามเหมือนไม่คิดอะไร สองเท้าขยับเข้าไปประชิดตัวนับเงินมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอีกฝ่ายทำใจดีสู้เสือเหมือนไม่เกรงกลัวทว่าสุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับเขา

    “…เธอ!”

    พี่ถามว่าเธอเกลียดอะไรพี่ขนาดนั้น เขาขยับใกล้นับยกสองมือขึ้นยันอกไว้ แกล้งผ่อนลมหายใจรดข้างแก้มจนน้องเบือนหน้าหนีไปอีกทางและเขารู้ว่าทำอย่างไรอีกฝ่ายถึงจะยอมหันกลับมา น้อง...

    เธออย่ามาเรียกนับแบบนี้นับเงินหันกลับมามองหน้า เผลอสบกับแววความนิ่งเฉยของอีกฝ่ายก่อนรีบเปลี่ยนจุดพักสายตาเป็นอย่างอื่น กระนั้นมันไม่ได้ดีขึ้นสักเท่าไหร่เพราะดันเห็นเสี้ยวหนึ่งของรอยสักบริเวณข้อพับแขนของเข็มทิศ คนเป็นพี่สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวเหนือศอกเล็กน้อย

    เขารู้ดีว่ารอยสักนั้นเป็นรูปอะไร

    งั้นตอบพี่มา

    ...

    ตอนไปสิงคโปร์เธอยังไม่งอแงขนาดนี้

    มันก็แค่ตอนนั้นเอ่ยตอบเสียงเบาพลางเก็บกลั้นอารมณ์บางอย่างเอาไว้ หัวใจเขาไหวสั่นยามเผลอเงยขึ้นสบตาอีกหน เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้หรอก

    เธอเกลียดพี่หรือเปล่า

    เปล่า นับไม่ได้เกลียดเธอ ถ้าได้คำตอบแล้ว เธอก็ถอยออกไปนับเงินพยายามดันคนตรงหน้าให้ถอยออกไปตามคำสั่งเพราะยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งปั่นป่วน แต่มีหรือที่คนเอาแต่ใจจะยอมฟัง อีกฝ่ายเปลี่ยนมารวบข้อมือของเขาไว้ด้วยมือข้างเดียว ทำอะไรของเธอเนี่ย เมื่อไหร่จะเลิกเอาแต่ใจใส่นับสักที

    เมื่อเธอยอมพูดกับพี่ดีๆ

    แล้วนับพูดไม่ดีตรงไหน

    เธอทำเสียงหงุดหงิดใส่พี่ตลอด

    ...

    หรือจะบอกว่ามันไม่จริงเข็มทิศเลิกคิ้วมองหน้าน้องอย่างเอาเรื่อง พออีกฝ่ายเงียบและเป็นอันรู้กันว่าจะไม่ตอบคำถามนี้เขาจึงยอมปล่อยมือ ถอยหลังออกมาสองก้าวเพื่อเว้นระยะห่าง กินข้าวมาหรือยัง

    ...

    พี่ถามว่ากินข้าวหรือยังเขาถามเสียงดุเมื่อน้องยืนนิ่งไม่พูดจา จำต้องเปลี่ยนเรื่องเพราะหากฝืนคุยเรื่องเก่ามีหวังวันนี้คงตึงใส่กันอีกแน่

    ยังไม่ได้กิน

    จะกินข้าวไหม

    ยังไม่หิว

    กินข้าวให้มันตรงเวลาบ้างเถอะ

    ทำเหมือน...นับเงินกลืนคำพูดลงคอเมื่อมองหน้าเข็มทิศ ลมหายใจร้อนผ่อนออกเล็กน้อยแล้วเงียบเช่นเคย ไม่ควรเถียงออกไปเพราะจะกลายเป็นว่าเขาไปรื้อฟื้นเรื่องเก่าและคงทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่เคยลืม

    เหมือนอะไรเสียงทุ้มถามด้วยความค้างคาใจแต่อีกฝ่ายยืนเงียบเลยไม่คิดพูดซ้ำให้มีปากเสียง ไม่อยากตอบก็ตามใจเธอ แต่เดินตามพี่มา

    ไปไหน

    กินข้าว

    ไม่เอานับเงินรีบสวนกลับทันที เมื่อเช้าทางบ้านทำข้าวเช้าไว้ให้แต่เขายังไม่หิวเลยปฏิเสธไป ใครเล่าจะรู้ว่าเข็มทิศจะมาสั่งให้ไปกินข้าวแบบนี้แถมเขากำลังจะทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจด้วย ไม่อยากรบกวนคุณปาย

    ไม่รบกวน

    “…”

    เพราะพี่เป็นคนทำเข็มทิศถอนหายใจเบาๆ บางครั้งนับเงินดื้อเลยยากที่จะพูดคุย น้องยืนนิ่งไม่ไหวติงเขาจึงต้องเดินไปคว้าข้อมือ อีกฝ่ายทำทีจะกระตุกหนีชายหนุ่มเลยเอ่ยเสียงดุ เดินมากินข้าวด้วยกันดีๆ

    “…”

    พี่ไม่อยากดุเธอ

     

     

    ความรู้สึกคุ้นเคยก่อขึ้นเสมอเวลาเผลอมอง นับเงินพยายามไม่สนใจบุคคลที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงหน้า พยายามไม่ดึงเข็มทิศกลับเข้ามาอยู่ในห้วงความคิด ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความรู้สึกยังคงอยู่ แน่สิ... เจอหน้ากันบ่อยแบบนี้จะไปลืมได้อย่างไร

    แม้เข็มทิศจะทำเหมือนไม่สนใจทว่าบางอย่างยังกระทำให้เขาเหมือนอย่างเคย ใครมันจะไม่คิดถึงบ้าง... แต่เขาเก่งที่สามารถกักเก็บอารมณ์และความรู้สึกให้เข้มแข็ง ไม่ต้องร้องไห้ออกมาเพราะความหวั่นไหว

    เขี่ยข้าวทำไมชายหนุ่มถามเสียงเรียบ เขาเพิ่งเงยหน้าขึ้นมาแต่ช้อนสายตามองเป็นระยะเห็นว่านับเงินนั่งเขี่ยข้าวมาครู่หนึ่งแล้ว ทว่าเขาดันทำให้อีกฝ่ายสะดุ้งเฮือก ตกใจอะไร พี่แค่ถาม

    เงียบอยู่ตั้งนานแล้วอยู่ดีๆ เธอก็พูดขึ้นมา ใครจะไม่ตกใจ

    ถ้าพี่คุยกับเธอ เธอจะตอบหรือเปล่าล่ะ

    ไม่ ...ไม่อยากคุยกับเธอ

    งั้นพี่เงียบก็ถูกแล้วคนโตกว่าไหวไหล่ รู้คำตอบดีอยู่แล้วจึงนั่งเล่นโทรศัพท์ระหว่างรอ เขายกมือข้างหนึ่งเท้าคางก่อนจดสายตามองคนตรงหน้า กินข้าวให้หมด

    นับอิ่มแล้ว

    กินไปแค่ไม่กี่คำ

    กินไป...

    พี่เป็นคนทำ พี่รู้ว่าเธอกินไปแค่ไหน

    นับเงินค้อนตามอง รู้ดีเชียวนักนะ ไม่ใช่ว่ามันไม่อร่อยหรือไม่อยากกินหรอกแต่มัน... อ่า อธิบายไม่ถูก เขาถอนหายใจครั้งหนึ่งก่อนก้มหน้าก้มตาตักข้าวเข้าปาก รับรู้ได้ว่าเข็มทิศกำลังนั่งมองอยู่เล่นโทรศัพท์แบบเมื่อกี้ก็ดีแล้วแท้ๆ

    เธอนั่งมองหน้านับทำไม ไม่ได้อึดอัดหรอกแต่เขาเกร็งจนทำอะไรไม่ถูก

    กลัวเธอไม่กิน

    กินอยู่ไง

    พี่อยากมองหน้าเธอเข็มทิศหยอกราวกับไม่คิดอะไร กินข้าวไปครับ

    นับเงินเม้มปาก นัยน์ตาและน้ำเสียงของอีกฝ่ายที่แสดงออกจริงจังยิ่งทำให้เขาไปต่อไม่ถูก ไม่อยากกลับเข้ามาวนเวียนอยู่รอบตัวเพราะแบบนี้ อีกฝ่ายคิดอะไรอยู่เขาไม่มีทางได้รู้เลย ...แถมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่ผ่านมาเข้าใกล้เข็มทิศถึงระดับไหน แต่ห้วงความรู้สึกหนึ่งพึงคิดเอาไว้เสมอ

    นับเงินเล็ดลอดผ่านเข้าไปทางประตูหัวใจและถูกสกัดเอาไว้เพียงแค่นั้น ไม่เคยได้ก้าวผ่านความเป็นเข็มทิศไปได้เลยสักครั้ง หรืออาจเป็นเพราะเขายังพยายามไม่มากพอ

    “นับอึดอัด” เขาจำต้องบอกอะไรต่างจากความคิด มันกระอักกระอ่วนอยู่ในใจ แม้เคยกินข้าวร่วมโต๊ะกันบ่อยครั้งแต่การมานั่งมองหน้าแบบนี้คงไม่ใช่ทางที่ดีนัก

    “พี่ต้องเว้นระยะห่างแค่ไหน”

    “...”

    “มันถึงจะพอดี ไม่ให้เธอต้องอึดอัด”

    เหตุใดนับเงินถึงได้กลายเป็นคนรู้สึกผิด เขาเม้มริมฝีปากเล็กน้อยก่อนผ่อนลมหายใจเจือจาง ท้ายแล้วส่วนลึกของหัวใจยังพ่ายแพ้ต่อคนตรงหน้า

    นับเงินพ่ายแพ้ต่อเข็มทิศ

    “เธอแค่ไม่มองหน้านับตอนกินข้าว”

    “ครับ” ชายหนุ่มพยักหน้าเข้าใจแล้วละสายตาจากนับเงินเพื่อไม่ให้เกิดปากเสียงระหว่างเรา เข็มทิศกดโทรศัพท์เข้าสู่โลกออนไลน์อีกครั้ง

    ความเงียบเข้าปกคลุมบริเวณกินระยะเวลาประมาณสิบนาที นับเงินกินข้าวจนเกือบหมด เหลือปริมาณหนึ่งที่คาดว่าจะไม่โดนเข็มทิศดุ เจ้าของร่างเล็กลุกขึ้นแล้วตรงไปยังซิงค์ล้างจาน ข้าวของทุกอย่างภายในบ้านเขารู้หมดว่าอะไรอยู่ตรงไหน

    เขายืนล้างจานโดยที่เจ้าบ้านไม่เข้ามาห้าม เป็นอันรู้กันว่านี่คือนิสัยอย่างหนึ่งซึ่งเข็มทิศไม่อยากขัดใจ นับเงินมักเป็นคนล้างจานหรือทำอะไรเองทุกครั้งเวลามารบกวน เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงหมุนตัวกลับ เจ้าของร่างสูงยังนั่งนิ่งไม่ขยับไหว เขาถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินเข้าไปหา

    “เธอ” นับเงินเรียกเสียงเบาจนคนที่ก้มหน้าอยู่เงยขึ้นมองแล้วเลิกคิ้วเชิงสงสัยว่ามีอะไร “ขอบคุณ ...ครับ”

    “ครับ”

    “นับจะเข้าไปหาแม่”

    “ไปนั่งรอห้องรับแขกก่อน” เข็มทิศยืดกายขึ้นเต็มความสูง ขยับปลายเท้าออกจากโต๊ะอาหารและห้ามไม่ให้น้องกลับเข้าไปยังห้องทำงานของคุณแม่ คาดว่าทั้งสองคนน่าจะยังคุยกันไม่เสร็จ

    “แล้วเธอ?”

    “จะให้พี่ตามไปนั่งด้วยหรือเปล่าล่ะ”

    “บ้านเธอ ...จะทำอะไรก็เรื่องของเธอ จะไปทำงานก็ได้ นับ—”

    “อยู่คนเดียวได้”

    “อื้ม” นับเงินเบือนหน้าหนีเพราะเข็มทิศดักทางได้เสียหมด คงเพราะมันเป็นไม่กี่คำที่เขาพูดใส่อยู่บ่อยๆ ล่ะมั้ง “นับไปนั่งห้องรับแขกนะ”

    “ครับ”

    เจ้าของบ้านขานรับเหมือนไม่ใส่ใจ ทว่าสายตามองตามแผ่นหลังภายใต้เสื้อยืดไปจนลับสายตา เขาถอนหายใจเบาๆ ก่อนเดินตามออกมา เข็มทิศควรก้าวขาขึ้นบันไดเพื่อกลับไปเคลียร์งานของตนเองภายในห้องมากกว่า แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงเดินตามนับเงินมาห้องรับแขกได้

    เธอไม่มีงานเหรอ

    มีเขาตอบเสียงเรียบและไม่ได้โกหกแต่อย่างใด แต่ยังไม่อยากทำ

    เธอมีเวลาที่ไม่อยากทำงานด้วยเหรอ นับเพิ่งรู้ นับเงินถามติดประชดขณะหย่อนกายลงนั่งบนโซฟา ริมฝีปากเบ้ลงเพราะตั้งแต่รู้จักมาคิดว่าไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น

    เพิ่งมีความรู้สึกตอนเลิกกับเธอ

    “…” นับเงินชะงักเมื่อได้ยินคำตอบตรงไปตรงมา ครู่เดียวเข็มทิศขยับเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าจนเขาหายใจสะดุด อะ...อะไร

    ทำไมช่วงนี้เธอดูงอแง

    เพราะต้องมาทำงานกับเธอมั้งเขาขานพลางช้อนสายตาขึ้นมอง ช่วงจังหวะนั้นสบตากันอีกครั้งและหนนี้เขาไม่อยากเป็นผู้แพ้จึงไม่หลบไปไหน

    แค่ทำงานด้วยกัน มันมีอะไรยาก

    นับไม่อยากอยู่ใกล้เธอ

    เพราะเธอยังรักพี่ใช่ไหม

    คำถามเจาะจงจากถ้อยเสียงทุ้มต่ำทำให้เขาอึ้งจนไปต่อไม่ถูก คำตอบของหัวใจคือใช่... เขายังรักเข็มทิศอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ทุกความรู้สึกยังคงเป็นเหมือนเดิม ทว่าคำตอบที่ปากเอ่ยตอบออกไปนั้นตรงกันข้าม

    นับไม่ได้รักเธอแล้ว

    “…”

    เหตุผลที่ไม่อยากทำงานด้วยเพราะนับไม่อยากเจอหน้า ไม่อยากคุยกับเธอ แค่นี้เลยจริงๆนับเงินโกหกหน้าตาย ความรู้สึกปวดหนึบก่อตัวขึ้นมา ตอนอีกฝ่ายกดยิ้มมุมปากเหมือนจงใจเยาะมันทำให้เขาคิดว่าคงแค่อยากเอาชนะ

    นับเงินโดนเข็มทิศดึงให้ลุกขึ้นยืน เราเผชิญหน้ากันตรงๆ ระยะห่างลดหลั่นจนแทบใกล้ชิด และร่องรอยความไม่พอใจฉายชัดบนใบหน้า

    ถ้าเธอบอกไม่รักพี่แล้ว

    ...ทำไมนับเงินถามเสียงสั่น สะกดความประหม่าเอาไว้เมื่อเข็มทิศเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ ...ใกล้เสียจนต้องกลั้นลมหายใจ นัยน์ตาคมแสดงแววดุดันและจริงจัง สุดท้ายทนไม่ไหวจึงเบือนหน้าหนี แต่คนที่รู้จักตัวเขาดีนั้นยกแขนขึ้นโอบรอบเอวก่อนกระชับใกล้ “เธอ!”

    “งั้นตั้งกฎกันไหม”

    กฎอะไรถามเสียงขุ่น ไม่ได้อยากอยู่ในท่าทางแบบนี้สักเท่าไหร่เพราะกลัวใครต่อใครมาเห็นแล้วจะไปตีความกันผิดๆ ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถขยับหนีไปไหนได้

    ถ้ามาทำงานด้วยกัน...เข็มทิศกระซิบ เว้นช่วงจังหวะก่อนเงียบเสียง กดดันให้นับเงินหันกลับมามอง เมื่ออีกฝ่ายตวัดสายตาโกรธเคืองมาให้จึงยกยิ้มเจ้าเล่ห์

    เธอ นับเงินเรียกเสียงแผ่ว ริมฝีปากขบเข้าหากันทีละนิดเมื่อเข็มทิศบีบเอวคอดแล้วไล้ปลายนิ้วโป้งลูบวนเป็นวงกลมเชื่องช้า

    พี่ไม่ทำรุ่มร่ามกับเธอตรงนี้หรอก

    แต่ตอนนี้เธอกำลังทำอยู่เขาพูดเสียงแข็ง พยายามปรับระดับลมหายใจให้เป็นปกติแต่มันยากเหลือเกินกับการต้องมารับมือกับเข็มทิศ ถ้าเธอยังไม่พูด นับจะ—

    “เธอจะทำอะไรพี่ได้ครับ”

    นับเบื่อเธอจริงๆเจ้าของเสียงติดหงุดหงิดพูดขึ้นมา ใบหน้าบ่งบอกได้ถึงความไม่สบอารมณ์แถมยังต้องยืนนิ่งเป็นหุ่นเพราะเขารู้ว่าเข็มทิศทำอะไรได้บ้าง รีบๆ พูดมา นับไม่อยากให้ใครมาเห็นว่าเธอกำลังทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่

    ห่วงเหรอ?” เข็มทิศถามติดหัวเราะ เขาสนใจใครที่ไหนล่ะ หากเห็นแล้วอยากจะเอาไปพูดอะไรก็เชิญ

    เธอนับเงินเรียกเสียงขุ่นเพราะชักหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว

    รู้เรื่องครับชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อภารกิจของตนเสร็จสิ้น ทำให้นับเงินหงุดหงิดได้ถือเป็นความชอบใจ เขาปล่อยอีกฝ่ายให้เป็นอิสระแล้วทบทวนเรื่องที่พูดคุยเมื่อครู่อีกครั้ง เธอบอกว่าไม่รักพี่แล้วใช่ไหม

    ใช่

    งั้นเธอ...

    อะไร

    อย่าเผลอมารักพี่อีกครั้งแล้วกัน

    “…”

    มันเป็นกฎของพี่ หวังว่าเธอจะทำได้

    เข็มทิศวางมือลงบนศีรษะของเขา ลูบไล้แผ่วเบาสามสี่ครั้งก่อนผละออกไป นับเงินทิ้งตัวลงนั่งราวกับคนหมดแรง ถ้อยเสียงทุ้มยังวนเวียนชัดในโสตประสาท สัมผัสอบอุ่นเมื่อครู่ยังคงอยู่จนทำให้ขอบตาร้อนผ่าวอย่างควบคุมไม่ได้

    ไม่มีหรอกกับการเผลอไปตกหลุมรักอีกครั้ง

    เพราะเขา... ไม่เคยเลิกรัก

     

    tbc

    ร้ายกาจ คำเดียว พี่เข็มอะนะ เธอทำแบบนี้ใครจะลืมเธอได้ก่อนนนนน /ฟาดหลัง

     

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×