ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องของต้นเหมย ` ✿ (end. สนพ.sensebook)

    ลำดับตอนที่ #11 : 10 ✿ หลับตาหน่อย

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.63K
      606
      12 มิ.ย. 64


    10

    หลับตาหน่อย , ต้นเหมย

     

    (ของฝากเหรอวะ หิมะตกยัง) เสียงเพื่อนสนิทถามอย่างสงสัย เขาใกล้กลับแล้วเลยถามเพื่อนว่าอยากได้ของฝากอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า ตอนแรกพิมพ์คุยแชตกันอยู่ดีๆ แต่ไม่ถึงสิบนาทีพู่กันก็โทรเข้ามาโดยไม่กลัวว่าจะเปลืองเงินค่าโทรศัพท์

    ยัง

    (กูอยากได้หิมะอย่างเดียวอะ) เขาถอนหายใจทันทีเมื่ออีกฝ่ายพูดจบ ตามด้วยเสียงหัวเราะคิกคัก (ล้อเล่นเว้ย ไม่เอาอะไรหรอก กูจะโทรมาถามมึงเฉยๆ ว่าเป็นไงบ้าง)

    เรื่อยๆ

    (แฝดมึงอะเหมย)

    ทำไมเหมยหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อโทนเสียงของเพื่อนสนิทเปลี่ยน

    (ดูไม่ค่อยดีว่ะ ยิ่งใกล้ถึงเวลามันยิ่งเงียบเหมือนมีเรื่องคิดตลอดเวลา ไอ้เพลิงมันบ่นอยู่ว่าเป็นห่วง)

    มันกำลังจะจบแล้วยอมรับว่าเขาพูดคำนี้มาแล้วหลายหน ไม่ว่าจะกับเพื่อนสนิท แฝดน้องหรือแม้กระทั่งตัวเอง ฝากดูหมิงให้หน่อย

    (เออ ยังไงกลับมาคุยกันเว้ยมึง มีอะไรก็ทักพวกกูมานะ)

    ขอบคุณมาก

    เหมยเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าเมื่อพู่กันกดวาง มันเป็นบทสนทนาซ้ำๆ เพราะเขายังไม่ได้กลับไป มีแต่การคาดเดาต่างๆ นานา ว่ามันจะเป็นไปในทิศทางไหน ถึงอย่างนั้นเขาได้พูดคุยกับแฝดน้องบ้างแล้วหลังจากวันที่ป๊าโทรมาถาม หมิงบอกว่าป๊าไม่ได้ไปพูดอะไรกับตนจึงสั่งให้แฝดทำตัวตามปกติ

    เขาถอนหายใจครั้งหนึ่งก่อนรวบความคิดทุกอย่างละทิ้งไป เหลืออีกแค่ไม่กี่วันรอยยิ้มบนใบหน้าคงจางไปเหมือนเคย ทุกวันนี้พูดได้เต็มปากว่าเขายิ้มเพราะญี่ปุ่น มีความสุขมากขึ้นเพราะอีกฝ่ายวนเวียนอยู่ใกล้ตัว

    เช่นนั้นจึงต้องตักตวงช่วงเวลาแห่งความสุขที่เหลือน้อยลงให้ได้มากที่สุด

    ต้นเหมย!” เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียง แถมยังได้รับสัมผัสหนักๆ บนหัวไหล่เพราะญี่ปุ่นวิ่งเข้ามาเกาะ ตกใจอะไรเนี่ย

    ไปซื้ออะไรมา

    “…ไม่บอกหรอกญี่ปุ่นทำอุบอิบแล้วรีบเปลี่ยนเรื่อง ต้นเหมยจะไปหรือยังอะ

    ไปสิ

    งั้นเดี๋ยวไปซื้อตั๋วก่อนนะ

    เดี๋ยวซื้อให้

    ไม่เป็นไร เราซื้อเอง รออยู่ตรงนี้ก่อนนะเหมยพยักหน้ารับ ปล่อยให้เจ้าถิ่นเดินหายเข้าไป เขายืนอยู่หน้าสถานีฮาโกดาเตะ รออยู่ประมาณห้านาทีญี่ปุ่นเดินออกมาพร้อมกับตั๋วรถรางแบบ one day pass

    เขาจำไม่ได้ว่าญี่ปุ่นวางแพลนวันนี้ไว้อย่างไร จำได้แต่สถานที่สุดท้ายคือนั่งกระเช้าขึ้นไปยังยอดเขาฮาโกดาเตะตามเป้าหมายของตัวเอง แต่ที่แน่ๆ ไม่มีป้อมโกเรียวคาคุเพราะมันถูกยกยอดไว้เป็นวันพรุ่งนี้

    ญี่ปุ่นเดินนำไปขึ้นรถรางซึ่งเป็นพาหนะโดยสารสำหรับทริปเที่ยววันนี้ ชายหนุ่มเดินตามเจ้าถิ่นขึ้นมาบนรถหลังจากรอเวลาตามกำหนด ภายในกว้างขวางพอสมควร มีผู้คนร่วมเดินทางไปด้วยไม่มากเท่าไหร่นัก

    มัดผมไหมชายหนุ่มกระซิบเมื่อได้ที่นั่งเรียบร้อย อีกฝ่ายปล่อยผมหน้าม้าลงมาปรกหน้าทำให้คิดว่าอาจจะรำคาญ

    มัดๆ เดี๋ยวเราหายางก่อนญี่ปุ่นขานตอบพลางหยิบกระเป๋าสะพายบ่าขึ้นมาเปิด รื้อหากระปุกใสใส่หนังยางแล้วหยิบมาเส้นหนึ่งก่อนเก็บทุกอย่างให้เหมือนเดิม คนตัวจ้อยหันมายิ้มแล้วจัดการรวบหน้าม้าขึ้นมัดจุกเป็นต้นมะพร้าว

    ผมยาวไปแล้วหรือเปล่าเหมยส่งเสียงถามขณะมองทุกอิริยาบถ

    เหรอ ปกติเราจะตัดตอนมันปิดลูกตาอะ

    ทำไมต้องปล่อยมันทิ่มตาก่อน

    เราขี้เกียจไปตัดนี่

    ไปตัดไหมเจ้าคนตัวยุ่งหันมาส่ายหน้าพรืดใหญ่ ทำไม

    เดี๋ยวเสียเวลาเราคุยกันด้วยถ้อยคำกระซิบกระซาบเพราะไม่อยากให้รบกวนผู้โดยสารท่านอื่น อีกอย่างแถวนี้เราไม่รู้ว่าถ้าตัดมาแล้วจะโอเคไหม

    มีร้านประจำเหรอครับ

    อื้อๆมันเป็นเรื่องธรรมดาหากว่าเราจะมีร้านตัดผมประจำ เวลาถูกใจอะไรสักอย่างแล้วก็ไม่อยากเปลี่ยน ยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับเส้นผมหรือรูปลักษณ์ที่แสดงถึงความมั่นใจแล้วต้องคิดให้ถี่ถ้วน

    ไม่มีบทสนทนาใดสานต่อจากนั้น เหมยหันไปมองหน้าญี่ปุ่นเป็นระยะสลับกับมองทิวทัศน์รอบนอก เขาชอบอากาศ ภาพรวมของประเทศญี่ปุ่นแต่ถือว่าได้มาเหยียบเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น หากเป็นไปได้เรียนจบอยากจะมาอยู่ที่นี่เลย...

    ปัญหาหลักของเขาไม่ใช่เรื่องเงิน ไม่ใช่เรื่องการทำพาสสปอร์ตผ่านเมือง แต่เป็นป๊าผู้ซึ่งควบคุมตัวตนของเขา ...ไม่มีทางที่เหมยจะได้ย้ายมาอยู่ต่างเมืองไกลหูไกลตาแบบถาวรหรอกมั้ง

    ถึงจะโดนเฉดหัวแต่อย่างไรยังต้องอยู่ในสายตาบ้างแหละ

     

     


    ต้นเหมยมาทางนี้ๆเสียงของเจ้าตัวยุ่งดังขึ้นพร้อมกวักมือเรียกให้เดินไปหา พวกเขามาเริ่มทริปของวันจากเนินชมวิวฮาจิมันซากะ สายตาทอดยาวไปตามแนวยาวให้ความรู้สึกสดชื่นไม่เบา เหลือบมองคนข้างกายก่อนพบว่าญี่ปุ่นกำลังหาอะไรสักอย่างในกระเป๋า

    หาอะไร

    กล้อง...เหมือนเราจะลืมหยิบมาจากห้องญี่ปุ่นมุ่ยหน้าด้วยความข้องใจ เมื่อเช้าจับมันยัดลงมาแล้วนี่นา ฮื่อ ทำไงดีอะต้นเหมย

    แน่ใจใช่ไหมว่าหยิบมา

    แน่ใจมากๆ ด้วย เราตั้งใจจะเอามาถ่ายรูปตอนขึ้นไปบนภูเขา

    ความจำสั้นน่ะสิเหมยหัวเราะเบาๆ ก่อนเปิดกระเป๋าสะพายบ่าของตัวเองแล้วหยิบกล้องตัวโปรดของญี่ปุ่นขึ้นมา วางอยู่บนเตียง

    อ้าว...

    ขี้ลืม

    โธ่ นิดเดียวเองน่าคนตัวเล็กกว่ายกมือเกาแก้มแก้เก้อ เมื่อกี้ดันโวยวายไปก่อนเสียได้ ขอบคุณนะ นี่ถ้าไม่ได้ต้นเหมยวันนี้เราคงไม่ได้รูปกลับไปแน่เลยอะ

    ทำไมจะไม่ได้

    “…”

    เหมยพกกล้องมา

    ถึงต้นเหมยจะเอามาด้วยแต่มันก็ไม่เหมือนกันนี่

    ไม่เหมือนตรงไหนชายหนุ่มเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ถ่ายรูปได้เหมือนกัน

    มันของต้นเหมยอะ จะให้เราไปใช้ถ่ายรูปตัวเองเยอะๆ ก็ไม่ได้หรือเปล่า

    ได้สิเสียงทุ้มเอ่ยพลางยกยิ้มมุมปาก ญี่ปุ่นน่ะไม่รู้อะไรเสียแล้ว ในกล้องเหมยมีแต่รูปปุ่น

    “…หือ

    วันนี้ก็ตั้งใจจะเอามาถ่ายแต่ปุ่น

    สุดท้ายแล้วญี่ปุ่นแทบไม่ได้ใช้กล้องของตัวเองเพราะต้นเหมยเอาแต่เอ่ยปากบอกว่าอยากถ่ายรูปให้ แถมเขาไม่อยากขัดใจเลยปล่อยให้เลยตามเลย ไม่รู้อีกว่าอีกฝ่ายกดชัตเตอร์รูปเขาในท่าทางเดิมซ้ำไปกี่หน

    หลังจากเดินทางลาดฮาจิมันซากะเสร็จ ญี่ปุ่นได้พาไปร้านแฮมเบอร์เกอร์อันดับหนึ่งอย่าง Lucky Pierrot ขึ้นชื่อว่าหากมาฮาโกดาเตะแล้วไม่แวะเท่ากับว่ามาไม่ถึง ตัวร้านตกแต่งด้วยแนว Circus Style เอกลักษณ์เด่นคงไม่พ้นมาสคอตตัวตลก

    เหมยไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าควรสั่งเมนูไหน หน้าที่นั้นเลยกลายเป็นความรับผิดชอบของผู้นำทริป เรียกได้ว่าเพอร์เฟกต์เลยทีเดียวกับการมีญี่ปุ่นร่วมทาง

    จากนั้นไปเดินเตร็ดเตร่อยู่ตรงโกดังอิฐแดงคาเนะโมริ ซึ่งเป็นห้องแถวเรียงรายกันเป็นแถบ มันเป็นศูนย์รวมแห่งการช็อปปิ้ง รวมถึงร้านอาหาร เหมยเตะตาที่นี่เป็นพิเศษเนื่องจากตัวโกดังนั้นดูคลาสสิก อดไม่ได้ที่ถ่ายรูปเก็บเอาไว้ ไม่ว่าจะตัวสถานที่หรือมีญี่ปุ่นติดเข้าเฟรมมาด้วย

    มากไปกว่านั้นคือรูปคู่ของเราสองคน

    ในขณะเขากำลังก้มหน้าเลื่อนดูรูปในกล้อง คนข้างกายขยับเข้ามาใกล้แล้วสะกิดแขนเบาๆ เหมยช้อนสายตาขึ้นมองอย่างสงสัย

    ต้นเหมย

    ครับ?

    เราขอแท็กรูปไปได้ไหมไม่ว่าเปล่าอีกฝ่ายยังหันหน้าจอโทรศัพท์ที่เปิดแอปพลิเคชันลงรูปไว้มาให้เขา แถมยังค้างอยู่ตรงการพิมพ์ชื่อแอคเคานต์ของเหมยเอาไว้ เหมือนว่าถ้าเกิดเขาอนุญาตญี่ปุ่นก็ทำเพียงแค่กดตกลงทุกอย่างจะเสร็จสรรพ

    แท็กมาสิเขาตกลงอนุญาต คนฟังฉีกยิ้มกว้างจนเขาอดยิ้มตามไม่ได้

    สิบวินาทีให้หลังเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นจากโทรศัพท์ของเหมย มือใหญ่หยิบมันขึ้นมาก่อนปลดล็อกหน้าจอแล้วกดถูกใจรูปที่เพิ่งถูกแท็กมาหา

     

    jphayashi tagged you in post.

     

    รูปคู่แรกของเราบนโลกออนไลน์ ใบหน้ายิ้มแย้มที่ถ่ายด้วยกันฉากหลังเป็นโกดังสีแดง ฟิลเตอร์เชิญชวนให้ดูเก่าน่าจับตามอง ภายใต้รูปนั้นกล่าวเอาไว้เพียงอีโมจิรูปกระต่ายและดอกไม้สีชมพู

    ถัดมาจากนั้นไม่ถึงหนึ่งนาที เสียงแจ้งเตือนของญี่ปุ่นก็ดังขึ้น ก่อนพบข้อความแบบเดียวกัน

     

    py_meiii tagged you in post.

     

    แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือข้อความภายใต้โพสต์ ด้วยคำว่า never better

     

     


    โลกออนไลน์เป็นพื้นที่หนึ่งไว้หลบซ่อนความรู้สึกจากป๊าและม้าเพราะท่านทั้งสองใช้มันไม่เป็นสักเท่าไหร่ เพียงแค่แอปพิมพ์ข้อความหรือวิดีโอคอลนั่นมากเกินพอแล้ว เช่นนั้นการลงรูปของญี่ปุ่นจึงไม่มีปัญหาใด นอกจากเพื่อนและน้องชายฝาแฝดมาพิมพ์ข้อความแซวทิ้งไว้

    จะไม่หนาวแน่เหรอเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง สถานที่สุดท้ายของวันนี้คือขึ้นกระเช้าไปชมวิวบนภูเขาฮาโกดาเตะ ซึ่งเป็นแลนมาร์กเดียวที่ต้นเหมยอยากมาเห็นด้วยตาของตัวเอง เช็กเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เวลาเปิดปิดและสภาพอากาศ เนื่องจากว่าหากฟ้าปิดจะเก็บภาพได้ไม่สวยเท่าที่ควร

    แน่ๆ ต้นเหมยอะจะหนาวไหม

    ไม่หรอกญี่ปุ่นพยักหน้ายิ้มรับจนคนตัวสูงกว่านั้นยิ้มตาม

    ผู้คนเบียดเสียดตามคำรีวิวในอินเทอร์เน็ต พวกเขามาก่อนเวลาพระอาทิตย์ตกดินประมาณชั่วโมงครึ่งเพราะอยากเก็บภาพจากท้องฟ้าหลากสี ญี่ปุ่นน่ะตามใจต้นเหมยเสียเหลือเกินแถมวันนี้ยังไม่ค่อยดื้อใส่เท่าไหร่นัก แต่ให้พูดกันตามตรง

    ดูเหมือนเขาจะชอบญี่ปุ่นเวลาซุกซนเหมือนลูกหมาเสียมากกว่าแล้ว

    ใช้เวลาพักหนึ่งกับการยืนรอต่อแถวและขึ้นกระเช้ามาถึงด้านบน จากตอนแรกมองว่าคนเยอะพอได้ขึ้นมาถึงจุดชมวิวนั้นกลับเยอะยิ่งกว่า ชายหนุ่มลอบถอนหายใจทันทีเพราะเขาไม่ชอบอยู่ในที่ผู้คนแออัดมากนัก แต่เมื่อมาถึงแล้วหากให้พลาดก็กระไรอยู่

    วันนี้เหมือนมาถ่ายแต่รูปอะเสียงหนึ่งพูดขึ้นมาขณะหยิบกล้องถ่ายรูปแล้วกดชัตเตอร์ลง ญี่ปุ่นดูภาพบนจอขนาดเล็กแล้วยื่นมาให้เขา ต้นเหมยว่าเราซูมไปอีกดีไหม

    ดีครับ ถ่ายหลายๆ แบบสิ

    ต้นเหมยจะถ่ายไหมอะ เอามาแข่งกับเราว่าใครถ่ายสวยกว่าญี่ปุ่นว่าอย่างอารมณ์ดีก่อนยู่ปากใส่เมื่อเขาส่ายหน้าไม่ถ่ายเหรอ แล้วไหนบอกว่าอยากขึ้นมาถ่ายรูปบนนี้ไง

    เหมยบอกแล้วว่าวันนี้จะถ่ายแต่ปุ่น

    ต้นเหมย!”

    ชู่วชายหนุ่มยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเองเป็นเชิงบอกให้ญี่ปุ่นลดระดับเสียงลง เล่นตะโกนชื่อเขาเสียเสียงดังจนคนรอบข้างหันมามองด้วยสีหน้าตำหนิ ไม่เสียงดังสิครับ

    ต้นเหมยมาแกล้งเราทำไมเล่าครานี้เจ้าตัวลดเสียงลงจนแทบกลายเป็นกระซิบ เหมยหลุดขำให้กับท่าทางนั้นแล้วไหวไหล่คล้ายไม่ใส่ใจเราไม่คุยกับต้นเหมยแล้ว

    ญี่ปุ่นฟึดฟัดแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง มองด้านข้างถึงเห็นว่าเม้มปากแถมยังทำหน้าขึงขังอยู่ ใครเล่าจะกลัวตัวแค่นี้ ยิ่งขู่ฟ่อๆ ยิ่งอยากปราบเชียวนัก เหมยผ่อนลมหายใจเบาๆ เพราะเขาไม่สามารถกระทำอะไรโจ่งแจ้งได้ในตอนนี้

    คนตัวสูงขยับตัวเข้าไปประชิด เอียงศีรษะลงเล็กน้อยพอให้แน่ใจว่าญี่ปุ่นจะได้ยินเสียงเขาชัดทุกถ้อยคำและมันช่างเป็นโชคดีนักที่อีกฝ่ายไม่หันมางอแงใส่กันเสียก่อน เขาจึงพูดในสิ่งที่คิดออกไปได้

    เหมยอนุญาตให้ไม่พูดกัน

    ...

    เฉพาะเวลาที่ไอจังโดนจูบปิดปากเท่านั้นครับ

    ต้นอุ๊บ!” เหมยแค่นหัวเราะในลำคอ เขาจำต้องเอื้อมมือไปปิดปากเจ้าคนดื้อเอาไว้ ไม่อย่างนั้นคงได้ตะโกนโวยวายหนักกว่าเมื่อครู่แน่ ทำอย่างไรได้ตอนนี้เขาดันชอบเวลาเย้าให้ญี่ปุ่นไม่พอใจแต่ดูเหมือนว่าจะแกล้งผิดเวลาเกินไปหน่อยอ้นเอ๋ย! อ่อย!”

    ถ้าปล่อยแล้วอย่าเสียงดังเขาจับใจความออกถึงได้พูดตกลงกันก่อน พอญี่ปุ่นผงกศีรษะลงหลายๆ หนแล้วเขาจึงคลายฝ่ามือออกทีละนิด แต่ก่อนปล่อยมือออกจนหมดเขากลับคิดว่าอีกฝ่ายคงจะแผลงฤทธิ์ใส่กันแน่จึงพูดขู่เอาไว้ ถ้าไม่ทำตามที่พูด

    ...

    เหมยจูบโชว์คนบนนี้นะครับเห็นแววตาท่าทางแล้วพอเดาออกว่าเขาน่ะดักทางญี่ปุ่นได้จริงๆ เขาปล่อยมือออกแล้วเจ้าคนข้างกายก็ไม่ส่งเสียงใดให้ต้องดุกันอีกรอบ

    หลังจากนั้นพวกเขาใช้เวลาที่เหลือในการถ่ายรูปเรื่อยเปื่อย ทั้งวันนี้แทบจะไม่มีอะไรนอกจากถ่ายรูปแบบที่ญี่ปุ่นบอก แม้ผู้คนบนนี้จะเยอะพอควรแต่ภายในหัวของเขามีแต่ญี่ปุ่นคนเดียว

    เหมยรู้ว่าตัวเองเป็นพวกปักใจ อย่างชอบใครมักจะเทใจให้ทั้งหมดภายในครั้งเดียว แน่นอนว่าคนแรกนั่นคือน้ำเงินเพื่อนสนิทในกลุ่ม ก่อนโดนแทรกจากคนตัวยุ่งและเขาแพ้อย่างราบคาบ ไม่รู้ว่าจะไปหาเงื่อนไขใดมากหลอกหัวใจตัวเองได้อีก

    ในเมื่อมันเป็นไปแล้ว... ชอบไปแล้วก็ทำได้แค่ยอมรับและเหมยยังคงเป็นเหมยคนเดิม

    เพราะเขา... เทใจให้ญี่ปุ่นไปทั้งดวง

    ต้นเหมย

    หืมเขาหลุดออกจากภวังค์ความคิดเมื่อญี่ปุ่นเรียกทัก ผู้คนบางส่วนทยอยลงจากจุดชมวิวไปบ้างแล้วคาดว่าคงทนความเย็นไม่ไหว แม้ว่าเบื้องหน้าทิวทัศน์จะสวยมากเพียงใดแต่อย่างมากคงได้เก็บรูปภาพสักสิบยี่สิบรูปแล้วถนอมร่างกายตัวเองดีกว่า

    หลับตาหน่อยสิ ...เร็วๆ ต้นเหมย

    ถ้าเหมยหลับตาแล้วปุ่นจะหนีไปไหนเขาหันไปมองแล้วหรี่ตาลงอย่างข้องใจ อยู่ดีๆ มาบอกให้หลับตาลงบนนี้น่ะหรือ

    เราไม่ได้หนีไปไหนหรอกน่า

    ชายหนุ่มจำต้องหลับตาลง ยอมทำตามสั่งทุกอย่างจนสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นนุ่มนิ่ม เดาได้อย่างไม่ยากว่ามาจากอะไร ญี่ปุ่นจับมือเขาไปข้างหนึ่งแถมยังบังคับให้แบออก หากเป็นเพื่อนสนิททำอย่างนี้เห็นทีต้องขัดคำสั่งแล้วลืมตาขึ้นดูแล้วว่าจะโดนยัดอะไรใส่มือ แต่พอเป็นญี่ปุ่นจึงทำได้แค่เป็นคนเชื่องๆ เท่านั้น

    อะไรเหมยส่งเสียงถาม ขมวดคิ้วยุ่งเพราะไม่กล้าลืมตามอง สัมผัสจากถุงมือหายไปแล้วแต่กลับหลงเหลืออะไรบางอย่าง บีบดูแล้วให้ความรู้สึกเหมือน... อุซางิ

    ต้นเหมยจับหูก็รู้ซี่!” อีกฝ่ายงอแงจนเหมยต้องลืมตาขึ้นมอง พวงกุญแจตุ๊กตากระต่ายสีขาวขนาดเท่าฝ่ามือ หยักยิ้มมุมปากเพราะเมื่อครู่เขาจับทุกจุดแล้วดันไปบีบช่วงหูเข้า แค่ทรงหูยาวๆ นั่นพอจะเดาได้แล้วเพราะเป็นความชอบของญี่ปุ่น คิดถึงมารุเหรอ

    อื้อ ปกติเวลาเรากลับไทยห่างจากมารุก็จริงนะ ทุกวันยังรู้ว่าปกติดี แต่นี่...ญี่ปุ่นถอนหายใจเบาๆ เมื่อนึกถึงสัตว์เลี้ยงของตนที่ตอนนี้ยังคงอยู่ในความดูแลของโรงพยาบาล แม้ค่ารักษาจะสูงแต่คนเป็นเจ้าของสู้ไม่ถอย ทำอย่างไรก็ได้ขอแค่ให้อยู่ด้วยกัน แม้มารุจะไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วแต่เขายังคงเป็นห่วง หากไม่มีอะไรกะทันหันวันอาทิตย์คงจะไปรับกลับมาได้

    มารุไม่เป็นอะไรหรอก

    อื้อ ...ตัวนี้เราซื้อให้ต้นเหมยนะ เวลากลับไทยจะได้ไม่ลืมเรา

    น่ารัก

    ต้องน่ารักซี่ เราแอบไปซื้อมาตั้งแต่ตอนเช้า เลือกกับมือเลยนะ ตอนแรกเราเกือบหยิบปลาหมึกมาแล้วแต่หันไปเห็นกระต่ายก่อน ญี่ปุ่นดูภูมิอกภูมิใจกับตุ๊กตาขนฟูในมือเขา ช่างเลียนแบบออกมาได้เหมือนต่างกันตรงแค่ไม่มีชีวิต ...ทว่าอีกฝ่ายคงเข้าใจความหมายของคำว่าน่ารักที่เขาพูดออกไปผิด

    คำว่าน่ารักเขาต้องการจะบอกว่าคือญี่ปุ่นต่างหาก แต่ไหนๆ เจ้าตัวก็เข้าใจว่าหมายถึงพวงกุญแจกระต่ายแล้วเขาคงไม่เข้าไปขัดความคิด

    ขอบคุณนะครับ

    อือฮึ ต้นเหมยอะ ห้ามลืมเรานะ

    ใครจะไปลืมเหมือนเขาเป็นเด็กน้อยเน้นย้ำในถ้อยคำสัญญา ลืมไม่ได้หรอก

    จริงนะ

    ครับ

    “…”

    จูบแรกของเหมยจะลืมได้อย่างไร

     

     

    tbc
    สั่งซื้อหนังสือได้ทางเพจ สนพ. เลยนะคะ ขอบคุณทุกคนมากเลยค่า แฮ่
    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×