ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กฎของเข็มทิศ ` ✧

    ลำดับตอนที่ #9 : 08 ✧ ภายใต้ท้องฟ้าสีดำ

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ค. 64


                  

    08

    ภายใต้ท้องฟ้าสีดำ


    ถ้าหากจะมีใครสักคน เดินเข้ามา
    ในช่วงเวลาความยากเย็น ที่ฉันเป็นอยู่
    และคนคนนั้น ได้ทำให้รู้ ว่าการมองเห็น ไม่ใช่ทุกอย่าง
    และคนคนนั้น จะโอบมือฉันประคอง ภายใต้ท้องฟ้าสีดำ


    ภายใต้ท้องฟ้าสีดำ – greasy café

     


    การเดินทางมาสิงคโปร์ไม่ได้ใช้เวลานานเกินไปนัก เข็มทิศมีเรื่องราวหลายอย่างอยากพูดคุยกับนับเงิน ทว่าอีกฝ่ายตัดจบทุกความสงสัยด้วยการหยิบผ้าปิดตากันแสงมาสวมให้กับเขาโดยไม่เปิดโอกาสให้ถามไถ่อะไร

    นังเงินต้องการให้เข็มทิศพักผ่อนเยอะๆ เป็นหนึ่งเรื่องที่เขาร้องขอมาตลอดเวลา ร่างกายของคนเราบางครั้งไม่แน่นอน ต่อให้ภายนอกดูปกติแต่ภายในเหมือนนับเวลารอวันพัง พี่พัตเตอร์เคยพูดกับเขาอย่างนั้น แน่นอนว่าเตือนและย้ำอยู่หลายหน แต่ผลสุดท้ายไม่เป็นไปตามใจหวังจึงเป็นหนึ่งในเหตุผลใหญ่ที่ทำให้เราไปต่อไม่ได้

    เมื่อเหยียบสิงคโปร์คุณนิวัตมารอรับและพาเดินทางมาจนถึงห้องพัก ปกติแล้วพวกเขามาที่นี่บ่อยจนแทบจะกลายเป็นบ้านอีกหลังหนึ่ง คาดว่าช่วงแรกเข็มทิศคงต้องบินไปมาก่อนเพราะเคลียร์เรื่องเอกสารสำคัญและต้องประสานงานกับองศาด้วย

    “เธอหิวไหม” เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยถามหลังจากจัดเสื้อผ้าเข้าตู้เรียบร้อย เรียวคิ้วขมวดเข้าหากันเมื่อคนที่นอนแผ่อยู่บนเตียงไม่ขานตอบอะไรมาสักคำจึงต้องเรียกซ้ำ “เธอครับ”

    เธอจะออกไปทำงานเลยหรือเปล่า

    วันนี้ยัง กำหนดการดำเนินงานส่วนอื่นคือพรุ่งนี้เพราะวันนี้เขาต้องเคลียร์ระบบอยู่ห้องพัก อีกทั้งตั้งใจจะออกไปวัดใกล้ๆ ด้วย แต่หากน้องหิวเขาจะพาไปกินข้าวโดยไม่มีข้อโต้แย้งใด “ตกลงหิวข้าวไหม”

    เขาอยากปรับตัว อยากเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่น้องเคยบอกเพราะเข็มทิศอยากมีนับเงินอยู่ด้วยกันเหมือนอย่างเคย

    “นับยังไม่หิว แต่เดี๋ยวจะสั่งข้าวให้เธอ” เขารู้ดีว่าเข็มทิศไม่ชอบกินข้าวบนเครื่องบินและไม่ชอบแวะกินก่อนเดินทางด้วย เรียกว่ามาฝากท้องที่ปลายทางโดยเฉพาะ “เธอกินเหมือนเดิมไหม”

    ไม่ครับ เดี๋ยวออกไปกินข้างนอก

    จะไปไหน?นับเงินเด้งตัวเองขึ้นจากเตียง แสดงสีหน้างุนงงจนเข็มทิศหลุดหัวเราะ ขำอะไร

    ตกใจอะไรขนาดนั้น พี่จะออกไปวัดใกล้ๆ เธอไปด้วยไหม มันเป็นวัดแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักสักเท่าไหร่ ตั้งใจไว้หลายหนแล้วว่าอยากไปทว่าไม่ได้โอกาสสักที

    ไม่ไปได้ไหมล่ะ” เขาแกล้งถามเสียงประชด คำพูดของเข็มทิศไม่ได้เป็นเพียงคำชวนแต่เป็นการบังคับต่างหาก ถ้าเขามาด้วยมีหรืออีกฝ่ายจะยอมไปไหนมาไหนคนเดียว

    ไม่ได้ครับ พี่อยากให้เธอไปด้วย

    เธอขี้บังคับ ความจริงนับเงินมีสิทธิ์ไม่กระทำตาม เพราะงั้นแล้วเรื่องนี้โทษเข็มทิศคนเดียวไม่ได้หรอก ขอเปลี่ยนเสื้อก่อนนะ

    ได้ครับ ชายหนุ่มขานรับแล้วเดินไปเปิดผ้าม่านกันแสงเพื่อให้ห้องสว่างขึ้นกว่าเดิม จะได้ไม่อึดอัดเกินไปนัก ทว่าช่วงจังหวะหันกลับมานัยน์ตาคมเผลอจดจ้องเรือนร่างของนับเงิน หัวใจดวงใหญ่เต้นระรัวก่อนพับความคิดในหัวเมื่อน้องหันหน้ากลับมามอง

    เสื้อเธอใส่แล้วสบายดี ไม่แน่ใจนักว่าเข็มทิศจ้องเขามานานเท่าไหร่และคงเป็นเพราะเขาเอาเสื้อยืดตัวโปรดมาสวมใส่ซึ่งมันเป็นเสื้อที่อีกฝ่ายออกแบบให้สมัยคบกันอยู่ ฟังดูเลี่ยนไปหน่อยทว่ามันเกิดขึ้นจริง

    เสื้อยืดสีครีมปักลายรอยสักของเข็มทิศบนอกข้างขวา... เรียกได้ว่าลิมิเต็ดเพราะมีตัวเดียวในโลก

    พี่นึกว่าเธอทิ้งไปหมดแล้ว เสียงทุ้มเอ่ยติดหัวเราะ ความรู้สึกหลายอย่างปะปนอยู่ในหัว เขาไม่ได้ตกใจเรื่องเสื้อหรอกทว่าเป็นอะไรบางอย่างบนร่างกายของนับเงิน

    เอะอะเธอก็คิดว่านับทิ้งอย่างเดียวเลยหรือไง เขาเลิกคิ้วแล้วโยนเสื้อเชิ้ตที่เพิ่งถอดลงตะกร้า กลับมาจากข้างนอกค่อยเอาไปซักทีเดียว นับไม่ได้ทำลายข้าวของเก่งขนาดนั้น

    พี่ไม่ได้คิดว่าเธอทำลายข้าวของเก่ง” เข็มทิศพูดเสียงเบาขณะเดินเข้าไปใกล้จนระยะห่างระหว่างเราลดหลั่นลง อีกเพียงก้าวเดียวจะสามารถเข้าประชิดตัวอย่างง่ายดาย “แต่พี่คิดว่าเธอไม่อยากเก็บของที่เป็นของพี่ไว้แล้ว

    ก็ไม่อยากเก็บ

    แล้วทำไมเธอไม่ทิ้ง

    “…” นับเงินเม้มริมฝีปากหลังได้ยินคำถาม เผลอสบนัยน์ความมั่นคงเพียงครู่เดียวแล้วเบี่ยงสายตาหลบมองทางอื่น คำตอบเดียวภายในใจของเขาคือ ‘ยังรัก’ ทว่าอ้าปากตอบไม่ตรงกับความคิด อยากทิ้งอยู่หรอก แต่มันมีที่นับคนเดียว

    “…”

    เสียดาย

    สิ้นเสียงเจ้าของคำพูดถูกรวบไปกอดหลวมๆ สัมผัสอุ่นแนบชิดและชวนคิดถึงด้วยกลิ่นน้ำหอมบนเสื้อผ้า หากเป็นช่วงแรกที่ทะเลาะกันอยู่นับเงินคงผละออกแล้วตะโกนถามว่าเป็นบ้าอะไร แต่วันนี้ทุกอย่างกำลังหวนคืน

    กำลังกลับคืนอย่างที่เคยเป็น

    “เธอรู้ไหม” ชายหนุ่มกระซิบถามชิดใบหู แขนแกร่งกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย “เวลาเธออยู่กับพี่”

    “…”

    เธอโกหกไม่เก่งเลย

    อาจเป็นอย่างนั้นขนาดโกหกตัวเองว่าไม่รักพี่เข็มแล้วยังทำไม่ได้เลย นับประสาอะไรกับการโกหกคนที่ยังปันใจให้กันอยู่เต็มร้อยและเพราะเราเคยคุ้นกันทุกอย่างจึงฉายชัดให้รับรู้ว่าเขายังรู้สึก ...พยายามมากเท่าไหร่ก็ตัดใจไม่ได้สักที

    และจากนี้นับเงินคงไม่คิดตัดใจอีกแล้ว

    นับโกหกไม่เก่ง หรือเธอเก่งเกินไป เขาผละออกแผ่วเบา ตั้งมั่นว่าจะหลบสายตาทว่าอีกฝ่ายเอื้อมมือมาเชยคางเชิงบังคับให้สบมองและตรึงเขาไว้ด้วยนัยน์ตาคู่คม สุดท้ายนับเงินจึงยอมแล้วพูดถ้อยคำในความคิด “พี่เข็มครับ”

    ... เรายังคงสบตากันอยู่แม้หัวใจดวงใหญ่จะกระตุกวูบเพราะน้ำเสียงและการเรียกชื่อก็ตาม นานครั้งถึงจะได้ยินแบบนี้และกลายเป็นเขาที่ทำอะไรไม่ถูก

    พี่คิดอะไรอยู่

    “…”

    กับเรื่องของเรา

     

     

    บทกล้าบ้าบิ่นคิดถามออกไปก็กล้า ทว่าสุดท้ายนับเงินไม่ยืนรอฟังคำตอบใด ชิ่งออกจากห้องแล้วเดินลงมาด้านล่างก่อนโดยมีเข็มทิศตามหลังมา อีกฝ่ายไม่พูดถึงคำถามก่อนหน้าเลยสักนิดราวกับรู้ดีว่าเขาไม่ต้องการคำตอบ

    หลังเรียกแท็กซี่แล้วใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีก็มาจนถึงวัดตามตั้งใจ บรรยากาศชวนกระอักกระอ่วนไม่น้อยและบนรถไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ ต่างคนต่างเดินเข้ามาภายในวัดและเสียงจอแจของผู้คนพอมีให้ได้ยินประปราย

    ระวังครับ เข็มทิศดึงชายเสื้อของเด็กตรงหน้าให้ถอยกลับมาทันใด นับเงินมัวมองแต่ทางซ้ายจึงไม่ทันระวังขวาซึ่งมีนักท่องเที่ยวคนหนึ่งถือธูปเดินมาเกือบชนเข้าอย่างจัง

    “ขอโทษ นับไม่ทันมอง” เขาเอี้ยวหน้าไปขอโทษเข็มทิศอย่างเคยชิน โดยไม่ลืมหันไปผงกศีรษะแล้วเอ่ยขอโทษนักท่องเที่ยวคนนั้นด้วย ซึ่งมัวแต่มองดอกไม้ไหว้พระอยู่จึงไม่ทันสังเกตคนอื่น

    ครับ

    หลังจากซื้อดอกไม้และธูปจึงเดินเข้าไปไหว้ เรานั่งข้างกายโดยไม่ได้พูดอะไรทว่าผู้คนรายล้อม นับเงินตั้งสติแล้วคิดคำอธิษฐานภายในใจ ยอมรับตามตรงว่าพรของเขาเป็นการขอให้กับคนที่มาด้วยกันวันนี้ เขาขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีและอย่าให้เข็มทิศมีเรื่องทุกข์ใจนานเกินไป

    นับเงินลุกขึ้นมาก่อน ไม่ถึงนาทีดีคนเป็นพี่ก็ลุกตามมา เขาคงเป็นเด็กเสียมารยาทไม่น้อยเพราะภายในใจดันอยากรู้ว่าเข็มทิศขอพรอะไรถึงได้นั่งอยู่นานสองนาน หลังจากปักธูปลงกระถางเรียบร้อย ภารกิจของวันนี้จึงถือว่าเสร็จสิ้นและเพราะผู้คนเริ่มเยอะแยะจนขวักไขว่

    ฝ่ามือเล็กที่ควรจะไปซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกง ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าถูกกอบกุมไว้ด้วยไออุ่นของมือคนข้างกัน เข็มทิศกระชับไว้หลวมๆ เพื่อไม่ให้อึดอัดมากไปนัก อีกฝ่ายไม่ได้ขออนุญาตและนับเงินรู้ดีว่าเป็นการกระทำอันแสนเอาแต่ใจ เขาแค่หันมองแล้วปล่อยให้จับไว้นิ่งเฉย

    เธอ

    หิวน้ำไหมครับ ไม่เปิดโอกาสให้นับได้พูดอะไรเขาชิงถามเสียก่อนเพราะเห็นน้องเหงื่อตก ปกติแล้วเวลาไปไหนมาไหนแล้วมีรถยนต์ส่วนตัวจะมีแก้วน้ำประจำไว้ทว่าครั้งนี้มารถโดยสาร

    นิดหน่อย แต่ไปกินร้านข้าวก็ได้ เธอจะได้กินข้าวสักที

    ได้ครับ เธออยากกินอะไร เข็มทิศถามความเห็น เขาไม่ใช่คนเลือกร้านอาหารเก่งสำหรับที่นี่แต่พอจะมีร้านประจำอยู่บ้าง ร้านเดิมไหม

    ตามใจเธอแล้วกัน เราสบตากันเสี้ยวนาทีเพราะกำลังจะเดินข้ามถนน ร้านประจำอยู่ใกล้กับที่พักซึ่งต้องนั่งรถวนกลับไปทว่าพอเขาพูดอย่างนั้นเข็มทิศจึงปล่อยมือแล้วหันมาบอก

    รอตรงนี้ก่อน ชายหนุ่มไม่เอ่ยบอกแล้วดึงน้องไปหลบใกล้ร่มไม้ก่อนตนเองจะวิ่งไปร้านสะดวกซื้อ ก่อนกลับออกมาพร้อมกับน้ำเปล่าหนึ่งขวด

    ไม่เห็นต้องรีบเลย

    เธอร้อน เข็มทิศตอบขณะหมุนฝาขวดน้ำ ใส่หลอดลงไปแล้วยื่นให้กับน้องโดยที่ตนเองยังถือไว้ นับเงินดูลังเลกับการกระทำของเขาแต่สุดท้ายโน้มลงมาดูดน้ำดับกระหาย หารู้ไม่ว่าคนที่ยืนถือขวดน้ำให้อยู่กำลังยกยิ้มกว้างเพียงใด

    ขอบคุณครับ เขาตอบรับเสียงเบา เมื่อครู่อีกฝ่ายเล่นเอาหัวใจสั่นไหวไม่เป็นจังหวะ ตอนแรกคิดจะเก็บความอยากรู้อยากเห็นของตนเองไว้ทว่าความคิดและปากเจ้ากรรมดันทำงานรวดเร็ว เมื่อกี้เธอขออะไรเหรอ

    หมายถึงพรหรือครับ คนโตกว่าเลิกคิ้วระหว่างปิดฝาขวดหลังจากตัวเองดื่มน้ำตามไปบ้างแล้ว อยากรู้เหรอ

    แค่สงสัยว่าเธอขออะไรเห็นนั่งอยู่นาน แต่นับลืมไปว่าเขาไม่ให้บอกพรของตัวเองกับคนอื่น นึกได้ตอนโพล่งถามไปแล้วเสียด้วยจึงต้องชิงเปลี่ยนเรื่องเสียก่อนเพราะไม่อยากก้าวก่ายเกินไปนัก ไปกินข้าวกันได้แล้ว

    เข็มทิศพยักหน้าโดยไม่ตอบคำถาม รอเวลาครู่หนึ่งรถประจำทางจึงมาจอดตรงป้าย มันวิ่งผ่านเส้นทางของที่พักเลยเลือกใช้แทนแท็กซี่ เขาให้นับเงินนั่งเบาะด้านในสุดเหมือนอย่างเคย ระหว่างนั้นกำลังทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเรา คิดตอบคำถามของน้องก่อนจะออกมาข้างนอก

    ร่องรอยบางอย่างที่ปรากฏชัดอยู่บนร่างกายของนับเงิน ถ้อยคำถามเกี่ยวกับเรื่องของเราและพรของเขาเมื่อครู่ มันทำให้เขาไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายแล้วด้วยซ้ำ

    เธอครับ เสียงทุ้มกระซิบใกล้ คนที่นั่งมองทิวทัศน์รอบนอกผ่านทางหน้าต่างเลยหันกลับมามอง พี่มีเรื่องอยากถาม

    สิ้นคำถามของเขา คนข้างกายแสดงสีหน้าฉงนทันใด เข็มทิศตั้งใจไว้แล้วว่าจะเริ่มพูดคุยทีละเรื่อง แม้ตอนนี้สถานที่จะไม่ได้เอื้ออำนวยสักเท่าไหร่ทว่าเขาไม่อาจทนรอให้กลับไปจนถึงห้องได้

    เรื่องอะไร... เธอ นับเงินสะดุ้งเฮือกตอนฝ่ามือใหญ่แตะบริเวณสีข้างเอวซึ่งมันเป็นตำแหน่งที่สักไว้ เขาพยายามเก็บอาการไม่ให้แสดงออกมากจนเกินไปเพราะกลัวความลับจะแตกเสียก่อน กระนั้น... ไม่อาจพูดอะไรได้เลย

    ตรงนี้

    “…”

    เธอสักรูปเดียวกับพี่ใช่ไหมครับ

     

     

    พลาด... เขาทำพลาดมากๆ

    เธอเลิกมองนับสักที เขาดุเสียงนิ่งแล้วเปลี่ยนมาเม้มริมฝีปาก เขาลืมเสียสนิทตอนเปลี่ยนเสื้อในห้องและตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้วด้วย พี่เข็ม

    เธอจะให้พี่มองหน้า หรือจะให้พี่สำรวจรอยสัก ประโยคคำถามแฝงความเจ้าเล่ห์ แน่นอนว่ามันทำให้อีกฝ่ายทำตัวไม่ถูกจึงพลิกตัวหนีไปอีกฝั่ง นัยน์ตาคมยังจดมองคนบนเตียงด้วยความค้างคา น้องนับ

    อะไรของเธอ นับเงินแหววเสียง ลุกขึ้นนั่งมองด้วยใบหน้ายู่ ไม่ชอบเวลาเข็มทิศตอนเป็นแบบนี้เอาเสียเลย ไม่ว่าจะตอนคบหรือเลิกกันแล้วก็ตาม ไอ้สายตาชวนจับผิดและคิดค้นหาอะไรอยู่ตลอดเวลา ถ้าเธอว่างก็ไปทำงานตัวเองได้แล้ว นับจะนอน

    เธอสักมานานหรือยังครับ เขาทำเป็นหูทวนลมไม่สนใจคำพูดไล่ของน้องแล้วย้อนกลับ ถามตั้งแต่บ่ายจนป่านนี้ยังไม่ได้คำตอบเลย เอ่ยถึงกี่ครั้งนับเงินก็บ่ายเบี่ยงทว่าหลังจากนี้เข็มทิศไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นอีกแล้ว

    ทำไมนับต้องบอกเธอด้วย

    เพราะพี่อยากรู้

    ไม่บอก นับเงินกอดอก เชิดหน้ามองราวกับว่าตนเองอยู่เหนือกว่า แต่เปล่าเลย เขารีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างกายเอาไว้เมื่อชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วเดินมาหย่อนกายลงนั่งจนเตียงยวบ เธออย่ายุ่งได้ไหม

    เธอขโมยแบบของพี่ไปสัก ไม่ขอพี่สักคำ

    “…” เขาเม้มริมฝีปากเพราะไม่อาจปฏิเสธว่ามันเป็นอย่างนั้น มาถึงขั้นนี้เขาควรต้องเคลียร์ให้ชัดเจนใช่ไหม เธอจะเอาคืนเหรอ

    เธอจะให้คืนหรือไง เข็มทิศถามเสียงเบา เรียวคิ้วเลิกขึ้นเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายยังคงนิ่งเฉย ทำไมเธอถึงเอาไปสักครับ

    “…” บอกแล้วว่าไม่ชอบเข็มทิศโหมดนี้ ไม่ชอบเลยสักนิด สวยดี

    แค่นั้นเหรอครับ

    อือ เธอจะเอาแค่ไหน นับเงินเหมือนผู้ร้ายทำความผิดแล้วโดนไต่สวนอย่างหนัก ไม่อาจหลบหลีกสายตาไปไหนได้เลย ราวกับถูกสะกดให้พักสายตาไว้กับเข็มทิศเท่านั้น หัวใจดวงน้อยกระตุกไหวยามเจ้าของใบหน้าที่ตรึงอยู่ภายในความทรงจำตลอดเวลาขยับเข้ามาใกล้ ธะ...เธอ

    รอยสักบนตัวพี่ เสียงทุ้มกระซิบขาน มันมีความหมาย

    “…” รู้ตัวแล้วว่าตอนนี้กำลังโดนอีกฝ่ายกลั่นแกล้ง เพียงแค่พลาดท่าให้เห็นรอยสักแต่มันคงให้เข็มทิศได้รู้อะไรหลายอย่างเลย

    เธอขโมยไปสักเพราะแค่สวยเหรอ

    “…”

    น้องนับ เข็มทิศเรียกย้ำจนอีกฝ่ายสะดุ้ง ใบหน้าคมคายยังคงความเรียบเฉยเอาไว้แม้ว่าอยากยิ้มมากเพียงใดตอนเห็นท่าทีไม่พอใจ พี่เข็มรอคำตอบอยู่ครับ

    นับเบื่อเธอมาก ...แบบมากๆ เลย เขากล่าวติดประชด ยกแขนขึ้นกอดแล้วผ่อนลมหายใจเพราะยอมแพ้แล้ว อย่างเธอไม่ต้องมาแกล้งไม่รู้หรอก

    “อย่างพี่ทำไม”

    “ฉลาดไง” คำพูดของเขาไม่ผิดจากไปนี้หรอก การแสดงออกของเข็มทิศนั่นทำให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายรู้แล้วว่านับเงินกำลังคิดอะไรอยู่ หรือเธอจะบอกว่าไม่รู้ แต่มันไม่มีทางเลย ...ถ้านับพูดตรงๆ เธอจะพอใจใช่ไหม แล้วเธอจะกล้าพูดสิ่งที่คิดอยู่ตอนนี้กับนับหรือเปล่า

    แลกกับพรที่พี่ขอดีไหมครับ เข็มทิศเป็นคนมีลูกเล่นมาแต่ไหนแต่ไร ส่วนมากจะเก่งกาจด้านธุรกิจส่วนทางความรักหยิบยกมาใช้เพียงครั้งคราว เขารู้ดีว่าพูดอย่างไรนับเงินถึงจะยอมปริปากบอกกัน หรือเธออยากรู้อะไรมากกว่านั้น

    เธอไม่กลัวไม่สมหวังหรือไง

    ไม่ครับ พี่คิดว่ามันดีด้วยซ้ำ ถ้าเธอรู้ ตกลงไหม?

    “…งั้นเธอบอกมาก่อน นับเงินกลืนน้ำลายด้วยความประหม่า ไม่คิดบอกเรื่องราวภายในใจของตนเองก่อนหรอก อย่างน้อยขอให้ได้ถือไพ่เหนือกว่าสักเล็กน้อย อีกฝ่ายหยักยิ้มมุมปากคงรู้แล้วว่าหากตอบคำถามไม่ถูกใจก็ไม่คิดบอกให้รู้ เรื่องเฉไฉเขาก็พอใช้ได้เหมือนกัน เธอขออะไร

    พี่ขอให้เธอมีความสุข

    “…”

    ไม่ว่าเธอจะอยู่กับใคร

    นับเงินใจกระตุกกับถ้อยคำที่ได้ยิน มันเป็นการขอพรรูปแบบเดิมของอีกฝ่าย ทว่าเมื่อก่อนมันจะเป็นคำว่า พี่ขอให้เธอมีความสุข ทุกครั้งที่เธออยู่กับพี่ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิมเพราะเข็มทิศตั้งใจเปลี่ยนมัน

    ทำไมเธอถึงขอให้นับมีความสุขเวลาอยู่กับคนอื่น

    ตั้งแต่ที่เธอบอกเลิก

    “…”

    พี่คิดว่าพี่คงเป็นความสุขให้เธอไม่ได้แล้ว

    “…”

    ส่วนเรื่องที่เธอถามว่าพี่คิดอะไรอยู่กับเรื่องของเรา

    พี่เข็ม” ก้อนสะอึกก่อตัวขึ้นมาจนรู้สึกอึดอัด นับเงินคิดไว้ตลอดว่าจะไม่มีวันร้องไห้ต่อหน้าเข็มทิศอีก ทว่าตอนนี้เขากำลังจะทำไม่ได้ ไอความร้อนผ่อนออกแผ่วเบาและเขายังไม่พร้อมจะรับฟัง คิดอ้าปากแย้งแต่ทำได้แค่นั่งเงียบเพื่อรอ

    มันฟังดูเห็นแก่ตัว ถึงพี่จะขอให้เธอมีความสุขเวลาอยู่กับคนอื่น

    “…” ฝ่ามือเล็กกำเข้าหากันโดยอัตโนมัติยามน้ำเสียงของอีกฝ่ายแว่วเข้ามากระทบโสตประสาท เขาพยายามซ่อนทุกความรู้สึกตอนนี้ให้ลงไปลึกสุดหัวใจ

    แต่พี่ยังอยากกลับมาเป็นความสุขของเธอคนเดียวอยู่ดี

    เธอยังอยากกลับมารักนับอยู่เหรอ เขาถามออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ มันเป็นคำถามเดียวที่ค้างคาอยู่ภายในใจตลอดมาตั้งแต่เลิกกัน นับเงินหลับตาลงเมื่อชายหนุ่มโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ไอความร้อนเป่ารดข้างแก้มจนลมหายใจเริ่มติดขัด

    ไม่ได้อยากกลับมารัก

    “…”

    “แต่พี่ไม่เคยไม่รักเธอ”

    สุดท้ายหยดน้ำตาร่วงหล่นเมื่อประโยคแสนหวานที่ไม่ได้ยินมาเนิ่นนานจบลง

    ปลายจมูกรั้นจดลงบนแก้มใส ฝังจมูกย้ำซ้ำราวกับทดแทนทุกช่วงเวลาที่ขาดหายไป เสียงสะอื้นดังพอให้คนได้ยินใจสั่น เขาผละออกก่อนยกนิ้วขึ้นเกลี่ยหยาดน้ำตาแล้วดึงนับเงินเข้ามากอดจนจมอก ฝ่ามือใหญ่ลูบเรือนผมเพื่อบอกย้ำว่าทุกคำพูดและการกระทำของเขาเป็นเรื่องจริง

    คนที่เคยบอกว่าไม่อยากอยู่ใกล้กันตอนนี้กลับยกสองแขนขึ้นโอบกอดไว้ กระชับแน่นเหมือนหวาดเกรงว่าจะจางหายไปไหนอีก นับเงินกลั้นสะอื้นได้เพียงเล็กน้อยก่อนปล่อยโฮเพราะสัมผัสอันอบอุ่น

    นับจะเป็นบ้า... จะเป็นบ้าเพราะเธออยู่แล้ว

    พี่ขอโทษครับ เขาเอ่ยโดยไร้ความขลาดอายแล้วปล่อยให้น้องกอดแน่น เข็มทิศปลอบประโลมอย่างที่เคยทำจนอีกฝ่ายผ่อนเสียงแล้วเงียบลง จุดเปลี่ยนของความสัมพันธ์ระหว่างเราเกิดขึ้นอีกครั้ง หากไม่เดินหน้าก็ต้องถอยหลัง แน่นอนว่าเขาต้องการให้เราเดินไปข้างหน้าโดยกลับมามีกันและกันเหมือนอย่างเคย เธอไม่ต้องพูดอะไรก็ได้ แต่พี่แค่อยากให้เธอรู้

    “…”

    พี่ยังรักเธอเหมือนเดิม

    ทุกความทรงจำ ถ้อยเสียงบอกรักเวียนซ้ำขึ้นมาอีกครั้ง หนนี้มันชัดเจนเสียจนไม่อาจปฏิเสธหรือต่อต้าน ทั้งที่เคยคิดว่าจะลืมให้ได้ทว่านับเงินเป็นฝ่ายพ่ายแพ้กับเรื่องราวครั้งนี้ ...เขาใจแข็งกับเข็มทิศต่อไปไม่ไหวแล้ว

    นับสักรูปเข็มทิศ เสียงหวานปนสะอื้นเฉลยความสงสัยแผ่วเบา ตอนเลือกรอยสักไม่ได้คิดลังเลเลยสักนิด เหตุผลนับคงไม่ต้องบอกเธอแล้วมั้ง

    บอกสิ เข็มทิศมองหน้านับเงินนิ่งๆ ไม่มีใครหลบสายตาใครเลยเพราะสมัยยังคบกันอยู่การมองตาถือเป็นเรื่องปกติระหว่างเรา พี่อยากได้ยิน

    นับสักก็เพราะเธอ

    พี่ทำไม

    เฮ้อ เขาถอนหายใจ ไม่ใช่เพราะเหนื่อยหน่ายแต่คิดว่าหลังจากคำพูดของตัวเองแล้วอีกฝ่ายคงได้ใจ ถ้านับบอกแล้วเธอห้ามล้อนะ

    พูดมาเถอะครับ

    มันเป็นอย่างเดียวที่ทำให้นับรู้สึกว่ายังมีเธอ เขาสักหลังจากเลิกกันแล้ว เคยคิดว่าไม่ควรยึดติดกับอีกฝ่ายมากเกินไปแต่ทำไม่ได้เลยเลือกทำตามหัวใจตัวเอง นับเงินรู้ดีว่าระดับที่หัวใจสามารถรับได้ไหวอยู่ตรงไหน และเพราะรู้ดีจึงสักไม่เคยคิดไปลบทิ้งแต่อย่างใด แม้มีเพียงรูปเข็มทิศไม่ได้มีตัวอักษรย้ำชัดเหมือนบนร่างกายของคนเป็นพี่ แต่... นับลืมเธอไม่ได้สักที

    พี่รักเธอ

    ประโยคบอกรักสิ้นสุดลงราวกับทุกอย่างบนโลกหยุดเคลื่อนไหวชั่วขณะ ลมหายใจผ่อนผสานกันทีละน้อยและหัวใจดวงใหญ่เต้นโครมคราม ปลายจมูกเฉียดผ่านสัมผัสเพียงเสี้ยวนาทีเราต่างดึงดูดเข้าหากัน ความอุ่นร้อนทาบสนิทบนริมฝีปาก ขยับขบเชื่องช้าเป็นผลให้เลือดภายในกายสูบฉีดเหมือนดั่งจูบแรกระหว่างกัน

    ความรู้สึกโหยหากันและกันหวนคืนมาอย่างเรียบง่าย สัมผัสวาบหวามไล่เลียบนกลีบปากเนิบนาบ ปล่อยอารมณ์คิดถึงให้ทำงานจนตายใจก่อนปลายลิ้นซุกซนจะสอดเย้าตักตวงรสคุ้นเคย มันผ่านไปอย่างอ้อยอิ่งเพื่อเติมเต็มช่วงเวลาก่อนหน้านั้น คล้ายว่าจะไม่หยุดลงภายในห้วงเวลาอันสั้น

    มันเป็นรสจูบที่ตอกย้ำว่าเราทั้งคู่...

    รักกันจนหาใครมาแทนไม่ได้เลย



    tbc


    บอกเลยว่าพี่เข็มไม่ยอมปล่อยน้องแล้ว จริงๆ แล้วพี่เขาร้ายนะคะ 
    ส่วนหนึ่งเพราะเป็นคนเคยๆ กันอยู่และที่สำคัญเขารักกันมากๆ ค่ะ /กระซิบ
    ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์เลยน้า ♥
    #กฎของเข็มทิศ 

     


                     
    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×