ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ร.อ.บ.
      แฮร์รี่กลับมาที่ห้องโถงใหญ่ เขาเดินตามหาลูปินและเล่าเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับการผึกตราฟีนิกซ์ให้ลูปินฟัง เพื่อที่จะได้สอนเขาฝึกใช้ตราฟีนิกซ์และสามารถผนึกตราลงที่สมาชิกทุกคนได้ ลูปินบอกตกลงหลังจากแฮร์รี่เล่าให้ฟังว่าเขากินยาที่ดัมเบิลดอร์ปรุงยาให้เขากิน  หลังจากนั้นแฮร์รี่และลูปินจึงไปยังห้องที่ใช้สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด เพื่อที่จะฝึกได้อย่างสะดวก ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นชวนรอนไปที่ห้องสมุดกับเธอ เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับฮอกวอตส์เพิ่มเติมและชายหรือหญิงที่ชื่อ ร.อ.บ.
      “เอาล่ะ แฮร์รี่ การฝึกตราฟีนิกซ์นั้นไม่มีอะไรยากเย็นเลย ในเมื่อเธอผ่านคาถาขั้นสูงอย่างคาถาผู้พิทักษ์หรือผ่านการหายตัวมาแล้ว ดัมเบิลดอร์คิดมันให้ทุกคนสามารเสกได้อย่างแน่นอนเมื่อได้รับการผนึกตราแล้ว จึงไม่เป็นการยากเย็นอย่างใดเลย” ลูปินบอกแฮร์รี่หลังจากที่ทั้งคู่เข้ามาอยู่ในห้องที่ใช้เรียนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดแล้ว แฮร์รี่ยืนประจันหน้ากับลูปินอยู่หน้าห้อง
      “ครับ” แฮร์รี่ตอบรับและสบตากับลูปิน
      “แต่มันก็เหมือนกับคาถาอื่น ๆ เธอจะไม่สามารถทำสำเร็จได้เลย ถ้าหากเธอไม่มีความพยายาม และความตั้งใจจริง - - เอาละ เธอพร้อมหรือยัง” ลูปินถามแฮร์รี่
      “ครับ” แฮร์รี่ตอบง่าย ๆ เช่นเดิม
      “เอาละ สิ่งที่จำเป็นสำหรับตราฟีนิกซ์ คือ เมื่อเธอจะเสกคาถา เธอต้องมีแสงสว่างในจิตใจก่อน”
      “แสงสว่างในจิตใจหรือครับ” แฮร์รี่ถามอย่างงง ๆ
      “นั่นคือ เธอต้องมีคุณธรรมบางอย่างอยู่ในจิตใจของเธอตอนนั้น อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ความกล้า มิตรภาพ ความหวัง ความซื่อสัตย์ ความบริสุทธิ์ และความรัก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ พ่อมดฝ่ายมืดทั้งหลายจะไม่มีทางมีได้ - - ฉันคิดว่า เธอมีสิ่งเหล่านี้ในใจตลอดเวลานั่นละแฮร์รี่ แต่ที่ต้องระวังก็คือ ในระหว่างนั้น ในจิตใจของเธอจะต้องไม่มีความโกรธ ความชั่วร้ายอยู่เลยอย่างเด็ดขาด  ฉันรู้ว่าความชั่วร้ายนั้นคนอย่างเธอไม่มีวันมีมัน แต่สำหรับความโกรธ เป็นสิ่งที่สอดแทรกเข้ามาได้ง่ายมากสำหรับเด็กวัยรุ่นอายุสิบเจ็ดปีอย่างเธอ นั่นจึงเป็นสิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างมาก เธออาจจะไม่มีความโกรธ ในระหว่างที่อยู่ในห้องเงียบ ๆ กับฉันอย่างนี้ แต่ถ้าหากเธออยู่ในการต่อสู้ และมีคำพูดที่ไม่อาจให้อภัย หรือใครบางคนอาจถูกฆ่าตาย เธอต้องหยุดมันให้ได้  - - เอาละ ในเมื่อเธอมีสิ่งเหล่านี้พร้อม ให้เธอร่ายคาถานี้ออกมา ฟีนิกซ์ ฟีนิเลียย์ เอาละ ลองดูสิ”
      “ครับ” แฮร์รี่ตอบรับคำของลูปิน เขาชักไม้กายสิทธิ์ออกมา ชี้ไปยังความว่างเปล่าเบื้องหน้าเขา และหลับตาลง พยายามคิดถึง ความรัก ความหวัง หรืออะไรอย่างอื่น แฮร์รี่คิดว่าบัดนี้ อย่างน้อยเขาก็คงมีสองข้อนี้อยู่ในตัว “ฟีนิกซ์ ฟีนิเลียย์” แฮร์รี่ร่ายคาถาออกมาก
      ประกายไฟปะทุขึ้นที่ปลายไม้กายสิทธิ์ของแฮร์รี่ แล้วเริ่มขยายใหญ่ขึ้น กลายร่างเป็นนกฟีนิกซ์ตัวใหญ่พอควร แล้วลอยขึ้นสู่เพดานห้อง
      “แย่จังครับ ผมทำได้ไม่ใหญ่เท่ากับของอาจารย์เมื่อครั้งก่อน” แฮร์รี่หน้าสลด
      “ใครบอกละ เธอทำได้ดีมาก เธอฝึกมันสำเร็จได้ในครั้งเดียว ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอต้องทำได้อย่างรวดเร็ว เพราะเธอมีคุณธรรมเหล่านั้นอยู่พร้อม และอย่าไปกังวลกับขนาดของมัน ตราฟีนิกซ์จะปรับขนาดตัวเองตามความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ครั้งนั้นฉันเสกกลางแจ้ง แต่เธอเสกมันให้ห้อง ถ้าตราใหญ่เท่ากัน ห้องนี้มิต้องพังหรอกหรือ” ลูปินพูดยั่ว
      ทั้งคู่หัวเราะ แล้วสักพักทั้งคู่ก็เงียบลง
      “สำหรับการเสกใส่ประตูปราสาทหรือรูปปั้น ก็มีหลักการเดียวกัน เพียงแต่เธอเล็งไม้กายสิทธิ์ไปที่สิ่ง ๆ นั้นก็โอเค เข้าใจนะ”
      “ครับ”
      แฮร์รี่ฝึกตราฟีนิกซ์ได้สำเร็จแล้ว เขาแทบไม่อยากจะเชื่อตัวเขาเองเลย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสามารถฝึกคาถาได้สำเร็จในครั้งเดียว แต่มันอาจจะเป็นเพราะคาถานี้ง่ายมาอย่างที่ลูปินบอกก็ได้ และก็อาจจเป็นเพราะเขามีความรักของแม่ไหลเวียนอยู่ในตัวอยู่แล้วก็เป็นได้
      แฮร์รี่เดินกลับออกมาจากห้องเรียนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด เขาเดินเรื่อยเปื่อยไม่คิดอะไรอยู่นานจนไปโผล่อยู่ที่หน้าห้องสมุดเมื่อไรก็ไม่รู้ แฮร์รี่เปิดประตูห้องสมุดแล้วเข้าไปข้างใน ทว่า ห้องสมุดบัดนี้เหมือนกับรกร้าง เพราะไม่มีมาดามพริ้นซ์คอยปัดกวาดเช็ดถูและคอยไล่เด็กนักเรียนที่แอบมานั่งเล่น หรือคุยเสียงดังเหมือนเช่นเคย แฮร์รี่คิดถึงฮอกวอตส์ยามปกติยิ่งนัก
      เขาเดินผ่านชั้นหนังสือมากมาย จนถึงจุดที่เป็นที่สำหรับให้นักเรียนที่เลือกหนังสือเสร็จแล้วมานั่งอ่านกัน มุมนี้เต็มไปด้วยโต๊ะมากมาย แฮร์รี่กวาดสายตาไปจนทั่วและพบกับ - - สิ่งที่เห็นทำให้เขาตกใจแทบสิ้นสติ
      รอนกำลังจูบกับเฮอร์ไมโอนี่
      ทั้งสองนั่งเก้าอี้ติดกันอยู่ทางฝั่งเดียวกันของโต๊ะ เบื้องหน้าของทั้งสองมีหนังสือเล่มใหญ่เปิดกางอยู่เล่มหนึ่ง และกองหนังสืออีกตั้งใหญ่ ทว่า ทั้งสองกับไม่ได้สนใจหนังสือที่วางอยู่เบื้องหน้าเลยแม้แต่น้อย ( แต่ก่อนหน้านั้นอาจสนใจบ้าง ) ริมฝีปากของทั้งคู่ปะกบกันแนบสนิท ดูราวกับทั้งสองกำลังตกอยู่ในห้วงภวัง มือของรอนลูบไล้ไปทั่วทั้งแผ่นหลังของเฮอร์ไมโอนี่ และในขณะเดียวกันที่มือของเฮอร์ไมโอนี่ก็โอบกอดแผ่นหลังของอีกฝ่ายอยู่เช่นกัน
      แฮร์รี่ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ไม่สามารถขยับได้แม้แต่ก้าวเดียว รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ ทำไมเขาไม่เคยสังเกตมาก่อนเลยนะ เมื่อแฮร์รี่ได้มาเห็นภาพเบื้องหน้านี้ ความทรงจำเก่า ๆ ก็ผุดขึ้นมาในหัว การกระทำของเฮอร์ไมโอนี่ที่บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าหึงหวงรอนเมื่อครั้งรอนคบกับลาเวนเดอร์ แม้กระทั่งรอนที่หึงหวงเฮอร์ไมโอนี่ตอนที่คบกับวิกเตอร์ ครัม ตอนนี้ แฮร์รี่เพิ่งรู้ว่าทั้งคู่ชอบกันเพียงใด แฮร์รี่รู้สึกยินดีกับเพื่อนทั้งสองที่สมหวังกันเสียที
      ขาของแฮร์รี่เริ่มมีน้ำหนักขึ้นอีกครั้ง แฮร์รี่รีบร้อนพยายามก้าวออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เนื่องจากไม่คิดจะขัดขวางความสุขระหว่างคนทั้งสอง แต่รอนกับเฮอร์ไมโอนี่กับเป็นฝ่ายรู้ตัวเสียก่อน
      “แฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่กับรอนตะโกนพร้อมกัน และหน้าแดงทั้งคู่
      “เออ - - ขอโทษที ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมารบกวนหรอกนะ ฉันไปละ” แฮร์รี่พลันหน้าแดงไปด้วยอีกคน และกำลังจะก้าวออกไป
      “เดี๋ยวก่อน แฮร์รี่ มานั่งนี่เลย เราสองคนมีอะไรจะเล่าให้ฟัง” เฮอร์ไมโอนี่เรียก
      แฮร์รี่เดินอ้อมโต๊ะไปนั่งฝั่งตรงข้างของทั้งคู่อย่างว่าง่าย
      “เอาละ แฮร์รี่ ในเมื่อนายเห็นแล้ว ฉันก็ไม่ปิดบังละนะ ความจริง เราก็ไม่ได้คิดจะปิดบังนายหรอก คิดว่าจะเซอร์ไพรส์นายนะ เราคิดว่าจะแต่งงานแบบสายฟ้าแลบพร้อมกับบิลนะละ และเราก็บรรลุนิติภาวะแล้วด้วย อ้อ เรากับบิลก็จะแต่งงานกันพรุ่งนี้ละ แล้วก็ลูปินกับท๊องอีกคู่หนึ่งด้วย สรุปว่า พรุ่งนี้จะมีงานแต่งงานสามคู่ละ” รอนบอก
      “เหรอ ยินดีด้วยนะ” แฮร์รี่บอกยิ้ม ๆ “ว่าแต่ มีอะไรจะบอกฉันอีกหรือ คงไม่ได้มีเท่านี้หรอกนะ”
      รอนกับเฮอร์ไมโอนี่มองหน้ากัน แล้วเฮอร์ไมโอนี่เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน “เราค้นหาข้อมูลในห้องสมุดมากมาย อย่างที่เห็น” เธอตบมือลงบนกองหนังสือสูงท่วมหัว “เกี่ยวกับพ่อมดที่ชื่ออาจจะมีตัวย่อว่า ร.อ.บ. ฉันหาแทบตายแนะ ไม่ว่าจะเป็นรวมรายชื่อพ่อมดแม่มดผู้ทำความดีแก่กระทรวง หรือว่า รวมรายชื่อพ่อมดแม่มดผู้ได้เหรียญตราเมอร์ลิน  และอะไรอื่น ๆ อีกมากมาย เราไม่เจอที่น่าจะเป็นไปได้สักชื่อ จนเราหามาจนถึง - - ” เฮอร์ไมโอนี่ปิดหนังสือที่กางอยู่ตรงหน้า แล้วให้แฮร์รี่ดูหน้าปก “เล่มนี้”
      เป็นหนังสือที่เก่าพอดู แฮร์รี่เห็นตัวหนังสือประกายสีทองบนพื้นดำปุปะของหนังสือเขียนไว้ว่า รวมรายชื่อผู้เสพย์ความตาย
      แฮร์รี่ตกใจเป็นอย่างมาก แต่เฮอร์ไมโอนี่รีบพูดแทรก
      “เราเจอชื่อชื่อเดียวที่น่าจะเป็น ร.อ.บ. ได้ นั่นคือ เรกูลัส อาร์ทิมิส แบล็ก”
      แฮร์รี่นึกถึงที่ซิเรียสเคยพูดกับเขาว่า น้องของฉัน เรกูลัส เข้าร่วมกับผู้เสพย์ความตาย และถูกโวลเดอมอร์ฆ่าตาย
      ทั้งห้องเต็มไปด้วยความเงียบน่าอึดอัด ทำไมโวลเดอมอร์ถึงฆ่าเรกูลัสนะ หรือว่า เป็นเพราะเรกูลัสทรยศ และได้ค้นหาฮอร์ครัชและทำลาย จนโวลเดอมอร์รู้ตัว และสังหารเขา หรือไม่โวลเดอมอร์ก็รู้ตัวว่าเรกูลัสทรยศ แต่ไม่รู้ว่าเรกูลัสค้นหาฮอร์ครัชไปทำลาย
      เขาต้องบอกเรื่องนี้ให้ดัมเบิลดอร์รู้โดยเร็วที่สุด
      “ฉันต้องบอกดัมเบิลดอร์ เราต้องบอกเขา เรื่องที่เรารู้” แฮร์รี่รีบพูด
      “ได้แฮร์รี่ เดี๋ยวเราไปหาดัมเบิลดอร์กัน” ทั้งสามช่วยกันเก็บหนังสือให้เข้าที่อย่างเรียบร้อย และรีบร้อนวิ่งผ่านระเบียงทางเดินสู่ห้อง อาจารย์ใหญ่ แฮร์รี่เสกตราฟีนิกซ์ใส่รูปปั้นด้านหน้าโดยที่ยังวิ่งไม่ถึง รูปปั้นนั้นพลันเปิดทางให้
      “เยี่ยมเลยแฮร์รี่ เธอทำสำเร็จ” เฮอร์ไมโอนี่พูดทั้งที่ยังวิ่งอยู่
      “สุดยอดเลยแฮร์รี่” รอนบอก
      “มันไม่ยากอะไรเลย ไว้ฉันต้องสอนพวกเธอด้วย แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคุยเรื่องนี้” แฮร์รี่บอกพร้อม ๆ กับที่เท้าของเขาก้าวขึ้นบันไดวนทีละสองขั้น จนพวกเขามายืนอยู่หน้าห้องของอาจารย์ใหญ่ในที่สุด
      แฮร์รี่เคาะประตู แต่โดยไม่รอเสียงตอบรับ เขาเปิดประตูเขาไปในห้องอย่างรวดเร็ว
      “อาจารย์ครั - - ” แฮร์รี่พูดยังไม่ทันจบแต่ก็ต้องหยุดเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า
      ดัมเบิลดอร์ไม่ได้อยู่ในรูป ทิ้งไว้แต่กรอบรูปที่ว่างเปล่า เหมือนกับรูปของฟินิแอสยามเขาไปเยี่ยมที่ที่มีรูปของเขาในที่อื่น
      ดัมเบิลดอร์ไปไหนกันนะ แฮร์รี่คิด
      สองชั่วโมงต่อมา แฮร์รี่นั่งเล่นหมากรุกพ่อมดอยู่กับรอนในห้องนั่งเล่นกริฟฟินดอร์ ขณะที่ตัวโคนของเขาตวัดม้าของรอนถึงแก่กรรมไปนั้น เฮอร์ไมโอนี่ก็นั่งถอนหายใจเข้าออกอยู่หน้ากระดานระหว่างทั้งสอง มีหนังสือคาถามาตรฐานปีเจ็ดที่ยืมมาจากห้องสมุดวางกางอยู่บนตัก แต่สายตาของเธอจ้องมองไปในความว่างเปล่าเบื้องหน้า ราวกับกำลังคิดอะไรอยู่
      ปีนี้ถึงแม้จะไม่มีการเรียนการสอนที่ฮอกวอตส์ก็ตาม แต่แฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ เมื่อมีเวลาว่างก็จะมักไปยืมหนังสือที่ห้องสมุดมาอ่านเกี่ยวกับตำราความรู้ต่าง ๆ ของปีเจ็ด แล้วฝึกคาถาของเด็กปีเจ็ดกันเองหรือแม้แต่ที่ระดับสูงกว่านั้น เมื่อมีตรงไหนไม่เข้าใจ ก็จะหาเวลาที่สมาชิกภาคีที่เป็นอาจารย์อย่างมักกอลนากัล หรือลูปิน ที่ว่าง ๆ อยู่เข้าไปถามและให้สอนคาถาหรืออธิบายให้อยู่เสมอ
      แต่ทว่า ตั้งแต่เขามาอยู่ที่ฮอกวอตส์ยังแทบจะไม่มีเวลาว่างเลยสักครั้ง ตั้งแต่วันแรกที่มา แฮร์รี่ก็ได้เป็นผู้นำคนใหม่ และวันต่อมา ก็ต้องเข้าไปในเพนซิฟกับดัมเบิลดอร์อีก และยังพบเจอปริศนาของ ร.อ.บ.ได้อย่างรวดเร็วอย่างไม่นึกไม่ฝัน ทำให้แฮร์รี่มีเวลาว่างน้อยมาก และพรุ่งนี้ยังเป็นงานแต่งงานของบิลกับรอนอีก หลังจากเล่นหมากรุกพ่อมดเสร็จ ทั้งเด็กทั้งสามจึงได้ไปช่วยสมาชิกภาคีจัดเตรียมงานสำหรับงานแต่งงานสามคู่ในวันรุ่งขึ้น โดยมีเฟร็จกับจอร์ดตามมาสบทบเมื่อดวงอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า ฝาแฝดมีของเล่นแปลก ๆ ใหม่ ๆ มาประดับไว้ในงานมากมาย
      ทางด้านชุดแต่งงาน นายและนางวิสลีย์ได้ทางคู่รักทั้งสามคู่ไปวัดตัวเพื่อจะตัดชุดที่ตรอกไดแอกอนเมื่อบ่ายวันนี้ แฮร์รี่เพิ่งรู้ว่า ร้านเสื้อผ้าของมาดามมัลกิ้ลรับตัดชุดอื่น ๆ นอกจากชุดนักเรียนด้วย และทางด้านการเงิน เฟร็จกับจอร์ดเป็นคนอุปถัมภ์ให้ทั้งหมด
      การจัดเตรียมงานเป็นไปอย่างสนุกสนาน ทุก ๆ คนที่เป็นสมาชิกของภาคีนกฟีนิกซ์ดูเหมือนจะว่างกันหมดในวันนี้และพรุ่งนี้พอดี การจัดงานจึงดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว  งานจะจัดขึ้นที่ห้องโถงใหญ่ ที่บัดนี้ถูกประดับประดาด้วยต้นไม้มงคลต่าง ๆ มากมาย และมีหัวใจดวงน้อย ๆ ติดอยู่  ภูตน้อยหรือที่พวกมักเกิ้ลชอบเรียกกันว่ากามเทพ ถูกเสกขึ้นให้บินวนเวียนอยู่เหนือหัวผู้คนในห้องโถงใหญ่ บางครั้งจะคอยโปรยหัวใจดวงเล็ก ๆ ประมาณเท่าฝ่ามือจำนวนมากลงมาสู่ข้างล่าง  โต๊ะทั้งสี่หายไป แต่ถูกจัดแทนด้วยโต๊ะยาวที่เรียงในทิศทางเดียวกับโต๊ะของอาจารย์ปรากฏอยู่แทนที่โต๊ะประจำบ้าน โต๊ะแต่ละตัวมีเก้าอี้เรียงรายอยู่ประมาณห้าถึงหกตัว แถวหนึ่งถูกจัดไว้สองโต๊ะ เว้นที่ว่างตรงกลางไว้สำหรับเดิน ดูคล้าย ๆ กับโบสถ์ของมักเกิ้ลในศาสนาคริสต์นั่นเอง
      ครั้งนี้เพดานเวทย์มนต์ถูกเสกให้เห็นเป็นก้อนเมฆสีขาว สว่าง สดใสจำนวนมาก ดูราวกับห้องโถงใหญ่ในเวลานี้ ถูกตั้งไว้ในสรวงสวรรค์อย่างไรอย่างนั้น  โต๊ะของอาจารย์หายไป เห็นเป็นแท่น ๆ หนึ่งอยู่ตรงกลาง ไว้สำหรับผู้ที่จะทำพิธีให้ทั้งสองยืน สองข้างของด้านหน้าห้องโถงประดับประดาไว้ด้วยดอกไม้มากมาย ทั้งหมดนี้เพื่อคู่รักทั้งสามคู่
      เมื่อไรจะถึงตาของเรากับจินนี่เสียทีนะ นี่ถ้าเธอบรรลุนิติภาวะแล้ว เราจะจัดเป็นสี่คู่เลยทีเดียวสิ แฮร์รี่แอบคิดอิจฉาเล็ก ๆ ในใจ
ด้วยการที่ยินดีอย่างมากกับคู่รักทั้งสอง อีกทั้งรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ก็กำลังจะแต่งงานกันเป็นเหตุให้ตื่นเต้นอย่างมาก ทำให้ความจริงเกี่ยวกับ เรกูลัส อาร์ทิมิส แบล็ก ที่อุตสาห์หามาได้อย่างลำบากยากเย็น ได้ลบเลือนออกไปจากความคิดของเด็กทั้งสามอย่างสิ้นเชิง
      วันต่อมา แฮร์รี่ตื่นแต่เช้า เมื่อเขาดูนาฬิกาจึงพบว่าเพิ่งจะเป็นเวลาหกโมงครึ่งเท่านั้น งานแต่งงานของทั้งสามคู่จะเริ่มต้นเมื่อสิบเอ็ดโมงตรง ในระหว่างนี้ คู่บ่าวสาวทั้งสามคู่จะเก็บตัวและเตรียมตัวเพื่องานแต่ง แฮร์รี่มองไปเตียงข้าง ๆ และค่อยข้างแน่ใจตั้งแต่แรกแล้วว่ารอนต้องไม่อยู่แน่ ๆ ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ
      แฮร์รี่สลัดความคิดน่าหงุดหงิดต่าง ๆ ในจิตใจออกไป และมองไปรอบ ๆ พบว่าลุงเวอร์นอนกับป้าเพ็ตทูเนียยังคงนอนหลับอยู่เตียงที่อยู่เยื้องกับเขาไปเล็กน้อยในฝั่งตรงกันข้าม ส่วนดัดลีย์นั้นกำลังนอนกรนอยู่เตียงที่อยู่ระหว่างป้าเพ็ตทูเนียและลุงเวอร์นอน
      แฮร์รี่ต้องปลุกพวกเขาและให้ร่วมงานเลี้ยงด้วย ทั้งสามคนไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับงานแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นเลย เพราะตั้งแต่มาที่นี่ ทั้งสามเอาแต่เก็บตัวอยู่ในหอนอนเท่านั้น มิได้ลงไปเยี่ยมเยือนสมาชิกพ่อมดแม่มดทั้งหลายในฮอกวอตส์เลยแม้แต่ครั้งเดียว จนต้องมีคนสั่งให้เอลฟ์ประจำบ้านคอยนำอาหารมาให้คนทั้งสามอยู่ทุกมื้อ
      “ตื่นได้แล้วฮะ” แฮร์รี่ตะโกนสุดเสียงลั่นหอนอน ทำเอาลุงเวอร์นอนกับป้าเพ็ตทูเนียตื่นในทันทีและหัวเสียนิดหน่อย ส่วนดัดลีย์นั้นยังไม่ยอมตื่น
      “ตื่นยากนักใช่ไหม เจ้าหมูน้อย” แฮร์รี่ชักไม้กายสิทธิ์ออกมา  โดยที่ลุงเวอร์นอนหรือป้าเพ็ตทูเนียยังไม่ทันได้ว่ากล่าวอะไรเพราะสายตาที่ยังลืมไม่ขึ้นนั้น แฮร์รี่เสกคาถาขึ้น “ลาออส” สิ้นเสียง เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวอยู่ในระยะแค่เพียงในหอนอนเท่านั้น มันดังยิ่งกว่าเสียงตอน ที่มีพ่อมดหายตัวเสียอีก ดัดลีย์สะดุ้งตื่นอย่างรวดเร็ว
      “ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” เขาตะโกนขึ้น
      “ไม่มีอะไรหรอกเจ้าหนู แฮร์รี่แค่ปลุกแกนะ” ก่อนที่แฮร์รี่จะตะโกนกลบดัดลีย์ไปนั้น กลับมีเสียงของลุงเวอร์นอนแทรกขึ้นก่อน แฮร์รี่รู้สึกแปลก ๆ เมื่อมีลุงเวอร์นอนแก้ตัวให้เขาเมื่อเขาใช้เวทย์มนต์
      “ว่าแต่ แฮร์รี่ เราปรึกษากันตั้งแต่มาที่นี่ - - เราคิดว่า สิ่งที่เราทำลงไปมันไม่ดีมาก ๆ กับแก เอ่อ ขอโทษ เธอนะ” ลุงเวอร์นอนบอก
      “อะไรนะฮะ” แฮร์รี่คิดว่าตัวเองฝันไปเสียแล้ว นี่ลุงเวอร์นอนพูดดีกับเขาเป็นครั้งแรกในชีวิตหรือนี่
      “ฉันหมายถึง พวกเราสามคนอยากจะขอโทษเธอ เกี่ยวกับเรื่องทั้งหมด และขอขอบคุณที่ช่วยชีวิตพวกเราสามคนโดยพามาที่นี่” ป้าเพ็ตทูเนียพูด
      “ครับ แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ผมคิดว่า ลุง ป้า และดัดลีย์รีบแต่งตัวเข้าเถิดครับ วันนี้จะมีงานแต่งงานสามคู่ เพื่อนผม รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ หนึ่งคู่ พี่ของเพื่อนผมอีกหนึ่งคู่ และอาจารย์ของผมอีกหนึ่งครับ” แฮร์รี่บอกพลางอมยิ้ม
      ทั้งสามคนพยักหน้า
      “งานแต่งจะเริ่มสิบเอ็ดโมง ที่ห้องโถงใหญ่นะครับ หวังว่าพวกลุงจะไปถูก เอาอย่างนี้ดีกว่า ผมว่าผมเรียกครีเชอร์มาคอยรับใช้ลุงและให้พาไปห้องโถงใหญ่ดีกว่า - - ครีเชอร์ - - ครีเชอร์” แฮร์รี่ตะโกนเรียกครีเชอร์
      เกิดเสียงป๊อบดังขึ้นในอากาศ แต่ที่ปรากฎตัวขึ้นกลับเป็นด๊อบบี้ ไม่ใช่ครีเชอร์
      “ด๊อบบี้ ครีเชอร์อยู่ไหน” แฮร์รี่ถามอย่างเป็นกังวล
      “แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นด๊อบบี้ต้องเสียใจด้วยขอรับ ครีเชอร์ตายแล้ว” ด๊อบบี้พูดพลางแสดงท่าทางเสียใจและก้มหัวลง ทำเอาหมวกสิบกว่าใบที่มันใส่ไว้บนหัวหลุดลงกับพื้น มันรีบเก็บขึ้นมาใส่ใหม่อย่างรวดเร็ว
      “งั้นเหรอ” แฮร์รี่ไม่แสดงความเสียใจเท่าไรนัก “งั้นด๊อบบี้ ช่วยอะไรฉันหน่อยสิ”
      “เป็นด๊อบบี้จะทำตามแฮร์รี่ พอตเตอร์ทุกอย่างครับ ขอเพียงเขาสั่งมาเท่านั้น”
      “ดี ถ้าอย่างนั้น เมื่อใกล้ถึงเวลางาน ให้พาลุง ป้า และดัดลีย์ ไปที่ห้องโถงใหญ่ด้วย โอเคนะ”
      “ได้ขอรับ แฮร์รี่ พอตเตอร์” ด๊อบบี้บอกแล้วก้มหัวอีกครั้ง
      หลังจากแฮร์รี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ แล้วเดินลงมายังห้องนั่งเล่นรวม เขาพบจินนี่กำลังแต่งชุดราตรีคอยเขาอยู่
      จินนี่ดูสวยมาอย่างที่แฮร์รี่ไม่เคยเห็นมาก่อน
      ชุดราตรีวันพีชสีขาวสว่าของเธอดูเข้ากับเรือนผมสีแดงเพลิงอย่างน่าประหลาย ต่างหูลูกสนิชลูกจิ๋วที่กวัดแกว่งเมื่อหันหน้ามามองแฮร์รี่ ทำให้เธอดูมีเสน่ห์เย้ายวนอย่างมาก - - แฮร์รี่หันกลับมามองตัวเอง งานแต่งงานของเพื่อนแท้ ๆ ชุดที่เขาใส่กลับเป็นเสื้อยืด กางเกงยีนส์เหมือนกับวันปกติธรรมดาได้อย่างไร ทำไมเขาไม่คิดมาก่อนนะ
      “เอ่อ - - ขอโทษนะจินนี่ ขอฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยว” แฮร์รี่รีบวิ่งกลับไปที่หอนอน เขาเปิดประตูโดยไม่สนใจสายตาส่อแววสงสัยของลุงเวอร์นอน รีบตรงไปเปิดหีบเก็บของของเขาอย่างรวดเร็ว เร่งรื้อของทุกอย่างออกมาอย่างระเกะระกะ จนเขาพบสิ่ง ๆ หนึ่งที่เขาเห็นอยู่ก้นหีบของเขา มันคือชุดงานราตรี ที่เขาเคยใช้ตอนปีสี่นั่นเอง ยังดีที่แฮร์รี่ยังคงเก็บมันไว้
      “สเกอจิฟาย” แฮร์รี่ใช้ไม้กายสิทธิ์เสกคาถาใส่ชุดเพื่อทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า และก่อนที่จะลงไปเขาหันไปหาด๊อบบี้ “เอ่อ ด๊อบบี้ ช่วยเก็บของให้ฉันด้วยนะ” แล้วแฮร์รี่ก็รีบวิ่งลงไปโดยไม่ได้แม้แต่มองว่าด็อบบี้ตอบรับเขาหรือเปล่า
      จินนี่ยังคงรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นรวม “สวัสดีจินนี่” แฮร์รี่ตรงลงไปทัก
      จินนี่มองแฮร์รี่ด้วยสายตาชื่นชม “ดูดีมากเลยแฮร์รี่ - - ว่าแต่ ลงไปกินอะไรกันหรือยังละ ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย”
      แฮร์รี่พยักหน้า และออกไปข้างนอก พร้อม ๆ กับจินนี่ เขาเดินด้วยกันจนไปถึงห้องโถงใหญ่ ซึ่งระหว่างทาง แฮร์รี่เจอเหล่าผีกำลังประชุมอะไรกันบางอย่างอยู่ ดูท่าว่าคงตื่นเต้นมาก เพราะคงยังไม่เคยมีงานแต่งงานที่ฮอกวอตส์มาก่อนเลยเป็นแน่
      ก่อนเวลาสิบเอ็ดโมงเช้า คู่รักทั้งสามคู่ยังไม่ออกมาให้เห็น อาจเป็นเพราะเตรียมตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง  รวมทั้งนายและนางวิสลีย์ ก็หายไปด้วย ดูท่าคงไปช่วยบ่าวสาวทั้งสามคู่แต่งตัวเป็นแน่
      รูปภาพของดัมเบิลดอร์ถูกย้ายลงมาที่ห้องโถงใหญ่ และวางไว้บนแท่นสำหรับทำพิธี ดัมเบิลดอร์คงเป็นผู้ทำพิธีให้กับคู่รักทั้งสาม ทั้งห้องถูกประดับประดาด้วยสิ่งต่าง  ๆ ที่แฮร์รี่เห็นผู้คนจัดตั้งแต่เมื่อวาน  แขกส่วนใหญ่ที่เห็นเป็นสมาชิกของภาคีนกฟีนิกซ์ และก็มีปะปนด้วยมักเกิ้ลสองถึงสามคนซึ่งก็คือพวกเดอร์สลีย์และพ่อกับแม่ของเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งดูเหมือนคนทั้งสี่จะตื่นตะลึงไม่น้อยกับความอลังการของห้องโถงใหญ่และโลกเวทย์มนต์ที่ตนเองไม่เคยสัมผัสมาก่อน โดยเฉพาะครอบครัวเดอร์สลีย์ ซึ่งดูเหมือนว่า พวกเขาจะเข้าใจเสียทีว่า โลกเวทย์มนต์ไม่ได้มีแต่สิ่งที่ชั่วร้ายและงี่เง่าอย่างที่เขาจินตนาการมาโดยตลอด
      ถึงเวลาสิบเอ็ดโมงเช้า
      แขกทุกคนนั่งกันอยู่ที่โต๊ะที่จัดไว้ให้อย่างเป็นระเบียบ ประตูห้องโถงใหญ่เปิดออก มีนายและนางวิสลีย์เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะด้านหน้าสุด ซึ่งอยู่ตรงหน้าแฮร์รี่พอดี สักพัก บ่าวสาวทั้งสามคู่ก็เดินผ่านประตูเข้ามา
เริ่มต้นด้วยลูปินและท๊องก์ ลูปินสวมสูทสีขาวผูกเนคไท และท๊องก์นั้นใส่ชุดเจ้าสาวฟูฟ่อง ซึ่งดู ๆ ไปก็เหมือนกับงานแต่งงานของมักเกิ้ลดีดีนั่นเอง
      ถัดมาเป็นคู่ของบิลกับเฟลอร์ ทั้งคู่ใส่ชุดวิวาห์สีขาวดูคล้าย ๆ กับคู่ของลูปิน ผิดกันแต่ว่า ผิวของเฟลอร์นั้นขาวผ่องราวกับเปล่งประกาย และส่องแสงได้ในตัวเอง ดูเหมือนว่าการที่เฟลอร์เข้ามาในห้อง จะทำให้ห้องโถงใหญ่นั้นสว่างกว่าที่มันควรจะเป็น
      และคู่สุดท้ายก็เดินเข้ามาก่อนที่ประตูจะปิดลง รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ ทั้งสองก็ใส่ชุดวิวาห์สีขาวเช่นกัน ทั้งคู่ดูราวกับเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก
คู่รักทั้งสามคู่เดินควงแขนเรียงกันเดินสู่หน้าห้องโถง ระหว่างทางมีภูตน้อยคอยโปรยหัวใจดวงเล็ก ๆ ตามหลังมาตลอดทาง ทั้งคู่เดินสู่หน้าห้องโถงใหญ่ เผชิญหน้ากับดัมเบิลดอร์ และปลี่ยนแถวเป็นแถวหน้ากระดาน ซึ่งคู่ของลูปินยินอยู่ทางซ้ายสุด และเรียงต่อมา จบด้วยคู่ของรอน
      “สวัสดี สุภาพบุรุษ และสุภาพสตรีทั้งหลาย” ดัมเบิลดอร์ในรูปยังคงกล่าวเสียงดังฟังชัด อย่างมีพลังเช่นเคย “ฉันมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับเกียรติให้จัดพิธีมงคลสมรสหมู่สามคู่ในครั้งนี้ และอยากขอกล่าวอะไรสักเล็กน้อย ฉันไม่ว่าหรอก ถ้าใครจะไม่ฟังก็ได้ มันอาจจะเป็นแค่คำของคนแก่ที่บ่นอย่างไร้สาระก็ได้
      “งานแต่งงานนี้ จัดขึ้นท่ามกลางสงครามอันยิ่งใหญ่ของพ่อมด บางคนอาจจะคิดว่าเป็นการไม่ถูกไม่ควร ที่จะจัดงานรื่นเริง สบายใจ สนุกสนาน ในวาระเช่นนี้ - - แต่ทว่า ความรัก มิใช่สิ่งที่ผิด การที่คนสองคนรักกัน และประสงค์อยากจะอยู่ด้วยกันอย่างถูกต้องนั้น เป็นสิ่งที่ประเสริฐอย่างยิ่ง ฉันอยากจะบอกว่า ในวาระเช่นนี้ ความรัก เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ที่เราควรจะมีอย่างยิ่ง  ความรัก เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่เจ้าแห่งศาสตร์มืดมิมีวันมี และเข้าในมันได้ ดังนั้น ฉันอยากจะขอให้ทุกคนควรระลึกถึงความรักเอาไว้ เมื่อต่อสู้กับความชั่วร้าย ไม่จำเป็นจะต้องเป็นความรักอย่างหนุ่มสาว อาจจะเป็นความรักที่แม่มีต่อลูก ศิษย์มีต่อครู ก็ได้
      “เอาล่ะ ทุกคนคงจะเบื่อกันแล้ว ฉันจะขอเริ่มพิธี ณ บัดนี้” เขาละสายตาจากครั้งแรกที่มองไปโดยรอบห้องโถงใหญ่ และจับจ้องไปที่คู่บ่าวสาวทั้งสามคู่ “พิธีจะไม่มีอะไรมาก จะมีเพียงแค่การปฏิญาณตนเท่านั้น - - เอาละ” เขากระแอมทีหนึ่ง “หลังจากนี้ คู่รักคู่แรก รีมัส จอนห์ ลูปิน และ นิมฟาดอร่า เท็ด ท๊องก์, คู่ที่สอง บิล อาโฟร์ล วิสลีย์ และ เฟลอร์ แซงทัวรีย์ เดอร์ลากูล์, คู่ที่สาม โรนัลด์ บีเลียส วิสลีย์ และ เฮอร์ไมโอนี่ เจน เกรนเจอร์ - - คู่วิวาห์ทั้งสามคู่ของเราในวันนี้ เจ้าบ่าวทั้งสามคนยินดีที่จะยอมรับเจ้าสาวของเจ้าหรือไม่”
      “ยินดีครับ” มีเสียงตอบรับสามเสียงดังขึ้น
      “และเจ้าสาวทั้งสาม ยินดีที่จะยอมรับเจ้าบ่าวของตนหรือไม่”
      “ยินดีค่ะ” เสียงของหญิงสาวอีกสามเสียงตอบขึ้น
      “จากนี้ ไม่ว่าจะมีความสุข ความทุกข์ ภัยอันตราย หายนะ ความเลวร้ายที่น่าหวาดหวั่น ความไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ที่อาจจะบังเกิดแก่ชีวิตคู่ของพวกเจ้า ที่อาจเกิดขึ้น พวกเจ้าทั้งหกจะยอมรับหรือไม่”
      “ยอมรับค่ะ/ครับ” เสียงบ่าวสาวทั้งสามคู่ตอบขึ้นพร้อมกัน
      “เอาละ จากนั้น ขอให้บ่าวสาวทั้งสามคู่ ทำพิธีสวมแหวนและมอบจุมพิตแก่เจ้าสาวของตนเป็นอันเสร็จพิธี” ดัมเบิลดอร์บอกพร้อมกับ เสียงฮือฮาเล็กน้อยของบรรดาแขกในงาน แต่ทว่า ในเวลานั้น แฮร์รี่มิได้อยู่ในห้องโถงใหญ่แล้ว โดยไม่มีใครสังเกตเห็น
      สายตาของแฮร์รี่ทอดยาวไปเบื้องหน้าที่ทะลสาบของฮอกวอตส์ เขายืนอยู่ภายใต้ร่มไม้ต้นหนึ่งที่ยืนตระง่านอยู่บริเวณนั้น ความคิดต่าง ๆ ในหัวเขาพากันตีกันอย่างชุลมุนวุ่นวายเสียยิ่งกว่าชุมชนพ่อมดในเวลานี้เสียอีก
      แฮร์รี่ไม่ได้คิดอิจฉารอนหรือเฮอร์ไมโอนี่แต่อย่างไร ทว่า เขากลับน้อยใจที่ตนเองไม่ได้มีความสุขในเวลาแบบนี้บ้าง มันอาจเป็นการช่วยลดความตึงครียดถึงขีดสุดในสถานการณ์อย่างนี้ และอาจเป็นการช่วยให้เพิ่งพูนกำลังใจอันน้อยนิดของเขาขึ้นมาบ้างนิดหน่อยก็เป็นได้
ในขณะที่แฮร์รี่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่นั้น ก็มีร่าง ๆ หนึ่งกำลังเดินใกล้เข้ามาทางด้านหลังแฮร์รี่
      “สวัสดี แฮร์รี่” จินนี่นั่นเอง เธอกล่าวทักทายเขาอย่างสนิทสนม
      “เอ่อ อ้อ - - สวัสดี จินนี่” แฮร์รี่กล่าวทักทายกลับอย่างไม่ทันตั้งตัว และส่ายหัวเพื่อกลบความคิดไร้สาระของเขา
เกิดความเงียบขึ้นสักพักระหว่างคนทั้งสอง และจินนี่เป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้น “เอ่อ จริงสิ อีกสักพักจะมีการเลี้ยงฉลองกันด้วย เธอจะเข้าไปไหมแฮร์รี่”
      “เข้าสิ” แฮร์รี่ตอบอย่างรวดเร็ว “เอ่อ จินนี่ - - คือว่า - - เรื่องของเรา เมื่อไรเราจะแต่งงานกันเสียทีละ” แฮร์รี่หน้าแดงจัดขณะพูด
ครั้งนี้จินนี่เป็นฝ่ายหน้าแดงบ้าง “ที่จริง เราน่าจะแต่งเสียพร้อมกับพวกพี่ ๆ และอาจารย์ก็ได้ แต่ว่ามันไม่ทันแล้วละ แล้วแต่เธอละ แฮร์รี่” จินนี่พูดจบและรีบก้มหน้าอันแดงจัดของเธอจับจ้องลงที่เท้าของแฮร์รี่ทันที
      แฮร์รี่ตรงเข้าไปจับไหล่ทั้งสองข้างของจินนี่ แล้วทั้งคู่ก็สบตากัน “เอาเป็นว่า หลังจากเรื่องทั้งหมดสงบลง โลกพ่อมดสงบสุขอีกครั้ง เราจะแต่งงานกัน และไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกันที่บ้านโพรงกระต่าย ฉันจะเอาเงินในกริงกอตต์ปลูกบ้านอีกหลังใกล้ ๆ กัน หรือไม่อย่างนั้น เราทั้งหมดก็ย้ายไปอยู่ที่ก๊อดดริก ฮอลโลว์ บ้านเกิดของฉัน แล้วเราจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกันที่นั่น” แฮร์รี่บอกอย่างตาเป็นประกาย “แต่ก่อนอื่น เรากำลังเผชิญกับสงครามครั้งใหญ่ ฉันไม่อยากหมกมุ่นเรื่องนี้มากเกินไป ต้องทำหน้าที่ที่สำคัญอีกเยอะแยะ และสักวัน - - สักวัน ตามที่คำ  ทำนายและดัมเบิลดอร์บอกไว้ ฉันต้องเผชิญหน้ากับโวลเดอมอร์อีกครั้ง ไม่รู้ว่าฉันจะ - -”
      จินนี่เอานิ้วชี้ของเธอปิดปากแฮร์รี่ “ไม่ แฮร์รี่ - - อย่าพูดอะไรแบบนั้น เธอต้องเป็นฝ่ายที่ชนะ แต่ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เราไม่ต้องไปกังวลกับมันหรอก เพียงแต่เราทำปัจจุบันของเราให้ดีที่สุดเสีย ทุกอย่างที่ตามมาก็จะดีเอง”
      ทั้งสองมองหน้ากัน และริมฝีปากของทั้งคู่ค่อย ๆ เคลื่อนที่เข้าใกล้กันอย่างช้า ๆ
      ภายใต้แสงเงาแห่งฤดูร้อนที่กำลังจะหมดไป ในปราสาทหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมทะเลสาบและป่าผืนใหญ่ มีคู่รักสามคู่ที่แต่งงานกัน และดูเหมือนจะลืมเลือนเรื่องยุ่งวุ่นวายภายนอกไปเสียสนิท สมาชิกภาคีนกฟีนิกซ์แต่ละคนต่างสนุกสนานกันอย่างเต็มที่  แต่นอกปราสาทนั้น กลับมีคู่รักอีกคู่หนึ่งที่ดูเหมือนจะถูกลืมเลือนจากความรื่นเริงข้างในงานเสียแล้ว ทั้งคู่ยืนปะทับริมฝีปากกันอย่างดูดดื่มภายใต้แสงเงาใต้ร่มไม้แห่งฤดูร้อน โดยมีผู้รู้เห็นเป็นเพียงปลาหมึกยักษ์ที่กำลังเอาหนวดของมันราน้ำอยู่นั้น
      ทั้งหมด - - ทุกอณูชีวิตในฮอกวอตส์ ต่างสนุกสนานและไม่รู้เอาเสียเลยว่า ชะตากรรมอันเลวร้ายที่ไม่มีใครคาดคิด กำลังจะเกิดขึ้นกับพวกเขาในไม่ช้า ครั้งนี้ มิมีใครแม้แต่คนเดียวที่คาดการณ์ถึงเรื่องเลวร้ายที่สุดที่กำลังจะเกิดในอนาคตได้ แม้แต่ดัมเบิลดอร์ก็ตาม
      อย่างไรก็ตาม บทสรุปแห่งสงครามหายนะของพ่อมด ก็ใกล้จะมาถึงจุดสิ้นสุดเต็มที เหล่าแมกไม้ในป่าต้องห้ามส่ายไหวไปมาตามสายลมอัน น่ากลัวที่พัดหวีดหวิว ราวกับม่านของเวทีแห่งการนองเลือดและความโศกเศร้า กำลังเปิดฉากขึ้น
      “เอาล่ะ แฮร์รี่ การฝึกตราฟีนิกซ์นั้นไม่มีอะไรยากเย็นเลย ในเมื่อเธอผ่านคาถาขั้นสูงอย่างคาถาผู้พิทักษ์หรือผ่านการหายตัวมาแล้ว ดัมเบิลดอร์คิดมันให้ทุกคนสามารเสกได้อย่างแน่นอนเมื่อได้รับการผนึกตราแล้ว จึงไม่เป็นการยากเย็นอย่างใดเลย” ลูปินบอกแฮร์รี่หลังจากที่ทั้งคู่เข้ามาอยู่ในห้องที่ใช้เรียนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดแล้ว แฮร์รี่ยืนประจันหน้ากับลูปินอยู่หน้าห้อง
      “ครับ” แฮร์รี่ตอบรับและสบตากับลูปิน
      “แต่มันก็เหมือนกับคาถาอื่น ๆ เธอจะไม่สามารถทำสำเร็จได้เลย ถ้าหากเธอไม่มีความพยายาม และความตั้งใจจริง - - เอาละ เธอพร้อมหรือยัง” ลูปินถามแฮร์รี่
      “ครับ” แฮร์รี่ตอบง่าย ๆ เช่นเดิม
      “เอาละ สิ่งที่จำเป็นสำหรับตราฟีนิกซ์ คือ เมื่อเธอจะเสกคาถา เธอต้องมีแสงสว่างในจิตใจก่อน”
      “แสงสว่างในจิตใจหรือครับ” แฮร์รี่ถามอย่างงง ๆ
      “นั่นคือ เธอต้องมีคุณธรรมบางอย่างอยู่ในจิตใจของเธอตอนนั้น อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ความกล้า มิตรภาพ ความหวัง ความซื่อสัตย์ ความบริสุทธิ์ และความรัก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ พ่อมดฝ่ายมืดทั้งหลายจะไม่มีทางมีได้ - - ฉันคิดว่า เธอมีสิ่งเหล่านี้ในใจตลอดเวลานั่นละแฮร์รี่ แต่ที่ต้องระวังก็คือ ในระหว่างนั้น ในจิตใจของเธอจะต้องไม่มีความโกรธ ความชั่วร้ายอยู่เลยอย่างเด็ดขาด  ฉันรู้ว่าความชั่วร้ายนั้นคนอย่างเธอไม่มีวันมีมัน แต่สำหรับความโกรธ เป็นสิ่งที่สอดแทรกเข้ามาได้ง่ายมากสำหรับเด็กวัยรุ่นอายุสิบเจ็ดปีอย่างเธอ นั่นจึงเป็นสิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างมาก เธออาจจะไม่มีความโกรธ ในระหว่างที่อยู่ในห้องเงียบ ๆ กับฉันอย่างนี้ แต่ถ้าหากเธออยู่ในการต่อสู้ และมีคำพูดที่ไม่อาจให้อภัย หรือใครบางคนอาจถูกฆ่าตาย เธอต้องหยุดมันให้ได้  - - เอาละ ในเมื่อเธอมีสิ่งเหล่านี้พร้อม ให้เธอร่ายคาถานี้ออกมา ฟีนิกซ์ ฟีนิเลียย์ เอาละ ลองดูสิ”
      “ครับ” แฮร์รี่ตอบรับคำของลูปิน เขาชักไม้กายสิทธิ์ออกมา ชี้ไปยังความว่างเปล่าเบื้องหน้าเขา และหลับตาลง พยายามคิดถึง ความรัก ความหวัง หรืออะไรอย่างอื่น แฮร์รี่คิดว่าบัดนี้ อย่างน้อยเขาก็คงมีสองข้อนี้อยู่ในตัว “ฟีนิกซ์ ฟีนิเลียย์” แฮร์รี่ร่ายคาถาออกมาก
      ประกายไฟปะทุขึ้นที่ปลายไม้กายสิทธิ์ของแฮร์รี่ แล้วเริ่มขยายใหญ่ขึ้น กลายร่างเป็นนกฟีนิกซ์ตัวใหญ่พอควร แล้วลอยขึ้นสู่เพดานห้อง
      “แย่จังครับ ผมทำได้ไม่ใหญ่เท่ากับของอาจารย์เมื่อครั้งก่อน” แฮร์รี่หน้าสลด
      “ใครบอกละ เธอทำได้ดีมาก เธอฝึกมันสำเร็จได้ในครั้งเดียว ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอต้องทำได้อย่างรวดเร็ว เพราะเธอมีคุณธรรมเหล่านั้นอยู่พร้อม และอย่าไปกังวลกับขนาดของมัน ตราฟีนิกซ์จะปรับขนาดตัวเองตามความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ครั้งนั้นฉันเสกกลางแจ้ง แต่เธอเสกมันให้ห้อง ถ้าตราใหญ่เท่ากัน ห้องนี้มิต้องพังหรอกหรือ” ลูปินพูดยั่ว
      ทั้งคู่หัวเราะ แล้วสักพักทั้งคู่ก็เงียบลง
      “สำหรับการเสกใส่ประตูปราสาทหรือรูปปั้น ก็มีหลักการเดียวกัน เพียงแต่เธอเล็งไม้กายสิทธิ์ไปที่สิ่ง ๆ นั้นก็โอเค เข้าใจนะ”
      “ครับ”
      แฮร์รี่ฝึกตราฟีนิกซ์ได้สำเร็จแล้ว เขาแทบไม่อยากจะเชื่อตัวเขาเองเลย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสามารถฝึกคาถาได้สำเร็จในครั้งเดียว แต่มันอาจจะเป็นเพราะคาถานี้ง่ายมาอย่างที่ลูปินบอกก็ได้ และก็อาจจเป็นเพราะเขามีความรักของแม่ไหลเวียนอยู่ในตัวอยู่แล้วก็เป็นได้
      แฮร์รี่เดินกลับออกมาจากห้องเรียนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด เขาเดินเรื่อยเปื่อยไม่คิดอะไรอยู่นานจนไปโผล่อยู่ที่หน้าห้องสมุดเมื่อไรก็ไม่รู้ แฮร์รี่เปิดประตูห้องสมุดแล้วเข้าไปข้างใน ทว่า ห้องสมุดบัดนี้เหมือนกับรกร้าง เพราะไม่มีมาดามพริ้นซ์คอยปัดกวาดเช็ดถูและคอยไล่เด็กนักเรียนที่แอบมานั่งเล่น หรือคุยเสียงดังเหมือนเช่นเคย แฮร์รี่คิดถึงฮอกวอตส์ยามปกติยิ่งนัก
      เขาเดินผ่านชั้นหนังสือมากมาย จนถึงจุดที่เป็นที่สำหรับให้นักเรียนที่เลือกหนังสือเสร็จแล้วมานั่งอ่านกัน มุมนี้เต็มไปด้วยโต๊ะมากมาย แฮร์รี่กวาดสายตาไปจนทั่วและพบกับ - - สิ่งที่เห็นทำให้เขาตกใจแทบสิ้นสติ
      รอนกำลังจูบกับเฮอร์ไมโอนี่
      ทั้งสองนั่งเก้าอี้ติดกันอยู่ทางฝั่งเดียวกันของโต๊ะ เบื้องหน้าของทั้งสองมีหนังสือเล่มใหญ่เปิดกางอยู่เล่มหนึ่ง และกองหนังสืออีกตั้งใหญ่ ทว่า ทั้งสองกับไม่ได้สนใจหนังสือที่วางอยู่เบื้องหน้าเลยแม้แต่น้อย ( แต่ก่อนหน้านั้นอาจสนใจบ้าง ) ริมฝีปากของทั้งคู่ปะกบกันแนบสนิท ดูราวกับทั้งสองกำลังตกอยู่ในห้วงภวัง มือของรอนลูบไล้ไปทั่วทั้งแผ่นหลังของเฮอร์ไมโอนี่ และในขณะเดียวกันที่มือของเฮอร์ไมโอนี่ก็โอบกอดแผ่นหลังของอีกฝ่ายอยู่เช่นกัน
      แฮร์รี่ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ไม่สามารถขยับได้แม้แต่ก้าวเดียว รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ ทำไมเขาไม่เคยสังเกตมาก่อนเลยนะ เมื่อแฮร์รี่ได้มาเห็นภาพเบื้องหน้านี้ ความทรงจำเก่า ๆ ก็ผุดขึ้นมาในหัว การกระทำของเฮอร์ไมโอนี่ที่บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าหึงหวงรอนเมื่อครั้งรอนคบกับลาเวนเดอร์ แม้กระทั่งรอนที่หึงหวงเฮอร์ไมโอนี่ตอนที่คบกับวิกเตอร์ ครัม ตอนนี้ แฮร์รี่เพิ่งรู้ว่าทั้งคู่ชอบกันเพียงใด แฮร์รี่รู้สึกยินดีกับเพื่อนทั้งสองที่สมหวังกันเสียที
      ขาของแฮร์รี่เริ่มมีน้ำหนักขึ้นอีกครั้ง แฮร์รี่รีบร้อนพยายามก้าวออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เนื่องจากไม่คิดจะขัดขวางความสุขระหว่างคนทั้งสอง แต่รอนกับเฮอร์ไมโอนี่กับเป็นฝ่ายรู้ตัวเสียก่อน
      “แฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่กับรอนตะโกนพร้อมกัน และหน้าแดงทั้งคู่
      “เออ - - ขอโทษที ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมารบกวนหรอกนะ ฉันไปละ” แฮร์รี่พลันหน้าแดงไปด้วยอีกคน และกำลังจะก้าวออกไป
      “เดี๋ยวก่อน แฮร์รี่ มานั่งนี่เลย เราสองคนมีอะไรจะเล่าให้ฟัง” เฮอร์ไมโอนี่เรียก
      แฮร์รี่เดินอ้อมโต๊ะไปนั่งฝั่งตรงข้างของทั้งคู่อย่างว่าง่าย
      “เอาละ แฮร์รี่ ในเมื่อนายเห็นแล้ว ฉันก็ไม่ปิดบังละนะ ความจริง เราก็ไม่ได้คิดจะปิดบังนายหรอก คิดว่าจะเซอร์ไพรส์นายนะ เราคิดว่าจะแต่งงานแบบสายฟ้าแลบพร้อมกับบิลนะละ และเราก็บรรลุนิติภาวะแล้วด้วย อ้อ เรากับบิลก็จะแต่งงานกันพรุ่งนี้ละ แล้วก็ลูปินกับท๊องอีกคู่หนึ่งด้วย สรุปว่า พรุ่งนี้จะมีงานแต่งงานสามคู่ละ” รอนบอก
      “เหรอ ยินดีด้วยนะ” แฮร์รี่บอกยิ้ม ๆ “ว่าแต่ มีอะไรจะบอกฉันอีกหรือ คงไม่ได้มีเท่านี้หรอกนะ”
      รอนกับเฮอร์ไมโอนี่มองหน้ากัน แล้วเฮอร์ไมโอนี่เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน “เราค้นหาข้อมูลในห้องสมุดมากมาย อย่างที่เห็น” เธอตบมือลงบนกองหนังสือสูงท่วมหัว “เกี่ยวกับพ่อมดที่ชื่ออาจจะมีตัวย่อว่า ร.อ.บ. ฉันหาแทบตายแนะ ไม่ว่าจะเป็นรวมรายชื่อพ่อมดแม่มดผู้ทำความดีแก่กระทรวง หรือว่า รวมรายชื่อพ่อมดแม่มดผู้ได้เหรียญตราเมอร์ลิน  และอะไรอื่น ๆ อีกมากมาย เราไม่เจอที่น่าจะเป็นไปได้สักชื่อ จนเราหามาจนถึง - - ” เฮอร์ไมโอนี่ปิดหนังสือที่กางอยู่ตรงหน้า แล้วให้แฮร์รี่ดูหน้าปก “เล่มนี้”
      เป็นหนังสือที่เก่าพอดู แฮร์รี่เห็นตัวหนังสือประกายสีทองบนพื้นดำปุปะของหนังสือเขียนไว้ว่า รวมรายชื่อผู้เสพย์ความตาย
      แฮร์รี่ตกใจเป็นอย่างมาก แต่เฮอร์ไมโอนี่รีบพูดแทรก
      “เราเจอชื่อชื่อเดียวที่น่าจะเป็น ร.อ.บ. ได้ นั่นคือ เรกูลัส อาร์ทิมิส แบล็ก”
      แฮร์รี่นึกถึงที่ซิเรียสเคยพูดกับเขาว่า น้องของฉัน เรกูลัส เข้าร่วมกับผู้เสพย์ความตาย และถูกโวลเดอมอร์ฆ่าตาย
      ทั้งห้องเต็มไปด้วยความเงียบน่าอึดอัด ทำไมโวลเดอมอร์ถึงฆ่าเรกูลัสนะ หรือว่า เป็นเพราะเรกูลัสทรยศ และได้ค้นหาฮอร์ครัชและทำลาย จนโวลเดอมอร์รู้ตัว และสังหารเขา หรือไม่โวลเดอมอร์ก็รู้ตัวว่าเรกูลัสทรยศ แต่ไม่รู้ว่าเรกูลัสค้นหาฮอร์ครัชไปทำลาย
      เขาต้องบอกเรื่องนี้ให้ดัมเบิลดอร์รู้โดยเร็วที่สุด
      “ฉันต้องบอกดัมเบิลดอร์ เราต้องบอกเขา เรื่องที่เรารู้” แฮร์รี่รีบพูด
      “ได้แฮร์รี่ เดี๋ยวเราไปหาดัมเบิลดอร์กัน” ทั้งสามช่วยกันเก็บหนังสือให้เข้าที่อย่างเรียบร้อย และรีบร้อนวิ่งผ่านระเบียงทางเดินสู่ห้อง อาจารย์ใหญ่ แฮร์รี่เสกตราฟีนิกซ์ใส่รูปปั้นด้านหน้าโดยที่ยังวิ่งไม่ถึง รูปปั้นนั้นพลันเปิดทางให้
      “เยี่ยมเลยแฮร์รี่ เธอทำสำเร็จ” เฮอร์ไมโอนี่พูดทั้งที่ยังวิ่งอยู่
      “สุดยอดเลยแฮร์รี่” รอนบอก
      “มันไม่ยากอะไรเลย ไว้ฉันต้องสอนพวกเธอด้วย แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคุยเรื่องนี้” แฮร์รี่บอกพร้อม ๆ กับที่เท้าของเขาก้าวขึ้นบันไดวนทีละสองขั้น จนพวกเขามายืนอยู่หน้าห้องของอาจารย์ใหญ่ในที่สุด
      แฮร์รี่เคาะประตู แต่โดยไม่รอเสียงตอบรับ เขาเปิดประตูเขาไปในห้องอย่างรวดเร็ว
      “อาจารย์ครั - - ” แฮร์รี่พูดยังไม่ทันจบแต่ก็ต้องหยุดเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า
      ดัมเบิลดอร์ไม่ได้อยู่ในรูป ทิ้งไว้แต่กรอบรูปที่ว่างเปล่า เหมือนกับรูปของฟินิแอสยามเขาไปเยี่ยมที่ที่มีรูปของเขาในที่อื่น
      ดัมเบิลดอร์ไปไหนกันนะ แฮร์รี่คิด
      สองชั่วโมงต่อมา แฮร์รี่นั่งเล่นหมากรุกพ่อมดอยู่กับรอนในห้องนั่งเล่นกริฟฟินดอร์ ขณะที่ตัวโคนของเขาตวัดม้าของรอนถึงแก่กรรมไปนั้น เฮอร์ไมโอนี่ก็นั่งถอนหายใจเข้าออกอยู่หน้ากระดานระหว่างทั้งสอง มีหนังสือคาถามาตรฐานปีเจ็ดที่ยืมมาจากห้องสมุดวางกางอยู่บนตัก แต่สายตาของเธอจ้องมองไปในความว่างเปล่าเบื้องหน้า ราวกับกำลังคิดอะไรอยู่
      ปีนี้ถึงแม้จะไม่มีการเรียนการสอนที่ฮอกวอตส์ก็ตาม แต่แฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ เมื่อมีเวลาว่างก็จะมักไปยืมหนังสือที่ห้องสมุดมาอ่านเกี่ยวกับตำราความรู้ต่าง ๆ ของปีเจ็ด แล้วฝึกคาถาของเด็กปีเจ็ดกันเองหรือแม้แต่ที่ระดับสูงกว่านั้น เมื่อมีตรงไหนไม่เข้าใจ ก็จะหาเวลาที่สมาชิกภาคีที่เป็นอาจารย์อย่างมักกอลนากัล หรือลูปิน ที่ว่าง ๆ อยู่เข้าไปถามและให้สอนคาถาหรืออธิบายให้อยู่เสมอ
      แต่ทว่า ตั้งแต่เขามาอยู่ที่ฮอกวอตส์ยังแทบจะไม่มีเวลาว่างเลยสักครั้ง ตั้งแต่วันแรกที่มา แฮร์รี่ก็ได้เป็นผู้นำคนใหม่ และวันต่อมา ก็ต้องเข้าไปในเพนซิฟกับดัมเบิลดอร์อีก และยังพบเจอปริศนาของ ร.อ.บ.ได้อย่างรวดเร็วอย่างไม่นึกไม่ฝัน ทำให้แฮร์รี่มีเวลาว่างน้อยมาก และพรุ่งนี้ยังเป็นงานแต่งงานของบิลกับรอนอีก หลังจากเล่นหมากรุกพ่อมดเสร็จ ทั้งเด็กทั้งสามจึงได้ไปช่วยสมาชิกภาคีจัดเตรียมงานสำหรับงานแต่งงานสามคู่ในวันรุ่งขึ้น โดยมีเฟร็จกับจอร์ดตามมาสบทบเมื่อดวงอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า ฝาแฝดมีของเล่นแปลก ๆ ใหม่ ๆ มาประดับไว้ในงานมากมาย
      ทางด้านชุดแต่งงาน นายและนางวิสลีย์ได้ทางคู่รักทั้งสามคู่ไปวัดตัวเพื่อจะตัดชุดที่ตรอกไดแอกอนเมื่อบ่ายวันนี้ แฮร์รี่เพิ่งรู้ว่า ร้านเสื้อผ้าของมาดามมัลกิ้ลรับตัดชุดอื่น ๆ นอกจากชุดนักเรียนด้วย และทางด้านการเงิน เฟร็จกับจอร์ดเป็นคนอุปถัมภ์ให้ทั้งหมด
      การจัดเตรียมงานเป็นไปอย่างสนุกสนาน ทุก ๆ คนที่เป็นสมาชิกของภาคีนกฟีนิกซ์ดูเหมือนจะว่างกันหมดในวันนี้และพรุ่งนี้พอดี การจัดงานจึงดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว  งานจะจัดขึ้นที่ห้องโถงใหญ่ ที่บัดนี้ถูกประดับประดาด้วยต้นไม้มงคลต่าง ๆ มากมาย และมีหัวใจดวงน้อย ๆ ติดอยู่  ภูตน้อยหรือที่พวกมักเกิ้ลชอบเรียกกันว่ากามเทพ ถูกเสกขึ้นให้บินวนเวียนอยู่เหนือหัวผู้คนในห้องโถงใหญ่ บางครั้งจะคอยโปรยหัวใจดวงเล็ก ๆ ประมาณเท่าฝ่ามือจำนวนมากลงมาสู่ข้างล่าง  โต๊ะทั้งสี่หายไป แต่ถูกจัดแทนด้วยโต๊ะยาวที่เรียงในทิศทางเดียวกับโต๊ะของอาจารย์ปรากฏอยู่แทนที่โต๊ะประจำบ้าน โต๊ะแต่ละตัวมีเก้าอี้เรียงรายอยู่ประมาณห้าถึงหกตัว แถวหนึ่งถูกจัดไว้สองโต๊ะ เว้นที่ว่างตรงกลางไว้สำหรับเดิน ดูคล้าย ๆ กับโบสถ์ของมักเกิ้ลในศาสนาคริสต์นั่นเอง
      ครั้งนี้เพดานเวทย์มนต์ถูกเสกให้เห็นเป็นก้อนเมฆสีขาว สว่าง สดใสจำนวนมาก ดูราวกับห้องโถงใหญ่ในเวลานี้ ถูกตั้งไว้ในสรวงสวรรค์อย่างไรอย่างนั้น  โต๊ะของอาจารย์หายไป เห็นเป็นแท่น ๆ หนึ่งอยู่ตรงกลาง ไว้สำหรับผู้ที่จะทำพิธีให้ทั้งสองยืน สองข้างของด้านหน้าห้องโถงประดับประดาไว้ด้วยดอกไม้มากมาย ทั้งหมดนี้เพื่อคู่รักทั้งสามคู่
      เมื่อไรจะถึงตาของเรากับจินนี่เสียทีนะ นี่ถ้าเธอบรรลุนิติภาวะแล้ว เราจะจัดเป็นสี่คู่เลยทีเดียวสิ แฮร์รี่แอบคิดอิจฉาเล็ก ๆ ในใจ
ด้วยการที่ยินดีอย่างมากกับคู่รักทั้งสอง อีกทั้งรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ก็กำลังจะแต่งงานกันเป็นเหตุให้ตื่นเต้นอย่างมาก ทำให้ความจริงเกี่ยวกับ เรกูลัส อาร์ทิมิส แบล็ก ที่อุตสาห์หามาได้อย่างลำบากยากเย็น ได้ลบเลือนออกไปจากความคิดของเด็กทั้งสามอย่างสิ้นเชิง
      วันต่อมา แฮร์รี่ตื่นแต่เช้า เมื่อเขาดูนาฬิกาจึงพบว่าเพิ่งจะเป็นเวลาหกโมงครึ่งเท่านั้น งานแต่งงานของทั้งสามคู่จะเริ่มต้นเมื่อสิบเอ็ดโมงตรง ในระหว่างนี้ คู่บ่าวสาวทั้งสามคู่จะเก็บตัวและเตรียมตัวเพื่องานแต่ง แฮร์รี่มองไปเตียงข้าง ๆ และค่อยข้างแน่ใจตั้งแต่แรกแล้วว่ารอนต้องไม่อยู่แน่ ๆ ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ
      แฮร์รี่สลัดความคิดน่าหงุดหงิดต่าง ๆ ในจิตใจออกไป และมองไปรอบ ๆ พบว่าลุงเวอร์นอนกับป้าเพ็ตทูเนียยังคงนอนหลับอยู่เตียงที่อยู่เยื้องกับเขาไปเล็กน้อยในฝั่งตรงกันข้าม ส่วนดัดลีย์นั้นกำลังนอนกรนอยู่เตียงที่อยู่ระหว่างป้าเพ็ตทูเนียและลุงเวอร์นอน
      แฮร์รี่ต้องปลุกพวกเขาและให้ร่วมงานเลี้ยงด้วย ทั้งสามคนไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับงานแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นเลย เพราะตั้งแต่มาที่นี่ ทั้งสามเอาแต่เก็บตัวอยู่ในหอนอนเท่านั้น มิได้ลงไปเยี่ยมเยือนสมาชิกพ่อมดแม่มดทั้งหลายในฮอกวอตส์เลยแม้แต่ครั้งเดียว จนต้องมีคนสั่งให้เอลฟ์ประจำบ้านคอยนำอาหารมาให้คนทั้งสามอยู่ทุกมื้อ
      “ตื่นได้แล้วฮะ” แฮร์รี่ตะโกนสุดเสียงลั่นหอนอน ทำเอาลุงเวอร์นอนกับป้าเพ็ตทูเนียตื่นในทันทีและหัวเสียนิดหน่อย ส่วนดัดลีย์นั้นยังไม่ยอมตื่น
      “ตื่นยากนักใช่ไหม เจ้าหมูน้อย” แฮร์รี่ชักไม้กายสิทธิ์ออกมา  โดยที่ลุงเวอร์นอนหรือป้าเพ็ตทูเนียยังไม่ทันได้ว่ากล่าวอะไรเพราะสายตาที่ยังลืมไม่ขึ้นนั้น แฮร์รี่เสกคาถาขึ้น “ลาออส” สิ้นเสียง เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวอยู่ในระยะแค่เพียงในหอนอนเท่านั้น มันดังยิ่งกว่าเสียงตอน ที่มีพ่อมดหายตัวเสียอีก ดัดลีย์สะดุ้งตื่นอย่างรวดเร็ว
      “ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” เขาตะโกนขึ้น
      “ไม่มีอะไรหรอกเจ้าหนู แฮร์รี่แค่ปลุกแกนะ” ก่อนที่แฮร์รี่จะตะโกนกลบดัดลีย์ไปนั้น กลับมีเสียงของลุงเวอร์นอนแทรกขึ้นก่อน แฮร์รี่รู้สึกแปลก ๆ เมื่อมีลุงเวอร์นอนแก้ตัวให้เขาเมื่อเขาใช้เวทย์มนต์
      “ว่าแต่ แฮร์รี่ เราปรึกษากันตั้งแต่มาที่นี่ - - เราคิดว่า สิ่งที่เราทำลงไปมันไม่ดีมาก ๆ กับแก เอ่อ ขอโทษ เธอนะ” ลุงเวอร์นอนบอก
      “อะไรนะฮะ” แฮร์รี่คิดว่าตัวเองฝันไปเสียแล้ว นี่ลุงเวอร์นอนพูดดีกับเขาเป็นครั้งแรกในชีวิตหรือนี่
      “ฉันหมายถึง พวกเราสามคนอยากจะขอโทษเธอ เกี่ยวกับเรื่องทั้งหมด และขอขอบคุณที่ช่วยชีวิตพวกเราสามคนโดยพามาที่นี่” ป้าเพ็ตทูเนียพูด
      “ครับ แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ผมคิดว่า ลุง ป้า และดัดลีย์รีบแต่งตัวเข้าเถิดครับ วันนี้จะมีงานแต่งงานสามคู่ เพื่อนผม รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ หนึ่งคู่ พี่ของเพื่อนผมอีกหนึ่งคู่ และอาจารย์ของผมอีกหนึ่งครับ” แฮร์รี่บอกพลางอมยิ้ม
      ทั้งสามคนพยักหน้า
      “งานแต่งจะเริ่มสิบเอ็ดโมง ที่ห้องโถงใหญ่นะครับ หวังว่าพวกลุงจะไปถูก เอาอย่างนี้ดีกว่า ผมว่าผมเรียกครีเชอร์มาคอยรับใช้ลุงและให้พาไปห้องโถงใหญ่ดีกว่า - - ครีเชอร์ - - ครีเชอร์” แฮร์รี่ตะโกนเรียกครีเชอร์
      เกิดเสียงป๊อบดังขึ้นในอากาศ แต่ที่ปรากฎตัวขึ้นกลับเป็นด๊อบบี้ ไม่ใช่ครีเชอร์
      “ด๊อบบี้ ครีเชอร์อยู่ไหน” แฮร์รี่ถามอย่างเป็นกังวล
      “แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นด๊อบบี้ต้องเสียใจด้วยขอรับ ครีเชอร์ตายแล้ว” ด๊อบบี้พูดพลางแสดงท่าทางเสียใจและก้มหัวลง ทำเอาหมวกสิบกว่าใบที่มันใส่ไว้บนหัวหลุดลงกับพื้น มันรีบเก็บขึ้นมาใส่ใหม่อย่างรวดเร็ว
      “งั้นเหรอ” แฮร์รี่ไม่แสดงความเสียใจเท่าไรนัก “งั้นด๊อบบี้ ช่วยอะไรฉันหน่อยสิ”
      “เป็นด๊อบบี้จะทำตามแฮร์รี่ พอตเตอร์ทุกอย่างครับ ขอเพียงเขาสั่งมาเท่านั้น”
      “ดี ถ้าอย่างนั้น เมื่อใกล้ถึงเวลางาน ให้พาลุง ป้า และดัดลีย์ ไปที่ห้องโถงใหญ่ด้วย โอเคนะ”
      “ได้ขอรับ แฮร์รี่ พอตเตอร์” ด๊อบบี้บอกแล้วก้มหัวอีกครั้ง
      หลังจากแฮร์รี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ แล้วเดินลงมายังห้องนั่งเล่นรวม เขาพบจินนี่กำลังแต่งชุดราตรีคอยเขาอยู่
      จินนี่ดูสวยมาอย่างที่แฮร์รี่ไม่เคยเห็นมาก่อน
      ชุดราตรีวันพีชสีขาวสว่าของเธอดูเข้ากับเรือนผมสีแดงเพลิงอย่างน่าประหลาย ต่างหูลูกสนิชลูกจิ๋วที่กวัดแกว่งเมื่อหันหน้ามามองแฮร์รี่ ทำให้เธอดูมีเสน่ห์เย้ายวนอย่างมาก - - แฮร์รี่หันกลับมามองตัวเอง งานแต่งงานของเพื่อนแท้ ๆ ชุดที่เขาใส่กลับเป็นเสื้อยืด กางเกงยีนส์เหมือนกับวันปกติธรรมดาได้อย่างไร ทำไมเขาไม่คิดมาก่อนนะ
      “เอ่อ - - ขอโทษนะจินนี่ ขอฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยว” แฮร์รี่รีบวิ่งกลับไปที่หอนอน เขาเปิดประตูโดยไม่สนใจสายตาส่อแววสงสัยของลุงเวอร์นอน รีบตรงไปเปิดหีบเก็บของของเขาอย่างรวดเร็ว เร่งรื้อของทุกอย่างออกมาอย่างระเกะระกะ จนเขาพบสิ่ง ๆ หนึ่งที่เขาเห็นอยู่ก้นหีบของเขา มันคือชุดงานราตรี ที่เขาเคยใช้ตอนปีสี่นั่นเอง ยังดีที่แฮร์รี่ยังคงเก็บมันไว้
      “สเกอจิฟาย” แฮร์รี่ใช้ไม้กายสิทธิ์เสกคาถาใส่ชุดเพื่อทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า และก่อนที่จะลงไปเขาหันไปหาด๊อบบี้ “เอ่อ ด๊อบบี้ ช่วยเก็บของให้ฉันด้วยนะ” แล้วแฮร์รี่ก็รีบวิ่งลงไปโดยไม่ได้แม้แต่มองว่าด็อบบี้ตอบรับเขาหรือเปล่า
      จินนี่ยังคงรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นรวม “สวัสดีจินนี่” แฮร์รี่ตรงลงไปทัก
      จินนี่มองแฮร์รี่ด้วยสายตาชื่นชม “ดูดีมากเลยแฮร์รี่ - - ว่าแต่ ลงไปกินอะไรกันหรือยังละ ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย”
      แฮร์รี่พยักหน้า และออกไปข้างนอก พร้อม ๆ กับจินนี่ เขาเดินด้วยกันจนไปถึงห้องโถงใหญ่ ซึ่งระหว่างทาง แฮร์รี่เจอเหล่าผีกำลังประชุมอะไรกันบางอย่างอยู่ ดูท่าว่าคงตื่นเต้นมาก เพราะคงยังไม่เคยมีงานแต่งงานที่ฮอกวอตส์มาก่อนเลยเป็นแน่
      ก่อนเวลาสิบเอ็ดโมงเช้า คู่รักทั้งสามคู่ยังไม่ออกมาให้เห็น อาจเป็นเพราะเตรียมตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง  รวมทั้งนายและนางวิสลีย์ ก็หายไปด้วย ดูท่าคงไปช่วยบ่าวสาวทั้งสามคู่แต่งตัวเป็นแน่
      รูปภาพของดัมเบิลดอร์ถูกย้ายลงมาที่ห้องโถงใหญ่ และวางไว้บนแท่นสำหรับทำพิธี ดัมเบิลดอร์คงเป็นผู้ทำพิธีให้กับคู่รักทั้งสาม ทั้งห้องถูกประดับประดาด้วยสิ่งต่าง  ๆ ที่แฮร์รี่เห็นผู้คนจัดตั้งแต่เมื่อวาน  แขกส่วนใหญ่ที่เห็นเป็นสมาชิกของภาคีนกฟีนิกซ์ และก็มีปะปนด้วยมักเกิ้ลสองถึงสามคนซึ่งก็คือพวกเดอร์สลีย์และพ่อกับแม่ของเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งดูเหมือนคนทั้งสี่จะตื่นตะลึงไม่น้อยกับความอลังการของห้องโถงใหญ่และโลกเวทย์มนต์ที่ตนเองไม่เคยสัมผัสมาก่อน โดยเฉพาะครอบครัวเดอร์สลีย์ ซึ่งดูเหมือนว่า พวกเขาจะเข้าใจเสียทีว่า โลกเวทย์มนต์ไม่ได้มีแต่สิ่งที่ชั่วร้ายและงี่เง่าอย่างที่เขาจินตนาการมาโดยตลอด
      ถึงเวลาสิบเอ็ดโมงเช้า
      แขกทุกคนนั่งกันอยู่ที่โต๊ะที่จัดไว้ให้อย่างเป็นระเบียบ ประตูห้องโถงใหญ่เปิดออก มีนายและนางวิสลีย์เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะด้านหน้าสุด ซึ่งอยู่ตรงหน้าแฮร์รี่พอดี สักพัก บ่าวสาวทั้งสามคู่ก็เดินผ่านประตูเข้ามา
เริ่มต้นด้วยลูปินและท๊องก์ ลูปินสวมสูทสีขาวผูกเนคไท และท๊องก์นั้นใส่ชุดเจ้าสาวฟูฟ่อง ซึ่งดู ๆ ไปก็เหมือนกับงานแต่งงานของมักเกิ้ลดีดีนั่นเอง
      ถัดมาเป็นคู่ของบิลกับเฟลอร์ ทั้งคู่ใส่ชุดวิวาห์สีขาวดูคล้าย ๆ กับคู่ของลูปิน ผิดกันแต่ว่า ผิวของเฟลอร์นั้นขาวผ่องราวกับเปล่งประกาย และส่องแสงได้ในตัวเอง ดูเหมือนว่าการที่เฟลอร์เข้ามาในห้อง จะทำให้ห้องโถงใหญ่นั้นสว่างกว่าที่มันควรจะเป็น
      และคู่สุดท้ายก็เดินเข้ามาก่อนที่ประตูจะปิดลง รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ ทั้งสองก็ใส่ชุดวิวาห์สีขาวเช่นกัน ทั้งคู่ดูราวกับเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก
คู่รักทั้งสามคู่เดินควงแขนเรียงกันเดินสู่หน้าห้องโถง ระหว่างทางมีภูตน้อยคอยโปรยหัวใจดวงเล็ก ๆ ตามหลังมาตลอดทาง ทั้งคู่เดินสู่หน้าห้องโถงใหญ่ เผชิญหน้ากับดัมเบิลดอร์ และปลี่ยนแถวเป็นแถวหน้ากระดาน ซึ่งคู่ของลูปินยินอยู่ทางซ้ายสุด และเรียงต่อมา จบด้วยคู่ของรอน
      “สวัสดี สุภาพบุรุษ และสุภาพสตรีทั้งหลาย” ดัมเบิลดอร์ในรูปยังคงกล่าวเสียงดังฟังชัด อย่างมีพลังเช่นเคย “ฉันมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับเกียรติให้จัดพิธีมงคลสมรสหมู่สามคู่ในครั้งนี้ และอยากขอกล่าวอะไรสักเล็กน้อย ฉันไม่ว่าหรอก ถ้าใครจะไม่ฟังก็ได้ มันอาจจะเป็นแค่คำของคนแก่ที่บ่นอย่างไร้สาระก็ได้
      “งานแต่งงานนี้ จัดขึ้นท่ามกลางสงครามอันยิ่งใหญ่ของพ่อมด บางคนอาจจะคิดว่าเป็นการไม่ถูกไม่ควร ที่จะจัดงานรื่นเริง สบายใจ สนุกสนาน ในวาระเช่นนี้ - - แต่ทว่า ความรัก มิใช่สิ่งที่ผิด การที่คนสองคนรักกัน และประสงค์อยากจะอยู่ด้วยกันอย่างถูกต้องนั้น เป็นสิ่งที่ประเสริฐอย่างยิ่ง ฉันอยากจะบอกว่า ในวาระเช่นนี้ ความรัก เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ที่เราควรจะมีอย่างยิ่ง  ความรัก เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่เจ้าแห่งศาสตร์มืดมิมีวันมี และเข้าในมันได้ ดังนั้น ฉันอยากจะขอให้ทุกคนควรระลึกถึงความรักเอาไว้ เมื่อต่อสู้กับความชั่วร้าย ไม่จำเป็นจะต้องเป็นความรักอย่างหนุ่มสาว อาจจะเป็นความรักที่แม่มีต่อลูก ศิษย์มีต่อครู ก็ได้
      “เอาล่ะ ทุกคนคงจะเบื่อกันแล้ว ฉันจะขอเริ่มพิธี ณ บัดนี้” เขาละสายตาจากครั้งแรกที่มองไปโดยรอบห้องโถงใหญ่ และจับจ้องไปที่คู่บ่าวสาวทั้งสามคู่ “พิธีจะไม่มีอะไรมาก จะมีเพียงแค่การปฏิญาณตนเท่านั้น - - เอาละ” เขากระแอมทีหนึ่ง “หลังจากนี้ คู่รักคู่แรก รีมัส จอนห์ ลูปิน และ นิมฟาดอร่า เท็ด ท๊องก์, คู่ที่สอง บิล อาโฟร์ล วิสลีย์ และ เฟลอร์ แซงทัวรีย์ เดอร์ลากูล์, คู่ที่สาม โรนัลด์ บีเลียส วิสลีย์ และ เฮอร์ไมโอนี่ เจน เกรนเจอร์ - - คู่วิวาห์ทั้งสามคู่ของเราในวันนี้ เจ้าบ่าวทั้งสามคนยินดีที่จะยอมรับเจ้าสาวของเจ้าหรือไม่”
      “ยินดีครับ” มีเสียงตอบรับสามเสียงดังขึ้น
      “และเจ้าสาวทั้งสาม ยินดีที่จะยอมรับเจ้าบ่าวของตนหรือไม่”
      “ยินดีค่ะ” เสียงของหญิงสาวอีกสามเสียงตอบขึ้น
      “จากนี้ ไม่ว่าจะมีความสุข ความทุกข์ ภัยอันตราย หายนะ ความเลวร้ายที่น่าหวาดหวั่น ความไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ที่อาจจะบังเกิดแก่ชีวิตคู่ของพวกเจ้า ที่อาจเกิดขึ้น พวกเจ้าทั้งหกจะยอมรับหรือไม่”
      “ยอมรับค่ะ/ครับ” เสียงบ่าวสาวทั้งสามคู่ตอบขึ้นพร้อมกัน
      “เอาละ จากนั้น ขอให้บ่าวสาวทั้งสามคู่ ทำพิธีสวมแหวนและมอบจุมพิตแก่เจ้าสาวของตนเป็นอันเสร็จพิธี” ดัมเบิลดอร์บอกพร้อมกับ เสียงฮือฮาเล็กน้อยของบรรดาแขกในงาน แต่ทว่า ในเวลานั้น แฮร์รี่มิได้อยู่ในห้องโถงใหญ่แล้ว โดยไม่มีใครสังเกตเห็น
      สายตาของแฮร์รี่ทอดยาวไปเบื้องหน้าที่ทะลสาบของฮอกวอตส์ เขายืนอยู่ภายใต้ร่มไม้ต้นหนึ่งที่ยืนตระง่านอยู่บริเวณนั้น ความคิดต่าง ๆ ในหัวเขาพากันตีกันอย่างชุลมุนวุ่นวายเสียยิ่งกว่าชุมชนพ่อมดในเวลานี้เสียอีก
      แฮร์รี่ไม่ได้คิดอิจฉารอนหรือเฮอร์ไมโอนี่แต่อย่างไร ทว่า เขากลับน้อยใจที่ตนเองไม่ได้มีความสุขในเวลาแบบนี้บ้าง มันอาจเป็นการช่วยลดความตึงครียดถึงขีดสุดในสถานการณ์อย่างนี้ และอาจเป็นการช่วยให้เพิ่งพูนกำลังใจอันน้อยนิดของเขาขึ้นมาบ้างนิดหน่อยก็เป็นได้
ในขณะที่แฮร์รี่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่นั้น ก็มีร่าง ๆ หนึ่งกำลังเดินใกล้เข้ามาทางด้านหลังแฮร์รี่
      “สวัสดี แฮร์รี่” จินนี่นั่นเอง เธอกล่าวทักทายเขาอย่างสนิทสนม
      “เอ่อ อ้อ - - สวัสดี จินนี่” แฮร์รี่กล่าวทักทายกลับอย่างไม่ทันตั้งตัว และส่ายหัวเพื่อกลบความคิดไร้สาระของเขา
เกิดความเงียบขึ้นสักพักระหว่างคนทั้งสอง และจินนี่เป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้น “เอ่อ จริงสิ อีกสักพักจะมีการเลี้ยงฉลองกันด้วย เธอจะเข้าไปไหมแฮร์รี่”
      “เข้าสิ” แฮร์รี่ตอบอย่างรวดเร็ว “เอ่อ จินนี่ - - คือว่า - - เรื่องของเรา เมื่อไรเราจะแต่งงานกันเสียทีละ” แฮร์รี่หน้าแดงจัดขณะพูด
ครั้งนี้จินนี่เป็นฝ่ายหน้าแดงบ้าง “ที่จริง เราน่าจะแต่งเสียพร้อมกับพวกพี่ ๆ และอาจารย์ก็ได้ แต่ว่ามันไม่ทันแล้วละ แล้วแต่เธอละ แฮร์รี่” จินนี่พูดจบและรีบก้มหน้าอันแดงจัดของเธอจับจ้องลงที่เท้าของแฮร์รี่ทันที
      แฮร์รี่ตรงเข้าไปจับไหล่ทั้งสองข้างของจินนี่ แล้วทั้งคู่ก็สบตากัน “เอาเป็นว่า หลังจากเรื่องทั้งหมดสงบลง โลกพ่อมดสงบสุขอีกครั้ง เราจะแต่งงานกัน และไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกันที่บ้านโพรงกระต่าย ฉันจะเอาเงินในกริงกอตต์ปลูกบ้านอีกหลังใกล้ ๆ กัน หรือไม่อย่างนั้น เราทั้งหมดก็ย้ายไปอยู่ที่ก๊อดดริก ฮอลโลว์ บ้านเกิดของฉัน แล้วเราจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกันที่นั่น” แฮร์รี่บอกอย่างตาเป็นประกาย “แต่ก่อนอื่น เรากำลังเผชิญกับสงครามครั้งใหญ่ ฉันไม่อยากหมกมุ่นเรื่องนี้มากเกินไป ต้องทำหน้าที่ที่สำคัญอีกเยอะแยะ และสักวัน - - สักวัน ตามที่คำ  ทำนายและดัมเบิลดอร์บอกไว้ ฉันต้องเผชิญหน้ากับโวลเดอมอร์อีกครั้ง ไม่รู้ว่าฉันจะ - -”
      จินนี่เอานิ้วชี้ของเธอปิดปากแฮร์รี่ “ไม่ แฮร์รี่ - - อย่าพูดอะไรแบบนั้น เธอต้องเป็นฝ่ายที่ชนะ แต่ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เราไม่ต้องไปกังวลกับมันหรอก เพียงแต่เราทำปัจจุบันของเราให้ดีที่สุดเสีย ทุกอย่างที่ตามมาก็จะดีเอง”
      ทั้งสองมองหน้ากัน และริมฝีปากของทั้งคู่ค่อย ๆ เคลื่อนที่เข้าใกล้กันอย่างช้า ๆ
      ภายใต้แสงเงาแห่งฤดูร้อนที่กำลังจะหมดไป ในปราสาทหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมทะเลสาบและป่าผืนใหญ่ มีคู่รักสามคู่ที่แต่งงานกัน และดูเหมือนจะลืมเลือนเรื่องยุ่งวุ่นวายภายนอกไปเสียสนิท สมาชิกภาคีนกฟีนิกซ์แต่ละคนต่างสนุกสนานกันอย่างเต็มที่  แต่นอกปราสาทนั้น กลับมีคู่รักอีกคู่หนึ่งที่ดูเหมือนจะถูกลืมเลือนจากความรื่นเริงข้างในงานเสียแล้ว ทั้งคู่ยืนปะทับริมฝีปากกันอย่างดูดดื่มภายใต้แสงเงาใต้ร่มไม้แห่งฤดูร้อน โดยมีผู้รู้เห็นเป็นเพียงปลาหมึกยักษ์ที่กำลังเอาหนวดของมันราน้ำอยู่นั้น
      ทั้งหมด - - ทุกอณูชีวิตในฮอกวอตส์ ต่างสนุกสนานและไม่รู้เอาเสียเลยว่า ชะตากรรมอันเลวร้ายที่ไม่มีใครคาดคิด กำลังจะเกิดขึ้นกับพวกเขาในไม่ช้า ครั้งนี้ มิมีใครแม้แต่คนเดียวที่คาดการณ์ถึงเรื่องเลวร้ายที่สุดที่กำลังจะเกิดในอนาคตได้ แม้แต่ดัมเบิลดอร์ก็ตาม
      อย่างไรก็ตาม บทสรุปแห่งสงครามหายนะของพ่อมด ก็ใกล้จะมาถึงจุดสิ้นสุดเต็มที เหล่าแมกไม้ในป่าต้องห้ามส่ายไหวไปมาตามสายลมอัน น่ากลัวที่พัดหวีดหวิว ราวกับม่านของเวทีแห่งการนองเลือดและความโศกเศร้า กำลังเปิดฉากขึ้น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น