ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ฮอร์ครัชชิ้นสุดท้าย (ปี7)

    ลำดับตอนที่ #5 : มิตรภาพและความรัก

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 48


           ในห้องอาจารย์ใหญ่ของฮอกวอตส์ สายตาทุกคู่ได้จับจ้องมองมาที่แฮร์รี่ แม้กระทั่งรูปภาพอดีตอาจารย์ใหญ่คนก่อน ๆ บัดนี้ก็ไม่ได้แกล้งทำเป็นหลับอีกต่อไป แต่กลับจ้องมองด้วยความสงสัยและเคลือบแคลงใจมาที่เด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งบัดนี้ในใจของเขามีแต่ความงงงวย  และสงสัยไม่แพ้คนอื่น ๆ ที่อยู่ด้วยกันในห้องนี้เช่นกัน

           “ม… ไม่… ไม่ผิดแน่นะ อัลบัส คุณจะให้แฮร์รี่เป็นผู้นำของเรา” มักกอลนากัลพูดติดขัด

           “ถูกต้องแล้ว มิเนอร์วา แฮร์รี่เป็นบุคคลคนเดียวที่เข้าใกล้จุดประสงค์ที่แท้จริง และสำคัญของฉันมากที่สุด และแฮร์รี่ก็เป็นบุคคลที่ถูกเลือก อย่างที่ในเดลี่พรอเฟ็ตว่าจริง ๆ เหตุผลนั้น ฉันจะให้ทุกคนได้เห็นด้วยตาของตนเอง เพื่อที่จะไม่ได้เป็นที่เคลือบแคลงใจและเป็นสิ่งที่ค้างคาใจของทุกคนต่อไป คนเราถ้ามีอะไรที่ค้างคาอยู่ในใจแล้วละก็ เราก็ไม่มีวันทำอะไรได้อย่างที่ใจเราปรารถนาได้อย่างเต็มที่”  ดัมเบิลดอร์หยุดพัก “แฮร์รี่ หยิบเพนซิฟออกมาจากตู้นั้นสิ” ดัมเบิลดอร์ชี้นิ้วภายในกรอบรูปทองเหลืองไปยังตู้ที่อยู่ทางซ้ายมือของโต๊ะทำงาน แฮร์รี่จำได้ว่าตู้นี่เองที่เขาได้พบเจอกับเพนซิฟเป็นครั้งแรก

           “ฉันได้เก็บความทรงจำของฉันทั้งหมดไว้ในขวดแก้วที่อยู่ข้างในตู้นั่น ลองดู แล้วหาความทรงจำของฉัน คำทำนายนั่นนะ แฮร์รี่” เขาบอก

    แฮร์รี่เดินผ่านมักกอลนากัลไปเปิดประตูตู้อย่างประหม่า ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองตามทุกอิริยาบทของเขา แฮร์รี่ใช้มือทั้งสองจับประตูตู้ที่เย็นเฉียบ พลางเปิดมันออก และสิ่งที่เขาได้เห็นนั่นก็คือ - - ขวดแก้มนับร้อยใบวางเรียงรายกันอยู่ ข้างในบรรจุของเหลวบริสุทธิ์สดใสสีเงินส่องแสงออกมาจากตัวของมันเอง เบื้องหน้าขวดแก้วทั้งหลายนั่นติดกระดาษสีเหลืองเขียนข้อความสั้น ๆ ด้วยลายมือหวัดที่แฮร์รี่คุ้นเคยเอาไว้ อย่างเช่น - - เบอร์ตี้บอตส์เม็ดแรกในชีวิต - - เบอร์ตี้บอตส์รสขี้หู - - ความน่ากลัวในวัยเยาว์ ( ซึ่งแฮร์รี่ก็อยากรู้เหมือนกันว่าดัมเบิลดอร์กลัวอะไร ) - - ทอม ริดเดิ้ล - - ห้องแห่งความลับ - - สนทนากับลูเซียส - - พบกับเรกูลัส  แฮร์รี่กวาดสายตาไปเรื่อย ๆ จนมาพบกับคำว่า “คำทำนายหายนะ” แฮร์รี่คิดว่าต้องใช่อันนี้แน่ ๆ เขาหยิบมันออกมาใส่กระเป๋าเสื้อคลุม จากนั้นเอื้อมมือสองข้างไปหยิบเพนซิฟจากชั้นบน เขาค่อย ๆ ประคองมันมาวางลงบนโต๊ะทำงานของดัมเบิลดอร์ ข้างหน้ารูปของดัมเบิลดอร์นั่นเอง

           “เอาละ แฮร์รี่ ฉันยังไม่เคยสอนเธอสลับหรือเก็บความทรงจำในเพนซิฟมาก่อน เอาละ การใส่ความทรงจำลงในเพนซิฟนั้นง่ายแสนง่าย เพียงแค่เปิดขวดแล้วเทลงไปเท่านั้น ส่วนเวลาจะเก็บใส่ขวดอีกครั้งหนึ่ง ให้เธอใช้ไม้กายสิทธิ์แตะที่ของเหลวในเพนซิฟ พร้อมกับคิดในใจว่า อิออร์ เพซิเชน แล้วสารภายในนั้น จะกลายเป็นเส้นบาง ติดปลายไม้กายสิทธิ์ของเธอออกมา ให้เธอเอามันไปจ่อที่ปากขวด แล้วท่องอีกที เพียงเท่านี้การถ่ายทความทรงจำก็เสร็จเรียบร้อย - - อ้อ การเอาความทรงจำออกจากตัวเองก็ใช้วิธีเดียวกัน และเมื่อเวลาเธอเข้าไปในเพนซิฟ แล้วเมื่อเธอจะออกจากความทรงจำนั้น ๆ ให้เธอคิดในใจว่า อิออร์ เอ็กซ์เซียส” ดัมเบิลดอร์บอก

           แฮร์รี่พยักหน้ารับ พร้อมกับเปิดจุกขวดแก้ว แล้วเทของเหลวในขวดนั้นลงไปในเพนซิฟ ทันทีที่ของเหลวนั้นสำผัสกับสารในเพนซิฟ ของเหลวนั้นก็หมุนวนอย่างรวดเร็ว จากนั้นกลายเป็นสสารสีเงิน ที่ไม่ใช่ทั้งน้ำ และไม่ใช่ทั้งแก๊ส

           จากนั้นแฮร์รี่จึงให้ทุกคนเข้าไปในเพนซิฟ และฟังคำทำนายตามที่ดัมเบิลดอร์บอก

           เมื่อทุกคนฟังคำทำนายจบและออกมาจากเพนซิฟแล้ว ทุกคนดูเหมือนจะพูดไม่ออก มีแต่สีหน้ายอมรับความจริง และบางคนดูเหมือนจะตกใจไม่น้อย เกี่ยวกับการทำนาย โดยเฉพาะมักกอลนากัล ซึ่งตกใจมาก ที่ศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ทำนายคำทำนายจริง ๆ ออกมา

           “ในเมื่อทุกคนหมดธุระแล้ว ก็ขอเชิญไปพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะหอกริฟฟินดอร์ เรเวนคลอ ฮัฟเฟิลพัฟ หรือแม้แต่สลิธีลิน ทุกคนจะเข้าพักที่ใดก็ได้ ส่วนรหัสผ่านนั้น ทุกหอใช้รหัสผ่านเดียวกันหมด ในตอนนี้ รหัสผ่านคือนกฟีนิกซ์เคลือบน้ำตาล ราตรีสวัสดิ์ สำหรับภารกิจที่ฉันจะให้ทุกคนช่วยภาคี วันพรุ่งนี้เวลาเช้า ฉันจะให้แฮร์รี่ไปแจ้งทุก ๆ คนเอง - - อ้อ มิสเตอร์วิสลีย์ กับมิสเกรนเจอร์ก็อยู่ก่อนด้วยนะ” ดัมเบิลดอร์พูดจบ พวกสมาชิกภาคีคนอื่น ๆ ก็เดินจากไปทีละคน โดยไม่พูดอะไร สิ้นเสียงฝีเท้าแล้วดัมเบิลดอร์จึงพูดต่อ

           “เอ้า นั่งสิ แต่ต้องช่วยตัวเองแล้วนะ ฉันเสกเก้าอี้ให้ไม่ได้แล้ว” ดัมเบิลดอร์พูดพลางอมยิ้ม

    แฮร์รี่ลากเก้าอี้มานั่งหน้ารูปของดัมเบิลดอร์ มีรอนกับเฮอร์ไมโอนี่กำลังหาเก้าอี้อยู่ แต่มีเก้าอี้แค่สองตัว เฮอร์ไมโอนี่จึงเสกเก้าอี้ออกมาเอง  และนั่งลงข้าง แฮร์รี่

           “คือ” แฮรี่เริ่ม “ทำไมอาจารย์ถึงให้ผมเป็นผู้นำครับ ผมไม่คิดว่าคนอื่นจะชอบในนักหรอก”

           “เรื่องเหตุผลก็อย่างที่ฉันบอกไปแล้ว ว่าเธอเป็นคนที่ใกล้จุดประสงค์ที่แท้จริงของฉันมากที่สุด ฉันคิดว่าการที่จะบอกเรื่องฮอร์ครัชกับคนอื่นนอกจากพวกเธอสามคนแล้ว อาจนำไปสู่ข่าวลือ และเข้าหูของโวลเดอมอร์สักวัน และที่ฉันให้รอน กับ เฮอร์ไมโอนี่อยู่ด้วย เพราะฉันแน่ใจว่าเธอคงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนของเธอฟังแล้วเป็นแน่” เฮอร์ไมโอนี่กับรอนรุ้สึกประหม่าเมื่อถูกเรียกชื่อต้นอย่างสนิทสนม

           “แต่ผมถามอาจารย์แล้ว อาจารย์ - -”

           “ฉันก็ไม่ได้บอกว่าเธอไม่ควรเล่า แต่ก็ดีแล้ว เธอจะได้มีเพื่อนที่จะทำภารกิจร่วมกันได้ ไม่มีอะไรแย่ยิ่งไปกว่าการทำงานสำคัญ ๆ และลำบากมาก ๆ โดยตัวคนเดียว โดยไม่มีเพื่อนคอยให้กำลังใจ” ดัมเบิลดอร์บอก

           “ครับ” แฮร์รี่ตอบรับสั้น ๆ “อาจารย์ครับ ผมมีอะไรจะให้อาจารย์ดูครับ” แฮร์รี่หยิบเศษกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุมของเขา เขาคลี่มันออก และกางให้ดัมเบิลดอร์อ่าน “มันหล่นออกมาจากล็อกเกตที่เราเอามาได้นะครับ”

           ดัมเบิลดอร์อ่านจบ แล้วถอนหายใจ “อย่างนั้นหรือนี่ นี่เท่ากับว่า ครั้งนี้ฉันผิดพลาดอย่างมหันต์เลยทีเดียว ทำไมฉันไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนนะว่า มีคนอื่นตามหาฮอร์ครัชของโวลเดอมอร์เหมือนกัน แต่เท่าที่ดูจากข้อความแล้ว เท่ากับเป็นโชคดีของเรา ที่คนที่เอาไปไม่ใช่ฝ่ายของโวลเดอมอร์ เพียงแต่ว่า คนที่ขโมยฮอร์ครัชไปนั้น ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ถ้าเขาหรือเธอยังอยู่ ก็อาจจะตามหาตัวให้มาร่วมกับเราได้ หรือถ้าไม่ เราก็คิดได้อย่างหนึ่งว่าเขาหรือเธอคนนั้นซ่อนฮอร์ครัชเอาไว้ และเราก็ต้องตามหามัน”

           “แล้ว อาจารย์รู้ไหมครับ ว่าคนที่ชื่อ ร.อ.บ. นี่เป็นใครกัน” แฮร์รี่ถาม

           “ขอฉันคิดก่อนซิ” ดัมเบิลดอร์พูด และเงียบไป

           เกิดความเงียบอย่างยาวนานขึ้นในห้อง ความเงียบนั้นบังเกิดอยู่เนินนานกว่าสามสิบนาที จนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไป และในที่สุด ดัมเบิลดอร์ก็ทำลายความเงียบอันยาวนานนั้น

           “ฉันว่าฉันเคยเห็นตัวย่อนี่ที่ไหนสักแห่ง” ดัมเบิลดอร์บอก

           “จริงหรือครับ แล้วอาจารย์เคยเห็นที่ไหนหรือครับ” แฮร์รี่ถามกลับอย่างรวดเร็ว

           “เสียดาย ฉันจำไม่ได้แล้ว แต่ว่า นี่เท่ากับว่าเรามีหน้าที่ใหม่ที่เราต้องทำ นั่นคือตามหาฮอร์ครัชของจริงสี่อัน แต่ว่า - - เรื่องนั้นเอาไว้ให้ฉันพูดเรื่องที่ฉันต้องการจะบอกความจริงเกี่ยวกับแผนการและความคิดทั้งหมดของฉันให้เธอรู้” เขาบอก

           เด็กทั้งสามไม่พูดอะไร ได้แต่นิ่งเงียบ ดัมเบิลดอร์จึงพูดต่อ

           “จากแผนการและเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น มีเพียงเรื่องเดียวที่ฉันผิดพลาด นั่นคือการที่ฮอร์ครัชเป็นของปลอม และเราต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น” ดัมเบิลดอร์บอก

           “ไม่ครับ อาจารย์พลาดอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องของสเนป” แฮร์รี่ตะโกนอย่างลืมตัวด้วยความโมโห

           “นั่นละ คือสิ่งที่ฉันจะเล่าให้เธอฟัง แต่เธอจะต้องไม่เล่าให้ใครฟังเด็ดขาด พวกเราสามารถรู้กันแค่นี้เท่านั้น” ดัมเบิลดอร์บอก

           “ครับ เราจะไม่บอกใคร” แฮร์รี่ตอบรับ มีรอนกับเฮอร์ไมโอนี่สมทบ

           “เอาละ เรื่องทั้งเรื่องที่พวกเธอเข้าใจก็คือ ศาสตราจารย์สเนปหักหลังฉัน สังหารฉัน และเข้าร่วมกับโวลเดอมอร์ ถูกต้องไหม” ดัมเบิลดอร์ถาม

           “ครับ แล้วที่พวกเราเข้าใจ มีอะไรไม่ถูกหรือครับ” รอนถาม

           “การที่ฉันเสียชีวิตด้วยน้ำมือของเซเวอร์รัส สเนปนั้น เป็นข้อยืนยันว่าศาสตราจารย์สเนปยังอยู่ฝ่ายเรา” ดัมเบิลดอร์บอก เด็กทั้งสามไม่มีใครพูดอะไร และเขาก็พูดต่อ “แผนการทั้งหมดของฉันที่เข้าใจได้ง่าย ๆ คือ เมื่อปีที่แล้ว เริ่มจากที่ฉันสั่งให้ศาสตราจารย์สเนปตรวจสอบดูว่ามัลฟอยทำอะไรอยู่กันแน่ และเขาก็ทำตามคำสั่งของฉัน และจากนั้น เมื่อศาสตราจารย์สเนปบอกฉันว่า ไม่ว่ามัลฟอยทำอะไรก็ตาม นั่นต้องเป็นแผนการของโวลเดอมอร์แน่ ๆ และฉันก็บอกว่าฉันไม่คิดว่ามัลฟอยจะทำทุกสิ่งลงไปด้วยความเต็มใจ เหตุผลก็คือเขายังเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มอายุสิบหกสิบเจ็ด ฉันคิดว่าเขาต้องถูกโวลเดอมอร์สั่งให้ทำลงไป โดยสิ่งสำคัญของเขาเป็นเดิมพัน ฉันก็คิดว่าต้องเป็นพ่อกับแม่ของเขา และฉันก็คิดถูก - - เป็นสิ่งที่แปลกอยู่เหมือนกันนะ คนเราสามารถทำได้ทุกสิ่งทุกอย่าง เพียงเพื่อสิ่งที่ตนเองรัก แต่นั่น แสดงถึงความใสซื่อบริสุทธิ์ของมัลฟอย

           “จากนั้นเราจึงปรึกษากันว่า สิ่งที่มัลฟอยทำน่าจะเป็นอะไร และฉันก็คิดว่า โวลเดอมอร์คงจะให้เขาทำในสิ่งที่เมื่อทำไปแล้ว จิตใจของเขาจะถูกลืนกินโดยความมืดในจิตสำนึกอย่างแน่นอน - - เราคิดอยู่นานว่ามัลฟอยน่าจะทำอะไร และฉันก็คิดว่า โวลเดอมอร์น่าจะสั่งให้มัลฟอยฆ่าฉัน - - เป็นไปได้ ศาสตราจารย์สเนปว่า ถ้าเป็นอย่างนั้น เราจะรับมืออย่างไรดี ไปพูดกับมัลฟอยดีไหม… ไม่ ถ้าทำอย่างนั้นมัลฟอยอาจจะบอกโวลเดอมอร์ และเราก็ไม่แน่ใจว่าจะเกลี้ยกล่อมเขาได้สำเร็จ ฉันจึงคิดว่า ฉันจะตายอย่างที่เขาต้องการ

           “ศาสตราจารย์สเนปคัดค้านเต็มที่ แต่ว่าฉันอธิบายกับเขาว่าฉันจะให้เขาเป็นคนฆ่าฉันแทนที่จะให้มัลฟอยฆ่า นั่นเพราะจะเป็นการช่วยให้มัลฟอยหลุดพ้นจากพันธะ ในเมื่อเขาไม่ได้ฆ่าฉัน เขาก็ยังคงเป็นเด็กชายบริสุทธิ์คนหนึ่งที่เราจะดึงมาเป็นพวกได้ เมื่อรุ้ดังนั้น ศาสตราจารย์สเนปยิ่งปฏิเสธไม่เห็นด้วย และถามว่าทำไมต้องให้เขาเป็นคนฆ่า  ฉันบอกว่า เมื่อศาสตราจารย์สเนปฆ่าฉันแล้ว ก็จะได้รับความไว้วางใจอย่างยิ่งจากลอร์ดโวลเดอมอร์ ไม่เท่ากับว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหรอกหรือ

           “ศาสตราจารย์สเนปเงียบไป สักพักเขาจึงตกลง ฉันจึงอธิบายแผนการทั้งหมดที่ฉันคิดออก เริ่มจาก ฉันคิดว่า ถ้ามัลฟอยลงมือก็ต้องเป็นช่วงที่ฉันออกไปจากโรงเรียนเป็นแน่ และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ มัลฟอยเปิดทางให้ผู้เสพย์ความตายเข้ามาในตอนที่ฉันออกไปตามหาฮอร์ครัชกับแฮร์รี่ ฉันบอกศาสตราจารย์สเนปว่า ถ้าผู้เสพย์ความตายเข้ามาในโรงเรียน ให้รีบตามหาฉัน และฆ่าฉันเสีย ก่อนที่มัลฟอยจะได้ทันลงมือ

           “ดังนั้น เมื่อถึงคืนที่ผู้เสพย์ความตายบุก ฉันกลับมาที่โรงเรียนพร้อมกับแฮร์รี่ และรีบให้แฮร์รี่ไปตามศาสตราจารย์สเนป แต่ทว่ามัลฟอยมาถึงฉันก่อนที่ศาสตราจารย์สเนปจะทันรู้ตัว แต่ฉันก็คิดว่า มีเสียงต่อสู้กันอยู่ในปราสาทแล้ว ศาสตราจารย์สเนปคงต้องรู้แล้วแน่ ๆ ว่ามีผู้เสพย์ความตายบุกโรงเรียน เขาจึงสะกดนิ่งศาสตราจารย์ฟลิตวิก เพราะว่าถ้าไม่ทำอย่างนั้น ศาสตราจารย์ฟลิตวิกก็จะตามเขามาด้วย และอาจขัดขวางแผนการของเราได้ เขารีบตรงมาที่หอคอย โดยหลบหลีกจากการต่อสู้มาตลอด เพราะฉันกำชับไว้ว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ให้รีบทำตามแผนเป็นอันดับแรก ในระหว่างนั้น เมื่อเดรโกมาถึง ฉันจึงรีบสะกดนิ่งแฮร์รี่ เพราะเกรงว่าเขาอาจจะช่วยฉันตอนศาสตารย์จารย์สเนปมาก็เป็นได้ จากนั้นฉันชวนมัลฟอยคุยเพื่อถ่วงเวลารอศาสตราจารย์สเนป และฉันก็พูดเกลี้ยกล่อมเขาได้จนสำเร็จ มัลฟอยไม่ฆ่าฉัน จนผู้เสพย์ความตายมาถึง ฉันจึงได้ถ่วงเวลาต่อ และเมื่อศาสตราจารย์สเนปมาถึง เขาเห็นผู้เสพย์ความตายยืนอยู่ เขาตกใจมาก และรีบเข้ามาลงมือทำตามแผนทันที” เขาหยุดพัก

           “และจนถึงบัดนี้” ดัมเบิลดอร์พูดต่อ “ฉันก็ยังติดต่อกับศาสตราจารย์สเนปอยู่ ตอนนี้เขาได้เป็นสายลับให้กับเรา เธอจำได้ไหม คืนที่เธอวิ่งไล่ตามศาสตราจารย์สเนป เธอจะใช้คำสาปกรีดแทงกับเขา เขากันเธอไว้เพราะว่าไม่อยากให้เธอเข้าไปพัวพันกับคาถาของพ่อมดศาสตร์มืด และเขายังห้ามผู้เสพย์ความตายไม่ให้ฆ่าเธอด้วย - - สิ่งที่อยู่นอกเหนือจากแผนการของฉันมีอย่างเดียว คือการที่ฮอร์ครัชเป็นของปลอมนี่ละ” เขาถอนหายใจ

           “และอาจารย์แน่ใจได้อย่างไรครับ ว่าสเนปเข้ามาอยู่ฝ่ายเราแล้วจริง ๆ นอกเหนือจากที่ว่าเขาทำตามแผนนะครับ ผมหมายถึง เขาอาจจะถือโอกาสฆ่าอาจารย์ก็ได้นี่ครับ จากนั้นก็แกล้งทำเป็นว่าอยู่ฝ่ายเรา แต่จริง ๆ แล้วเขาแอบส่งข่ายให้โวลเดอมอร์อยู่” แฮร์รี่ถามด้วยความกังวลใจ

           “ฉันคงไม่ต้องบอกให้เธอเรียกเขาว่า ศาสตราจารย์อีกแล้ว เพราะว่า ไม่มีโรงเรียนฮอกวอตส์อีกต่อไป จนกว่าเราจะชนะสงครามนี้ได้  และฉันเชื่อใจ เซเวอร์รัส สเนป” ดัมเบิลดอร์หยุดนิดหนึ่งแล้วจึงพูดต่อ “เอาละ ฉันว่าถึงเวลาเสียทีที่จะบอกความจริงกับเธอว่า ทำไมฉันถึงได้เชื่อใจเขาเต็มที่ นั่นเป็นเพราะว่า เมื่อสิบเจ็ดปีก่อน ตอนที่เซเวอร์รัส สเนป เข้ามาเป็นสายลับให้กับเรา เขาเสนอให้ฉันใช้คำสาปผูกพันธะกับตัวเขา ฉันคิดว่าเธอคงรู้จักคำสาปนี้แล้ว หลังจากแอบฟังเซเวอร์รัส สเนป เมื่อปีที่แล้ว - - เธอคงจะรู้ดี เมื่อฉันใช้คำสาปนั้นกับเขาไปแล้ว แน่นอน ไม่มีสมาชิกภาคีคนอื่นรู้ เนื่องจากฉันคิดจะใช้จุดบอดนี้ให้เขาเป็นสายลับให้กับเราอีกครั้ง - - อย่างไรก็ตาม การที่เธอยังเห็นเซเวอร์รัส สเนปมีอยู่ชีวิตอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ คือข้อพิสูจน์ว่าเซเวอร์รัส สเนป จงรักภักดีเพียงไร” เขาหยุดสักพัก “เธอยังมีข้อข้องใจอะไรอีกบ้างไหม เกี่ยวกับเซเวอร์รัส สเนป ตอนนี้”

           “ไม่มีครับ” แฮร์รี่บอก รอนและเฮอร์ไมโอนี่ไม่พูดอะไร แต่ก็มีท่าทียอมรับความจริง

           “เอาละ ในเมื่อเธอหมดคำถามแล้ว ฉันก็มีคำถามจะถามพวกเธอบ้าง” ดัมเบิลดอร์พูดจบและหยุดนิดหนึ่ง

           “อะไรหรือครับ” แฮร์รี่กับรอนถามกลับพร้อมกัน ส่วนเฮอร์ไมโอนี่มีสีหน้างงงวย

           “ฉันอยากจะถามรอน และ เฮอร์ไมโอนี่ว่า พวกเธอพร้อมที่จะเสี่ยงไปกับภาระหน้าที่อันยากลำบากไปกับภาคีไหม ใช่แล้ว ยากลำบากกว่าที่ผ่านมามาก มันอาจจะหมายถึงการเดิมพันชีวิตของเธอเอาไว้เลยก็ได้ ฉันคิดว่า การที่เรามีเพื่อนคอยอยู่ด้วย และให้กำลังใจเรา ในเวลาที่ท้อถอย หรือหมดความหวัง บางที อาจจะมีพลังบางอย่างที่แปลกประหลาดมากเข้ามาช่วยเราต่อสู้กับความชั่วร้ายก็เป็นได้ - - ใช่แล้วละ มิตรภาพ และความรัก มักจะเป็นพลังอันยิ่งใหญ่เสมอ แต่ส่วนใหญ่แล้ว ไม่มีพ่อมดหรือแม่มดคนใดเคยที่จะนึกถึงมันเลย” ดัมเบิลดอร์หยุดพักอีก แล้วพูดต่อ “แฮร์รี่ เธอเคยบอกเฮอร์ไมโอนี่กับรอน ใช่ไหมว่า ที่เธอชนะและเอาชีวิตรอดจากการเฟชิญหน้ากับลอร์ดโวลเดอมอร์มาได้ถึงห้าครั้ง นั่นเป็นเพราะความบังเอิญ แต่ฉันขอบอกเธอไว้เลยว่า ทั้งหมดไม่ใช่เพียงเพราะความบังเอิญเพียงอย่างเดียว นั่นเพราะ เธอมีสิ่งที่ลอร์ดโวลเดอมอร์ไม่มี นั่นคือพลังแห่งมิตรภาพและความรัก”

           แฮร์รี่ไม่พูดอะไร เพียงแต่ตั้งใจฟังและรอให้ดัมเบิลดอร์พูดต่อเท่านั้น

           “พูดอย่างนี้เธออาจจะยังไม่เข้าใจ ฉันจะอธิบายให้ฟัง - - ครั้งแรก เมื่อครั้งที่เธอยังเป็นเด็กทารก ไม่มีแม้แต่พลังที่จะต่อต้านแม้คำสาปเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่มีใครคิดว่าคำสาปพิฆาต อะวาดา เคดาฟ-รา ที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วไปได้อย่างง่ายดาย จะไม่สามารถปลิดชีวิตเด็กทารกตาดำ ๆ ธรรมดา ๆ คนหนึ่งได้ นั่นเพราะ ครั้งนั้นเธอมีสิ่งที่เขาไม่มี นั่นก็คือ ความรัก - - ใช่แล้ว ความรักที่แม้ของเธอมอบให้แม้จะต้องสละกระทั่งชีวิตเพื่อปกป้องลูกน้อยของตน ได้บังเกิดเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ เป็นเวทย์มนต์โบราณที่มีอำนาจมากที่แม่ของเธอเสกขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เธอรอดพ้นจากเขาในครั้งนั้น

           “ครั้งที่สอง เมื่อเธอเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ในปีแรก เธอได้เผชิญหน้ากับเขาอีกครั้งในคุกใต้ดิน ถึงแม้เขาจะยังมีร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ และต้องอาศัยร่างของพ่อมดผู้น่าสงสารนั่นก็คือศาสตราจารย์ควีเรลล์ แต่ถึงกระนั้นก็ยังเพียงพอที่จะสังหารเด็กอายุสิบเอ็ดได้อย่างง่ายดาย - - แต่ก็เช่นเคย เธอรอดมาได้ เพราะพลังแห่งมิตรภาพ ความรัก และความหวัง ที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเธอ ทำให้ควีเรลล์แตะตัวเธอไม่ได้ เพียงพอที่จะถ่วงเวลาจนกระทั่งฉันไปถึงที่นั่นและจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้เรียบร้อยในที่สุด และนี่ เธอก็รอดจากเขามาได้เป็นครั้งที่สอง

           “ครั้งที่สาม เมื่อเธอเรียนอยู่ปีสองของฮอกวอตส์ เธอเผชิญหน้ากับฮอร์ครัชของเขาที่มีพลังมาก และบาซิลิกส์ สัตว์ร้ายของโลกพ่อมดด้วยตัวเธอเองคนเดียว ถึงแม้ทอม ริดเดิ้ลที่เธอพบจะเป็นเพียงฮอร์ครัชสมัยเด็กของเขา แต่นั่นก็เพียงพอที่จะสังหารเธอได้อีกเหมือนกัน แตทำไมเธอยังมานั่งอยู่ได้ ณ ที่นี้ นั่นก็เพราะพลังทั้งหมดที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเธออีกเช่นเคย มันเรียกฟอกซ์ให้ไปหาเธอ เพราะนกฟีนิกซ์มีพลังที่จะสัมผัสได้กับพลังด้านดีสามสิ่ง นั่นคือ ความรัก มิตรภาพ และความหวัง ด้วยเหตุนี้ ฟอกซ์จึงได้นำหมวดคัดสรรไปให้เธอ และเธอก็รอดมาได้อีกครั้ง

           “ครั้งที่สี่ เมื่อที่โวลเดอมอร์วางแผนพาเธอออกไปนอกโรงเรียนเพื่อแผนการคืนชีพของเขา และเพื่อให้เธอหลุดจากอำนาจการปกป้องของฉันที่ฮอกวอตส์ แต่ทำไมเธอถึงรอดมาได้ - - เธอจำตอนที่ไม้กายสิทธิ์เชื่อมต่อกัน และเกิดปฏิกิริยา ไพร์ออร์ อินคาตาโต้ ได้ไหม นั่นเพราะความรักในตัวของเธอ ในส่วนลึกของจิตใจเธอ จึงทำให้ไม้กายสิทธิ์สองอันนั้นไม่ทำร้ายกัน ถ้าหากตอนนั้นเธอไม่มีสิ่งนั้น ไม้กายสิทธิ์ก็จะต่อสู้กันอย่างรุนแรงมากเนื่องจากความเกลียดชังมาพบกัน และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เธอหนีรอดมาได้

           “ครั้งที่ห้า เธอเผชิญหน้ากับเขาในกระทรวงเวทย์มนต์ ฉันยอมรับว่าครั้งนั้นเธอรอดมาได้เพราะฉันเข้ามาปกป้อง แต่อย่างไรก็ตาม ในครั้งนั้นความรักในตัวเธอก็ได้สลัดอำนาจควบคุมจิตใจของลอร์ดโวลเดอมอร์ที่ควบคุมเธอ ยังจำได้ไหม” ดัมเบิลดอร์พูดจบและถอนหายใจเงียบ ๆ ภายในกรอบรูป

           “เอาละ หลังจากที่พวกเธอสามคนฟังคนแก่ ๆ พร่ำเพ้อไร้สาระมาอย่างยืดยาวแล้ว ฉันก็ขอวกกลับมาทีคำถามของฉันละ พวกเธอสองคนจะช่วยแฮร์รี่ ตามหาฮอร์ครัชของโวลเดอมอร์ไหม” ดัมเบิลดอร์มองไปทางรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ ที่มีท่าทีราวกับเพิ่งหลุดจากห้วงพวัง

           “แน่นอนอยู่แล้วครับ เราเป็นเพื่อนแฮร์รี่นี่นา” รอนบอกพลางยิ้ม

           “หนูก็เหมือนกันค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่บอกอย่างร่าเริง

           “ถ้าอย่างนั้น ฉันก็ขอเวลาทบทวนความจำของฉันหน่อยเกี่ยวกับ ร.อ.บ. นี่ และฉันอยากให้พวกเธอสามคนไปหาศาสตราจารย์ลูปินและให้เขาสอนการเสกตราฟีนิกซ์ให้กับเธอ จากนั้น เธอก็ต้องเสกตรานี้ให้กับสมาชิกทุกคนในภาคี เพื่อให้เขาสามารถเสกตราได้” ดัมเบิลดอร์บอก

           “แต่ อาจารยครับ ศาสตราจาย์ลูปินบอกว่า คนที่สามารถเสกตราฟีนิกซ์ได้ จะต้องได้รับการเสกตรานี้ใส่จากผู้นำของภาคีเท่านั้น แต่อาจารย์ให้ผมเป็นผู้นำ ทั้ง ๆ ที่ผมยังเสกตราไม่ได้ แล้วศาสตราจาย์ลูปินจะเสกตราให้ผมได้หรือครับ ในเมื่อเขาไม่ใช่ผู้นำ”

           “ฉันไม่ได้ให้เธอไปหาศาสตราจารย์ลูปินเพื่อให้เราจารึกตราให้เธอ แต่ให้เธอไปเพื่อให้เขาสอนให้ แน่นอน เธอต้องมีคุณสมบัติในการเสกตราก่อนที่จะสอน - - ฉันได้คิดเผื่อเอาไว้แล้ว ในกรณีแบบนี้ แฮร์รี่ เธอเดินไปเปิดลิ้นชักตรงตู้ไม้ที่วางหมวดคัดสรรสิ ตรงข้ามกับตู้ที่เก็บเพนซิฟนะ และเธอเห็นขวดแก้วใบหนึ่ง” ดัมเบิลดอร์พูดจบ พลางพยักเพยิดให้เธอแฮร์รีไปเปิดตู้

           แฮร์รี่ลุกจากที่นั่ง เดินไปทางด้านซ้ายของโต๊ะทำงานของดัมเบิลดอร์ พลางเปิดตู้ไม้ออก เขาพบลิ้นชักอันหนึ่งปิดอยู่ เขาจึงเปิดมันออกด้วย และจึงพบขวดแก้วอันหนึ่งวางล้มอยู่ ภายในบรรจุสารที่ดูเหมือนของเหลวออกใส แต่ช่างเป็นของเหลวที่ดูแปลกประหลาดมากที่สุดเท่าที่แฮร์รี่เคยเห็นมา เพราะว่ามันดูเหมือนว่ามีเปลวไฟสีส้มแดงลุกโชนอยู่ในของเหลวนั้นตลอดเวลา แฮร์รี่หยิบขวดนั้นมา ปิดตู้ และกลับมานั่งที่

    “ที่เธอถือยู่เป็นยาที่ฉันปรุงขึ้นมาเอง ส่วนประกอบหลักคือน้ำ แต่ฉันใส่น้ำตาและขนของฟอกซ์ ลงไปด้วย จากนั้นให้มันพ่นไฟใส่ และฉันจึงเสกคาถาตราฟีนิกซ์ลงไป - - หลังจากที่เธอกินยานี่เข้าไปแล้ว เธอก็จะเป็นผู้นำของภาคีโดยสมบูรณ์ เอ้า ดื่มเสียสิ ดื่มให้หมดนะ” ดัมเบิลดอร์บอก

           แฮร์รี่พยักหน้า พลางเอามือเปิดจุกออก และกระดกขวด นำพาของเหลวที่ลุกเป็นไฟผ่านลำคอเข้าสู่ร่างกายของเขา แฮร์รี่ทำใจไว้แล้วว่ารสชาดมันคงจะแย่เอาการ แต่เขาก็คิดผิด ยังไงเสีย รสชาดมันก็ไม่เลวนัก แฮร์รี่จึงกระดกมันลงไปจนหมดขวดอย่างรวดเร็ว - -

    ทันใดนั้น เขารู้สึกร้อนเหมือนมีเปลวไปลุกโชนอยู่ภายในร่างกายของเขา แต่มันก็ไม่ร้อนถึงขนาดที่จะเรียกว่าทรมาร ความจริง ถ้าวันนี้เป็นวันที่อากาศเย็น ความรู้สึกของแฮร์รี่ตอนนี้ก็จัดว่าอุ่นสบายเลยเชียวละ

           แฮร์รี่รู้สึกเหมือนเปลวไฟเข้ามารวมอยู่จุดเดียวกลางลำตัวของเขา รวมกัน และรู้สึกว่าเหมือนกันกลายเป็นนกบินอยู่ตามร่างกายของเรา มันบินร่อนถลาจากผมเส้นบนสุดบนศีรษะของเขา ทะยานลงสู่อณูสุดท้ายภายใต้เท้าของเขา ร่างกายของแฮร์รี่อุ่นมาก - - ทันใดนั้น ทุกอย่างก็จบลง แฮร์รี่รู้สึกว่าทุกอย่างกลับสู่สภาพปกติก่อนทีเขาจะกินยา ไม่สิ… บัดนี้ ร่างกายของเราเปี่ยมไปด้วยพลังที่อธิบายไม่ถูก แฮร์รี่รู้สึกกระปรี้กระเปร่าเช่นเดียวกับตอนที่เขาดื่มฟีลิกซ์ ฟีลิเซียสกระนั้น

           “และก็ อย่าลืมเสียละ แฮร์รี่ สิ่งที่เธอจะต้องทำเป็นอย่างแรกคือผึกการเสกตราฟีนิกซ์ให้สำเร็จโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เอาละ ราตรีสวัสด์ พวกเธอทั้งสามคน” ดัมเบิลดอร์ตัดบท

           แฮร์รี่ลุกขึ้น และเดินไปที่ประตู

           “อ้อ แฮร์รี่ พรุ่งนี้เช้าเรียกศาสตราจารย์มักกอลนากัลมาหาฉันด้วย ฉันคิดว่าวันนี้หัวของเธอคงจะรับสิ่งต่าง ๆ มามากพอแล้ว ฉันจะมอบคำสั่งให้กับมิเนอร์วาแทนละกัน เอาละ ราตรีสวัสดิ์อีกครั้ง” ดัมเบิลดอร์ยิ้ม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×