คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ไม้กายสิทธิ์
แฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ และจินนี่ ยังคงเดินตามดัมเบิลดอร์ไปเรื่อย ๆ ดูท่าว่าหมู่บ้านนี้จะใหญ่กว่าที่เขาคิดมาก เพราะตอนนี้เขาเดินมาเป็นเวลาสักห้านาทีได้แล้ว ถึงแม้ว่าจะมีตรอกซอกซอยมากมาย แต่ก็มีซากปรักหักพังให้พวกเขาเดินลัดได้อยู่เสมอ ๆ
จนกระทั่งดัมเบิลดอร์พาพวกเด็ก ๆ มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านสองชั้นสไตล์ยุโรปที่ดูภูมิฐาน แต่ถ้าพูดให้ถูกคือ มันคือซากปรักหักพังที่ดูภูมิฐานมากกว่าซากปรักหักพังอื่น ๆ ประตูและหน้าต่างจะแตกหัก มีบางบานห้อยลงมาอย่างดูเหมือนว่าจะหลุดอยู่แล้วแต่มันก็ไม่ยอมหลุด พันธุ์ไม้นานาชนิดเข้าพันและเกาะเกี่ยวส่วนต่าง ๆ ของบ้านแทบจะทุกตารางนิ้ว ทำการยึดครองบ้านหลังนี้ราวกับเป็นบ้านของมันประตูหน้าไม่รูปงูสลักอยู่ แต่ก็เหลือเพียงครึ่งตัวเท่านั้น ความมืดที่ครอบคลุมบ้านหลังนี้อยู่ บดบังแสงสว่างอันสดใส ทำให้บ้านหลังนี้ดูมืดหม่นและน่ากลัวบอดไม่ถูก ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างที่น่ากลัวรอพวกเขาอยู่ข้างใน
แฮร์รี่หายใจลำบาก รู้สึกราวกับมีก้อนหนักจุกอยู่ในอก เขามองไปรอบ ๆ บ้านหลังนี้ มันไม่น่าพิสมัยเอาเสียเลย
“พวกเธอทั้งสี่คน ไม่ต้องกลัว ในบ้านหลังนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตอะไรที่พวกเธอจะต้องกลัว เพราะหลังจากที่กริลเดลวัลด์เสียชีวิตแล้ว ความชั่วร้ายส่งผลให้สิ่งมีชีวิตทุกสิ่ง ไม่ว่าดี หรือชั่วร้าย ไม่สามารถอาศัยอยู่และมีชีวิตรอดอยู่ได้นานเกินสามวันเลย พวกฉันพนันได้ว่าพวกเธอทั้งสี่คนคงหายใจลำบากอยู่บ้าน เอาละ ในการที่จะเข้าไปได้ ฉันจะเสกคาถาเกราะป้องกันชั่วคราวให้เธอ มายืนเรียงแถวหน้าฉันสิ” ดัมเบิลดอร์กล่าว
เมื่อเด็ก ๆ ต่างก็มายืนเบื้องหน้าของดัมเบิลดอร์แล้ว เขาก็ร่ายคาถาบางอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นภาษาโบราณ พลางกวัดเกว่งไม้กายสิทธิ์ไปมา ด้วยท่วงท่าต่าง ๆ ราวกับวิทยากรวงดนตรีเลยทีเดียว
แล้วเขาก็ชี้ไม้ไปที่เด็กทีละคน ตัวของคนที่ถูกไม้กายสิทธิ์ชี้ไปก็เปล่งแสงสีขาวนวลออกมานิดหนึ่งแล้วจึงค่อยจางหายไป เมื่อเขาชี้มาที่แฮร์รี่ หลังจากที่แสงหายไปแล้ว เขารู้สึกดีและหายใจคล่องขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“เอาละ ตามฉันมา” เขาพูดพลางเก็บไม้กายสิทธิ์กลับเข้าไปภายในเสื้อคลุม แล้วเดินนำพวกเด็ก ๆ เข้าไปภายในบ้าน
เมื่อเปิดประตูออก ใยแมงมุมละหยากไย่ต่าง ๆ ที่จับอยู่พากันหลุดร่อนออกมาระโยงระยาง เขาไม่สนใจและค่อย ๆ เดินเข้าไปข้างใน
ภายในบ้านแทบจะเรียกได้ว่ามืดสนิท แต่สายตาของเด็ก ๆ ก็พอมองเห็นได้เมื่อค่อย ๆ เริ่มชินกับความมืดมากขึ้นตามระยะเวลา แฮร์รี่สังเกตเห็นว่าสภาพเฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ต่าง ๆ ที่น้อยชิ้นในบ้านหลังนี้ต่างก็บุบสลาย และเก่าเก็บไปตามกาลเวลา ตรงทางเข้าบ้านที่แฮร์รี่กำลังยืนอยู่นั้นเป็นห้องโถงกลางของบ้าน ตรงราวบันไดหัก ๆ และเต็มไปด้วยหยากไย่นั้นทอดขึ้นไปบนชั้นสอง หัวบันไดด้านล่างมีรูปปั้นก๊อบลินและกากอลย์อยู่ฝั่งละตัว ราวกับยืนประจันหน้าคอยจับจ้องผู้บุกรุกอย่างไม่น่าไว้วางใจ ทางด้านซ้ายและขวามีประตูอยู่เรียงราย แต่ก็ไม่เยอะมากนัก ประตูบางแห่งดูราวกับถูกทำลายด้วยอะไรบางอย่างขนาดมหึมา เนื่องจากภาพที่เห็นบางแห่งนั้น ไม่เพียงประตูเท่านั้นที่ถูกทำลายเป็นชิ้น ๆ แต่มีเศษกำแพงใกล้ ๆ รวมอยู่ด้วย
“ครั้งสุดท้ายที่ฉันมาที่นี่ ก็คือหลังจากต่อสู้กับกริลเดลวัลด์ ฉันจำได้ว่าสภาพบ้านไม่เละเทะขนาดนี้เลย เป็นไปได้ว่าอาจมีสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายบางอย่างที่สามารถทนต่อพลังชั่วร้ายเหล่านี้ได้มาอาศัยอยู่ ดังนั้นขอให้พวกเธอระวังตัวไว้ และอย่าอยู่ห่างจากตัวฉันโดยเด็ดขาด” ดัมเบิลดอร์ปรามกับพวกเด็ก ๆ ซึ่งต่างก็พยักหน้าตอบรับอย่างว่าง่าย
การสำรวจเริ่มต้นขึ้นที่ชั้นหนึ่ง ดัมเบิลดอร์เดินนำเด็ก ๆ เข้าไปในห้องต่าง ๆ ทีละห้อง โดยเริ่มจากห้องทางซ้ายมือที่ใกล้ที่สุดก่อน เขามีท่าทีระมัดระวังอย่างมาก ค่อย ๆ ชูไม้กายสิทธิ์ขึ้น แล้วใช้มือผลักประตูอย่างรวดเร็ว ซึ่งประตูแทบจะหลุดออกจากบานพับเลยทีเดียว มันไม่ใช่เพราะความเก่าแก่ แต่เป็นเพราะว่าถูกทำลายโดยอะไรบางอย่าง
ห้องแรกนี้เมื่อพวกเด็ก ๆ เข้ามาและสังเกตเห็นสภาพซากเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ แล้ว ต่างก็คิดเป็นความเห็นเดียวกันว่าเป็นห้องนั่งเล่น เด็กทั้งสี่ช่วยดัมเบิลดอร์สำรวจสิ่งต่าง ๆ ภายในห้องอย่างระมัดระวัง ทั้งโซฟาเก่าขาดที่พลิกคว่ำ โคมระย้าที่หล่นลงมากองกับพื้นและมีฝุ่นจับมาอย่างนมนาน นาฬิกาลานที่มุมห้องที่หยุดเดินอยู่ที่เวลาหกโมงครึ่ง หน้าต่างที่แตกหัก และจนครบ ก็พบว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอาศัยอยู่ในห้องนี้
“เอาล่ะ เราจะต่อกันที่ห้องถัดไป แต่ถึงแม้ว่าพวกเธอจะเห็นว่าห้องนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตหรืออะไรอยู่เลย แต่ก็อย่าย่ามใจไป เพราะว่าห้องนี้ก็มีร่องรอยถูกทำลายไม่แพ้ที่อื่นเช่นกัน เป็นหลักฐานว่าเคยมีอะไรบางอย่างอาศัยอยู่” ดัมเบิลดอร์ปรามพวกเด็ก ๆ
แล้วเขาก็นำพวกเด็ก ๆ ออกจากห้อง แล้วพาเดินไปยังห้องถัดไป ซึ่งปรากฏว่าเป็นห้องที่มีความคล้ายคลึงกับห้องแรก และสภาพความสมบูรณ์ของห้องก็แทบจะไม่ได้แตกต่างกันเลย และก็ไม่มีอะไรอีกเช่นเคย
ดัมเบิลดอร์พาพวกเด็ก ๆ สำรวจห้องต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ จนครบชั้นหนึ่ง ซึ่งไม่ปรากฏว่ามีวี่แววของสิ่งมีชีวิตใด ๆ เลย แต่ทว่าดัมเบิลดอร์ก็ยังไม่ไว้วางใจสถานที่นี้อยู่เช่นเดิม
“ถึงแม้ว่าเราจะไม่พบวี่แววของสิ่งมีชีวิตใด ๆ ในชั้นหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าชั้นสองจะไม่ได้มีสิ่งมีชีวิตใด ๆ ดังนั้นฉันจึงขอย้ำเตือนพวกเธออีกครั้งว่าอย่าประมาทไม่ว่าวินาทีใดก็ตาม - - เอาล่ะ เมื่อพวกเธอพร้อมแล้ว ก็ให้ตามฉันมา” ดัมเบิลดอร์บอกกับพวกเด็ก ๆ
แล้วเขาก็เตรียมไม้กายสิทธิ์ออกมาเตรียมพร้อม แล้วเดินนำพวกเด็ก ๆ ไปยังชานบันไดที่มีรูปกากอยล์และก็อบลินยืนประจันหน้าอยู่
เปรี้ยง!!
เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นมาจากชั้นสอง ทำเขาพวกเขาทั้งหมดสะดุ้งอย่างสุดตัว ส่วนดัมเบิลดอร์นั้นยังมีอาการสงบอยู่ แต่ว่าสีหน้าของเขานั้นดูเคร่งขรึมและเป็นงานเป็นการมากกว่าเดิม สีหน้าที่ทีเล่นทีจริงของเขาหายไปในทันที เวลานี้ ทุกอณูบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความชราของเขาตึงไปด้วยความเครียด และแฮร์รี่รู้สึกได้ถึงรัศมีแห่งความน่าเกรงขามและความน่ากลัวอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
“ทีนี้ เราได้รู้ชัดกันแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย ขอให้พวกเธอตามฉันมาอย่างระมัดระวังตัวที่สุด” ดัมเบิลดอร์บอกพวกเด็ก ๆ โดยไม่หันมามอง
เขาเดินนำพวกเด็ก ๆ ขึ้นบันไดไปอย่างระมัดระวัง และเขาก็ระวังตัวทุกฝีเก้าจริง ๆ ราวกับบันไดและที่ไหน ๆ จะมีกับระเบิดซ่อนอยู่ก็ไม่ปาน
เปรี้ยง
ประตูทางด้านขวามือของพวกเขาเปิดผางออกอย่างรุนแรง ดัมเบิลดอร์หันขวับไปยังทิศทางของแหล่งกำเนิดเสียงอย่างรวดเร็ว กลิ่นสาบสางเริ่มโชยมาเข้าจมูกของพวกเด็ก ๆ ความหนาวยะเยือกเริ่มแผ่ซ่าน ท่ามกลางความมืดของบานประตูทีเด็ก ๆ จ้องตาเขม็งอย่างไม่วางตา ท่ามกลางแสงสลัวที่สายตาเด็ก ๆ เริ่มชินกับความมืด ก่อนที่จะได้เห็นอะไรก็มีเสียงตะโกนกึกก้องอย่างตกใจว่า
“หลับตาเสียยยยยยยยยย” เสียงตะโกนของดัมเบิลดอร์นั่นเอง
โดยที่ไม่ต้องคิดอะไรอย่างอื่น แฮร์รี่รู้ตัวทันทีจากคำตะโกนนั้น บวกกับกลิ่นที่คุ้นเคยกับที่เขาเคยได้สัมผัสอย่างที่รู้ตัวที่ห้องแห่งความลับ เขารู้ทันทีว่าสิ่งที่พบเจอนั้น เป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก...
บาสิลิกซ์
“รอน เฮอร์ไมโอนี่ จินนี่ หลับตาซะ” แฮร์รี่ละสายตาจากบานประตูที่เปิดแล้ว และหันไปเห็นเด็ก ๆ อีกสามคนยังไม่ทันหลับตาเนื่องจากไม่รู้ว่ากำลังประสบพบเจอกับอะไร แต่ก็เชื่อฟังแฮร์รี่ หลับตาทั้ง ๆ ที่มือยังถือไม้กายสิทธิ์โบกในอากาศ
แต่มีความรู้สึกหนึ่งที่แฮร์รี่ไม่เคยรู้สึกยามพบเจอกับบาสิลิกซ์ ความรู้สึกหนาวยะเยือก หัวสมองของแฮร์รี่ทำงานอย่างรวดเร็ว
ผู้คุมวิญญาณ
ผู้คุมวิญญาณกับบาซิลิกซ์
แฮร์รี่ไม่รอช้า เขายืนชี้ไม้กายสิทธิ์ไปยังทิศทางที่ประตูเปิดออกทั้ง ๆ ที่ยังหลับตาอยู่ พร้อมกับนึกถึงความทรงจำทีเป็นความสุขที่สุดของเขา เขานึกถึงความทรงจำที่เพิ่งประสบได้ไม่นาน ความทรงจำที่ดัมเบิลดอร์กลับมาอีกครั้ง
“เอกซ์เปกโต พาโตรนุม” แฮร์รี่ตะโกนอย่างสุดเสียง เมื่อรอน เฮอร์ไมโอนี่ และจินนี่ได้ยินดังนั้น จึงทำตามบ้าง
แฮร์รี่รู้สึกถึงไออุ่นของผู้พิทักษ์ที่ออกมาจากปลายไม้กายสิทธิ์ของเขา และเสียงร่ายคาถาบางอย่างของดัมเบิลดอร์ แฮร์รี่เดาว่าเขาคงกำลังประมือกับงูยักษ์อยู่เป็นแน่
แต่ทว่าความรู้สึกแปลก ๆ ก็เกิดขึ้น แฮร์รี่รู้สึกร้อนวาบที่มือของเราอย่างรุนแรง ราวกับมีระเบิดปรมานูระเบิดใส่มือเขาก็ไม่ปาน (แฮร์รี่ก็ไม่เคยพบกับมัน แต่เดาเอาจากความรู้สึกในข่าวของมักเกิ้ลที่พูดถึงมันว่าเป็นอาวุธที่ร้ายกาจที่สุด)
เปรี้ยง
เกิดเสียงระเบิดดังลั่นซึ่งต้นเสียงอยู่ไม่ไกลนัก และมือของแฮร์รี่ก็ด้านชา พร้อมกับปล่อยไม้กายสิทธิ์ลงพื้น แทบจะในวินาทีเดียวกับที่ดัมเบิลดอร์เอ่ยกับพวกเขาด้วยน้ำเสียงสบายใจอีกครั้งว่า
“เอาล่ะ เรียบร้อยแล้ว ผู้คุมวิญญาณก็ไปแล้ว พวกเธอลืมตาได้”
เด็กทั้งสี่ลืมตาขึ้น และเห็นว่าดัมเบิลดอร์ก็เพิ่งลืมตาขึ้นเช่นกัน ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าเป็นภาพของอดีตสัตว์ร้ายในตำนาน แต่ปัจจุบันมันเป็นเพียงซากงูไหม้เกรียมตัวหนึ่งเท่านั้น
แต่ทว่า ความเงียบก็เกิดขึ้นในนาทีที่ทุกคนพบสาเหตุของเสียงระเบิดกึกก้องกัมปนาท และสาเหตุที่มือของแฮร์รี่ร้อนเป็นไป
ซากไม้กายสิทธิ์ของแฮร์รี่กองอยู่แทบเท้าเขา ในสภาพที่เรียกได้ว่าเป็นขี้เถ้าเลยทีเดียว
ความคิดเห็น