คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : การประชุมรวมตัวสมัชชาผี
หลังจากกลับมาถึงปราสาท ก็เป็นเวลาเกือบจะค่ำแล้ว อาเบอร์ฟอร์ดย้ำว่าให้พวกเด็ก ๆ ไปเข้านอนทันทีเพราะเหนื่อยกันมามากแล้ว ส่วนตัวเขาและล็อกฮาตส์นั้นจึงไปหาดัมเบิลดอร์และแจ้งข่าวเพียงลำพัง
เด็กทั้งสามกลับมาถึงหอกริฟฟินดอร์ แต่ทว่ายังไม่ขึ้นนอนแต่กลับนั่งถกปัญหาเกี่ยวกับผู้เสพความตายที่พบวันนี้กันหน้าเตาผิงในห้องนั่งเล่นรวม
“นายคิดว่าผู้เสพความตายปราฏตัวให้พวกเรารู้ทำไม ถ้าพวกนั้นแค่เสกตรามาร ยั่วโมโห แล้วก็หนีไป” แฮร์รี่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน เขาถามความคิดที่เขาคิดมานานเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ฉันก็ไม่รู้สิ” รอนบอกเรียบ ๆ สายตาของเขาจ้องเข้าไปในความว่างเปล่าในเตาผิงที่ไฟกำลังแตกปะทุอยู่อย่างเริงร่า
“เป็นไปได้ไหมว่า มีผู้เสพความตายอยู่ในหมู่พวกเรา อาจจะเป็นล็อกฮาตส์ หรืออาเบอร์ฟอร์ด แล้วพวกนั้นแค่ส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง” แฮร์รี่ถามต่อ แต่เฮอร์ไมโอนี่สวนเขาแทบจะในทันที
“ฉันคิดว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นนะ เพราะอาเบอร์ฟอร์ดบอกว่าดัมเบิลดอร์สอบสวนเขาทุกวิถีทางในห้องทำงานแล้ว แล้วล็อกฮาตส์ก็ตอบคำถามเธอได้ทุกเรื่อง ฉันไม่คิดว่าจะมีวิธีไหนตบตาได้หรอก”
“แต่นั่นก็เป็นเพียงคำพูดของอาเบอร์ฟอร์ดนะ เขาสอบสวนจริงหรือเปล่าเราก็ไม่รู้ แล้วเราก็เคยมีประสบการณ์ผู้เสพความตายปลอมตัวเข้ามาเป็นอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดอยู่หนึ่งปีเต็มเมื่อตอนปีสี่ ส่วนล็อกฮาตส์ ถึงเขาจะเป็นตัวจริงและตอบคำถามฉันได้ แต่ว่า ถ้าเขาเข้าร่วมกับผู้เสพความตายจริง ๆ ละ เขาก็ย่อมตอบคำถามฉันได้อยู่แล้ว” แฮร์รี่บอก
“โธ่ แฮร์รี่ เมื่อปีที่แล้วพวกเรายังโทษดัมเบิลดอร์ว่าผิดพลาดเรื่องสเนป ทั้ง ๆ ที่เขาวางแผนทั้งหมดไว้เป็นอย่างดี ฉันคิดว่าครั้งนี้เขาคงไม่ลืมสอบสวนอาเบอร์ฟอร์ดก่อนหรอกน่า เพราะหน้าที่นี้สำคัญมาก เขาเป็นถึงผู้นำของภาคคนใหม่นะ แล้วฉันก็คิดว่าดัมเบิลดอร์น่ะ คงทดสอบทั้งอาเบอร์ฟอร์ดและล็อกฮาตส์จนแน่ใจแล้วแน่ ๆ ล่ะ ถึงได้ยอมให้เข้าภาคี”
“มันก็จริง” แฮร์รี่บอก เขาพลันนึกถึงที่ดัมเบิลดอร์พูดกับโวลเดอมอร์ในเพนซิฟได้ว่าเขามีแหล่งข่าวอยู่ที่ร้านหัวหมู และรู้รายชื่อผู้เสพความตายที่ติดตามโวลเดอมอร์ทุกคนที่ตามมาเมื่อครั้งที่เขามาขอสอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด แหล่งข่าวนั่นต้องเป็นอาเบอร์ฟอร์ดแน่ ๆ
“เอาเถอะ แฮรี่ ฉันว่าเราควรจะไปนอนดีกว่านะ แล้วฉันก็คิดว่าเราไม่ควรจะปล่อยเขานอนที่นี่ด้วย”
แฮร์รี่มองไปที่เก้าอี้นวมตัวที่รอนนั่งอยู่ แล้วพบว่ารอนนั้นหลับไปแล้ว
วันรุ่งขึ้น หลังจากที่ตื่นแต่เช้าแล้วพบกับสมาชิกภาคีทุกคนในห้องโถงใหญ่ และมีรูปดัมเบิลดอร์ตั้งอยู่ที่โต๊ะด้านหน้าอีกครั้ง ห้องโถงทั้งห้องจัดเก้าอี้ไว้เหมือนกับวันที่พวกรอนแต่งงาน พิธีแต่งตั้งผู้นำภาคีคนใหม่ได้ถูกจัดขึ้น
หลังจากที่อาเบอร์ฟอร์ดรับตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาได้ผนึกตราฟีนิกซ์ให้กับล็อกฮาตส์ ซึ่งหมายความว่า ดัมเบิลดอร์คงอนุญาติให้เขาเข้าภาคีแล้วเป็นแน่
จากนั้นอาเบอร์จึงเดินหลีกทางให้ทุก ๆ คนเห็นรูปภาพของดัมเบิลดอร์ได้อย่างชัด ๆ ซึ่งดูเหมือนว่าดัมเบิลดอร์ต้องการจะกล่าวอะไรบางอย่าง
“เอาละ ในเวลานี้ อาเบอร์ฟอร์ดได้เป็นผู้นำของภาคีนกฟีนิกซ์อย่างเป็นทางการแล้ว ก่อนที่ฉันจะให้ทุกคนไปปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ตามที่ฉันมอบหมายให้ผ่านอาเบอร์ฟอร์ดในวันนี้ ฉันอยากจะบอกอะไรนิดหน่อย
“ตั้งแต่หกโมงเย็นของวันนี้ ผีทุกตนในฮอกวอตส์ จะจัดงานประชุมรวมตัวสมัชชาผีขึ้นในโรงเรียนนี้ ดังนี้ ตั้งแต่หกโมงเย็นของวันนี้ ขอให้ผู้ที่อยู่ในปราสาท ห้ามออกมาจากหอของตนเป็นอันขาด และสำหรับผู้ที่ไปทำงานของภาคีข้างนอก ถ้าต้องการจะกลับปราสาท กรุณากลับหลังจากตีห้าตอนเช้าของวันพรุ่งนี้ ฉันขอบอกว่ามิฉะนั้นหากเกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเธอผู้ที่ล่วงละเมิดการประชุมและถูกจัดได้ ผู้นั้นจะพบกับประสบการณ์อันเลวร้ายเป็นอย่างมาก ซึ่งนิกหัวเกือบขาดฝากฉันมาบอกพวกคุณทุก ๆ คนอย่างนี้ เอาละ ขอให้โชคดี”
“การประชุมสมัชชาผีเหรอ มันคืออะไรกันแน่” แฮร์รี่ถามรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ขณะเดินออกจากห้องโถงใหญ่
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” รอนบอกเรียบ ๆ
“ฉันว่าฉันเคยอ่านเจอที่ไหนสักแห่งนะ ถ้าเธอให้เวลาฉันนะ ฉันจะค้นพบมันได้จากห้องสมุด” เฮอร์ไมโอนี่บอก
“อันที่จริง เราก็ไม่ได้มีธุระอะไรอยู่แล้ว เราจะไปช่วยเธอหาด้วย ใช่ไหม รอน”
“เอ่อ อันที่จริง ฉันคิดว่าฉันมีบางอย่างต้องทำละ ขอโทษทีนะ ฉันต้องกลับหอก่อน แล้วเจอกัน”
ด้วยเหตุนี้ แฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่จึงแยกกับรอนระหว่างทางไปห้องสมุด
“เธอคิดว่ารอนแปลก ๆ ไปไหม” เฮอร์ไมโอนี่ถาม
“แปลกยังไง”
“ฉันก็ไม่รู้ แต่ว่า ตั้งแต่เรากลับมาจากการสอบหายตัวนั่น ฉันคิดว่ารอนไม่ค่อยพูดกับฉันเลยนี่สิ”
“ฉันว่าเธอคงคิดมากไปเองมากกว่า” แฮร์รี่ตัดบทเรียบ ๆ เพราะเขาไม่คิดว่ารอนจะแปลกไปตรงไหนเลยนี่นา
แล้วก็เกิดความเงียบระหว่างคนทั้งสองสักพัก เมื่อทั้งสองเลี้ยวที่หัวมุมข้างหน้าจึงพบกับลูปิน
“สวัสดีแฮร์รี่ ฉันกำลังตามหาตัวเธออยู่เลย ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ต้องการให้ฉันสอนคาถาขั้นสูงบทหนึ่งให้กับพวกเธอสี่คน อ้าว แล้วรอน กับจินนี่ล่ะ ไปไหน” ลูปินกล่าวทักทายและถามอย่างไม่อ้อมค้อม
“ครับ เอ่อ รอนกลับไปที่ห้องนั่งเล่นรวม ส่วนจินนี่ผมไม่รู้ครับ” แฮร์รี่บอก
“โอเค ถ้าอย่างนั้น แฮร์รี่ เจอฉันพรุ่งนี้ที่ห้องเรียนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดเก้าโมงเช้านะ บอกรอนกับจินนี่ด้วยละ”
“ครับ” แฮร์รี่ตอบคำ
หลังจากที่ทั้งสองค้นหาในห้องสมุดอยู่จนบ่ายกว่า ๆ ทั้งสองก็ได้พบสิ่งที่หาเกี่ยวกับการประชุมรวมตัวสมัชชาผี
“นี่ไงแฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่โพล่งขึ้นระหว่างที่แฮร์รี่กำลังจมอยู่ในภวังค์ท่ามกลางหนังสือกองใหญ่ นิ้วของเฮอร์ไมโอนี่ชี้อยู่ที่ตัวหนังสือในหนังสือเล่มมหึมาของเธอที่เปิดกางอยู่ข้างตัวเขา
“ในนี้บอกว่า การประชุมสมัชชาผี หรือที่รู้จักกันในนามการประชุมรวมตัวสหพันธรัฐภูตผีนานาชาติ” แฮร์รี่คิดในใจ งานใหญ่ไม่ใช่เล่น แล้วเขาก็นึกถึงครั้งที่เขาเห็นภูตผีรวมตัวกันประชุมปรึกษาอะไรบางอย่างที่ฮอกวอตส์หลาย ๆ ครั้ง
“การประชุมนี้จะจัดขึ้นทุก ๆ สิบปี เพื่อจุดประสงค์หลายอย่าง อาทิเช่น โหวตว่าจะให้ใครไปสู่สุขคติ ซึ่งจะทำไปครั้งละเพียงสิบตนเท่านั้น หรือจะเป็นการเลือกสรรผู้นำสมัชชาภูตผีนานาชาติเพื่อเป็นผู้นำของบรรดาเหล่าผีทั้งมวล ซึ่งครั้งล่าสุดจัดขึ้นเมื่อแปดปีก่อน มีนักข่าวเดลี่พรอเฟ็ตคนหนึ่งละเมิดกฏแอบแฝงตัวเข้าไปในงาน จึงโดนลงทันฑ์ซึ่งไม่มีใครทราบถึงความน่ากลัวร้ายกาจนั้น เหตุเพราะไม่เคยมีใครรอดชีวิตออกมาได้จากการแฝงตัวเข้าไปในงาน - - เดี๋ยวก่อนสิ มันบอกว่างานจัดทุกสิบปี แต่ครั้งล่าสุดจัดเมื่อแปดปีก่อน มัน - -”
“อ่านต่อไปก่อนเฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่เร่ง
“แต่การประชุมนี้อาจจัดขึ้นในโอกาสพิเศษได้ คำว่าพิเศษนี้หมายถึงวิกฤตของโลกพ่อมด ซึ่งเหล่าผีจะหาสถานที่จัดงาน และจัดขึ้นหลังหกโมงเย็นของสถานที่นั้น ๆ ซึ่งในโอกาสพิเศษดังกล่าว อาจมีเนื้อหาในการประชุมเกี่ยวกับการคัดเลือกตัวแทนภูตผีพิเศษสิบตนให้มีอำนาจพิเศษ เพื่อที่จะเข้าร่วมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในกรณีที่มีสงครามระหว่างพ่อมดแม่มด ดังที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเมื่อพันปีก่อน ครั้งที่ซัลลาซาร์ สลิธีลินทำสงครามครั้งยิ่งใหญ่กับก็อดดริก กริฟฟินดอร์ - - แต่ดัมเบิลดอร์บอกว่าทั้งคู่ไม่เคยได้พบกันนี่นา”
“ดัมเบิลดอร์อาจผิดก็ได้ อ่านต่อเถอะ”
“ในครั้งที่แล้วเมื่อพันปีก่อนไม่มีการลงมติเห็นชอบเนื่องจากคะแนนเสียงในการโหวตไม่เป็นธรรม บรรดาภูตผีตัวแทนที่มีอำนาจวิเศษที่สามารถเข้าร่วมสงครามต่อสู้ในครั้งนั้น ได้เข้าร่วมแต่ละฝ่ายตามใจตนเอง และต่อสู้กัน แต่ทว่า ไม่มีผู้ใดทราบผลลัพธ์ของสงครามครั้งนั้น
“หมายความว่า คืนนี้บรรดาภูตผีทั้งหมดในโลกพ่อมดจะมาประชุมกันเพื่อตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมฝ่ายโวลเดอมอร์หรือฝ่ายเรา”
“เราได้แต่หวังว่าเขาจะเลือกฝ่ายที่ถูกต้องนะ”
เมื่อจวนจะได้เวลาหกโมงเย็น เด็ก ๆ รีบกินอาหารเย็นที่ห้องโถงใหญ่กันจนเสร็จแล้วต่างรีบขึ้นหอนอนทันที ส่วนพวกพ่อมดรายอื่น ๆ อย่างเช่นนายวิสลีย์หรือบิล แฮร์รี่ไม่เห็นเขาอีกเลยนับตั้งแต่ตอนเช้าที่ออกไปทำงานนอกปราสาท
แฮร์รี่ปีนขึ้นเตียงสี่เสาของเขาหลังจากที่เปลี่ยนชุดนอนเรียบร้อยแล้ว
“แฮร์รี่ ฉันว่าฉันยังไม่ง่วงนะ ฉันลงไปที่ห้องนั่งเล่นรวมก่อนดีกว่า” รอนบอกกับแฮร์รี่ แล้วโดยไม่รอคำตอบ เขาเปิดประตูหอนอนแล้วเดินไปห้องนั่งเล่นรวมตามลำพัง
รอนเป็นอะไรไปนะ แฮร์รี่นึกถึงคำพูดของเฮอร์ไมโอนี่เมื่อเช้านี้ รอนเป็นอะไรไปนะ แปลกไปจริง ๆ หลังจากที่กลับมาจากการสอบหายตัว หรือว่าแฮร์รี่ไปทำอะไรให้เขาโกรธหรือเปล่านะ แฮร์รี่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก
เขานึกเรื่อยเปื่อยไปจนถึงเรื่องผู้เสพความตายกับการสอบหายตัว ทำไมพวกนั้นปรากฏตัวแล้วไม่ทำอะไรนะ นี่เป็นคำถามที่แฮร์รี่เฝ้าแต่ถามตัวเองอยู่ตลอดเวลานับตั้งแต่กลับมา แต่จนถึงบัดนี้เขาก็ยังไม่ได้คำตอบที่ดีพอจากตัวของเขาเองเลย
ทำไมผู้เสพความตายปรากฏตัวออกมาแล้วไม่ทำอะไร
ทำไมรอนแปลกไปตั้งแต่กลับมา
แล้วความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของแฮร์รี่ ทำเอาเขาสะดุ้งจนลุกพรวดขึ้นจากเตียง นี่เป็นคำตอบที่ดีและมีเหตุผลพอแน่ ๆ ไม่สิ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ มันต้องไม่ดีแน่
แฮร์รี่กระโจนลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว จนครุกแชงก์ที่แอบหนีเฮอร์ไมโอนี่มาเยี่ยมหอนอนชายต้องกระโจนหนีตามอย่างตกใจและขุ่ฟ่อใส่แฮร์รี่
เขารีบหยิบเสื้อคลุมมาใส่อย่างลวก ๆ แบบขอไปที แล้วรีบถลาผ่านประตูหอนอนชายที่เขาใช้มือเปิดอย่างรวดเร็ว ก้าวผ่านบันไดวนไปยังห้องนั่งเล่นรวมที่เขาคาดว่าจะเห็นรอนอยุ่ที่นั่นตามคำที่รอนบอก
แต่สิ่งที่แฮร์รี่พบกลับเป็นห้องนั่งเล่นรวมที่ว่างเปล่า ปราศจากสิ่งมีชีวิตใด ๆ จนกระทั่งแฮร์รี่ได้ยินเสียงก้าวพรวด ๆ มาจากหอนอนหญิง ซึ่งเธอก็คงนอนไม่หลับเพราะคิดถึงเรื่องรอนเหมือนกับเขา และได้ยินเสียงของแฮร์รี่และลงตามมาอย่างรวดเร็ว
“เกิดอะไรขึ้นหรือแฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่ก้าวพรวดลงมาอยู่ตรงหน้าแฮร์รี่ แล้วถามอย่างรวดเร็ว เสื้อคลุมสีดำของเธอที่เธอก็คงจับมาใส่อย่างลวก ๆ เช่นเดียวกับเขายังโบกสะบัดอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่าของบันไดวนที่เธอก้าวผ่านมาอย่างรวดเร็ว
“รอนหายไป” แฮร์รี่ตอบอย่างร้อนรน ซึ่งทั้งคู่กังวลใจพอ ๆ กัน
“แฮร์รี่ เธอรู้ไหมว่ามันหมายความว่าอย่างไร ตอนนี้ในฮอกวอตส์ นอกหอนอนทั้งหมดกลายเป็นสถานที่ที่ใช้ในการประชุมสมัชชาผีไปแล้ว และดัมเบิลดอร์ก็ย้ำนักย้ำหนาว่าห้ามออกไปอย่างเด็ดขาด แล้วนี่ ถ้ารอนไม่ได้อยู่ในหอนอนหรือห้องนั่งเล่นรวมล่ะก็ - -”
“ง่ายมาก มันก็หมายความว่ารอนอยู่ในที่ประชุมของพวกนั้นน่ะสิ”
“นี่เธอยังใจเย็นอยู่อีกเหรอแฮร์รี่ เธอจำได้ไหมว่าในหนังสือบอกว่าไม่เคยมีใครรอดกลับมาได้เมื่อได้เข้าไปในสถานที่ที่ใช้ในการประชุมของพวกนั้น แล้วรอน - -” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนใส่เขา
“ฉันก็ร้อนใจพอ ๆ กับเธอนั่นล่ะน่า” แฮร์รี่เริ่มมีโทสะขึ้นมาบ้าง
แล้วทั้งคู่ก็เงียบไปสักพัก
“เอาล่ะ เราจะไปตามหารอนกัน รอฉันที่นี่ ให้ฉันไปเอาผ้าคลุมล่องหนมาก่อน” แฮร์รี่บอกแล้วรีบวิ่งขึ้นไปยังหอนอน
สักพัก แฮร์รี่ก็ลงมาพร้อมกับผ้าคลุ่มล่องหน ซึ่งเขาเหวี่ยงมันคลุมร่างของเขาและเฮอร์ไมโอนี่อย่างรวดเร็ว ทั้งสองต้องย่อตัวลงอย่างลำบากเพราะความสูงที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วของเขานั้นเป็นอุปสรรคต่อการซ่อนปลายเท้าของเขาให้พ้นจากสายตาผู้สอดรู้สอดเห็น
ระเบียงทางเดินว่างเปล่าตามคาดไว้แม้จะเป็นเวลาหัวค่ำก็ตาม แฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่ย่องอย่างเงียบกริบ ไปตามระเบียงทางเดินชั้นเจ็ด แล้วแฮร์รี่ก็นึกบางสิ่งบางอย่างขึ้นได้
“แล้วเราจะไปตามหารอนที่ไหนล่ะ ฮอกวอตส์ออกจะกว้างมากขนาดนี้” แฮร์รี่เอ่ยปากกระซิบถามอย่างร้อนรน
“ไม่รู้สิ ตั้งแต่เดินมานี่ฉันยังไม่เจอพวกผีสักตนเลย ฉันคิดว่า สถานที่ที่น่าจะเหมาะเป็นที่ประชุมสำหรับคนจำนวนมาก มันก็น่าจะเป็นห้องโถงใหญ่นะ”
“แต่นั่นมันคนนี่ เธอคงไม่คิดหรอกนะว่าพวกผีทั้งหลายจะมีรสนิยมเหมือนคนเป็น ๆ อย่างเราล่ะ”
“ถ้างั้นเธอคิดว่าเป็นที่ไหนล่ะ”
แฮร์รี่เงียบพลางเดินต่อไปพร้อมกับใช้ความคิด จนกระทั่งเดินมาจนถึงห้องโถงกลางอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว แต่ก็ไม่พบสิ่งที่มีหรือไม่มีชีวิตแต่อย่างใด พบแต่เพียงความว่างเปล่าเงียบสงัดน่าอึดอัดอย่างวังเวงเช่นนี้
แต่ความคิดบางอย่างก็ผุดเข้ามาในหัวของเขา
“เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่เรียกเธออย่างดังจนเธอต้องถองเข้าที่ท้องของเขาแรง ๆ เพื่อเป็นการเตือน
“ไม่ต้องห่วงหรอก พวกนั้นไม่อยู่ที่นี่แน่ ฉันคิดว่าฉันรู้แล้วล่ะว่าพวกนั้นใช้ที่ไหนเป็นที่ประชุม”
“จริงหรือแฮร์รี่ แล้วเธอคิดว่าเป็นที่ไหนล่ะ”
“เธอจำตอนปีสองได้ไหม ตอนที่พวกเราไปร่วมงานเลี้ยงวันตายของนิกหัวเกือบขาดน่ะ”
เธออุทาน “นี่อย่าบอกนะว่า - -”
“ใช่แล้ว ไม่ต้องสงสัยเลย ต้องเป็นคุกใต้ดินแน่ ๆ”
“แต่ว่า ห้องที่จัดงานเลี้ยงนั่น ฉันไม่คิดว่ามันกว้างพอหรอกนะ”
“จำที่ดัมเบิลดอร์เคยพูดได้ไหม ไม่มีใครแม่แต่เขาที่จดจำสถานที่ทั้งหมดในฮอกวอตส์ได้ เพราะอะไรล่ะ นั่นเป็นเพราะว่าตั้งแต่แรกเริ่มมา ไม่เคยมีใครรู้จักและเคยไปเยี่ยมทุก ๆ แห่งในฮอกวอตส์ ดูอย่างห้องแห่งความลับสิ”
“หรือเธอจะหมายความว่า - -”
“มันต้องมีที่ที่กว้างพอสิ เพียงแต่เราต้องหามันให้เจอเท่านั้น” ทั้งสองมองหน้ากันแล้วพยักหน้า พลางสวมผ้าคลุมล่องหนแล้วก้าวลงสู่คุกใต้ดิน
ระเบียงทางเดินสู่คุกใต้ดินอันคับแคบ ประดับคบไฟสีน้ำเงินดำชวนขนหัวลุกแบบเมื่องานเลี้ยงวันตายไม่มีผิด ทั้งคู่ก้าวเดินภายใต้ผ้าคลุมล่องหนด้วยความกลัว แต่ทว่าก็ยังก้าวเดินต่อไปไม่หยุด พลางกวาดสายตาหาทางแยกถ้ามันจะมี ทางที่เขาไม่เคยไปมาก่อน
แต่ทว่าระเบียงทางเดินนั้นกลับเป็นทางสายตรง ไม่มีทางแยกใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมันเป็นสิ่งที่น่าแปลกมาก ก็เพราะแม้ครั้งที่เขาเข้ามาเรียนปรุงยาตามวันปกติของเวลาเรียน ระเบียงทางเดินอันเงียบเชียบนี้ก็มีทางแยกมากมาย แต่ว่าแฮร์รี่ก็ตรวจสอบเส้นทางลงอย่างดีแล้ว เขาไม่น่าจะมาผิดทางได้เลยนี่นา
ถึงแม้ระเบียงทางเดินจะประดับด้วยคบไฟก็ตาม แต่มันก็มืดขึ้นเรื่อย ๆ ตามย่างก้าวที่เขาก้าวเดินมา ( ดูเหมือนว่าคบไฟจะให้ความมืดมากกว่าแสงสว่าง ) พวกเขาก้าวเดินไปเรื่อย ๆ พลางตำหนิตัวเองไม่ให้คิดอะไรฟุ้งซ่านมากไปนักเกี่ยวกับรอน หรือสิ่งเลวร้ายอะไรก็ตามที่อาจมีสิทธิ์เกิดขึ้นกับเด็กทั้งสาม
ความมืดเริ่มหนาแน่นชวนอึดอัดขึ้นเมื่อแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ก้าวท้าวเข้าสู่พรมสีแดงสดอย่างไม่รู้ตัว พวกเขาเดินต่อมาสักพักจนพบประตูบานหนึ่ง
เป็นบางสิ่งบางอย่างที่น่าสยดสยองมาก เพียงมองดูปราดเดียวก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายแห่งความตาย เพราะว่าทางด้านบนและด้านข้างรอบบานประตูนั้นมีโลหะแหลม ๆ อยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งมีร่างอันเน่าเปื่อยของมนุษย์ถูกเสียบคาอยู่ แฮร์รี่โล่งใจที่นั่นไม่ใช่รอน
ร่างทั้งสองในผ้าคลุมล่องหนค่อย ๆ ผลักประตูนั้นออกอย่างง่ายดาย และแทรกตัวผ่านเข้าไปในที่ที่ดูเหมือนจะเป็นทางเข้าห้องโถงใหญ่แห่งหนึ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน สิ่งที่เขาพบคือรอน ยืนประจันหน้าเขาอยู่หน้าประตูอีกบานหนึ่ง
“รอน” ทั้งสองตะโกนเรียก แต่ว่ารอนกลับหัวเราะ
“อย่างที่คิดเลยเฮอร์ไมโอนี่ รอนถูกพวกผู้เสพความตายควบคุมอยู่”
“อะไรนะแฮร์รี่ เธอจะบอกว่าพวกนั้นควบคุมรอนเพื่อที่จะฆ่าเราอย่างนั้นเหรอ”
“ไม่ใช่ พวกนั้นให้รอนล่อพวกเรามาที่นี่ต่างหาก เพื่อที่จะถูกพวกผีฆ่าตายทั้งสามคนยังไงล่ะ” แฮร์รี่บอก
“อะวาดา เคดาฟ-รา” เสียงร่ายเวทย์มนต์อันน่าสะพรึงกลัวที่แฮร์รี่ไม่เคยได้ยินมาก่อนออกมาจากปากของรอน แล้วลำแสงสีเขียวก็พุ่งออกมาจากไม้กายสิทธิ์ตรงมาทางเขาทั้งสอง ซึ่งกระโดดหลบได้ทันเวลาพอดี แต่ทว่าลำแสงนั้นกระทบกับประตูที่เขาเพิ่งผ่านเข้ามาอย่างจัง ทำให้มันระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ เสียงกึกก้องกัมปนาทดังสนั่นหวั่นไหวและสะท้อนกลับไปมาภายในคุกใต้ดิน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าภายในไม่กี่นาที พวกผีต้องรู้ตัวแน่
“เร็ว รีบหนีกัน” แฮร์รี่ตะโกนแล้วพุ่งไปทางรอนหมายจะพาเขาหนี แต่รอนชี้ไม้กายสิทธิ์มาทางเขา
“ไม่มีทาง พวกเราต้องตายที่นี่” เขาจ้องอย่างเย็นชา “อะวาดา - -”
“สตูเปฟาย” ลำแสงสีแดงจากไม้กายสิทธิ์ของเฮอร์ไมโอนี่พุ่งกระแทกที่หน้าอกรอนพร้อมกับช่วยชีวิตแฮร์รี่เอาไว้ได้ทันเวลา
“ตอนนี้รอนพูดอะไรไม่รู้เรื่องแล้ว เราต้องพาเขาไปทั้งอย่างนี้”
แต่ทว่า พวกเขากำลังถูกรุมล้อมด้วยผีนับร้อย ๆ ตน เบื้องหน้าเห็นเป็นนิกหัวเกือบขาดที่จ้องมองเด็กทั้งสามด้วยสายตาเย็นชา
“ฉันคิดว่าศาตราจารย์ดัมเบิลดอร์บอกพวกเธอแล้วเสียอีก” เขาพูดด้วยเสียงก้องกังวาลชวนขนหัวลุก
“แต่ว่านี่เป็นแผนของผู้เสพความตายนะครับ” แฮร์รี่ตะโกนอย่างเร่งร้อน ชีวิตของพวกเราต้องมาจบเท่านี้หรือนี่ “คุณต้องเข้าใจ”
“กฏของเราเข้มงวด พวกเธอจะไม่มีลมหายใจออกไปจากที่นี่” เขาพูดพลางมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่ แล้วสติของแฮร์รี่ก็ดับวูบไป
ความคิดเห็น