ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เตรียมการ
      แฮร์รี่ เด็กชายวัยสิบหกปี กำลังนั่งอยู่บนรถไฟด่วนฮอกวอตส์ เขานั่งคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ จนบัดนี้ เขายังแทบจะไม่เชื่อเลยว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความจริง
    บนรถไฟครั้งนี้ ไม่ใช่รถไฟเที่ยวปิดเทอมหน้าร้อนเหมือนทุกครั้ง ที่แฮร์รี่เคยนั่งกลับจากฮอกวอตส์ เพื่อกลับไปบ้านเดอร์สลีย์ และรอคอยวันเปิดเทอมเพื่อที่จะกลับไปเรียนที่ฮอกวอตส์เหมือนทุกปี  แต่ทว่า รถไฟเที่ยวนี้ จะเป็นเที่ยวสุดท้ายของรถไฟด่วนฮอกวอตส์ที่จะได้ทำหน้าที่ของมัน เพราะมันเป็นรถเที่ยวที่ส่งนักเรียนกลับบ้าน ไม่ใช่เพราะปิดเทอมหน้าร้อน หากแต่เพราะว่าโรงเรียนจะไมได้เปิดอีกแล้ว
    ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เรื่องหนังสือปรุงยาของสเนป เรื่องที่ดัมเบิลดอร์พาเขาเข้าไปในเพนซิฟเพื่อดูสิ่งที่อาจเป็นฮอร์ครัชของโวลเดอร์มอร์  เรื่องที่ดัมเบิลดอร์พาเขาไปช่วยทำลายฮอร์ครัชชิ้นที่เป็นล็อกเกตที่เป็นของปลอม และดื่มยาพิษงี่เง่านั่นฟรี ๆ โดยที่ไม่ได้อะไรเลย สิ่งที่มัลฟอยทำ  และสุดท้าย สิ่งที่เขาคาใจและเคียดแค้นมากที่สุด คือสิ่งที่สเนปทำลงไป
    ความผิดพลาดครั้งใหญ่ของดัมเบิลดอร์ที่เชื่อใจคนอย่างเซเวอร์รัส สเนป จนทำให้ตัวเองถึงแก่ชีวิต แต่ถึงกระนั้น ชุมชนผู้วิเศษ ก็ได้จัดงานศพให้ดัมเบิลดอร์อย่างยิ่งใหญ่ พ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เท่าที่โลกพ่อมดเคยได้ประสบมา ผู้เดียว ที่ลอร์ดโวลเดอมอร์กลัว บัดนี้ ได้จากไปแล้ว จากไปอย่างไม่มีวันได้กลับมา
    แฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ จินนี่ ทุกคนนั่งอยู่ในรถตู้เดียวกัน ทุกคนต่างนั่งเงียบ ถึงแม้ว่าการจากไปของพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่อย่างอัลบัส ดัมเบิลดอร์นั้น  จะทำให้ทุกคนในโลกเวทย์มนต์เศร้าสลด แต่ก็ไม่เท่าที่แฮร์รี่รู้สึก แม้ว่าแฮร์รี่จะเคยคิดว่าเขาคงไม่สามารถเกลียดสเนปได้เท่าที่เคยอยู่บัดนั้น แต่ตอนนี้ ความเกลียดของแฮร์รี่ทวีคูณขึ้นมาก เวลานี้ แฮร์รี่เกลียดสเนปมากพอ ๆ กับลอร์ดโวลเดอมอร์เลยทีเดียว ผู้ที่พรากชีวิต พ่อ แม่ ของเขา พ่อทูนหัว และสุดท้าย ก็ดัมเบิลดอร์
    สิ่งที่แฮร์รี่คิดอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่จะทำอย่างไรกับสเนป แต่ทว่า เขากำลังคิดว่าเขาจะทำอย่างไรกับตัวเขาดี เขาบอกกับรอนและเฮอร์ไมโอนี่ไปว่า เขาจะไปร่วมงานแต่งงานของบิลกับเฟลอร์ก่อน จากนั้น แฮร์รี่คิดจะไปที่กอร์ดดริก ฮอลโลว์ เพราะเขาคิดว่า เรื่องทุกอย่างของเขา เริ่มต้นจากที่นั่น อะไรบางอย่างในตัวเขา ร้องเรียกให้เขาไปที่นั่น
      แฮร์รี่ลงจากรถไฟด่วนฮอกวอตส์ และผ่านแผงกั้นของชานชาลาหมายเลขเก้าเศษสามส่วนสี่ กลับสู่โลกของมักเกิ้ล เขาก็พบกับ นายวิสลีย์ เฟร็จ จอร์จ ชาลี กำลังรอรับพวกเขาอยู่
    “คุณนายวิสลีย์ล่ะครับ คุณวิสลีย์” แฮร์รี่ตรงเข้าไปถามนายวิสลีย์ หลังจากที่จับมือทักทายพวกพี่น้องวิสลีย์ครบทุกคน     “มอลลี่อยู่ที่กองบัญชาการของภาคีน่ะ” นายวิสลีย์กระซิบ “ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรอก แต่เราต้องหาผู้นำคนใหม่หลังจากที่ - - เธอก็รู้ เรื่องที่เกิดขึ้น  แต่เราว่าจะให้ผ่านงานแต่งงานของบิลกับเฟลอร์ไปก่อน พวกเราปรึกษากันแล้ว เราคิดว่า ครั้งนี้ เราจะให้พวกเธอเข้าร่วมภาคีด้วย”
    “จริงหรือครับ คุณวิสลีย์ แต่ผมอยากเข้าร่วมด้วยตอนที่เลือกผู้นำน่ะครับ” แฮร์รี่บอก
    “แล้วกัน นี่เธอจะไม่ไปกองบัญชาการของเราเลยตอนนี้หรือ เธอยังจะกลับไปบ้านของลุงกับป้าอีกหรือ ในเมื่อ - - อะไร ๆ ต่าง ๆ เกิดขึ้นมาจนถึงขนาดนี้” นายวิสลีย์ถามเขาอย่างตกใจ
    “แล้วผมก็จะไม่กลับไปที่ฮอกวอตส์อีกแล้วด้วยครับ ถ้าไม่จำเป็น”
    “ไม่ได้เด็ดขาดเลย แฮร์รี่ เธอต้องกลับไป แล้วอีกอย่าง เรื่องที่กองบัญชาการอยู่ที่นั่นก็เรื่องหนึ่งละ แล้วเรื่องความปลอดภัยด้วย แฮร์รี่ เธอต้องกลับไปที่ฮอกวอตส์ นี่ไม่ใช่คำขอร้อง แต่เป็นคำสั่งนะ” ลูปินยื่นคำขาด
    “ก็ได้ครับ แต่ก่อนอื่น ผมขอกลับไปบ้านของผมที่ซอยพรีเวตก่อนนะครับ  เพราะผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ผมควรจะทำ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องการให้ผมทำในทุก ๆ ครั้ง ของดัมเบิลดอร์นะครับ” แฮร์รี่บอกเสียงเย็น
    “ก็ได้ ถ้าอย่างนั้น เราจะไปรับเธอให้เร็วที่สุด ฉันสัญญา เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” นายวิสลีย์บอกกับแฮร์รี่ “แล้วนี่ลุงกับป้าของเธอยังไม่มาอีกหรือ”
    “ครับ ผมคิดว่า - - อ้า พวกเขามาโน่นแล้วครับ” แฮร์รี่พูดพลางชะเง้อมองข้ามไหล่ของนายวิสลีย์ไป
    “เรามารับแกแล้ว ไปกันได้หรือยัง” ลุงเวอร์นอนตรงดิ่งเข้ามา พร้อมกับคำทักทายตามแบบฉบับของเขา
    “ครับ แล้วเจอกันครับ คุณวิสลีย์ รอน เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่บอกลาเพื่อน ๆ ของเขา พร้อมกับเข็นรถ ตามพวกเดอร์สลีย์ไป
                นี่ก็เป็นเวลาบ่ายกว่า ๆ ระหว่างที่แฮร์รี่กำลังนั่งรถกลับบ้านกับลุงเวอร์นอน ศาสตราจารย์มักกอลนากัล ผู้ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเก่าที่ดัมเบิลดอร์เคยใช้ ในห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่ฮอกวอตส์ กำลังปรึกษาเรื่องบางอย่างอยู่กับ ศาสตราจารย์ฟลิตวิก ศาสตราจารย์สลักฮอร์น และแฮกริด ผู้ซึ่งนั่งอยู่เก้าอี้ด้านหน้าของมักกอลนากัล
    “ฉันคิดว่าพวกอาจารย์คนอื่นคงจะแยกย้ายกันไปแล้ว ใช่ไหมคะ ฟิลิอัส” ศาสตราจารย์มักกอลนากัลทำลายความเงียบ
    “ฉันคิดว่าอย่างนั้น มิเนอร์ว่า” ศาสตาจารย์ฟลิตวิกตอบเรียบ ๆ
    “ถ้าอย่างนั้น ฉันมีอะไรจะบอกพวกคุณทั้งสองคน และคุณ แฮกริด คุณรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร - - ทั้งบอก และขอร้อง” ศาสตราจารย์มักกอลนากัลเอ่ย
    “ถ้าพวกเราช่วยได้ พวกเราเต็มใจ” ศาสตราจารย์สลักฮอร์นบอก ศาสตราจารย์ฟลิตวิกพยักหน้าเห็นด้วย
    “ขอบอกไว้ก่อน ถ้าเข้าร่วมแล้ว มันอาจจะนำอันตรายมาสู่ทุกคน และจะไม่สามารถถอนตัวได้อีก เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ยังจะให้ฉันเล่าอีกไหม”
    “เล่ามาเสียทีเถอะ พวกเราจะช่วย ถ้าเราทำได้” ฟลิตวิกบอก
    “เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้น - - ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ ไม่ได้มีหน้าที่เป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนนี้อย่างเดียวเท่านั้น อย่างที่คุณสองคนและคนทั่ว ๆ ไปก็รู้กัน เขาคือคนเดียวที่ คุณก็รู้ - - ไม่สิ โวลเดอมอร์ กลัว” มักกอลนากัลตัดสินใจเชื่อดัมเบิลดอร์ ที่ให้เรียกชื่อจริงของโวลเดอมอร์ “ดังนั้น ตั้งแต่เมื่อสิบยี่สิบแปดปีก่อน* เขาได้จัดตั้งสมาคม ผู้ที่ต่อต้านโวลเดอมอร์ขึ้น โดยรวบรวมสมาชิกที่เชื่อถือได้จำนวนหนึ่งขึ้น และก่อตั้ง ภาคีนกฟีนิกซ์ ขึ้นมา” เธอหยุดพักสักครู่ ก่อนที่จะพูดต่อ “เมื่อสิบหกปีก่อน หลังจากที่โวลเดอมอร์หมดอำนาจ ภาคีนกฟีนิกซ์ ก็ได้ปิดตัวลง - - แต่ทว่า เมื่อสองปีที่แล้ว เขาได้จัดตั้งมันขึ้นมาใหม่ และรวบรวมสมาชิกคนเก่าและใหม่เข้าร่วมภาคี แน่นอน ฉันก็ร่วมด้วย” ศาสตราจารย์มักกอลนากัลพักชั่วครู่ เฝ้ามองใบหน้าของทั้งสองที่สนใจฟังอย่างจดจ่อ
    “แล้วทีนี้ มิเนอร์ว่า คุณอยากจะให้พวกเราเข้าร่วมด้วย ใช่หรือไม่”ศาสตราจารย์ฟลิตวิกถาม
    “ใช่แล้ว และก็เป็นสิ่งที่พวกคุณจะต้องตัดสินใจ ว่าจะเข้าร่วมกับเราหรือไม่” ศาสตราจารย์มักกอลนากัลถาม และรอ    “พวกเราจะเข้าร่วมด้วย และจะรักษาความลับเป็นอย่างดี” ฟลิตวิกบอก
    “ใช่แล้ว มิเนอร์วา ใช่แล้ว เราจะเข้าร่วมด้วย” สลักฮอร์นสมทบ
    “ดี ถ้าอย่างนั้น ฉันคิดว่าเราน่าจะใช้ฮอกวอตส์เป็นกองบัญชาการแห่งใหม่ หลังจากที่จัดการปิดช่องทางที่ผู้เสพย์ความตายเคยบุกเข้ามาในห้องต้องประสงค์แล้ว และฉันคิดว่า เราจะรวบรวมสมาชิกภาคีทั้งหมดได้ในเร็ววัน เพื่อที่จะจัดประชุมเลือกผู้นำคนใหม่ของเรา”
    “แล้วตลอดปีที่แล้ว” สลักฮอร์นเริ่ม “มีใครรู้บ้างว่าอัลบัสไปทำอะไร ที่ไหน ระหว่างที่หายไปจากโรงเรียน”
    “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันตอนนี้ แต่ฉันคิดว่ามีสองสามคนที่รู้” ศาสตราจารย์มักกอลนากัลว่า
    “ใครล่ะ” ฟลิตวิกถามอย่างรวดเร็ว
    “แฮร์รี่ พอตเตอร์ - - โรนัลด์ วิสลีย์ - - เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์” ศาสตราจารย์มักกอลนากัลตอบทันที “และฉันคิดว่านั่นเป็นสิ่งสำคัญมากด้วย เราจะต้องรู้ให้ได้ว่าเขาไปทำอะไรระหว่างที่ไม่อยู่ที่โรงเรียน ไม่เช่นนั้น เราก็ดำเนินการได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ เมื่อไม่มีเป้าหมายที่สำคัญจริง ๆ อย่างน้อย อัลบัสก็คิดว่านั่นสำคัญที่สุด ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ทิ้งโรงเรียนไปเป็นแน่” เธอทำท่าครุ่นคิด
    “แล้วทำไมไม่ลองถามแฮร์รี่ดูล่ะ มิเนอร์ว่า” สลักฮอร์นถาม
    “ฉันถามแล้ว เมื่อก่อนปิดเทอม ก่อนที่พวกคุณจะเข้ามาหาฉันในห้องนี้ล่ะ แต่เขาไม่ยอมบอก เขาบอกว่านั่นเป็นคำสั่งของอัลบัส เขาสั่งให้แฮร์รี่ห้ามบอกใครทั้งสิ้น แต่ยอมอนุญาตให้เขาบอกเพื่อนสนิทของเขาแค่สองคนคือวิสลีย์และเกรนเจอร์  - - แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เราต้องเสกคาถาป้องกันให้แน่นหนากว่าเดิมถ้านั่นยังเป็นไปได้ และฉันขอให้พวกคุณสองคนปิดช่องทางในห้องต้องประสงค์เสีย ส่วนฉันจะติดต่อสมาชิกในภาคีทุกคนให้มารวมตัวกันที่นี่ เตรียมพร้อมสำหรับการเลือกผู้นำ - - หลังจากงานแต่งงานของวิสลีย์ด้วย เพราะเราต้องการให้แฮร์รี่เข้าร่วมภาคีด้วย และวิสลีย์ รวมทั้งเกรนเจอร์ด้วย”
    “ได้เลยมิเนอร์วา” ฟลิตวิกบอกพลางกระโดดลงจากเก้าอี้ตัวหน้า แล้วเดินไปทางประตู มีสลักฮอร์นและแฮกริดเดินตามหลัง
    หลังจากที่เสียงฝีเท้าของทั้งคู่เงียบลง ศาสตราจารย์มักกอลนากัลลุกขึ้นจากโต๊ะ เดินไปที่หน้าต่าง พลางมองออกไปสู่ความว่างเปล่าภายนอกปราสาท ทุกสิ่งทุกอย่างราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลยทั้งสิ้น ทั้งรูปภาพอาจารย์ใหญ่ที่แสร้งทำเป็นหลับตลอดเวลาในห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่ แต่กลับเงี่ยหูฟังทุกคำพูดของคำสนทนาในห้อง  ยอดไม้ในป่าต้องห้ามที่ส่ายไหวท่านกลางลมแห่งฤดูร้อน หนวดของปลาหมึกยักษ์ที่เล่นน้ำอย่างสบายใจในทะเลสาบ ซากกระท่อมของแฮกริดตั้งแทนที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นกระท่อมของคนดูและสัตว์ นี่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่เปลี่ยนแปลงไป ถ้าไม่มี - -
    หลุมศพสีขาวที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวท่ามกลางความว่างเปล่า ไม่ไกลจากทะเลสาบมากนัก หลุมศพของผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งต่อสู้กับเจ้าแห่งศาสตร์มืดได้อย่างสูสี และเป็นคนเดียวที่ลอร์ดโวลเดอมอร์เกรงกลัว  บัดนี้ เหลือแต่ร่างไร้วิญญาณให้รำลึกถึงเท่านั้น
    “อัลบัส - - ขอพลังให้พวกเราด้วย”
      *บางคนอาจสงสัยที่ว่าภาคีตั้งเมื่อยี่สิบแปดปีก่อน เนื่องจากให้พิจารณาให้ดี (สำหรับคนที่ลืมแล้ว) ว่าโวล - - คนที่คุณก็รู้ว่าใคร เรืองอำนาจอยู่ประมาณสิบกว่าปีก่อนที่จะถูกแฮร์รี่พอตเตอร์พิชิตได้ เมื่อสิบหกปีก่อน
    บนรถไฟครั้งนี้ ไม่ใช่รถไฟเที่ยวปิดเทอมหน้าร้อนเหมือนทุกครั้ง ที่แฮร์รี่เคยนั่งกลับจากฮอกวอตส์ เพื่อกลับไปบ้านเดอร์สลีย์ และรอคอยวันเปิดเทอมเพื่อที่จะกลับไปเรียนที่ฮอกวอตส์เหมือนทุกปี  แต่ทว่า รถไฟเที่ยวนี้ จะเป็นเที่ยวสุดท้ายของรถไฟด่วนฮอกวอตส์ที่จะได้ทำหน้าที่ของมัน เพราะมันเป็นรถเที่ยวที่ส่งนักเรียนกลับบ้าน ไม่ใช่เพราะปิดเทอมหน้าร้อน หากแต่เพราะว่าโรงเรียนจะไมได้เปิดอีกแล้ว
    ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เรื่องหนังสือปรุงยาของสเนป เรื่องที่ดัมเบิลดอร์พาเขาเข้าไปในเพนซิฟเพื่อดูสิ่งที่อาจเป็นฮอร์ครัชของโวลเดอร์มอร์  เรื่องที่ดัมเบิลดอร์พาเขาไปช่วยทำลายฮอร์ครัชชิ้นที่เป็นล็อกเกตที่เป็นของปลอม และดื่มยาพิษงี่เง่านั่นฟรี ๆ โดยที่ไม่ได้อะไรเลย สิ่งที่มัลฟอยทำ  และสุดท้าย สิ่งที่เขาคาใจและเคียดแค้นมากที่สุด คือสิ่งที่สเนปทำลงไป
    ความผิดพลาดครั้งใหญ่ของดัมเบิลดอร์ที่เชื่อใจคนอย่างเซเวอร์รัส สเนป จนทำให้ตัวเองถึงแก่ชีวิต แต่ถึงกระนั้น ชุมชนผู้วิเศษ ก็ได้จัดงานศพให้ดัมเบิลดอร์อย่างยิ่งใหญ่ พ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เท่าที่โลกพ่อมดเคยได้ประสบมา ผู้เดียว ที่ลอร์ดโวลเดอมอร์กลัว บัดนี้ ได้จากไปแล้ว จากไปอย่างไม่มีวันได้กลับมา
    แฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ จินนี่ ทุกคนนั่งอยู่ในรถตู้เดียวกัน ทุกคนต่างนั่งเงียบ ถึงแม้ว่าการจากไปของพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่อย่างอัลบัส ดัมเบิลดอร์นั้น  จะทำให้ทุกคนในโลกเวทย์มนต์เศร้าสลด แต่ก็ไม่เท่าที่แฮร์รี่รู้สึก แม้ว่าแฮร์รี่จะเคยคิดว่าเขาคงไม่สามารถเกลียดสเนปได้เท่าที่เคยอยู่บัดนั้น แต่ตอนนี้ ความเกลียดของแฮร์รี่ทวีคูณขึ้นมาก เวลานี้ แฮร์รี่เกลียดสเนปมากพอ ๆ กับลอร์ดโวลเดอมอร์เลยทีเดียว ผู้ที่พรากชีวิต พ่อ แม่ ของเขา พ่อทูนหัว และสุดท้าย ก็ดัมเบิลดอร์
    สิ่งที่แฮร์รี่คิดอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่จะทำอย่างไรกับสเนป แต่ทว่า เขากำลังคิดว่าเขาจะทำอย่างไรกับตัวเขาดี เขาบอกกับรอนและเฮอร์ไมโอนี่ไปว่า เขาจะไปร่วมงานแต่งงานของบิลกับเฟลอร์ก่อน จากนั้น แฮร์รี่คิดจะไปที่กอร์ดดริก ฮอลโลว์ เพราะเขาคิดว่า เรื่องทุกอย่างของเขา เริ่มต้นจากที่นั่น อะไรบางอย่างในตัวเขา ร้องเรียกให้เขาไปที่นั่น
      แฮร์รี่ลงจากรถไฟด่วนฮอกวอตส์ และผ่านแผงกั้นของชานชาลาหมายเลขเก้าเศษสามส่วนสี่ กลับสู่โลกของมักเกิ้ล เขาก็พบกับ นายวิสลีย์ เฟร็จ จอร์จ ชาลี กำลังรอรับพวกเขาอยู่
    “คุณนายวิสลีย์ล่ะครับ คุณวิสลีย์” แฮร์รี่ตรงเข้าไปถามนายวิสลีย์ หลังจากที่จับมือทักทายพวกพี่น้องวิสลีย์ครบทุกคน     “มอลลี่อยู่ที่กองบัญชาการของภาคีน่ะ” นายวิสลีย์กระซิบ “ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรอก แต่เราต้องหาผู้นำคนใหม่หลังจากที่ - - เธอก็รู้ เรื่องที่เกิดขึ้น  แต่เราว่าจะให้ผ่านงานแต่งงานของบิลกับเฟลอร์ไปก่อน พวกเราปรึกษากันแล้ว เราคิดว่า ครั้งนี้ เราจะให้พวกเธอเข้าร่วมภาคีด้วย”
    “จริงหรือครับ คุณวิสลีย์ แต่ผมอยากเข้าร่วมด้วยตอนที่เลือกผู้นำน่ะครับ” แฮร์รี่บอก
    “แล้วกัน นี่เธอจะไม่ไปกองบัญชาการของเราเลยตอนนี้หรือ เธอยังจะกลับไปบ้านของลุงกับป้าอีกหรือ ในเมื่อ - - อะไร ๆ ต่าง ๆ เกิดขึ้นมาจนถึงขนาดนี้” นายวิสลีย์ถามเขาอย่างตกใจ
    “แล้วผมก็จะไม่กลับไปที่ฮอกวอตส์อีกแล้วด้วยครับ ถ้าไม่จำเป็น”
    “ไม่ได้เด็ดขาดเลย แฮร์รี่ เธอต้องกลับไป แล้วอีกอย่าง เรื่องที่กองบัญชาการอยู่ที่นั่นก็เรื่องหนึ่งละ แล้วเรื่องความปลอดภัยด้วย แฮร์รี่ เธอต้องกลับไปที่ฮอกวอตส์ นี่ไม่ใช่คำขอร้อง แต่เป็นคำสั่งนะ” ลูปินยื่นคำขาด
    “ก็ได้ครับ แต่ก่อนอื่น ผมขอกลับไปบ้านของผมที่ซอยพรีเวตก่อนนะครับ  เพราะผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ผมควรจะทำ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องการให้ผมทำในทุก ๆ ครั้ง ของดัมเบิลดอร์นะครับ” แฮร์รี่บอกเสียงเย็น
    “ก็ได้ ถ้าอย่างนั้น เราจะไปรับเธอให้เร็วที่สุด ฉันสัญญา เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” นายวิสลีย์บอกกับแฮร์รี่ “แล้วนี่ลุงกับป้าของเธอยังไม่มาอีกหรือ”
    “ครับ ผมคิดว่า - - อ้า พวกเขามาโน่นแล้วครับ” แฮร์รี่พูดพลางชะเง้อมองข้ามไหล่ของนายวิสลีย์ไป
    “เรามารับแกแล้ว ไปกันได้หรือยัง” ลุงเวอร์นอนตรงดิ่งเข้ามา พร้อมกับคำทักทายตามแบบฉบับของเขา
    “ครับ แล้วเจอกันครับ คุณวิสลีย์ รอน เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่บอกลาเพื่อน ๆ ของเขา พร้อมกับเข็นรถ ตามพวกเดอร์สลีย์ไป
                นี่ก็เป็นเวลาบ่ายกว่า ๆ ระหว่างที่แฮร์รี่กำลังนั่งรถกลับบ้านกับลุงเวอร์นอน ศาสตราจารย์มักกอลนากัล ผู้ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเก่าที่ดัมเบิลดอร์เคยใช้ ในห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่ฮอกวอตส์ กำลังปรึกษาเรื่องบางอย่างอยู่กับ ศาสตราจารย์ฟลิตวิก ศาสตราจารย์สลักฮอร์น และแฮกริด ผู้ซึ่งนั่งอยู่เก้าอี้ด้านหน้าของมักกอลนากัล
    “ฉันคิดว่าพวกอาจารย์คนอื่นคงจะแยกย้ายกันไปแล้ว ใช่ไหมคะ ฟิลิอัส” ศาสตราจารย์มักกอลนากัลทำลายความเงียบ
    “ฉันคิดว่าอย่างนั้น มิเนอร์ว่า” ศาสตาจารย์ฟลิตวิกตอบเรียบ ๆ
    “ถ้าอย่างนั้น ฉันมีอะไรจะบอกพวกคุณทั้งสองคน และคุณ แฮกริด คุณรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร - - ทั้งบอก และขอร้อง” ศาสตราจารย์มักกอลนากัลเอ่ย
    “ถ้าพวกเราช่วยได้ พวกเราเต็มใจ” ศาสตราจารย์สลักฮอร์นบอก ศาสตราจารย์ฟลิตวิกพยักหน้าเห็นด้วย
    “ขอบอกไว้ก่อน ถ้าเข้าร่วมแล้ว มันอาจจะนำอันตรายมาสู่ทุกคน และจะไม่สามารถถอนตัวได้อีก เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ยังจะให้ฉันเล่าอีกไหม”
    “เล่ามาเสียทีเถอะ พวกเราจะช่วย ถ้าเราทำได้” ฟลิตวิกบอก
    “เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้น - - ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ ไม่ได้มีหน้าที่เป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนนี้อย่างเดียวเท่านั้น อย่างที่คุณสองคนและคนทั่ว ๆ ไปก็รู้กัน เขาคือคนเดียวที่ คุณก็รู้ - - ไม่สิ โวลเดอมอร์ กลัว” มักกอลนากัลตัดสินใจเชื่อดัมเบิลดอร์ ที่ให้เรียกชื่อจริงของโวลเดอมอร์ “ดังนั้น ตั้งแต่เมื่อสิบยี่สิบแปดปีก่อน* เขาได้จัดตั้งสมาคม ผู้ที่ต่อต้านโวลเดอมอร์ขึ้น โดยรวบรวมสมาชิกที่เชื่อถือได้จำนวนหนึ่งขึ้น และก่อตั้ง ภาคีนกฟีนิกซ์ ขึ้นมา” เธอหยุดพักสักครู่ ก่อนที่จะพูดต่อ “เมื่อสิบหกปีก่อน หลังจากที่โวลเดอมอร์หมดอำนาจ ภาคีนกฟีนิกซ์ ก็ได้ปิดตัวลง - - แต่ทว่า เมื่อสองปีที่แล้ว เขาได้จัดตั้งมันขึ้นมาใหม่ และรวบรวมสมาชิกคนเก่าและใหม่เข้าร่วมภาคี แน่นอน ฉันก็ร่วมด้วย” ศาสตราจารย์มักกอลนากัลพักชั่วครู่ เฝ้ามองใบหน้าของทั้งสองที่สนใจฟังอย่างจดจ่อ
    “แล้วทีนี้ มิเนอร์ว่า คุณอยากจะให้พวกเราเข้าร่วมด้วย ใช่หรือไม่”ศาสตราจารย์ฟลิตวิกถาม
    “ใช่แล้ว และก็เป็นสิ่งที่พวกคุณจะต้องตัดสินใจ ว่าจะเข้าร่วมกับเราหรือไม่” ศาสตราจารย์มักกอลนากัลถาม และรอ    “พวกเราจะเข้าร่วมด้วย และจะรักษาความลับเป็นอย่างดี” ฟลิตวิกบอก
    “ใช่แล้ว มิเนอร์วา ใช่แล้ว เราจะเข้าร่วมด้วย” สลักฮอร์นสมทบ
    “ดี ถ้าอย่างนั้น ฉันคิดว่าเราน่าจะใช้ฮอกวอตส์เป็นกองบัญชาการแห่งใหม่ หลังจากที่จัดการปิดช่องทางที่ผู้เสพย์ความตายเคยบุกเข้ามาในห้องต้องประสงค์แล้ว และฉันคิดว่า เราจะรวบรวมสมาชิกภาคีทั้งหมดได้ในเร็ววัน เพื่อที่จะจัดประชุมเลือกผู้นำคนใหม่ของเรา”
    “แล้วตลอดปีที่แล้ว” สลักฮอร์นเริ่ม “มีใครรู้บ้างว่าอัลบัสไปทำอะไร ที่ไหน ระหว่างที่หายไปจากโรงเรียน”
    “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันตอนนี้ แต่ฉันคิดว่ามีสองสามคนที่รู้” ศาสตราจารย์มักกอลนากัลว่า
    “ใครล่ะ” ฟลิตวิกถามอย่างรวดเร็ว
    “แฮร์รี่ พอตเตอร์ - - โรนัลด์ วิสลีย์ - - เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์” ศาสตราจารย์มักกอลนากัลตอบทันที “และฉันคิดว่านั่นเป็นสิ่งสำคัญมากด้วย เราจะต้องรู้ให้ได้ว่าเขาไปทำอะไรระหว่างที่ไม่อยู่ที่โรงเรียน ไม่เช่นนั้น เราก็ดำเนินการได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ เมื่อไม่มีเป้าหมายที่สำคัญจริง ๆ อย่างน้อย อัลบัสก็คิดว่านั่นสำคัญที่สุด ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ทิ้งโรงเรียนไปเป็นแน่” เธอทำท่าครุ่นคิด
    “แล้วทำไมไม่ลองถามแฮร์รี่ดูล่ะ มิเนอร์ว่า” สลักฮอร์นถาม
    “ฉันถามแล้ว เมื่อก่อนปิดเทอม ก่อนที่พวกคุณจะเข้ามาหาฉันในห้องนี้ล่ะ แต่เขาไม่ยอมบอก เขาบอกว่านั่นเป็นคำสั่งของอัลบัส เขาสั่งให้แฮร์รี่ห้ามบอกใครทั้งสิ้น แต่ยอมอนุญาตให้เขาบอกเพื่อนสนิทของเขาแค่สองคนคือวิสลีย์และเกรนเจอร์  - - แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เราต้องเสกคาถาป้องกันให้แน่นหนากว่าเดิมถ้านั่นยังเป็นไปได้ และฉันขอให้พวกคุณสองคนปิดช่องทางในห้องต้องประสงค์เสีย ส่วนฉันจะติดต่อสมาชิกในภาคีทุกคนให้มารวมตัวกันที่นี่ เตรียมพร้อมสำหรับการเลือกผู้นำ - - หลังจากงานแต่งงานของวิสลีย์ด้วย เพราะเราต้องการให้แฮร์รี่เข้าร่วมภาคีด้วย และวิสลีย์ รวมทั้งเกรนเจอร์ด้วย”
    “ได้เลยมิเนอร์วา” ฟลิตวิกบอกพลางกระโดดลงจากเก้าอี้ตัวหน้า แล้วเดินไปทางประตู มีสลักฮอร์นและแฮกริดเดินตามหลัง
    หลังจากที่เสียงฝีเท้าของทั้งคู่เงียบลง ศาสตราจารย์มักกอลนากัลลุกขึ้นจากโต๊ะ เดินไปที่หน้าต่าง พลางมองออกไปสู่ความว่างเปล่าภายนอกปราสาท ทุกสิ่งทุกอย่างราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลยทั้งสิ้น ทั้งรูปภาพอาจารย์ใหญ่ที่แสร้งทำเป็นหลับตลอดเวลาในห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่ แต่กลับเงี่ยหูฟังทุกคำพูดของคำสนทนาในห้อง  ยอดไม้ในป่าต้องห้ามที่ส่ายไหวท่านกลางลมแห่งฤดูร้อน หนวดของปลาหมึกยักษ์ที่เล่นน้ำอย่างสบายใจในทะเลสาบ ซากกระท่อมของแฮกริดตั้งแทนที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นกระท่อมของคนดูและสัตว์ นี่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่เปลี่ยนแปลงไป ถ้าไม่มี - -
    หลุมศพสีขาวที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวท่ามกลางความว่างเปล่า ไม่ไกลจากทะเลสาบมากนัก หลุมศพของผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งต่อสู้กับเจ้าแห่งศาสตร์มืดได้อย่างสูสี และเป็นคนเดียวที่ลอร์ดโวลเดอมอร์เกรงกลัว  บัดนี้ เหลือแต่ร่างไร้วิญญาณให้รำลึกถึงเท่านั้น
    “อัลบัส - - ขอพลังให้พวกเราด้วย”
      *บางคนอาจสงสัยที่ว่าภาคีตั้งเมื่อยี่สิบแปดปีก่อน เนื่องจากให้พิจารณาให้ดี (สำหรับคนที่ลืมแล้ว) ว่าโวล - - คนที่คุณก็รู้ว่าใคร เรืองอำนาจอยู่ประมาณสิบกว่าปีก่อนที่จะถูกแฮร์รี่พอตเตอร์พิชิตได้ เมื่อสิบหกปีก่อน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น