ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตราฟีนิกซ์
      หลังจากกลับมาจากคิงส์ครอส์ แฮร์รี่เดินนำสมาชิกเดอร์สลีย์เข้าไปในบ้าน ทยอยเอาสำพาระไปเก็บเหมือนเช่นทุกปี และเมื่อเขาเก็บของเสร็จแล้ว เขากำลังจะลงมาที่ห้องนั่งเล่นของครอบครัวเดอร์สลีย์ แต่ทว่า นกฮูกตัวหนึ่งบินตรงมาที่หน้าต่าง แฮร์รี่รีบเปิดหน้าต่างรับมัน พลางหยิบจดหมายที่ผูกติดมากับขาของมันออกมาคลายออก ก่อนที่นกนั่นจะบินออกไป
                      ถึงแฮร์รี่
              เราปรึกษากันแล้ว และคิดว่าเราจะไปรับตัวเธอมาพรุ่งนี้เวลาห้าโมงเย็น ถ้าเธอจะเล่าทุกอย่างให้ลุงกับป้าฟังก็ได้ถ้ามีอะไรล่ะก็ ให้ใช้เวทย์มนต์ได้เลย ฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง  ฉันบอกอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ เผื่อว่าจดหมายจะถูกเปิดอ่าน ฉันคิดว่าเธออาจจะไม่ได้กลับมาอยู่กับลุงกับป้าอีกแล้ว เพราะเราจะให้เธออยู่ที่นี่กับพวกเรา
                                                          หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี
                                                              มิเนอร์วา  มักกอนนากัล
      แฮร์รี่พับจดหมายเก็บ และคิดว่าเขาน่าจะบอกลุงและป้าให้รู้เกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น แล้วเขาก็เดินลงบันได เข้าไปในห้องนั่งเล่นรวมของครอบครัวเดอร์สลีย์ เรียกทุกคน และเริ่มต้นเล่าเรื่องทุกอย่างให้ทุกคนฟัง
      “ในเมื่อพวกนั้นคิดจะฆ่าแก และไม่สนใจว่าจะต้องฆ่าสักกี่คนก็ตาม และยังเห็นแกบอกว่าพวกนั้นฆ่าคนที่ไม่มี - - คนที่ปกติดี อย่างพวกเราด้วย ถ้าอย่างนั้นแล้ว เราจะไม่เดือดร้อนไปด้วยหรือ กับเรื่องบ้า ๆ ของแกนี่” ลุงเวอร์นอนถามหลังจากที่แฮร์รี่เล่าเรื่องทั้งหมดจบลง
      “ถ้าลุงห่วงว่าพวกนั้นจะตามล่าตัวผมมาถึงนี่และฆ่าทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ล่ะก็ ลุงก็ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะว่าพรุ่งนี้ห้าโมงเย็น พวกเขาก็จะมารับตัวผมไปอยู่ด้วยแล้ว แต่ที่ลุงต้องห่วงก็คือ เรื่องที่ลุงเข้าใจนั่นละ พวกนั้นตามฆ่ามักเกิ้ล และฆ่าเพื่อความสนุกอีกด้วย นั่นล่ะ คือสิ่งที่ลุงต้องกลัว” แฮร์รี่บอกเสียงเย็น
      “มักเกิ้ลหรือ” ลุงเวอร์นอนทำเสียงสงสัย
      “คือคนที่ไม่มีเวทย์มนต์ครับ” แฮร์รี่บอกเรียบ ๆ
      “อย่าพูดชื่อพวกนั้นในบ้านฉัน” ลุงเวอร์นอนตะคอกใส่แฮร์รี่ พร้อมกับที่หน้าของลุงเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง
      “ลุงยังสนใจอีกหรือครับ ลุงยังกลัวเพื่อนบ้านรู้ในสิ่งที่เกี่ยวกับผมอีกหรือครับ ในเมื่อพวกนั้นอาจจะมาเคาะประตูบ้านหลังใดหลังหนึ่งในซอยพรีเว็ตนี่ เมื่อไรก็ได้นะครับ” หลังจากแฮร์รี่พูดจบ เขาก็ได้ยินเสียงครางหงิง ๆ ของดัดลีย์ แฮร์รี่รู้ว่า ดัดลีย์ยังกลัวไม่รู้ลืมเกี่ยวกับเรื่องที่แฮกริดเคยเสกหางหมูให้งอกมาที่ก้นของดัดลีย์อยู่ “ไม่ต้องกลัวว่าพวกนั้นจะสาปให้นายกลายเป็นหมูหรอกดัดด์ พวกในไม่ทำอะไรอย่างนั้นหรอก พวกนั้นฆ่าเป็นอย่างเดียวละ” แฮร์รี่หันไปบอกกับดัดลีย์
      “ลองให้พวกนั้นทำอะไรดัดลีย์ดูสิ ฉันจะเอาปืนไรเฟิลยิงหัวกระบานมันซะเลย” ลุงเวอร์นอนบอก
      “พวกนั้นไม่กลัวไรเฟิลหรอกครับลุง พวกนั้นฆ่าลุงได้ ก่อนที่ลุงจะพูดคำว่า ออกไป เสร็จอีกครับ คำสาปพิฆาต อะวาดา เคดาฟ-รา ที่ลอร์ดโวลเดอมอร์ฆ่าพ่อกับแม่ผม คำสาปที่ไม่มีทางสะท้อนกลับได้” แฮร์รี่บอกกับลุงเวอร์นอน ด้วยน้ำเสียงที่เจือด้วยความโกรธและความแค้นต่อโวลเดอมอร์
      “แล้วตอนที่พวกนั้นจะฆ่าแก ทำไมแกถึงได้รอดมาได้” ลุงเวอร์นอนถาม
      “ดัมเบิลดอร์บอกผมว่า เป็นเพราะแม่ของผมยอมสละชีวิตเพื่อช่วยชีวิตผมเอาไว้ ทำให้เสกเวทมนต์โบราณขึ้นมา และเป็นเกราะสะท้อนคำสาปได้ และหลังจากนั้น ดูเหมือนว่าดัมเบิลดอร์จะเสกเวทย์มนต์ป้องกันเพิ่มให้อีก แต่เวทย์มนต์นั้นจะมีผลก็ต่อเมื่อผมอยู่ใกล้หรืออยู่ในความดูแลของผู้ที่มีสายเลือดเดียวกันเท่านั้น ซึ่งนั่นก็คือเหตุผลที่เขานำผมมาให้ลุงกับป้าเลี้ยงดู - - อย่างที่เขาบอกลุงกับป้าเมื่อปีที่แล้ว เขาขอให้ผมมาอยู่ที่นี่จนกว่าจะอายุครบสิบเจ็ดปี เพราะว่าคาถาทั้งหมดที่เขาเสกไว้ จะมีผลจนกว่าจะถึงเวลานั้น”
      “แต่แกบอกว่า พรุ่งนี้พวกนั้นจะมารับแก”
      “ครับ พรุ่งนี้ผมก็จะไปแล้ว หวังว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นก่อนถึงเวลานั้น” แฮร์รี่ทิ้งท้ายเอาไว้อย่างไม่ค่อยสบายใจเท่าไรนัก
หลังจากที่แฮร์รี่อธิบายเรื่องราวทุกอย่างให้กับครอบครัวเดอร์สลีย์ฟังทั้งหมด ทั้งสามคนดูเหมือนจะตื่นตกใจและหวาดกลัวมาก อย่างไรก็ตาม เช้าวันต่อมา ตอนที่บุรุษไปรษณีย์มาส่งจดหมาย ลุงเวอร์นอนก็เรียกแฮร์รี่ลงมาดูว่ามีอะไรอยู่ในนั้นหรือเปล่า ทั้ง ๆ ที่เป็นจดหมายธรรมดา  และเมื่อตอนที่คนส่งนมมาเคาะประตูหน้าบ้าน ลุงเวอร์นอนถึงกับสะดุ้งโหยง ร้องเรียกแฮร์รี่เป็นการใหญ่เพื่อให้ไปเปิดประตูรับนมที่ส่งมา และยังให้แฮร์รี่ชิมดูว่ามียาพิษอยู่หรือเปล่า  แฮร์รี่รู้อยู่แกใจดีว่า ถ้าเป็นพวกผู้เสพย์ความตายหรือโวลเดอมอร์คิดจะฆ่าเขาหรือใครแถวนี้ล่ะก็ พวกนั้นคงไม่เสียเวลาทำเรื่องอย่างนี้เป็นแน่แท้ พวกนั้นจะบุกเข้ามาโดยไม่เคาะประตู หรือส่งจดหมายดูลาดเลาหรอก และก็จะสังหารทุกคนอย่างเลือดเย็น
      เวลาบ่ายโมงสามสิบห้านาที แฮร์รี่รู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ดูเหมือนว่าเวลาห้าโมงเย็นสำหรับวันนี้ดูเหมือนจะยาวนานมากเหลือเกิน ทุกอย่างดูเหมือนจะไม่มีความหมาย ดูเหมือนจะหมดความหวังทุกอย่าง ในเมื่อดัมเบิลดอร์จากไปแล้ว - - เมื่อใดที่แฮร์รี่อยู่ใกล้กับดัมเบิลดอร์ เขามีความรู้สึกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะง่ายดายไปเสียหมด ชัยชนะต่อสิ่งต่าง ๆ จะคุกกรุ่นอยู่ในใจ และดูเหมือนว่าเรื่องยาก ๆ ทุกเรื่องจะเป็นเรื่องที่แก้ไขได้อย่างง่ายดายในเมื่อมีพลัง และปัญญาอันเฉียบแหลมของดัมเบิลดอร์ - - แต่ในเมื่อเขาจากไปแล้ว บัดนี้ ไม่มีผู้ใดอีกแล้ว ที่จะยืนอยู่ระหว่างเขากับโวลเดอมอร์ ไม่มีอีกแล้ว - - นับแต่จากนี้ แฮร์รี่ต้องผจญกับพ่อมดที่ชั่วร้ายมากที่สุดในศรรตวรรษด้วยตัวของตัวเอง แต่แฮร์รี่ก็ไม่คิดว่าตัวเองอยู่คนเดียว เพราะเขามีเพื่อนทุกคนอยู่ มีรอน มีเฮอร์ไมโอนี่ และก็ - - จินนี่
      ท่ามกลางความเงียบอันน่าอึดอัดในห้องนอนที่สองของดัดลีย์ในบ้านเลขที่สี่ซอยพรีเว็ต แฮร์รี่ นั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง สำรวจทุกตารางนิ้วของซอยพรีเว็ต ตั้งแต่สายหมอกที่ปรากฏอยู่ทั่วไปตั้งแต่ปีที่แล้ว โคมไฟถนน จนถึงถังขยะที่มีแมวจรจัดตัวหนึ่งกำลังคุ้ยเขียอาหารอย่างหิวโหย - - สายตาของแฮร์รี่เลื่อนไปจับจ้องอยู่ที่นาฬิกาข้อมือของเขา บัดนี้ เป็นเวลาสี่โมงห้าสิบห้านาที ช่างเป็นเวลาที่เนิ่นนานเสียจริง ๆ
      แฮร์รี่เก็บของเสร็จแล้ว และกำลังรอคอยอย่างน่าเบื่อ เขาไม่ได้ลงไปกินอาหารกลางวันกับครอบครัวเดอร์สลีย์ เพราะว่าท้องของเขาไม่สามารถรับอะไรลงไปได้เลย ในสภาวะเครียดเช่นนี้ - - อากาศช่างหนาวอะไรเช่นนี้นะ แฮร์รี่คิด ทั้ง ๆ ที่ภายนอกน่าจะเป็นหน้าร้อน ไม่น่าที่จะมีอากาศหนาวอย่างนี้ได้ แต่เอาเถอะ อย่างน้อยมันก็มีหมอกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว นี่ก็คงจะเป็นผลกระทบจากการเพ่นพ่านของผู้คุมวิญญาณสินะ
      ผู้คุมวิญญาณ
      แฮร์รี่ขนลุกทันทีที่คิด เขาได้แต่หวังว่ามันคงจะไม่เกิดขึ้นหรอกนะ
      แฮร์รี่มองออกไปนอกหน้าต่างห้องของเขาลงไปเบื้องล่างที่ถนน ภาพที่เขาเห็นทำให้ขนของเขาตั้งชันขึ้น ผู้คุมวิญญาณจำนวนสี่รายเลื่อนไหลมาตามพื้นถนนของซอยพรีเว็ต และตรงมาที่บ้านเลขที่สี่
      แฮร์รี่ถลาไปกระชากประตูห้องเปิดอย่างแรง แล้ววิ่งลงบันไดอย่างรวดเร็ว ตรงเข้าไปยังห้องนั่งเล่นของครอบครัวเดอร์สลีย์ ที่สมาชิกทุกคนกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่อย่างสบายใจ พลางชักไม้กายสิทธิ์ออกมา
      “แก เป็นบ้าอะไรอีกล่ะ แล้วเอาไอ้นั่นออกมาทำไม หวังว่าแกคงไม่คิดที่จะ - -” ลุงเวอร์นอนร้องเมื่อเห็นไม้กายสิทธิ์และสีหน้าของแฮร์รี่
      “ผมไม่ทำอะไรลุงทั้งนั้นละ แต่พวกข้างนอกนั่นทำแน่ ตอนนี้ผมอยากให้ลุง ป้า และดัดลีย์ไปหลบในครัวก่อน ผมจะรับมือกับพวกมันเอง ยังดีที่ผู้เสพย์ความตายไม่มาด้วย” แฮร์รี่ตะโกนบอกลุงเวอร์นอน
      “อะไรนะ อะไรที่อยู่ข้างนอก” ลุงเวอร์นอนตะโกนถาม
      “ไม่มีเวลาอธิบายแล้ว ไปเร็ว” แฮร์รี่ตะโกนออกคำสั่งอย่างสุดเสียง ซึ่งแม้แต่ลุงเวอร์นอนยังไม่กล้าที่จะต่อปากต่อคำด้วย เมื่อแฮร์รี่มีไม้กายสิทธ์อยู่ในมือ  หลังจากพวกเดอร์สลีย์เข้าไปหลบในห้องครัวแล้ว แฮร์รี่รีบพุ่งตัวออกไปที่โถงทางเดิน เผชิญกับความหนาวยะเยือกของผู้คุมวิญญาณ บัดนี้ ประตูบ้านได้เปิดออกแล้ว พวกมันค่อย ๆ เลื่อนไหลเข้ามาหาแฮร์รี่ มือที่ราวกับซากศพของมันควานหาไปในอากาศที่ว่างเปล่า ตรงที่ควรจะเป็นดวงตาของมันนั้น  ดูเหมือนว่าจะมองหาสิ่งมีชีวิตอย่างสุดความสามารถ แฮร์รี่ไม่รอช้า - - เขารีบหาความทรงจำที่มีความสุขที่สุด เขารีบนึกถึงรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ เขาคิดถึงงานแต่งงานของบิลกับเฟลอร์ และคิดว่าสักวันเขาคงได้แต่งงานกับจินนี่เหมือนอย่างคู่นี้บ้าง
      “เอกซ์เปกโตร พาโตรนุม” แฮร์รี่ตะโกนสุดเสียง
      กวางหนุ่มสีเงินส่องแสงเจิดจ้า ปรากฏออกมาจากปลายไม้กายสิทธิ์ของแฮร์รี่ พุ่งเข้าใส่ผู้คุมวิญญาณตัวแล้วตัวเล่า จนพวกนั้นทนไม้ได้ รีบถลาร่อนหนีไปท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเย็น
      แฮร์รี่เก็บไม้กายสิทธิ์หันหลังกลับเพื่อที่จะไปหาครอบครัวเดอร์สลีย์แต่ทว่า - -
      เปรี้ยง
เ      สียงดังสนั่นเกิดขึ้นที่หน้าทางเข้าบ้านเลขที่สี่ และสิ่งที่แฮร์รี่เห็นต่อมาก็คือ คน ๆ หนึ่ง ในผ้าคลุมสีดำปรากฏออกมาจากความว่างเปล่าในอากาศ ผู้เสพย์ความตายนั่นเอง
      “ไง เจ้าหนูพอตเตอร์ตัวกระจิ๋ว” เสียงของผู้มาเยือนเอ่ยขึ้น  เสียงนี้เป็นเสียงที่แฮร์รี่จำได้ไม่รู้ลืม เพราะมันเป็นเสียงของคนที่ฆ่าซิเรียส คนที่พรากชีวิตพ่อทูนหัวไปจากเขาตลอดกาล - - เบลลาทริกซ์ เลซแสตรงก์
      “ไม่นึกเลยว่าแกจะเป็นฝ่ายโผล่หัวมาเองแบบนี้” แฮร์รี่เอ่ยเสียงเย็น บัดนี้ ภายในตัวเขามีแต่ความโกรธ และเกลียดในทุกอณูร่างของหญิงที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา แฮร์รี่ชักไม้กายสิทธิ์ออกมาอีกครั้ง และ - -
      ลำแสงสีแดงพุ่งตรงมาที่เขา  แฮร์รี่กระโดดพุ่งตัวหลบ ลำแสงนั้นเฉี่ยวไหลของเขาไปไม่เกินหนึ่งนิ้ว แฮร์รี่พุ่งชนเบลลาทริกซ์ พุ่งออกไปยังลานหน้าบ้าน - - เขาคิดว่า ข้างนอกคงมีที่ให้หลบและสะดวกต่อการต่อสู้มากกว่าโถงทางเข้าแคบ ๆ เป็นแน่
      ลำแสงสีเขียวพุ่งเข้ามาและพลาดตัวเขาไป มันพุ่งไปกระทบกับพุ่มไม้เหี่ยวเฉาจนมันลุกเป็นไฟ เบลลาทริกซ์เดินเข้ามาหาแฮร์รี่
      “เอกซ์เปลลิอาร์มัส” แฮร์รี่ร้องตะโกน พร้อมกับที่ลำแสงสีเหลืองพุ่งออกจากไม้กายสิทธิ์ของเขาตรงไปยังหล่อน
      “โพรเทโก้” เบลลาทริกซ์เสกคาถาเกราะวิเศษกันเอาไว้ คาถาของแฮร์รี่พุ่งกลับมาที่เขา แฮร์รี่กระโดดหลบไปอีกทาง
      “นี่หรือ เด็กชายที่ถูกเลือกให้พิชิตจอมมาร คิดว่าไง - - เอาชนะลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ของจอมมารแค่คนเดียวยังไม่ได้”เบลลาทริกซ์พูด
      “หุบปากซะ เบลลาทริกซ์ แกน่ะเป็นแค่สุนัขรับใช้โวลเดอมอร์แค่นั่นละ” แฮร์รี่ตะโกน และลุกขึ้นยืนใหม่
      “แกกล้ามากที่พูดถึงขนาดนั้น พอตเตอร์ แกจะไม่ได้รอดไปหาเพื่อนตัวน้อย ๆ ของแกอีกแล้ว เพราะแกจะต้องตายที่นี่” เบลลาทริกซ์บอก
      “ฉันไม่มีวันแพ้คนอย่างแกหรอก” แฮร์รี่ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ พร้อมทั้งชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่อีกฝ่าย “สตูเปฟาย”
      “โพรเทโก้” เธอเสกคาถาเกราะวิเศษอีกครั้ง พร้อมกับยิ้มอย่างมีชัย แต่ทว่า - -
คาถานั้นไม่ได้ถูกสะท้อนกลับอย่างที่เคย แต่มันกลับทะลุคาถาของเธอจนปะทะกับใบหน้าของเธอเข้าอย่างจัง ผลของคาถาทำให้เธอชะงัก
      “เกือบไปแล้วไหมล่ะ แฮร์รี่” เสียง ๆ หนึ่งดังมาจากข้างหลังเขา - - เสียงของลูปินนั่นเอง
      “บาดเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่าแฮร์รี่” ลูปินถาม
      “ไม่ครับ - - เอ่อ คือว่า เมื่อกี้ทำไมคาถาของผมถึงได้ทะลุเกราะของเบลลาทริกซ์ได้ล่ะครับ” แฮร์รี่ถาม
      “นั่นเพราะว่า ฉันก็เสกคาถาสะกดนิ่งด้วยเหมือนกันน่ะสิ คาถาก็เลยรวมเป็นคาถาเดียว คาถาจากพ่อมดหลายคน จะมีผลที่คาถาเดียวไม่มีวันทำได้ - - แล้วก็ อย่าลืมสิ แฮร์รี่ ฉันไม่ได้เป็นอาจารย์แล้วนะ” ลูปินบอก
      “ครับ” แฮร์รี่ตอบรับ “แล้ว เราจะทำอย่างไรกับเธอดีล่ะครับ”
      “ครูแจ้งกระทรวงเวทย์มนต์ไปแล้ว คิดว่าอีกสักครู่คงจะส่งมือปราบมารมาดูนะ - - ว่าแต่ ครูมารับเธอแล้ว เธอพร้อมหรือยังละ” ลูปินถาม
      “ครับ ผมพร้อมแล้ว - -” แฮร์รี่เงียบไปสักพักหนึ่ง “เอ่อ - - ถ้าเราจะพาครอบครัวเดอร์สลีย์ไปด้วย จะได้ไหมครับ” แฮร์รี่ถามอย่างรวดเร็ว
      ลูปินนิ่งไปชั่วขณะ “ทำไมเธอถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”
      “ก็เพราะว่า จากเหตุการณ์วันนี้แล้ว ผมไม่แน่ใจว่าลุงกับป้าจะปลอดภัย ผมคิดว่า ถ้าเราพาพวกเขาไปด้วย จะปลอดภัยกว่าอยู่ที่นี่นะครับ”
      “ได้สิแฮร์รี่ ทำไมจะไม่ได้ - - การที่เธอคิดอย่างนี้ได้ เป็นการแสดงว่าเธอสูงส่งแค่ไหน” ลูปินบอก “นำไปสิ แฮร์รี่”
      แฮร์รี่พาลูปินเข้าไปในบ้าน เขาขึ้นไปเอาหีบบนชั้นสองก่อน - - ก่อนที่แฮร์รี่จะทันได้แบกหีบหนัก ๆ ของเขา กับกรงของเฮดวิกออกมาจากที่ของมัน ลูปินก็พูดขึ้นว่า “ฉันคิดว่า ถ้าฉันเสกให้มันลงไปในห้องนั่นเล่นก่อน จากนั้น เราส่งมันผ่านเตาผิงไปยังฮอกวอตส์จะสะดวกกว่าไหม” ว่าแล้ว ลูปินก็โบกไม้กายสิทธิ์สองครั้ง หีบของเขา และกรงของเฮดวิกก็หายวับไป
      “อย่าบอกนะครับว่ากองบัญชาการอยู่ที่ฮอกวอตส์”
      “ใช่เลย” ลูปินตอบอย่างรวดเร็ว “ทีนี้ เราก็ไปหาลุงกับป้าของเธอกันดีกว่านะ แฮร์รี่”
      แฮร์รี่นำลูปินเดินลงบันได ผ่านโถงทางเดิน เขาไปยังห้องครัว
      ลุงเวอร์นอน ป้าเพ็ตทูเนีย และดัดลีย์ - - ทั้งสามคนกำลังนั่งล้อมรอบโต๊ะทานอาหารกันอยู่ เมื่อแฮร์รี่กับลูปินเดินเข้าไป ลุงเวอร์นอนก็เอ่ยขึ้น “เฮ้ นี่แกคงไม่ได้ไปเข้ากับพวกมันหรอกนะ” ลุงเวอร์นอนหน้าถอดสี
      “เปล่าครับ นี่คือศาสตราจารย์ลูปิน เขาเป็นพวกเราครับ เมื่อครู่เขาก็มาช่วยผมไว้ด้วย ส่วนผู้เสพย์ความตายถูกสะกดนิ่งอยู่ข้างนอกครับ อีกสักครู่ พวกเจ้าหน้าที่จากกระทรวงคงจะมารับตัวไป” แฮร์รี่บอก “คือว่า ลุงฟังผมนะครับ - - จากเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี่ ผมคิดว่าพวกลุงกับป้า และก็ดัดลีย์คงไม่ปลอดภัยแน่นอน ถ้ายังอยู่ที่นี่ - - ผมคิดว่า จะให้ลุงกับป้าไปอยู่กับเราด้วยครับ”
      ทั้งสามคนมองหน้ากันอย่างใช้ความคิดอยู่ครู่ใหญ่ “ก็ได้ เราจะไปอยู่ด้วย” ป้าเพ็ตทูเนียบอก “แล้ว - - เราจะไปกันอย่างไร”
      แฮร์รี่หันไปมองลูปิน เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าลูปินจะพาเขาไปอย่างไร “คือว่า - - พวกเราจะหายตัวไปที่หมู่บ้านที่ชื่อฮอกส์มีด และเราจะเดินเท้าไปยังฮอกวอตส์ อันที่จริง ผมอยากให้เราผ่านเตาผิงไปยังฮอกวอตส์เลย แต่ว่า พวกเราได้เสกคาถาเพิ่มขึ้นอีกมากมาย ทำให้สิ่งที่จะส่งผ่านเตาผิงได้มีแต่สิ่งไม่มีชีวิตเท่านั้น อย่างเช่นหีบของแฮร์รี่” ลุปินจบประโยค และขยิบตาให้แฮร์รี่
      “ฮอกวอตส์ โรงเรียนที่แกเรียนอยู่นะหรือ” ลุงเวอร์นอนถามแฮร์รี่
      “ครับ แต่โรงเรียนปิดแล้ว และตอนนี้ได้ใช้เป็น - -”
      “เงียบ แฮร์รี่” ลูปินตะโกนลั่น ทำเอาแฮร์รี่สะดุ้ง “เราจะไม่อธิบายอะไรกันที่นี่ทั้งนั้น เราจะพูดกันก็ต่อเมื่อเราปลอดภัย และอยู่ในปราสาทแล้ว เข้าใจไหม แฮร์รี่”
      “ครับ ขอโทษครับ”
      “เอาล่ะ ผมว่าตอนนี้เราไปยังห้องนั่งเล่นกันก่อนดีกว่า เพื่อที่ผมจะได้ส่งหีบของแฮร์รี่ไปยังปราสาท และเราจะได้เดินทางกันสักที” นาทีต่อมา พวกเขาก็อยู่ในห้องนั่งเล่นบ้านเดอร์สลีย์ ขณะที่ลูปินจุดไฟในเตาผิง โดยใช้ไม้กายสิทธิ์ และควักผงฟลูออกมาจากกระเป๋ากำมือหนึ่ง โยนเข้าไปในกองไฟ ทำให้เปลวไฟนั้นกลายเป็นสีเขียวมรกต จากนั้นเขาเคลื่อนย้ายหีบของแฮร์รี่เข้าไปยังปล่อยไฟของเตาผิง ตามด้วยกรงของเฮดวิก
      “แล้วเจอกัน เฮดวิก” แฮร์รี่บอกเจ้านกฮูกของเขา
      “ฮอกวอตส์” หลังจากสิ้นเสียงตะโกนของลูปินที่พูดพร้อมกับชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่หีบและกรงนกนั้น หีบและกรงของเฮ็ดวิกก็หายวับไป
      “เอาละ แฮร์รี่ ทีนี้ก็ถึงตาของพวกเราบ้าง ฉันคิดว่า เราจะหายตัวไปหน้าร้านไม้กวาดสามอัน เธอไปกับดัดลีย์ และส่วนป้ากับลุงของเธอไปกับฉัน ตกลงนะ” ลูปินพูดกับแฮร์รี่
      “แล้วจะให้พวกเราไปอย่างไรละ” ลุงเวอร์นอนถาม
      “ลุงก็แค่จับแขนของอาจารย์ไว้ และให้ป้าจับอีกข้าง แค่นี้ละครับ มาดัดลีย์” แฮร์รี่เรียกให้ดัดลีย์มาจับแขนของเขาไว้ - - ในเวลานี้ ดูเหมือนว่าลุงกับป้ารู้สึกกลัวและตื่นเต้นผสมกัน แฮร์รี่ก็ไม่คิดมาก่อนเหมือนกัน ว่าเขาจะได้ช่วยลุงกับป้าของเขา และก็ไม่คิดมาก่อนอีกเหมือนกัน ว่าในโลกพ่อมดแม่มด จะมีมักเกิ้ลเคยหายตัวอยู่ด้วย
      เมื่อทั้งหมดพร้อมแล้ว บัดนี้ ลุงเวอร์นอนจับแขนขวาของลูปินอยู่ ส่วนป้าเพ็ตทูเนียนั้นดูหวาด ๆ อยู่อีกข้างของลูปิน  ส่วนดัดลีย์ซึ่งตอนนี้กำลังจับแขนของแฮร์รี่อย่างแน่น จนเขารู้สึกเจ็บนิด ๆ แล้ว
      “เอาล่ะ ไปพร้อมกันนะแฮร์รี่ ทันที่ที่ฉันนับสาม เอาละ หนึ่ง สอง ”
      “สาม” ทันทีที่สิ้นเสียงของลูปิน ก็มีเสียงเปรี้ยง เกิดขึ้นสองเสียงติดต่อกันในบ้านเลขที่สี่ซอยพรีเว็ต แล้วทั้งหมดก็หายตัวไป
      บัดนี้ แฮร์รี่ลืมตาขึ้น เขามาอยู่หน้าร้านไม้กวาดสามอันแล้ว
      ฮอกมีดส์ดูเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมาก นอกจากร้านไม้กวาดสามอันที่ดูเหมือนจะย่ำแย่ลงไปกว่าที่เคย เป็นเหตุมาจากที่ไม่มีคนคอยดูแลและเปิดร้านต้อนรับลูกค้าที่มาอุดหนุด  เนื่องจากมาดามโรสเมอร์ทา ถูกคำสาปสะกดใจควบคุมไว้ ได้ถูกส่งไปถอนคำสาปที่กระทรวง และบัดนี้ได้พักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลเซนต์มังโก
      แฮร์รี่มองไปรอบ ตอนนี้หมู่บ้านฮอกมีดส์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นหมู่บ้านที่มีพ่อมดแม่มดมารวมกันมากที่สุดในอังกฤษ บัดนี้ ดูราวกับหมู่บ้านร้างเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่เฉพาะร้านไม้กวาดสามอันเท่านั้น แต่ทุก ๆ ร้านดูเหมือนจะปิดกิจการกันหมด และไม่มีร่องรอย หรือวี่แววของสิ่งมีชีวิตใด ๆ เลย
      “นี่มันเกิดอะไรกันขึ้นครับ” แฮร์รี่ถามลูปิน ในขณะที่พวกเดอร์สลีย์กำลังตื่นตะลึงอยู่กับสิ่งที่เห็น
      “กลายเป็นหมู่บ้านร้างกันไปแล้ว อพยบกันไปหมด เป็นเพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนะ พวกนั้นเห็นตรามารบนฮอกวอตส์ เป็นใครจะไม่กลัว ก็เลยหนีหายกันไปหมด ไม่เหลือเลย แม้แต่คนเดียว” ลูปินทำหน้าเศร้า เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว “เราขึ้นไปที่ปราสาทกันดีกว่า”
      ลูปินเดินนำหน้าพาพวกเดอร์สลีย์และแฮร์รี่ตรงไปยังปราสาท แต่ในขณะนั้นเอง
      เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เสียง เปรี้ยง สามครั้งซ้อนดังขึ้นข้างหลังของพวกเขา ร่างใหญ่ของพ่อมดหรือแม่มดในชุดดำมีฮู้ดปิดหน้าปรากฏตัวขึ้นสามคนทางด้านหลังของพวกเขา
      “แกทำกับเบลลาทริกซ์ได้แสบมาก” เสียงคุ้นหูของแฮร์รี่ดังขึ้นจากใต้ผ้าคลุม
      “มีธุระอะไร มัลฟอย” ลูปินตอบไป ในที่สุดแฮร์รี่ก็นึกออก เสียงของนาซิสซา มัลฟอยนั่นเอง
      นาซิสซาไม่ตอบ หันไปทางแฮร์รี่ “แก พอตเตอร์ ทำให้ลูกเดรโกต้องตาย”
      “อะไรนะ” แฮร์รี่ถาม
      “เงียบซะนาซิลซา ฉันจะฉีกเนื้อของพวกมันเอง” เสียงอันโหดเหี้ยมของอีกร่างหนึ่งเอ่ยขึ้น พลางเดินมาข้างหน้า และเอาฮู้ดคลุมศีรษะออก  เผยให้เห็นฟันที่น่ากลัว ราวกับเขี้ยวของหมาป่ากระหายเลือด
      “แกไม่มีวันได้ทำอย่างนั้นหรอก เกรย์แบค” ลูปินตะโกนอย่างประหม่า “ถอยไปก่อนแฮร์รี่” ลูปินผลักแฮร์รี่ไปข้างหลัง พลางชี้ไม้กายสิทธิ์ขึ้นฟ้า และร้องตะโกนคาถาที่แฮร์รี่ไม่เคยได้ยินมาก่อน “ฟีนิกซ์ ฟินิเลียย์”
      ลูกไฟสีแดงเหลืองจนออกทอง โผล่ออกมาจากไม้กายสิทธิ์ของลูปิน มันขยายใหญ่ขึ้นและลอยสู่ฟากฟ้าเหนือพวกเขา ลูกไฟนั้นแตกออกและระเบิดเสียงดังสนั่น พร้อมกับที่กลายเป็นเสมือนกลุ่มดาวกลุ่มหนึ่งสว่างจ้าอยู่ท่ามกลางท้องฟ้ายามเย็น บัดนี้ ลูกไฟมหึมาลูกนั้นได้กลายเป็นกลุ่มประกายแสงสีเหลืองทองรูปนกฟีนิกซ์ตัวมหึมากำลังสยายปีก ราวกับกำลังโบยบินอยู่บนท้องฟ้า
      เมื่อผู้เสพย์ความตายเห็นดังนั้นก็มีท่าทีแสดงอาการร้อนรน ผู้เสพย์ความตายคนที่สามเอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบมาตลอด “เราหนีกันดีกว่า”
      “อย่าโง่น่า เซอร์ซีย์ เราน่าจะฆ่าเจ้าพวกนี้ก่อนจะกลับไม่ดีกว่าหรือ เรามีเวลาเหลือเฟือกว่าที่พวกของมันจะมาช่วย” เสียงอันแหบห้าวของเกรย์แบคทำให้แฮร์รี่ขนลุกชันไปทั่วร่าง
      “แต่ว่า กองบัญชาการมันน่าจะอยู่ที่ฮอกวอตส์ ไม่อย่างนั้นมันคงไม่มาที่นี่หรอก ถ้าเป็นอย่างนั้น เรารีบหนีก่อนไม่ดีกว่าหรือ” นาซิสซาบอก
      “อย่าปอดแหกน่า นาซิสซา ไม่มีอะไรหรอก เรามาเล่นสนุกกับพวกมันดีกว่า” เสียงแหบห้าวของเกรย์แบคบอกอย่างเลือดเย็น
      “ถ้าอย่างนั้น นายอยู่คนเดียวเถอะ ฉันจะกลับละ” เซอร์ซีย์พูด พลางหันไปทางนาซิสซาเพื่อหาแนวร่วม
      “ใช่ ฉันก็จะกลับ” แล้วทั้งสองคนก็หายตัวไป
      “เอาละ ทีนี้ก็เหลือนายคนเดียวแล้วนะ จะสู้กับเราสองคน หรือจะกลับไปละ” ลูปินพูดหยั่งเชิง
เกรย์แบคสบท จากนั้นก็หายวับไป ทิ้งไว้แต่ความเงียบอันน่าหดหู่ บัดนี้ ผู้เสพย์ความตายคงจะรู้แล้ว ว่ากองบัญชาการของภาคีอยู่ที่ฮอกวอตส์
      แฮร์รี่หันไปมองลูปิน แล้วตัดสินใจทำลายความเงียบ “เออ ผมคิดว่า เราไปที่ฮอกวอตส์กันไม่ดีกว่าหรือฮะ”
      ลูปินซึ่งทำหน้าเครียดกำลังจ้องไปยังอากาศที่ว่างเปล่าที่ผู้เสพย์ความตายหายตัวไป สะดุ้งเมื่อได้ยินแฮร์รี่เรียก “อ้อ ไปสิ ไปกัน” แล้วลูปินก็เดินนำแฮร์รี่ไปสู่ถนนซึ่งทอดยาวไปสู่ปราสาทฮอกวอตส์ มีพวกเดอร์สลีย์เดินตาม และแฮร์รี่อยู่รั้งท้าย
                      ถึงแฮร์รี่
              เราปรึกษากันแล้ว และคิดว่าเราจะไปรับตัวเธอมาพรุ่งนี้เวลาห้าโมงเย็น ถ้าเธอจะเล่าทุกอย่างให้ลุงกับป้าฟังก็ได้ถ้ามีอะไรล่ะก็ ให้ใช้เวทย์มนต์ได้เลย ฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง  ฉันบอกอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ เผื่อว่าจดหมายจะถูกเปิดอ่าน ฉันคิดว่าเธออาจจะไม่ได้กลับมาอยู่กับลุงกับป้าอีกแล้ว เพราะเราจะให้เธออยู่ที่นี่กับพวกเรา
                                                          หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี
                                                              มิเนอร์วา  มักกอนนากัล
      แฮร์รี่พับจดหมายเก็บ และคิดว่าเขาน่าจะบอกลุงและป้าให้รู้เกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น แล้วเขาก็เดินลงบันได เข้าไปในห้องนั่งเล่นรวมของครอบครัวเดอร์สลีย์ เรียกทุกคน และเริ่มต้นเล่าเรื่องทุกอย่างให้ทุกคนฟัง
      “ในเมื่อพวกนั้นคิดจะฆ่าแก และไม่สนใจว่าจะต้องฆ่าสักกี่คนก็ตาม และยังเห็นแกบอกว่าพวกนั้นฆ่าคนที่ไม่มี - - คนที่ปกติดี อย่างพวกเราด้วย ถ้าอย่างนั้นแล้ว เราจะไม่เดือดร้อนไปด้วยหรือ กับเรื่องบ้า ๆ ของแกนี่” ลุงเวอร์นอนถามหลังจากที่แฮร์รี่เล่าเรื่องทั้งหมดจบลง
      “ถ้าลุงห่วงว่าพวกนั้นจะตามล่าตัวผมมาถึงนี่และฆ่าทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ล่ะก็ ลุงก็ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะว่าพรุ่งนี้ห้าโมงเย็น พวกเขาก็จะมารับตัวผมไปอยู่ด้วยแล้ว แต่ที่ลุงต้องห่วงก็คือ เรื่องที่ลุงเข้าใจนั่นละ พวกนั้นตามฆ่ามักเกิ้ล และฆ่าเพื่อความสนุกอีกด้วย นั่นล่ะ คือสิ่งที่ลุงต้องกลัว” แฮร์รี่บอกเสียงเย็น
      “มักเกิ้ลหรือ” ลุงเวอร์นอนทำเสียงสงสัย
      “คือคนที่ไม่มีเวทย์มนต์ครับ” แฮร์รี่บอกเรียบ ๆ
      “อย่าพูดชื่อพวกนั้นในบ้านฉัน” ลุงเวอร์นอนตะคอกใส่แฮร์รี่ พร้อมกับที่หน้าของลุงเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง
      “ลุงยังสนใจอีกหรือครับ ลุงยังกลัวเพื่อนบ้านรู้ในสิ่งที่เกี่ยวกับผมอีกหรือครับ ในเมื่อพวกนั้นอาจจะมาเคาะประตูบ้านหลังใดหลังหนึ่งในซอยพรีเว็ตนี่ เมื่อไรก็ได้นะครับ” หลังจากแฮร์รี่พูดจบ เขาก็ได้ยินเสียงครางหงิง ๆ ของดัดลีย์ แฮร์รี่รู้ว่า ดัดลีย์ยังกลัวไม่รู้ลืมเกี่ยวกับเรื่องที่แฮกริดเคยเสกหางหมูให้งอกมาที่ก้นของดัดลีย์อยู่ “ไม่ต้องกลัวว่าพวกนั้นจะสาปให้นายกลายเป็นหมูหรอกดัดด์ พวกในไม่ทำอะไรอย่างนั้นหรอก พวกนั้นฆ่าเป็นอย่างเดียวละ” แฮร์รี่หันไปบอกกับดัดลีย์
      “ลองให้พวกนั้นทำอะไรดัดลีย์ดูสิ ฉันจะเอาปืนไรเฟิลยิงหัวกระบานมันซะเลย” ลุงเวอร์นอนบอก
      “พวกนั้นไม่กลัวไรเฟิลหรอกครับลุง พวกนั้นฆ่าลุงได้ ก่อนที่ลุงจะพูดคำว่า ออกไป เสร็จอีกครับ คำสาปพิฆาต อะวาดา เคดาฟ-รา ที่ลอร์ดโวลเดอมอร์ฆ่าพ่อกับแม่ผม คำสาปที่ไม่มีทางสะท้อนกลับได้” แฮร์รี่บอกกับลุงเวอร์นอน ด้วยน้ำเสียงที่เจือด้วยความโกรธและความแค้นต่อโวลเดอมอร์
      “แล้วตอนที่พวกนั้นจะฆ่าแก ทำไมแกถึงได้รอดมาได้” ลุงเวอร์นอนถาม
      “ดัมเบิลดอร์บอกผมว่า เป็นเพราะแม่ของผมยอมสละชีวิตเพื่อช่วยชีวิตผมเอาไว้ ทำให้เสกเวทมนต์โบราณขึ้นมา และเป็นเกราะสะท้อนคำสาปได้ และหลังจากนั้น ดูเหมือนว่าดัมเบิลดอร์จะเสกเวทย์มนต์ป้องกันเพิ่มให้อีก แต่เวทย์มนต์นั้นจะมีผลก็ต่อเมื่อผมอยู่ใกล้หรืออยู่ในความดูแลของผู้ที่มีสายเลือดเดียวกันเท่านั้น ซึ่งนั่นก็คือเหตุผลที่เขานำผมมาให้ลุงกับป้าเลี้ยงดู - - อย่างที่เขาบอกลุงกับป้าเมื่อปีที่แล้ว เขาขอให้ผมมาอยู่ที่นี่จนกว่าจะอายุครบสิบเจ็ดปี เพราะว่าคาถาทั้งหมดที่เขาเสกไว้ จะมีผลจนกว่าจะถึงเวลานั้น”
      “แต่แกบอกว่า พรุ่งนี้พวกนั้นจะมารับแก”
      “ครับ พรุ่งนี้ผมก็จะไปแล้ว หวังว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นก่อนถึงเวลานั้น” แฮร์รี่ทิ้งท้ายเอาไว้อย่างไม่ค่อยสบายใจเท่าไรนัก
หลังจากที่แฮร์รี่อธิบายเรื่องราวทุกอย่างให้กับครอบครัวเดอร์สลีย์ฟังทั้งหมด ทั้งสามคนดูเหมือนจะตื่นตกใจและหวาดกลัวมาก อย่างไรก็ตาม เช้าวันต่อมา ตอนที่บุรุษไปรษณีย์มาส่งจดหมาย ลุงเวอร์นอนก็เรียกแฮร์รี่ลงมาดูว่ามีอะไรอยู่ในนั้นหรือเปล่า ทั้ง ๆ ที่เป็นจดหมายธรรมดา  และเมื่อตอนที่คนส่งนมมาเคาะประตูหน้าบ้าน ลุงเวอร์นอนถึงกับสะดุ้งโหยง ร้องเรียกแฮร์รี่เป็นการใหญ่เพื่อให้ไปเปิดประตูรับนมที่ส่งมา และยังให้แฮร์รี่ชิมดูว่ามียาพิษอยู่หรือเปล่า  แฮร์รี่รู้อยู่แกใจดีว่า ถ้าเป็นพวกผู้เสพย์ความตายหรือโวลเดอมอร์คิดจะฆ่าเขาหรือใครแถวนี้ล่ะก็ พวกนั้นคงไม่เสียเวลาทำเรื่องอย่างนี้เป็นแน่แท้ พวกนั้นจะบุกเข้ามาโดยไม่เคาะประตู หรือส่งจดหมายดูลาดเลาหรอก และก็จะสังหารทุกคนอย่างเลือดเย็น
      เวลาบ่ายโมงสามสิบห้านาที แฮร์รี่รู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ดูเหมือนว่าเวลาห้าโมงเย็นสำหรับวันนี้ดูเหมือนจะยาวนานมากเหลือเกิน ทุกอย่างดูเหมือนจะไม่มีความหมาย ดูเหมือนจะหมดความหวังทุกอย่าง ในเมื่อดัมเบิลดอร์จากไปแล้ว - - เมื่อใดที่แฮร์รี่อยู่ใกล้กับดัมเบิลดอร์ เขามีความรู้สึกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะง่ายดายไปเสียหมด ชัยชนะต่อสิ่งต่าง ๆ จะคุกกรุ่นอยู่ในใจ และดูเหมือนว่าเรื่องยาก ๆ ทุกเรื่องจะเป็นเรื่องที่แก้ไขได้อย่างง่ายดายในเมื่อมีพลัง และปัญญาอันเฉียบแหลมของดัมเบิลดอร์ - - แต่ในเมื่อเขาจากไปแล้ว บัดนี้ ไม่มีผู้ใดอีกแล้ว ที่จะยืนอยู่ระหว่างเขากับโวลเดอมอร์ ไม่มีอีกแล้ว - - นับแต่จากนี้ แฮร์รี่ต้องผจญกับพ่อมดที่ชั่วร้ายมากที่สุดในศรรตวรรษด้วยตัวของตัวเอง แต่แฮร์รี่ก็ไม่คิดว่าตัวเองอยู่คนเดียว เพราะเขามีเพื่อนทุกคนอยู่ มีรอน มีเฮอร์ไมโอนี่ และก็ - - จินนี่
      ท่ามกลางความเงียบอันน่าอึดอัดในห้องนอนที่สองของดัดลีย์ในบ้านเลขที่สี่ซอยพรีเว็ต แฮร์รี่ นั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง สำรวจทุกตารางนิ้วของซอยพรีเว็ต ตั้งแต่สายหมอกที่ปรากฏอยู่ทั่วไปตั้งแต่ปีที่แล้ว โคมไฟถนน จนถึงถังขยะที่มีแมวจรจัดตัวหนึ่งกำลังคุ้ยเขียอาหารอย่างหิวโหย - - สายตาของแฮร์รี่เลื่อนไปจับจ้องอยู่ที่นาฬิกาข้อมือของเขา บัดนี้ เป็นเวลาสี่โมงห้าสิบห้านาที ช่างเป็นเวลาที่เนิ่นนานเสียจริง ๆ
      แฮร์รี่เก็บของเสร็จแล้ว และกำลังรอคอยอย่างน่าเบื่อ เขาไม่ได้ลงไปกินอาหารกลางวันกับครอบครัวเดอร์สลีย์ เพราะว่าท้องของเขาไม่สามารถรับอะไรลงไปได้เลย ในสภาวะเครียดเช่นนี้ - - อากาศช่างหนาวอะไรเช่นนี้นะ แฮร์รี่คิด ทั้ง ๆ ที่ภายนอกน่าจะเป็นหน้าร้อน ไม่น่าที่จะมีอากาศหนาวอย่างนี้ได้ แต่เอาเถอะ อย่างน้อยมันก็มีหมอกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว นี่ก็คงจะเป็นผลกระทบจากการเพ่นพ่านของผู้คุมวิญญาณสินะ
      ผู้คุมวิญญาณ
      แฮร์รี่ขนลุกทันทีที่คิด เขาได้แต่หวังว่ามันคงจะไม่เกิดขึ้นหรอกนะ
      แฮร์รี่มองออกไปนอกหน้าต่างห้องของเขาลงไปเบื้องล่างที่ถนน ภาพที่เขาเห็นทำให้ขนของเขาตั้งชันขึ้น ผู้คุมวิญญาณจำนวนสี่รายเลื่อนไหลมาตามพื้นถนนของซอยพรีเว็ต และตรงมาที่บ้านเลขที่สี่
      แฮร์รี่ถลาไปกระชากประตูห้องเปิดอย่างแรง แล้ววิ่งลงบันไดอย่างรวดเร็ว ตรงเข้าไปยังห้องนั่งเล่นของครอบครัวเดอร์สลีย์ ที่สมาชิกทุกคนกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่อย่างสบายใจ พลางชักไม้กายสิทธิ์ออกมา
      “แก เป็นบ้าอะไรอีกล่ะ แล้วเอาไอ้นั่นออกมาทำไม หวังว่าแกคงไม่คิดที่จะ - -” ลุงเวอร์นอนร้องเมื่อเห็นไม้กายสิทธิ์และสีหน้าของแฮร์รี่
      “ผมไม่ทำอะไรลุงทั้งนั้นละ แต่พวกข้างนอกนั่นทำแน่ ตอนนี้ผมอยากให้ลุง ป้า และดัดลีย์ไปหลบในครัวก่อน ผมจะรับมือกับพวกมันเอง ยังดีที่ผู้เสพย์ความตายไม่มาด้วย” แฮร์รี่ตะโกนบอกลุงเวอร์นอน
      “อะไรนะ อะไรที่อยู่ข้างนอก” ลุงเวอร์นอนตะโกนถาม
      “ไม่มีเวลาอธิบายแล้ว ไปเร็ว” แฮร์รี่ตะโกนออกคำสั่งอย่างสุดเสียง ซึ่งแม้แต่ลุงเวอร์นอนยังไม่กล้าที่จะต่อปากต่อคำด้วย เมื่อแฮร์รี่มีไม้กายสิทธ์อยู่ในมือ  หลังจากพวกเดอร์สลีย์เข้าไปหลบในห้องครัวแล้ว แฮร์รี่รีบพุ่งตัวออกไปที่โถงทางเดิน เผชิญกับความหนาวยะเยือกของผู้คุมวิญญาณ บัดนี้ ประตูบ้านได้เปิดออกแล้ว พวกมันค่อย ๆ เลื่อนไหลเข้ามาหาแฮร์รี่ มือที่ราวกับซากศพของมันควานหาไปในอากาศที่ว่างเปล่า ตรงที่ควรจะเป็นดวงตาของมันนั้น  ดูเหมือนว่าจะมองหาสิ่งมีชีวิตอย่างสุดความสามารถ แฮร์รี่ไม่รอช้า - - เขารีบหาความทรงจำที่มีความสุขที่สุด เขารีบนึกถึงรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ เขาคิดถึงงานแต่งงานของบิลกับเฟลอร์ และคิดว่าสักวันเขาคงได้แต่งงานกับจินนี่เหมือนอย่างคู่นี้บ้าง
      “เอกซ์เปกโตร พาโตรนุม” แฮร์รี่ตะโกนสุดเสียง
      กวางหนุ่มสีเงินส่องแสงเจิดจ้า ปรากฏออกมาจากปลายไม้กายสิทธิ์ของแฮร์รี่ พุ่งเข้าใส่ผู้คุมวิญญาณตัวแล้วตัวเล่า จนพวกนั้นทนไม้ได้ รีบถลาร่อนหนีไปท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเย็น
      แฮร์รี่เก็บไม้กายสิทธิ์หันหลังกลับเพื่อที่จะไปหาครอบครัวเดอร์สลีย์แต่ทว่า - -
      เปรี้ยง
เ      สียงดังสนั่นเกิดขึ้นที่หน้าทางเข้าบ้านเลขที่สี่ และสิ่งที่แฮร์รี่เห็นต่อมาก็คือ คน ๆ หนึ่ง ในผ้าคลุมสีดำปรากฏออกมาจากความว่างเปล่าในอากาศ ผู้เสพย์ความตายนั่นเอง
      “ไง เจ้าหนูพอตเตอร์ตัวกระจิ๋ว” เสียงของผู้มาเยือนเอ่ยขึ้น  เสียงนี้เป็นเสียงที่แฮร์รี่จำได้ไม่รู้ลืม เพราะมันเป็นเสียงของคนที่ฆ่าซิเรียส คนที่พรากชีวิตพ่อทูนหัวไปจากเขาตลอดกาล - - เบลลาทริกซ์ เลซแสตรงก์
      “ไม่นึกเลยว่าแกจะเป็นฝ่ายโผล่หัวมาเองแบบนี้” แฮร์รี่เอ่ยเสียงเย็น บัดนี้ ภายในตัวเขามีแต่ความโกรธ และเกลียดในทุกอณูร่างของหญิงที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา แฮร์รี่ชักไม้กายสิทธิ์ออกมาอีกครั้ง และ - -
      ลำแสงสีแดงพุ่งตรงมาที่เขา  แฮร์รี่กระโดดพุ่งตัวหลบ ลำแสงนั้นเฉี่ยวไหลของเขาไปไม่เกินหนึ่งนิ้ว แฮร์รี่พุ่งชนเบลลาทริกซ์ พุ่งออกไปยังลานหน้าบ้าน - - เขาคิดว่า ข้างนอกคงมีที่ให้หลบและสะดวกต่อการต่อสู้มากกว่าโถงทางเข้าแคบ ๆ เป็นแน่
      ลำแสงสีเขียวพุ่งเข้ามาและพลาดตัวเขาไป มันพุ่งไปกระทบกับพุ่มไม้เหี่ยวเฉาจนมันลุกเป็นไฟ เบลลาทริกซ์เดินเข้ามาหาแฮร์รี่
      “เอกซ์เปลลิอาร์มัส” แฮร์รี่ร้องตะโกน พร้อมกับที่ลำแสงสีเหลืองพุ่งออกจากไม้กายสิทธิ์ของเขาตรงไปยังหล่อน
      “โพรเทโก้” เบลลาทริกซ์เสกคาถาเกราะวิเศษกันเอาไว้ คาถาของแฮร์รี่พุ่งกลับมาที่เขา แฮร์รี่กระโดดหลบไปอีกทาง
      “นี่หรือ เด็กชายที่ถูกเลือกให้พิชิตจอมมาร คิดว่าไง - - เอาชนะลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ของจอมมารแค่คนเดียวยังไม่ได้”เบลลาทริกซ์พูด
      “หุบปากซะ เบลลาทริกซ์ แกน่ะเป็นแค่สุนัขรับใช้โวลเดอมอร์แค่นั่นละ” แฮร์รี่ตะโกน และลุกขึ้นยืนใหม่
      “แกกล้ามากที่พูดถึงขนาดนั้น พอตเตอร์ แกจะไม่ได้รอดไปหาเพื่อนตัวน้อย ๆ ของแกอีกแล้ว เพราะแกจะต้องตายที่นี่” เบลลาทริกซ์บอก
      “ฉันไม่มีวันแพ้คนอย่างแกหรอก” แฮร์รี่ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ พร้อมทั้งชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่อีกฝ่าย “สตูเปฟาย”
      “โพรเทโก้” เธอเสกคาถาเกราะวิเศษอีกครั้ง พร้อมกับยิ้มอย่างมีชัย แต่ทว่า - -
คาถานั้นไม่ได้ถูกสะท้อนกลับอย่างที่เคย แต่มันกลับทะลุคาถาของเธอจนปะทะกับใบหน้าของเธอเข้าอย่างจัง ผลของคาถาทำให้เธอชะงัก
      “เกือบไปแล้วไหมล่ะ แฮร์รี่” เสียง ๆ หนึ่งดังมาจากข้างหลังเขา - - เสียงของลูปินนั่นเอง
      “บาดเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่าแฮร์รี่” ลูปินถาม
      “ไม่ครับ - - เอ่อ คือว่า เมื่อกี้ทำไมคาถาของผมถึงได้ทะลุเกราะของเบลลาทริกซ์ได้ล่ะครับ” แฮร์รี่ถาม
      “นั่นเพราะว่า ฉันก็เสกคาถาสะกดนิ่งด้วยเหมือนกันน่ะสิ คาถาก็เลยรวมเป็นคาถาเดียว คาถาจากพ่อมดหลายคน จะมีผลที่คาถาเดียวไม่มีวันทำได้ - - แล้วก็ อย่าลืมสิ แฮร์รี่ ฉันไม่ได้เป็นอาจารย์แล้วนะ” ลูปินบอก
      “ครับ” แฮร์รี่ตอบรับ “แล้ว เราจะทำอย่างไรกับเธอดีล่ะครับ”
      “ครูแจ้งกระทรวงเวทย์มนต์ไปแล้ว คิดว่าอีกสักครู่คงจะส่งมือปราบมารมาดูนะ - - ว่าแต่ ครูมารับเธอแล้ว เธอพร้อมหรือยังละ” ลูปินถาม
      “ครับ ผมพร้อมแล้ว - -” แฮร์รี่เงียบไปสักพักหนึ่ง “เอ่อ - - ถ้าเราจะพาครอบครัวเดอร์สลีย์ไปด้วย จะได้ไหมครับ” แฮร์รี่ถามอย่างรวดเร็ว
      ลูปินนิ่งไปชั่วขณะ “ทำไมเธอถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”
      “ก็เพราะว่า จากเหตุการณ์วันนี้แล้ว ผมไม่แน่ใจว่าลุงกับป้าจะปลอดภัย ผมคิดว่า ถ้าเราพาพวกเขาไปด้วย จะปลอดภัยกว่าอยู่ที่นี่นะครับ”
      “ได้สิแฮร์รี่ ทำไมจะไม่ได้ - - การที่เธอคิดอย่างนี้ได้ เป็นการแสดงว่าเธอสูงส่งแค่ไหน” ลูปินบอก “นำไปสิ แฮร์รี่”
      แฮร์รี่พาลูปินเข้าไปในบ้าน เขาขึ้นไปเอาหีบบนชั้นสองก่อน - - ก่อนที่แฮร์รี่จะทันได้แบกหีบหนัก ๆ ของเขา กับกรงของเฮดวิกออกมาจากที่ของมัน ลูปินก็พูดขึ้นว่า “ฉันคิดว่า ถ้าฉันเสกให้มันลงไปในห้องนั่นเล่นก่อน จากนั้น เราส่งมันผ่านเตาผิงไปยังฮอกวอตส์จะสะดวกกว่าไหม” ว่าแล้ว ลูปินก็โบกไม้กายสิทธิ์สองครั้ง หีบของเขา และกรงของเฮดวิกก็หายวับไป
      “อย่าบอกนะครับว่ากองบัญชาการอยู่ที่ฮอกวอตส์”
      “ใช่เลย” ลูปินตอบอย่างรวดเร็ว “ทีนี้ เราก็ไปหาลุงกับป้าของเธอกันดีกว่านะ แฮร์รี่”
      แฮร์รี่นำลูปินเดินลงบันได ผ่านโถงทางเดิน เขาไปยังห้องครัว
      ลุงเวอร์นอน ป้าเพ็ตทูเนีย และดัดลีย์ - - ทั้งสามคนกำลังนั่งล้อมรอบโต๊ะทานอาหารกันอยู่ เมื่อแฮร์รี่กับลูปินเดินเข้าไป ลุงเวอร์นอนก็เอ่ยขึ้น “เฮ้ นี่แกคงไม่ได้ไปเข้ากับพวกมันหรอกนะ” ลุงเวอร์นอนหน้าถอดสี
      “เปล่าครับ นี่คือศาสตราจารย์ลูปิน เขาเป็นพวกเราครับ เมื่อครู่เขาก็มาช่วยผมไว้ด้วย ส่วนผู้เสพย์ความตายถูกสะกดนิ่งอยู่ข้างนอกครับ อีกสักครู่ พวกเจ้าหน้าที่จากกระทรวงคงจะมารับตัวไป” แฮร์รี่บอก “คือว่า ลุงฟังผมนะครับ - - จากเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี่ ผมคิดว่าพวกลุงกับป้า และก็ดัดลีย์คงไม่ปลอดภัยแน่นอน ถ้ายังอยู่ที่นี่ - - ผมคิดว่า จะให้ลุงกับป้าไปอยู่กับเราด้วยครับ”
      ทั้งสามคนมองหน้ากันอย่างใช้ความคิดอยู่ครู่ใหญ่ “ก็ได้ เราจะไปอยู่ด้วย” ป้าเพ็ตทูเนียบอก “แล้ว - - เราจะไปกันอย่างไร”
      แฮร์รี่หันไปมองลูปิน เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าลูปินจะพาเขาไปอย่างไร “คือว่า - - พวกเราจะหายตัวไปที่หมู่บ้านที่ชื่อฮอกส์มีด และเราจะเดินเท้าไปยังฮอกวอตส์ อันที่จริง ผมอยากให้เราผ่านเตาผิงไปยังฮอกวอตส์เลย แต่ว่า พวกเราได้เสกคาถาเพิ่มขึ้นอีกมากมาย ทำให้สิ่งที่จะส่งผ่านเตาผิงได้มีแต่สิ่งไม่มีชีวิตเท่านั้น อย่างเช่นหีบของแฮร์รี่” ลุปินจบประโยค และขยิบตาให้แฮร์รี่
      “ฮอกวอตส์ โรงเรียนที่แกเรียนอยู่นะหรือ” ลุงเวอร์นอนถามแฮร์รี่
      “ครับ แต่โรงเรียนปิดแล้ว และตอนนี้ได้ใช้เป็น - -”
      “เงียบ แฮร์รี่” ลูปินตะโกนลั่น ทำเอาแฮร์รี่สะดุ้ง “เราจะไม่อธิบายอะไรกันที่นี่ทั้งนั้น เราจะพูดกันก็ต่อเมื่อเราปลอดภัย และอยู่ในปราสาทแล้ว เข้าใจไหม แฮร์รี่”
      “ครับ ขอโทษครับ”
      “เอาล่ะ ผมว่าตอนนี้เราไปยังห้องนั่งเล่นกันก่อนดีกว่า เพื่อที่ผมจะได้ส่งหีบของแฮร์รี่ไปยังปราสาท และเราจะได้เดินทางกันสักที” นาทีต่อมา พวกเขาก็อยู่ในห้องนั่งเล่นบ้านเดอร์สลีย์ ขณะที่ลูปินจุดไฟในเตาผิง โดยใช้ไม้กายสิทธิ์ และควักผงฟลูออกมาจากกระเป๋ากำมือหนึ่ง โยนเข้าไปในกองไฟ ทำให้เปลวไฟนั้นกลายเป็นสีเขียวมรกต จากนั้นเขาเคลื่อนย้ายหีบของแฮร์รี่เข้าไปยังปล่อยไฟของเตาผิง ตามด้วยกรงของเฮดวิก
      “แล้วเจอกัน เฮดวิก” แฮร์รี่บอกเจ้านกฮูกของเขา
      “ฮอกวอตส์” หลังจากสิ้นเสียงตะโกนของลูปินที่พูดพร้อมกับชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่หีบและกรงนกนั้น หีบและกรงของเฮ็ดวิกก็หายวับไป
      “เอาละ แฮร์รี่ ทีนี้ก็ถึงตาของพวกเราบ้าง ฉันคิดว่า เราจะหายตัวไปหน้าร้านไม้กวาดสามอัน เธอไปกับดัดลีย์ และส่วนป้ากับลุงของเธอไปกับฉัน ตกลงนะ” ลูปินพูดกับแฮร์รี่
      “แล้วจะให้พวกเราไปอย่างไรละ” ลุงเวอร์นอนถาม
      “ลุงก็แค่จับแขนของอาจารย์ไว้ และให้ป้าจับอีกข้าง แค่นี้ละครับ มาดัดลีย์” แฮร์รี่เรียกให้ดัดลีย์มาจับแขนของเขาไว้ - - ในเวลานี้ ดูเหมือนว่าลุงกับป้ารู้สึกกลัวและตื่นเต้นผสมกัน แฮร์รี่ก็ไม่คิดมาก่อนเหมือนกัน ว่าเขาจะได้ช่วยลุงกับป้าของเขา และก็ไม่คิดมาก่อนอีกเหมือนกัน ว่าในโลกพ่อมดแม่มด จะมีมักเกิ้ลเคยหายตัวอยู่ด้วย
      เมื่อทั้งหมดพร้อมแล้ว บัดนี้ ลุงเวอร์นอนจับแขนขวาของลูปินอยู่ ส่วนป้าเพ็ตทูเนียนั้นดูหวาด ๆ อยู่อีกข้างของลูปิน  ส่วนดัดลีย์ซึ่งตอนนี้กำลังจับแขนของแฮร์รี่อย่างแน่น จนเขารู้สึกเจ็บนิด ๆ แล้ว
      “เอาล่ะ ไปพร้อมกันนะแฮร์รี่ ทันที่ที่ฉันนับสาม เอาละ หนึ่ง สอง ”
      “สาม” ทันทีที่สิ้นเสียงของลูปิน ก็มีเสียงเปรี้ยง เกิดขึ้นสองเสียงติดต่อกันในบ้านเลขที่สี่ซอยพรีเว็ต แล้วทั้งหมดก็หายตัวไป
      บัดนี้ แฮร์รี่ลืมตาขึ้น เขามาอยู่หน้าร้านไม้กวาดสามอันแล้ว
      ฮอกมีดส์ดูเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมาก นอกจากร้านไม้กวาดสามอันที่ดูเหมือนจะย่ำแย่ลงไปกว่าที่เคย เป็นเหตุมาจากที่ไม่มีคนคอยดูแลและเปิดร้านต้อนรับลูกค้าที่มาอุดหนุด  เนื่องจากมาดามโรสเมอร์ทา ถูกคำสาปสะกดใจควบคุมไว้ ได้ถูกส่งไปถอนคำสาปที่กระทรวง และบัดนี้ได้พักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลเซนต์มังโก
      แฮร์รี่มองไปรอบ ตอนนี้หมู่บ้านฮอกมีดส์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นหมู่บ้านที่มีพ่อมดแม่มดมารวมกันมากที่สุดในอังกฤษ บัดนี้ ดูราวกับหมู่บ้านร้างเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่เฉพาะร้านไม้กวาดสามอันเท่านั้น แต่ทุก ๆ ร้านดูเหมือนจะปิดกิจการกันหมด และไม่มีร่องรอย หรือวี่แววของสิ่งมีชีวิตใด ๆ เลย
      “นี่มันเกิดอะไรกันขึ้นครับ” แฮร์รี่ถามลูปิน ในขณะที่พวกเดอร์สลีย์กำลังตื่นตะลึงอยู่กับสิ่งที่เห็น
      “กลายเป็นหมู่บ้านร้างกันไปแล้ว อพยบกันไปหมด เป็นเพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนะ พวกนั้นเห็นตรามารบนฮอกวอตส์ เป็นใครจะไม่กลัว ก็เลยหนีหายกันไปหมด ไม่เหลือเลย แม้แต่คนเดียว” ลูปินทำหน้าเศร้า เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว “เราขึ้นไปที่ปราสาทกันดีกว่า”
      ลูปินเดินนำหน้าพาพวกเดอร์สลีย์และแฮร์รี่ตรงไปยังปราสาท แต่ในขณะนั้นเอง
      เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เสียง เปรี้ยง สามครั้งซ้อนดังขึ้นข้างหลังของพวกเขา ร่างใหญ่ของพ่อมดหรือแม่มดในชุดดำมีฮู้ดปิดหน้าปรากฏตัวขึ้นสามคนทางด้านหลังของพวกเขา
      “แกทำกับเบลลาทริกซ์ได้แสบมาก” เสียงคุ้นหูของแฮร์รี่ดังขึ้นจากใต้ผ้าคลุม
      “มีธุระอะไร มัลฟอย” ลูปินตอบไป ในที่สุดแฮร์รี่ก็นึกออก เสียงของนาซิสซา มัลฟอยนั่นเอง
      นาซิสซาไม่ตอบ หันไปทางแฮร์รี่ “แก พอตเตอร์ ทำให้ลูกเดรโกต้องตาย”
      “อะไรนะ” แฮร์รี่ถาม
      “เงียบซะนาซิลซา ฉันจะฉีกเนื้อของพวกมันเอง” เสียงอันโหดเหี้ยมของอีกร่างหนึ่งเอ่ยขึ้น พลางเดินมาข้างหน้า และเอาฮู้ดคลุมศีรษะออก  เผยให้เห็นฟันที่น่ากลัว ราวกับเขี้ยวของหมาป่ากระหายเลือด
      “แกไม่มีวันได้ทำอย่างนั้นหรอก เกรย์แบค” ลูปินตะโกนอย่างประหม่า “ถอยไปก่อนแฮร์รี่” ลูปินผลักแฮร์รี่ไปข้างหลัง พลางชี้ไม้กายสิทธิ์ขึ้นฟ้า และร้องตะโกนคาถาที่แฮร์รี่ไม่เคยได้ยินมาก่อน “ฟีนิกซ์ ฟินิเลียย์”
      ลูกไฟสีแดงเหลืองจนออกทอง โผล่ออกมาจากไม้กายสิทธิ์ของลูปิน มันขยายใหญ่ขึ้นและลอยสู่ฟากฟ้าเหนือพวกเขา ลูกไฟนั้นแตกออกและระเบิดเสียงดังสนั่น พร้อมกับที่กลายเป็นเสมือนกลุ่มดาวกลุ่มหนึ่งสว่างจ้าอยู่ท่ามกลางท้องฟ้ายามเย็น บัดนี้ ลูกไฟมหึมาลูกนั้นได้กลายเป็นกลุ่มประกายแสงสีเหลืองทองรูปนกฟีนิกซ์ตัวมหึมากำลังสยายปีก ราวกับกำลังโบยบินอยู่บนท้องฟ้า
      เมื่อผู้เสพย์ความตายเห็นดังนั้นก็มีท่าทีแสดงอาการร้อนรน ผู้เสพย์ความตายคนที่สามเอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบมาตลอด “เราหนีกันดีกว่า”
      “อย่าโง่น่า เซอร์ซีย์ เราน่าจะฆ่าเจ้าพวกนี้ก่อนจะกลับไม่ดีกว่าหรือ เรามีเวลาเหลือเฟือกว่าที่พวกของมันจะมาช่วย” เสียงอันแหบห้าวของเกรย์แบคทำให้แฮร์รี่ขนลุกชันไปทั่วร่าง
      “แต่ว่า กองบัญชาการมันน่าจะอยู่ที่ฮอกวอตส์ ไม่อย่างนั้นมันคงไม่มาที่นี่หรอก ถ้าเป็นอย่างนั้น เรารีบหนีก่อนไม่ดีกว่าหรือ” นาซิสซาบอก
      “อย่าปอดแหกน่า นาซิสซา ไม่มีอะไรหรอก เรามาเล่นสนุกกับพวกมันดีกว่า” เสียงแหบห้าวของเกรย์แบคบอกอย่างเลือดเย็น
      “ถ้าอย่างนั้น นายอยู่คนเดียวเถอะ ฉันจะกลับละ” เซอร์ซีย์พูด พลางหันไปทางนาซิสซาเพื่อหาแนวร่วม
      “ใช่ ฉันก็จะกลับ” แล้วทั้งสองคนก็หายตัวไป
      “เอาละ ทีนี้ก็เหลือนายคนเดียวแล้วนะ จะสู้กับเราสองคน หรือจะกลับไปละ” ลูปินพูดหยั่งเชิง
เกรย์แบคสบท จากนั้นก็หายวับไป ทิ้งไว้แต่ความเงียบอันน่าหดหู่ บัดนี้ ผู้เสพย์ความตายคงจะรู้แล้ว ว่ากองบัญชาการของภาคีอยู่ที่ฮอกวอตส์
      แฮร์รี่หันไปมองลูปิน แล้วตัดสินใจทำลายความเงียบ “เออ ผมคิดว่า เราไปที่ฮอกวอตส์กันไม่ดีกว่าหรือฮะ”
      ลูปินซึ่งทำหน้าเครียดกำลังจ้องไปยังอากาศที่ว่างเปล่าที่ผู้เสพย์ความตายหายตัวไป สะดุ้งเมื่อได้ยินแฮร์รี่เรียก “อ้อ ไปสิ ไปกัน” แล้วลูปินก็เดินนำแฮร์รี่ไปสู่ถนนซึ่งทอดยาวไปสู่ปราสาทฮอกวอตส์ มีพวกเดอร์สลีย์เดินตาม และแฮร์รี่อยู่รั้งท้าย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น