ตอนที่ 9 : Love Rose:Chapter EIGHT
หลานวั่งจีและเว่ยอู๋เซี่ยนเดินทางมายังถ้ำทางทิศใต้อันเป็นเขตหวงห้ามใช้เวลาไปเพียงสองเค่อเท่านั้นไม่นับว่านานนัก ภายในถ้ำนั้นมืดสลั่วสองผู้ฝึกเซียนเดินตรงเข้าไปภายในถ้ำ พลางสอดส่งสายตาสำรวจไปรอบๆเพื่อความไม่ประมาท
"เงียบดีจริง"เว่ยอู๋เซี่ยนกล่าว ยิ่งเดินลึกเข้าไปเท่าไหร่ยิ่งวังเวง ความเงียบงันหาได้มีผลต่อสองผู้ฝึกเซียนไม่ หากเป็นบรรยากาศเย็นเยียบนี้ต่างหากเล่าที่สร้างความกังวลเล็กๆในเซียนซือทั้งสอง
"รอยเท้า..."หลานวั่งจีหยุดยืนมองรอยเท้าเล็กๆที่ปรากฎตรงหน้า จะเรียกว่ารอยเท้าคงไม่ถูกเท่าไหร่หนักเพราะมันเหมือนกับการลากขาเดินมากกว่า เพราะสายตาที่เริ่มชินกับความมืดทำให้คุณชายรองไม่พลาดที่จะมองเห็นร่องรอยเล็กๆนี้
"มีคนอยู่ภายในถ้ำนี้ด้วยหรือ... น่าแปลกนัก"สองเซียนซือมองหน้ากันเล็กน้อยเพื่อปรึกษาเรื่องร่องรอยกัน
ซ่า... ซ่า...
"เสียงน้ำ"หลานวั่งจีเอ่ย เว่ยอู๋เซี่ยนพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงว่าตนก็ได้ยิน สองเซียนหนุ่มเดินตามเสียงน้ำนั้น ลึกเข้าไปภายในถ้ำ จนสังเกตได้ว่ายิ่งเดินเข้าไปยิ่งสว่าง ราวกับข้างหน้ามีจุดที่แสงส่องถึงถึงแม้จะสลัวมากก็ตาม
"..."เว่ยอู๋เซี่ยนเดินขนาบข้างไปกับหลานวั่งจี ก่อนสายตาของคนทั้งคู่จะแลเห็นเด็กน้อยที่น่าจะมีอายุเพียงสี่ถึงห้าขวบปีนั่งตัวสั่นอยู่ตรงหน้าสัตว์ประหลาดที่ดูเหมือนเต่า เว่ยอู๋เซี่ยนและหลานวั่งจีเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเจ้าเต่านั่นกำลังจะพุ่งเข้าใส่เด็กน้อย เซียนซือทั้งสองวิ่งตรงไปช่วยทันที หลานวั่งจีสั่งการกระบี่ปี้เฉินของตนพุ่งไปขว้างในทันที
"เจ้าหนูระวัง!!!"เว่ยอู๋เซี่ยนถลาเข้าโอบกอดเด็กน้อยก่อนจะกระโดดถอยออกมาให้ห่างเจ้าเต่านั่น หลานวั่งจีคว้ากระบี่ขึ้นต่อสู้ขัดขว้างทันที เด็กน้อยราวกับเริ่มไว้วางใจจึงร้องไห้ออกมาเสียงดังเว่ยอู๋เซี่ยนจึงกอดปลอบพร้อมกับลูบหลังให้
"คงตกใจมากสินะเจ้าหนู..."เว่ยอู๋เซี่ยนเอ่ยเสียงแผ่ว เด็กน้อยกำเสื้อตรงอกของเว่ยอู๋เซี่ยนแน่นร้องไห้ไม่หยุดจนน่าสงสาร
ทางด้านหลานวั่งจีนั้นทั้งต่อสู้และหลบเลียง เจ้าเต่าตัวนี้นั้นมีส่วนคล้ายสัตว์เทวะอยู่มากแต่แน่นอนว่าสัตว์เทวะนั้นไม่ทำร้ายคน ซึ่งนั่นหมายความว่าตรงหน้าของหลานวั่งจีคือสัตว์อสูร
เคร้ง!เคร้ง!
แม้จะจะเก่งเพียงใดแต่การต่อสู้ไปและหลบหลีกไปเช่นนี้ย่อมมีหมดแรงกันบ้าง เว่ยอูเซี่ยนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเอ่ยปลอบเด็กน้อยในอ้อมแขนตน เพื่อที่ตนจะได้ช่วยหลานวั่งจีต่อสู้
"เด็กน้อยเจ้าหยุดร้องไห้ก่อนดีหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องกลัวเดี๋ยวข้ากับพี่ชายท่านนั้นจะช่วยเจ้าเองนะ"คล้ายกับว่าเข้าใจเด็กน้อยจึงพยักหน้าขึ้นลง เว่ยอู๋เซี่ยนยกยิ้มลูบหัวเด็กในอ้อมแขนด้วยความเอ็นดูก่อนจะวางร่างเล็กๆนั่นลงที่โขดหินใหญ่แล้วเอ่ยกำชับ "เจ้าหนูน้อยรอข้าอยู่นี่ ข้าจะพาเจ้าออกไปรออยู่นี้เข้าใจหรือไม่" เด็กคนนั้นพยักหน้า เว่ยอู๋เซี่ยนจึงรีบเรียกกระบี่สุยเปี้ยนออกมาวิ่งเข้าไปช่วยหลานวั่งจี
เคร้ง! พึ่บ! ตุบ!
เมื่อเห็นว่าหลานวั่งจีเริ่มหมดแรง เว่ยอู๋เซี่ยนไม่รอช้ารีบกระโดดเข้าไปพยุงหลานวั่งจีหลบไปอีกทาง "หลานจ้าน เจ้าไหวหรือไม่"
"ข้า... ข้ายังไหว เราต้องฆ่ามันซะเหล็กทมิฬ... อยู่ที่ตัวมัน"หลานวั่งจีกล่าวพลางหอบหายใจไปด้วย เว่ยอู๋เซี่ยนนิ่งไปชัวครู่ก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ หลานวั่งจีนั้นพึงทราบเมื่อตอนที่พุ่งเข้าสู้ในตอนแรกเหล็กทมิฬมีการสั่นไหวรุนแรงมากเมื่อเขาเข้าใกล้กระดองของมัน เมื่อเห็นว่าหลานวั่งจีเริ่มได้เรี่ยวแรงคืนมาทั้งสองจึงเริ่มสู้ต่อ
เคร้ง!เคร้ง!เคร้ง!
"หลานจ้านข้าจะอ้อมไปบนกระดองมันฝากเจ้าท่วงเวลาให้ข้าที!"เว่ยอู๋เซี่ยนร้องบอก หลานวั่งจีพยักหน้า ศิษย์เอกสกุลเวินรีบอ้อมตัวไปที่กระดองใหญ่ๆของเจ้าสัตว์อสูรตนนี้ทันที หลานวั่งจีที่รับหน้าที่ท่วงเวลาจึงเริ่มโจมตีไปที่หัวของมันหลังตกเป็นฝ่ายตั้งรับการโจมตีอยู่นาน
"ฮึบ! เอาล่ะนะ!"เว่ยอู๋เซี่ยนเมื่อขึ้นไปบนกระดองนั้นได้ก็จับกระบี่ชี้ลงเตรียมลงกระบี่ที่ต้นคอของสัตว์อสูรตนนี้ทันที ร่างสูงโปร่งกระโดดขึ้นใช้แรงดิ่งลงเพิ่มพลังในส่วยของกำลังกาย ทว่า... กลับไม่ง่ายดังหวังเมื่อสัตว์อสูรไหวตนทันพุ่งมาทางเว่ยอู๋เซี่ยนด้วยความรวดเร็วจนหลานวั่งจีเอ่ยเตือนแทบไม่ทัน
"เว่ยอิง!!!"เว่ยอู๋เซี่ยนได้ยินเสียงเรียกแลเห็นว่ามันกำลังพุ่งมาทางตน แต่ด้วยความที่ยังหล่นไม่พื้นจึงไม่สามารถหลบหลีกได้ ยังดีที่หลานวั่งจีมาช่วยทันแต่ไม่วายโดนกัดเข้าที่แขนซ้ายแม้ไม่แรงแต่ก็มากพอในเสียเลือดมากพอควร
"เว่ยอิง!ถอยก่อน"หลานวั่งจีกล่าวกับก็นำแขนขวาของเว่ยอู๋เซี่ยนพาดบ่าตน กระโดดออกไปยังที่ที่เด็กน้อยที่ช่วยไว้นั่งอยู่ เด็กคนนั้นมีท่าทางตกใจน้ำตาคลอก่อนจะทำท่าเหมือนจะช่วยแต่หลานวั่งจีห้ามไว้เสียก่อน "ไม่ต้อง เจ้ายังอ่อนแอนัก"
"ฮึก..."เด็กน้อยสะอื้นเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเข้าใจโดยง่าย
"กลับไปที่ฉีซานก่อน เรื่องเหล็กทมิฬค่อยว่ากัน"หลานวั่งจีกล่าว เว่ยอู๋เซี่ยนจะกล่าวขัดแต่เมื่อนึกถึงร่างกายตนและอีกคนตอนนี้ก็ต้องยอมไปโดยง่ายไหนจะเด็กน้อยคนนี้อีกเล่า
"เจ้าหนูมาเถอะ กลับกัน"เว่ยอู๋เซี่ยนบอกซึ่งเจ้าตัวน้อยนี้ก็พยักหน้าเข้าใจแต่โดนดี เว่ยอู๋เซี่ยนทำท่าจะอุ้มเด็กน้อยแต่คุณชายรองสกุลหลานกลับขัดขึ้นมาเสียก่อน
"เว่ยอิง... เจ้าบาดเจ็บอยู่"
"แล้วเจ้าจะให้ข้าทำเช่นไรเล่า ให้เขาเดินเองหรือไม่ได้หรอก"
"ข้าอุ้มเอง"
"งั้นเจ้าก็ปล่อยข้าสิ"
"ไม่จำเป็น"หลานวั่งจีกล่าว ก่อนจะย่อตัวลงอุ้มเด็กตัวน้อยๆขึ้นมา ส่วนมืออีกข้างก็คอยพยุงเว่ยอู๋เซี่ยน
"หลานจ้าน... ข้าโดนกัดที่แขนนะไม่เห็นต้องพยุงเลย"เว่ยอู๋เซี่ยนเอ่ยขัด นึกเกรงใจหลานวั่งจีอยู่เนืองๆทั้งอุ้มเด็กน้อยคนนั้นทั้งพยุงตน อีกทั้งตนนั้นโดนกัดที่แขนไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากอยู่ด้วย
"เว่ยอิง... อย่าดื้อ"เพียงเท่านั้นเว่ยอู๋เซี่ยนก็ไม่เอ่ยขัดอะไรอีกเลย นึกระอากับอีกคนนักอยากจะทำอะไรก็ตามใจเจ้าแล้วกันหลานวั่งจี
เวินฉิง เวินหนิงและคนสกุลเจียงทั้งหลายกำลังเก็บของต่างๆของเวินรั่วหานและคนสกุลเวินทั้งหมดให้เข้าที่เข้าทาง เพื่อเตรียมเดินทางไปอาศัยที่อวิ๋นเมิ่งเจียงในวันพรุ่งนี้โดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อใดจะได้กลับมายังฉีซานเวินอีก
"อาอิงจะเป็นเช่นไรบ้างนะน้องข้า"เวินฉิงยืนเหม่อมองฟ้ากว้าง แผ่นฟ้ากว้างใหญ่แต่สิ่งที่มีค่าสำหรับนางช่างน้อยนิดเหลือเกิน นึกห่วงก็แต่น้องชายที่ไปตามหาเหล็กทมิฬกับคุณชายรองสกุลหลานทางใต้
"แม่นางเวินอย่าได้ห่วง ข้าคิดว่าเว่ยอู๋เซี่ยนคงดูแลด้วยเองได้ซ้ำยังไปกับหลานวั่งจีคงมิมีเรื่องต้องห่วง"คุณชายน้อยสกุลเจียงที่เดินมาพอดีเอ่ยตอบ มั่นใจพอควรว่าหลานวั่งจีคงดูแลเว่ยอู๋เซี่ยนเป็นอย่างดี
"เฮ้ออ~ ข้านั้นแค่กังวล ถ้ำทางใต้ของฉีซานนั้นเป็นเขตหวงห้าม เคยได้ยินจากท่านลุงว่ามีสัตว์อสูรอาศัยอยู่แต่ข้านั้นจำไม่ได้แล้วว่าคืออะไร ที่ยอมปล่อยให้อาอิงไปก็เพราะถึงข้าห้ามเขาก็ไม่ฟังอยู่ดี"เวินฉิงเอ่ยด้วยความกังวลใจ นางเคยได้ยินจากเวินรั่วหานเกี่ยวกับสิ่งที่อาศัยภายในถ้ำนึกอย่างไรก็นึกไม่ออก จำได้เพียงแค่เป็นสัตว์อสูรเท่านั้น
"ท่านดูผูกพันธ์กับเว่ยอู๋เซี่ยนนัก ราวกับว่าเขาเป็นน้องชายแท้ๆของท่านจนข้านึกสงสัย ท่านอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็กเลยหรือ"เจียงหวั่นอิ๋นถาม
"เป็นเช่นนั้น ข้า อาอิงและอาหนิงอยู่ด้วยกันตั้งแต่อาอิงห้าขวบปี จึงรู้สึกผูกพันธ์จนเหมือนกับอาอิงเป็นน้องข้าและเป็นพี่แท้ๆของอาหนิง"เวินฉิงเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ แต่หากแววตานางกับโศกเศร้าเหลือเกิน
"แม่นางหากท่านมีสิ่งใดไม่สบายใจบอกข้าได้ทุกเมื่อ"
"ขอบคุณคุณชายเจียง แต่เพียงให้เราไปอาศัยอยู่ที่อวิ๋นเมิ่งข้าก็เกรงใจมากแล้ว คงไม่ขอรบกวน"เวินฉิงยิ้มห้เขาเล็กน้อย ทั้งสองมองหน้ากันชั่วครู่ก่อนจะเสความสนใจไปยังคุณชายรองหลานที่ประคองร่างของเว่ยอู๋เซี่ยนเดินมาพร้อมทั้งอุ้มเด็กน้อยหน้ามอมแมมมาด้วย
"อาอิง!!!คุณชายรอง!!"เวินฉิงร้องเรียกด้วยความตกใจวิ่งไปรับน้องชายตน ยิ่งเห็นใบหน้าเรียวสวยของเว่ยอู๋เซี่ยนที่ดูซีดเซียวจนหน้าใจหายนางยิ่งกังวลหนัก แต่ไม่ลืมที่จะถามถึงเด็กน้อยในอ้อมแขนของหลานวั่งจี "แล้วเด็กคนนี้..."
"ยังก่อน ตอนนี้พาเว่ยอิงไปพักก่อนเขาเสียเลือดมากอาจตายได้"หลานวั่งจีกล่าว เวินฉิงพยักหน้าพร้อมกับอุ้มเด็กน้อยออกมาเพื่อให้หลานวั่งจีพยุงเว่ยอู๋เซี่ยนได้ถนัด ก่อนมาถึงที่นี่เว่ยอู๋เซี่ยนนั้นสิ้นสติไปเพราะเสียเลือดมากทำให้ไม่สามารถเดินเองได้
"คุณชายเจียงข้าฝากบอกเวินหนิงด้วย ตามข้ามาทางนี้เลยคุณชายรอง"เวินฉิงรีบเดินนำไปทันที หลานวั่งจีจึงรีบเดินตามไป ส่วยเจียงเฉิงนั้นไปอีกทางเพื่อบอกข่าวแก่เวินหนิงศิษย์น้องของเว่ยอู๋เซี่ยน
เมื่อมาถึงเรือนของเว่ยอู๋เซี่ยนในยามก่อนจะไปอวิ๋นเซินฯหลานวั่งจีก็บรรจงวางร่างกายบางของเว่ยอู๋เซี่ยนลงบนตั่งนอนอย่างเบามือด้วยความเกรงว่าแผลจะกระทบกับตั่ง เวินฉิงรีบเดินไปยังหีบเก็บยาใกล้ๆตั่งนอน หยิบขวดยาออกมาสองสามขวดก่อนจะเปิดแขนเสื้อขึ้นทายาห้ามเลือดและสมานแผล ส่วนหลานวั่งจีรับช่วงต่อจากเวินฉิงพาร่างกายเล็กของเด็กน้อยที่ตนกับเว่ยอู๋เซี่ยนช่วยไว้ไปนอนที่ตั่งอีกตัว
"คุณชายรองข้าถามได้ใช่หรือไม่ เกิดอะไรขึ้นภายในถ้ำ"เวินฉิงเอ่ยถามแม้ว่ายังคงตั้งมั่นกับการทายาให้ศิษย์น้องรัก
"เจอกับสัตว์เทวะ ตอนที่เด็กคนนั้นกำลังจะถูกกิน"หลานวั่งจีเอ่ยตอบ เวินฉิงชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะตั้งใจทายาต่อสักครู่แล้วนำผ้าขาวสะอาดมาพันแผลไว้
"สัตว์เทวะหรือ... เป็นไปได้อย่างไรสัตว์เทวะไม่ทำร้ายคนมิใช่หรือคุณชายรองหลาน"เวินฉิงเอ่ยถาม
"เป็นเช่นนั้น แท้จริงแล้วเพียงมีรูปร่างคล้ายกันเท่านั้นหาใช่สัตว์เทวะจริงๆไม่"หลานวั่งกล่าวตอบเสียงเรียบ
"แล้วเช่นนั้นมันคือตัวอะไร"
"ถูลู่เซวียนอู่ เป็นสัตว์อสูร"เวินฉิงพลันเบิกตากว้าง นางจำได้แล้ว เวินรั่วหานเคยบอกเอาไว้ว่าภายในถ้ำมีถูลู่เซียนอู่ ใต้กระดองของมันมี... เดี๋ยวสิ...
"แล้วท่านกับอาอิงก็ต่อสู้กับมันหรือ"
"ถูกแล้ว"
"ท่านรู้งั้นหรือว่าในถูลู่เซียนอู่มีเหล็กทมิฬ"หลานวั่งจีนิ่งไปเล็กน้อยไม่นึกมาก่อนว่านางรู้
"ท่านรู้หรือแม่นางเวิน"หลานวั่งจีเอ่ยถาม
"ใช่แล้ว ข้าพึ่งจำได้เมื่อตอนที่ท่านบอกว่าภายในถ้ำคือถูลู่เซียนอู่ ท่านลุงเคยบอกไว้ว่ามีเหล็กทมิฬซ่อนอยู่บนตัวของมัน"
"ที่ใดหรือแม่นาง"
"ใต้กระดอง"
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
________________________
Sey Hi! I'm come back หวัดดีค่ะ ฉินกลับมาแล้วนะ วันนี้อัพซะค่ำมืดเลย ตอนนี้ก็ครอบครัวจริงๆจ้าา~ ยกให้เลยตอนนี้ วันนี้ก็ไม่เคร่งเครียดกันเนาะ มาแบบซอฟๆ
ที่มาอัพช้าไม่ใช่ไรนะติดนิยายยย~
---------------
อุ้ป!มือรวนค่ะ ขออภัย ( = ^ = )
________________________________
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เราพึ่งมาอ่านค่ะ พออ่านแล้วดีต่อใจมากกกกก! สงสารอิงอิง อยากให้อิงอิงกลับสู่แดนเหมยกุ้ยและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขจริงๆ รีบมาอัพนะคะ รออยู่วววว
555555 ความมโน
*หลานจ้านไม่ได้กล่าว
พิมผิด555