ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    AU Fic Reborn : The New Destiny of Vongola (รักครั้งใหม่ฯ ฉบับย้ายบ้าน)

    ลำดับตอนที่ #7 : พี่ชาย

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 61


             “อืม...พวกเราคง...”ระหว่างที่กำลังเอ่ยบอกการตัดสินใจของตนนั้น เลโอเน็กซ์ก็พูดแทรกขึ้นมาซะดื้อๆอย่างไม่สนว่าคำตอบของคนตรงหน้าจะเป็นการยอมรับหรือปฏิเสธก็ตาม

             “ถือว่าไม่ปฏิเสธก็แล้วกันนะ”

             “เอ๋!”

             “ดะ..เดี๋ยวก่อนสิครับ!”สึนะเริ่มรู้สึกไม่สบายใจที่ชายตรงหน้าตัดสินใจเอง เพราะส่วนหนึ่งเขาก็รู้สึกสงสารวองโกเล่พรีโม่ที่ต้องรับภาระในการดูแลทั้งหมด “แบบนี้มันทำให้คนที่มีภาระดูแลผมอยู่แล้วลำบากแย่สิครับ!”

             “ก็ช่วยไม่ได้นี่น่า”หนุ่มผมแดงหยักไหล่เล็กน้อย “ไม่มีสถานที่ไหนเหมาะสมกับพวกเธอเท่าที่นี่แล้วด้วย”

             “อีกอย่างนึงคือ พวกเราสองคนจะรับผิดชอบเรื่องนี้เองถ้าพวกเธอไม่ได้รับความปลอดภัย”คาสเตอร์เอ่ยเสริม “เพราะส่วนหนึ่งก็เป็นการตัดสินใจโดยพลการของเราสองคน”

             “หมายความว่ายังไงกัน?”พรีโม่ถามด้วยความสงสัย “การตัดสินใจของพวกคุณน่ะมันเกินไปหน่อยนะ”

                      สองบุรุษปริศนาเริ่มมีท่าทางทีเอือมระอา แต่ถึงอย่างนั้นพวกเราก็พยายามแสดงออกมาทางสีหน้าให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนพรีโม่เองก็เหมือนจะหงุดหงิดเล็กน้อยกับคำพูดที่เข้าใจยากของทั้งสองคน นอกจากจะเดาความหมายที่สื่อได้ยาก เขายังรู้สึกถึงบรรยากาศที่ผิดคนปกติจากชายเบื้องหน้าอีกด้วย

             “แล้วพวกคุณเป็นใครกันแน่น่ะครับ?”สึนะที่สงสัยถึงตัวตนของพวกเขาเองถาม “ผมสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่น่ากดดันจากพวกคุณ”

            “จำได้ว่าบอกไปแล้วนะ”คาสเตอร์ถอนหายใจแล้วหันไปบอกกับสึนะ “พวกเราเป็นคนรู้จักของคนที่เธอมีความผูกพันด้วย”

            “อย่าให้ต้องพูดซ้ำๆหลายรอบสิ!”เลโอเน็กซ์เริ่มที่จะแสดงท่าทางทีออกจะรำคาญทำให้คาสเตอร์ต้องเหลือบมองด้วยหางตา “ใจเย็นน่าคาส”

             “แล้วพวกเราจะได้กลับเมื่อไหร่น่ะ?”เรียวเฮถามด้วยความอยากรู้ “ที่บ้านยังไม่รู้เลยนี่น่า!”

             “หึ! ผมชักอยากจะขย้ำพวกคุณเต็มทีแล้วนะ”หัวหน้ากรรมการคุมกฎเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แฝงแรงกดดัน แต่สำหรับทั้งสองบุรุษลึกลับกับดูเฉยๆกับมันมากๆ “ขอวันที่ที่ชัดเจนด้วย”

             “คุณแรมโบ้จะไปจัดการยัยบ้านั่น!”เด็กน้อยร้องโวยวายจนคาสเตอร์ที่พยายามจะเก็บความหงุดหงิดไว้ในใจเริ่มจะไม่ทน เขาปล่อยแรงกดดันออกมาจนคนที่อยู่ตรงนั้นทรุดลงจนแทบจะลุกไม่ขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ฮิบาริที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มผู้พิทักษ์ด้วยกัน

             “อยู่เงียบๆซะ ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ”ร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีทองเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและแฝงด้วยความหงุดหงิด 

                     เพราะบรรยากาศที่คาสเตอร์ปล่อยออกมาทำให้ผู้พิทักษ์ของพรีโม่สัมผัสได้ถึงอันตราย จึงรีบวิ่งออกมาดูพร้อมกับหยิบอาวุธคู่ใจของตัวเองออกมาด้วย

             “บอส!”

             “พรีโม่!”

             “โอ๊ะ รู้สึกว่า...”

    Tsunayoshi ‘s Part :

             “เหวอ!”หลังจากที่พวกเราโดนบรรยากาศที่คุณคาสเตอร์สร้างออกมา ไม่นานนักเหล่าผู้พิทักษ์รุ่นแรกก็ต่างวิ่งกรูกันออกมาพร้อมอาวุธพร้อมในมือของพวกเขา ส่วนผมและคนอื่นๆก็ยืนทรุดนั่งทรุดอยู่ตรงนั้นนั่นแหละ เพราะอยู่ใกล้ด้วยก็เลยทำให้ผมขยับตัวไม่ได้ดั่งใจนัก

             “พวกนายเป็นใครน่ะ!”แล้วคุณจีก็ตะคอกถามจากคุณเลโอเน็กซ์และคาสเตอร์จากระยะทางสิบกว่าเมตร แน่นอนว่าพรีโม่แฟมิลี่มุกคนต่างยืนขาสั่นกันทั้งนั้น “ตอบมาเดี๋ยวนี้!”

             “นี่ๆ ถ้าจะถามกันดีๆก็เข้ามาใกล้ๆกว่านี้หน่อยสิ”คุณเลโอเน็กซ์ยิ้มยียวน “หรือว่านายจะกลัวพวกเราที่มีแค่สองคนกันล่ะหะ?”

             “เดี๋ยวก่อน!”พรีโม่ที่พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาเอ่ยห้ามชายทั้งสองคนที่กำลังยืนค้ำหัวพวกเราอยู่ด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “ผมตกลง! แล้วก็ได้โปรดเลิกปล่อยบรรยากาศพวกนี้ออกมาทีเถอะครับ!”

                      คุณคาสเตอร์หันไปหาคุณเลโอเน็กซ์เหมือนจะให้ออกความเห็น ส่วนคุณเลโอเน็กซ์ก็ไม่ได้ตอบแต่พยักหน้าเบาๆแทน พวกเราจะกลับมาขยับตัวได้อีกครั้ง คุณฮิบาริที่ตอนแรกจะไปหาเรื่องเขาทั้งสองก็ดูหน้าซีดไปเลย น่ากลัวจริงๆทั้งสองคนนี้

             “โอเค ถือว่าตกลงโดยความสมัครใจแล้วนะเลโอ”คุณคาสเตอร์พูด “เท่านี้ก็หมดธุระเขาเราสักที”

             “โอเค วันที่พวกเธอจะเดินทางกลับคืออีกหกวันข้างหน้า เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ”

             “จะไปกันแล้วเหรอ?”ยามาโมโตะมองตาตาแป๋ว “มีเรื่องอยากจะถามอีกเยอะแท้ๆ”

             “ไว้สักวันหนึ่ง พวกเราจะอธิบายให้ฟัง”คุณคาสเตอร์พูดทิ้งท้ายก่อนที่เขาและคุณเลโอเน็กซ์จะเดินหายไปข้างในป่า ทิ้งพวกเราให้มองตามด้วยความงุนงงอยู่ตรงนั้น

                      เพราะพรีโม่ตอบตกลงไปเมื่อกี้นี้ ทำให้แฟมิลี่ต้องรับภาระเด็กเพิ่มอีกเจ็ดคน ซึ่งถ้ารวมตัวผมไปด้วยล่ะก็เป็นแปดคนเลยล่ะ ดังนั้นพรีโม่จึงเรียกประชุมเหล่าผู้พิทักษ์เป็นการด่วน ส่วนพวกผมน่ะเหรอ พรีโม่สั่งให้อยู่คอยในห้องนั่งเล่นไปก่อน

             “อืม ยังไงมันก็แปลกๆอยู่นะคำพูดของเจ้าสองคนนั้นน่ะ...”ผมคิดเหมือนกับโกคุเดระคุงนั่นแหละครับ มีคำพูดหนึ่งที่ผมคาใจสุดๆ “รุ่นที่สิบพอจะนึกอะไรดีๆออกไหมครับ?”

             “นั่นสิซาวาดะ!”คุณพี่! “เขาบอกว่าเป็นรู้จักของคนที่นายมีความผูกพันหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ! น่าสงสัยสุดขั้วไปเลย!”

             “นั่นสิครับ แต่ผมคิดไม่ออกจริงๆ”นั่นสิ เป็นคำพูดที่ดูมีความหมายแฝงสุดๆ เดาความหมายที่เขาจะสื่อยากมากๆเลย “อา..ไม่ไหวเลย”

             “ค่อยๆคิดก็ได้นะสึนะ”ยามาโมโตะ...สมกับเป็นเขาจริงๆ “บางทีทั้งสองคนอาจรู้จักคนในครอบครัวของนายก็ได้นะ!”

             “บางทีอาจหมายถึงพ่อของสึนะคุงก็ได้นะ”อืม อันนี้ก็น่าคิดอยู่นะเอ็นมะคุง 

                       ส่วนคุณฮิบารินั้นเขาเกลียดการสุมหัวกันมากที่สุด ฉะนั้นเขาเลยขอแยกห้องไปเลย ก็สมกับเป็นคุณฮิบาริคนนั้นล่ะนะครับ แรมโบ้นั้นหลังจากเหตุการณ์ตอนนั้นเขาก็หลับไปเลย ตอนนี้ก็ยังไม่ตื่น ก็เจ้าตัวเป็นคนทำให้คุณคาสเตอร์อารมณ์ไม่ดีนี่น่า

             “บอสคะ คือฉัน...”

             “เอ่อ มีอะไรรึเปล่าโคลม?”จริงสิ! เกือบลืมโคลมไปเลยนี่น่า! “มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า?”

             “ไม่มี...ค่ะ”เอ แล้วเธอจะเรียกผมทำไมกันนะ “แต่ว่า...ฉันรู้สึกเหมือนจะไม่ใช่คุณพ่อของบอสน่ะค่ะ”

             “เอ๊ะ?”

             “บางทีฉันคิดว่า...น่าจะเป็นคนที่บอสคาดไม่ถึงมากกว่านี้น่ะค่ะ”

             “อะไรของเธอกันน่ะหะ!”ใจเย็นๆโกคุเดระคุง! “มันจะไปมีใครนอกจากท่านพ่...”

             “เดี๋ยวก่อนสิโกคุเดระคุง!”ผมพยายามห้ามไม่ให้เขาเข้าไปทำร้ายโคลม และดูเหมือนเธอจะกลัวมากซะด้วย “บางทีที่โคลมพูดอาจจะถูกก็ได้นะ”

             “เอ๋?”ใช่ ผมรู้สึกว่าสิ่งที่เธอพูดมันถูกต้อง บางทีคนๆนั้นอาจเป็นคนที่ผมคาดไม่ถึงก็ได้ล่ะมั้ง

    End Tsunayoshi ‘s Part. 

         ณ สถานที่อันแสนห่างไกล แห่งหนึ่ง

             “ความรู้สึกแบบนี้...”ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลยืนทำสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนักที่กลางลานกว้าง มือข้างหนึ่งของเขากุมบริเวณหัวใจไว้แน่นพร้อมกับอีกข้างที่ถือเคียวอันใหญ่สีดำสนิทเอาไว้ “เจ็บ...”

             “เฮ้! ดารอน!”เสียงเรียกนามของเขาดังมาจากด้านหลังพร้อมกับเสียงฝีเท้าหนักๆ “มาทำอะไรอยู่ตรงนี้น่ะ?”

             “แฟรคลอยย์ นายเองเหรอ”ชายหนุ่มหันไปดู เมื่อเห็นเป็นเพื่อนของเขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก “ตกใจหมดเลย...”

             “นึกว่าฉันเป็นคณบดีรึยังไง?”แฟรคลอยย์หัวเราะเบาๆ “นายนี่ขี้ระแวงจังเลยนะ!”

             “อือ...”

             “แล้วมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?”เขาถามซ้ำอีกครั้ง “นายยังไม่ตอบฉันเลยนะดารอน”

             “ฉันมาเดินเล่นนิดหน่อยน่ะ”ดารอนพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ “จะกลับแล้วล่ะ”

             “อ๋อ งั้นเหรอ”หนุ่มผมมาใหม่พยักหน้าหงึกๆ “งั้นฉันไปก่อนนะ พอดีเหมือนจะมีเรียกประชุมน่ะ”

             “อา โชคดีนะ”

                      ดารอนโบกมือลาเพื่อนของเขาก่อนที่ร่างของแฟรคลอยย์จะเดินจากไปจากที่แห่งนั้น เหลือเพียงชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มกับเนตรสีรัตติกาลที่ดูลึกลับเกินจะล่วงรู้ความรู้สึกนึกคิด ตอนนี้ที่นี่มีเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น

             “เฮ้อ...”เจ้าหนุ่มถอนหายใจ “ฉันขอโทษนะแฟรคลอยย์”

             “...”ดารอนคว้านหาบางอย่างในกระเป๋าเสื้อนอกสีดำของเขา “เจอแล้ว...”

             “พี่ครับ...”

                      มันคือรูปถ่ายที่ถูกพับเก็บไว้เป็นอย่างดี ในรูปมีภาพคนห้าคนที่มีใบหน้าที่คล้ายกัน นั่นคือรูปถ่ายของพี่น้องฝาแฝดนั่นเอง แต่ละคนต่างมีสีตาที่แตกต่างกัน เว้นเพียงคนเดียวที่มีสีนัยน์ตาเหมือนกันกับสีผมสีน้ำตาลเข้ม คนที่นั่งอยู่ตรงกลาง

             “ผมขอโทษนะครับ...”

                      และคนๆนั้นคือพี่ชายของดารอนและพี่น้องอีกสามคน ฝาแฝดคนโตที่ไม่มีตัวตนในโลกนี้อีกแล้ว เพราะเขาได้จากไปนานแสนนาน และกลับมาอีกครั้งในที่ๆพี่น้องของตัวเองไม่รู้จัก ในดินแดนอันแสนไกล แต่ถึงอย่างนั้นเขาจะกลับมาทำตามคำสัญญาที่ให้เอาไว้อย่างแน่นอน

            ‘พี่สัญญา...พี่จะกลับมา ได้โปรดรอพี่ก่อนนะ’

         เมืองนามิโมริ

             “คุณอารินครับ”อเลนสันเอ่ยเรียกหญิงสาวข้างๆ “คือว่า...”

             “นาโอคิค่ะ”เธอรีบแก้ต่างชื่อของตนที่ชายหนุ่มเรียกผิด “มีอะไรเหรอคะ?”

             “มีคำสั่งใหม่มารึเปล่าครับ?

             “ไม่มีค่ะ”สาวเจ้าตอบพร้อมส่ายหน้า “แต่รู้สึกว่าพวกท่านเลโอเน็กซ์จะเริ่มงานกันแล้วนะคะ”

                      ในอนาคตอันใกล้นี้จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นอีกนะ...

    สวัสดีทุกคน! เราว่าจะหาเวลามาชดเชยที่ไม่ได้อัพไป แต่เหมือนความขี้เกียจจะเข้าครอบงำนะ 555 แต่จะพยายามหาเวลาชดเชยให้แน่นอนค่ะ! อย่าลืมเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ! ขอบคุณค่ะ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×