ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    AU Fic Reborn : The New Destiny of Vongola (รักครั้งใหม่ฯ ฉบับย้ายบ้าน)

    ลำดับตอนที่ #6 : ฝากฝัง

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 61


         ในเย็นวันต่อมา

             “โถ่เว้ย!”

             “ใจเย็นๆน่าโกคุเดระ!”

                      สองสหายผู้พิทักษ์วายุและพิรุณเดินตีคู่มาพร้อมกัน เด็กหนุ่มผมเงินดูจะมีสีหน้าที่ไม่ค่อยจะสบอารมณ์นัก ผิดกับหนุ่มตัวสูงที่เดินข้างๆพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูสบายใจบนใบหน้า แต่จุดประสงค์ของทั้งคู่เหมือนกันคือมาหาบอสของตน ซาวาดะ สึนะโยชิ

             “น่าแปลกมากที่รุ่นที่สิบจะไม่สบายกะทันหันแบบนี้”โกคุเดระครุ่นคิดอย่างประหลาดใจ “ก็เมื่อวานน่ะ รุ่นที่สิบยังสบายดีแถมไปโรงเรียนด้วย”

             “ตอนกลับอาการหวัดของเขาอาจจะเพิ่งแสดงออกมาก็ได้นี่น่า”ยามาโมโตะพูดออกมาด้วยท่าทางสบายๆ “นายน่ะ หัดมองโลกในแง่ดีมั้งนะ”

             “เรื่องของฉันน่า!”

             “นั่นไง! แบบนี้จะยิ่งทำให้สึนะไม่สบายใจนะ!”

                      ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังมุ่งหน้าสู้บ้านซาวาดะ ที่อดีตนั้นเด็กหนุ่มที่ทั้งสองกำลังจะมาหาก็กำลังนั่งทานคุกกี้อย่างสบายใจในห้องรับแขกของปราสาท เจ้าตัวยังอุตส่าห์ช่วยงานพวกเมดในปราสาทเพื่อไม่ให้ดูเป็นภาระพรีโม่แฟมิลี่อีกด้วย

             “จะว่าไปเด็กคนนั้น...”

             “ขยันสุดๆไปเลย”

         บ้านซาวาดะ ในยุคปัจจุบัน

             “สวัสดีครับ!”

             “พวกเรามาเยี่ยมสึนะครับ”

                       ยามาโมโตะพูดพร้อมกดกริ่งที่หน้าบ้านไปพลาง สักพักหนึ่งประตูบ้านก็ถูกเปิดต้อนรับผู้มาเยือนโดยคุณนายเจ้าของบ้าน นานะ เธอออกมารับเด็กหนุ่มทั้งสองด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร และโกคุเดระก็สังเกตได้ถึงความผิดปกติภายในบ้าน

             “สวัสดีครับท่านแม่”

             “สวัสดีครับคุณน้า”

             “สวัสดีจ้ะทั้งสองคน”

             “รุ่นที่สิบล่ะครับ?”วายุหนุ่มเอ่ยถามผู้เป็นแม่ของบอสตัวเองด้วยความเป็นห่วง “หายจากหวัดรึยังครับ?”

             “ยังเลยจ้ะ...”

             “มาม๊าโกหกเจ้าพวกนั้นทำไมกัน?”จู่ๆรีบอร์น ครูพิเศษตัวน้อยก็โผล่มาแทรกบทสนทนาด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดและดูจริงจัง “ทำไมไม่บอกเจ้าพวกนี้ไปตรงๆเลยล่ะ”

             “หมายความว่ายังไงกันเหรอเจ้าหนู?”ยามาโมโตะถามอัลโกบาเลโน่จุกนมสีเหลืองด้วยความสงสัย “คุณน้าน่ะ...”

              “ก็เจ้าสึนะน่ะ หายตัวไปจากบ้านตั้งแต่เมื่อวานเย็นนี่น่า”

             “เอ๋!”

                      ทั้งสองหนุ่มแสดงท่าทีตกใจออกมา นานะเองก็ยืนเหงื่อตกอยู่ตรงหน้าของพวกเขา แต่ไม่ทันที่ทั้งสองจะถามไถ่อะไร ของบางสิ่งก็ลอยเข้าใกล้โกคุเดระก่อนที่มันจะครอบลงไปบนตัวของเด็กหนุ่ม ควันชมพูลอยคลุ้งไปทั่วจนบดบังวิสัยทัศน์รอบข้าง

             “ว้าย!”

             “มาม๊า!”

             “โกคุเด..”ยามาโมโตะพยายามตะโกนเรียกหาเพื่อนของเขาในม่านควันแต่จู่ๆเสียงของเขาก็ขาดหายไปและหายตัวไปจากตรงนั้นโดยไม่เหลือร่องรอยอะไรไว้เลย สร้างความตกใจให้ทั้งนานะและรีบอร์นเป็นอย่างมาก

             “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่...”

         ที่อดีต

             “โอ้ย!”

             “โอ๊ะโอ่...”

                      ทั้งสองก็ได้มาโผล่ที่เดิมกับที่สุนะเคยโผล่มาเด๊ะๆ แต่ต่างกันตรงที่คนที่มาเจอพวกเขาทั้งสองไม่ใช่ลูกน้องในสังกัดแต่เป็นตัวของคนที่มาที่นี่ก่อนหน้าทั้งสองคน คนที่มาโผล่ที่ตรงนี้ สึนะนั่นเอง! เมื่อทั้งสามคนได้เห็นหน้ากันก็ต้องตกใจไปตามๆกัน

             “โกคุดระคุง! ยามาโมโตะ!”

             “รุ่นที่สิบ!”

             “สึนะ!”

                      ตามด้วยร่างของคนที่พวกเขาทั้งสามคุ้นหน้าคุ้นตาหลายๆคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวออกมาจากที่ไหนสักแห่ง เหล่าผู้พิทักษ์อีกสี่คนและบอสชิม่อนแฟมิลี่รุ่นที่สิบอีกหนึ่งคน เรียวเฮ ฮิบาริ โคลม แรมโบ้และเอ็นมะ ตามด้วยร่างสูงของบุรุษสองนายที่ด้านหลังพวกเขา

             “ที่นี่ที่ไหนน่ะ!”เรียวเฮหันซ้ายหันขวาไปรอบด้วยความตกใจปนตื่นเต้น “ซาวาดะ!”

             “บอสคะ?”ส่วนสายหมอกสาวก็ทำตาแป๋วมองหน้าบอสของเธอ “ที่นี่...”

             “หึ!”

             “ง่ะ! คุณแรมโบ้โดนหลอกเหรอเนี่ย งี่!”เด็กน้อยในชุดลายวัวทำท่าทางหงุดหงิดพร้อมกับทำหน้าจะร้องไห้ “คุณแรมโบ้จะจัดการยัยคนหลอกลวงนั่น!”

             “หึ!”

             “ฮึ...”

              “พวกคุณคือ...”เอ็นมะมองดูทั้งสองคนด้วยความงุนงง “แล้วที่นี่มัน...”

              “ที่นี่คืออดีตในยุดของพรีโม่แฟมิลี่น่ะ”ชายคนหนึ่งในสองคนนั้นตอบพร้อมรอยยิ้มที่แฝงเลศนัยอย่างประหลาด “ส่วนพวกเราคือคนที่ขอร้องให้คนๆหนึ่งส่งพวกเธอทุกคนมาที่นี่ ฉันเลโอ เลโอเน็กซ์”

             “ฉันคาสเตอร์”คนที่อยู่ข้างๆเอ่ยแนะนำตัวสั้นๆ “เป็นเพื่อนของเลโอ”

             “ผมไม่สน...”เด็กหนุ่มผมสีดำขลิบควักอาวุธประจำตัวของเขาออกจากที่ซ่อนพร้อมมองทั้งสองบุรุษปริศนาด้วยแววตาที่เย็นชา “แต่ถ้าอธิบายเหตุผลที่ส่งผมมาสุมหัวกับเจ้าพวกสัตว์กินพืชพวกนี้ไม่ได้ ผมจะขย้ำคุณ!”

            “ว้าก! อย่านะครับคุณฮิบาริ!”สึนะรีบเข้าไปห้ามด้วยความตื่นตระหนก “แล้วคุณคือคนที่ผมเดินชนนี่น่า แล้วก็ที่...”

             “ที่อยู่ในเหตุการณ์ในร้านผลไม้สินะ”คาสเตอร์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “เธออยู่ที่ร้านราเม็งที่อยู่เยื้องกันกับที่เกิดเรื่องใช่ไหม ซาวาดะ สึนะโยชิคุง”

             “ทำไมพวกแกถึงรู้จักชื่อรุ่นที่สิบ!”วายุรุ่นสิบเริ่มเดือดเป็นไฟ “แกเป็นใครกันหะ!”

             “คนรู้จักของคนที่เขามีความผูกพันด้วยก็เท่านั้นเอง”เลโอเน็กซ์หัวเราะเบาๆ “หึๆๆ”

                      หลังจากเกิดเรื่องวุ่นวายชุลมุนที่ป่านั้นระหว่างวองโกเล่รุ่นที่สิบกับชายปริศนา เหล่าพลีโม่แฟมิลี่ที่เป็นห่วงสึนะก็เริ่มเป็นห่วงว่าเด็กหนุ่มจากอนาคตจะเป็นอะไรไปรึเปล่าจึงรีบออกตามหาจนมาพบกับกลุ่มกระจุกของเดชิโม่แฟมิลี่พร้อมกับร่างสูงของบุรุษทั้งสอง

            “เดชิโม่! นั่นมัน...”

             “โอ๊ะ! สวัสดีจีอ๊อตโต้”เลโอเน็กซ์กล่าวทักทายเจ้าของปราสาทด้วยรอยยิ้มระรื่น “มาพอดีเลย”

             “ทำไมพวกคุณถึง...”พรีโม่ตกใจมากที่คนตรงหน้ารู้ชื่อจริงของตัวเองทั้งๆที่เขาเพิ่งเคยพวกผู้ชายสองคนนี้เป็นครั้งแรก “รู้ชื่อนั้น...”

             “นิดหน่อยน่ะ”คาสเตอร์ตอบแทนเพื่อนของเขา “เรามีเรื่องต้องคุยกันนิดหน่อยเหมือนกันนะ วองโกเล่พรีโม่”

            “อึก...”

            “นี่มันอะไรกันเนี่ย...”

             “อยากจะฝากเด็กพวกนี้ไว้สักสัปดาห์จะได้รึเปล่าล่ะ?”เลโอเริ่มเปิดประเด็นด้วยสีหน้าจริงจัง “เรามาเพราะมีเรื่องจะคุยกับเธอนี่แหละ”

             “เอ๊ะ?”

             “พอดีมีเรื่องวุ่นวายที่อนาคตนิดหน่อย และเด็กพวกนี้คงไม่ปลอดภัยแน่ๆถ้าอยู่ที่นั่น”คาสเตอร์อธิบาย “อย่างจะฝากฝังพวกเขาไว้กับเธอสักหน่อยจะได้ไหม?”

            “ฝากไว้เนี่ยนะ?”

         ณ คฤหาสน์ของอาริน

           “คราวนี้ส่งไปพร้อมกันหมดเลยเนี่ยนะครับ”นายองครักษ์แสดงสีหน้าไม่พอใจอย่างยิ่งเมื่อเห็นว่าหัวหน้าของตนทำเรื่องวุ่นวาย “มันเกินไปแล้วนะครับ!”

            “ฉันคงไม่มีเวลาส่งไปทีละคนแล้วล่ะค่ะคุณอเลนสัน”เธอพูดกับนายองครักษ์ด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจัง “ตามการคาดการณ์ของคณบดีทั้งสอง เธอคนนั้นเคลื่อนไหวแล้วค่ะ”

             “ว่ายังไงนะครับ!”

            “ถ้าเธอมาที่นี่เร็วตามที่ท่านเลโอเน็กซ์และท่านคาสเติร์บอก” หญิงสาวเวียบไปสักพักก่อนที่สีหน้าของเธอจะซีดเผือดลง “เด็กๆจะไม่ปลอดภัยนะคะ”

            “เร็วกว่าที่ผมคิดอีกเหรอเนี่ย...”

            “ต่อจากนี้ ทางคณบดีคงหาทางทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะนะคะ”

                     หญิงสาวเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืนของเมืองนามิโมริด้วยความเศร้าสร้อย และเอามือทั้งสองกุมไว้ที่หน้าอกของเธอ ในใจอธิษฐานอย่างเปี่ยมด้วยความหวังอันแรงกล้า ชายหนุ่มเมื่อเห็นท่าทางของเธอก็รีบออกจากห้องไปโดยทันทีเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวน

            “ท่านคะ ได้โปรดคุ้มครองพวกเขาให้ปลอดภัยการการคุกคามที่น่ากลัวนี่ทีเถอะนะคะ”

            ‘...เรา...รับคำขอของท่านแล้ว...’

    สวัสดีค่ะทุกคน ขอโทษที่หายไปตั้งสองตอนนะคะ พอดีติดธุระนิดหน่อยน่ะค่ะ หวังว่าจะไม่โกรธเรานะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×