ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    AU Fic Reborn : The New Destiny of Vongola (รักครั้งใหม่ฯ ฉบับย้ายบ้าน)

    ลำดับตอนที่ #5 : ความช่วยเหลือจากพรีโม่แฟมิลี่

    • อัปเดตล่าสุด 5 ต.ค. 61


                      สึนะถูกบาซูก้าทศวรรษยิงเข้าทำให้การเดินทางข้ามเวลาครั้งที่สอง(?)เกิดขึ้น แต่คราวนี้มันไม่ได้ไปโผล่ที่อนาคต แต่ไปโผล่ที่อดีต ในยุคก่อตั้งวองโกเล่ใหม่ ยุคของวองโกเล่พรีโม่นั่นเอง แต่เหมือนว่าเด็กหนุ่มจะตกไม่ค่อนตรงจุดเท่าไหร่นะเนี่ย

             “โอ้ย!”

                      รอบข้างเป็นป่ารกทึบที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจีและพงหญ้า ยิงกว่านั้นยังไม่มีผู้คนอาศัยหรือสัญจรผ่านอีกด้วย แต่ว่า ใช่ว่าใกล้เคียงบริเวณนั้นจะไม่มีคนอยู่นะ มีอยู่เยอะแยะเลยล่ะ เสียงร้องโอดครวญของเด็กหนุ่มเมื่อครู่ก็เหมือนจะถูกรับรู้แล้วด้วย

             “ใครน่ะ?!”

             “แสดงตัวออกมาเดี๋ยวนี้!”

                     ชายฉกรรจ์ในชุดสูทพร้อมแว่นดำนับสิบคนผู้มาพร้อมกับอาวุธปืนในมือเล็งมันไปที่เด็กหนุ่มผู้บุกรุก ภาษาอิตาลีถูกพ่นออกมารัวๆราวกับปืนกล ซึ่งสึนะก็ฟังมันไม่รู้เรื่องเลยสักกะประโยคเดียว พวกเขามาพร้อมกับบุรุษร่างสูงโปร่งที่ท่าทางองอาจ 

             “มีอะไรเกิดขึ้นอย่างงั้นเหรอ?”

             “มีผู้บุกรุกเข้ามาในเขตของเราครับบอส”ชายที่เป็นหัวหน้าเดินเข้าไปดูใบหน้าของผู้บุกรุกใกล้ๆแล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อคนๆนั้นคือ....

             “เดชิโม่!”

             “พรีโม่!”

                      เหตุการณ์หลังจากนั้นคือว่าที่บอสรุ่นที่สิบจากอนาคตก็ได้รับการอุปการะจากวองโกเล่พรีโม่ บอสรุ่นแรกในยุคบุกเบิกวองโกเล่ มีที่อยู่ที่อาศัย มีอาหารและอะไรหลายๆอย่างที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต แต่แลกกับต้องโดนใครในปราสาทมองแปลกๆเท่านั้นเอง

             “เอ่อ...ขอบคุณที่อุตส่าห์ช่วยผมนะครับ”เด็กหนุ่มกล่าวขอบคุณทั้งน้ำตา “ผมกลัวมากว่าจะอยู่ยังไงดี”

             “ไม่เป็นไรหรอก”บุรุษแห่งนภายิ้มรับคำขอบคุณ “เรื่องแค่นี้เอง”

             “แต่ว่าจะพาผมไปไหนล่ะครับเนี่ย?”

             “ห้องนั่งเล่นน่ะ”

                      หลังจากเดินเข้ามาพร้อมกับเจ้าของปราสาท สึนะก็รู้สึกตื่นเต้นปนๆกับตื่นตาตื่นใจกับข้าวของในสมัยโบราณที่ยุคของเขาไม่มี จนชายร่างสูงโปร่งผมสีทองเดินมาหยุดที่ห้องๆหนึ่ง ประตูไม้สลักลวดลายสวยงามที่คาดว่าน่าจะเป็นห้องนั่งเล่น

             “ที่นี่เหรอครับ?”

            “ใช่แล้วล่ะ”พรีโม่ตอบก่อนจะเคาะประตูให้สัญญาณคนในห้อง “นี่ฉันเอง”

             “บอสเองเหรอ”เสียงในห้องดูวุ่นวายสักพักก่อนที่จะมีคนมาเปิดประตูต้อนรับ “เชิญเลย”

                      คนที่ออกมาเปิดประตูไม่ใช่ใคร เขาคือมือขวาผู้ภักดี จี ผู้พิทักษ์แห่งวายุตอนแรกๆก็ออกมาต้อนรับผู้เป็นบอสควบตำแหน่งเพื่อนสนิทด้วยสีหน้านิ่งเรียบ แต่เมื่อเขาเห็นหน้าของผู้ที่มาด้วยอย่างว่าที่บอสรุ่นสิบ เจ้าตัวก็ตกใจและรีบหันขวับไปถามคนที่เดินมาคู่กัน

             “นี่บอส เด็กคนนี้...”จีชี้นิ้วไปที่สึนะ “เดชิโม่ไม่ใช่เหรอ?”

             “ใช่แล้วล่ะจี”

                      ตามด้วยการยกโขยงกันมาของพรีโม่แฟมิลี่ พวกเขาหลังจากเห็นหน้าของสึนะก็ดูจะตกใจไปตามๆกัน ส่วนเด็กหนุ่มจากอนาคตก็ทำได้แค่ยิ้มแหยะๆส่งให้กับหนุ่มหล่อทั้งเจ็ด แฟมิลี่รุ่นแรกรีบลากสองหนุ่มเข้าไปในห้องทันที หวังว่าทั้งสองจะตอบคำถามที่คาใจของพวกเขาได้

         ณ ปัจจุบัน

             “สึคุง!”

             “สึนะ!”

                      การที่สึนะหายตัวไปทั้งๆที่กลับมาที่บ้านแล้ว สร้างความประหลาดใจให้นานะผู้เป็นแม่อย่างมาก และขณะเดียวกันนั้นเอง เสียงกดกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้นเป็นระยะๆ นานะรู้สึกเป็นกังวลว่าลูกชายของเธอหายไป และเสียงกดกริ่งก็ดังขึ้นอีก

             “ตายแล้ว! ลูกคนนี้หายไปไหนล่ะเนี่ย”ปากบ่นพึมพำเบาๆด้วยความกังวล แต่ขาทั้งสองข้างก็ยังเดินไปดูว่าใครเป็นที่กดกริ่งที่หน้าบ้านของเธอ “ค่า!”

             “สวัสดีครับ”ด้านหลังประตูคือบุรุษผมสีทองในชุดสีขาวบริสุทธิ์ “บ้านซาวาดะสินะครับ”

             “สวัสดีค่ะ...”นานะเพ็งมองร่างตรงหน้าสักพัก “คุณคือ...”

             “นี่ครับ...”

                      ชายคนนั้นยื่นจดหมายหนึ่งฉบับให้เธอก่อนจะเดินจากไป นานะรู้สึกคุ้นเคยกับใบหน้าของชายแปลกหน้ามากๆ แต่ก็ไม่ได้เอะใจ เธอรีบเปิดจดหมายอ่าน พบว่าเนื้อหาข้างในเขียนอย่างบรรจงด้วยลายมือเป็นภาษาญี่ปุ่น พร้อมกับเข็มกลัดเล็กๆแนบมาด้วย

             “นี่มัน...”

             “มีอะไรเหรอมาม๊า?”เด็กทารกในชุดสูทเสนอหน้าออกมาด้วยความสงสัย “มีเรื่องอะไรรึเปล่า?”

             “อ๊ะ! เปล่าจ้ะรีบอร์นคุง”เธอตอบด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีอะไรหรอกนะจ๊ะ”

             “งั้นเหรอ...”

                      นานะรีบเอาจดหมายฉบับนั้นซ่อนไว้ที่ข้างหลังของตนในทันทีเพื่อไม่ให้คนในบ้านเห็นมัน จดหมายที่ส่งมาจากสามีของเธอ และแทรกด้วยจดหมายอีกฉบับที่ไม่เชิงเรียกว่าจดหมาย เพราะมันเป็นแค่กระดาษโน้ตเล็กๆที่ใส่ไว้เท่านั้น บนกระดาษเขียนว่า...

             ‘สึนะโยชิลูกชายของคุณปลอดภัยดี’

             “หมายความว่ายังไงกันนะ?”

                      ณ ที่แห่งหนึ่ง ในจักรวรรดินาว่า ชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบของเงากำลังนั่งทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่ที่ลานกว้างสีแดงฉาน พร้อมกันกับมีเสียงฝีเท้าย่องเบาๆเข้าใกล้ตัวของชายคนนั้น แต่ว่าเขารู้สึกตัวเสียก่อนจึงหันไปมองที่จุดกำเนิดของเสียง

             “อะไรกัน นายเองเหรอรารีฟ”เขาหรี่ตาลงก่อนจะเลิกสนใจผู้มาเยือนใหม่ “นึกว่าจะเป็นคณบดีซะอีก

             “พูดแบบนั้นหมายความว่ายังไงกันเหรอดารอน คิกๆ”ผู้มาใหม่หัวเราะในลำคอ “โดนเรียกใช้บ่อยจนคิดว่าฉันคือคณบดีเลยเหรอ”

             “ก็นะ”ดารอนเงยหน้าขึ้นตอบ “มีอะไรก็เรียกใช้ฉันเป็นประจำ จนทุกวันนี้ได้ยินเสียงฝีเท้าใครก็คิดว่าเป็นคณบดีหมดแล้วล่ะ”

             “แต่ก็มีคนที่อิจฉานายเยอะอยู่นะ คิๆ”รารีฟแสยะยิ้ม “นายน่ะเป็นเหมือนลูกรักของพวกคณบดีเลยนี่น่า ได้สิทธิพิเศษด้วย”

             “ถ้าพวกนั้นอยากเป็นฉันมากนักล่ะก็...”เขาเงียบไปสักพักก่อนจะเหลือบตามองออกไปที่บริเวณอาณาเขตของคณบดีที่เขารำคาญ “ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ”

             “อะไรกันๆ”

                      เขาคือหนึ่งในคนที่คณบดีไว้ใจมากที่สุดและ...มีฐานะทางสังคมในจักรวรรดิไม่ธรรมดา แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็หนีออกมาจากสิ่งเหล่านั้นเพราะสูญเสียสิ่งสำคัญไป

             “พี่ครับ...”

         ที่อดีต

             “จะบอกว่าเธอเดินทางข้ามเวลาได้อย่างงั้นเหรอ?”จีนึกสงสัย “แต่ในอนาคตมีของที่สามารถส่งคนให้ข้ามเวลาได้อย่างแม่นยำขนาดนั้นเชียวเหรอ...”

             “เอ่อ ก็ไม่เชิงครับ”สึนะหัวเราะแห้งๆ “ผมเองก็ยังงงๆอยู่เหมือนกัน...”

             “แต่ก็นะ ให้เขาพักที่นี่น่ะดีที่สุดแล้วขอรับ”ผู้พิทักษ์พิรุณยิ้มแป้น “อีกอย่างยังไงเขาก็ยังเป็นเด็กนะขอรับ

             “นั่นสิ ข้างนอกอันตรายแบบสุดขีด”นัคเคิลเห็นด้วยกับอุเก็ตสึ “อยู่ที่นี่ดีกว่ามากเลยล่ะนะ”

             “อีกอย่างยังไงเขาก็คือผู้สืบทอดวองโกเล่ ผมยอมก็ได้”เดม่อนเอ่ยปากรับแบบไม่ค่อยจะเต็มใจนัก “ถึงจะไม่ใช่คนในอุดมคติของผมก็เถอะ”

             “เอ่อ ผมขอบคุณมากจริงๆนะครับ”เด็กหนุ่มกล่าวขอบคุณ “ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยก็บอกมาได้เลยนะครับ”

                      สึนะและพรีโม่แฟมิลี่ตกลงอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข...

            “แบบนี้ดีแล้วใช่ไหมคะ?”หญิงสาวหันไปถามชายหนุ่มข้างๆพื่อให้เขาออกความเห็น “หรือว่ายังไม่ดีพอคะ?”

             “คุณอารินทำรุนแรงไปแล้วนะครับ”เขาตอบด้วยสีหน้านิ่งเรียบแต่น้ำเสียงดูจะไม่พอใจนิดๆ “ไม่บอกคนในครอบครัวก่อนล่ะครับ!”

             “นาโอคิค่ะ”สาวสวยเหลือบมองเขาด้วยหางตา ใบหน้าของเธอยิ้มอยู่ก็จริง แต่กลับเคลือบด้วยบรรยากาศที่น่าหงุดหงิด “ฉันขอร้องล่ะนะคะ”

             “ขอโทษครับ”เขากล่าวขอโทษด้วยสีหน้าเอือมระอา “คุณนาโอคิ”

             “ฉันว่าแบบเด็ดขาดนี่แหละดีที่สุดนะคะคุณอเลนสัน”เธอพูดด้วยรอยยิ้มที่แฝงด้วยความสนุก ทำให้ชายหนุ่มเริ่มที่จะเหนื่อยใจจึงทำท่าจะเดินจากไป

             “ตามใจคุณแล้วกันนะครับ”และเขาก็เดินออกไปจากห้องทั้งอย่างนั้น อารินจึงทำได้แต่มองตามไป ประตูปิดลงทำให้ภายในห้องเหลือเพียงหญิงสาวคนเดียว เธอหัวเราะเบาๆก่อนหยิบแผ่นกระดาษเล็กๆออกมา เมื่อเห็นสิ่งที่เขียนในกระดาษเธอก็ยิ้มออกมา

             “รายต่อไปคงจะเป็นโกคุเดระ ฮายาโตะคุงสินะ”

    สวัสดีค่ะ! ตอนใหม่มาแล้วนะคะ! เอาเป็นว่าสึนะถึงที่หมายอย่างปลอดภัยแถมมีที่อยู่ที่อาศัยอีกด้วย ต่อไปคงถึงคราวของผู้พิทักษ์ของเขาแล้วล่ะ เจอกันอีกในวันอาทิตย์นะคะ! เวลาลงอาจจะดึกไปหน่อยนะ เราไปแล้วค่ะ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×