ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    AU Fic Reborn : The New Destiny of Vongola (รักครั้งใหม่ฯ ฉบับย้ายบ้าน)

    ลำดับตอนที่ #2 : คดีฆาตกรรมในเมืองนามิโมริ และ การประชุมสภาราชวงศ์

    • อัปเดตล่าสุด 2 ต.ค. 61


             “อา ว่างสุดๆเลยนะเนี่ย”

             “คุณท่านคะ อย่าทำท่าทางแบบนั้นในเวลางานสิคะ”

                      ณ สถานที่แห่งนี้ CEDEF องค์กรที่ปรึกษานอกแก๊งของวองโกเล่ที่เปิดให้คำปรึกษาด้านกฎหมายบังหน้า ซึ่งมีหัวหน้าคือ ซาวาดะ อิเอมิสึ พ่อของซาวาดะ สึนะโยชิ วันนี้มันก็เป็นวันธรรมดา แต่ไม่ปกติสักเท่าไหร่สำหรับหมายเลขสองของวองโกเล่นัก

             “ฉันขอตัวก่อนนะคะ”

               “อา ตั้งใจทำงานด้วยล่ะออเรกาโน่”

         ตรู๊ด....ตรู๊ด...

             “สวัสดีครับ”

             [ไง เอ็น] เสียงปลายสายเอ่ยทักทายด้วยชื่อที่แปลกประหลาด [ไม่ได้คุยกันตั้งนาน สบายดีไหม?]

             “มาเค!”อิเอมิสึทำท่าทางไม่พอใจพร้อมทุบโต๊ะเสียงดังจนคนข้างนอกตกใจ “ฉันบอกแล้วไงว่าจะติดต่อไปเองน่ะ! นายโทรมาทำไมเนี่ย!”

             [อะไรกันๆ! นายจะขึ้นเสียงทำไมเนี่ย!]ปลายสายเจ้าของชื่อ’มาเค’สบถออกมาด้วยความงุนงงปนหงุดหงิด [เพราะมีเรื่องด่วนหรอกนะฉันถึงต้องรีบติดต่อนายน่ะ’เอ็นริโอ้’!”]

             “เรื่องด่วนเหรอ?”

             [ก็ใช่น่ะสิ! ท่านน่ะเรียกประชุมสภาราชวงศ์แบบด่วนๆน่ะสิเจ้าเพื่อนบ้า!]

             “ว่ายังไงนะ!ประชุมด่วนอย่างงั้นเหรอ!”

             [ใช่! รีบกลับด่วนเลยนะถ้านายยังเป็นตัวแทนของตระกูลวาเลนเช่อยู่ เอ็น]

             “โอเค ฉันจะรีบจัดการเรื่องทางนี้ด่วนที่สุดเลย!”

             [รีบมาล่ะ ภายในวันนี้นะ]

                      ก่อนที่สายจะถูกตัดไปเสียดื้อๆ ถึงอย่างนั้นสีหน้าของอิเอมิสึก็ไม่ได้เหมือนคนอารมณ์ดีนัก คิ้วทั้งสองข้างขมวดเป็นปม ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งพลุ่งพล่านออกจากห้องไปด้วยความเร่งรีบ ตรงไปยังห้องของรุ่นที่เก้า เพื่อลางานเป็นการด่วนที่สุด

         ประมาณ 15 ต่อมา

             “ให้ตายสิ เจ้าเพื่อนบ้า...”

                     ถึง ปากบ่นอุบอิบเบาๆอย่างหัวเสีย แต่สีหน้าของเขาดูขัดแย้ง ดวงตาเบิกกว้างและแววตาสั่นระริก ตอนนี้อิเอมิสึได้ขอลางานไว้สักพักโดยอ้างว่าจะกลับไปหาลูกที่ญี่ปุ่น ทั้งๆที่จริงเขากำลังจะเดินทางไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ไม่ใช่ญี่ปุ่นและไม่ได้อยู่ที่โลกใบนี้

             “เฮ้อ...”

                  ข้าคือนายของเจ้า ผู้ถือครองเจ้าอย่างถูกต้องโดยสายเลือดของข้า...รับฟังคำขอร้องของข้าด้วยเถิด มนตรา

             “จงเปิดออก ประตูสู่ดินแดนแห่งความรุ่งโรจน์ นาเรสเซนเดรีย วาเชสก้า ที่ที่ข้าจากมา”

             ‘เราขานรับท่านแล้ว...’

                      สิ้นเสียงของอิเอมิสึแสงสว่างวงกลมขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา มันคือประตูมิตินั่นแหละ แต่ว่ามันจะพาเขาไปที่ไหนกันนั้น... ก็รอดูแล้วกัน บุรุษในชุดสูทยืนนิ่งๆสักพัก ถอนหายใจก่อนค่อยๆก้าวขาเข้าไปใกล้ๆแสงสีขาว เรื่อยๆ จนร่างของเขาถูกกลืนหายไป

             “นี่ฉันไม่ได้กลับมานานเลยสินะ นาว่า”

         ณ สถานที่แห่งหนึ่ง

             “นั่นใครกันน่ะ?”

             “รูปร่างหน้าตาแปลกประหลาดจัง ดูไม่เหมือนพวกเราเลย”

              “...”

                        ร่างสูงของบุรุษในชุดสูทปรากฏท่ามกลางผู้คนมากมายในชุดเครื่องแบบหรูหรา เจ้าตัวก็ไม่ค่อยใส่ใจกับที่ที่พวกเขาแสดงเท่าไหร่นักหรอก แต่สนใจที่จะกวาดสายตามองหาเพื่อนที่เรียกเขามาที่นี่มากกว่าเสียอีก แต่คงจะยากเมื่อต้องหาคนๆเดียวกลางฝูงคนนะ

             “เดี๋ยวก่อนขอรับ!”สักพักหลังจากที่เขาเพิ่งจากเดินก้าวออกจากบริเวณที่โผล่มา คนที่เหมือนกับทหารยามจำนวนสองคนก็วิ่งตรงมาทางเขาแล้วเอ่ยเรียก “ท่านเป็นใคร? มาทำอะไรที่นี่กันขอรับ?”

             “ผมเหรอ?”อิเอมิสึชี้นิ้วเข้าหาตัวเองแล้วทำหน้าฉงน “ก็มาประชุมน่ะสิครับ”

             “ประชุมรึขอรับ?”นายทหารคนหนึ่งมองหน้าพลางส่งสายตาแบบสงสัย “ท่านสังกัดราชวงศ์ไหนขอรับ?”

              “อา ลืมเลย...”เจ้าตัวทำหน้าเหนื่อยใจ ก่อนเขามือของตัวเองหยิบอะไรบางอย่างขึ้นมา “ขอโทษทีนะคุณเทโอ”

             “เดี๋ยวก่อนขอรับ! ที่แห่งนี้ห้ามพกอาวุธมานะขอรับ!”

                      ทหารยามเทโอและเพื่อนของเขาอีกหนึ่งคนทำท่าทางแตกตื่นเมื่อเห็นคนพกอาวุธเข้ามาในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ฝูงชนรอบข้างก็แสดงอาการจนเริ่มวุ่นวาย แต่สองทหารต้องชะงักเมื่อหมายเลขสองของวองโกเล่เอามันมากรีดลงที่ใบหน้าของตัวเอง 

             “เดี๋ยวก่อนนะ! นั่นคือเขาเองเหรอ!”

             “กษัตริย์เอ็นริโอ้แห่งราชอาณาจักรอิเทรเชียนี่น่า!”

             “ท่านคือ...”ทหารยามเทโอมองตาค้าง “ท่านเอ็นริโอ้แห่งวาเลนเช่เองเหรอขอรับ!”

              “อา ขอโทษที่ทำให้แตกตื่นกันนะครับ”ที่เขากรีดใบหน้าตัวเองก็เพื่อกรีดหน้ากากที่ตัวเองใส่ไว้เท่านั้นเอง ภายใต้สิ่งนั้นคือใบหน้าที่เกลี้ยงเกลาไร้หนวดเครา ดวงตาสีน้ำผึ้งและผมสีทองอร่าม ใบหน้าที่แท้จริงของกษัตริย์เอ็นริโอ้แห่งอาณาจักรอิเทรเชีย

             “เจ้าบ้าเอ็น!”

             “มาเค!”

             “ถึงว่าสิเขารุมมองอะไรกัน นายนี่เอง!”

             “ก็ฉันหายนายไม่เจอนี่น่า!”

                      อีกด้านหนึ่งที่เมืองนามิโมริ ฮิบาริ เคียวยะที่กำลังหัวเสียกับอะไรสักอย่าง เรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นภายในเมืองอันแสนสงบสุข(?)ของเขา ที่ตำรวจยังต้องกุมขมับและยังไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง มันคือคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในคืนของเมื่อวานนี้

            “คุณเคียวครับ!”คุซาคาเบะ ลูกน้องคนสนิทวิ่งพรวดพราดเข้ามาทางประตูด้วยสีหน้าตื่นตระหนกพร้อมกระดาษประมาณสองถึงสามแผ่นในมือ “นี่คือเอกสารการสืบสวนของตำรวจครับ!”

             “หึ!”เด็กหนุ่มผมสีดำขลิบรับมันด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก “แล้วก็นะ ไปหาข้อมูลมาเพิ่มด้วยนะเทตสึ”

             “รับทราบครับ!”

                      จะขอย้อนความสักนิดก็แล้วกัน เมื่อคืนวานนี้ได้เกิดเหตุฆาตกรรมกรรมขึ้นเวลา 22:27 นาทีที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองโดยที่ผู้เสียชีวิตคือชาวต่างชาติไม่ทราบชื่อ ถูกฆ่าอย่างทารุณในห้องที่เขาอยู่ สภาพศพถูกเฉือนเป็นชิ้นๆกระจาดกระจายตามพื้นห้อง เลือดกระเซ็นนองและอวัยวะภายในไหลทะลักออกมาจนน่าสะอิดสะเอียน

             “นี่มันฝีมือใครกันเนี่ย...”

                       คดีนี้ยังคงเป็นปริศนาในหลายๆอย่างเพราะคนร้ายไม่เหลือเบาะแสให้จับเลยสักชิ้นเดียว ไม่มีอะไรเลย ทำเอาตำรวจเมืองนามิโมริมืดแปดด้าน และสำหรับฮิบาริ เคียวยะ ถ้าเกิดเรื่องวุ่นวายในเมืองที่เขารัก เขาจะทนอยู่เฉยๆไม่ได้เลยล่ะ คนร้ายจะต้องไม่ลอยนวลและเล็ดลอดออกไป

             “หึ! ดูสิว่าใครมันเป็นคนที่ทำให้เมืองนามิโมริวุ่นวาย”เจ้าตัวพูดพร้อมกับหยิบทอนฟาที่ซ่อนไว้ออกมา “ผมจะขย้ำมันให้หมดเลย!”

         คนที่ทำเรื่องพวกนี้นั้น...คือใครกันนะ

             “แต่นี่มันอะไรกันน่ะ เลโอ?”

             “อะไรกันคาส”เลโอยิ้มเจ้าเล่ห์ “ทั้งๆที่มันก็เป็นฝีมือนายครึ่งนึงนะ”

             “แต่ส่วนใหญ่นายทำนะ’เลโอเน็กซ์’”

                      แล้วสองคนนี้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้รึเปล่านะ? แล้วพวกเขาเป็นใครกันแน่!? และมาที่นี่เพื่ออะไร?

    โอเคค่ะ ในที่สุดก็มีเวลาแต่งตอนสองสักที 555 ว่าจะแต่งเมื่อวานแต่ดันติดดูการ์ตูนซะงั้น เราว่าจะลงสั้นๆ ดีไหมคะ และลงถี่แต่ไม่ถึงกับลงทุกวัน ประมาณวันเว้นวันจะโอเคไหมคะ?  ถ้ามีอะไรตกหล่นก็บอกได้นะคะ พอดีพิมพ์ในโทรศัพท์แล้วไม่ได้ไล่อ่านอีกรอบ แค่นี้ล่ะค่ะ ขอให้อ่านแล้วรู้สึกสนุกไปกับมันนะ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×