ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    AU Fic Reborn : The New Destiny of Vongola (รักครั้งใหม่ฯ ฉบับย้ายบ้าน)

    ลำดับตอนที่ #1 : การพบพานแห่งโชคชะตา

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ย. 61


                      นี่ก็ผ่านไปได้ประมาณ 3 วันแล้วล่ะที่พวกเรากลับมาจากอนาคต ผมกำลังดื่มด่ำกับความสงบสุขที่โหยหามาแสนเนิ่นนานด้วยการออกไปเดินรับลมด้านนอก โชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุด ผมจึงทำแบบนั้นได้ จนกระทั่งกำลังจะผ่านเส้นทางที่ว่างเปล่า...

             “โอ๊ย!”นั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวประหลาดในอนาคตอันใกล้...

                      ชายร่างสูงในชุดไปรเวทธรรมดาที่ดูเหมือนจะไม่มีความพิเศษ แต่บรรยากาศที่แผ่ซ่านออกมาจากรอบๆตัวของเขามันช่างน่าขนลุกซะเหลือเกิน ผิวขาวออกซีดผิดแผกแตกต่างจากคนญี่ปุ่น กับผมสีแดงและดวงตาเรียวคมที่มีสีเดียวกับผม ราวกับร่างตรงหน้าของเด็กหนุ่มไม่ใช่มนุษย์

             “นี่เธอ เป็นอะไรรึเปล่า?”ชายร่างสูงย่อตัวลงมาพร้อมยื่นมือข้างหนึ่งหวังพยุงร่างที่เล็กกว่าตัวเองให้ยืนขึ้นด้วยความหวังดี

             “ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะครับ แหะๆ”สึนะหัวเราะแหยะๆพลางเอื้อมมือไปจับที่มือของอีกฝ่ายก่อนดึงตัวเองขึ้นจากพื้น “คราวหน้าผมจะเดินระวังกว่านี้ครับ”

             “อา”ชายปริศนาแสยะยิ้มให้อย่างพึงพอใจ “คราวหลังเดินระวังให้มากกว่านี้นะ”

                      ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินแยกทางกันไป แต่เห็นคงจะมีแต่เด็กหนุ่มล่ะมั้งที่จากไปจากบริเวณนั้น เพราะชายร่างสูงคนนั้นกำลังยืนแน่นิ่งที่กลางทาง สีหน้าท่าทางก็ดูเหมือนตกใจกับอะไรสักอย่าง สักพักเดียวเจ้าตัวก็เปลี่ยนสีหน้ากลับมายิ้มอย่างน่าประหลาด

             “หึ! อย่างนี้น่าเอง...”เขาหัวเราะเบาๆในลำคอ “คงต้องบอกคาสเตอร์ด้วยตัวเองแล้วสินะ”

                       พูดจบชายคนนั้นก็จากไปราวกับไม่มีตัวตน... ทางด้านสึนะก็เดินเข้าไปในย่านการค้าเพื่อจะไปทานราเม็ง ซึ่งเขาก็เดินเข้าไปในร้าน สั่งเรียบร้อยและรออาหารที่สั่งอยู่นั้น ก็เกิดเรื่องวุ่นวายที่แผงขายผลไม้ฝั่งตรงข้ามที่เยื้องกับร้านที่เด็กหนุ่มนั่งอยู่เพียงนิดเดียวเท่านั้น

         ในสถานการณ์อันแสนวุ่นวาย...

             “อย่าเลยนะ ป้าไม่มีเงินขนาดนั้นหรอก”หญิงร่างท้วมวัยกลางคนเอ่ยอ้อนวอนชายฉกรรจ์ที่เป็นหัวโจกที่มาพร้อมลูกกระจ๊อกด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด แต่ชายหนุ่มไม่สนใจแล้วสั่งลูกน้องทำลายแผงผลไม้จนกระจัดกระตายเต็มพื้น ชาวเมืองก็ทำได้แค่มุงดูแต่ไม่คิดจะเข้าไปช่วยเพราะพวกเขาคงไม่มีแรงไปช่วยจนมีชายร่างสูงย่างเข้าไป

              “โว้ย! แกจะเข้ามา...”ไม่ทันที่ลูกน้องจะพูดจบประโยค หมัดหนักๆก็ชกร่างนั้นปลิวติดกำแพงซะแล้ว

              “หยุดการกระทำของพวกคุณเดี๋ยวนี้!”น้ำเสียงหนักแน่นเอ่ยจากปากของวีรบุรุษปริศนา “อย่าให้ผมต้องลงมือด้วยตัวเอง”

             “หา? แกเป็นใครกันฟะ?”

             “ผมก็แค่คนที่เดินผ่านมา”

             “งั้นเหรอ แต่ว่านะ แกคนเดียวจะไหวเหร๊อ?”กลุ่มอันธพาลเยาะเย้ยด้วยความสนุกสนาน แต่ไม่ทันไรร่างยักษ์ใหญ่ของพวกนั้นก็ลงไปกองกับพื้นเพียงไม่กี่วินาที คนที่มุงดูต่างทึ่งและอึ้งกับเรื่องประหลาดใจตรงหน้ารวมถึงเด็กหนุ่มด้วย เขาจึงรีบพยุงป้าเจ้าของร้านขึ้นมา

             “เป็นอะไรมากรึเปล่าครับคุณป้า?”เขาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง หญิงร่างท้วมยิ้มให้กับชายหนุ่มก่อนจะตอบด้วยสีหน้าที่เบิกบาน 

             “ป้าไม่เป็นไรแล้วล่ะจ้ะ ขอบใจนะจ๊ะพ่อหนุ่ม”

             “ไม่เป็นไรครับ”

                       แล้วเขาก็เดินจากไปพร้อมทิ้งภาพความประทับใจแรกให้กับชาวเมืองและสาวๆหลายๆคน ก็นะ หน้าตาของชายหนุ่มเนี่ยก็ใช่ว่าจะธรรมดา ออกจะหล่อเหลาเสียด้วยซ้ำ สึนะที่ได้อาหารที่สั่งแล้วก็ชะเง้อคอมองตรงร่างที่กำลังเดินห่างออกไปด้วยความสนใจ

             “เขาเป็นใครกันนะ?”

                      ชายคนนั้นกำลังเดินออกมาจากเขตเมืองเพื่อพบกับใครบางคน คนที่สึนะเพิ่งจะเดินชนนั่นเอง บุรุษผมสีแดงที่มีบรรยากาศประหลาดรอบตัวนั่น ส่วนตัวเขาก็คือคาสเตอร์ ที่ชายปริศนาเคยเอ่ยถึง ใช่แล้ว ทั้งคู่คือเพื่อนกัน และพวกเขาไม่ใช่มนุษย์

             “ไง เลโอ”

              “ไง คาส”

                       คำกล่าวทักทายที่ไร้พิธีรีตองเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าของ ‘เลโอ’ออกมาจน ‘คาสเตอร์’รู้สึกสงสัยในรอยยิ้มนั่น เพราะเหมือนกับว่าเพื่อนของเขาไปพบไปเจอกับอะไรสักอย่างที่มันน่าสนุกมาอย่างนั้นแหละ ไม่เพียงเท่านั้น คาสเตอร์ยังสัมผัสได้ถึง...

             “นี่มัน...ไม่ใช่กลิ่นของนายนี่เลโอ?!”

             “ใช่ เป็นกลิ่นของ...พี่ชายของเด็กที่เรารับมาน่ะ”เลโอยิ้มแป้นพร้อมโชว์รูปถ่ายของคนห้าคน “จำได้ไหม?”

             “เด็กคนนั้นน่ะเหรอ!”

             “ใช่ ดวงตะวันที่หายไปน่ะ เขานั่นแหละ”

                      เวลาล่วงเลยมาจนถึงยามเย็นว่าที่บอสวองโกเล่ที่เดินเที่ยวสำรวจไปรอบๆเมือง ก็มาหยุดอยู่ที่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่สไตล์ยุโรปที่ตั้งตระง่านรับแสงอาทิตย์ยามอัสดง มันสวยเสียจนสึนะหลงใหลและนึกสงสัยว่าใครกันที่เป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังงามนี้กันนะ

             “แต่ว่านะ ในเมืองนามิโมริมีคฤหาสน์แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?”

                     ไม่ทันจะได้เข้าไปเด็กหนุ่มก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่กำลังจับจ้องมาจากภายใน เขาเริ่มที่จะไม่กล้าและล้มเลิกความคิดของตัวเอง เวลานั้นก็เย็นมากแล้ว หมายความว่าเขาจะต้องกลับบ้านแล้วล่ะ บอสแห่งวองโกเล่จึงต้องบอกลาด้วยความเสียดาย

             “ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาถามก็แล้วกัน”

                      แสงสนธยาสาดกระทบกับตัวคฤหาสน์ที่เป็นสีครีม ทำให้มันแปรเปลี่ยนเป็นสีส้มออกแดงนิดๆ ที่หน้าต่างในห้องหนึ่งของชั้นสอง เจ้าของสายตาที่เพิ่งจับจ้องผู้มาเยี่ยมเยือนเบื้องล่างด้วยความยินดี หญิงสาวหนึ่งนางและบุรุษร่างสูงในชุดเครื่องแบบคล้ายองครักษ์

             “ขอบคุณนะคะ คุณอเลนสัน”หญิงสาวหันไปเอ่ยขอบคุณชายหนุ่มข้างกายด้วยรอยยิ้ม

             “เรื่องแค่นี้เล็กน้อยครับคุณอาริน”หนุ่มร่างสูงโค้งตัวรับคำด้วยความยินดี แต่หญิงสาวดูจะไม่พอใจเท่าไหร่นักที่เขาเรียกชื่อเธอด้วยชื่อนั้น

             “นาโอคิค่ะ”อารินส่งสายตาเชิงไม่พอใจ “กรุณาเรียกฉันด้วยชื่อนี้เถอะนะคะ”

             “ก็ได้ครับ คุณนาโอคิ”อเลนสันทำสีหน้าลำบากใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ปฏิเสธคำขอร้องของเธอ ยินยอมเรียกชื่อของเธอ “แล้วคุณ...”

             “ฉันว่าเรื่องที่ฉันรู้มาคงจะไม่ผิดมากนัก”เจ้าหล่อนทำหน้าตาเคร่งขรึม “แต่ว่า...”

             “ข้อมูลนั่นได้มาจากตอนไปปราสาทเลโอมิลเน่เชียวนะครับ”นายองครักษ์เอ่ยดักเธอด้วยสีหน้าที่งุนงงเล็กน้อย “จะบอกว่ามันไม่ถูกต้องก็ยังไงอยู่นะครับ”

             “ทำไมคุณเอ็นริโอ้ถึงได้ปิดบังเรื่องนี้กันนะ ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆค่ะ”อารินถอนหายใจ “ทั้งๆที่ลูกชายทั้งห้าคนเป็นฝาแฝด แถมมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่กลับไม่บอกเรื่องนี้มานานแสนนาน”

             “ผมว่ามันคงมีเหตุผลบางอย่างที่เขาไม่สามารถทำได้ล่ะมั้งครับ” อเลนสันตอบถฝ “ถ้าเขาสามารถทำได้ ผมว่าเขาคงจะบอกราชวงศ์จากทั่วโลกแน่ๆ ไม่ปิดไว้แบบนี้หรอกครับ”

             “นั่นสินะคะ”เธอยิ้มบางๆ “ฉันนี่คิดอะไรตื้นๆจริงๆ”

              “หวังว่าภารกิจนี้ของคุณจะสำเร็จนะครับ คุณหัวหน้าผู้พิทักษ์”

              “ฉันก็หวังอย่างนั้นแหละค่ะ คุณหัวหน้าทหารองครักษ์”

                       สึนะเดินทางกลับด้วยความเร่งรีบ เจ้าตัวมีเรื่องที่สงสัยในหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องในเมืองที่เกิดขึ้น ผู้ชายที่เขาเดินชน และคฤหาสน์ลึกลับ คิดไปคิดมาเพลินๆเขาก็เดินมาถึงที่หน้าบ้านของตัวเองซะแล้ว ท้องฟ้าก็เริ่มจะมืดแล้วด้วย ถือว่าเด็กหนุ่มรักษาเวลาได้ดีทีเดียว

             “กลับมาแล้วครับ”เจ้าหนุ่มน้อยเอ่ยเป็นสัญญาณว่าตนกลับมาแล้ว ทันใดนั้นก็มีเหล่าผู้อาศัยมากรูกันที่หน้าประตูทันที

              “กลับมาแล้วเหรอครับพี่สึนะ”คนแรกคือฟูตะ นักจัดแรงค์กิ้ง เด็กหนุ่มน้อยน่ารัก ทันทีที่สึนะเปิดประตูเข้ามาเขาก็วิ่งออกมารับเป็นคนแรกเลยล่ะ “ไปไหนมาล่ะครับเนี่ย กลับมาซะเย็นเชียว”

             “นั่นสิสึนะ”คนที่สองคือเบียงกี้ที่มาพร้อมกับพอยซั่น คุกกิ้งในมือ “รู้ไหมว่าฉันรอนายให้มาชิมอาหารสูตรใหม่สักหน่อยน่ะ”

             “อี้ผิงอยากทานข้าวกับทุกคน”สาวน้อยหัวจุกเดินออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ตามด้วยเสียงโวยวายของแรมโบ้

             “ยะฮ่าๆ คุณแรมโบ้จะกินให้หมดเลย!”

             “เฮ้อ...”เด็กหนุ่มก็ได้แต่ถอนหายใจและยอมรับความวุ่นวายภายในบ้านของเขา เพราะยังไงมันก็กลายเป็นความปกติไปแล้วตั้งแต่ที่รีบอร์นย่างเข้ามาในชีวิต

             “ดีจ้า!”เสียงเล็กแหลมอันเป็นเอกลักษณ์ดังขึ้นพร้อมกับฝ่าเท้า นี่คือการทักทายของครูพิเศษนักฆ่า อัลโกบาเลโน่จุกนมสีเหลือง รีบอร์น แต่ว่านะ...วันนี้น่ะ...

         หมับ!

             “โอ๊ะ!”

             “นายทำอะไรของนายเนี่ยรีบอร์น!”เด็กหนุ่มโวยวาย แถมเจ้าตัวยังรับลูกเตะที่ปกติจะรับไม่ได้ของเจ้าครูตัวน้อยได้อีกด้วย “ต้อนรับกันด้วยฝ่าเท้าเนี่ยนะ!”

             “มันเป็นปกตินี่น่าเจ้าห่วย”สีหน้าของรีบอร์นดูจะตื่นเต้นกับพัฒนาการของลูกศิษย์ของตัวเอง จนแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย “นายก็ดนฉันถีบเป็นประจำนี่น่า”

             “ขอดีๆสักวันก็ไม่ได้เหรอ!”

             “ฝันไปเต้อะ”

                      จำได้ไหมว่าเกริ่นไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าการพบเจอกันของสึนะและ ‘เลโอ’ จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่น่ะ ใช่แล้วนี่คือการพบกันเพราะโชคชะตายังไงล่ะ มันคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวต่อจากนี้และในอนาคต ที่เชื่อมต่อกับอดีต การเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแต่คือการกลับคืนสู่จุดเริ่มอย่างที่มันควรจะเป็น 

             ‘พร้อมที่จะแบกรับภาระอันแสนหนักอึ้งที่ทิ้งไปรึยังล่ะ สึนะโยชิ ไม่สิ ....’

    สวัสดีค่ะ จริงๆเราก็ไม่เชิงมือใหม่นะคะ แหะๆ เราว่าเนื้อเรื่องมันต้องคุ้นๆหรือผ่านๆตาคนบางคนมาบ้างแล้วล่ะ เหมือนใช่ไหมล่ะคะ? กับนิยายเรื่องหนึ่ง เอ่อ.. คนแต่งคนเดียวกันนะคะ อันนี้ไอดีใหม่ ยืนยันว่าคนๆเดียวกันจริงค่ะ ไม่ได้ก็อปมานะ! สั้นไปรึเปล่าคะ? ตอนแรกสั้นไปหน่อย ขอโทษด้วยจริงๆนะ เราจะลงเรื่อยๆนะคะ ไม่มีกำหนดตายตัว ว่างก็จะลงค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×