ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Let's change! ตอนจบนั้น เปลี่ยนฉันให้รักเธอ

    ลำดับตอนที่ #7 : The Hidden Parallel World

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ย. 67


    ความเจ็บปวดกลางแผ่นหลังปลุกดานีนให้สะดุ้งตื่น ความทรงจำสุดท้ายวาบขึ้นมา... ใบมีดที่แทงทะลุเข้ามาจากด้านหลัง ดวงตาคมกริบของนักศึกษาหนุ่ม แววตาหวาดหวั่นที่เผลอพลั้งมือ กลิ่นคาวเลือดจางๆและความมืดในตรอกแคบ... แล้วทุกอย่างก็ดับวูบลง

    เมื่อลืมตาขึ้น เธอพบว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้นปูด้วยใบไม้แห้ง ร่างกายเจ็บระบมไปทุกส่วน มือที่สั่นเทาลูบไล้ไปยังแผ่นหลังที่เธอจำได้ว่าถูกแทง แต่กลับไม่พบรอยแผล มีเพียงรอยแผลเป็นจางๆ เหมือนเป็นบาดแผลเก่าที่หายสนิทไปนานแล้ว

    เสียงนกป่าขับขานในระยะไกล กลิ่นดินชื้นและลมป่าเย็นๆ พัดผ่านทำให้เธอรู้สึกตัว ดานีนลุกขึ้นนั่ง มองไปรอบตัวด้วยความงุนงง เธออยู่ในป่าที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ต้นไม้สูงใหญ่แผ่กิ่งก้านปกคลุมท้องฟ้าแสงแดดส่องลอดลงมาเป็นลำแสงบางๆ รอบตัวเธอเต็มไปด้วยใบไม้เขียวขจีและดอกไม้ป่าที่มีสีสันแปลกตา ชุดกระโปรงยาวสีครีมที่เธอสวมใส่ดูเก่าแต่ให้สัมผัสที่นุ่มสบาย กลับทำให้เธอรู้สึกไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยในเวลาเดียวกัน

    ข้อมือและข้อเท้ามีรอยถลอกจางๆ ราวกับเพิ่งวิ่งหนีอะไรบางอย่างมา เธอพยายามลุกขึ้น ขาสั่นระริกจากความเหนื่อยล้าและอ่อนแรง ราวกับร่างกายนี้ผ่านการเดินทางมานานแสนนานโดยไม่มีความทรงจำติดตัวเลยสักนิด ความหวาดกลัวและสับสนที่ค้างอยู่ในอก เธออยู่ที่ไหน? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่? และทำไมความเจ็บปวดจากแผลที่ถูกแทงในความทรงจำถึงได้สมจริงนัก?

    แสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านยอดไม้สูงใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านปกคลุมจนบดบังท้องฟ้า ต้นไม้เหล่านี้ดูแปลกตาแต่คุ้นเคย ราวกับเคยเห็นในภาพวาดหรือหน้าหนังสือ เสียงคลื่นดังแว่วมาแต่ไกล กลิ่นเกลือทะเลลอยมาตามสายลม เธอเดินไปตามเสียงคลื่น ผ่านต้นไม้สูงใหญ่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ใบไม้สีเขียวเข้มเป็นมันวาว ดอกไม้ป่าสีม่วงอ่อนส่งกลิ่นหอมประหลาด ทุกอย่างดูคุ้นตาแต่แปลกใหม่ในเวลาเดียวกัน

    เมื่อเดินพ้นแนวป่า ภาพตรงหน้าทำให้ต้องกลั้นหายใจ หน้าผาสูงชันทอดยาวสุดสายตา เบื้องล่างคือทะเลสีครามเข้มที่ทอดยาวจนจรดขอบฟ้า ไกลออกไปมีเรือใบขนาดใหญ่แล่นผ่าน ธงสีน้ำเงินเข้มบนยอดเสาสะบัดพลิ้วในสายลม

    กำไลทับทิมที่ข้อมือส่องประกายวาบ ความรู้สึกแปลกประหลาดแล่นปราดไปทั่วร่าง ราวกับมีพลังบางอย่างเชื่อมโยงเธอกับดินแดนนี้ ภาพซ้อนของอีกโลกหนึ่งวูบผ่านในความคิด โลกที่เธอจำได้ว่าเป็นบ้าน แต่ตอนนี้กลับดูห่างไกลราวกับความฝัน

    เสียงควบม้าและเสียงตะโกนดังมาแต่ไกล ธงสีน้ำเงินของกองทัพเรือโบกสะบัด ดานีนรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงขึ้น สัญชาตญาณบอกให้หลบซ่อน แต่บางอย่างในใจกลับอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ และทำไมทุกอย่างถึงดูคุ้นตาราวกับเคยเห็นในความฝัน

    ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม เมฆสีเทาก่อตัวหนาทึบ สายลมพัดแรงขึ้นพาเอากลิ่นฝนมา ดานีนมองไปยังเส้นทางเล็กๆ ที่ทอดลงไปตามหน้าผา เห็นแสงไฟจากเมืองท่าไกลๆ หัวใจบอกว่าเธอต้องไปที่นั่น ที่ที่อาจพาเธอไปพบกับความจริงที่ซ่อนอยู่

    หญิงสาวร่างบอบบางค่อย ๆ ก้าวลงตามเส้นทางที่ทอดยาว พลางสัมผัสได้ถึงเสียงฟ้าร้องครืนดังมาจากท้องฟ้าไกลออกไป บ่งบอกว่าพายุกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ นี่ไม่ใช่แค่พายุธรรมดา แต่เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น มันจะพลิกผันไม่เพียงแต่โลกทั้งใบ แต่ยังเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล

     

    เท้าเปลือยเปล่าของดานีนย่ำไปบนพื้นป่าชื้นแฉะ รองเท้าหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่เธอจำไม่ได้ ชายกระโปรงผ้าไหมฉีกขาดเป็นริ้ว เกี่ยวกับกิ่งไม้และพุ่มหนามระหว่างทาง แสงสลัวใต้ยอดไม้เริ่มจางหาย บอกให้รู้ว่าพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เธอต้องรีบหาทางออกจากป่าก่อนที่ความมืดมิดจะมาเยือน

    กลิ่นควันไฟลอยมาตามสายลม ดานีนชะงัก หัวใจเต้นแรง ควันจากเตาไฟ... ต้องมีบ้านคนอยู่แถวนี้แน่ ความหวังริบหรี่ก่อตัวขึ้น แม้ร่างกายจะอ่อนล้าและหิวโหย แต่สัญชาตญาณการเอาตัวรอดทำให้เธอพยายามก้าวต่อไป

    แสงสีส้มวาบขึ้นระหว่างแนวต้นไม้ เสียงคนพูดคุยดังแว่วมา กลิ่นปลาย่างหอมกรุ่นลอยมาตามสายลม หญิงสาวแอบมองผ่านพุ่มไม้ เห็นกระท่อมไม้หลังเล็กในแสงโพล้เพล้ ควันขาวลอยออกจากปล่องไฟ

    ชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งยืนอยู่หน้าเตาไฟ กำลังพลิกปลาบนตะแกรงย่าง ผมสีน้ำตาลอ่อนยุ่งเหยิงราวกับเพิ่งกลับจากการออกทะเล ใบหน้าคมคายแต่อ่อนโยน อายุราวสิบแปดปี แต่ดวงตาฉายแววผู้ใหญ่กว่าวัย เด็กหญิงผมเปียสองคนนั่งเล่นอยู่ข้างๆ คงเป็นน้องสาว ส่วนหญิงวัยกลางคนคงเป็นมารดา นางกำลังง่วนอยู่กับการจัดโต๊ะไม้เตี้ยๆ

    กำไลทับทิมที่ข้อมือพลันอุ่นวาบ ดานีนรู้สึกถึงแรงดึงดูดบางอย่าง ครอบครัวนี้... พวกเขาดูคุ้นตาประหลาด ราวกับเคยเห็นในความฝัน หรือในหน้าหนังสือ

    เธอก้าวออกจากที่ซ่อน ขาสั่นด้วยความอ่อนล้า โลกหมุนคว้าง ความหิวโหยและความเหนื่อยล้าเข้าครอบงำ ร่างของเธอทรุดลง ก่อนที่จะได้ยินเสียงอุทานและฝีเท้าที่วิ่งเข้ามาใกล้

    “กาเบรียล! รีบมาช่วยหน่อย!” เสียงของหญิงวัยกลางคนดังขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล

    ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าเข้ามา มือแข็งแรงแต่แฝงความอ่อนโยนประคองร่างของหญิงสาวขึ้นจากพื้น กลิ่นทะเลและควันไม้ติดตัวเขาให้ความรู้สึกอบอุ่น “น้องสาว เจ้าได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้มและเปี่ยมไปด้วยความห่วงใย

    “เร็วเข้า พาเธอเข้าบ้านก่อน!” มารดาสั่งลูกชายคนโต สายตาเป็นห่วงมองตามร่างบางที่กำลังโซเซ เธอผมเผ้ายุ่งเหยิง ดูอ่อนแรงจนแทบทรงตัวไม่อยู่

    โลกรอบกายค่อยๆ พร่าเลือน ก่อนที่ความมืดจะกลืนกินทุกสิ่ง สิ่งสุดท้ายที่ดานีนได้ยินคือเสียงกระซิบแผ่วของเด็กหญิงผมแดง “พี่กาเบรียล ดูเหมือนพี่สาวคนสวยจะหลงทางมานะ...”

     

    แสงแดดอ่อนๆ ส่องลอดผ่านหน้าต่างไม้เข้ามาในห้องเล็กๆ ที่ดานีนพักฟื้น กลิ่นหอมของขนมปังอบใหม่และน้ำผึ้งป่าลอยมากระทบจมูก เสียงหัวเราะใสกังวานของเด็กๆ ดังแว่วจากลานบ้านด้านนอก ความสงบของที่นี่ชวนให้หัวใจอุ่นขึ้นเล็กน้อย นี่คือหมู่บ้านชายป่าเล็กๆ ที่แอบซ่อนตัวอยู่ระหว่างผืนป่าอันร่มรื่นกับท้องทะเลกว้างใหญ่ สถานที่ที่เธอรู้สึกเหมือนได้หลบภัยจากทุกสิ่งชั่วคราว

    ห้าวันผ่านไปอย่างเชื่องช้าและอบอุ่น มาเรีย มารดาของกาเบรียลคอยดูแลเธอด้วยความเมตตา หญิงวัยกลางคนที่มีรอยยิ้มอ่อนโยนและมือที่หยาบกร้านจากการทำงาน เธอสอนดานีนทำขนมปังและต้มน้ำผึ้งป่า เล่าเรื่องราวของหมู่บ้านให้ฟังยามค่ำคืน

    ลิลลี่และโรส น้องสาวฝาแฝดของกาเบรียล มักจะวิ่งมาหาดานีนทุกเช้า ด้วยรอยยิ้มสดใสและเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา พวกเธอชอบให้ดานีนช่วยถักเปียผมสีน้ำตาลแดงเป็นลวดลายต่างๆ ทั้งเปียคู่ เปียซ้อน หรือมัดเป็นเกลียวที่สวยงาม บางครั้งเด็กๆ ก็พาเธอออกไปเก็บผลไม้ป่าและสมุนไพรในป่าใกล้หมู่บ้าน ระหว่างทางพวกเธอแนะนำดอกไม้แปลกตาให้รู้จัก บอกเล่าเรื่องราวและสรรพคุณของแต่ละชนิดด้วยความกระตือรือร้น จนทำให้ดานีนรู้สึกเหมือนกำลังสำรวจโลกใหม่ที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยสิ่งที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน

    แต่ที่พิเศษที่สุดคือกาเบรียล ชายหนุ่มผู้มักออกเรือหาปลาตั้งแต่เช้าตรู่ กลับมาพร้อมปลาสดๆและเรื่องราวจากท้องทะเลในยามบ่าย บางครั้งเขาจะพาเธอเดินไปที่หน้าผาริมทะเล ดูพระอาทิตย์ตกดินพร้อมกัน ทั้งสองนั่งเคียงข้างในความเงียบสงบ ขณะที่กาเบรียลเล่าเรื่องตำนานเก่าแก่ของท้องทะเล เสียงของเขาอบอุ่นเหมือนแสงแดดยามเย็น และดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาเปล่งประกายอย่างอ่อนโยนทุกครั้งที่หันมามองเธอ ราวกับโลกทั้งใบกลายเป็นที่ปลอดภัยในช่วงเวลานั้น

    หมู่บ้านแห่งนี้เหมือนหลุดออกมาจากนิทาน บ้านไม้หลังเล็กๆ กระจายตัวอยู่ในป่าโปร่ง ควันจากปล่องไฟลอยขึ้นสู่ท้องฟ้ายามเช้า ผู้คนรู้จักกันหมด แบ่งปันอาหารและความเอื้ออาทร ยามเย็นพวกเขามักจะมานั่งล้อมวงกินข้าวด้วยกัน เล่าเรื่องราวประจำวัน หัวเราะและร้องเพลงพื้นบ้าน

    ทุกเช้าดานีนจะได้ยินเสียงระฆังไม้ที่ชาวประมงใช้บอกสัญญาณออกเรือ กลิ่นทะเลและป่าไม้ผสมผสานกันในอากาศ เด็กๆ วิ่งเล่นไล่จับกันระหว่างต้นไม้ใหญ่ หญิงชราทอผ้าใต้ร่มไม้พลางเล่านิทานให้หลานฟัง ชายหนุ่มแบกตะกร้าปลากลับจากทะเล

    ตลาดเล็กๆ กลางหมู่บ้านคึกคักด้วยเสียงต่อรองและหัวเราะ กลิ่นปลาย่าง ขนมหวาน และสมุนไพร ผสมปนเปกัน แม่ค้าพ่อค้ารู้จักลูกค้าทุกคน ทักทายกันด้วยรอยยิ้ม แลกเปลี่ยนข่าวสารและเรื่องราว บางครั้งก็มีพ่อค้าเร่จากเมืองไกลนำของแปลกตามาขาย

    ยามค่ำคืน ดวงดาวส่องแสงสว่างจ้าบนท้องฟ้า ไม่มีแสงไฟเมืองมาบดบัง เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังแว่วมาแต่ไกล ผสานกับเสียงจักจั่นและแมลงกลางคืน กาเบรียลชอบชี้ให้เธอดูกลุ่มดาวต่างๆ เล่าตำนานโบราณที่เชื่อมโยงกับดวงดาวเหล่านั้น

    แต่บางครั้ง ในค่ำคืนที่ทุกคนหลับใหล ดานีนจะนั่งเงียบๆ พลางจ้องมองกำไลทับทิมที่ข้อมือ แสงสีแดงของมันสะท้อนแวววาวในความมืด ความคิดของเธอล่องลอยไปยังภารกิจที่รอคอยอยู่ข้างหน้า และความลับที่เก็บซ่อนไว้ในตัวเอง หัวใจของเธอหนักอึ้งเมื่อคิดว่าสักวันเธอจะต้องจากครอบครัวที่แสนอบอุ่นนี้ไป

     

    หญิงสาวรวบผมยาวซ่อนใต้ผ้าคลุมศีรษะเก่าๆ และแต้มฝุ่นดินเล็กน้อยบนแก้มเพื่อให้ดูหมองคล้ำ เธอสวมเสื้อคลุมหนาและกางเกงผ้าหยาบที่ยืมมาจากลิลลี่ พลางยิ้มบางเมื่อกาเบรียลส่งปลาในตระกร้าใบเล็กมาให้ถือ “จำไว้นะ ถ้าคนถามอะไรมาก... ยิ้มอย่างเดียว” เขากระซิบขณะพวกเขาเดินเข้าสู่ตลาด “พวกเรามาแค่ขายปลา ไม่มีใครมาสนใจหรอก”

    ตลาดในเมืองท่าออสโลว์คึกคักด้วยผู้คน กลิ่นเครื่องเทศและอาหารทะเลลอยอวลในอากาศ ดานีนเดินเคียงข้างกาเบรียลที่พาเธอเข้าเมืองเพื่อขายปลา เสียงพ่อค้าแม่ค้าร้องตะโกน เสียงต่อรองราคาและเสียงหัวเราะดังระงม แต่มีบางอย่างที่ดึงความสนใจของเธอ... ประกาศติดผนังหินสีเทาข้างร้านขายของชำ ดานีนชะงักเท้า กระดาษโบราณที่กรอบเหลืองพลิ้วไหวเล็กน้อยตามแรงลม ภาพวาดบนกระดาษเผยให้เห็นใบหน้างดงามของหญิงสาว ในอาภรณ์ผ้าไหมสีขาวบริสุทธิ์ที่แต่งแต้มด้วยลายปักทองระยับ พร้อมข้อความประกาศตามหาตัว ดวงตาของเธอเบิกกว้างเมื่อสังเกตเห็นรายละเอียดบนใบหน้านั้น...  ใบหน้าที่คุ้นเคยราวกับเห็นในกระจกทุกเช้า “ฉันนี่...” เธอพึมพำเบาๆ ก่อนจะรีบดึงผ้าคลุมให้ปิดหน้ามากขึ้น หวังว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็นความตกใจในดวงตาของเธอ

    ‘ท่านหญิงโคลอี้’ ตัวอักษรสีทองระบุใต้ภาพ ‘บุตรสาวของท่านเอริค ฮาร์เปอร์ เสนาธิการกรมการแพทย์ หายตัวไประหว่างการเดินทางข้ามเขตปกครองที่ห้า’

    จู่ๆ กำไลทับทิมที่ข้อมือพลันร้อนวาบราวกับถูกไฟลวก ก่อนที่ภาพความทรงจำของใครบางคนจะถาโถมเข้ามา ห้องกว้างในเรือโจรสลัดที่โคลงเคลงตามคลื่น เสียงคมดาบกระทบกันดังก้อง กลิ่นควันไฟและไอเลือดลอยอวล เสียงตะโกนและเสียงอาวุธประหัตประหารดังระงม ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลงในความมืด เธอหอบหายใจ พยายามเรียกสติกลับคืนมา แต่ภาพเหล่านั้นยังคงหลอกหลอน ดั่งเศษเสี้ยวของอดีตที่ซ้อนทับ

    กาเบรียลเหลือบมองหญิงสาวร่างบางที่ยืนข้างกายด้วยสายตาเป็นห่วงทันทีที่สังเกตเห็นความผิดปกติ ใบหน้าของนางซีดเผือด เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นตามขมับ ดวงตาดูพร่าเลือนราวกับกำลังจะหมดแรง

    ‘ไม่ได้การแล้ว’ ความกังวลผุดขึ้นในหัว เขารีบขายปลาที่เหลือในตะกร้าให้แม่ค้าประจำอย่างลวกๆ พร้อมกับบอกอย่างรวดเร็ว ‘เดี๋ยวข้าจะกลับมาเอาเงินที่เหลือทีหลังครับ’

    จากนั้นคว้าข้อมือของหญิงสาวอย่างนุ่มนวล ‘มานี่ก่อน... เจ้าต้องการที่นั่งพัก’ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและห่วงใย ขณะพานางเดินไปหาที่พักใกล้ๆ

    “เจ้าเคยสังเกตหรือไม่?” กาเบรียลเอ่ยขึ้นขณะที่เรานั่งพักใต้ต้นไม้ใหญ่ริมทาง เขาชี้ไปที่ภาพวาดบนประกาศตามหาตัว “ใบหน้าของท่านหญิงโคลอี้... มันช่างคล้ายคลึงกับเจ้ายิ่งนัก”

    เธอชะงัก ความจริงที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของเขาทำให้หัวใจเต้นแรง ใช่... มันไม่ใช่แค่คล้าย แต่เหมือนกันราวกับเงาสะท้อนในกระจก

    “ข้าเคยเห็นภาพวาดของท่านหญิงมาก่อน” เขาเล่าต่อ ดวงตาจับจ้องมาที่เธออย่างครุ่นคิด “แต่ตอนที่พบเจ้าในป่า ข้ากลับไม่ได้นึกถึงความเหมือนนี้เลย จนกระทั่งได้เห็นประกาศนี่...”

    ดานีนจ้องมองภาพวาดนั้นอีกครั้ง ดวงตาไล่ตามเส้นสายบนใบหน้าของหญิงสาวในภาพ ความสับสนเริ่มก่อตัวในใจอย่างช้าๆ มันเป็นใบหน้าที่ดูคุ้นตา แต่ก็แปลกแยก ราวกับเธอกำลังมองตัวเองผ่านเงาสะท้อนของคนอื่น

    “บางที...” หญิงสาวเอ่ยเสียงแผ่ว “บางทีมันอาจเป็นเรื่องบังเอิญ”

    “เรื่องบังเอิญหรือ?” กาเบรียลส่ายหน้า “ในโลกนี้ ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องบังเอิญหรอก ทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงกัน... เหมือนที่บิดาของข้าเคยบอก”

    กำไลทับทิมที่ข้อมือส่งความอุ่นวาบ ราวกับตอบรับความคิดนั้น ดานีนลูบมันเบาๆ นึกถึงวันที่ตื่นขึ้นมาในป่า ความทรงจำสุดท้ายจากโลกเดิม... การถูกแทง ความมืดมิด และการมาถึงที่นี่

    “พวกเราต่างมีความลับที่ยังไม่พร้อมจะเล่า” กาเบรียลพูดขึ้น น้ำเสียงอ่อนโยน “แต่ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนร้าย... ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร หรือมาจากที่ใด”

    สายลมพัดผ่าน พาเอากลิ่นทะเลมาเจือจาง ดานีนมองออกไปที่ขอบฟ้า เห็นเรือลำหนึ่งแล่นอยู่ไกลลิบ ธงสีสดโบกสะบัด ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร มันคงซ่อนอยู่ที่นั่น... บนท้องทะเลกว้าง

     

    “ได้ยินว่าท่านหญิงโคลอี้มีพลังเวทรักษาที่แกร่งกล้านัก” เสียงกระซิบของแม่ค้าสูงวัยดังมาจากร้านสมุนไพร ขณะที่นางกับกาเบรียลเดินผ่าน “ทั้งรักษาโรคร้ายและบาดแผลสาหัสได้ในพริบตา”

    “อืม... ข้าเคยเห็นนางรักษาลูกชายข้าที่ป่วยหนัก” อีกเสียงตอบ “เพียงแค่วางมือบนหน้าผาก ไข้ก็ลดฮวบ แผลที่หน้าอกก็สมานสนิท”

    “มิน่าเล่า ใครๆ ก็อยากได้ตัวนางไป” หญิงชราถอนหายใจ “บ้างก็ว่านางถูกโจรสลัดลักพาตัว บ้างก็ว่าขุนนางใหญ่จากอาณาจักรส่วนกลางวางแผนพานางหนี หรือแม้แต่...”

    นางชะงักเมื่อเห็นกาเบรียลกับดานีนเดินผ่าน ก่อนจะลดเสียงลงเป็นกระซิบและพูดคุยกันต่อ

    “ความจริงอาจไม่เกี่ยวกับโจรสลัดเลยก็ได้” กาเบรียลเอ่ยขึ้น “มีคนเห็นแสงสีฟ้าเรืองรองจากห้องของท่านหญิงในคืนที่นางหายตัวไป บางคนบอกว่าได้ยินเสียงร้องของนางด้วย”

    ดานีนสัมผัสได้ถึงความร้อนจากกำไลทับทิมที่ข้อมือ ประกาศตามหาตัวในมือสั่นไหว ภาพของหญิงสาวในชุดอาภรณ์ผ้าไหมสีขาว มือเรืองแสงขณะรักษาผู้ป่วย วาบผ่านความคิด ภาพที่นางไม่แน่ใจว่าเป็นความทรงจำหรือจินตนาการ

    “แม้แต่ผู้การคาออสก็ยังสับสน” เสียงกระซิบอีกกลุ่มดังมา “ท่านบอกว่าไม่พบร่องรอยการต่อสู้ในห้องของท่านหญิงเลย มีเพียงกลิ่นกำยานแปลกๆ และรอยไหม้เป็นวงกลมบนพื้น”

    “และเจ้ารู้หรือไม่?” หญิงขายผลไม้เอ่ยเสียงต่ำ “ว่าท่านหญิงเคยพูดถึงความฝันประหลาด ฝันว่าตนเองต้องจากไปเพื่อทำภารกิจบางอย่าง ฝันที่นางเล่าให้สาวใช้ฟังก่อนจะหายตัวไปเพียงไม่กี่วัน”

    เสียงกระซิบนินทาและข่าวลือยังคงดังต่อไป บ้างว่าท่านหญิงมีความลับบางอย่าง บ้างว่านางอาจหนีไปเพราะไม่อยากแต่งงาน บ้างก็ว่านางถูกเรือปีศาจไร้หน้าลักพาตัวไปเพราะต้องการพลังเวทของนาง

    แต่สำหรับดานีน เธอรู้สึกว่าความจริงซับซ้อนกว่านั้นมาก แผลเป็นที่หลังปวดแปลบ พร้อมๆกับที่รู้สึกถึงพลังบางอย่างไหลเวียนในตัว พลังที่คล้ายกับที่ชาวบ้านพูดถึง พลังที่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใช้งานได้อย่างไร

    “กลับกันเถอะ” กาเบรียลเอ่ย สังเกตเห็นสีหน้าซีดเผือดของดานีนที่เกิดขึ้นอีกครั้ง “ท่านแม่คงรอข้าและเจ้าอยู่”

     

    เสียงกระซิบของชาวบ้านที่เต็มไปด้วยความลึกลับเกี่ยวกับท่านหญิงโคลอี้ยังคงดังก้องในหัวของดานีน ขณะเดินเคียงข้างกาเบรียลกลับสู่ทางเดินเล็กๆ ที่มุ่งหน้าสู่ชายป่า ความหวาดหวั่นและคำถามในใจทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกดึงไปสู่ความลึกที่ไม่อาจหยั่งถึงได้

    “เจ้าเป็นอะไรไป?” กาเบรียลถามเสียงอ่อน พลางมองนางด้วยสายตาห่วงใย

    ดานีนเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยายามฝืนยิ้มบางๆ “ข้าแค่คิดเรื่องที่ได้ยินเมื่อครู่ เกี่ยวกับท่านหญิงโคลอี้”

    กาเบรียลพยักหน้าเข้าใจ “เป็นเรื่องน่าเศร้า ท่านหญิงเป็นคนดีเสมอมา ไม่สมควรต้องหายตัวไปเช่นนี้”

    ดานีนก้มหน้าลง มือสัมผัสกับกำไลทับทิมที่ข้อมือ ความร้อนที่ส่งผ่านมาราวกับเตือนให้เธอรู้ว่ามีบางอย่างซ่อนอยู่ในเงามืด บางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับพลังเวท พลังที่เธอไม่เข้าใจ แต่ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อท่านหญิงโคลอี้ ความเชื่อมโยงที่มองไม่เห็นกลับดึงดูดเธออย่างประหลาด

    กาเบรียลหยุดเดิน ดวงตาฉายแววครุ่นคิด “ข้าคิดเสมอว่าโลกนี้เต็มไปด้วยความลับ บางครั้งสิ่งที่เรามองไม่เห็น อาจกลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด... สิ่งที่กำหนดชะตาของเราโดยไม่รู้ตัว”

    คำพูดนั้นทำให้ดานีนรู้สึกเหมือนบางสิ่งถูกปลุกขึ้นมาในใจ เธอเงยหน้ามองกาเบรียล รู้ว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าเป็นเพียงคนธรรมดาที่เฝ้ามองเหตุการณ์ด้วยความสงสัย ไม่ใช่คนที่ต้องแบกรับภาระหนักอึ้งเช่นเธอ

    “ข้าต้องจากไป” ดานีนบอกเขาในที่สุด เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยแต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “มีบางสิ่งที่ข้าต้องค้นหา... ข้าขอโทษ”

    กาเบรียลเงียบไป ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ “ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังเผชิญอะไร แต่ข้าจะสนับสนุนเจ้าทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ดานีน”

    ดานีนรู้ว่าการเดินทางครั้งนี้จะไม่ง่าย แต่เธอก็พร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้า ด้วยความเชื่อมั่นในตัวเองและความหวังที่จะค้นพบความจริงที่ซ่อนอยู่ในเงามืด

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×