คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Midnight Conspiracy
ร้าน ‘ความหวังของคนพเนจร’ คึกคักไปด้วยเสียงหัวเราะและดนตรี ควันบุหรี่ลอยอบอวลในอากาศ ผสมกลิ่นเหล้าและน้ำหอมฉุน สาวเสิร์ฟในชุดคอร์เซ็ทสีสดเดินวุ่น เสียงหัวเราะ หยอกล้อและบทสนทนาดังก้องสร้างบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา แต่ในมุมหนึ่งของร้าน ร่างสองร่างในชุดคลุมสีดำกลับนั่งนิ่งราวกับเงา จับจ้องไปยังกลุ่มนักเลงเมาที่นั่งล้อมโต๊ะ พูดคุยอย่างออกรสชาติ
“ระวังหน่อย” เซย์นกระซิบเตือน เมื่อเห็นมือของเซเรน่ากำแน่นจนข้อนิ้วขาว นางพยายามข่มอารมณ์ แต่แววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“ข้ารู้” นางตอบเสียงเย็น “แต่ไอ้คนพวกนี้…”
ทันใดนั้นเสียงเฮลั่นจากโต๊ะนักเลงก็ดังขัดจังหวะ ฮาเดส ชายตาเดียวในกลุ่ม กำลังยกแก้วเหล้าขึ้นพลางหัวเราะลั่น “ข้าอยากเห็นไอ้ผู้การคาออสมันดิ้นว่ะ!” เขาพูดพลางหัวเราะเสียงดัง “เอาเรือรบใหญ่ออกมาแต่จับได้แค่ลูกกระจ๊อกกกก ฮ่าๆๆๆๆ ฝีมือแค่นี้จะไปรอดได้ยังไงวะ!”
เซเรน่าเบือนสายตามองฮาเดสด้วยแววตาดุดันขณะที่เขาพล่ามไม่หยุด “จะบอกให้นะว่าเจ้าวาลวิซน่ะมันฉลาดแค่ไหน!” เขายักคิ้วอย่างเย้ยหยัน รอยยิ้มเหยียดปรากฏบนใบหน้า “หลังจากรอดตายมาจากไอ้พวกทางการได้ มันก็ไปร่วมมือกับเรือธงดำแล้ว! เรือผีปีศาจที่จะทำให้ทุกคนกลัวหัวหดไง ฮ่าๆๆๆ!”
เซเรน่ากัดฟันข่มอารมณ์ นางเหลือบมองชายหนุ่มข้างกายซึ่งมองมาอย่างเข้าใจ “เรือธงดำ… พวกนักเวทนอกรีตที่อันตรายที่สุดรวมตัวกันอยู่นั่น…”
ฮาเดสยังคงพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงสะใจ “รู้ไหมว่าตอนนี้กองเรือมันมีมากกว่าสี่สิบลำแล้ว! ทั้งโจรสลัด นักเวทที่ถูกเนรเทศ พวกมันรวมตัวกันเพื่อเตรียมบุกทะเลมีร์… และถ้ารวมกำลังกับพวกเราแล้วล่ะก็ ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะหยุดพวกเราได้ แม้แต่ไอ้พวกทางการโง่ๆ ฮ่าๆๆ!”
คนในร้านที่ได้ยินต่างตกตะลึง ใบหน้าซีดเผือด หลายคนหยุดพูดคุย หยุดหัวเราะทันที แต่ไม่มีใครกล้าเอ่ยคำใดหรือแสดงท่าทีต่อต้าน พวกเขาเพียงแกล้งก้มหน้าก้มตาทำเป็นไม่ได้ยิน
“อุบ!”
ลูกน้องคนสนิทของฮาเดสเห็นว่าเขาพูดมากเกินไปจึงรีบปิดปากหัวหน้าไว้ เสียงกระซิบเตือนดังลอดออกมาด้วยความกังวล “ท่านเมามากแล้วลูกพี่! ข้าพูดจริงนะ เราต้องกลับกันแล้ว!”
ขณะที่เซเรน่าเฝ้าสังเกตการณ์อยู่นั้น แขนเสื้อของชายที่ยกมือปิดปากฮาเดสเลื่อนลงเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยสักดวงจันทร์เสี้ยวสีเงินที่ข้อมือ รอยสักที่แทบไม่มีใครล่วงรู้ความหมาย แต่ในฐานะบุตรีของสมุห์กลาโหมคนสำคัญแห่งราชอาณาจักร นางจดจำสัญลักษณ์นี้ได้ไม่มีวันลืม ‘กิลด์เงา’ หน่วยลอบสังหารที่โหดเหี้ยมที่สุดแห่งราชอาณาจักร ผู้ที่รับคำสั่งตรงจากราชวงศ์เท่านั้น การปรากฏตัวของพวกเขาไม่เคยเป็นเรื่องบังเอิญ... และไม่เคยจบลงด้วยดี
“เซย์น…” นางสะกิดเบาๆ ดวงตาจับจ้องที่ข้อมือของลูกน้องฮาเดส “ดูนั่นสิ”
เซย์นหันไปมอง เห็นรอยสักนั้นเช่นกัน ใบหน้าเขาเคร่งเครียดขึ้นทันที “กิลด์เงา… คนพวกนี้ทำงานรับใช้ราชวงศ์อย่างลับๆ เป็นพวกลอบสังหาร”
“หมายความว่า…?” เสียงนางสั่นเล็กน้อย “ถ้าพวกนี้แฝงตัวอยู่กับโจรสลัด…”
เซย์นพยักหน้า น้ำเสียงเคร่งขรึม “คนในราชวงศ์กำลังสนับสนุนโจรสลัด ส่งคนของกิลด์เงามาแฝงตัวในกลุ่มพวกนี้ คงมีแผนการบางอย่างที่อาจทำลายล้างอาณาจักรของเรา”
เซเรน่ารู้สึกเย็นวาบ ความคิดของหญิงสาวสับสนปนเปเต็มไปด้วยความหวาดระแวง นี่ไม่ใช่เรื่องของกลุ่มโจรสลัดธรรมดา แต่เป็นเรื่องราวอันดำมืดที่มีเงื้อมมือของใครบางคนในราชอาณาจักรอยู่เบื้องหลังและหากกองเรือปีศาจร่วมมือกับโจรสลัดจริงๆ มันอาจหมายถึงความหายนะของอาณาจักรเวียนน่าทั้งหมด
“แผนของพวกมันช่างซับซ้อน” เซย์นกระซิบเสียงเคร่งเครียด “และถ้าเรือธงแดงร่วมมือกับเรือปีศาจธงดำจริงล่ะก็ ล่องไปทางทะเลมีร์นายเมื่อใด อาณาจักรเวียนน่าคงหนีไม่พ้นถูกล้อมด้วยกองเรือที่ไม่มีใครเทียบเทียมได้”
เซเรน่าขมวดคิ้วด้วยความกังวล ทะเลมีร์นายไม่ใช่เพียงแค่ผืนน้ำธรรมดา แต่มันเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของภูมิภาคนี้ ทุกเส้นทางการค้าระหว่างดินแดนตะวันออกและตะวันตกต้องผ่านที่นั่น การยึดครองทะเลมีร์นายหมายถึงการควบคุมเส้นทางเดินเรือทั้งหมด ทั้งการขนส่งสินค้า อาหารและทรัพยากรต่างๆ จะต้องตกอยู่ในกำมือของผู้ที่ถือครองทะเลแห่งนี้
หากกองเรือของวาลวิซและพันธมิตรรวมตัวกันสำเร็จ พวกมันจะสามารถปิดกั้นการค้าของอาณาจักรเวียนน่าและพันธมิตรได้โดยง่าย การคุกคามเช่นนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของกำไรและการค้า แต่ยังหมายถึงการบีบบังคับให้ทุกอาณาจักรในแถบนี้ต้องก้มหัวให้ ยอมจำนนต่ออำนาจมืดที่ไร้ความเมตตา
เซเรน่ากัดริมฝีปากแน่น “ทะเลมีร์นาย... หากพวกมันได้ครอบครอง จุดยุทธศาสตร์นี้จะเปลี่ยนมือของผู้มีอำนาจในทวีปทันที”
เซย์นพยักหน้า สายตาเต็มไปด้วยความกังวล “ใช่ พวกมันจะสามารถควบคุมชีวิตและความเป็นอยู่ของทุกคนได้ดั่งใจ ไม่ใช่แค่เวียนน่า แต่ทุกแคว้น ทุกนครรัฐที่ต้องพึ่งพาการเดินเรือในเส้นทางนี้ จะตกอยู่ในกำมือของพวกมัน”
“เราต้องหาทางหยุดแผนนี้ ไม่ว่าเสี่ยงแค่ไหน…” เซเรน่าเอ่ยขึ้นอย่างมุ่งมั่น
“ถ้าเราพลาด ไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่จะถูกเล่นงาน” เซย์นเตือน “แต่อาจเป็นอาณาจักรทั้งหมดที่จะต้องสูญสิ้น”
ทั้งสองมองตามกลุ่มของฮาเดสที่เดินโซเซออกจากร้านไป เสียงหัวเราะสะใจของพวกโจรสลัดค่อยๆ เลือนหายไปพร้อมกับเงาร่างในความมืด เซเรน่าและเซย์นสบตากัน สายตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่อาจปิดบังได้
ทั้งสองลุกขึ้นจากที่นั่ง พลิ้วตัวเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบ ท่ามกลางเสียงดนตรีและความคึกคักในร้านที่ยังคงดำเนินต่อไป พวกเขาลัดเลาะออกจากเงามืด ราวกับเป็นเงาที่ไล่ตามเบาะแสของพวกโจรสลัดโดยไม่ให้รู้ตัว
เมื่อเห็นฮาเดสและลูกน้องคนสนิทแยกตัวออกจากกลุ่ม เดินโซซัดโซเซพยุงกันไปตามถนน ทั้สองส่งสัญญาณว่าพร้อมเริ่มแผนการ
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งในชุดคลุมสีดำพุ่งตัวออกจากมุมมืด ปราดไปชนไหล่ฮาเดสอย่างจงใจ แรงปะทะทำให้ฮาเดสเสียหลักเซถลาล้มลงทันที
“โอ๊ย! เดินยังไงวะ!” ฮาเดสตะโกนด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว
ขณะที่ฮาเดสกับลูกน้องกำลังวุ่นวายพยุงตัวขึ้น แต่เพราะความมึนเมาจึงทำให้ยากจะทรงตัวได้ หญิงสาวร่างเล็กในชุดบุรุษสีดำฉวยโอกาสนี้แฝงตัวออกจากเงามืด
“พี่ชาย เป็นอะไรไหมจ๊ะ?” เซเรน่าพูดเสียงแหบต่ำ เสียงที่ปรับให้ดูเหมือนชายวัยรุ่น มือเรียวเล็กยื่นไปพยุงฮาเดสขึ้นอย่างมีมารยาท แต่ในจังหวะที่มือของนางแตะเสื้อของเขานั้น นางก็ใช้ความไวฉวยเอากุญแจเล็กๆ ที่ร่วงออกจากกระเป๋าอย่างแนบเนียน
ทว่าในขณะที่กำลังจะถอยห่าง สายตาของเซเรน่าก็สะดุดเข้ากับกระดาษแผ่นเล็กๆที่มีตราประทับของราชวงศ์พับเก็บอย่างลวกๆอยู่ในกระเป๋าเสื้อตัวกว้างของฮาเดส นางชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจคว้ามันมาใส่ไว้ในเสื้อคลุมของตนเองโดยไม่มีใครทันสังเกตเห็น
“โอ๊ย... ขอบใจมาก!” ฮาเดสพูดอู้อี้ พลางยกมือโบกให้ ก่อนจะเดินเซไปพร้อมกับลูกน้อง ขณะที่ฮาเดสหายลับไปในตรอกมืดเบื้องหน้า ชายหนุ่มชุดดำก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งพร้อมท่าทางพึงพอใจที่แผนสำเร็จไปได้อย่างง่ายดาย
“ง่ายเกินไปรึเปล่า?” เซย์นยิ้มมุมปาก สายตาวาววับ “ลูกน้องมือขวาของไอ้เฮนรี่ช่างไร้เดียงสานัก ไม่ทันเล่ห์กลแม้แต่น้อย”
“ไม่มีเวลามาล้อเล่นแล้ว” เซเรน่ากระซิบ น้ำเสียงจริงจัง ดวงตาสีเขียวฉายแววแน่วแน่ นางยื่นกระดาษที่ฉวยมาให้เซย์นดู “นอกจากกุญแจ ข้าได้สิ่งนี้มาด้วย…ดูนี่ มีตราราชวงศ์อยู่ในนี้!”
เซย์นชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาเขาหรี่ลงขณะมองกระดาษในมือ “ไม่มีข้อสงสัยอีกต่อไป… มีคนในราชวงศ์เป็นหนอนจริงๆ เรื่องนี้ลึกซึ้งและอันตรายกว่าที่เราคาดไว้เสียแล้ว”
เขาจ้องหน้านางอย่างเป็นห่วงแต่ปากยังคงเอ่ยล้อเลียนหญิงสาว “แน่ใจนะ ท่านหญิงเซเรน่า? ถ้าท่านพ่อรู้ว่าลูกสาวคนเล็กแอบออกมาสืบข่าวลับเพื่อพี่คา…”
“หุบปากนะเซย์น!” เซเรน่าค้อนใส่ลูกพี่ลูกน้องพร้อมกระซิบเสียงเขียว “เจ้าให้สัญญาแล้วว่าจะไม่บอกใครเรื่องนี้!”
เซย์นถอนหายใจ แม้จะพยักหน้าแต่ในดวงตาสีไพลินยังแฝงแววกังวลลึก “ข้าแค่ห่วงเจ้า... การแอบออกจากคฤหาสน์มาเสี่ยงอันตรายเช่นนี้ เพียงเพื่อช่วยเขา... เจ้ารู้ไหมว่ามันอันตรายแค่ไหน? ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องเจ็บปวดอีก”
“ไม่ใช่แค่เพื่อเขา” เซเรน่าตัดบทเสียงเข้ม “แต่เพื่อความยุติธรรม พวกโจรสลัดพวกนี้ต้องถูกจัดการ ไม่ว่าพวกมันจะเกี่ยวพันกับใครหรือมีอำนาจแค่ไหน ข้าไม่อาจยืนมองพวกมันทำลายทุกอย่างได้อีกต่อไปแล้ว”
เซย์นจ้องมองใบหน้างดงามที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุม แววตาฉายความกล้าหาญและดื้อรั้นอย่างที่เขาคุ้นเคย ลูกพี่ลูกน้องของเขา ผู้ที่แม้จะมีชาติกำเนิดสูงศักดิ์ แต่กลับยอมเสี่ยงทุกอย่างเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง
“เช่นนั้นเราต้องรอบคอบ…” เซย์นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม พลางมองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง ก่อนจะพยักหน้าให้เป็นสัญญาณ “เตรียมตัวเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังที่นั่นเอง”
ทั้งสองหลบหายเข้าไปในเงามืด ขยับกายอย่างเงียบเชียบมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่พวกเขาสืบได้ว่าซ่อนของสำคัญบางอย่างไว้ เป้าหมายข้างหน้านั้นเต็มไปด้วยอันตราย แต่หากพวกเขาทำสำเร็จ ไม่เพียงแต่จะช่วยชายหนุ่มในดวงใจของเซเรน่าได้เท่านั้น แต่อาจเปลี่ยนชะตากรรมของทั้งอาณาจักรเวียนน่าเลยก็เป็นได้..
ภายในอาณาจักรส่วนกลาง มีอาคารหลังหนึ่งซ่อนตัวอยู่ในมุมที่เงียบสงบ เป็นอาคารเก่าแก่ที่ดูเหมือนจะถูกปล่อยทิ้งร้าง ไม่มีใครสนใจเข้าใกล้และแทบจะหลอมรวมไปกับเงาของสิ่งปลูกสร้างอื่นๆรอบตัว อาคารนี้มีตำนานเล่าขานกันว่าเคยเป็นที่ชุมนุมลับของนักเวทและขุนนางที่เคยพยายามล้มล้างอำนาจ ทำให้ภายในอาคารนั้นมีห้องลับและทางเดินซับซ้อนราวกับเขาวงกต
ทั้งสองเดินผ่านทางเดินอันเงียบสงัดในยามค่ำคืน บรรยากาศรอบข้างเย็นยะเยือกและเต็มไปด้วยกลิ่นอับของฝุ่นที่ทับถมมานาน ทั้งคู่จับจ้องไปที่บานประตูไม้เก่าๆ ซึ่งดูเหมือนประตูธรรมดาที่คนทั่วไปคงไม่สนใจ แต่รอยตราประทับเล็กๆบนบานประตูเป็นสัญลักษณ์เดียวกับกุญแจที่พวกเขาได้มาจากฮาเดส
เซเรน่าค่อยๆเสียบกุญแจลงไปในรูกุญแจ เสียง “คลิก” ดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่ประตูจะเปิดเผยให้เห็นทางเดินแคบๆ มืดสลัว พวกเขาก้าวย่างอย่างระมัดระวัง กลิ่นอับชื้นแผ่ซ่านไปทั่ว ขณะที่เสียงฝีเท้าก้องกังวานในความเงียบงัน
ความลับที่เซเรน่ากับเซย์นสืบมาได้นั้นคือ อาคารนี้เป็นที่รู้จักกันในฐานะที่ซ่อนตัวของโจรสลัดผู้มีฉายาว่า ‘วาร์โร’ นักเวทต้องโทษผู้หลบหนีมานานนับศตวรรษ เขาใช้ความรู้ทางเวทมนตร์ดัดแปลงอาคารให้กลายเป็นฐานลับที่มีเพียงผู้ถือกุญแจเท่านั้นจึงจะเข้าถึงได้ ห้องแต่ละห้องมีการวางเวทอำพรางที่ปกปิดให้ดูเหมือนถูกทิ้งร้าง แต่ภายในกลับมีการจัดวางกลไกและของใช้พร้อมสรรพ เหมือนว่ามีใครบางคนเฝ้าดูแลอยู่ตลอดเวลา
พวกเขาก้าวเข้าไปในทางเดินแคบๆ ความมืดค่อยๆกลืนกินแสงจนรอบข้างแทบมองไม่เห็นสิ่งใด จู่ๆ เสียงกลไกหมุนก็ดังขึ้นเมื่อเซเรน่าเผลอเหยียบลงบนแผ่นหินผิดที่ พื้นเบื้องหน้าก็เปิดออก เผยให้เห็นหลุมที่เต็มไปด้วยหนามแหลม ชายหนุ่มที่คอยระแวดระวังตัวอยู่ก่อนแล้วคว้าข้อมือนางไว้ทัน ดึงให้ถอยกลับ
“ระวังหน่อย! พวกมันคงวางกับดักไว้ทุกทาง” เซย์นกระซิบ
เซเรน่าพยักหน้า ขณะที่พวกเขาก้าวข้ามหลุมแหลมที่เต็มไปด้วยกับดักหนามอย่างระมัดระวัง ผ่านไปเพียงไม่กี่ก้าว เสียงหึ่งๆ ดังขึ้นจากผนังข้างๆ คบเพลิงที่เผาไหม้อยู่ตลอดทางทำให้พวกเขาสังเกตเห็นหลุมขนาดเล็กตามแนวกำแพงที่เริ่มปล่อยลูกดอกแหลมพุ่งออกมา เซเรน่าและเซย์นถอยไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว
“เราต้องหาทางผ่านไปโดยไม่กระตุ้นกลไกพวกนี้…” เซเรน่ากล่าวเสียงเบา หัวใจเต้นระทึก
เซย์นเพ่งสมาธิใช้พลังเวทสำรวจทางเดิน เขาพบว่ามีเพียงช่องเล็กๆ บางจุดบนพื้นเท่านั้นที่ปลอดภัยสำหรับการก้าวเดิน ทั้งคู่จึงพยายามเลี่ยงจุดกระตุ้นเหล่านั้น ขณะค่อยๆ ลัดเลาะไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง
ทันใดนั้น แสงจากคบเพลิงบนผนังก็ดับวูบ ทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความมืดมิด พวกเขาได้ยินเสียงเครื่องจักรบางอย่างทำงาน กลไกที่ซ่อนอยู่ในเพดานหมุนเปิด เผยให้เห็นอาวุธแหลมที่เริ่มเคลื่อนตัวลงมาช้าๆ พุ่งตรงมายังจุดที่พวกเขายืนอยู่
“ไปทางขวา!” เซย์นตะโกนเบาๆ ขณะที่ดึงเซเรน่าให้ก้มตัวหลบ ลอดผ่านใต้คมดาบที่แกว่งลงมาอย่างหวุดหวิด แต่เสียงกลไกยังดังอย่างต่อเนื่อง พวกเขาต้องเร่งฝ่าทางเดินที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและมุ่งไปให้ถึงปลายทางก่อนที่จะหมดแรง
เมื่อเดินเกือบถึงปลายทางของทางเดินที่ทอดลงสู่ห้องหลัก เบื้องหน้าปรากฏเป็นกำแพงที่ดูเหมือนจะเรียบง่าย แต่เซย์นกลับหยุดนิ่งเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังเวทที่แผ่ซ่านจากกำแพงนี้
“มันเป็นภาพลวงตา” เขากระซิบ ก่อนจะเรียกพลังเวทไฟขึ้นในมือ เปลวเพลิงสว่างวาบ ก่อนซัดออกไปอย่างแม่นยำ พลังไฟปะทะกับม่านพลังที่ปกคลุมอยู่ เผาผลาญและทำลายชั้นพลังเวทนั้นจนค่อยๆ แตกสลายไป เผยให้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง
เซเรน่าเพ่งมอง หัวใจเต้นรัวเมื่อเห็นประตูอีกบานปรากฏอยู่เบื้องหลังม่านพลังเวทนั้น พวกเขาเดินผ่านประตูอย่างระมัดระวัง เพียงไม่กี่ก้าว พวกเขาก็พบว่าห้องที่ปรากฏเบื้องหน้าคือห้องลับซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยเวทมนตร์และกลไกซับซ้อน
ทั้งสองเดินลึกเข้าไปจนถึงโต๊ะไม้เก่าๆที่ซ่อนอยู่ในเงามืด มันมีแผนที่ ม้วนกระดาษและสัญลักษณ์ประหลาดวางกระจายอยู่บนโต๊ะ ร่องรอยของการใช้เวทมนตร์ปรากฏให้เห็นตามผนังห้อง บ่งบอกว่าที่นี่ถูกใช้สำหรับงานลับมาเนิ่นนาน ดวงตาของเซเรน่าสะดุดเข้ากับแผนที่เก่าแก่แผ่นหนึ่งบนโต๊ะซึ่งแสดงช่องแคบทะเลลึก พร้อมกับสัญลักษณ์โจรสลัดธงแดงกำกับไว้ชัดเจน
“นี่แหละ…ฐานลับของพวกโจรสลัดธงแดง” เซเรน่าพึมพำ ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อเห็นเส้นทางคดเคี้ยวของช่องแคบ ทะเลสาบ ซอกหลืบและกับดักที่พวกมันเตรียมไว้ตลอดเส้นทาง
เซย์นพิจารณาแผนที่พลางพยักหน้า “ไม่เพียงแต่ที่ตั้งฐานทัพ พวกมันยังวางปืนใหญ่และแนวป้องกันไว้ทุกจุด หากเรารู้ตำแหน่งเหล่านี้ กองทัพเรือจะบุกเข้าไปได้โดยไม่เสียเปรียบ”
“นี่เป็นข้อมูลสำคัญสุดๆ” เซเรน่าพูดพร้อมกับเก็บแผนที่ไว้ในเสื้อคลุม “ถ้ากองบัญชาการทหารเรือรู้ พวกเขาจะสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีและช่วยลดการสูญเสียได้มากทีเดียว”
ขณะที่ทั้งคู่เก็บแผนที่และเตรียมตัวจะกลับ เสียงกลไกหมุนดังขึ้นอีกครั้ง ลิ้นชักเล็กๆใต้โต๊ะเปิดออก เซเรน่าเห็นจี้รูปสมอเรือที่มีสัญลักษณ์จันทร์เสี้ยวสีเงินของกิลด์เงาอยู่บนผิวโลหะ นางรู้สึกได้ว่าจี้นี้ถูกวางไว้เพื่อบอกเป็นนัยถึงความเชื่อมโยงระหว่างกิลด์เงาและกลุ่มโจรสลัด ซึ่งอาจมีการสนับสนุนจากคนในราชวงศ์อย่างลับๆมาอย่างยาวนาน
เซย์นเอ่ยขึ้น “โจรสลัดเลือกที่นี่เป็นที่ซ่อนเพราะมีเวทมนตร์ปกปิดที่วาร์โรร่ายไว้และเพราะอยู่กลางเมืองจึงไม่มีใครสงสัย แม้ที่นี่จะดูรกร้าง แต่กลับเป็นฐานลับที่ปกปิดอย่างมิดชิดที่สุด”
เซเรน่าพยักหน้า “ที่นี่ไม่ใช่แค่ที่ซ่อนแผนที่ แต่เป็นที่เชื่อมโยงความลับและกลไกทั้งหมดของกองกำลังโจรสลัดธงแดงร่วมมือกับกิลด์เงา…และนั่นหมายถึงมีใครบางคนในราชวงศ์กำลังทรยศ”
ทั้งคู่สบตากัน รู้ดีว่าความจริงนี้ไม่เพียงจะเปลี่ยนวิธีการรบของกองทัพเรือเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการเปิดโปงแผนการทรยศครั้งใหญ่ที่สุด เซย์นเก็บจี้รูปสมอเรือ ก่อนจะรีบออกจากห้องลับในเงามืดอย่างเงียบเชียบ ทิ้งร่องรอยเพียงฝุ่นละอองและเสียงลมหายใจเบาๆ ที่หายไปในความเงียบ เสียงกลไกของห้องลับก็ดับลงอย่างเงียบงัน ราวกับว่าพวกเขาไม่เคยปรากฏตัวที่นั่น
แต่หากพวกเขาล่วงรู้ความจริง คงจะเข้าใจว่าเงาที่แฝงตัวอยู่ในความมืดนั้น... ไม่ใช่ศัตรู แต่เป็นมือที่มองไม่เห็น ที่คอยจัดวางกุญแจและเบาะแสให้ปรากฏในเวลาที่เหมาะสม กิลด์เงา หรืออาจมีใครบางคนที่อยู่เบื้องหลัง ผู้ที่คอยปกป้องและนำพาพวกเขาให้ค่อยๆ เข้าใกล้ความจริง โดยที่ไม่มีผู้ใดรู้ตัวแม้แต่น้อย
เซย์นกับเซเรน่าก้าวออกจากห้องลับ โดยไม่รู้เลยว่า มีดวงตาคู่หนึ่งที่ซ่อนอยู่ในเงามืดกำลังจับจ้องด้วยความพึงพอใจ และเมื่อบานประตูปิดลง เงานั้นก็ละลายหายไปในความมืด พร้อมกับลมหายใจของผู้พิทักษ์ลับที่ยังคงทำหน้าที่อย่างเงียบงัน เฝ้ามองและรอวันที่ความจริงจะถูกเปิดเผย รอคอยให้หมากทุกตัวเดินเข้าสู่ตำแหน่งที่ถูกกำหนดไว้
***สัญลักษณ์ของ "กิลด์เงา" คือรอยสักรูปดวงจันทร์เสี้ยวสีเงินที่มีเงาดำพาดผ่าน สำหรับคนทั่วไป มันเป็นเพียงรอยสักธรรมดาที่ดูงดงาม ไม่ต่างจากศิลปะบนผิวหนังทั่วไป
แต่ความจริงแล้ว เฉพาะผู้ที่ได้รับการฝึกฝนในศาสตร์โบราณและชนชั้นสูงบางกลุ่มเท่านั้นที่จะสังเกตเห็นความพิเศษ เมื่อแสงจันทร์เต็มดวงสาดส่อง รอยสักจะเรืองแสงอ่อนๆ เป็นประกายวาววับและปรากฏลวดลายพิเศษที่ซ่อนอยู่ในเงาดำ บ่งบอกถึงตำแหน่งและภารกิจของผู้สวมใส่
สมาชิกกิลด์เงาแต่ละคนจะมีลวดลายพิเศษแตกต่างกัน บ้างมีดาวดวงเล็กๆ แทรกอยู่ในเงาดำ บ้างมีริ้วเมฆบางพาดผ่าน สะท้อนถึงตำแหน่งและความสามารถเฉพาะตัว แต่ไม่ว่าจะต่างกันเพียงใด ทุกรอยสักจะมีจุดร่วมเดียวกันคือ ความงดงามที่แฝงไว้ด้วยความอันตราย เหมือนดั่งพระจันทร์ที่ส่องสว่างในราตรีมืดมิด
รอยสักนี้มักถูกซ่อนไว้ที่ข้อมือด้านใน ตำแหน่งที่ปกปิดได้ง่าย และแม้จะถูกเปิดเผย ก็น้อยคนนักที่จะรู้ความหมายที่แท้จริงของมัน นี่คือวิธีที่กิลด์เงาแฝงตัวอยู่ท่ามกลางผู้คน... เห็นได้ แต่ไม่มีใครล่วงรู้
ความคิดเห็น