คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #39 : คนเลี้ยงม้า : ช่วงจบ
หากความบังเอิญไม่มีอยู่จริง ป่านนี้ก็คงไม่รู้ตัวว่าได้กลายเป็นคุณพ่อลูกแฝดชายหญิงวัยกำลังจะเข้าเรียนชั้นอนุบาลแล้ว และถ้าหากไม่ใช่เพราะเหตุบังเอิญ ถึงวันนี้ก็คงไม่รู้ว่าเจ้าของดวงหน้าพริ้มพรายสะดุดตา คอยแต่จะอ้อยอิ่งอยู่ในความทรงจำซ้อนทับดวงหน้าคู่หมายหม่นเศร้าของเขา นับตั้งแต่แรกพบเมื่อค่ำวันนั้นที่ร้านอาหารกลางใจเมือง กระทั่งเผลอไผลแบ่งใจเป็นสองภาคมีอะไรลึกซึ้งด้วยคือคน ๆ เดียวกัน บุปผชาติ แต่หล่อน
หล่อนจะรู้เช่นเขาไหม
คงไม่...
เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ตรงคอหอย ขณะยืนค้อมตัว เท้าแขนกับอ่างเซรามิกทรงรี หน้าเงยประสานสบนัยน์ตาร้าวรานของเงาสะท้อนในกระจก
แต่เพียงครู่เดียวอัญมณีสีนิลคู่ฝ่ายตรงข้ามก็เปล่งประกายแข็งกร้าวขึ้น
เขาจะทำให้หล่อนรัก
รักมากกว่าชายอีกคนที่หล่อนเคยรักและอาจจะยังรักอยู่
กระดูกขากรรไกรใต้แก้มตอบขึ้นเป็นสัน และดำเนินเรื่อยเช่นนั้น แม้มือข้างหนึ่งจะกำลังเลื่อนหมุนก๊อก ตัวโน้มไปข้างหน้า ทว่าเมื่อสายน้ำไหลซู่รินรดทอนความดุเดือดในห้วงความคิดและหัวใจจนชุ่มฉ่ำทั่วทั้งศีรษะ ประสาทตึงเครียดไปทุกส่วนของร่างกายก็ค่อย ๆ คลาย ชายหนุ่มยืนปล่อยใจปล่อยตัวอย่างนั้น จวบกระทั่งหูได้ยินเสียงเคาะประตูดังระรัว เรียวคิ้วเข้มข้างขวาของเขาเลิกขึ้น
ไม่ได้ส่งเสียงถามหรือตอบกลับ นอกจากจะถ่มความชื่นเย็นระคนอุ่นออกจากปากแล้วกะพริบตาถี่ ผงกศีรษะ ยกตัว หันซ้ายหันขวา เอื้อมมือไปด้านข้างยังราวแขวน แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ
สะบัดศีรษะแรง เรือนผมเปียกชุ่มสยายเหวี่ยง กระเด็นกระดอนหยดน้ำแปะแหมะผิวกระจก พื้นกระเบื้องตู้ชั้น เขายกมือเสยผมปรกหน้าผาก เชิดคางขึ้น นันย์ตากร้าวคมปลาบของชายหนุ่มในกระจกประสานสบด้วยนิ่ง ๆ ประเดี๋ยวหนึ่ง กลีบปากหยักหนาได้รูปทั้งเขาและฝ่ายตรงข้ามเหยียดยิ้ม
พลิกตัว ก้าวเท้า อึดใจเอื้อมมือจับลูกบิดหมุน ออกแรงดึง หากคนที่อยู่ด้านนอกไม่ใช่โปรยปราย
"บุปผชาติ" อึกอัก อุ่นเรื่อขึ้นสีหน้าราวกับหนุ่มแรกรุ่นบังเอิญปะหน้าสาวแอบชอบ หันรีหันขวาง แล้วก้าวถอย เอื้อมมือหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดเรือนผมตัวเองอย่างเร่งรีบ พลางย้อนกลับไปเผชิญกับหล่อน
"คุณชายอาบน้ำแล้วหรือคะ" ไล่เรื่อยสายตามองเขาทั่วตัวขณะถาม อำพันคู่สวยเปล่งประกายอัศจรรย์ ชั่วอึดใจบุปผชาติเบี่ยงตัว ก้าวถอยหลัง "แม่ให้ดิฉันเอาชุดผ้าขนหนูมาให้"
ชะโงกหน้า มองตามมือหล่อนชี้ตรงยังเบาะเก้าอี้ของชายอ้อนแอ้น ก่อนจะกวาดตาทั่วห้อง คิ้วขวาของเขาเลิกขึ้นอีก "โปรยปรายล่ะ"
"กำลังสะบัดผ้าอยู่ข้างนอกค่ะ" สิ้นคำหล่อนจับจ้องเขานิ่ง ราวกับจะกำลังคิดใคร่ครวญอะไรอยู่ ชายหนุ่มพยายามเดินทางเข้าไปสู่ความลุ่มลึกผ่านสายตาอ่อนแสงนั้น ทว่ามันยาก ยากจนไม่น่าเชื่อว่าดีกรีดอกเตอร์ของเขาจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย
"ทำไมคะคุณชาย"
"ทำไมอะไรหรือ" เริ่ดคิ้ว เมื่อจู่ ๆ บุปผชาติก็ถามขึ้น
"ทำไมต้องทำอย่างนี้"
"ถ้าเธอรู้สึกอะไรกับใคร จนไม่อยากจะลิ้มรสความรู้สึกอ้างว้างในหัวใจอีก เธอจะไม่ตั้งคำถามนี้กับฉัน ฝากขอบคุณคุณน้าเรื่องผ้าขนหนู และขอบใจเธอที่อุตส่าห์ฝืนใจย้อนเดินเอามาให้"
"ไม่เป็นไรค่ะ ฝืนใจแต่ก็ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงนัก ดิฉันขอตัวก่อน"
สิ้นเสียงสะบัด อีกฝ่ายพลิกตัวก้าวเท้าพรวดพราด แต่ก่อนหล่อนจะจากไปอีก เขารีบเปล่งกังวานเสียง
"ฉันขอโทษบุปผชาติ"
"ไม่มีอะไรที่คุณชายต้องขอโทษดิฉัน" ชะงักตัว ทว่าหญิงสาวไม่ได้หันกลับมา"คนควรเอ่ยคำนั้นมากกว่าคือตัวดิฉันเอง ดิฉันขอตัวอีกครั้งนะคะ"
หล่อนจากไปแล้วเช่นทุกครั้ง ทิ้งไว้เพียงเงาร่าง กรุ่นกลิ่นหอมละมุนประทับอยู่ในความทรงจำเช่นผ่านมา ทว่าวันนี้เขาเปลี่ยนไป เติบโตขึ้น ไม่ใช่คนใช้ชีวิตตามวิสัยหนุ่มที่มีแต่ความสุขและปราศจากซึ่งความกังวลเช่นในอดีต แล้ว...
ใจกำลังจะกระหวัดถึงชายหนุ่มอีกคนวัยเดียวกัน พลันห้วงความคิดกระตุก สะบั้นขาด
ขณะจับจ้องตรงเบื้องหน้าตามเสียงตาไม่กะพริบ ชายอ้อนแอ้นก็รีบพาร่างกลับเข้ามาภายตัวในบ้านพลางส่งเสียงทุ้มดัดหวานซ้ำ
"อาจารย์คะ อาจารย์บอกอะไรพี่ดอกไม้ไปหรือเปล่าค่ะ"
ประสานสบนัยน์ตาเปล่งประกายอยากรู้ระคนกริ่งเกรง เขาผุดยิ้ม
โปรยปรายไม่ใช่ลูกศิษย์ของเขา แต่เปรมปรีด์น่ะใช่ ชายหน้าสวยตรงหน้า เข้ากรุงไปเยี่ยมพี่สาวร่วมพ่อ อะไรบางอย่างทำให้ถูกชะตาคราพบกันครั้งแรก เมื่อเขาอาสาให้ความช่วยเหลือเปรมปรีด์ที่กำลังง่วนอยู่กับการสรุปผลงานวิจัยกับหมู่คณะ ทำหน้าที่สารถีไปรับอีกฝ่ายที่สถานีเดินรถ
โปรยปรายอยู่อำเภอสมมุติ โปรยปรายทำงานอยู่ที่ไร่ทิพย์วารี โปรยปรายเล่าว่าลูกสาวนายแม่กรองผกามีลูกแฝดชายหญิงวัยกำลังน่ารัก ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยผ่านการแต่งงาน
และก่อนหน้ากว่าสามปีเขารู้ว่าแท้จริงหญิงสาวสวยเฉี่ยวเต็มไปด้วยจริตจะก้านคนนั้นคือหล่อน ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องบังเอิญอย่างน่าอัศรรย์ใจ
ลักลอบถ่ายคลิป หลอกล่อเด็กน้อยสองคน ใช้เล่ห์เพทุบายกับบุปผชาติจนพี่หญิงวารัตดาได้สิ่งส่งตรวจนำไปเข้าห้องปฏิบัติการ คือผลงานชิ้นโบว์แดงของโปรยปรายที่เขายอมทุ่มเงินก้อนโต แม้อีกฝ่ายไม่ได้เรียกร้องอะไรนัก
ถ้าไม่มีโปรยปราย
"ว่าไงคะอาจารย์ อาจารย์ได้บอกอะไรพี่ดอกไม้หรือเปล่าคะ"
"มั้ง" พูดกลั้วหัวเราะ ก่อนจะส่ายหน้าใส่คนลุกลี้ลุกลน แสดงท่าทางเหมือนจะเผยพิรุธเป็นนิสัย แล้วก็ก้าวเท้าตรงไปยังตะกร้าหวาย "ครูว่าเรามาช่วยกันขึงม่าน จัดที่หลับที่นอนของครูกันดีกว่า"
อัปตอนคนเลี้ยงม้าจบ สมใจคนอ่านหรือเปล่าไม่รู้ แต่ใจฉัตรวารินที่มันค้าง ๆ คา ๆ นั้นคลี่คลาย ว่างก็ทักมาบ้างนะคะ❤️❤️❤️❤️❤️
ความคิดเห็น