ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เหมือน(ไม่)​รัก

    ลำดับตอนที่ #38 : คนเลี้ยงม้า : ช่วงกลาง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 204
      10
      20 พ.ย. 62


             

    ทำไมฉัตรวารินถึงเป็นคนแบบนี้ อยากจะพัก แต่ใจมันอดไม่ไหว ว่าแล้วเข้าเนื้อหาดีกว่าค่ะ❤️❤️❤️❤️❤️


    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++  

    "คะนายแม่"  

    "ตอนแรกพี่ดอกไม้ของเราเหมือนจะไม่ตั้งข้อแม้​อะไรกับว่าที่ลูกเขยของฉันเยอะ​ แต่ต่อจากนั้นก็ตามมาเป็นสิบ​ ถ้าฉันจะขอร้องเธอ" อ่อนเสียงลงในตอนท้าย​ ก่อนจะพลิกตัวหันหลัง​ โยนผ้าในมือไปบนเตียงดังตุ้บ​ ขาขวาก้าวนำยังเก้าอี้​ ค้อมตัว ใช้สองนิ้วคีบริมผ้าอีกผืน​ออกแรงดึง แล้วสะบัดแรง​จนละอองเล็ก​ ๆ​ ลอยฟุ้งหยอกเอินเล่นกับลำแสงลอดผ่านช่องหน้าต่าง กระจายคลุ้งกลิ่นระคายเคือง​ พาให้ใคร​ ๆ​ ต้องรีบยกมือปิดปากปิดจมูก​ กระทั่งตัวคนกระทำ​ยังหลุดไอแค่ก​ ๆ​ ทำหน้ายู่ ครู่หนึ่งพลิกตัวกลับ​ นายแม่กรองผกา​มองไปที่ร่างเพรียวระหงนิ่ง​ ๆ​ พลางขยับปาก​ "ให้ช่วยจัดที่หลับที่นอนให้คุณชาย​ ฝุ่นผงปัดกวาดให้ดีอย่าให้มีเหลือ... " 

    ยั้งคำ หลุกหลิกดวงเนตรสีสนิมเหมือนจะครุ่นคิด​ อึดใจตวัดเลื่อนสายตามาทางเขา​ ทว่าราวกับบุปผชาติจะรู้ใจแม่​ หญิงสาวรีบดักคอ

    "ไม่ได้นะแม่​ แม่จะให้คุณชายไปพักที่เรือนของแม่ไม่ได้"

    "ทำไมจะไม่ได้​ เอ็งจะใจจืดใจดำมากไปแล้วนะ ก็แค่คืนนี้​" หันรีหันขวาง​ประหนึ่งจะสะกดจิตสะกดใจ​ ทว่าคงพลุ่งพล่านเกินรั้ง​ ครั้นกลับมาเผชิญหน้าลูกสาวดวงหน้างามยิ่งถมึงทึง​ขึงเครียด "เอ็งดูสิ​ นานเท่า​ไหร่แล้ว​ จะร่วมปีแล้วนะนังดอกไม้​ ที่ของพวกนี้ไม่มีใครใช้งานมัน แล้วแม่ก็ไม่เชื่อว่าโปรยปรายมันจะหยิบจับเช็ดถูถ้าไม่มีใครสั่ง​ หรือเอ็งทำหึ โปรยปราย" 

    "มะ​ ไม่ค่ะ​ นายแม่​ โปรยปรายไม่ได้แตะจับอะไรของฟากนั้นเลยค่ะนายแม่​ ก็นายแม่เคยสั่ง" 

    " เพราะฉันเคยเคยสั่งไง​ ฉันถึงรู้​ คุณชายคะ"

    "ไม่เป็นไรครับคุณน้า​​ ผมเคยออกพื้นที่กับคณะวิจัยมานักต่อนัก ฝุ่นผงแค่นี้เรื่องเล็กน้อยครับ​ อีกอย่าง" ​เหลือบมองไปทางชายร่างอ้อนแอ้น​ ชำเลืองตาไปทางบุปผชาติ​ ดึงสายตากลับมาประสานสบ​คนหวังดี​ หวั่นโน่นเกรงนี่​ ชายหนุ่มรีบกล่าวต่อ​ "เรื่องทำความสะอาด​ จัดที่หลับที่นอนอย่าให้โปรยปรายต้องลำบากด้วยเลยครับ​ ผมทำได้​ ขออนุญาตเถอะนะครับคุณน้า"

    "แต่ถ้าท่านชายรู้เข้า"

    "เรื่องนั้นคุณน้าไม่ต้องกังวล​ครับ​ ในเมื่อท่านตาเอ่ยปากฝากฝังขอให้คุณน้ารับผมมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร​ ท่านตาย่อมรู้ดีว่าผมควรจะต้องทำอะไรบ้าง​ ขออนุญาตอีกครั้งนะครับคุณน้า"

    " แต่... " ขบเม้มปาก​ ขมวดคิ้วมุ่นชั่วขณะ​ สตรีร่างมีน้ำมีนวลผินหน้าไปทางบุปผชาติ​​ " เอ็งกับแม่ควรจะพบกันครึ่งทาง"

    "ก็ครึ่งทางอยู่นี่ไงแม่​ แม่บอกให้หนูให้โอกาสคุณชาย​ หนูก็ยอม​ แม่จะครึ่งทางอะไรอีก"

    "แต่แม่ขอร้องเอ็งเพียงอย่างเดียวเองนะ​ ส่วนเอ็งน่ะ... " 

    "อ่ะ​ หยวน​ ๆ" กะหลับกะเหลือกตา​ หญิงสาวขยับกลีบปากเรื่อย​ "แม่จะครึ่งทางอะไรกับหนู​ บอกมา"

    "ให้คุณชายร่วมโต๊ะอาหารกับเรา​ "

    "มื้อไหน"

    "ทุกมื้อ"

    "ทุกมื้อ" เสียงสูง​ มองเขาทางปรายตาปราดเดียว บุปผชาติวกสายตากลับไปทางคนที่ต้องการให้หล่อนยืดหยุ่นข้อตกลง​ "ถ้าทุกมื้อเฉพาะกับแม่​ หนูก็ไม่มีปัญหานะ" 

    "ไม่ได้​ ต้องทุกมื้อกับเอ็งด้วย"

    "นั้นหนูไม่ดีล"

    "ไม่ดีลไม่ได้​ เอ็งต้องดีล​"

    "หนูบอกไม่ดีลก็ไม่ดีลสิ​ ทำไมต้องบังคับ​ คุณชายคะ" หันขวับกลับมาทางเขา​ ​ อำพันเจียรนัยวับวามของหญิงสาวเต็มไปด้วยประกาย​ขัดขืน "คุณชายชอบนั่งกินข้าวร่วมโต๊ะกับคนที่ไม่เต็มใจจะร่วมโต๊ะหรือคะ" 

    " ไม่ชอบหรอก​ แต่กับเธอ​ฉันยินดีจะข้ามผ่านจุดนั้นไปเสีย​ แต่เอาเถอะ" เลื่อนสายตากลับไปหาเจ้าของไร่​​ "รบกวนคุณน้าอย่าได้ต่อรองอะไรกับบุปผชาติเพื่อผมอีกเลยครับ​ เธอสบายใจอย่างไร​ ก็ขอให้เป็นความสบายใจของเธออย่างนั้น​ นี่ก็เย็นมากแล้ว" ก้มหน้าพลิกข้อมือดูนาฬิกา​เงยกลับ​​ ก่อนจะกล่าววาจาเรียบเชียบต่อไปด้วยกังวานเสียงแหบต่ำของเขาอีก​ "คงไม่เป็นการเสียมารยาท​ หากจะขออนุญาต... "

    "ผมเองก็ต้องขออนุญาตคุณชายเหมือนกัน​ ป่านนี้​นังเหมยครางหงิ๋ง​ ๆ​ เรียกหาแล้ว​" ราวกับจะเข้าใจเขา​มากกว่าใคร​ ดวงตากลมลึกทอแสงอ่อน เมื่อชายหนุ่ม​หันไปตามเสียงประสานสบสายตาด้วย​ ครู่หนึ่งซี้ดปาก ​ขยับตัวหันหน้า​ ชายร่างผอมกระหร่องเหยียดยิ้มอย่างกับจะเยาะหยันระคนเย้ายั่วอยู่ในที​ใส่เพื่อนสนิท ​ก่อนจะพูดกลั้วหัวเราะเรื่อย "แยกย้ายทางใครทางมันดีกว่าครับคุณหญิงรัตนาวดี เจ้ามานพ ปล่อยนายแม่กลองกับคุณดอกไม้มัน"

    ก้าวขายาว ๆ แทบไม่กี่ก้าวก็ถึงบานประตูไม้ แต่แทนที่อดีตอัยการวรวุฒิจะเอื้อมมือออกแรงผลักมันออกกลับชะงักตัว หันไปทางดวงหน้าแฉล้มผุดผ่องราวกับผู้หญิง "ช่วยคุณชายเธอจัดที่นอนด้วยนะนังโปรยปราย"

    "ค่ะ ค่ะ น้าเหว่ย" ตอบรับเสียงระรัว ชม้ายตามาทางนี้ หลบวูบในเสี้ยววินาทีถัดมา ผินหน้าไปทางบุปผชาติ ต่อเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้ายินยอมด้วย กลีบปากบางเฉียบเสี้ยวในรัศมีสายตาของเขาค่อย ๆ คลี่ยิ้ม ครั้นย้อนไปเผชิญหน้ากับเจ้านายเหนือหัว ร่างบอบบางก็เปล่งกังวานเสียงทุ้มดัดหวาน "นายแม่ นายแม่ไม่ต้องกังวลนะคะ เดี๋ยวโปรยปรายจะจัดการปัดฝุ่นไร ทำความสะอาดที่หลับที่นอน ตู้โต๊ะเก้าอี้ ให้ว่าที่ลูกเขยของนายแม่อย่างเรี่ยมเร้เลย..." 

    ทว่าดูเหมือนเจ้าของไร่ทิพย์วารีจะยังไม่พึงใจ หรืออาจจะเร้นซ่อนมิดชิด​ไว้ภายใต้สีหน้าราวกับคนไม่อยากรับซองกฐิน​ หนึ่งในกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศเลยชะงักปากเสียดื้อ​ ๆ​ มือไม้ขยับไหวประหนึ่งร่ายรำประกอบคำพูดก่อนนี้หยุดเคลื่อนที่ค้างเติ่งกลางอากาศ ก่อนปล่อยร่วงแนบลำตัว​ เอียงคอ​ กระมิดกระเมี้ยน​ ยิ้มเฝื่อน​ ดวงตารีเล็กกลอกกลิ้งหลุกหลิก​ เรียกร้องต้องการตัวช่วย​ 

    แวบนั้น​ ขณะ​ชายวัยกลางคนส่ายหน้าระอา​ นายตำรวจหนุ่มมีท่าทีนิ่งเฉย​ หญิงรัตนาวดี​เหมือนเด็กน้อยผู้ไม่รู้อิโหน่รู้อิเหน่ใครว่าอย่างไรตามนั้นไปก่อน​ เขากำลังจะเผยอปาก ​บุปผชาติก็ตั้งท่าจะพูดด้วย​ หาก​ความว่องไวไม่เท่านายแม่กรองผกา​

    "หวังว่าจะฉันจะวางใจเธอได้​ นอกจากปัดกวาดความสะอาด​ ก็ช่วยคุณชายเธอขึงม่านด้วย​ นั่นอยู่ตรงนั้น" พเยิดหน้าไปทางตะกร้าหวายบนพื้นที่อัยการวรวุฒิวางไว้ตั้งแรกเริ่มเข้าห้อง​ สตรีวัยกลางคนหันมาทางเขา​ 

    "อาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สบายเนื้อสบายตัวเถอะค่ะคุณชาย​ มาเหนื่อย​ ๆ​ วุ่นวายโน่นนี่ไม่มีหยุด​ อะไรอื่นปล่อยให้โปรยปรายมันทำไปอย่าได้เป็นกังวล" ชำเลืองตาแลไปทางผู้เป็นลูกสาว​ พลางปากยังพูดเรื่อย "หากสะดวกเชิญคุณชายไปทานมื้อเย็นด้วยกันนะคะ​ ถ้าไม่ก็ให้โปรยปรายมันเดินไปบอก​ คุณน้าจะได้จัดสำรับใส่ปิ่นโต​ให้โปรยปรายมันถือกลับมา​ คุณน้าขอตัวนะคะ" สิ้นคำถอนใจเฮือก​ เสมือนหนึ่งต้องการจะทิ้งทวนความหนักอึ้งเต็มหัวใจของตัวเอง​ ร่างอวบอิ่มค้อมศีรษะสุภาพ ก่อนจะสาวเท้า​ไม่รั้งรออะไรอีก จากนั้นไม่นานภายในเรือนพักคนเลี้ยงม้าก็เหลือเพียงเขากับโปรยปราย

    ค่อย ๆ ปิดบานไม้ ขณะยังพยายามเมียงมองออกไปด้านนอก เมื่อลงกลอน กดปุ่มล็อกนิ่มนวล ร่างบอบบางขยับก้าวตรงมาเลิกชายผ้าม่านสอดส่ายสายตาอีก ครั้นดูเหมือนจะมั่นใจว่าไม่มีใครย้อนกลับมาให้ขวัญผวา ชายผ้าม่านร่วงดิ่งกวัดไกว เสียงพรูลมหายใจโล่งดังขึ้นตามมา 

    กระตุกยิ้มพลางส่ายหน้า เขาขยับตัวเดินเนิบนาบ หากอีกฝ่ายคงจะนึกได้พุ่งตัวเร็ว ถามลุกลี้ลุกลน  

    "อาจารย์คะ อาจารย์ไม่ได้บอกอะไรกับใครใช่ไหมคะ"

    ระริกพริ้มพรายเปล่งประกายในดวงตาดุจพลอยนิลเจียรนัยของเขาประหนึ่งกำลังหัวเราะ ขณะประสานสบสายตาคนยืนกางแขนกางขาขวางประตูห้องน้ำ ชายหนุ่มยกมือตบไหล่ขวาคนคุ้นเคยกันด้วยความบังเอิญเบา ๆ ตอบกลับเรียบเชียบ "มั้ง ตอนนี้ขอครูปลดปล่อยก่อนได้ไหม อั้นจนอั้นจะไม่ไหวอยู่แล้ว" 


    +++++++++++++++++++


    แม่ลูกทะเลาะกันตลอดศก

    เขียนไปก็เหนื่อยแทน​ แต่ถ้าได้กำลังใจจากคนอ่านฉัตรวารินก็ชุ่มชื่นหัวใจขึ้น​ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×