คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : ทำความตกลง : ช่วงจบ
อัปต่อนะคะ อ่านให้สนุกนะคะ❤️❤️❤️❤️❤️
++++++++++++++++++++++++++++++
"ผมพักกับโปรยปรายได้ครับ" ถอนใจโล่งอยู่ในอกเมื่อได้พูด ก่อนจะมองไปทางหญิงสาว ที่กำลังเผยอกลีบปากอิ่ม เบิ่งตากว้างราวกับคาดไม่ถึง เขาผู้จำยอมอย่างเต็มใจเปล่งกังวานเสียงเรียบขรึมจริงจังต่อ "เพื่อความสบายใจของเธอ และเพื่อการเริ่มต้นใหม่ที่ดีระหว่างกัน เธอว่าอย่างไรฉันก็ว่าตามนั้น"
"แน่ใจนะคะ"
"แน่ใจสิ" ประสานสบด้วยดวงตาคมกล้าของเขายืนยันหมายความตามที่เอ่ย ชายหนุ่มเผยยิ้ม "นอกเหนือจากต้องอยู่เรือนพักเดียวกับโปรยปราย เธอคิดอะไรได้อีก"
"เยอะแยะไปค่ะ" ตอบเสียงสะบัด นัยน์ตาวาววับตวัดเมินมองไปทางอื่น
"ถ้าเยอะแยะ...คุณน้าครับ"
"คะ" กำลังตั้งอกตั้งใจฟังไม่ต่างกับคนอื่น สตรีวัยกลางคนสะดุ้งตัว
"มีกระดาษปากกาไหมครับ"
"มีค่ะ" นัยน์ตาสีสนิมคมหวานฉายแววฉงน ขณะเดียวกันคิ้วเข้มเรียวงามก็เริ่ดขึ้น "แต่คุณชายจะเอาไปทำไมคะ"
"เอามาจดลิสต์ที่บุปผชาติกำลังจะบอกครับ เธอบอกว่าเยอะแยะ ผมกลัวผมลืม"
"เอ่อ..." ทำหน้าปูเลี่ยนกับเขา เจ้าของไร่ทิพย์วารีเลื่อนสายตาไปทางบุปผชาติ " ดอกไม้"
"แม่ไม่ต้องไปบ้าจี้ตามคุณชายเธอ เห็น ๆ อยู่ว่าเธอแหย่หนู ใครจะไปคิดอะไรเยอะแยะได้ทัน ปุบปับกะทันหันขนาดนี้ อ้อ" กลับมาประสานสบตาด้วย หญิงสาวกล่าวชัดถ้อยชัดคำ "ห้ามคุณชายสนิทสนมกับลูก ๆ ของดิฉันเกินควร"
"เกินควรของเธอ นี่หมายถึงประมาณไหนหรือ"
"ประมาณทำให้พวกเขาเข้าใจไขว้เขวว่าคุณชายจะกลายมาเป็นพ่อ"
"อืม ตรงไปตรงมาดี แต่เจตนารมณ์ของฉันต้องการให้เป็นอย่างนั้น ไม่เช่นนั้นเธอกับฉันก็ลำบากที่จะไปต่อ แต่เอาเถอะ เล่นเกมสลับไขว้ก็แล้วกัน ฉันจะพยายามไม่สนิทสนมกับลูก ๆ ของเธอ จนกว่าเธอจะเลื่อนขั้นแบบก้าวกระโดดให้ฉัน ยุติธรรมดีไหม"
"ยุติธรรมดีค่ะ แต่คุณชายอย่าได้มั่นใจอะไรนัก ถึงคราวค้างมันหักคุณชายร่วงตุ้บ คุณชายจะเกลียดชังดิฉันเสียเปล่า ๆ ทีนี้สายสัมพันธ์อันดีระหว่างดิฉันและแม่กับคนอื่น ๆ ในชลณนาถมันจะขาดสะบั้นอย่างไม่ควรจะขาดสะบั้น"
"เรื่องนั้นเธอไม่ต้องเป็นห่วง ความรู้สึกอื่นนอกเหนือไปจากความรู้สึกอยากมีเธอเป็นครึ่งหนึ่งของชีวิตอาจจะมีบ้าง แต่เกลียดชังฉันจะไม่มีวันรู้สึกอย่างนั้นกับเธอ"
สิ้นประโยคเรียบเรื่อยหากเสมือนคำสัญญามั่นเหมาะจากเขา หม่อมราชวงศ์ปาริวรรต รวิพร ขณะสายลมแรงวูบหนึ่งโกรกผ่านหน้าราวกับจะร่วมเป็นพยาน บุคคลอื่นนั่งร่วมอยู่ในห้องอาจจะได้หันมาทางเขาทีหันไปทางบุปผชาติทีต่อ หากใครคนหนึ่งจะไม่ส่งเสียงคราง 'โอววววว' ขึ้น และใครคนนั้นไม่ใช่ใคร หญิงรัตนาวดี
หลุดเสียงเสมือนประกาศชัดว่าหล่อนซาบซึ้งประทับใจเหลือเกินแล้ว เจ้าตัวก็นึกรู้ หดคอโก่งหลังห่อไหล่ ทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม กรอกกลิ้งนัยน์ตาเหมือนผู้ร้ายกำลังคิดหาหนทางปกปิดความผิด แต่
ความผิดนั้นเป็นความผิดซึ่งหน้า ถ้าไม่ดีดนิ้วหายตัวได้ อย่างไรเสียก็ไม่พ้น
เขามองหล่อนทางปรายตาด้วย ใช่แต่เพียงนายตำรวจหนุ่มนั่งอีกฟาก
ทำหน้ายุ่ง ๆ วุ่นวายใจไม่กล้าหันซ้ายหันขวาพักใหญ่ ความอดรนทนของเจ้าของเรือนร่างอรชรขาดผึง "พี่ชายอ่ะ คุณตำรวจภูธรอ่ะ"
"พี่เปล่าว่าอะไร"
"ผมก็เปล่า"
"ไม่จริง ทั้งพี่ชายแล้วก็คุณตำรวจภูธรต่างก็พร้อมใจกันตำหนิรัตนาวดี" หันขวับไปมาเถียงเสียงแข็ง มองหาตัวช่วย "บุปผา คุณน้า คุณน้าอัยการ"
"ไม่มีใครนึกตำหนิอะไรหญิงรัตนาวดีหรอก ไม่ว่าจะทั้งคุณชาย และมานพอย่าคิดมากสิ" คนปลอบใจคือบุปผชาติ ส่วนผู้สูงวัยวุฒิชายหญิงเลือกจะรับทคนดูผู้มีมารยาท นัยน์ตาทั้งสองคู่นั้นฉายแววอ่อนโยนไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน
"แต่พี่ชายกับคุณตำรวจภูธรมองรัตนาวดีด้วยหางตา บุปผา คุณน้า คุณน้าอัยการก็เห็น" ยังคงเง้างอด ย่นจมูก ทำแก้มป่อง ปากยื่น ราวกับเด็กสาว ๆ พร้อมทั้งเหลือกตาไปมา
แม้จะนั่งส่ายหน้า แต่ดวงตาฉายแววอิดหนาระอาของมานพก็เผยความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาวูบหนึ่ง คนอื่นทันเห็นไหมไม่รู้ แต่เขาผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชายของหญิงสาวที่ชายหนุ่มบ่นว่าทำให้ไมเกรนขึ้นบังเอิญเห็น
อืม ไม่แน่ ขณะกระตุกยิ้มนึกครึ้มใจ เสมือนกำลังตั้งอกตั้งใจมองดอกไม้กลีบบางดอกเล็ก ๆ ค่อย ๆ แทงหน่อขึ้นมาตามรอยแยกของพื้นซีเมนต์ พลันต้องเบี่ยงเบนสายตากลับไปมองคุณแม่ลูกแฝด เมื่อเจ้าหล่อนพูดว่า
"มันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติของผู้ชายที่มักจะถือตัวว่ามีดีน่ะหญิงรัตนาวดี อย่าไปใส่ใจเลย"
"อ้าว" สิ้นคำของบุปผชาติ คนออกหน้าเดือดร้อน ไม่ใช่เขา แต่เป็นนายตำรวจหนุ่ม "คุณดอกไม้ ทำไมมาแขวะผมอย่างนั้นล่ะ"
"ฉันไม่ได้แขวะนาย ไม่ได้แขวะใคร" เชิดคาง หญิงสาวปรายตามาทางเขา" คุณชายคิดว่าดิฉันแขวะอะไรคุณชายหรือเปล่าคะ"
"ไม่เลย" กล่าวเรียบเชียบ พลางประสานสบนัยน์ตาด้วย "ฉันไม่ได้มีความรู้สึกว่าเธอพูดแขวะอะไรทั้งนั้น ด้วยเธอพูดว่าฉันกับมานพตรงไปตรงมาต่างหาก"
"โอววววว" เปล่งกังวานเสียงครางขึ้นมาอีก ก่อนจะรีบยกปิดปากฉับไว ขยับก้นเข้าหาพนักพิงโซฟามากขึ้น พลางเหลือกตาไปมาหญิงรัตนาวดี
แน่ละซ้ำรอยเดิม ทั้งเขาและชายหนุ่มนั่งอีกฟากมองหล่อนทางปรายตา และเช่นเดียวกัน คนมักเผลอทำตัวขัดจังหวะกะบึงกะบอนเง้างอด หันซ้ายขวา
"พี่ชายอ่ะ คุณตำรวจภูธรอ่ะ"
"ครั้งนี้พี่ก็เปล่าว่าอะไร"
"ผมก็เหมือนกัน"
"ไม่จริง ทั้งคราวก่อนทั้งครั้งนี้ พี่ชายกับคุณตำรวจภูธรต่างก็สมัครใจรักใคร่กลมเกลียวร่วมแรงกันตำหนิรัตนาวดี" แย้งเสียงแข็ง เรียกหาตัวช่วยอีก "บุปผา คุณน้า คุณน้าอัยการ"
ทว่าครานี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อน ทั้งสามคนราวกับจะพร้อมใจกันเป็นใบ้ ไม่มีใครกล่าวว่าอะไรนอกจากจะพากันมองหญิงสาวยิ้ม ๆ
ยิ้ม ๆ ที่ยิ้ม ๆ กันนั่นน่าจะไม่มีอะไรเอี่ยวกับเขาแต่น่าจะเกี่ยวโดยตรงกับชายหนุ่มนั่งอีกฟาก
หญิงรัตนาวดี จ่าสิบตำรวจมานพ
เรื่องของตัวเองเอาให้รอดก่อนดีไหมปาริวรรต เรื่องคนอื่นปล่อยเขา
ใช่เรื่องตัวเองเอาให้รอดก่อนดีกว่า เรื่องคนอื่นค่อยยุ่ง บอกตัวเองก่อนจะเลื่อนสายตากลับไปทางแม่ของลูก
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนหน้าทำความรู้จักโปรยปรายกันนะคะ ว่าแต่โปรยปรายจะมาช่วยเฉลยจุดไหนของเรื่องน้า ❤️❤️❤️❤️❤️
ความคิดเห็น