ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เหมือน(ไม่)​รัก

    ลำดับตอนที่ #33 : ทำความตกลง : ช่วงแรก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 306
      15
      9 พ.ย. 62



    ไหนใครรออยู่ ยกมือขึ้น เข้าเนื้อเรื่องกันเลยค่ะ ❤️❤️❤️❤️❤️


    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    "หนูไม่ยอมนะแม่​ อย่าบีบบังคับหนู" ตามมา​ ทว่าหยุดยืนขวางตรงช่องประตูทางเข้าออกห้องรับแขกโปร่งสบาย ระรวยชื่นหอมละมุนกรุ่นกลิ่นดอกไม้นานาพรรณ ลอยตามลมโกรกเข้ามาตามช่องหน้าต่างเปิดอ้าเป็นระยะ ไม่รั้งรอหญิงสาว​เปิดฉาก​  

    "บีบบังคับอะไรเอ็ง" เปล่งกังวานเสียงแหบหวานเนิบนาบโต้กลับ​ นายแม่กรองผกาที่นั่งบนโซฟาเดี่ยวบุด้วยหนังสีน้ำตาลเข้มชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้ว ชะเง้อมองผ่านร่างสูงระหง​ ก่อนจะหันไปทางคนเพิ่งหย่อนตัวนั่งเยื้องกัน​" ตาเหว่ย​ ไปเรียกคำจันมาหน่อยสิ​ ไม่ในครัวก็ในห้องซักรีด​ ไม่ก็ที่ไหนสักแห่ง​"

    "ห๊ะ​ ก้นยังไม่ทันได้พัก ใช้ฉันอีกแล้วรึนายแม่กลอง " 

    "เอ่อน่ะ​ ใช่ว่าฉันจะใช้แกบ่อย​ ๆ​"

    "ไม่บ่อยแต่ก็ทุกวี่วัน วันละหลายรอบ" งึมงำจิจ๊ะ​ ทว่าชายวัยกลางคนก็ลุกยืน

    "เออน่ะ​ บอกคำจันว่า​ ฉันขอแรงช่วยอาบน้ำให้ลมกับฟ้าหน่อย​ ฉันกับดอกไม้กำลังยุ่ง​ และดูท่าว่าจะยุ่งยาว"

    "ครับนายแม่กลอง​ ไอ้เหว่ยมันเป็นทาส" " ค้อมตัวล้อเลียน เสมือนหนึ่งบริกรในร้านอาหารมาตรฐานบริการเป็นเลิศ ร่างผอมกระหร่องพลิกตัว​ 

    "ตามแล้วกลับมานี่นะตาเหว่ย​ อย่าหายหัว" 

    "ครับ​ ครับ​ รู้ครับ" 

    ​ส่ายศีรษะ​ แต่ดวงหน้าดูอ่อนกว่าวัยก็ประดับไปด้วยรอยยิ้ม​อ่อน ​​ขณะมองตามหลังคนกำลังเยื้องย่าง​เนิบนาบ​ เสี้ยวอึดใจนายแม่กรองผกาหันไปทางหลาน​ "เดี๋ยวยายจันมาไปอาบน้ำกับยายจันนะลูก​ ทั้งสองคนเลย​ ดูสิ​เนื้อตัวมอมแมมยายไม่รู้จะเปรียบเปรยกับอะไรดี"

    "มามี๊พาไปเล่นกับทองกวาว" คนบอก​เสียงแจ้ว​คือแฝด​พี่​ จากนั้นว่องไวเด็กหญิงลุกเดินลัดเลาะขอบโต๊ะไม้แผ่นเดียวมาคว้าตุ๊กตาสไปเดอร์แมนวางอยู่ข้าง​ ๆ​ ตรงเขานั่ง​แล้วก็​วิ่งผ่านหน้า​ อ้อมด้านหลังพนัก​ ปรู๊ดเดียวกลับไปหาน้อง​ "นี่"

    ชั่วอึดใจมองตุ๊กตาในมือของคนตรงข้ามนิ่ง​ ๆ​ ต่อมาเลื่อนไล่เรื่อย​จนสายตาสะดุด​ พลันสะดุ้งนิดหนึ่ง​ เด็กชายหันขวับไปทางคนเป็นใหญ่ในบ้าน​ ยกมือชี้นิ้วป้อม​ ขยับกลีบปากขึ้นลง ​"ยาย​ ไอรอนแมน"

    "ไอรอนเรอะ​ เอ้า​ เอ้า​ คุณชายคะ"

    "ครับ​" เอื้อมมือหยิบตุ๊กตาอีกตัว​ ยื่นส่งให้คนกลาง​ วกกลับไปทางเด็กน้อยสองคนที่กำลังนั่งอยู่บนผืนพรมสี่เหลี่ยมสีสันสดใสสว่างตา​ปะลวดลาย​ สิงสาราสัตว์​ ต้นไม้ภูเขา​ ยิ้มละไมเปิดเปลือยความรู้สึกละมุนในหัวใจของเขามากยิ่งขึ้นขณะทอดสายตาอ่อน​ 

    ที่นี่ฟุ้งกลิ่นความเดียงสา อุ่นอวลไปด้วยความรัก​ ฉายชัดความเอาใจใส่ คราวก่อนไม่ได้เห็น​ คราวนี้เต็มไปหมด​ 

    รูปภาพติดผนัง​ ของใช้ของเล่นเด็ก

    น่าเสียดายที่ปล่อยให้เวลาล่วงมาถึงปานนี้​ แต่เอาเถอะ​ ช้อนตามองบุปผชาติ​ที่ยืนกอดอกขัดใจหน้ามุ่น​ไม่ตึงไม่หย่อน​ พลันสั่นไหวห้วงอารมณ์​สั่นสะเทือนความตั้งใจตูมแรงอีกอย่างช่วยไม่ได้ เหมือน...

    เหมือนกำลังยืน​หลับตาพริ้มฟังสายลมแผ่ว สูดอายเค็มบริสุทธิ์ระรื่นชื่น ​บนโขดหินริมชายทะเลธรรมชาติยังสมบูรณ์ที่ไหนสักแห่ง แล้วพอลืมตาขึ้นก็​โดนคลื่นสาดซัดกระแทกซ้ำร่างจนเซล้ม​ ล้มไม่เป็นท่าอย่างไรอย่างนั้น 

    แต่เอาเถอะ​ ทอดถอนใจบางเบา หรุบตาต่ำมองแฝดชายหญิง​ ฟังเสียงพูดผสานหัวเราะ​ ปะรอยปริซ่อมรอยขาดซึมซับเติมเต็มให้หัวใจพอได้แข็งแรงขึ้นชั่วครู่ ชายหนุ่มกลับไปเผชิญหน้ากับหญิงวัยกลางคน​ และราวกับอีกฝ่ายจะรออยู่

    "ทองกวาว​ คือควายที่ดอกไม้กับตาเหว่ยเขาหุ้นเงินกันไปไถ่ตัวมาจากอีกอำเภอหนึ่งน่ะค่ะคุณชาย" 

    "แม่" 

    "เจ้าของเป็น​ลมตาย" ไม่สนใจเสียงขุ่นนั่น​ แม้จะมีเสียงฟึดฟัดฮึดฮัดตามมา​ นายแม่กรองผกาก็หาได้ชายตาแลไม่ ยังคงเอื้อนเอ่ยอธิบายต่อเป็นการเป็นงาน​ "ลูกเขาไม่อยากเลี้ยง​ต่อ​ มาทีแรกนี่ดื้อน่าดู​ แต่ก็น่าสงสารในคราวเดียวกัน​ เวลาใครไม่เข้าใกล้ก็นอนหมอบหงอยคิดถึงเจ้าของเดิม​ ตอนนี้ดีขึ้นมาหน่อย​ ที่นี่มีสัตว์เลี้ยงเยอะ​ สัตว์ป่าก็แยะ​ อย่างคราวก่อนที่ค้างคาวแม่ไก่เข้าบ้านนั่นแหละค่ะ"

    "ครับ" ชายหนุ่มค้อมศีรษะรับ

    "สำหรับตัวคุณชาย​ คุณน้าน่ะไม่ค่อยห่วงหรอกค่ะ​ แต่คุณหญิงรัตนาวดีสิคะ​ คุณน้าเกรงว่าวันดีคืนดีเธอจะอุ้มเอาตัวอะไรก็ไม่รู้ขึ้นเตียงด้วย​ ถ้าไม่มีพิษอีกเรื่อง​หนึ่ง แต่ถ้ามีพิษเป็นเรื่องนะคะ​ นี่ดอกไม้" กะทันหัน​เปลี่ยนคนคุยด้วย​ กังวานเสียงที่ใช้นั้นก็ปรับเปลี่ยนว่องไว​ 

    ​"​เอ็งจะยืนค้ำหัวแม่ไปอีกนานแค่ไหน​ ถ้าไม่รู้จะนั่งตรงไหนก็มานั่งนี่​" นั่งนี่คือโซฟาเดี่ยว​ตัวที่ชายวัยกลางคนนั่งก่อนนั้น

    "ทำอะไรน่ะอย่าให้มันเกินงามนัก คนที่โดนติฉินไม่ได้มีเพียงแต่เอ็ง​ แม่ก็โดนด้วย​ ที่สำคัญลูกมันจดมันจำ คุณน้าต้องกราบขออภัยคุณชายด้วยนะคะ" วกลับมาทางนี้โทนเสียงสูงต่ำปรับเปลี่ยนอีก​ ส่วนเขารีบตอบกลับนุ่มนวล

    "คุณน้าอย่าได้กังวล​ ผมไม่ได้มีใจนึกตำหนิอะไรทั้งนั้น​ ไม่ว่าจะต่อตัวคุณน้า​ หรือตัวบุปผชาติ​ วางใจเถอะครับ"

    "ถึงกระนั้นก็เถอะค่ะ​ และอีกเรื่องหนึ่งที่คุณน้าอยากจะกราบขออภัย"​ ปรายตามองผู้เป็นลูกสาว​ที่ทรุดกายลงนั่งเรียบร้อยแล้ว​ เลื่อนสายตามองไปทางหลาน​ สตรีผู้ยังกระฉับกระเฉงทางร่างกาย​และคล่องแคล่วทางความคิดระบายลมหายใจหน่วง​ 

    ใช่ละ​ คงไม่ใช่เรื่องเหมาะเรื่องควรนัก​ หากจะเอ่ยเป็นวาจาในตอนนี้ แต่เขาก็เรียบเรียงประโยคอยากจะพูดของเจ้าของนัยน์ตาสีสนิมผู้ผ่านโลกมากว่าครึ่งชีวิต​ได้ไม่ยาก 


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    ปอลอ.​ หายหวัดเมื่อไหร่จะรีบคืนกลับสู่สังเวียนนะคะ​​ 




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×