คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : ทำความตกลง : ช่วงแรก
ไหนใครรออยู่ ยกมือขึ้น เข้าเนื้อเรื่องกันเลยค่ะ ❤️❤️❤️❤️❤️
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
"หนูไม่ยอมนะแม่ อย่าบีบบังคับหนู" ตามมา ทว่าหยุดยืนขวางตรงช่องประตูทางเข้าออกห้องรับแขกโปร่งสบาย ระรวยชื่นหอมละมุนกรุ่นกลิ่นดอกไม้นานาพรรณ ลอยตามลมโกรกเข้ามาตามช่องหน้าต่างเปิดอ้าเป็นระยะ ไม่รั้งรอหญิงสาวเปิดฉาก
"บีบบังคับอะไรเอ็ง" เปล่งกังวานเสียงแหบหวานเนิบนาบโต้กลับ นายแม่กรองผกาที่นั่งบนโซฟาเดี่ยวบุด้วยหนังสีน้ำตาลเข้มชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้ว ชะเง้อมองผ่านร่างสูงระหง ก่อนจะหันไปทางคนเพิ่งหย่อนตัวนั่งเยื้องกัน" ตาเหว่ย ไปเรียกคำจันมาหน่อยสิ ไม่ในครัวก็ในห้องซักรีด ไม่ก็ที่ไหนสักแห่ง"
"ห๊ะ ก้นยังไม่ทันได้พัก ใช้ฉันอีกแล้วรึนายแม่กลอง "
"เอ่อน่ะ ใช่ว่าฉันจะใช้แกบ่อย ๆ"
"ไม่บ่อยแต่ก็ทุกวี่วัน วันละหลายรอบ" งึมงำจิจ๊ะ ทว่าชายวัยกลางคนก็ลุกยืน
"เออน่ะ บอกคำจันว่า ฉันขอแรงช่วยอาบน้ำให้ลมกับฟ้าหน่อย ฉันกับดอกไม้กำลังยุ่ง และดูท่าว่าจะยุ่งยาว"
"ครับนายแม่กลอง ไอ้เหว่ยมันเป็นทาส" " ค้อมตัวล้อเลียน เสมือนหนึ่งบริกรในร้านอาหารมาตรฐานบริการเป็นเลิศ ร่างผอมกระหร่องพลิกตัว
"ตามแล้วกลับมานี่นะตาเหว่ย อย่าหายหัว"
"ครับ ครับ รู้ครับ"
ส่ายศีรษะ แต่ดวงหน้าดูอ่อนกว่าวัยก็ประดับไปด้วยรอยยิ้มอ่อน ขณะมองตามหลังคนกำลังเยื้องย่างเนิบนาบ เสี้ยวอึดใจนายแม่กรองผกาหันไปทางหลาน "เดี๋ยวยายจันมาไปอาบน้ำกับยายจันนะลูก ทั้งสองคนเลย ดูสิเนื้อตัวมอมแมมยายไม่รู้จะเปรียบเปรยกับอะไรดี"
"มามี๊พาไปเล่นกับทองกวาว" คนบอกเสียงแจ้วคือแฝดพี่ จากนั้นว่องไวเด็กหญิงลุกเดินลัดเลาะขอบโต๊ะไม้แผ่นเดียวมาคว้าตุ๊กตาสไปเดอร์แมนวางอยู่ข้าง ๆ ตรงเขานั่งแล้วก็วิ่งผ่านหน้า อ้อมด้านหลังพนัก ปรู๊ดเดียวกลับไปหาน้อง "นี่"
ชั่วอึดใจมองตุ๊กตาในมือของคนตรงข้ามนิ่ง ๆ ต่อมาเลื่อนไล่เรื่อยจนสายตาสะดุด พลันสะดุ้งนิดหนึ่ง เด็กชายหันขวับไปทางคนเป็นใหญ่ในบ้าน ยกมือชี้นิ้วป้อม ขยับกลีบปากขึ้นลง "ยาย ไอรอนแมน"
"ไอรอนเรอะ เอ้า เอ้า คุณชายคะ"
"ครับ" เอื้อมมือหยิบตุ๊กตาอีกตัว ยื่นส่งให้คนกลาง วกกลับไปทางเด็กน้อยสองคนที่กำลังนั่งอยู่บนผืนพรมสี่เหลี่ยมสีสันสดใสสว่างตาปะลวดลาย สิงสาราสัตว์ ต้นไม้ภูเขา ยิ้มละไมเปิดเปลือยความรู้สึกละมุนในหัวใจของเขามากยิ่งขึ้นขณะทอดสายตาอ่อน
ที่นี่ฟุ้งกลิ่นความเดียงสา อุ่นอวลไปด้วยความรัก ฉายชัดความเอาใจใส่ คราวก่อนไม่ได้เห็น คราวนี้เต็มไปหมด
รูปภาพติดผนัง ของใช้ของเล่นเด็ก
น่าเสียดายที่ปล่อยให้เวลาล่วงมาถึงปานนี้ แต่เอาเถอะ ช้อนตามองบุปผชาติที่ยืนกอดอกขัดใจหน้ามุ่นไม่ตึงไม่หย่อน พลันสั่นไหวห้วงอารมณ์สั่นสะเทือนความตั้งใจตูมแรงอีกอย่างช่วยไม่ได้ เหมือน...
เหมือนกำลังยืนหลับตาพริ้มฟังสายลมแผ่ว สูดอายเค็มบริสุทธิ์ระรื่นชื่น บนโขดหินริมชายทะเลธรรมชาติยังสมบูรณ์ที่ไหนสักแห่ง แล้วพอลืมตาขึ้นก็โดนคลื่นสาดซัดกระแทกซ้ำร่างจนเซล้ม ล้มไม่เป็นท่าอย่างไรอย่างนั้น
แต่เอาเถอะ ทอดถอนใจบางเบา หรุบตาต่ำมองแฝดชายหญิง ฟังเสียงพูดผสานหัวเราะ ปะรอยปริซ่อมรอยขาดซึมซับเติมเต็มให้หัวใจพอได้แข็งแรงขึ้นชั่วครู่ ชายหนุ่มกลับไปเผชิญหน้ากับหญิงวัยกลางคน และราวกับอีกฝ่ายจะรออยู่
"ทองกวาว คือควายที่ดอกไม้กับตาเหว่ยเขาหุ้นเงินกันไปไถ่ตัวมาจากอีกอำเภอหนึ่งน่ะค่ะคุณชาย"
"แม่"
"เจ้าของเป็นลมตาย" ไม่สนใจเสียงขุ่นนั่น แม้จะมีเสียงฟึดฟัดฮึดฮัดตามมา นายแม่กรองผกาก็หาได้ชายตาแลไม่ ยังคงเอื้อนเอ่ยอธิบายต่อเป็นการเป็นงาน "ลูกเขาไม่อยากเลี้ยงต่อ มาทีแรกนี่ดื้อน่าดู แต่ก็น่าสงสารในคราวเดียวกัน เวลาใครไม่เข้าใกล้ก็นอนหมอบหงอยคิดถึงเจ้าของเดิม ตอนนี้ดีขึ้นมาหน่อย ที่นี่มีสัตว์เลี้ยงเยอะ สัตว์ป่าก็แยะ อย่างคราวก่อนที่ค้างคาวแม่ไก่เข้าบ้านนั่นแหละค่ะ"
"ครับ" ชายหนุ่มค้อมศีรษะรับ
"สำหรับตัวคุณชาย คุณน้าน่ะไม่ค่อยห่วงหรอกค่ะ แต่คุณหญิงรัตนาวดีสิคะ คุณน้าเกรงว่าวันดีคืนดีเธอจะอุ้มเอาตัวอะไรก็ไม่รู้ขึ้นเตียงด้วย ถ้าไม่มีพิษอีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้ามีพิษเป็นเรื่องนะคะ นี่ดอกไม้" กะทันหันเปลี่ยนคนคุยด้วย กังวานเสียงที่ใช้นั้นก็ปรับเปลี่ยนว่องไว
"เอ็งจะยืนค้ำหัวแม่ไปอีกนานแค่ไหน ถ้าไม่รู้จะนั่งตรงไหนก็มานั่งนี่" นั่งนี่คือโซฟาเดี่ยวตัวที่ชายวัยกลางคนนั่งก่อนนั้น
"ทำอะไรน่ะอย่าให้มันเกินงามนัก คนที่โดนติฉินไม่ได้มีเพียงแต่เอ็ง แม่ก็โดนด้วย ที่สำคัญลูกมันจดมันจำ คุณน้าต้องกราบขออภัยคุณชายด้วยนะคะ" วกลับมาทางนี้โทนเสียงสูงต่ำปรับเปลี่ยนอีก ส่วนเขารีบตอบกลับนุ่มนวล
"คุณน้าอย่าได้กังวล ผมไม่ได้มีใจนึกตำหนิอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าจะต่อตัวคุณน้า หรือตัวบุปผชาติ วางใจเถอะครับ"
"ถึงกระนั้นก็เถอะค่ะ และอีกเรื่องหนึ่งที่คุณน้าอยากจะกราบขออภัย" ปรายตามองผู้เป็นลูกสาวที่ทรุดกายลงนั่งเรียบร้อยแล้ว เลื่อนสายตามองไปทางหลาน สตรีผู้ยังกระฉับกระเฉงทางร่างกายและคล่องแคล่วทางความคิดระบายลมหายใจหน่วง
ใช่ละ คงไม่ใช่เรื่องเหมาะเรื่องควรนัก หากจะเอ่ยเป็นวาจาในตอนนี้ แต่เขาก็เรียบเรียงประโยคอยากจะพูดของเจ้าของนัยน์ตาสีสนิมผู้ผ่านโลกมากว่าครึ่งชีวิตได้ไม่ยาก
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ปอลอ. หายหวัดเมื่อไหร่จะรีบคืนกลับสู่สังเวียนนะคะ
ความคิดเห็น