คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : อัญมณีดอกไม้ : ครึ่งแรก
กลับมาต่อนะคะ มีใครรออยู่บ้างเอ่ย รอหรือไม่อย่างไรก็แล้วแต่ อ่านให้สนุกนะคะ ❤️❤️❤️❤️❤️
...‘บานสะพรั่งสีม่วงน้ำเงินเย้ยเรียวแดดพร่าพรายอยู่กลางสวน ถิ่นกำเนิดของมันอยู่ในประเทศจีนและเอเชียกลาง แต่ฉันมีโอกาสได้ทำความรู้จักเจ้าดอกไม้เล็ก ๆ มีชีวิตชีวา หายากตามธรรมชาตินี้เมื่อตอนเดินทางไปยุโรป’ รับสั่งพลางบรรจงเปิดกล่องเครื่องประดับกำมะหยี่สีน้ำทะเลลึกบนพระเพลา
‘รุกคืบช้า ๆ แต่ไม่มีคำว่าลดละ กว่าดินจะรู้ตัวก็โดนเจ้าหล่อนครอบคลุมบดบังแสงเสียหมดแล้ว รื่นร่า เริงระบำถ้าได้อยู่ใต้แดดเต็มดวง แต่ก็ไม่ซึมเซาเมื่อต้องอยู่ในที่ร่ม ไม่หวาดหวั่นต่อความหนาวเย็น แม้จะเจอฤดูหนาวรุนแรงที่สามารถทำลายพืชได้มาก หล่อนก็แค่หลับใหล แล้วจะตื่นขึ้นมาบิดตัวขจัดความเกียจคร้านเมื่อฤดูใบผลิกลับมาเยือน’
วับวามแวววาวสะท้อนแดดขาวระอุตรงช่องว่างระหว่างผ้าม่านสองผืน เมื่อท่านหญิงกนกเลขาทรงยกพระหัตถ์ขึ้น
‘เหมือนผืนผ้าไหมพริ้วไหวต้องลม ม่วงน้ำเงินแซมเขียว แต้มเหลืองแดงบางจุุดละลานตา ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ยาวนานต่อเนื่องถึงสิ้นเดือนกันยายนเชียวละ’ ทรงแย้มพระโอษฐ์นิดหนึ่งท่านรับสั่งต่อ
‘หวาดกลัวความเมื่อยล้าของน้ำขังอยู่นิ่ง ๆ ทุรนทุรายขาดความอดทนเมื่อต้องประสบกับความแห้งแล้ง ง่าย ๆ ว่าเจ้าหล่อนนั้นปรารถนาแต่เพียงความชุ่มฉ่ำเท่าที่จำเป็น’
ทอดพระเนตรไปทางเด็กสาวอีกคนที่กำลังนั่งพับเพียบสงบเสงี่ยมตั้งใจฟังอยู่กับพื้น
‘ดอกไม้กลีบบางมักจะไร้กลิ่นยั่วยวน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีหมู่ภมรมาดอมดม รวมทั้งเจ้าดอกฮาร์ดี้โคบอล์ต์นี่ด้วย ฉันว่ามันเหมาะกับเธอดาราฉาย เข้ามาใกล้ ๆ สิ’...
บุปผชาติชูต่างหูรูปดอกไม้ ฝังเพชรขาวรัตน์ตรงส่วนเกษร ประดับด้วยไพลินน้ำเงินม่วงเนื้อนุ่มนวลราวกำมะหยี่เม็ดเล็กกระจุ๋มกระจิ๋ม เรียงรายเต็มบริเวณกลีบดอกเล่นกับแสง
ระยิบระยับเปล่งประกายพรายพราว เหมือนดวงตาเฉี่ยวของคนกำลังเดินคุยอย่างแจ่มใสอยู่ข้างล่างนั่น
กระตุกยิ้มตรงมุมปาก เมื่อพลอยนิลเจียรนัยของใครอีกคนเหลือบมาเห็น ครั้นเป้าหมายเงยมองตามสายตานั้นด้วย ต่างหูข้างเดียวในมือลอยสูง ก่อนโดนคว้าหมับพาไปซุกตัวเบ่งบานบริเวณที่มืดในกระเป๋ากางเกงของหล่อน
กระดิ่งสัญชาตญาณของนายแม่กรองผกาสั่นแรงนัก แต่ไม่มากพอ
ต่างหูข้างเดียวล้ำค่า ส่วนหนึ่งของเซตเครื่องประดับสะสม งานฝีมือละเอียดอ่อนที่ย่าของหล่อนวาดแบบแล้วส่งตรงให้ช่างทำเครื่องประดับชาวเพชรบุรีจัดการให้ จึงเป็นหล่อนพบ
คนข้างล่างไม่เห็นวัตถุชิ้นเล็กกลางอากาศก่อนหน้าหรอก แต่อาจจะสงสัยว่าบุปผชาติคนนี้กำลังทำอะไร พวกเขาตื่นเช้า ทว่าหล่อนตื่นเร็วกว่า
โบกมือบ้ายบายลูก และชายวัยกลางคนรับหน้าที่ผู้ปกครองและสารถีในคราวเดียวกัน หล่อนตรงไปพาโจ๋จ๋ากับนิลจ๋าออกมาย่ำเท้าบนพรมหญ้าปลายยอดฉ่ำน้ำค้างในคอกแบบเปิด จัดเตรียมทั้งหญ้าทั้งน้ำไว้ให้ม้าทั้งสองแล้ว กลับขึ้นเรือนช่วยแม่เตรียมสำรับเท่าที่จะทำได้ จากนั้นกลับเข้าห้อง เสร็จกิจธุระส่วนตัวก็ขึ้นมานี่ ระเบียงบรรจบรอบชั้นบนสุดใต้หลังคา
คุณหญิงรัตนาวดียังไม่เห็น รายนั้นเข้าตำรานอนดึกตื่นสาย เฟี้ยวฟ้าวยามผืนฟ้าเป็นสีหม่น
ขณะกำลังแย้มยิ้มสดใส ภายในใจของดาราฉายอาจกำลังหวาดวิตกระคนพยายามคิดในแง่ดี คุณแม่ลูกแฝดเพ่งตามองเรือนร่างสูงระหงในชุดเสื้อกระโปรงติดกันชายรุ่ยร่ายยาวคลุมเข่าสีกรมท่าขรึมหม่น ลายสกีนอักษรย่อของแบรนด์ มีเข็มขัดหนังเส้นใหญ่รัดเอวช่วยเสริมส่งให้ดูหรู
ส่วนคุณชายปาริวรรต
อืม ที่ยังคงเส้นคงวาไม่ผิดเพี้ยนจากตัวตนที่แท้จริงของเขา ก็คงจะเป็นสไตล์การแต่งตัวนี่แหละ เมื่อวานต่อให้โซมเหงื่อ เมื่อคืนแม้จะดูเรียบง่ายและวันนี้ดูสบาย ๆ ทว่าความเนี๊ยบ บุปผชาติหัวเราะหึ มองชายร่างสูงสะดุดตา ซ่อนความฟิตเป๊ะน่าซบไว้ภายในเสื้อเชิ้ตแขนยาวพับแขนเลยข้อมือสีฟ้าอ่อน กางเกงสแล็คสีครีมนม ที่เหมือนจะเลิกให้ความสนใจหล่อนบนนี้เด็ดขาดต่อชั่วครู่ จึงก้มดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือ ก่อนจะพลิกตัวกลับเข้าใต้ร่มเงา เดินลงบันไดเนิบนาบ สักพักหล่อนก็มายืนหันรีหันขวางอยู่ในห้องรับประทานอาหาร
“เกิดอะไรขึ้น คำเกี๋ยง”
“นายแม่ให้ย้ายสำรับอาหารเช้าไปที่ซุ้มกุหลาบค่ะ” สาวน้อยผิวขาวผ่องแต่งตัวทะมัดทะแมงเสื้อยืด กางเกงยีนส์ ชะงักเท้ากำลังจะก้าว หันมาบอก หล่อนเป็นหลานป้าคำจัน จบชั้นมัธยมที่หกไม่มีความคิดจะเรียนต่อ เลือกจะเป็นสาวโรงงาน วันนี้แม่ขอแรงมาช่วยแบบจ่ายพิเศษ
“ไปที่ซุ้มกุหลาบ ทำไม”
อ้าปากกำลังจะตอบ เผอิญคนโดนกล่าวถึงปรากฏตัวตรงประตูหลุดเปล่งกังวานเสียงอ้าวเสียก่อน คำเกี๋ยงจึงเลี่ยงผ่านหน้าตรงไปยังโต๊ะตัวยาว
หันมองข้างหลังหวั่น ๆ เกรง ๆ อึดใจนายแม่กรองผกาหันกลับ “มาพอดีเลยดอกไม้ คุณหญิงรัตนาวดีเธอเดินไปเห็นซุ้มกุหลาบ ออดอ้อนอยากกินอาหารเช้าพร้อมบรรยากาศที่นั่น แม่ขี้เกียจขัด เลยให้คำเกี๋ยงกับยี่เป็งมาช่วยกันขน”
“แม่นะแม่ ตามใจคุณหญิงรัตนาวดีอย่างนี้ ถ้าท่านพ่อท่านแม่ของเธอรู้เข้า แต่เอ๊ะ” ชะงักปาก เอียงคอ ทำหน้าพิศวง “นี่คุณหญิงรัตนาวดีตื่นแล้วหรือแม่”
“น่าจะตื่นไล่ ๆ กันกับคนอื่นนั่นแหละ คงผิดที่ผิดทางน่ะ”
“อืม ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น” หญิงสาวพยักหน้า “แล้วตอนนี้เธออยูไหนล่ะแม่”
“คุยกับพี่ชายกับเพื่อนเธออยู่ตรงชานหน้าบ้านน่ะ”
“อ๋อ แล้วแม่มีอะไรจะใช้หนูบ้าง”
“ไปช่วยจัดโต๊ะให้หน่อย แม่ต้องคุยรายละเอียดเรื่องเพิ่มกำลังผลิต คุยค้างไว้เมื่อวาน วันนี้ผู้จัดการคงอยากได้รับคำตอบว่าจะอนุมัติหรือไม่อนุมัติเร็ว ๆ เลยโทรมาตั้งแต่เช้า”
“อ๋อ นั้นแม่ไปเถอะเดี๋ยวทางนี้หนูจัดเอง” รับคำบุปผชาติเตรียมก้าวตรงไปยังตู้โชว์โบราณความสูงกว่าสองเมตร ทว่าชะงักตัวไว้ เมื่ออีกฝ่ายที่พลิกตัวไปแล้วพลิกตัวเร็วกลับมาอีก
“เออ ถ้าแม่ติดพัน เอ็งก็บริการคุณชายกับคุณหญิงรวมทั้ง...” ชื่ออีกคนนั้นมีความแสลงเลยต้องหยุดเหยียดปากกลืนน้ำลาย ความจงชังไม่เยอะหรอก แต่ความคับแค้นสุมอกเหลือคณา แต่ก่อนนายแม่กรองผกาเอ็นดูดาราฉายไม่ต่างกับลูก กระทั่งมีเรื่อง อะไร ๆ ก็เปลี่ยน “ดาราฉายดี ๆ อย่าให้เขาเก็บไปว่าได้เข้าใจไหม”
“จ้า” ลากเสียงยาว “แม่ไปเถอะ ไม่ต้องห่วงทางนี้เดี๋ยวหนูจัดการเอง”
พยักหน้าวางใจ แม้นัยน์ตาสีสนิมนั้นจะฉายชัดความไม่มั่นใจ หลังจากหญิงวัยกลางคนยังแต่งองค์ทรงเครื่องเหมือนเมื่อครั้งยังใช้ชีวิตอยู่ใต้ร่มมนวรรธ หรูหราสมวัย ดีไซน์ร่วมสมัย ก้าวเดินกระฉับกระเฉงออกจากห้องไปแล้ว บุปผชาติอมยิ้มพลางส่ายหน้าคิดถึงผู้เป็นพ่อ
...‘แม่ของบุปผาอยู่ทางโน้นเป็นอย่างไรบ้าง’ เปล่งกังวานเสียงเรียบเรื่อยขณะพลิกตัวมาเผชิญหน้า ‘ถามถึงพ่อบ้างหรือเปล่า’
‘ไม่ได้ถามเลยค่ะ’ โกหกได้แต่หล่อนไม่อยากทำ ละสายตาจากร่างสูงสมส่วนยังดูดี กลับมาใช้ช้อนเซรามิกกระทัดรัดน่ารักคนน้ำตาลในโถเล่นต่อ ‘ถ้าพ่ออยากคืนดีกับแม่ ทำไมพ่อไม่ไปง้อล่ะคะ’
วางกาเซรามิกเพ้นท์ลายดอกไม้หลายชนิดบนโต๊ะก่อนจะนั่งลง บุรุษผู้นิยมชมชอบไว้หนวดเหนือริมฝีปาก และพิถีพิถันกับการตัดแต่งให้ดูเป๊ะดูเนี๊ยบอยู่เสมอ ระบายลมหายใจยาว ‘ถ้ามันง่ายพ่อคงทำไปแล้ว’
‘เพราะพ่อไม่ชอบอะไรที่มันยุ่งยาก’ หล่อนว่าเอาเสียงขุ่น ใจจริงอยากให้พ่อกับแม่คืนดีใจจะขาด แต่บุรุษตรงหน้า
ความใส่ใจ คุณพีรภาสลูกชายเพียงคนเดียวของท่านหญิงกนกเลขานั้นไม่เคยมี ไม่ว่าจะกับหล่อน สตรีคู่ชีวิต หรือกับใคร ไม่กระทั่งคนที่เป็นแม่
ย่าของหล่อนเป็นคนดุและเจ้าระเบียบ อีกทั้งหน้าที่การงานในอดีตยิ่งเสริมส่งไปทางนั้น เมื่อนั่งอยู่บนบัลลังก์ คนบรรยายได้เห็นภาพสุดคืออดีตอัยการวรวุติ
ใครกันอยากจะเชื่อว่าท่านหญิงกนกเลขาจะตามอกตามใจลูกชายเพียงคนเดียวจนกลายเป็นคนเยี่ยงนี้ แต่ก็อย่างว่าแหละ ถ้าย่าของหล่อนไม่ตามใจพ่อ ไม่แน่ว่าหล่อนอาจจะไม่มีโอกาสจุติ...
ในเมื่อพ่อไม่ดิ้นรน กลัวจะเสียมากกว่าที่เสียอยู่ แม่ของหล่อนก็ควรจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามวิถีของท่านที่นี่ ถอนใจแผ่วบุปผชาติตรงไปเปิดบานไม้ฉลุลายด้านล่างฟากขวาของตู้โชว์ เม้มปากครุ่นคิดชั่วครู่สอดมือข้างหนึ่งยังผ้าปูโต๊ะพับเก็บเรียงซ้อนระเบียบออกแรงดันขึ้น ก่อนอีกมือจะหยิบชิ้นหมายตา ปิดประตูเรียบร้อย สาวเท้ายาวไปทางหลังบ้าน
ด้านหลังสิ่งปลูกสร้างผสมผสานทั้งสไตล์ไทย ๆ และยุโรป มองไปจะเห็นเรือนพักอาศัยส่วนตัวของนายแม่กรองผกา ตั้งอยู่เยื้องกัน ทางเดินปูด้วยหินเชื่อมต่อ มีซุ้มกุหลาบกั้นกลาง โครงเหล็กที่แทบจะมองไม่เห็น เริ่มตั้งแต่เสายันหลังคาทุกขั้นตอน ทั้งเผา จุ่ม ตี ดัดขดขึ้นลวดลาย เชื่อม ขัด ลงสีเป็นผลงานของช่างมีฝีมือผู้ล่วงลับไปแล้ว ราคาค่าแรงแพงทีเดียว แต่เมื่อเทียบกับอนาคตเด็กกำพร้าคนหนึ่งนับว่ายิ่งกว่าสมเหตุสมผล
แม่ไม่ได้ช่วยแค่ว่าจ้างอดีตทหารผ่านศึกตาของมานพทำงาน หากยังช่วยส่งเสีย เท่าที่อีกฝ่ายจะยินยอมรับด้วย ครั้นเมื่อชายชราสิ้นอายุขัย เรื่องฌาปนกิจศพแม่ก็รับเป็นธุระจัดการให้ มานพทั้งรักทั้งเคารพนายแม่กรองผกามาก ไม่ว่าท่านจะไหว้วานอะไรเขาก็เต็มใจ แถมเผื่อแผ่มายังผู้เป็นลูกสาว แต่นับจากหล่อนท้อง น้ำใจนั้นก็ไม่ได้ล้นตลิ่งอีก
โถมานพหนอมานพ
❤️❤️❤️❤️❤️
แจ้งข่าวเพิ่มเติมสำหรับนักอ่านที่เพิ่งอ่านตอนนี้จบนะคะ ตอนอัปที่ 16 กับ 17 ไม่มีเนื้อหา เป็นความผิดพลาดของฉัตรวาริน ไม่จำเป็นต้องกดเข้าไปอ่านให้เสียอารมณ์เปล่านะคะ
ก่อนจากส่งท้ายครึ่งตอนแรกด้วยอิมเมจ ฮาร์ดี้โคบอลต์ ที่ฉัตรวารินเห็นแล้วปิ๊งปั๊ง จนต้องเก็บรูปแล้วก็ตามหาชื่อเจ้าหล่อนพร้อมทั้งข้อมูลนะคะ ช่างโชคดีเป๊ะตามที่หวัง
ความคิดเห็น