คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : หน้าต่างมีหู ประตูมี... : ช่วงแรก
มาเสิร์ฟกันต่อค่ะ และขอขอบคุณสำหรับหัวใจที่หยอดมาให้คนเขียนได้ชื่นใจ ตอนนี้รอลุ้นว่านักอ่านคนไหนจะเม้นต์คนแรกค่ะ อย่างไรก็แล้วแต่ อ่านให้สนุกนะคะ❤️❤️❤️❤️❤️
ฝีก้าวเนิบนาบของคุณชายปาริวรรตชะงักหยุด ก่อนทุกคนจะทันได้เดินขึ้นบันได ครู่หนึ่ง เหมือนว่าได้ใช้สายตากับบานประตูสไตล์หลีกหลบเส้นตรง อาศัยความงามตามธรรมชาติมาสร้างเป็นลวดลายสวยงาม หรือที่เรียกว่าสไตล์ อาร์ตนูโว สีเนื้อไม้ เพียงพอแล้ว เขาพูดขึ้น
“ผมคงรู้สึกไม่ดีนัก หากบุปผชาติจะโดนคุณน้าดุด้วยสาเหตุผมไปขวางการตั้งใจไปทำอะไรบางอย่างของเธอ”
จากแค่มองเจ้าของเสี้ยวหน้าแรเงาที่แสงไฟหน้าบ้านส่องมาไม่ถึงนั่นเฉย ๆ คราวนี้บุปผชาติเพ่งตา ขณะนายแม่กรองผกาตอบกลับด้วยกังวานเสียงแหบหวานระคนอดติติงไม่ได้ของท่าน
“เรื่องนั้นคุณชายไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ หากบุปผาจะโดนคุณน้ากำราบในบางครั้งบางคราวเสียบ้าง มันไม่ได้มีสาเหตุอันใดเกี่ยวกับคุณชายแม้แต่น้อย กรุณาอย่าขอร้องคุณน้าไม่ให้ทำในสิ่งที่ผู้เป็นแม่ควรปฏิบัติต่อลูกเลยค่ะ คุณน้าไม่สามารถเอ็กเซ็บได้จริง ๆ”
“ผมมิบังอาจถึงเช่นนั้น” ประสานสบนัยน์ตาคนวัยวุฒิสูงกว่าอึดใจหนึ่ง ชายหนุ่มระบายลมหายใจยาว ก่อนจะเดินนำขึ้นบันได หยุดอยู่บนชานระเบียง รับหน้าที่คนเปิดประตู ผายมือสุภาพ “เชิญครับคุณน้า บุปผชาติ”
เมื่อความงดงามแห่งเส้นสายลายโค้ง จำลองรูปแบบดอกไม้ เถาวัลย์ สัตว์นานาชนิดอีกหนึ่งจุดเรียนรู้ สร้างจินตนาการต่อยอดของขยลกับฑิฆัมพรวาดปิดส่งเสียงดังคลิก เป็นเหมือนกระดิ่งส่งสัญญาณให้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้มั่น
ไม่ได้หวาดกลัว หรือกริ่งเกรงอะไรทั้งสิ้น หากที่ช้อนตามองบุรุษผู้สูงศักดิ์ ขณะกำลังยืนกันอยู่ตรงโถงกว้าง นั้นเป็นไปโดยอัตโนมัติสมองสั่งห้ามไม่ทัน และบุปผชาติก็พบว่า ชายร่างสูง สง่างามในบุคคลิกเฉพาะตัว มองหล่อนด้วยสายตาแบบนั้นอีกแล้ว
ยิ้มเฝื่อน ๆ เก้อ ๆ อึดอัด ๆ ก่อนจะหันไปเบิ่งตาโต ทำหน้าแปลก ๆ กับผู้เป็นแม่ ซึ่งดูเหมือนจะจับตาสังเกตทุกอากัปกิริยาท่าทางของคุณชายปาริวรรตอยู่ด้วยเช่นกัน ดวงตาคมหวานคู่นั้นแปรมาทางหล่อนจำเพาะเจาะจงฉับไว วูบหนึ่งอ่อนแสงฉายชัดความกังวล ก่อนจะเลือนหายรวดเร็วราวกับถูกลมแรงพัดพาปลิวไปไกล
กลับไปมองคนที่ท่านชื่นชม ยินดีรับเป็นลูกเขยมานานนัก สตรีวัยกลางคนขยับปากขึ้นลง “คุณชายพักผ่อนเถอะค่ะ คุณน้ากับบุปผาเห็นทีจะต้องขอเวลาเป็นส่วนตัวบ้าง ต้องกราบขออภัยคุณชายอีกครั้ง”
“ผมเองต่างหาก” อีกฝ่ายค้อมศีรษะให้ความเคารพ “ที่ต้องใช้คำว่ากราบขออภัย ตามสบายเถอะครับคุณน้า ไม่ต้องกังวลว่าผมจะแอบทำตัวละลาบละล้วงอะไรทั้งสิ้น ขอตัวก่อนครับ” หันมาส่งยิ้มอ่อนโยนให้ ชายหนุ่มปลีกตัว
หลังจากร่างสูงสะดุดตาหายลับไปจากแนวผนังแล้ว สายตาของนายแม่กรองผกาก็ฉายความกราดเกรี้ยวเปิดเผย “ไปในครัว”
ปฏิบัติตามเสียงข่มขวัญอย่างว่าง่าย เมื่อเข้ามายืนอยู่ในครัวดีไซน์ยุโรปทันสมัย นายใหญ่แห่งไร่ทิพย์วารีและโรงงานน้ำแร่ทิพย์วารีก็เปิดฉากเสียงห้วนตาขุ่น
“เอ็งเห็นแม่เป็นอะไร เป็นเด็กอนุบาลรึไง หือ ดอกไม้”
“ก็หนูเป็นห่วงลูก”
“ลูกเอ็งมันไม่ใช่หลานแม่รึไง หือ”
“เมื่อก่อนน่ะใช่ แต่ตอนนี้หนูชักไม่แน่ใจ ว่าแม่ยังอยากให้ลมกับฟ้าเป็นหลานแม่อยู่อีกหรือเปล่า”
“นี่นังดอก”
“ดอกไม้แม่” แย้งเสียงแข็ง มองผู้เป็นแม่หน้าบึ้งตาคว่ำ “อย่ามาตัดทอนชื่อหนูให้ฟังดูหยาบคายนะ”
“เออ ๆ ดอกไม้” แก้ให้อย่างรำคาญ ๆ ถอนใจเฮือก ลดความขึงตึงในสุ้มเสียงลง “ถึงแม่จะปลื้มปริ่มคุณชายแค่ไหน แต่แม่ก็ไม่คิดจะเอาหลานไปแลกหรอกนะ หลานแม่ตั้งสองคน ตั้งสองคนเชียวนะดอกไม้” ย้ำคำหญิงวัยกลางคนเดินไปทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้เบาะบุด้วยหนังสีครีมอย่างสิ้นท่า บุปผชาติประจักษ์แก่ใจตอนนี้เองว่าแม่ของหล่อนกำลังมีความวิตกกังวลเหลือคณานับ
“แต่ที่มนวรรธยังไม่มีใครรู้ว่าเอ็งมีลูก แล้วจะปล่อยให้คนอื่นมารู้ก่อนท่านหญิงย่าของเอ็งกับพ่อเอ็งได้อย่างไร โดยเฉพาะแม่ดาราฉาย เอ็งคิดว่าถ้าลูกสาวเมียน้อยพ่อเอ็งรู้เรื่องนี้ มันจะสงบปากสงบคำรึ ดอกไม้”
“ตรีชฎาไม่ใช่เมียน้อยพ่อ ไม่เคยเป็น” หญิงสาวเสียงกร้าวเหยียดหยัน “พ่อมีเมียเพียงคนเดียวคือแม่ กับอีคนที่พ่อระบายความใคร่ชั่วครั้งชั่วคราวเป็นได้อย่างมากก็แค่นางบำเรอ ที่สำคัญตั้งแต่แม่ย้ายมาอยู่ที่นี่ พ่อไม่เคยหวนกลับไปเปลืองร่างกายกับผู้หญิงคนนั้นอีก”
“หึ ดอกไม้เอ้ย เอ็งน่ะช่างใสซื่อกับพ่อของเอ็งเหลือเกิน เอาเถอะอย่างไรเสียคุณพีรภาสเขาก็เป็นพ่อเอ็ง” ถอนใจยาวอย่างจะพยายามกลืนความเจ็บช้ำลงอก อีกฝ่ายพูดต่อ “ลมกับฟ้ามันไม่ได้นอนอยู่บ้านนายอินทาอย่างที่เอ็งคิดหรอก ไปเอ็งก็คลุ้มคลั่งเสียเปล่า ๆ”
“แม่หมายความว่ายังไง ไหนแม่ว่าลมกับฟ้าเป็นหลานของแม่ แล้วนี่แม่เอาหลาน เอาลูกของหนูไปไว้ที่ไหน แม่บอกหนูมาเดี๋ยวนี้นะ”
“เอ็งหรือมันก็เป็นเสียอย่างนี้ บางครั้งแม่ก็คิด ถ้าหากแม่จะทนหน้าชื่นอกตรมอยู่ในมนวรรธต่อ บุปผาก็ของแม่ก็คงจะยังเป็นบุปผาผู้ว่านอนสอนง่าย น่าทะนุถถนอม”
บุปผาผู้ว่านอนสอนง่าย น่าทะนุถนอม บุปผาผู้ซีดเซียวอ่อนแอต่างหากละไม่ว่า หญิงสาวค้านในใจขื่นขม ขบเม้มริมฝีปากแน่น หล่อนเมื่อครั้งอยู่ในมนวรรธอยู่ในการดูแลควบคุมของตรีชฎามาตลอด หญิงวัยกลางคนผู้ยังสดสวยสคราญคนนั้นเป็นยิ่งกว่านางร้ายในละครหลังข่าว หน้ากากฉาบไว้ไม่มีใครรู้ แม้กระทั่งนายแม่กรองผกาที่หลงไว้วางใจปล่อยคนสนิทของแม่สามีช่วยเลี้ยงลูกของตัวเองมาตั้งแต่แบเบาะ สิบเจ็ดปีทีเดียว สิบเจ็ดปีที่มีชีวิตราวกับอยู่ในกระโจมคับแคบมืดมิด
บุปผชาติไม่ได้เล่าทุกสิ่งเกิดขึ้นเสียทั้งหมด แม้หลังจากแม่จับความสัมพันธ์ทางชู้สาวระหว่างพ่อกับตรีชฎาได้ก็ไม่บอก ที่ยังปกปิดก็เพราะไม่ต้องการโถมทับความเจ็บช้ำให้ท่านมากกว่าได้รับอยู่ แต่เพียงแค่นั้นทั้งย่าทั้งแม่ก็หมดซึ่งความวางใจจะให้ตรีชฎารับหน้าที่พี่เลี้ยงของหล่อนแล้ว
“ช่างเถอะ ไหน ๆ มันก็ไหน ๆ อย่างไรเสียเอ็งก็เป็นลูกสาวที่รักของแม่ไม่เสื่อมคลาย ดื้อรั้น หัวแข็ง ขี้โวยวายไปหน่อยแต่ก็มีชีวิตชีวาดี ที่สำคัญยังทำหลานน่ารัก ๆ มาให้แม่ตั้งสองคน” ราวกับรู้ตัวว่าพร่ำอะไรผิด คนนั่งบนเก้าอี้พูดไปยิ้มอ่อนบางไป พลางเหล่ตาหวาน ๆ มามองหล่อน
“แม่อ่ะ อย่างนี้ทุกที ชอบตบหัวแล้วลูบหลัง” ต่อว่าเสียงขึ้นจมูก บุปผชาติยิ้มขวยเขิน ก่อนจะถามถึงลูกแฝดชายหญิงอีก “ตกลงป้าคำจันพาลมกับฟ้าไปซ่อนที่ไหนตามคำสั่งแม่”
“จะมีที่ไหนที่ลมกับฟ้าจะคุ้นเคย เท่าที่... ”
ชะงักคำกำลังจะบอก เจ้าของบ้านทิพย์วารีหันขวับ ถามเสียงห้วน “นั่นใครน่ะ”
❤️❤️❤️❤️❤️
ความคิดเห็น