คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : หัวอกแม่ : ครึ่งจบ
เสิร์ฟต่อค่ะ อ่านให้สนุกนะคะ ผิดถูกอย่างไรสามารถติชมได้นะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ ❤️❤️❤️❤️❤️
“คร้าบ คร้าบ คร้าบ นั่นแหละคร้าบ ยายจันนี่ไม่รู้เรื่องเลย” ชายร่างผอมเล็กร่วมผสมโรง ฟากหนูน้อยตัวอ้วนป้อมยกนิ้วยิงหญิงสูงวัย พลางห่อปากพ่นเสียงชี่ ๆ น้ำลายกระฉูด ก่อนจะหัวเราะอิอิ นัยน์ตาพรายระยับ
“มามี๊ไปด้วยมั้ย” ฑิฆัมพรเอียงคอถาม ขณะเดียวกันมือตุ๊กแกเริ่มคลาย
“ไปจ๊ะ แต่ต้องหลังจากมามี๊ให้น้ำโจ๋จ๋ากับนิลจ๋ากินเรียบร้อยแล้ว ฟ้าซ่ากับลมแสบไปกันก่อนนะลูก”
“ไม่ไป” ขยลส่ายหน้า “จะช่วย”
“ช่วยก็ได้แต่เอาไว้วันหลัง”
“ไม่เอา”
“ลมซ่า” เมื่อแฝดชายมีทีท่าไม่ยอม บุผปชาติเริ่มหงุดหงิด ทว่าอีกฝ่ายยังดึงดัน
“จะช่วยอ่ะ”
“ฟ้าช่วยด้วย” คราวนี้ฟากคนที่ทำท่าว่าง่ายเริ่มเอาอย่างน้อง
“ลมซ่า ฟ้าแสบ” หญิงสาวพูดเสียงเรียบเนิบ หันมองลูกชายที ลูกสาวที อย่างพยายามสะกดกลั้นอารมณ์สุด ๆ “มามี๊รู้ว่าหนูทั้งสองอยากช่วยมามี๊ทำงาน นั่นถือเป็นเรื่องที่ดี แต่การปล่อยให้คนที่เขาตั้งใจมาหารอนานไม่ดีเลยนะจ๊ะ โดยเฉพาะใครคนนั้นเป็นคนที่ลูกปลาบปลื้มอยู่ มันไม่ดีเลยนะจ๊ะ ว่าไหม”
“ไม่ดี ไม่ดี” พูดพลางแฝดคนน้องก็ส่ายหน้า
“งั้น” หญิงสาวเลิกคิ้วใส่ แม้จะยังอิดออด ทว่าขยลก็ขยับตัวจะออกจากอ้อมกอด ขณะหล่อนผู้เป็นแม่ค่อย ๆ ปล่อย มองตามหลังลูกชายกระทั่งอุ้งมือเล็กข้างหนึ่ง มีมือเหี่ยวย่นของหญิงสูงวัยเกาะกุม บุปผชาติหันไปเลิกคิ้วใส่แฝดพี่
พยักหน้า ฑิฆัมพรพาตัวออกจากอ้อมแขนอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น ใจโหวงเหวงวูบกะทันหันเชียว มืออีกข้างของหญิงสูงวัยคนเดิมรับหน้าที่เกาะกุมมือของเด็กหญิง
โชคดีลูกของหล่อนไม่ได้โตมาเฉพาะกับแม่และยาย เด็กแฝดจึงไม่ค่อยงอแงนักเมื่อต้องอยู่กับคนอื่น แต่เวลานอนนี่สิ
กว่าบุปผชาติจะพาตัวเองลุกยืนเต็มความสูงได้ เล่นเอาย่ำแย่ทีเดียว ด้วยอยู่ท่าเดิมนาน ๆ ตะคริวมันก็เล่นงาน หลังจากพยักหน้าส่งสัญญาณ สตรีร่างท้วมจูงแฝดชายหญิงไปเล่นกับโจ๋จ๋าและนิลจ๋าต่อ ส่วนหล่อนกับชายร่างผอมเล็กยืนคุยกันเบา ๆ
“คืนเดียวเท่านั้นละจ้ะลุง ความจริงหนูไม่อยากทำแบบนี้เลย แต่แม่น่ะสิ”
“คร้าบ ผมเข้าใจคร้าบ ตอนจ่ามานพบอกว่าเห็นคุณชายปาริวรรตระหว่างทาง นายแม่ตกใจมาก”
“ก็น่าจะตกใจอยู่หรอก”
“ว่าแต่คุณชายปาริวรรตมาที่นี่ทำไมหรือคร้าบ”
“ไม่รู้เหมือนกัน เห็นว่าเอาของฝากมาให้ ของฝากอะไรก็ไม่รู้ ส่งไปรษณีย์มาก็ได้” เหล่ตามองลูกแฝดซึ่งกำลังเจื้อยแจ้วสลับหัวเราะร่าเริง แกล้งยื่นแกล้งหดหญ้าแห้งเส้นเล็กในมือ ขณะโจ๋จ๋าและนิลจ๋าครางครืดเป็นระยะ แล้วก็ถือโอกาส ยืนฟังเสียงลูก เสียงเพื่อนรักของตัวเอง เสียงเพื่อนรักของแม่ เสียงเกือกม้ากระทบพื้น เสียงหางม้าสะบัดโดนบั้นท้ายชั่วขณะหนึ่ง จึงวกสายตากลับมาทางชายสูงวัย
“เออ ลุงบอกว่าจ่ามานพเห็นคุณชายปาริวรรตระหว่างทางใช่ไหม”
“คร้าบ”
“งั้นคนโรยเรือใบก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก”
“โรยเรือใบ” อีกฝ่ายทวนคำเสียงสูง” นัยน์ตาฉายแววพิศวง “ใครโรยเรือใบหรือคร้าบ”
“ก็จ่ามานพลูกชายอีกคนของแม่ไง” บุปผชาติแขวะไปถึงคนกำลังกล่าวถึง” นี่คงตั้งใจให้แม่มีเวลาเตรียมทางหนีทีไล่ได้ทัน ไม่รู้นายแม่ของลุงรู้เห็นเป็นใจด้วยหรือเปล่า” นัยน์ตาหรี่เล็กลงเป็นรูปสระอิ
“ไม่หรอกคร้าบ ผมรับประกัน”
“ไม่ก็ไม่ หนูจะพยายามเชื่อ เห็นตอนรู้เรื่องทำใสซื่อเชียว ป้าคำจันจ๊ะ” หันไปทางหญิงสูงวัยเมื่อคิดว่าสมควรแก่เวลา “พาลมกับฟ้าไปหาไอรอนแมนกับสไปเดอร์แมนได้แล้วละจ้ะ ออกทางหลังนะป้า”
“ค้า” อีกฝ่ายรับคำรู้งาน
“ลมซ่า ฟ้าแสบ ” หญิงสาวไม่ได้เดินเข้าหาลูก “ไปกับยายจันนะจ๊ะ ให้น้ำโจ๋จ๋าเสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวมามี๊ตามไป ขอร้องอย่าดื้อ เข้าใจไหม” ตอนท้ายประโยคหล่อนทำหน้าทำตาคล้ายแม่มดใจร้ายในนิทาน ทว่าเผยยิ้มนิด ๆ ตรงมุมปาก
ฟากแฝดชายหญิงทำแก้มพองลมมองหล่อนตาคว่ำ แต่เป็นเพียงแพลบ ๆ แค่นั้นแหละ เดี๋ยวก็กลับไปเล่นลืมโลกอีก ก้มตัวพยักพเยิดหน้าชวนสักครู่หญิงสูงวัยพาเด็กทั้งสองเดินไปตามทางเรี่ยด้วยหญ้า เมื่อประตูแคบ ๆ อีกบานวาดปิด บุปผชาติพลิกตัวหันไปหาชายสูงวัย
“ลุงอินทามากับหนู นายแม่เขาอาสาจะให้ลุงขนกระเป๋า นายแม่ลุงนี่ดี๊ดีเนอะ อาสาแต่ไม่ทำเอง แต่กระเป๋าของแต่ละคนคงใบไม่ใหญ่หรอก เดี๋ยวหนูช่วยลุงอีกแรง”
“ไม่ต้องหรอกคร้าบ กล้ามผมยังเป็นมัดอยู่ ๆ”
บุปผชาติมองก้อนเนื้อโผล่มาให้เห็นหน่อย ๆ บนแขนผ่ายผอมหย่อนยาน เผนยเส้นเอ็นสีเขียว ๆ ก่อนจะหัวเราะหึ
“เอาเถอะ ถึงลุงอินทาจะแข็งแรงอยู่ แต่หนูจะช่วย อย่ามีปัญหา”
“คร้าบ คร้าบ ไปกันเลยไหมคร้าบคุณดอกไม้ ”
“ไปสิ” ตั้งท่าจะก้าวเท้า ทว่ากลับชะงักไว้โดยพลัน “เออลุงให้หญ้า ให้น้ำโจ๋จ๋ากับนิลจ๋าเรียบร้อยแล้วใช่ไหมจ๊ะ”
เกือบลืมไปว่าใช้อะไรเป็นข้ออ้างกับลูกแฝด ต่อเมื่ออีกฝ่ายตอบว่า
“หญ้าเรียบร้อยคร้าบ แต่น้ำยังไม่ได้เติมคร้าบ”
“ดีเลย” ยิ้มย่อง ก่อนจะเดินไปดึงสายยางคล้องไว้เป็นระเบียบข้างเสา เมื่อไปยืนอยู่หน้ารางน้ำส่วนตัวของม้าสีปลั่ง บุปผชาติหันไปเลิกคิ้วใส่คนยืนเฉย
“อ้าวลุงอินทา เปิดก๊อกสิ หนูบอกจะช่วยลุง ลุงก็ต้องช่วยหนูสิ เอ๊ะยังไง”
“คร้าบ” แทบถลาทีเดียว หลังรับคำตามสไตล์
ยักคิ้วให้โจ๋จ๋า นิลจ๋าที่กำลังเดินวนรอคนละที บุปผชาติส่ายหน้า ชั่วอึดใจน้ำใสสะอาดไหลซ่า เมื่อน้ำรางหนึ่งไต่ระดับมาถึงค่อน เท้าก้าวไปด้านข้าง สักพักม้าสีดำปีกกาก็ได้คลายกระหายแบบสบาย ๆ เสมือนหนึ่งกำลังอยู่ริมลำธารกลางเขาด้วย
คล้องสายยางเก็บ กลับไปให้หญ้าอีกทั้งชวนเล่น หยอกเย้ากับม้าทั้งสองตัวต่อชั่วครู่ หญิงสาวพรูลมหายใจเฮือก
เอาเถอะ แค่วันนี้และพรุ่งนี้ ขอให้พวกเขาออกแต่เช้า ถ้าพิลี้พิไลถึงเย็นค่อยไป มีหวังอกแตกตาย
จากนั้นจะบอกเรื่องแฝดแสบซ่ากับย่าและพ่อ ต่อให้เกิดอะไรขึ้นหล่อนก็จะเผย แม้พวกเขาอาจไม่ได้รับการยอมรับ ทว่ามันก็ดีกว่าไร้ตัวตน ทีนี้แหละนังดอกเอ๋ย สบายตัวแน่
เอ แต่ไม่แน่ว่าที่คุณชายปาริวรรตมาที่นี่ อาจจะมายกเลิกข้อตกลงกับหล่อนโดยตรงก็ได้ ไอ้เรื่องเอาของฝากมาให้นั่นมันข้ออ้าง
อิอิ ถ้าจริงก็ดีน่ะสิ ยิ่งคิดยิ่งเห็นแสงสีทองรำไร ตะวันจะเบิกฟ้า นกกาจะบินจากรัง บินแบบไม่มีรังให้กลับไปอีก ฮาฮา
เอี้ยดดดดด เหมือนกระต่ายตัวน้อยวิ่งตัดหน้า เท้าเหยียบเบรกกระทันหันจนหัวทิ่ม เมื่อสายตาเผอิญเห็นคนอยู่ด้วยโคลงศีรษะเป็นห่วงอยู่ หากเมื่อซี้ดปากกลืนน้ำลายกำลังจะย้อยไหลต๊อบกลับเข้าในคอ ยิ่งรู้ตัวว่าเผลอแสดงอะไรมากเกินไป แววในดวงตาสีเถ้าคู่นั้น
ทว่าระดับหล่อน หึ มีหรือจะหน้าม้าน มันต้องอีก ยกมือป้องปากหัวเราะร่าเพิ่มจริตกว่าเดิม พลางชำเลืองมองชายสูงวัย ครั้นเห็นอีกฝ่ายถอนใจเฮือก ๆ เครียดกังวล กังวานเสียงเปล่งก้องเท่าตัว
แต่เล่นไม่นานหรอก สักครู่บุปผชาติปรับสภาพทั้งอารมณ์และกิริยาท่าทางกลับเป็นคนปกติ พูดเสียงธรรมดา
“ไปกันเถอะลุง ป่านนี้แม่ชะเง้อคอยาว เส้นเลือดในสมองเต้นตุบ ๆ เสียละมั้ง”
“คุณดอกไม้นี่ ผมละยอมจริง ๆ” บุรุษร่างเล็กโคลงศีรษะอีก
ยิ้มพลางก้าว เท้ากำลังจะถึง ประตูบานเล็กดันอ้าออกเสียก่อน
เงาดำสูง ๆ นั่น
❤️❤️❤️❤️❤️
ความคิดเห็น