คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 5 : ตอนจบ
เสียงคลื่นซัดหาดทรายดังแผ่วแว่วเป็นระยะ ลมพัดพากลิ่นกรุ่นอายทะเลแสนคุ้นเคยโชยลอยมาเตะจมูกตลอดเวลา การันต์ยกถ้วยในมือขึ้นจรดริมฝีปาก ก่อนจะกระดกกาแฟเข้มขมไปเกินครึ่ง
หลังจากยืนมองสามีภรรยาเล่นน้ำทะเลอยู่นาน ภาพความใกล้ชิดของหนุ่มสาวเช่นตาเห็น และคำรายงานของกิ่งกับยิ่งยง ทำให้ความกังขาของเขาค่อย ๆ หมดไป
สองคนนั่นน่าจะเป็นคู่ชีวิตกันจริงตามที่บอก
ยกถ้วยกาแฟจรดริมฝีปากอีกครั้ง แล้วหมุนตัวเดินไปยังม้าหินอ่อน ตั้งห่างจากริมรั้วเพียงสามก้าวเดินถึง
ลั่นทมสีขาวสีชมพูหลุดจากขั้วปลิวร่วงราวฝนโปรย การันต์ยืนมองดอกไม้กลิ่นหอมละมุนที่ค่อย ๆ ทิ้งตัวพำนักบนพื้นอิฐมอญตามแรงลม คุณนวลปรางชอบพันธุ์ไม้ชนิดนี้มาก ท่านหามาปลูกไว้เต็มรั้วบริเวณบ้าน เขาเคยถามทำไมถึงชอบลั่นทมนัก
...‘ชีวิตฉันทุกข์ระทม พบแต่การพลัดพราก ฉันปลูกต้นลั่นทมไว้แก้เคล็ด’ หญิงวัยกลางคนหยุดพูด เหม่อมองท้องทะเลกว้างไปสุดไกลอยู่นาน ก่อนหันมาดักคอ ‘แต่ไม่ต้องถามนะว่าแก้เคล็ดอะไร เอาตำรามาจากไหน และแก้ได้สำเร็จหรือไม่’…
บางที...การที่ฉลองขวัญมาที่นี่ อาจเป็นผลแห่งความคาดหวังของคุณนวลปราง ถึงแม้ผลนั้นท่านจะไม่ได้อยู่รับรู้แล้วก็ตาม
วางถ้วยกาแฟในมือบนโต๊ะใกล้ ๆ แท็บแล็ต ทิ้งตัวบนม้านั่ง
‘ล้วงลึก’ ชื่อคนใช้นามนี้ส่งข้อความเข้ามายังอีเมลส่วนตัว มีผลให้นิ้วชี้เรียวยาวเล็บตัดสั้นสะอาดเรียบร้อย ที่กำลังแตะเลื่อนไล่หน้าจอไปเรื่อยชะงักค้างนิดหนึ่ง ก่อนเนื้อความจะโดนคลิกอ่านอย่างรวดเร็ว จบบรรทัดสุดท้ายจึงลุกเดินไปยังริมรั้ว ทอดสายตามองไปที่ฉลองขวัญกับวงศกรอย่างชั่งใจ สองคนนั่นยังเล่นน้ำทะเลกันอยู่
…‘คุณฉลองขวัญกับคุณวงศกรออกไปเล่นน้ำทะเลแล้วค่ะ คุณทั้งสองตื่นขึ้นมาเล่นน้ำทะเลทุกเช้าเลยค่ะคุณการันต์ อย่างกับคนไม่เคยพบไม่เคยเห็นทะเล’
กิ่งจีบปากจีบคอรายงาน เมื่อเขาถามถึงฉลองขวัญและวงศกรที่โต๊ะกินข้าวเมื่อเช้านี้ หลังจากนั่งรอทั้งคู่อยู่นาน
แดดแรงขึ้นจนสัมผัสได้ แม้จะยืนอยู่ใต้ร่มเงาของต้นลั่นทมก็ตาม หนังศีรษะของเขาเริ่มแสบร้อน รู้สึกได้ว่าเหงื่อเม็ดเล็กซึมออกมา อยากกลับเข้าไปในตัวบ้านเหลือเกิน แต่มีเรื่องต้องคุยกับหล่อน
การันต์เดินไปยังประตูรั้วไม้ระแนงสีขาว ก่อนเลื่อนเปิดมันออก ตั้งใจจะเดินไปหาคนทั้งสอง หากแต่ต้องชะงักเท้าขณะกำลังจะก้าวลงบันได ฉลองขวัญกับวงศกรได้เดินย่ำหาดทรายขาวเนียนละเอียดตรงมายังรั้วบริเวณบ้าน
เขาหันหลังเดินกลับไปนั่งบนม้าหินอ่อนเช่นเดิม รอคอยคนทั้งสองก้าวพ้นผ่านประตูรั้วเข้ามาอย่างพยายามระงับอารมณ์มีคลื่นแรง
“คุณฉลองขวัญ” ลุกยืนพร้อมส่งเสียงเรียกทันทีเมื่อทั้งสองกำลังจะเดินผ่าน ทั้งคู่ชะงักเท้า แล้วก็เป็นวงศกรหันมายิ้มให้
“อ้าว...คุณการันต์ กลับมาเมื่อไหร่ครับ โทษทีนะครับผมกับขวัญไม่เห็นว่าคุณนั่งอยู่เลยไม่ได้ทัก”
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบคำถามคนอ่อนวัยกว่า แต่กลับเดินตรงไปหาอีกคน
“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
“เรื่องด่วนหรือเปล่า” หญิงสาวเลิกคิ้ว ในแววตานั้นฉายชัด บอกว่าไม่อยากจะเสวนาด้วย “ถ้าไม่ด่วนฉันขอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ไม่อยากคุยกับใครก็ไม่รู้ในสภาพยั่วสายตา”
การันต์ถอนหายใจ ก่อนมองสภาพอีกฝ่ายในชุดกางกางขาสั้นเสื้อยืดสีเนื้อบางเบาเปียกน้ำนั่น ผิวของหล่อนคล้ำกรำแดดไปมากทีเดียว
เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่พาดไว้กับพนักพิงของเตียงอาบแดดไม้สีขาวยื่นส่งให้ ทว่าฉลองขวัญไม่ได้ยื่นมือออกมารับ กลับเดินไปยังเตียงอาบแดดอีกตัว หยิบผ้าอีกผืนที่วางอยู่ขึ้นมาคลุมกาย แม้จะนึกฉุนแต่เก็บอาการไว้ เขาหันไปทางอีกหนึ่งบุรุษ แล้วยื่นสิ่งในมือไปข้างหน้า
“ขอบคุณครับ” ทันทีวงศกรจำใจรับความหวังดีของเขา ชายหนุ่มก็เข้าเรื่อง
“ผมมีเรื่องส่วนตัวจะคุยกับคุณฉลองขวัญ หากคุณจะไม่ว่า”
“ไม่ต้องกร” หญิงสาวห้ามเสียงเฉียบเมื่อวงศกรอ้าปากจะพูดกับเขา “คุณคงไม่ว่าถ้าเรื่องส่วนตัวที่คุณบอกว่าจะคุยกับฉันมีกรร่วมฟังอยู่ด้วย”
“หากคุณต้องการอย่างนั้น” เขาค้อมศีรษะ “มีหรือที่ผมจะว่าได้ ในเมื่อเขาเป็นสามีของคุณ มีสิทธิ์รับรู้ทุกอย่างอยู่แล้ว”
“งั้น” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ใคร่จะสนใจในสิ่งซึ่งเขาจะพูดกับหล่อนมากนัก “มีอะไรก็ว่ามา ฉันกับกรยังไม่ได้กินข้าว ตอนนี้หิวมาก หวังว่าคุณคงใช้เวลาไม่นาน”
“เรื่องที่ของคุณ ผมรู้มาว่าคุณเอามันไปจำนอง”
“ที่ของฉัน” หล่อนย้อนถามดวงตาฉายแววไม่พอใจ “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ”
“มันไม่เกี่ยวกับผม” ชายหนุ่มกล่าวเสียงขรึม “แต่ถ้าที่ตรงนั้นหลุดจำนอง นั่นเท่ากับว่าสมบัติเก่าแก่ดั้งเดิมของตระกูลยายคุณหลุดลอยไป คุณรู้ไหมแม่คุณต้องใช้ความพยายามมากมายเท่าไรที่จะเก็บรักษามันไว้ เพื่อมอบให้กับคุณ”
“งั้นหรือ” หรี่ตาเล็กลง หญิงสาวก้าวเท้าเข้ามาใกล้ “เหมือนที่ใช้ความพยายามอย่างมากมาย ที่จะเก็บรักษาบ้านหลังนี้ที่เป็นสมบัติเก่าแก่ดั้งเดิมของตาฉันเพื่อมอบให้กับคุณ ทั้งที่ตาฉันเอ่ยปากยกให้ฉันใช่ไหม แล้วสมบัติอื่นแม่ฉันอีก” หล่อนเดินวนรอบเขา “แม่ฉันคงทำทุกวิถีทางที่จะเก็บมันไว้ให้คุณ แม่คงรักคงหลงคุณมากถึงยกทุกอย่างที่มีเกือบทั้งหมดให้”
การันต์ฉวยมือฉลองขวัญหมายรั้งร่างแสนถวิลหาให้หยุดเดิน อีกฝ่ายสะบัดมือเขาทันควัน มองตาวาว วงศกรขยับตัวเข้ามายืนเคียงหล่อนพร้อมปกป้อง
ชายหนุ่มปรายตามองอีกหนึ่งบุรุษเชิงปราม ตั้งใจบอกให้รู้ว่า อย่าเข้ามายุ่ง ก่อนพูดเสียงเข้มชัดเจนทุกถ้อยคำ
“ผมไม่สนว่าคุณจะคิดอย่างไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างผมกับแม่ของคุณ แต่จะพูดจะจาอะไรกรุณาให้เกียรติท่านบ้าง เพราะวันหนึ่งถ้าคุณรู้ว่าสิ่งที่คุณพูด สิ่งที่คุณคิดมันไม่จริง วันนั้นคุณจะเสียใจ”
หล่อนเม้มปากแน่นพร้อมทั้งเชิดหน้า ดวงตาวาววับไร้ความเป็นมิตรจ้องเขาเขม็ง “แค่นี้ใช่ไหมที่คุณจะพูด ฉันกับกรต้องขอตัว”
“ผมยังพูดไม่จบ”
“มีอะไรอีก”
“ผมอยากรู้ว่าคุณเดือดร้อนอะไร ถึงกับต้องนำที่ไปจำนอง”
“ฉันไม่ได้เดือดร้อนอะไร” หล่อนยักไหล่ กล่าวประชด “ก็แค่ไม่มีทุนรอนให้ชีวิต เงินทองที่มีสะสมเพียงน้อยนิด ก็หมดเกลี้ยงไปกับค่าภาษีมรดก งานไม่มีทำ ดอกออกผลจากทางใดก็ไม่มี การศึกษาก็ต่ำ ไม่ได้มีโอกาสจบเมืองนอก มีโปรไฟล์สวยหรูเข้าไปนั่งบริหารงานในบริษัทก่อสร้างใหญ่โตของผู้หญิงคนหนึ่งก็เท่านั้น”
“ผมจะจัดการไถ่ถอนที่ของคุณให้” เขาพูดเสียงอ่อน
“ไม่ต้อง” หญิงสาวปฏิเสธทันควัน “ฉันเอามันไปจำนองเอง ฉันจะเป็นคนไถ่ถอนมันเอง หากคุณจะไถ่ที่ให้ ฉันว่า...คุณคืนบ้านหลังนี้ให้ฉันดีกว่า มูลค่ามันคงไม่ต่างกันนัก” หล่อนหยั่งเชิง
สาวน้อยเอย ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย ว่าบ้านพร้อมที่ดินติดชายทะเลหลังนี้มีมูลค่ามากกว่าที่ดินว่างเปล่าหลายเท่านัก การันต์ลอบถอนใจ ก่อนจะตัดบท
“ผมจะให้คนไปจัดการเรื่องไถ่ที่ให้คุณ ไม่ว่าคุณจะต้องการหรือไม่ก็ตาม และผมหวังว่าคุณคงไม่เอามันไปจำนองอีก”
“อยากจะไถ่นักก็เชิญ แค่นี้ใช่ไหมฉันขอตัว” ฉลองขวัญพูดเสียงสะบัดก่อนจะ
หันไปยังอีกหนึ่งบุรุษ “ไปเถอะกร ขวัญหิวข้าวจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว นี่ไม่รู้โรคกระเพาะจะถามหาหรือเปล่า ป่านนี้แล้วยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย”
“ผมยังพูดไม่จบ”
“มีอะไรอีกหรือ” หล่อนหันมาอย่างขัดใจ
“ผมจะให้คนโอนเงินค่าใช้จ่ายประจำเดือนให้คุณ” เขาหันไปยังวงศกร “เฉพาะคุณเท่านั้นคุณฉลองขวัญ กรุณาเตรียมเลขที่บัญชีให้ผมด้วย”
“ใจดีจัง” ฉลองขวัญลอยหน้าแย้มยิ้ม “อุตส่าห์โยนเศษเงินมาให้ใช้ ฉันควรจะขอบคุณคุณใช่ไหม...ขอบคุณมากค่ะ แต่เรื่องบัญชีธนาคาร ฉันคงไม่ต้องเตรียมกระมัง คุณคงหาทางได้มันมาไม่ยาก” พูดจบหล่อนหันไปยังสามีของหล่อนอีก
“ไปกันเถอะกร ขวัญคิดว่าคุณการันต์เขาคงไม่มีเรื่องอะไรจะพูดแล้วแหละ ไปเถอะขวัญหิวจนเกือบกินช้างได้แล้วเนี่ย”
“ผมขอตัวก่อนนะครับคุณการันต์”
“เชิญ” พลิกตัวหันหลังให้อย่างไม่อยากจะเห็นภาพที่เป็นเสมือนปลายเข็มแหลม ๆ ทิ่มลงกลางใจอีก
เสียงฝีเท้าของทั้งสองค่อย ๆ ห่าง ขณะเขายังคงรู้สึกหนักอึ้งในอกอย่างบอกไม่ถูก
…‘ผมคงรับมันไว้ไม่ได้หรอกครับ’ ชายหนุ่มปฏิเสธ ขณะเจ้าหน้าที่ยื่นเอกสารให้เซ็นรับ
‘ฉันไม่มีใคร’
‘แต่ท่านมีคุณฉลองขวัญ’ เขาแย้ง
‘มีก็เหมือนไม่มี’ หญิงวัยกลางคนถอนใจ สีหน้าอมทุกข์เศร้าหมอง ‘พ่อเขาเกลียดฉัน ไม่คิดอภัยให้ เขาไม่ต้องการให้ลูกมายุ่งเกี่ยวกับฉัน ไม่ต้องการให้ฉันไปยุ่งเกี่ยวกับลูก...ถ้าฉันยกบ้านนี้ให้ฉลองขวัญ เขาต้องบอกให้ฉลองขวัญขายมันแน่นอน บ้านพ่อบ้านแม่ฉัน ฉันไม่อยากให้ตกไปอยู่ในมือใครก็ไม่รู้’
‘แล้วท่านคิดว่า คุณวิญญูจะไม่ให้คุณฉลองขวัญขายที่หรือครับ’
สตรีผู้ช่ำชองในวงการธุรกิจก่อสร้างแค่นหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะกล่าวเสียงขื่น
‘เขาไม่ทำหรอก เพราะที่ตรงนั้นไม่มีความทรงจำของเขากับฉันกับลูก’ หญิงวัยกลางคนหยุดพูด มองเขานิ่ง ‘ฉันอยากให้เธอดูแลฉลองขวัญ ดูแลบ้านหลังนี้ เธอรับปากฉันได้ไหม’
‘ผม...’
‘การันต์...’ ดวงตาอ่อนแสงคู่นั้นมองเขาอย่างเอ็นดู ‘อย่าคิดว่าฉันไม่รู้’
‘ผม...’ ชายหนุ่มหลบตาต่ำ คำโต้แย้งกลืนหาย กระดาษแผ่นนั้นมีลายเซ็นของเขาจรดในเวลาชั่วครู่ต่อมา
เด็กสาววัยใสที่เคยอยู่ในอ้อมกอดเขาเพียงเสี้ยววินาทีในห้วงเวลาจิตใจอ่อนไหว มีแต่ความผิดหวังระคนทุกข์ระทมรุมเร้า วันนี้กลับมีอ้อมกอดชายหนุ่มอีกคนคอยปกป้อง โอกาสจะได้สัมผัสความรู้สึกอุ่นวาบ ใจเต้นแรง เลือดสูบฉีดซาบซ่านทั่วร่าง ยามมีหล่อนในอ้อมแขนคงไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว
ความคิดเห็น