ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ริ้วลายเมฆ (ฉบับอีบุ๊ก)

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 3 : ตอนจบ

    • อัปเดตล่าสุด 21 ต.ค. 62





    “หนูขวัญ...หนูขวัญของยาย” ทันทีวกกลับไปประสานสบนัยน์ตา กับหญิงชรา อีกฝ่ายก็ถลาเข้ากอดหล่อนเสียแน่น เล่นเอาตั้งตัวแทบไม่ทัน

    ยายคนนี้เป็นใครไม่รู้จัก แต่จำได้ว่าแกยืนต้อนรับแขกอยู่ที่งานศพ หรือจะเป็นญาติคนหนึ่งคนใดของหล่อน ฉลองขวัญสวมกอดตอบ

    หญิงชราตัวเล็ก ๆ เนื้อตัวผิวหนังเหี่ยวย่นให้ความรู้สึกอบอุ่นเสียเหลือเกิน อย่างน้อยหล่อนก็มีญาติผู้ใหญ่อยู่ที่นี่

    “หนูขวัญของยายโตเป็นสาวแล้ว ดูสิสวยด้วย” อีกฝ่ายพูดไปบีบนวดแขนหล่อนไป

    “ยายอิ่ม” การันต์พูดเสียงเนิบ “ยายของผม แกเป็นคนเลี้ยงคุณตั้งแต่เกิดจนกระทั่งพ่อของคุณพาคุณไปจากบ้านนี้”

    คลายวงแขนออกทันทีโดยอัตโนมัติ และนั่นก็ทำให้สตรีสูงวัยถึงกับหน้าถอดสี ก่อนเสียงแหบแห้งเอื่อยอ่อยจะเอ่ยถ้อยคำกระทบใจ

    “หนูขวัญรังเกียจยายหรือลูก”

    “เอ่อ...เอ่อ...เปล่าค่ะ คือขวัญกลัวยายอึดอัดน่ะค่ะ” ละล่ำละลักแก้ตัว

    ยิ่งสบตาหญิงชรา ยิ่งรู้สึกผิด ยายแกแก่แล้ว คงไม่รู้เรื่องอะไรของหลาน รวบคนตัวเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดพูดเสียงหวาน “แต่ถ้ายายอิ่มไม่ร้อนขวัญกอดยายอีกก็ได้”

    “โถแม่คุณของยาย” สตรีสูงวัยน้ำตาเล็ด “ขอบใจหนูขวัญที่ไม่รังเกียจคนแก่เนื้อตัวเหี่ยวย่น”

    ฉลองขวัญเช็ดน้ำตาให้อีกฝ่าย ชักโกรธตัวเองอยู่ครัน ๆ ความจงเกลียดชายหนุ่มผู้ซึ่งเก็บเรียบความรู้สึก ทำให้หล่อนกลายเป็นคนพาลอย่างน่าชัง “ยายอย่าร้องไห้สิจ๊ะ เห็นน้ำตายายไหลแล้วขวัญใจไม่ดีเลย”

    “ไม่ร้องแล้วไม่ร้อง” ยายอิ่มปาดน้ำตาลวก ๆ “แค่ได้เจอหนูขวัญอีกครั้งก่อนตาย ยายก็นอนตายตาหลับ” หญิงชราหันซ้ายแลขวา “เออ ...แล้วพ่อวิญญูล่ะหนูขวัญ ไม่ได้มาด้วยหรือ”

    “ไม่มาจ้ะ ขวัญชวนแล้ว แต่พ่อไม่มา บอกไม่อยากนั่งรถไกล” โป้ปดไปแล้วก็อดไม่ได้จะชำเลืองมองคนเป็นหลาน

    สีหน้าเขาดูผ่อนคลายเชียว ยามจับจ้องยังยายอิ่มเพียงคนเดียว ฉลองขวัญคิดว่าตาตัวเองไม่ฝาด แววตาคู่นั้นช่างอ่อนโยนเสียเหลือเกิน หญิงสาวรีบหลบตา เมื่อชายหนุ่มเหลือบมามอง

    “หนูขวัญ”

    “คะยาย”

    “แล้วพ่อคนนี้ใครกันล่ะ”

    หันไปสบตากับวงศกร ก่อนจะกลับมามองหญิงชรา “เอ่อ...ยายอิ่มคะ นี่วงศกรสามีของขวัญค่ะ”

    “สามี” ยายอิ่มทวนคำหน้าฉงน หันไปทางหลานชาย

    “คุณวงศกรสามีคุณฉลองขวัญครับยาย”

    “อ้าว...แล้วเอ็งล่ะ”

    ฉลองขวัญก้มมองคนอายุมากสุดภายในห้อง ก่อนหันไปมองการันต์ มีอะไรเกี่ยวกับเขา

    “ยายครับ ผมว่ายายไปพักผ่อนก่อนดีกว่า นี่ก็ใกล้เวลากินยาแล้วด้วย”

    เมื่ออีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้ ก็จำต้องคลายวงแขนขยับออกห่างหลีกทาง ทว่าคนดื้อไม่ยอมทำหน้าบึ้งส่งเสียงเขียว

    “พักผ่อนอะไร ยายเพิ่งตื่นเมื่อตะกี้”

    “เมื่อตะกี้ของยายน่ะ มันเมื่อสี่ชั่วโมงที่แล้วนะครับ”

    “สี่ชั่วโมงที่ไหน” หญิงชราเถียงเสียงแข็ง “นี่เอ็งเห็นยายเป็นอะไร ถึงได้มาพูดปดกันเห็น ๆ ถึงยายจะแก่แต่ความจำยายยังดีอยู่ ไม่ได้ขี้หลงขี้ลืมอย่างนังกิ่งมันหรอก”

    “อ้าว...ยาย” สาวใช้โวย “ไหงเอาหนูไปโยงด้วยล่ะ”

    “ก็มันจริงไหมล่ะ หรือเอ็งจะเถียง”

    “พอเถอะครับ ยายไม่อยากพักก็ไม่เป็นไร” การันต์ตัดบท “แต่คุณฉลองขวัญเธออยากพัก คุณฉลองขวัญของยายเพิ่งเดินทางมาเหนื่อย ๆ ยายจะไม่ให้เธอได้พักผ่อนเลยหรือครับ”

    “อ้าว แล้วทำไมเอ็งไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะ ว่าหนูขวัญเธอเพิ่งมาถึงเหนื่อย ๆ” หยุดหายใจหอบชั่วครู่ยายอิ่มก็หันมาทางหล่อน “ยายขอโทษนะหนูขวัญที่มากวน อย่าโกรธอย่าเคืองคนแก่เลยนะ”

    “ไม่ค่ะยาย ยายไม่ได้ทำอะไรผิด” หญิงสาวจับมืออีกฝ่ายลูบไปมาอย่างนิ่มนวล “ขวัญจะโกรธยายได้อย่างไรคะ ยายไปพักผ่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ ขวัญกับกรจะแวะไปคุยด้วย”

    “ไปจริง ๆ นะ อย่าหลอกให้คนแก่คอยเก้อล่ะ”

    “ไปจริง ๆ ค่ะ” ฉลองขวัญยืนยันเป็นมั่นเหมาะก่อนหันไปพยักพเยิดกับวงศกร “เนอะกรเนอะ วันพรุ่งนี้เดี๋ยวเราแวะไปคุยกับยายแกนะ”

    “เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมกับขวัญจะแวะไปคุยด้วยนะครับ คุณยายไปพักผ่อนเถิดครับ อีกอย่างจะได้กินยาตามเวลาที่หมอสั่งด้วย คนไข้ไม่ดื้อกับหมอ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งหมอนะครับ”

    “เป็นหมอหรือไงเรา” ยายอิ่มตวัดตาค้อน สุ้มเสียงห้วนเหมือนไม่สบอารมณ์นัก “ถ้าไม่ใช่ ก็อย่ามาทำเหมือนว่าตัวเองเป็นหมอ”

    “ขอโทษครับ” วงศกรหน้าจ๋อย ยกมือทำท่ารูดซิปปิดปาก

    “ยายไม่กวนแล้ว ยายไปก่อนนะหนูขวัญ” ยิ้มหวานส่งท้ายยายอิ่มหันไปทางการันต์ “จะไปหรือยังล่ะตารันต์”

    “ผมขอตัวก่อนนะครับ” เขาค้อมศีรษะ ดูเป็นคนสุภาพเชียว แต่…“เดี๋ยวกิ่งจะเป็นคนพาคุณทั้งสองไปยังห้องของพวกคุณ ผมรับรองว่าไม่ใช่ห้องรับแขกแน่นอน”

    แม้จะเหยียดปาก ทว่าฉลองขวัญก็รู้สึกพึงพอใจกับสุ้มเสียงเรียบเรื่อยนุ่มหูของเขาในอึดใจต่อมา

    “กิ่งเดี๋ยวพาคุณฉลองขวัญกับคุณวงศกรไปที่ห้องด้วย”

    “ค่ะคุณการันต์” สาวใช้พินอบพิเทา

    “ส่วนกระเป๋า ผมให้ยิ่งยงยกไปให้ที่ห้องเรียบร้อยแล้ว คุณไม่ต้องเป็นห่วง” พูดจบชายหนุ่มก็เดินประคองยายของเขาออกไป แบบไม่คิดจะรอคำขอบคุณจากหล่อนด้วยซ้ำ 

    “ชิ...หมั่นไส้” 

    ฉลองขวัญแบะปากใส่ ก่อนจะผุดยิ้มอ่อน เมื่อได้ยินยายอิ่มบ่นหลานของแกเสียงดังเป็นประโยคยืดยาว

    “เอ๊ะ...ตารันต์ เอ็งจะประคองยายทำไม ยายบอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่ายายเดินได้ ยายเป็นคนแก่ไม่ได้เป็นง่อย ปล่อย...ยายจะเดินเอง”

    “ครับ ปล่อยก็ได้ ไม่เห็นต้องโมโหเลย”

    “แล้วมันควรจะโมโหไหมล่ะ”

    “ระวังความดันจะขึ้นนะครับยาย”

    “ยังอีก” หญิงชรายกกำปั้นสูง “เดี๋ยวเขกกบาลเสียเลย”

    “กลัวแล้วครับ ไปกันเถอะครับ”

    ฉลองขวัญยืนมองยายหลานเดินออกจากประตูไปอย่างครุ่นคิด ดูตาขี้เก๊ก ปากร้ายนั่นหงอเชียว บางทียายอิ่มอาจจะเป็นหมากตัวสำคัญทำให้หล่อนบรรลุเป้าหมายได้ง่ายดายขึ้นก็เป็นได้

    “อย่าเชียวนะ สงสารยายแก อย่าทำในสิ่งที่คิดเด็ดขาด”

    เหล่ตามองคนมายืนพูดกระซิบอยู่ข้างหู ก่อนจะโต้ตอบกลับเสียงเบาพอให้ได้ยินกันสองคนอย่างฮึดฮัดขัดใจ

    “รู้แล้วล่ะน่า...กรเห็นขวัญเป็นคนใจไม้ไส้ระกำไปได้”


                      




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×