คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 3 : ตอนต้น
“นั่นมันเรื่องของฉัน” ฉลองขวัญเชิดหน้า “ไม่เกี่ยวกับคุณ”
“ผมรู้” สุ้มเสียงของเขาเรียบเรื่อยเหมือนไม่ต้องการจะต่อความยืด “ขอตัวก่อนเดี๋ยวกระเป๋าของคุณมันอาจจะถูกโยนทิ้งไปนอกรั้ว ถ้าหากผมไปไม่ทัน”
ลับร่างการันต์ ฉลองขวัญหันไปมองวงศกรตาขวาง มือขวายกขึ้นตีไหล่ชายหนุ่ม เขาเบี่ยงหลบ แต่หล่อนไม่พลาด
“โอ๊ย...เจ็บนะขวัญ”
“ก็ตีให้เจ็บน่ะสิ” มองอีกฝ่ายอย่างขัดใจ “กรไม่ช่วยขวัญเลย”
“ช่วยได้ไง ไม่มีจังหวะแทรกเลย” แก้ตัวพลางกลั้วหัวเราะ “ขวัญก็รู้ว่าไอ้เรื่องต่อปากต่อคำนี่มันไม่ใช่งานกร”
“ช่างเถอะ...แค่กรยอมมาเป็นเพื่อนขวัญก็พอแล้ว” ตัดบทจบก็เดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟา ก่อนจะหยิบสิ่งที่หล่อนวางบนโต๊ะกลางก่อนหน้านี้ขึ้นมา “ตากับยายขวัญหน้าตาดีทั้งคู่เลยนะกร”
ฉลองขวัญชี้ชวนให้วงศกรดูบุคคลในรูปถ่าย ประหลาดใจหากแต่ก็ยอมรับความรู้สึกผูกพันท่วมท้น
“จริงด้วย...กรว่าสมัยหนุ่มสาว ตากับยายของขวัญต้องหล่อสวยมาก ๆ แน่เลย น่าเสียดาย...” เขาหยุดพูดทำหน้าขรึม ทว่าในตาเปล่งประกายพริ้มพราย
และนั่นมันก็ทำให้ฉลองขวัญถลึงตาทันที “น่าเสียดายอะไร...พูดมาให้หมด”
“เสียดายที่หลานไม่ได้เชื้อหน้าตาดีมาจากตายายเลยน่ะสิ”
“วงศกร” เรียกชื่ออีกฝ่ายเน้นเสียงหนัก ทำหน้ามุ่ย แก้มป่อง หล่อนไม่สวย ทำไมจะไม่รู้ แต่จะตอกย้ำเพื่อ
วงศกรเชยคางหล่อน นัยน์ตาคร้ามคมมองมาอย่างพินิจ แค่นั้นไม่พอมือของเขายังออกแรงบังคับ ให้หน้าของหล่อนหันไปทางซ้ายที ขวาทีเหมือนพัดลมกำลังส่ายหน้า
“ใครบอกขวัญไม่สวย” ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม “ขวัญชอบคิดไปเองว่าขวัญไม่สวย ขวัญเป็นคนสวย สวยมาก ๆ สวยแบบหลบใน ต้องมองไปคิดจินตนาการไปจึงจะเห็น”
พูดจบเขาหัวเราะร่า และไม่อยู่ใกล้ให้หล่อนได้ทุบด้วยกำปั้น หญิงสาวต้องลุกขึ้นวิ่งไล่พร้อมเปล่งเสียงแหลม
“ไม่ต้องหนีเลยนะกร มาให้ขวัญลงโทษเสียดี ๆ ฐานความผิด พูดจาไม่เข้าหู”
วิ่งไล่จับราวกับว่าย้อนวันวารไปเป็นเด็ก จนถึงขั้นพากันหอบแทบตัวโยน ฉลองขวัญเดินไปสู่อ้อมกอดชายหนุ่มซึ่งอ้าแขนรอรับ หลังจากต่างคนต่างยืนพักพอหายเหนื่อย
“ขอบใจมากนะกร” มือนุ่มนิ่มทว่าแข็งแรงพร้อมปกป้องลูบหลังหล่อนขึ้นลง ทุกครั้งทุกครามีเพียงเขาเท่านั้น เสมือนหนึ่งแรงกำลังใจ ช่วยให้ชีวิตไม่โดดเดี่ยวเกินไปนัก ฉลองขวัญไม่รู้ว่าตัวเองคิดผิดหรือคิดถูกที่มาบ้านนี้
รู้เพียงแต่มันไม่ยุติธรรม…
ผู้ชายคนนั้นดูร้ายมาก วาจาก็ใช่ย่อย จะสู้รบปรบมือไหวหรือ อีกอย่างดูเขาจะรู้เรื่องหล่อนดีเสียเหลือเกิน
“ขวัญ...” วงศกรคลายอ้อมกอด “คิดอะไรอยู่”
“เอาหูมา” อีกฝ่ายเอียงหน้าตามคำบอก ฉลองขวัญเขย่งเท้าพูดกระซิบ “กรจำเรื่องที่ขวัญเคยบอกได้เปล่า”
เขาพยักหน้า
หญิงสาวพูดต่อ “ตอนนี้ขวัญแน่ใจแล้วว่าขวัญไม่ได้คิดไปเอง เรื่องมีคนคอยตาม ผู้ชายคนนั้นสั่งให้คนคอยตามขวัญ”
“งั้นขวัญต้องระมัดระวังตัวให้มาก เพราะไม่รู้ว่าเขาเป็นคนยังไง”
“จะคนยังไงล่ะ...ก็คนไม่ดีที่ใช้เล่ห์มารยาเอาสมบัติคนอื่นไปไงกร”
ชายหนุ่มจุปาก “เบา ๆ ขวัญ เดี๋ยวมีใครเข้ามาได้ยิน”
หันไปทางประตู เห็นมันยังคงเปิดแง้มอยู่ก็ไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ “ช่างสิ ได้ยินก็ได้ยินไปสิ ขวัญไม่คิดจะปกปิดความรู้สึกตัวเองที่มีต่อผู้ชายคนนั้นอยู่แล้ว”
“แต่ถ้าเปิดหมด มันก็ไม่ดีนะขวัญ” เขาพูดเตือน “บางครั้งมันต้องปิดบ้าง อย่าให้เขารู้เราเสียจนหมด”
ฉลองขวัญนิ่งคิด…
จริงอย่างวงศกรบอก หล่อนไม่ควรเปลือยความรู้สึกตัวเองโจ่งแจ้งจนโดนจับทางอ่านออกไปทุกอย่าง
หล่อนอยู่ในที่เปิดเผย อีกฝ่ายอยู่ในมุมซับซ้อน ดวงตาดำขลับคมกริบคู่นั้นช่างว่างเปล่าไร้ความรู้สึกยามประสานสบด้วย ไม่อาจรู้ได้เลยว่าเขาคิดอย่างไรกับการมาปรากฏตัวของหล่อนในวันนี้
“เมื่อกี้เขาพูดว่าขวัญไม่ยอมอยู่เก็บอัฐิแม่ เขารู้ได้อย่างไร ว่าขวัญมางานศพแม่ขวัญ”
“กร...” เรียกชื่ออีกฝ่ายยานคางเจือระอา วงศกรเป็นคนฉลาดล้ำแสนทันคน แต่บางครั้งก็ทึ่ม ตามอะไรไม่ค่อยจะทันเสียเหลือเกิน “ขวัญเพิ่งบอกไปเมื่อกี้นี้เองว่าเขาให้คนตามขวัญ แล้วทำไมเขาจะไม่รู้ว่าขวัญมางานศพแม่”
“แล้วทำไมขวัญถึงไม่อยู่เก็บอัฐิแม่” นัยน์ตาเอื้ออารีฉายแววตำหนิเล็กน้อย “ถึงไม่อยากจะเผยตัวตอนนั้น แอบ ๆ ก็ได้ เพราะถ้าเขาให้คนตามขวัญจริง ความเคลื่อนไหวของขวัญเกือบทุกอย่างเขาย่อมรู้ ถ้าขวัญอยู่ เขาก็ว่าไม่ได้”
“ขวัญกลัวพ่อรู้ เลยรีบกลับ” หล่อนหยุดคิด “กร...ถ้าเขาบอกให้พ่อรู้ล่ะ” หญิงสาวร้อนรน
“กรว่าเขาไม่แจ้นไปบอกพ่อขวัญหรอก เพราะถ้าบอกขวัญก็โดนไปแล้ว”
“ไม่บอก เพราะคิดว่าขวัญจะไม่เรียกร้องอะไรไง ขนาดมางานศพแม่ยังไม่เปิดเผยตัวว่าเป็นลูก”
“ไม่บอกหรอกเชื่อกร...ไม่ต้องเครียด...มานี่มา” ชายหนุ่มดึงตัวหล่อนไปกอด “ถ้าเขาบอกเราก็กลับ ก็แค่นั้น ขวัญต้องเลือกเอาว่าอะไรสำคัญที่สุดสำหรับขวัญ”
ทำไมจะไม่รู้อะไรสำคัญที่สุด แต่จะปล่อยวางให้คนไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วยมาเอาของควรเป็นของหล่อนไป นั่นก็ทำไม่ได้ ฉลองขวัญหลุบตามองพื้น ทว่าคิดอ่านอะไรยังไม่ไปถึงไหน หล่อนกับวงศกรจำต้องผละห่างจากกันด้วยความเป็นส่วนตัวได้ถูกทำลายลง
สตรีสูงวัยผมหงอกขาวหมดทั้งศีรษะใส่เสื้อคอกระเช้าลายดอก นุ่งผ้าถุงลายไทย เดินกระย่องกระแย่ง ยิ้มแป้นอย่างดีใจพาตัวเข้ามาภายในห้องเป็นคนแรก ตามมาด้วยกิ่ง คนที่มองตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างดูถูกเดียดฉันท์ และเขา ชายหนุ่มผู้ถือครองสิทธิ์บ้านนี้
ความคิดเห็น