ย้อนเวลาไปเป็นลูกขุนนางต้องโทษ - นิยาย ย้อนเวลาไปเป็นลูกขุนนางต้องโทษ : Dek-D.com - Writer
×

    ย้อนเวลาไปเป็นลูกขุนนางต้องโทษ

    เจียวจิ้น เด็กหนุ่มที่จบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งคณะอุตสาหกรรมเกษตร ได้ย้อนเวลามายุคโบราณ ตื่นขึ้นมา ในหัวมีเสียงคำว่า “ลูกขุนนางต้องโทษ” เขาจะเอาตัวรอดจากยุคนี้ได้หรือไหม ต้องมาติดตาม

    ผู้เข้าชมรวม

    126

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    126

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  18 เม.ย. 66 / 22:29 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    “ลูกของขุนนางต้องโทษ”

    เป็นเสียงที่ดังขึ้นมาในหัวตอนลืมตาตื่นขึ้นมาเป็นครั้งแรก

    ก็มีเรื่องราวมากมายผุดขึ้นมาในสมองพร้อมกับภาพในหัว

    ที่จวนแม่ทัพถูกตรวจค้นและยึดทรัพย์สินไปทั้งหมด

    แล้วไล่พวกเขาทั้งห้าคนออกจากจวน

    มีตัวเขาที่ในชาตินี้มีชื่อว่า “เจียวจิ้น” อายุ 12ขวบ

    มีมารดาที่ตั้งครรภ์ไกล้คลอดพี่สาวที่อายุ14ขวบ

    และน้องชายอายุ6ขวบ พอนึกขึ้นได้เท่านี้ก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา

    ทำให้เขาเปล่งเสียงที่แหบแห้งของตนเอง

    “ที่นี้คือที่ไหนแล้วเรามาอยู่ที่นี้ได้ยังไง”

    เมื่อกี้เขายังนั่งกินมะหมี่เกี๊ยวข้างทางอยู่เลยไม่ไช่หรอ

    หรือว่าเขานั่งกินแล้วเกี๊ยวติดคอเขาตายแล้วมาโผล่มาที่แห่งนี้

    หรือมีรถเสียหลักพุ่งชนเขาไม่รู้แล้วว่าชาติที่แล้วตนเองตายยังไง

    เขามองสำรวจขึ้นไปข้างบนที่หลังคาที่มีรูรั่วใหญ่

    ในความคิดถ้าเกิดฝนตกหนักๆเขาก็คงลอยออกไปข้างถนนแน่ๆ

    ผนังห้องนอนสีเหลืองตู้เสื้อผ้าที่เก่าผุพังเตียงไม้ที่เก่า

    ทันจากนั้นก็มีเสียงเปิดประตูเข้ามาให้ห้อง

    “เอี๊ยด” จากนั้นเสียงที่นุ่มนวลอ่อนหวานก็ดังมา

    “น้องรองเจ้าฟื้นแล้วหรือเจ้าหิวหรือไม่พี่จะไปตักโจ๊กมาให้เจ้า”

    นี้คือพี่หญิงของเขานามว่า”เจียวมิ่ง”

    ดวงตากลมโตใบหน้าเรียวเล็กร่างกายซูมผอม

    ผมสีดำเงาทำเป็นแบบทรงซาลาเปาคู่สีผิวขาวซีด

    นี้แทบไม่เหลือเค้าโครงเดิมตอนที่ออกจากจวนแม่ทัพ

    ในมือนางอุ้มเด็กชายตัวเล็กวัยสี่เดือนที่ชือว่า”เจียวซิ่น”

    น้องเล็กที่มารดาคลอดเมื่อตอนไกล้สิ้นปี 

    “น้องรองเจ้าได้ยินที่พี่พูดหรือไม่” 

    เจียวจิ้นมองหน้าพี่สาวของตนเองแล้วยิ้มจนเห็นฟันสีขาวเรียงกันแล้วเอ่ยปากตะโกนเบาๆ

    “ข้าหิวเหลือเกินท่านพี่”

    “เจ้าตกเขา ท่านหมอบอกว่าเจ้าไม่ได้เป็นอะไรมากแค่พักผ่อน

    แต่เจ้าหลับไปถึงสองคืน พี่เป็นห่วงแทบแย่เดี๋ยว

    พี่จะไปตักโจ๊กมาให้ฝากซิ่นเออร์อยู่กับเจ้าสักครู่นะ”

    จากนั้นนางก็วางเจียวซิ่นไว้บนเตียงแล้วก็เดินออกไปจากห้อง

    เขาเอียวตัวมองเจียวซิ่นด้วยความเอ็นดูนึกย้อนไปในชาติที่แล้ว

    ตนเองก็มีน้องชายน้องสาวเยอะจนแทบนับไม่ไหวเพราะชาติที่แล้ว

    ทุกปีที่เป็นวันเกิดเขาจะไปเลี้ยงอาหารน้องๆที่บ้านเด็กกำพร้า

    เพราะที่นั้นคือบ้านที่เขาเติบโตขึ้นมาจนเขาสอบชิงทุนการศึกษา

    เข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านเกษตรกรรมของจีนได้

    เขาจบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งคณะอุตสาหกรรมเกษตร

    แล้วได้เข้าทำงานบริษัทที่เป็นอันดับหนึ่งด้านการเกษตรอีกด้วย

    แต่ดูในชาตินี้สิความทรงจำมากมายย้อนกลับมา

    บิดาของเขาเป็นแม่ทัพรักษาชายแดนอันแสนห่างไกล

    ทิ้งมารดาตัวเขาพี่สาวน้องชายสองคนไวัที่จวนในเมืองหลวง

    เหมือนว่าตอนนั้นมีขันทีมาประกาศราชองการในความหมายว่าบิดาได้ทำการยอมแพ้ให้แก่กองทัพของศัตรูจนต้องเสียเมือง

    แล้วก็ไปเข้าร่วมทัพกับศัตรูดั้งนั้นจึงได้เนรเทศพวกเขา

    ให้ออกจากเมืองหลวงยึดทรัพย์สินทั้งหมด

    หลังเดินทางครอบครัวเขาก็ได้มาอยู่หมู่บ้านฉิงเซียง

    ซึ่งเป็นบ้านเดิมของมารดาเพื่อที่จะให้มีบ้านอยู่มารดาได้นำเงิน

    สองร้อยตำลึงไปให้พ่อของนางนั้นก็คือปู่ของเขา

    ขอให้ช่วยสร้างบ้านและที่นาทำกินจำนวนสี่หมู่ 

    พอหนึ่งเดือนต่อมามารดาก็คลอดซิ่งเออร์ทำให้ตกเลือด

    มีชีวิตอยู่ได้สามเดือนก็เสียชีวิตไปจากนั้น 

    เขาได้แต่ถอนหายใจสีหน้าเศร้าหมอง

    ยังไงส่ะที่อยู่ตรงหน้าก็คือความจริง 

    เขาลุกขึ้นจะเดินออกไปสำรวจข้างนอก เขาหันไปกล่าวกับเจียวซิ่น

     “ซิ่นเออร์ ป่ะเราไปเล่นข้างนอกกันดีกว่านะ”

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น