คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Intro
Intro
ภายในงานเลี้ยงที่คับคั่งไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาหลายคนต่างพากันจับกลุ่มพูดคุยอย่างสนุกสนาน แต่ก็มีกลุ่มคนบางประเภทที่ไม่รู้สึกอินกับงานเลี้ยงประเภทนี้สักเท่าไหร่ หนึ่งในนั้นคือเด็กสาววัย 11 ขวบ เธอมีสีผิวที่ขาวอมชมพูและเรียบเนียน ผมที่ยาวเป็นลอนสวยเส้นผมสีดำสนิท ดวงตาคมเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลมีเสน่ห์ และรูปร่างที่ค่อนข้างจะเล็กกว่าเด็กวัยเดียวกัน
ฟีโอน่า คิม หรือ ฟีโอน่า เดอไวน์ ที่ตอนนี้กำลังทำหน้าบอกบุญไม่รับเดินตามหลังผู้เป็นแม่และพ่อต้อยๆ เนื่องจากเธอนั้นเตี้ยกว่าทั้งสองคนตรงหน้ามากนั่นส่งผลให้เด็กหญิงตัวน้อยต้องก้าวขาเดินตามให้เร็วขึ้น ให้ตายเถอะเมอร์ลิน! พ่อกับแม่พาเธอมาทำบ้าอะไรที่งานเลี้ยงบ้าๆนี่แถมยังจัดที่ทะเลอีก ร้อนจะบ้าตายอยู่แล้ว เธอก็พอรู้มาบ้างว่าที่ประเทศไทยมีอากาศที่ร้อนแต่ไม่คิดว่ามันจะร้อนได้ขนาดนี้
“คุณพ่อ คุณแม่คะ น้องฟีไปรอที่โรงแรมไม่ได้หรอคะ” เด็กสาวพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์แก้มที่เคยอมชมพูตอนนี้ออกสีแดงชัดเจน เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อน “รออีกครึ่งชั่วโมงนะคะเด็กดี คุณพ่อต้องคุยธุระสำคัญมากมาก ยังกลับตอนนี้ไม่ได้นะคะ” คิมกีจี หยุดเดินก่อนจะหันหลังมาพูดกับลูกสาวตัวน้อยที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างไม่พอใจ หรือที่ผ่านมาเธอจะตามใจลูกสาวมากเกินไป กีจีคิดพิจารณาเนื่องจากเธอเองก็เป็นทายาทคนเดียวของตระกูลคิมและเป็นหลานสาวคนเดียวในตระกูลดิเชเลอร์นั่นทำให้ตัวหญิงสาวเองก็ถูกตามใจมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
เพราะว่าถูกตามใจแบบนั้นเลยทำให้ในอดีตเธอนิสัยเสียมาก จนกระทั่งเจอกับพ่อของฟีโอน่าหรือสามีเธอนั่นเองตอนนั้นทั้งสองเรียนอยู่ที่ฮอกวอตส์แถมยังอยู่บ้านสลิธีรินเหมือนกันแต่น่าแปลกที่ว่าเธอพึ่งมารู้จักกับเขาตอนทีเขาได้รับเลือกเป็นพรีเฟ็คตอนปีห้าส่วนเธอพึ่งจะอยู่ปีสาม จำได้ว่าวันนั้นที่เจอกันครั้งแรกเป็นวันที่เธอแอบหนีออกจากหอตอนกลางคืนแล้ววาริคที่เดินตรวจความเรียบร้อยมาเจอพอดี
“คุณแม่คะ คุณแม่…” ฟีโอน่าเรียกผู้เป็นแม่ที่อยู่ดีๆก็เหม่อลอยแล้วยิ้มออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ คิมกีจีที่ถูกลูกสาวเรียกก็เหมือนจะได้สติมาจูงมือลูกสาวเดินไปต่อ ส่วนเด็กหญิงตัวเล็กก็ได้แต่เดินตามแม่เธอเองไปอย่างงงๆ ก่อนจะหันซ้ายแลขวามองว่ามีผู้ชายหรือใครอยู่แถวนั้นไหม บ้าสิ แม่เธอคงไม่ยิ้มให้คนอื่นใช่ไหม “แม่คะน้องฟีไม่กลับโรงแรมแล้วก็ได้ แต่เราไปหาคุณพ่อกันดีกว่าค่ะ” คราวนี้ร่างเล็กเป็นฝ่ายดึงแขนของผู้เป็นแม่ตามทางที่พ่อของเธอเดินนำไปก่อนหน้า ใครมันมามองแม่หรือพ่อเธอจะได้รู้ว่าเขามีครอบครัวแล้วเเถมยังมีลูกสาวสุดน่ารักอย่างเธอด้วย คิดแค่นั้นก็ทำให้เด็กหญิงยิ้มหน้าบานขึ้นมาผิดกับก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด
เนื่องจากงานเลี้ยงมีสองช่วงคือช่วงบ่ายและช่วงค่ำ ตอนบ่ายงานจะถูกจัดที่ชายหาดส่วนตอนค่ำนั้นจะถูกจัดขึ้นภายในโรงแรมหรูระดับสิบดาวที่อยู่ภายในเครือของตระกูลแบล็กเฮลที่มีอิทธิพลมากในแถบทวีปอเมริกา ผู้ดูแลตอนนี้คือ คุณเจเนซิส แบล็กเฮล แม็กเเกลลาร์ด ภรรยาของคุณมาร์คัส แม็กแกลลาร์ด ในโลกมักเกิลเขาคือมาเฟียที่มีอิทธิพลมากในโลกและก็ไม่ต่างกับโลกผู้วิเศษที่เขาและตระกูลมีอิทธิพลมาก ขนาดกระทรวงยังไม่อยากจะมีเรื่องด้วย พูดง่ายๆก็คือระดับอีลิทเลยหล่ะ
ร่างเล็กในชุดเดรสสีดำเปิดไหล่หยิบจับอาหารกินไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างแม้แต่นิด การกินช่วยทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก ในงานเลี้ยงช่วงค่ำส่วนมากจะมีแต่พวกพ่อมดแม่มดที่ยังไม่เลิกคลั่งกับอะไรเดิมทั้งๆที่โลกของเรามันพัฒนาไปไกลมากจนมีรถที่ใช้ไฟฟ้าแทนน้ำมันได้แล้ว มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างเช่นโทรศัพท์เราสามารถใช้มันแทนการส่งจดหมายผ่านนกฮูกได้ แต่ คนเหล่านี้ก็ปฏิเสธที่จะใช้กัน
“ยัยตะกละ” เด็กหญิงหันไปมองทางต้นเสียง น้ำเสียงแบบนี้ไม่ต้องเธอก็รู้ว่าใคร ทายาทคนเดียวของแบล็กเฮลและแม็กแกลลาร์ด ไอ้บ้า มาร์เควส แบล็กเฮล แม็กแกลลาร์ด ผู้ชายที่มีดีแค่หน้าตา และ เงิน “ชิ ถ้าจะทักแบบนี้ทีหลังไม่ต้องทักหรอกนะคะ" จริงๆเธอล่ะอยากจะบอกว่า ทักแบบนี้โคตรไม่มีมารยาทเลยต่างหาก
“เหอะ" ชายหนุ่มเค้นหัวเราะออกมาก่อนทำท่าจะเดินออกไปจากที่ตรงนี้แต่ก็ถูกร่างเล็กที่รีบยัดขนมใส่ปากจนแก้มพองออกมาแล้วรีบเขี้ยวพร้อมกับกลืนลงไปพูดรั้งเอาไว้ มาร์เควสยืนมองด้วยสีหน้าและท่าทางเฉยชาแต่ในใจกลับมีอารมณ์ที่สุุดแสนจะเอือมละอากับพฤติกรรมของยัยเด็กนี่ ตั้งแต่เขารู้จักกับเธอมานอกจากพฤติกรรมที่ไม่สำรวมกับคำพูดหยอดที่ดูแก่แดดเกินวัยชายหนุ่มก็ไม่เคยเห็นอย่างอื่นเลย
“เดี๋ยวสิ ยืนคุยเป็นเพื่อนกันก่อนสิคะ” ฟีโอน่าพูดพร้อมกับยิ้มกว้างที่ส่งประกายไปถึงดวงตา อีกฝ่ายที่ได้เห็นก็มีท่าทีเฉยชาเหมือนเดิมแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธและเดินจากไปอย่างทุกครั้งที่ชอบทำ ความจริงตระกูลเธอกับตระกูลชายหนุ่มตรงหน้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันด้วยซ้ำนอกจากการทำธุรกิจในแวดวงเดียวกัน อย่างเช่น ธุรกิจโรงแรมและส่งออกไวน์ ถ้าถามว่าการตลาดของใครใหญ่กว่าก็แน่นอนว่าของอีกฝ่ายนั้นใหญ่กว่ามาก เพราะด้วยพ่อเธอไม่เน้นการขยายโรงแรมไปทั่วทุกที่หากแต่เน้นเปิดสาขาในพื้นที่ที่มีวิวและทำเลเหมาะที่สุด หากถามอีกว่าทำไมครอบครัวเธออยู่ๆถึงมาเกี่ยวข้องกับสองตระกูลนี้ได้ คำตอบคือเด็กหญิงเองก็ไม่รู้เหมือนกัน “มาร์คลองชิมอันนี้ดู อร่อยมากเลย ว่างๆขอยืมเชฟที่นี่ได้ไหมคะ”
มาร์เควสที่ได้ยินอีกฝ่ายเรียกชื่อเล่นตัวเองคราวนี้ถึงกับเลิกคิ้วใส่ “10 ล้าน” น้ำเสียงเรียบเอ่ยตอบเด็กหญิงที่ยังไม่หยุดจับขนมหวานใส่จานในมือ
“ดอลลาหร์สหรัฐ”
“หึ เกลเลียน” ฟีโอน่ารีบหันหน้ามาหาร่างที่สูงกว่าเธอเกือบสามสิบเซนดิเมตรได้พร้อมกับสีหน้างุนงงก่อนจะเปลี่ยนเป็นเบะปากส่งให้แทน “…1 เกลเลียน เท่ากับ 7.1915 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้าเป็น 10 ล้านเกลเลียน ก็ 71,915,000 ล้านดอลลาร์… เมอร์ลิน” ชายหนุ่มที่เห็นอีกฝ่ายคล้ายไม่มีสติก็ยกยิ้มมุมปากเพียงนิดเดียวจนไม่มีใครดูออกว่าเขายิ้ม เนื่องจากมุมที่ทั้งสองยืนอยู่ไม่ค่อยมีคนประจวบเหมาะกับเป็นเวลาที่ทางผู้ให้กำลังเริ่มประชุมกันและเขาก็ต้องเข้าร่วมประชุมด้วย ขายาวก้าวเดินออกจากที่ตรงนั้นโดยไม่คิดจะบอกลาเด็กหญิงที่แม้แต่นิด ฟีโอน่าเมื่อเลิกคำนวณจำนวนเงินรู้สึกตัวอีกทีคนที่ยืนอยู่ด้วยก็ได้เดินไปไกลแล้ว ไม่รั้งแล้วก็ได้วะ
อีกมุมหนึ่งของงานเด็กหญิงในชุดสีขาวฟูฟ่องที่กำลังจดจ้องตามหลังชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดสูทรสีดำตัดกับผิวสีขาวเนียน เขามีผมสีดำสนิทเหมือนกับนัยน์ตาที่มีเสน่ห์อันเหลือล้น แต่มีแค่ไม่กี่คนที่จะกล้าสบตากับเขาแม้แต่เธอเอง แต่เมื่อกี้ดูเหมือนจะมีเด็กผู้หญิงหนึ่งคนวัยเดียวกับเธอที่กล้าพูด กล้าทำสีหน้าใส่และกล้าที่จะสบตากับเขา ผู้ชายคนนั้นคือ มาร์เควส แบล็กเฮล แม็กแกลลาร์ด ชายหนุ่มที่เธอเคยเห็นหน้าครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง เขาเป็นผู้ชายที่หล่อและเพอร์เฟคมากที่สุด
“ผู้หญิงคนนั้นใครหรอหน้าคุ้นๆจัง” เธอเอ่ยถามเพื่อนที่นั่งอยู่ในกลุ่มเดียวกัน “ชุดเดรสสีดำเปิดไหล่น่ะหรอ เหอะ ฟีโอน่า คิม แมนอน ดิเชเลอร์ เดอไวน์ ฉันแนะนำว่าอย่าไปยุ่งด้วยดีกว่า แก๊งยัยนั่นมีแต่แรงๆทั้งนั้น” คุณหนูควีนนี่ พาร์กินสัน เอ่ยขึ้นมาอย่างจีบปากจีบคอพร้อมกับสีหน้าหมันไส้เมื่อต้องเอ่ยถึงบุคคลที่เธอไม่ค่อยจะชอบหน้าเท่าไหร่
“เธอสวยดีออก ว่าแต่ไม่เห็นเพื่อนเธอเลย” อูซา คาโดแกนยังไม่หยุดเอ่ยคำถาม “สวยแต่หน้าส่วนนิสัยก็…” ผู้หญิงในกลุ่มคนหนึ่งยังพูดไม่จบก็ดันมีเสียงดังขึ้นมาแทรกก่อน “ก็อะไรหรอจ๊ะ”
“มาริต้า..” มาริต้าหันไปมองคนที่เรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงตกใจ “ยัยนี่เพื่อนในห้องเรานี่” เซลีอาน่า แกรนเพลต์ หรือเฉินเหิงเยว่ ลูกเสี่ยวอังกฤษ เธอพูดขึ้นเมื่อจำหน้าของคนที่เอ่ยเรียกชื่อเพื่อนสนิทตัวเองได้ “หรอ โทษทีนะจำไม่ได้น่ะ แล้วเมื่อกี้เธอจะพูดว่าอะไรนะ นิสัยพวกเราก็…”
“ก็นิสัยดี น่ารัก แถมยังเก่ง แล้วยังกล้าด้วย..” มาริต้า ลูซินด้า มอนกอมเบอร์รี่ ฟังจบแล้วก็ได้แต่ยิ้มกับหัวเราะออกมา ก่อนจะมองหน้าแต่ละคนเมื่อกี้ยังทำหน้าทำตาหมั่นไส้อยู่เลยพอตอนนี้เอาแต่ก้มหน้ากัน คงมีแต่ยัยพาร์กินสันคนเดียวที่ยังกล้าจ้องหน้าพวกเธอ
“แหม่ แบบนี้เราคงต้องบอกเจ๊หน่อยแล้วแหละ” เซลีอาน่าพูดด้วยทีเล่นทีจริง ควีนนี่ได้แต่มองสองคนนี้อย่างเจ็บใจถ้าไม่ติดว่าครั้งก่อนเคยมีเรื่องกันจนเธอถูกที่บ้านขู่ว่าจะไม่ให้เรียนที่ฮอกวอตส์หากเธอยังมีเรื่องกับพวกนี้อยู่ ใครใช้ให้บรรพบุรุสเธอเอาแต่ทำกิจการแต่ในโลกผู้วิเศษล่ะพอมาถึงตอนนี้ที่จะมาขยายธุรกิจมาในโลกมักเกิล ครอบครัวและตระกูลเธอจะเอาอำนาจไหนมาสู้และความภูมิใจที่มีในโลกผู้วิเศษจะเอามาใช้อะไรได้ในนี้
“เจ๊มันคงไม่อยากได้ยินเรื่องที่ทำให้อารมณ์ไม่ดีหรอก เราไปกันเถอะ อ่อ ก่อนจะพูดอะไรเนี่ยช่วยคิดให้เยอะๆหน่อยนะ สมองจะได้พัฒนากันบ้าง"
ฟีโอน่าไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยมานานแค่ไหนตอนนี้ในหัวสมองเธอมีแต่ภาพเตียงนอนขนาดคิงไซต์ที่คฤหาสน์ ห้องนอนที่ถูกตกแต่งไปในโทนสีฟ้า คิดถึงโปสเตอร์ บีทีเอสที่ติดไว้ที่ในห้องจัง
“อ๊ะ ขะ ขอโทษค่ะ” ชนใครอีกวะเนี่ยอีฟี ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่เธอชน อื้อหือ กางเกงในเมอร์ลิน คนบ้าอะไรจะน่ารักขนาดนี้ หล่อมากแม่
“หลบ” โอเคเลย ผู้ชายหล่อมันเย็นชาทุกคนเลยหรือไง ไม่ต้องให้อีกฝ่ายเอ่ยปากพูดซ้ำสองขาเล็กก็รีบก้าวถอยหลบทางให้คนโตกว่าทันที เด็กหญิงตัวเล็กเองก็ได้เเต่รู้สึกคุ้นๆกับท่าทางและบรรยากาศที่ปล่อยออกมา เหมือนไอ้บ้ามาร์เควสอย่างกับแฝด แต่ลุคดูคลาสสิกเหมือนผู้ชายยุค40-50
“ฟีฟี่…เมื่อกี้เห็นผู้ชายหล่อๆเดินมาทางนี้บ้างไหม” ร่างบางมองเพื่อนสาวอย่างสงสัย ไอริส เดอวาลเดน ปกติยัยนี่เกลีบดการวิ่งจะตาย “น่าจะเดินไปทางนี้ นู้นไงเดินขึ้นบันไดไปแล้วนั่น” ไอริสไม่ได้ฟังที่เพื่อนสาวพูดให้จบเธอก็วิ่งออกไปจากตรงนี้ไปทันที ทิ้งให้แต่ฟีโอน่าที่ยืนทำหน้าเซ็งท้าวสะเอวอย่างลืมกิริยามารยาทและมันจะดีมากถ้าหากว่าคุณหญิงคิมกีจีหรือแม่ของเธอไม่มาเห็นเสียก่อน
“วันนี้มันวันเฮงซวยอะไรวะเนี่ย เฮ้อ" เด็กหญิงได้แต่คิดแล้วถอนหายใจออกมา
“น้องฟีพูดอะไร แม่ได้ยินนะคะ ไม่เพราะเลยหนูเป็นผู้หญิงนะลูก”
เอ๊ะ แม่เธอรู้ได้ไงเธอคิดดังไปหรือว่าแม่เธอใช้คาถาอ่านใจ
_________________________________
บทนำมาแล้วค่าา ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่กดเข้ามาอ่าน กดติดตามและกดให้กำลังใจมากเลยนะคะ
ถ้าไม่สนุกยังไงติติงไรท์ได้เลยนะคะ ไรท์คนนี้ยินดีน้อมรับและปรับปรุงให้ดีขึ้นค่าา
ถ้าหากถามว่านางเอกเราน้องฟีนิสัยยังไงกันแน่ บอกเลยค่ะไบโพล่าค่ะ ไม่ใช่น้องนะคะ ไรท์เนี่ยแหละไบโพล่า ล้อเล่นนะคะ555
จริงๆน้องก็แค่เด็กคนนึงที่รักความสงบ หมายถึงตัวเองสงบแล้วมองดูคนอื่นวุ่นวายอ่ะค่ะ
ยังไงนังไรท์คนนี้ก็ขอฝากน้องและเพื่อนไว้ด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ
ความคิดเห็น