ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Transformers] Dark Dimension

    ลำดับตอนที่ #1 : EPISODE 1

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ย. 65


    ep 1 เส้นทางที่รอคอย

    “รถคันนั้นกับเด็กคนนั้นมัน…” ชายหนุ่มผิวขาวสวมแว่นดำตัวสูงคนนึงที่ฝั่งตรงข้ามของถนน เขามองไปในร้านขายรถมือสองที่เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นที่อยู่ๆ กระจกทุกบานในร้านก็แตกออกราวกับเกิดคลื่นแรงดันขนาดเล็กข้างในร้าน เขามองเด็กหนุ่มคนนึงในร้านกับรถเชฟโรเลตคาเมโร่สีเหลืองแทบดำ มันทำให้รู้สึกคุ้นตากับฉากตรงหน้ายิ่งกว่าสิ่งใดทั้งในปีนี้ยังเป็นปี 2007 สถานที่เมืองก็ตรงเป๊ะไม่มีคลาดเคลื่อนแม้แต่น้อยหลักฐานชัดแจ๋วขนาดนี้ต่อไปนี้ก็ไม่ต่างจากการเพิ่มความวุ่นวายให้กับชีวิตเขาแบบคูณสองแต่นี่แหละคือสิ่งที่เขารอคอยมาตลอด ตื้ด— “มีอะไรไอ้แก่” เขากดรับสายก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาไว้ข้างหูเขายืนรับฟังสิ่งที่ฝ่ายปลายสายกล่าวอย่างใจเย็น “นั่นไม่จำเป็นต้องเป็นหน้าที่ฉันซะหน่อย” เขาพูดต่อ “เอาเหอะ! ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพวกต่างดาวก็มีกันตั้งเยอะแยะ ครั้งนี้จะยอมลงพื้นที่สังเกตการให้ก็ได้ แค่ครั้งเดียวนะ” เขาเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นขบขันเล็กน้อยเมื่อปลายสายเปลี่ยนคนคุยก่อนที่ปลายสายจะถูกตัดไป เขาถอนหายใจทำหน้าครุ่นคิด ทั้งแต่มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เขาก็มีความลับอยู่สองอย่าง อย่างแรกคือเขาไม่ใช้คนของโลกใบนี้อย่างที่สองคือเขาคือหนึ่งในกลุ่มคนลึกลับที่เหล่ารัฐบาลมหาอำนาจทั่วโลกนั้นต้องการตัวมากที่สุด ถึงอย่างนั้นพวกนั้นก็ไม่มีทางหาเราเจอได้เลย เขายืนดันแว่นและเดินหายออกไปจากมุมลับสายตาของถนนแบบเงียบๆ

    - มีรายงานการถูกจู่โจมจากฐานทัพทหารที่กาตาร์เมื่อคืนที่ผ่านมาจนพังเละโดยสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่ปลอมตัวเป็นเฮลิคอปเตอร์เข้ามาในฐานทัพก่อนจะเปิดฉากโจมตี -

    เขานั่งอ่านอีเมลที่ถูกส่งมาจากทางลูกทีมเมื่อวานก่อน เนื้อหาข้างในนั้นกล่าวถึงฐานทัพทหารที่กาตาร์ที่ถูกถล่มโดยฝีมือของหุ่นยนต์ต่างดาวและต่างฝ่ายตัวในเนื้อหาน่าจะเป็นเจ้า แบล็คเอาท์ (blackout) จากฝ่ายดิเซฟติคอนส์ทางองค์กรน่ายังไม่ทราบที่เรื่องที่มันถูกแบ่งเป็นสองฝ่ายแต่ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้เนี่ยแหละที่จะได้รู้ แพททริคเขาเหลือบมองเวลาเล็กน้อยเมื่อพบว่านี้มันเป็นเวลาบ่ายได้แล้วฉากของเด็กหนุ่มที่ชื่อแซมที่กำลังวิ่งหนีรถผีสิงของตัวเองที่คอยขับไล่ตามก็ขึ้นมาในหัว “นี่คงเป็นงานรักษาความปลอดภัยที่คนในองค์กรทุกคนต้องทำไม่ว่าจะระดับอะไรก็ตามสินะ” เขาพึมพำคล้ายจะบ่นเล็กน้อย เอาเถอะหลีกเลี่ยงได้ที่ไหนล่ะ แพทริคลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานหยิบโทรศัพท์และเสื้อโค้ดก่อนจะเดินไปที่โรงรถ “ตามล่าและกำจัดต่างดาวทุกตัวและเอาซากมันกลับมาไว้ที่ฐาน” เขาพูดต่อ “อ้อ— จับตามองน่านฟ้าให้ดีๆ ล่ะ” เกรงว่าคืนนี้จะมีดาวตก—

     

    ———

     เป็นไปตามคาดเขามองภาพของวัตถุที่พุ่งลงมาจากฟ้าผ่านหน้าจอโทรทัศน์ “ อ่า…โอเคครบ!” เขานับจำนวนอุกกาบาตทั้งสี่ลูกที่กำลังตกลงมาจากฟ้าด้วยความอารมณ์ดี “เอาล่ะที่นี่งานของพวกคุณก็มาถึงแล้ว..” แพทริคหันหลังกลับไปมองชายสูงวัยอีกคนที่นอนกองอยู่กับพื้น “เจ้าหน้าที่ ซีมัวร์ ซิมม่อนส์” สาเหตุที่เขารีบออกจากบ้านไม่ใช่เพราะจะไปแอบส่องเจ้าตัวหลักของเรื่องอย่างแซมแต่มาหุบองค์กรต๊อกต๋อยของหน่วยงานรัฐนี่ต่างหาก ‘เซ็กเตอร์ เซเว่น’ หลังมาถึงก็ไม่ต้องทำสั่งอะไรมากมายเพราะบุคลากรเกือบครึ่งของที่นี่ก็เป็นลูกน้องใต้บัญชาขเขามาตั้งแต่แรก “เป๋าหมายของพวกคุณคือเด็กมัธยมปลาย แซม วิทวิคกี้ จับมาให้ได้ไม่ว่าจะวิธีใดก็ตาม” เขากล่าว “ไม่ต้องกลัวไปล่ะลูกน้องผมก็ทำงานที่นี่เขาจะจับตามองคุณทุกการกระทำเลยหละ” “พวกแกเป็นใครกันแน่!” เขามองซิมม่อนส์ด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง “รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์” เขากล่าวคำพูดสุดท้ายก่อนจะเดินทางออกมาจากฐานทัพเซ็กเตอร์เซเว่น โดยไม่ต้องกังวนถึงเรื่องข้อมูลรั่วไหลอะไรเกี่ยวกับตัวตนทั้งของตัวเองและองค์กร ชะตากรรมทุกคนที่นั้นถูกกำหนดไว้แล้วหมดแล้วล่ะ

    “บราโว่” เขาหยิบวิทยุสื่อสารเก่าๆ ขึ้นมาต่อสายไปถึงทีมงานที่เขาพามาด้วย «ได้ชิ้นส่วนเดอะคิวบ์เรียบร้อยครับ»  “ดีนำมันกลับไปที่ฐานบัญชาการหลักอย่าพึ่งทำอะไรกับมันมากหละหลังสะสางเรื่องทั้งหมดแล้วฉันจะไปตรวจสอบเอง” เขากล่าวและเก็บมันลงไปแพทริคเงิยหน้ามองท้องฟ้าเวลากลางคืนบนเขื่อนฮูเวอร์พลางคิดสิ่งที่จะทำเป็นรายต่อไปอย่างไม่รีบร้อนในช่วงที่เรียกว่าการเก็บเกี่ยวครั้งใหม่ขององค์กรทุกสาขาทั่วโลกที่ศูนย์ตอนนี้น่าจะมีซากทรานสฟอร์เมอร์เข้ามาแล้วสักสิบกว่าตัวได้แล้วมั้งและเราก็มีข้อมูลเกี่ยวกับมันมาตั้งนานแล้วด้วย ทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปตามในสิ่งที่มันถูกกำหนดไว้อยู่แล้ว ก็มีคงมีแค่เขาที่เป็นตัวแทรกแซงและเปลี่ยนเส้นทางของมัน เขาก้มมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะเลิกคิดและเดินออกไปจากที่นี่ ว่าแต่เขาจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ไหนนะ??

     

     

    เวลาเดินไปอย่างรวดเร็วเขาได้รับสายจากซิมม่อนส์ตั้งแต่เช้ามืด «ฉันได้ตัวเด็กนั่นแล้วที่นี่แกจะให้ฉันทำไงต่อ?» น้ำเสียงหงุดหงิดของซิมม่อนส์ดังขึ้นผ่านวิทยุสื่อสารพิเศษ กดเบอร์ถูกซะด้วยแสดงว่าโดนลูกน้องเขาบังคับมา- “บอกความจริงให้เขารู้ซะทุกอย่างเลย”  «แต่—» “ไม่มีแต่ทำซะก่อนจะไม่มีวันได้เจอหน้าแม่แกอีก” เขาตอบพร้อมกับได้ยินเสียงโวยวายแทรกเข้ามาก่อนที่เขาจะปิดมันลงไป “เมืองมิชชั่นนี่ร้อนจังเลยนะ…” เขาถอดหมวกกันน็อคสีดำเงาออกพลางวางกระเป๋าสพายขนาดใหญ่ที่บันจุบางอย่างอยู่ไว้ข้างๆ ตัว ตอนนี้ตำแหน่งของเขาคือบนด่านฟ้าของตึกๆ นึงที่สามารถเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างได้อย่างชัดเจน «เห้! แพททริคนี่แกคิดจะทำทุกอย่างคนเดียวเลยรึไง» สายปริศนาถูกต่อขึ้นผ่านวิทยุสื่อสาร “ฉันไม่เอาลูกทีมไปเสี่ยงหรอก” เขาตอบ «แต่เอาตัวเองไปแทนนี่นะ» แพททริคหัวเราะในลำคอ “ไม่มีอะไรอันตรายหรอกฉันรู้ดี” ปลายสายเงียบไปพักนึง «อวดดีได้ตลอดจริงๆ » “หน่วยสุ้มโจมตี?” น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินสัญญาณใหม่ที่แทรกเข้ามา เขาหันไปมองหาเครื่องบินทิ้งระเบิดสักลำรอบๆ «มองเขาไปๆ คุณหาผมไม่เจอหรอกครับ» “ใครสนกันละนายมาก็ดีแค่คอยคุ้มกันให้ละกัน” อีกฝ่ายถอนหายใจมาเป็นคำตอบก่อนที่เสียงระเบิดจะดังขึ้น “อย่างพึ่งโจมตีถ้าตอนนี้นายยังอยู่ที่ต่ำแนะนำให้บินขึ้นข้างบนนะ” เขากล่าวผ่านวิทยุ «รับทราบ» ปลายสายตอบเขามองความวุ่นวายในเมืองที่เกิดขึ้นพร้อมกับเครื่องบินรบที่บินว่อนรอบเมือง แพททริคเฝ้าหุ่นรบต่างดาวสักตัวสองตัวที่จะปรากฎขึ้น เขาเปิดกระเป๋าสพายขนาดใหญ่ที่พกมาออก ปืนยิงจรวด(rocket launcher)ถูกหยิบขึ้นมาใช้งานเพื่อช่วยชีวิตใครสักคนที่เขาคิดว่าสำคัญในอนาคตที่สุด เขาเล่งไปที่หอคอยหนึ่งก่อนที่สิ่งมีชีวิตจักรกลต่างดาวทั้งสองตนจะปรากฎขึ้นและกำลังจะแยกส่วนตัวที่เล็กที่สุดออก

     

    ตู้ม!!!!

     

    «ทำอะไรของคุณ?» เสียงของฝ่ายสุ่มโจมตีดังขึ้นผ่านวิทยุ “ทำในสิ่งที่อยู่ในแผน” «มองเห็นอนาคตกันรึไงเนี่ย?» “แค่ฉลาดเกินไปเท่านั้นเอง” «เหอะ» เสียงปลายตอบมาสั้นๆ เป็นเสียงถอนหายใจก่อนจะเงียบไป “ฝากกลับไปรายงานให้ทางศูนย์ทราบด้วย” เขากล่าวทิ้งท้ายก่อนจะนึกได้ถึงตำแหน่งที่เขายืนอยู่ นี่มันเป็นที่ๆ อีกไม่นานแซมต้องขึ้นมานิ!  เขามองร่างหาของเด็กวัยรุ่นที่กำลังวิ่งฝ่าดงระเบิดมาทางอาคารที่เขาอยู่อย่างใจเย็นแต่ก็ไม่พบเขาเตะปืนจรวดให้ตกลงไปในตรอกข้างตึกก่อนจะเดินรัดมาหลบในตำแหน่งและมุมที่ไม่มีใครน่าจะเห็น “รายงานสิ่งที่อยู่รอบตัวให้ที่” เขาติดต่อหาหน่วยสุ้มโจมตีอีกครั้ง «เครื่องต่างดาวลำเบ่อเริ่มกำลังพุตรงมาและเด็กคนสำคัญที่คุณเคยบอกกำลังถือลูกบาศก์มุ่งตรงมา» “ขอบใจ” เขาพุ่งไปอยู่ตรงขอบตึกเพื่อที่จะกระโดดไปตึกแต่พอคำนวนแล้วมันต้องไม่ทันแน่ๆ  ตึกๆ เสียงสั่นสะเทือนและเสียงฝีเท้าหนักๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แพททริคกลับไปหลบมุมเดิม

    พรึ่บ—! ประตูด่านฟ้าถูกระแทกจนเปิดออกร่างของเด็กหนุ่มมัธยมปลายอย่างแซมวิควิทกี้วิ่งขึ้นมาบนด่านฟ้าพร้อมกับส่งสัญญาณไฟให้เฮลิคอปเตอร์เห็นและมารับวัตถุมันเงาทรงสี่เหลี่ยมแต่ไม่ทันจะได้ส่งมอบมันเฮลิคอปเตอร์ก็ถูกจรวดมิดทรายยิงจนตก เขามองทุกสิ่งผ่านหลังรูปปั้น แซมวิ่งไปหลบหลังรูปปั้นที่ไกลออกไปก่อนที่บอสหลักจะปรากฎตัวผู้นำดีเซ็ปติคอนส์ เมกกาทรอน 

    “ส่งออลสปาร์คมาซะดีๆ! ข้างอาจจะไว้ชีวิตเจ้าไว้ดูเล่น” น้ำเสียงที่น่าเกรงขามของผู้นำที่ชั่วร้ายดังขึ้น “ฉันไม่มีทางส่งออลสปาร์คให้หรอก!!” แซมตะโกนผ่านหลังรูปปั้น “โอ้..ชั่งฉลาดน้อย” สิ้นเสียงเมกกาทรอนมือของมันแปลเปลี่ยนเป็นลูกตุ้มเหล็กเหวี่ยงใส่ทำลายรูปปั้นนางฟ้าทิ้งแซมกระเด็นลงไปข้างล่างพร้อมกับกรีดร้องลั่น และก็โชคดีของเขาที่ผู้นำฝ่ายออโต้บอทส์(อ็อพติมัสไพรม์)ก็ปรากฎตัวขึ้นมารับเอาไว้ได้ทัน ก่อนจะโดนเมกกาทรอนกระโดดตามลงไปฆ่าฟันกันข้างล่าง แพททริคเดินออกมาจากหลังรูปปั้นพลางชะเง้อหน้ามองความเละเทะข้างล่าง «เป็นไงบ้าง จะอยู่มองจนจบเลยรึไง» “คำสั่งจากคนใหญ่คนโตนะพวกนั่นชอบให้ลงสนามเองอยู่เรื่อย” «คุณก็มีอำนาจที่จะขัดหรือปฏิเสธก็ได้นิ» เขาส่ายหัวและขยี้ตาเล็กน้อยก่อนจะตอบผ่านวิทยุ “มันใช้ได้สำหรับบางคนน่ะ” “ไปๆ แยกย้ายภารกิจแรกจบไปด้วยดีไว้เจอกันที่ฐานละ” เขาปิดเก็บวิทยุเมื่อเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มสงบลงแล้วและเมกกาทรอนก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปแต่เขาก็ต้องชะงักไปครู่นึงก่อนที่จะรีบส่วมใส่หมวกกันน็อคและวิ่งออกไป

    “มองอะไรของนายไพรม์?” แร็ทเช็ตสหายคนสนิทของเขาทักขึ้นเมื่อเห็นออพติมัสเงิยหน้าจ้องบางอย่างนานเกินไปจนดูผิดสังเกต “ไม่มีอะไรหรอก” ไพรม์ตอบแน่นอนว่าแพทย์สนามอย่างแร็ทเช็ตดูออกว่ามีบางสิ่งบางอย่างไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นในตอนที่พวกสู้รบกันอยู่ เรื่องนี้เขาคงต้องขอสักถามเจ้าแจ็สแล้วหละว่าเจ้าตัวรอดมาอวดเก่งว่าสู้กับเมกกาทรอนได้ยังไง…

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×