ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : บทเรียนที่ 10 ศัตรูตัวฉกาจ
                                                    บทเรียนที่ 10  ศัตรูตัวฉกาจ
              “ เจ้านั่นมันก็ คือ ”        วีวี่พูดพร้อมกับหยุดไปสักพักหนึ่งก่อนที่จะพูดต่อ  ซึ่งดูเหมือนว่าวาตอนนี้อยากรู้ใจจะขาดแล้ว          “ มันเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบโซเฟียนะสิ ”
              “ แล้วยังไงต่อหรอ  เจ้านั่นมันชอบโซเฟียแล้วยังไงต่อละ ” 
              “ อ๋อ ลืมบอกไปเจ้านั่นน่ะมันชื่อ เซต ”                   
              “ แล้วยังไงต่ออีกละ ”       
            “ มันชอบโซเฟียมาประมาณเกือบปีได้แล้วละ  ซึ่งโซเฟียก็ไม่ได้ชอบมันเลยแม้แต่น้อย    แต่มันก็ตามตื้อไม่เลิกจนรู้สึกว่าจะหายไปสักพักหนึ่ง  ไอ้สักพักหนึ่งที่ว่าก็ คือ ตอนปิดเทอมอ่านะ  มันเลยไม่ได้ตามตื้อเพราะไม่ได้เจอกัน  จนล่าสุดนี่ก็เมื่อเช้านี้แหละ  ”
            “ หรอ ก็แค่คนมาตามตื้อเองนี่  ไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย ”
            “ นายอาจจะยังไม่รู้นะ  ว่านิสัยของมันเป็นยังไง    จะบอกให้ก็ได้นะ    เจ้านี่ชอบทำตัวเป็นผู้นำแฟชั่นของโรงเรียนเราละ  มันถือว่าตัวเองเป็นลูกเศรษฐีเลยใช้เงินชื่อเสื้อผ้าหรือของใช้ราคาแพงๆ  ใส่มาอวดคนในโรงเรียน      ซึ่งเราว่าก็ไม่เห็นจะมีใครชอบมันสักเท่าไหร่  ยกเว้นพวกผู้หญิงบางคนที่ตาบอดหลงคิดว่ามันเป็นคนดี  แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย  ”
            “ อืม แล้วยังไงต่อละ ”
            “ และแล้วก็ถึงคราวซวยของเพื่อนเราเพราะอยู่ดีๆ  มันก็มาเกิดชอบโซเฟียเสียได้    ส่วนถ้ามันรู้ว่ามีผู้ชายคนไหนชอบเข้ามายุ่งกับโซเฟียหรือทำตัวเป็นคู่แข่งของมัน  มันก็จะไปหาเรื่องคนๆ นั้นทันที    มันคงถือว่ามันมีวิชาการป้องกันตัวที่พ่อมันจ้างให้อาจารย์ชื่อดังมาสอนให้มัน  มันเลยกล้าหาเรื่องคน      ส่วนถ้าคนไหนที่มันสู้ด้วยไม่ได้ละก็  มันก็จะไปเรียกพวกมาจัดการ  เรียกง่ายๆว่า  พวกหมาหมู่เลยทีเดียว          เราว่าพวกแก๊งเอ็ดดี้นี่ก็แย่แล้วนะ  แต่ดูเหมือนเจ้านี่จะแย่กว่าร้อยเท่าเลยละ ”
            “ ฟังดูแล้วเหมือนพวกตัวโกงในพวกหนังสือนิยายเลยเนอะ  น่าสงสารจังต้องมาเจอกับคนแบบนี้ ”            ซึ่งเมื่อวาพูดจบก็ดูเหมือนว่า โซเฟียจะเริ่มพูดมาบ้างแล้ว  หลังจากปล่อยให้วีวี่เล่าเรื่องมานาน 
            “ ไม่เป็นไรหรอก  เราชินแล้วละ  แต่ไอ้ที่น่าห่วงรู้สึกว่าน่าจะเป็นนายเสียมากกว่านะ  เพราะรู้สึกว่าเจ้านั่นมันหมายหัวนายเอาไว้ด้วย ”
            “ หา ว่าไงนะ  แล้วเราเกี่ยวอะไรด้วยละ ”
            “ ก็มันเห็นว่านายนั่งข้างๆ กับโซเฟียแถมไปไหนด้วยกันด้วยไง  มันเลยหมายหัวไว้”  วีวี่บอก
          “ แต่ว่าเราไม่ใช่ ”      วากำลังจะพูดต่อแต่โซเฟียก็พูดแทรกขึ้นมาทันที  “ ไม่เป็นไรหรอก  คนแบบนั้นนายไม่ต้องไปกลัวมันหรอก  อีกอย่างนะถ้ามันมาทำอะไรนายนะ  เดี๋ยวเราจะจัดการมันให้เอง ”        โซเฟียพูดด้วยท่าทีจริงจัง
          “ แต่เราว่านิสัยกับการแต่งตัวของมันนี่พอๆ กันเลยนะ  อย่างเมื่ออย่างนี้ใส่เสื้อกันหนาวแถมมีผ้าพันคออีก  หนาวมากหรือไงก็ไม่รู้    แต่งไปก็ไม่ได้เท่เสียเลย  ดูแย่เปล่าๆ  แต่ก็ยังดีนะ    ถ้านายได้เห็นตอนที่มันแต่งชุดชาวนาเข้าเรียนละก็เราว่านายจะต้องรับไม่ได้แน่ๆ เลย ”      วีวี่เป็นคนพูด ดูเหมือนว่าคนที่วาเห็นตอนเช้าก็ คือ เซต นั่นเอง           
            “ งั้นก็แสดงว่าเราก็เคยเห็นเขาแล้วนะสิ  ก็เพราะตอนเช้ามีคนแต่งตัวเหมือนีที่เธอบอกเลย  แถมเธอยังพูดเหมือนกับมิวเลยละ ”
            “ เราพูดเหมือนกับหมอนั่นด้วยหรอเนี่ย แย่จริงๆ ”        วีวี่เหมือนจะพูดกับตัวเองมากกว่า  ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงดูไม่ค่อยถูกกับมิวนัก    อาจจะเป็นเพราะมิวชอบไปแกล้งวีวี่เล่นก็ได้  แต่ถึงยัง        ไงทั้งสองก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ดี                แต่เท่าๆที่วาฟังนิยายของคนที่ชื่อ เซต มานั้นเขารู้สึกว่าจะไม่ชอบคนๆนี้อย่างแรง  อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นพวกใช้กำลังมาหาเรื่องคนอื่นก็เป็นได้    และเขาก็ภาวนาว่าจะต้องไม่มีเรื่องกับเจ้าหมอนี่ให้ได้     
            ช่วงพักก่อนเข้าเรียนได้หมดไปในที่สุดซึ่งวันนี้มิว นีโอและเบต้าหรือแม้กระทั่งเสือใบ้นิคก็ไม่ได้เดินมาพุดคุยกับเขาที่โต๊ะอาจจะเป็นเพราะพวกเขากำลังคุยกับเพื่อนคนอื่นอยู่ก็ได้กระมัง        อกเช่นเคยชั่วโมงแรกของวันนี้ก็เป็นชั่วโมงคณิตศาสตร์ซึ่งน้อยคนนักที่จะชอบมัน    แต่วันนี้มีสิ่งที่แปลกออกไปนั่นก็คือ    วันนี้อาจารย์มาน่อฟไม่ได้เข้ามาแล้วเขียนกระดานเลย    หากแต่เข้ามาพร้อมกับพูดคุยกับนักเรียนเรื่องการแข่งขันปัญหาคณิตศาสตร์ระหว่างสถาบันตอนหลังจากที่โซเฟียได้บอกทำความเคารพเรียบร้อยแล้ว           
              เป็นเพราะวาคิดถึงแต่เรื่องความฝันมากไปจนตาผิดปกติหรือเปล่า  แต่ดูเหมือนว่าเสือใบ้นิคสนใจจะไปแข่งขันตอบปัญหาคณิตศาสตร์ระหว่างสถาบัน  ไม่ใช่เพราะเขาพูดบอกออกมา  แต่เป็นวามองไปที่โต๊ะของเสือใบ้นิคระหว่างที่อาจารย์กำลังพูดอยู่  ดูท่าทางเสือใบ้นิคจะตั้งใจฟังเป็นพิเศษเลยทีเดียว          ซึ่งการแข่งขันตอบปัญหานั้นจะให้นักเรียน 2 คนจับคู่กันโดยที่สามารถไปสมัครที่โต๊ะของอาจารย์มาน่อฟได้ทุกเวลา  ซึ่งรอบคัดเลือกจะเริ่มขึ้นหลังจากวันนี้นับไปอีกสองอาทิตย์          ซึ่งจะเหลือนักเรียนที่จะเข้าไปแข่งในรอบระหว่างสถาบันได้เพียง 4 คู่เท่านั้น                ส่วนตัววาเองนั้นไม่มีความคิดที่จะลงแข่งเลยเพราะถึงตัวเองจะไม่ได้อ่อนวิชาคณิตศาสตร์แต่ก็ไม่ได้ชอบ  หรือคิดว่าตัวเองจะไปสู้กับคนอื่นได้        และถึงเขาคิดจะลงแข่งจริงๆ  เขาก็ไม่มีคู่ที่จะลงอยู่ดี           
            หลังจากที่อาจารย์มาน่อฟพูดเรื่องการรับสมัครการแข่งขันตอบปัญหาเสร็จเรียบร้อยแล้ว  เขาก็เริ่มกลับสู่ภาพเดิมโดยการหยิกปากกาเมจิกขึ้นเขียนกระดานตามปกติเช่นเคย      ชั่วโมงแรกผ่านไปพร้อมกับการบ้านอีก 1 หน้าซึ่งวาถือว่าไม่ค่อยมากเท่าไหร่นัก  และก็ไม่ได้ยากมากมาย                  ส่วนชั่วโมงต่อไปเป็นชั่วโมงภาษาอังกฤษซึ่งก็มีการประกาศเรื่องการแข่งขันตอบปัญหาภาษาอังกฤษอีกเช่นกัน       
            ในที่สุดการเรียนภาควิชาการในช่วงเช้าก็สิ้นสุดลง    โดยปิดท้ายด้วยวิชาของอาจารย์พิชายะอีกเช่นเคย  ซึ่งวันนี้อาจารย์พิชายะก็พูดถึงเรื่องการแข่งขันตอบปัญหาความรู้รอบตัวในการแข่งระหว่างสถาบันเช่นกัน    แต่วาก็ไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่  เพราะตอนนี้เขามีหน้าที่ต้องฝึกปิงปองเพื่อไปสู่การแข่งขันระหว่างสถาบัน  แถมยังต้องซ้อมวงดนตรีของเขาอีก  แค่นี้ก็น่าจะหนักพออยู่แล้ว 
            นักเรียนในห้องเริ่มทยอยกันออกไปข้างนอกห้องกันแล้ว    ส่วนวานั้นยังคงนั่งจัดของใส่เป้ของเขาอยู่    ระหว่างนั้นมิว นีโอ เบต้า และเสือใบ้นิคก็เดินเข้ามาหาเขา   
              “ เออ คือ  ท่านหัวหน้าวงและท่านหัวหน้าห้องขอรับ  วันนี้เราจะทำการซ้อมวงดนตรีกันนะขอรับ  ยังไงถ้าเลิกเรียนแล้วก็ขอเชิญเจอกันที่หน้าตึกชมรมอีกเช่นเคยนะขอรับ ”  มิว พูดโดยแกล้งพูดให้เหมือนพวกยักษ์ในตะเกียงวิเศษ
            “ รับทราบภารกิจค่ะ ”          โซเฟีย ตอบรับด้วยท่าทางร่าเริงแจ่มใส 
            “ โอเค ”          วา ตอบกลับขณะที่ใส่หนังสือเล่มสุดท้ายให้เรียบร้อยลงในเป้       
            “ นี่ พวกนายจะไปกินอะไรก็ไปกันก่อนเถอะ  เดี๋ยวไว้เราจะตามไปนะ ”        ดูเหมือนโซเฟียจะนั่งเขียนงานหรืออะไรสักอย่างใสในกระดาษที่ดูเหมือนแบบสอบถามอยู่     
            “ ไม่เป็นไรหรอก เรารอได้นะ  ว่าแต่เธอทำอะไรของเธอหรอ ”      วา ถามพริ้อมกับมองไปยังกระดาษขาวแผ่นนั้น       
              “ นายไปก่อนเถอะคุณเด๋อ  เรายังต้องทำงานนี้อีกนาน  มันเป็นงานของพวกคณะกรรมการนักเรียนน่ะ ”             
              “ อย่างนั้นหรอ  ถ้าอย่างนั้นเราไม่กวนละนะ ”        วา บอกโซเฟีย    ลุกขึ้นสะพายเป้  จากนั้นก็บอกกับพวกมิว    “ งั้นพวกเราไปกัน ”     
            เมื่อวาเดินออกมาจากห้องเรียนแล้ว  เขาก็เดินกับพวกมิวไปเรื่อยๆ    จนกระทั่งเดินลงมาจนถึงชั้นที่หนึ่งแล้ว  เขาก็เพิ่งนึกได้ว่า ตัวเองนั้นได้ลืมหยิบกล่องดินสอผ้าสีดำของเขา  ซึ่งวางไว้บนเก้าอี้มาด้วย        เขาจึงบอกกับพวกมิวให้ไปกันก่อน           
              วาวิ่งกลับขึ้นไปจนเกือบจะถึงหน้าห้อง  เขาก็ต้องหยุดอยู่แค่ตรงนั้น      เนื่องจากข้างหน้าห้องของเขาในขณะนี้มีเด็กชายคนหนึ่งยืนอยู่  ดูเหมือนว่าเขาจะกำลังเปิดประตูห้องเพื่อเข้าไปข้างใน      เด็กชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น  หากแต่เป็นผู้นำแฟชั่นหรือคนที่ เซต นั่นเอง        และวาก็สามารถรู้เหตุผลที่เขากำลังจะเข้าไปในห้องนั้นได้โดยทันที  เซตคงจะเข้าไปเพื่อหาโซเฟียแน่ๆ เลย         
            แต่วาก็ไม่ได้สนใจเพราะเขาจะต้องรีบไปเอากล่องดินสอ  เขาจึงเดินตรงไปยังประตูหน้าห้อง      แต่เซตก็หันหน้ามาหาเขาทันที    ด้วยสายตาดูจะไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไหร่นัก   
            “ เฮ้ นายจะเข้าไปอะไรน่ะ ”      เซตถามวาก่อนที่ วาจะได้เปิดประตูเข้าไปด้วยเสียงที่ไม่เป็นมิตร  ซึ่งวาเองก็ไม่ค่อยชอบพฤติกรรมพวกนี้อยู่แล้ว  แต่ด้วยความใจเย็นจึงตอบกลับไปดีๆ
            “ คือ เราจะเข้าไปเอากล่องดินสอน่ะ  ”
            “ นายใช่ไอ้คนที่ชื่อวา ใช่หรือเปล่า ”          เซตถามอีกโดยที่วายังไม่ได้แม้แต่จะทันเตะประตูห้องเลย  ซึ่งดูเหมือนว่าวาจะเริ่มไม่ชอบการพูดของเซตมากยิ่งขึ้น
          “ ถ้าใช่แล้วนายจะทำไม ”         
            “ ในที่สุดก็เจอตัวจนได้ ”        หลังจากที่เซตพูดจบก็ดูเหมือนว่า  เขาจะเริ่มมองวาตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยทีเดียว      สายตาที่เขามองวานั้นดูเหมือนจะดูถูกวาอย่างมาก  ซึ่งวาเองก็พอจะเข้าใจ    เขาคงจะคิดว่า โซเฟียชอบวาแน่นอน  เลยมองด้วยสายตาอย่างนี้  ซึ่งวาก็ไม่ชอบการกระทำแบบนี้    แต่ก็ไม่อยากจะสนใจ          วาจึงจะเปิดประตูเพื่อเข้าไปเอากล่องดินสอต่อ  แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะทำไม่สำเร็จอีกครั้ง     
          “ นายยังไปไหนไม่ได้ ! ”      เซต พูดด้วยท่าทีมีอำนาจเหนือกว่า      ซึ่งดูเหมือนวาก็ไม่อยากจะอดอีกต่อไป
          “ นายเป็น ร.ป.ภ. หรือยังไง  เราจะเข้าห้องทำไมต้องมาถามโน้นถามนี่ ” 
          “ ปากดีจริงๆนะ  สมแล้วที่โดนไอ้พวกนั้นต่อยมา  นี่ยังไม่เข็ดอีกหรอ ”      ไอ้พวกนั้นที่เซตพูดคงจะหมายถึงพวกแก๊งเอ็ดดี้แน่นอน    วารู้สึกไม่ชอบคนๆ นี้เอามากๆเสียแล้ว      คนๆนี้อาจจะแย่กว่าก็อบอีกเสียด้วยวาคิดอย่างนั้น
          “ ปากดีก็ยังดีกว่าไอ้พวกบ้าใส่เสื้อกันหนาวแบบไม่อายใครมาเที่ยวเดินเล่นในโรงเรียนแล้วกัน ”
          “ พูดอย่างนี้แสดงว่าอยากเจ็บตัวสิท่า    อย่าคิดว่าโซเฟียจะช่วยแกได้นะ ”
          “ เราไม่อยากมีเรื่องนะ  เพราะฉะนั้นช่วยหลบๆ ไปได้ไหมเราจะเข้าห้องไปเอาของ  เข้าใจไหม ”      พูดจบวาก็กำลังจะเปิดประตูแต่คราวนี้เซตเดินกระแทกวาทำให้วาเซถอยไปเล็กน้อย   
          “ ไม่ให้เข้าแล้วจะทำไม ”                วาเริ่มไม่เข้าใจว่า  ทำไมมีแต่คนชอบมาหาเรื่องเขา  ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้ใครเลย  หรือมันเป็นเวรกรรมของเขาเอง         
            วายืนนิ่งอยู่สักพักหนึ่ง  เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรต่อไป  แต่ก็มองกลับไปที่เซตด้วยสายตาที่ดูน่ากลัวอย่างยิ่ง  เพียงแต่เซตก็มองมาที่วาเช่นนั้นเหมือนกัน    เสื้อกันหนาวและผ้าพันคอมันทำให้วายิ่งหมั่นไส้คนๆนี้มากขึ้นไปอีก       
         
            “ มาเจอกันสักหน่อยไหม  ไอ้เด็กใหม่ปากดี ” 
            “ สุนัขบางตัวมันยังไม่กัดคนโดยไม่มีเหตุผลเลย  แล้วทำไมนายถึงต้องทำตัวแย่กว่าสุนัขด้วยนะ ”     
            เมื่อวาพูดจบเซตก็ไม่พูอะไรทั้งนั้นแต่เดินเข้ามาเหมือนกับจะเข้ามากระชากคอเสื้อวา    ซึ่งวาเองก็รู้อยู่แล้ว  แต่ก็ไม่ได้เดินหนี        แล้วมันก็เป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ  เซตกระชากคอเสื้อวาพร้อมกับมองหน้าเขา 
          วาไม่ยอมปล่อยให้เป็นเหมือนกับตอนที่เขาถูกก็อบต่อยแน่นอน  ระหว่างที่เซตยังไม่ลงมือนั้นวาก็รีบลงมือก่อนทันที      โดยใช้แขนตีออกมาจากวงในปัดแขนของเซตออก  ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เขาก้าวขาข้างหนึ่งออกไปสกัดขาของเซตที่กำลังเซอยู่        ทำให้เซตเสียศูนย์จนเกือบจะล้มลง        วิธีการนี้วาไปจำมาจากหนังสือการ์ตูนเรื่องหนึ่งซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่ามันจะสามารถใช้ได้จริงๆ              ดูเหมือนว่าวาจะทำให้เซตโมโหขึ้นมากกว่าเดิมเสียอีก       
            “ พอแค่นี้เถอะ  เราไม่อยากมีเรื่อง  คนมีการศึกษาไม่น่าจะทำกันแบบนี้นะ ”      วาพูดก่อนที่จะเริ่มล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเขา  ซึ่งมีไพ่ประจำตัวที่ซาซาไรให้เขามา    ดูเหมือนว่าถ้าเซตยังไม่หยุด  เขาคงจะต้องฝึกทดสอบการปาไพ่ของเขากับเซตเสียแล้ว          เป็นอย่างที่วาคิดจริงๆ  เซตไม่ยอมหยุดแค่นั้น     
            “ แกคิดว่าพูดแค่นี้แล้วเรื่องมันจะจบหรือยังไง      ถ้าวันนี้ไม่ได้ต่อยแกสัก 2 3 หมัดคงจะไม่เป็นสุขแน่ๆ ”        ในเมื่อเซตพูดมาอย่างนี้วาก็จนปัญญาที่จะพูดอะไรอีกต่อไป  เป็นไงก็เป็นกัน  วาคิดในใจพร้อมกับนำมือออกมาจากกรเป๋า  เขาเปลี่ยนความคิดที่จะใช้ไพ่มาเป็นใช้หมัดแทน 
            เซคเดินเข้ามาอย่างเร็ว ง้างหมัดต่อยตรงไปที่วา  ซึ่งดูเหมือนว่าเซตจะไม่เร็วเหมือนกับก็อบ  จึงทำให้วาสามารถหลบได้อย่างง่ายดาย  แต่เซตก็ต่อยเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง                  วาเองในตอนนี้ยังไม่อยากจะลงมือก่อนสักเท่าไหร่  จึงได้แต่หลบไปเรื่อยๆ              จนในที่สุดเขาก็ต้องเลิกความคิดนั้นเมื่อหมัดซ้ายของเซตตรงมาที่หน้าของเขา  ซึ่งก็เกือบที่จะโดนหน้าของวา  แต่โชคดีที่วานำมือมากันได้เสียก่อน
            วาออกแรงผลักเซตให้กระเด็นออกไปอีกครั้ง  ซึ่งมันก็ไม่ได้ทำให้เซตถอยไปห่างจากวาเท่าไหร่ 
เซตจึงวิ่งเขามาหาวาอย่างเร็วพร้อมกับต่อยไปที่ท้องของวา  คราวนี้วาไม่สามารถกันได้  ทำให้วาเกิดอาการจุกเล็กน้อย      ซึ่งวาเองก็กัดฟันต่อยกลับไปโดนที่หน้าของเซตเต็มๆ         
            ที่มุมปากของเซตมีรอยเลือดไหลออกมาเล็กน้อย  เป็นเพราะหมัดของวาที่ต่อยสวนกลับไปเมื่อสักครู่นี้นี่เอง        ดูท่าทางเซตตอนนี้อยู่ในอาการโกรธจัด  ซึ่งดูแล้วค่อนข้างน่ากลัวมากเลยทีเดียว              วาเห็นเช่นนั้นก็เตรียมตัวรับมืออย่างเต็มที่            คราวนี้เซตวิ่งเข้ามาพร้อมกับกระโดดถีบวาอย่างแรง  โดยที่วาเองก็ยังไม่ทันตั้งตัว        เขาถูกถีบเข้าไปที่ท้องอย่างจัง      ทำให้เขาเซถอยหลังไปจนแทบจะทรุดลงไปเพราะเป็นการถีบที่แรงเอาการเลยทีเดียว    เท่านั้นยังไม่พอเซตยังวิ่งเข้ามาต่อยรัวใส่วา    ซึ่งวาเองก็พยายามกันไว้ให้ไม่โดนหน้าหรือท้องให้ได้มากที่สุด  แต่ด้วยความที่ยังจุกอยู่จึงทำให้แรงน้อยลง   
            เซตทั้งต่อยทั้งเตะโดยที่วานั้นยังไม่มีโอกาสได้โต้กลับ    จนในที่สุดโอกาสก็มีถึงระหว่างที่เซตกำลังจะต่อยมาอีกหมัดวาก็ก้มตัวหลบพร้อมกับกระทุ้งศอกเข้าไปใส่ท้องของเซตเต็มๆ    ซึ่งไม่ว่าใครก็ตามทีโดนศอกเข้าแรงที่ท้องอย่างนี้ก็แทบที่จะทรุดได้เหมือนกัน     
          การศอกเมื่อสักครู่นี้ทำให้เซตทรุดลงไปดูเหมือนว่าเขาจะเจ็บมาก    วาถอนหายใจพร้อมกับกุมท้องที่โดนถีบเข้าไปหลายครั้ง    แต่ดูเหมือนว่าโชคจะไม่เข้าข้างวา  เพราะในขณะนั้นเองก็มีเด็กผู้ชายอีกสองคนเดินเข้าไปที่เซตพร้อมกับช่วยกันพยุง          เด็กชายสองคนนี้ดูท่าทางจะต้องเป็นพวกเดียวกับเซตแน่นอน  แต่ก็ต่างกันตรงที่ขนาดของตัว    เพราะขนาดตัวของเด็กทั้งสองคนนี้ตัวใหญ่มาก     
          “ เป็นอะไรมากหรือแปล่าครับ คุณเซต ”    เด็กชายตัวใหญ่คนหนึ่งถามขณะที่ค่อยๆ พยุงเซตขึ้นมา
          “ ไม่เป็นอะไรมากหรอก ”          เมื่อสิ้นคำพูดของเซต  เด็กทั้งสองก็ต่างหันมามองที่วาทันที
          “ เจ้านั่นใช่ไหมครับ ที่มันหาเรื่องคุณเซต ”            เซตไม่ตอบ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าเด็กชายร่างใหญ่ทั้งสองนั้นจะเข้าใจได้เองโดยไม่ต้องถามอีก       
            “ แกจะต้องชดใช้ที่ทำกับคุณเซตแบบนี้ !! ”          เด็กชายร่างใหญ่อีกคนหนึ่งบอกวาด้วยเสียงอันไม่เป็นมิตร    ซึ่งดุไ แล้วทั้งสองคนนี้มีสีผิวที่ค่อนข้างดำ  ทำให้ทั้งสองคนนี้มีความน่ากลัวเพิ่มไปอีกขั้นหนึ่ง
          “ ทำไมเราจะต้องชดใช้ด้วย ก็เพื่อนนายมาหาเรื่องเราก่อนนะ ”
          “ หน่อยแน่ แกบังอาจว่าท่านเซตไปหาเรื่องแกก่อนงั้นหรือ  ช่างไม่เจียมตัวเอาเสียเลยนะ  อย่างนี้มันต้องสั่งสอนสักหน่อยเสียแล้ว  ”
          “ จะสั่งสอนก็เชิญได้เลย  ถ้ามีปัญญา ”        วาพูดด้วยความโมโห ในตอนนี้เขาคิดว่าเป็นไงก็เป็นกันเพราะถึงยังไงเขาก็คงต้องโดนรุมอีกตามเคย    แต่วันนี้ไม่ขอยอมแพ้ง่ายๆ           
        “ บังอาจนัก แกนี่มันช่างปากดีเสียจริงๆ  แล้วแกจะต้องเสียใจ  ”          หลังจากชายร่างใหญ่ผิวดำพูดจบ  วาก็ตัดสินใจหยิบไพ่สำรับที่ซาซาไรให้มาออกมาจากกระเป๋า      เมื่อเด็กชายร่างใหญ่ทั้งสองคนเห็นก็เกิดอาการสงสัยเล็กน้อย    จึงยังไม่ลงมือ
        “ อยากจะสั่งสอนทำไมยังไม่ลงมืออีกละ ”           
        “ ฮ่าๆ แกคิดว่าแกจะใช้ไพ่พวกนั้นสู้กับพวกเรางั้นหรือ ”      เด็กชายร่างใหญ่คนหนึ่งพูดออกมาพร้อมกับหัวเราะยกใหญ่         
        ไพ่หลุดออกจากมือขวาของวาไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่อาจทราบได้  มันบินเฉียดหน้าของเด็กชายคนที่กำลังหัวเราะวาอยู่      ส่งผลทำให้หน้าของเด็กชายคนนั้นปรากฎรอยไพ่กรีดเข้าที่แก้ม  มีรอยเลือดออกมาเล็กน้อย      ไพ่ใบนั้นจะว่าไปก็คมราวกับมีดเลยทีเดียว          เด็กชายคนนั้นหยุดหัวเราะทันที ซึ่งรวมถึงเด็กชายอีกคนและก็เซตด้วย           
          “ แกทำให้หน้าของเราเป็นรอย  แกจะต้องชดใช้ ”    เด็กชายร่างใหญ่คนที่ถูกวา  ปาไพ่ใส่หน้าวิ่งตรงมาที่วา  ดูแล้วน่ากลัวมาก      ด้วยร่างกายที่ใหญ่บึกบึน พริ้อมกับน้ำหนักตัวที่มาก  คงจะไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้ใครสลบได้ง่ายๆ ด้วยการต่อยเข้าหน้าเพียงหมัดเดียว          หากวาถูกต่อยเข้าไปแล้วละก็คงจะต้องสลบไปอย่างแน่นอน       
            ไพ่ใบที่สองหลุดออกมาจากมือของวาอีกครั้งคราวนี้มันบินตรงไปยังหน้าผากของเด็กชายร่างใหญ่        ไพ่แทบจะปักเข้าไปที่หน้าผากของเด็กคนนั้นที่เดียว      เลือดไหลออกมาราวกับโดนมีดบาดก็ไม่ปาน  แต่มันก็ไม่ทำให้เด็กคนนั้นหยุดความตั้งใจเลยแม้แต่น้อย    แต่กลับเพิ่มความโมโหเข้าไปอีก        คราวนี้เด็กชายร่างใหญ่อีกคนก็วิ่งเข้ามาด้วย              วาเองเนื่องจากยังฝึกการร่อนไพ่ได้ยังไม่ชำนายนักจึงไม่สามารถปาออกไปได้รวดเร็วเหมือนซาซาไร      แต่ก็ยังดีที่ในชั่วโมงชมรมเขาได้ฝึกมาแล้วบ้างเล็กน้อย  จึงยังพอนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างที่เห็น                   
            ไพ่ใบที่สามดูเหมือนจะไม่สามารถปาออกไปได้แล้ว    เนื่องจากเด็กชายร่างใหญ่คนแรกสามารถเข้าถึงตัววาได้แล้ว    เขาจับมือทั้งสองของวาไว้            วาพยายามดิ้นสุดชีวิตเพื่อที่จะได้หลุดออกมาเพราะเขารู้ว่าถ้าดิ้นไม่หลุดแล้วละก็จะเกิดอะไรกับตัวเขาบ้าง          ซึ่งก็เป็นโชคร้ายที่วาไม่สามารถดิ้นหลุดได้ทัน    เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เด็กชายร่างใหญ่อีกคนหนึ่งวิ่งเข้ามาถึงตัววาพอดี        เขาอ้อมไปข้างหลังล็อคแขนทั้งสองข้างของวาไว้          วาพยายามดิ้นอีกครั้งแต่ก็รู้ว่าไร้ผล    เด็กชายร่างใหญ่คนที่ถูกวาปาไพ่ใส่หัวเราะอย่างได้ชัย   
            “ นี่ คือ หมัดที่หนึ่ง ”      เขาต่อยตรงไปยังท้องของวา  ซึ่งวาเองก็จุกอยู่แล้ว  ทำให้ยิ่งเพิ่มความจุกเข้าไปอีก 
            “ นี่ คือ หมัดที่สอง ”        เขาต่อยซ้ำไปที่ท้องของวาอีกครั้ง  ทำให้วาต้องกัดฟันเพราะความเจ็บ  หมัดที่ต่อยเข้าไปมันไม่ใช่เบาๆ เลยจริงๆ       
            “ ที่แท้พวกแกนี่มันก็พวกหมาหมู่นี่เอง  ตัวๆ สู้ไม่ได้ถึงกับต้องรุมเลยเชียวหรือ ”        วา พูดถึงแม้จะมีแรงเหลือไม่มากก็ตามที 
          “ หุบปากของแกเสีย ไอ้ปากดี  แกไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนเรา  และนี่คือหมัดที่สาม  ”      คราวนี้เขาต่อยไปที่ปากของวาอย่างแรง  ทำให้วาเลือดอกมาอย่างมาก      “ เป็นไงละ สมน้ำหน้าปากแกจะได้หายดีเสียบ้าง ”     
         
           
          ในขณะนี้เองดูเหมือนว่า เซตจะหายเจ็บที่ท้องของเขาแล้ว  เขาค่อยๆ เดินตรงมาที่วาด้วยท่าทางพอใจอย่างมากที่เห็นวาดูรุมอัดโดยที่ไม่มีทางสู้       
           
          “ แกเสร็จแน่  คราวนี้คงจะทำให้แกหายปากดีไปอีกนาน ”              เซตพูดพร้อมกับใช้มือบีบไปที่คอของวา          วาพยายามดิ้นแต่ก็ไม่สามารถดิ้นได้อีกแล้ว  เพราะตอนนี้เขาไม่เหลือแรงอีกต่อไปแล้ว   
          “ ถึงแกจะดิ้นไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ”      เซตพูดพร้อมกับใช้มืออีกข้างหนึ่งต่อยเข้าไปที่ท้องของวาอีก      ถึงวาจะไม่มีแรงแต่เขาก็ใช้แรงที่มีเหลืออยู่เล็กน้อยของเขาถุ๋ยน้ำลายเข้าใส่หน้าของเซตเต็มที่          เวตใช้ผ้าพันคอเช็ดน้ำลายที่หน้าออก   
            “ แกบังอาจนัก  !!! ”        คราวนี้เขาเข่าศอกเข้าไปที่ท้องของวา    ซึ่งคราวนี้ทำให้วาหมดทางสู้อีกแล้ว  เพราะเขาถูกทำร้ายเข้าที่ท้องไปหลายครั้งมาก         
            ขณะที่เซตกำลังจะลงมือต่ออีกครั้ง  ประตูห้องก็ถูกเปิดออก    และแน่นอนคนที่ออกมาก็คือ  โซเฟียนั่นเอง  !!!        เสียงประตูห้องที่ถูกเปิดออกมาทำให้เซตหยุดลงมือ  และเมื่อเด็กชายทั้งสองคนนั้นหันไปเจอโซเฟีย  ก็รีบปล่อยแขนที่ล็อควาไว้ทันที           
            โซเฟียเมื่อเห็นวาอยู่ในสภาพนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปหาทันที      เมื่อวาถูกปล่อยเขาก็ทรุดลงทันทีเพราะความเจ็บปวด        โซเฟียค่อยๆ  พยุงวาขึ้นมาพร้อมกับหันไปมองเด็กชายทั้งสามคน     
            “ พวกนายทำอะไรของนายเนี่ย ”       
            “ เราเปล่านะ เราก็แค่ ..”      เซต เป็นคนพูดออกมาคนแรกโดยที่พยายามจะทำหน้าให้ดูเป็นคนดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ 
            “ พวกนั้นทำอะไรนาย  แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่า ”        โซเฟียถามวา พร้อมกับหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋ากางเกง  นำมาเช็ดรอยเลือดที่ปากของวา     
            “ ไม่เป็นอะไรมากหรอก  ขอบคุณนะ ”          วา พยายามพุดให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้        เมื่อเซตเห็นโซเฟียมีท่าทีเป็นห่วงกับวามาก  ก็ทำให้เขาโกรธจัดขึ้นมา  แต่ก็พยายามที่จะทำตัวให้นิ่งที่สุด 
          “ พวกนายเป็นลุกผู้ชายกันหรือเปล่าเนี่ย  ถึงต้องมารุมคนอื่นแบบนี้  หรือว่าเป็นพวกสุนัขกันแน่ ”        โซเฟียพูดด้วยความโมโห 
          “ แต่เพื่อนคุณโซเฟียเขามาว่าผมนะครับ ”        เซตเปลี่ยนท่าทีเป็นคนละคนเมื่อพูดกับโซเฟีย 
          “ หุบปากของนายไปเลยนะ  ทำไมเราจะไม่รู้นิสัยของนาย  ถ้าอยากรุมนักละก็เข้ามาเลยทั้งสามคนเนี่ยแหละ ”       
          “ โธ่ จะให้ผมทำร้ายคุณโซเฟียสุดที่รักได้อย่างไรกันครับ ”          เซต พูดด้วยเสียงหวาน ดูท่าทางน่าหมั่นไส้เป็นอย่างมาก    ถ้าวายังมีแรงเหลือแล้วโซเฟียไม่อยู่ตรงนี้ละก็  เขาอยากจะเข้าไปตะบันหน้าไปหมอนี้สัก 2-3 ครั้งจริงๆ
            “ ใครเป็นที่รักของนาย  คนอย่างนายเราไม่มีวันชอบหรอก  รู้ไว้เสียด้วย ”          โซเฟีย พูดพร้อมกับมองหน้าเซตด้วยความโมโห  ดูๆไปแล้วน่ากลัวมากเลยทีเดียวถ้าต้องเจอสายตาแบบนี้จ้องเข้า
            “ อย่าพูดแบบนั้นสิครับ  ไม่ดีนะครับ  มันเป็นการทำร่ายจิตใจน้อยๆ ของผมนะครับ ”          ไม่รู้ว่าเซตพูดออกมาได้อย่างไร  คำพูดของเขาฟังดุแล้วช่างน่าคลื่นไส้นัก 
            “ นายนี่มันน่าคลื่นไส้จริงๆเลย  แล้วอีกอย่างนะ  พวกนายจำไว้เลยนะ  ถ้าขืนยังมายุ่งกับเพื่อนของเราอีกพวกนายเจ็บตัวแน่ ”       
            “ นี่คุณโซเฟียปกป้องมันหรอครับ  ทำไมต้องปกป้องมันด้วย  มันมีอะไรที่ดีกว่าผม ”  เซต พูดพร้อมชี้หน้าวาอย่างดูถูก 
            “ อย่างน้อยเขาก็ไม่ใส่เสื้อบ้าๆ มาโรงเรียนแล้วเที่ยวมานั่งตามตื้อผู้หญิงอย่างนายหรอก ”          โซเฟียพูดพร้อมกับเก็บผ้าเช็ดหน้าที่เปื้อนรอยคราบเลือดของวาเข้าไปในกระเป่ากางเกง    จากนั้นก็พูดต่อ    “ แล้วพวกนายคอยดูนะ  เราจะเอาเรื่องที่พวกนายรุมทำร้ายเพื่อนเราไปบอกรุ่นพี่ซาโต้แล้ว    พวกนายจะต้องถูกลงโทษอย่างสาสม ”
            “  กลัวจังเลยครับ ”      เซตพุดด้วยท่าทีกวนโอ๊ย  จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าโมโห    “ ก็ได้ในเมื่อคุณโซเฟีย ปกป้องมันดีนัก  สักวันคุณจะต้องเสียใจที่ทำกับผมแบบนี้ ”          พูดจบเซตก็หันหน้าไปที่เด็กชายร่างใหญ่วึ่งยืนนิ่งอยู่นานแล้วพร้อมกับโบกมือเรียก      “ พวกเราไปกันได้แล้ว ”        แต่ก่อนที่เซตจะไปนั้นเขาก็หันกลับมาหาโซเฟียอีกครั้งพร้อมกับยิ้มให้          “ ผมไปก่อนนะครับ ที่รักของผม ”
 
              หลังจากที่ทั้งสามคนนั้นเดินไปแล้ว  โซเฟียก็ค่อยๆพาวาเข้ามาในห้องเรียน  ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครอยู่แล้ว  วากับโซเฟียค่อยๆ นั่งลงที่โต๊ะของพวกเขาเอง 
              “ ดูท่าทางนายจะโดนเอามากนะ  ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวเราพาไปที่ห้องพยาบาลเอาไหม  ”
              “ เราไม่ได้เป็นอะไรมากจริงๆ นะ  แต่ก็ขอบคุณมากๆนะ  ที่ช่วยเราไว้ ”
              “ ถ้าเราออกมาเร็วกว่านี้คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอก  เรานี่แย่จริงๆ เป็นถึงกรรมการนักเรียนแต่ก็ช่วยเพื่อนตัวเองไว้ไม่ได้  ”
              “ อย่าพูดแบบนั้นสิ  มันไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก ”      วา พูดพร้อมกับเอนตัวไปยังพนักพิง  พร้อมกับมือที่ยังคงกุมท้องอยู่   
            “ เราเกลียดไอ้หมอนั่นมากเลย    นิสัยแย่มาก  สักวันหนึ่งเถอะ    ถ้าเราทนไม่ไหวหมอนั่นเจ็บตัวแน่  อ่อ .”            โซเฟีย นึกอะไรขึ้นได้จึงหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากเป้ของตัวเอง      “ นี่ กล่องดินสอนาย  เรากะว่าจะคืนให้ตอนเจอกันอีกที  นึกว่านายจะไม่กลับมาเอาเสียแล้ว ”            วา รับกล่องดินสอสีดำจากโซเฟียมาวางไว้ที่โต๊ะก่อนดูเหมือนว่า  เขาจะยังไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นนอกจากนั่งพัก     
              “ เออ นี่ เมื่อกี้ไพ่ของนายหรือเปล่าที่ตกอยู่ที่พื้น 2 ใบน่ะ ”
              “ ใช่แล้ว  เราใช้ปาใส่พวกนั้นแต่เสียดายที่เรายังไม่เก่งพอ ”
              “ งั้นเดี๋ยวเราไปเก็บให้ก่อนนะ ”
              “ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเราไปเก็บเองก็ได้  ”                แต่ก็ไม่ทันที่วาจะพูดจบโซเฟียก็วิ่งออกไปหยิบเสียแล้ว   
                หลังจากที่โซเฟียออกไปเก็บไพ่ให้วาแล้ว  เธอก็เดินกลับเข้ามานั่งข้างๆ วาเหมือนเดิม   
                “ ไพ่พวกนี้ไม่เหมือนพวกไพ่ทั่วๆ ไปเลยนะ  ”
                “ ถูกต้องแล้วละ  ไพ่พวกนี้เป็นไพ่ชนิดพิเศษมันสามารถนำไปใช้เล่นกลได้ง่ายกว่าไพ่ธรรมดาทั่วๆไป  แถมยังสามารถใช้ในการป้องกันตัวได้อีกด้วยละ ”                  โซเฟียค่อยๆ ยื่นไพ่ทั้งสองใบนั้นให้วา  ซึ่งหน้าของไพ่ทั้งสองใบนั้นปรากฎเป็นไพ่คิงกับไพ่ควีน  แต่วาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย    เขานำไปไพ่ทั้งสองใบนั้นใส่สำรับตามเดิม           
              “ นี่นายกินข้าวเที่ยงไหวไหมเนี่ย ”
              “ อะไรกัน  เราไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย  แค่นี้สบายมาก ”            ยังไม่ทันขาดคำเลือดก็ไหลออกมาจากมุมปากของวาอีกครั้ง       
              “ ดูสิ ยังไม่ทันไรเลย เลือดออกมาอีกแล้ว  แล้วยังบอกว่าไม่เป็นไรอีก ”        โซเฟีย พูดพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดปากให้วาอีกที     
              “ เออ . ขอบคุณอีกครั้งนะ ”          วา พูดด้วยอาการเขินเล็กน้อย
            “ ไม่เป็นไรหรอก ”        จากนั้นโซเฟียก็พูดต่อ    “ แต่ไม่ต้องห่วงนะ  ถ้าวันหลังไอ้พวกนั้นมันมารบกวนนายอีกละก็  เราจะจัดการมันจริงๆด้วย  เดี๋ยวเราจะเอาเรื่องนี้ไปบอกรุ่นพี่ซาโต้เองนะ  คอยดูเถอะพวกนี้จะต้องถูกลงโทษแน่นอน ”               
            “ เราว่าเซตนี่แย่กว่าก็อบอีกนะ ”
            “ นายนี่แปลกจริงนะ  นำเอาคนสองคนนี้มาเปรียบกันได้  แต่มันก็จริงของนายแหละ  นายเซตนี่ไม่ได้แค่ชอบหาเรื่องคนอื่นอย่างเดียว  ยังชอบมายุ่งกับเราอีกด้วย  ”
              “ ถ้าเมื่อกี้ ไอ้สองคนนั้นมันไม่มานะ  เราก็คงไม่เป็นอย่างนี้หรอก ”
            “ นายจะบอกว่า นายสู้กับหมอนั่นได้งั้นหรอ ”
            “ ใช่แล้ว เราศอกเข้าไปที่ท้องของเขาเต็มๆ เลย  ที่จริงเราควรจะเป็นฝ่ายชนะนะ ”
            “ เรื่องใครแพ้ใครชนะช่างมันเถอะ  แต่นายก็เก่งนะที่สู้กับหมอนั่นได้ ”
            “ มันแปลกตรงไหนหรอ ”
            “ ก็เห็นเขาว่ากันว่า ที่บ้านหมอนั่นมีอาจารย์สอนวิชาต่อสู้ด้วยนิ  ถ้าเป้นอย่างนั้นแสดงว่าหมอนั่นไร้น้ำยา  สู้นายที่ไม่ได้เรียนมาก็ไม่ได้ยังไงละ ”
            “ เราก็ไม่รุ้เหมือนกัน ช่างมันเหอะเรื่องนี้ ”
            “ ถ้านายไหวแล้วก็บอกเรานะ  จะได้ไปกินข้าวเที่ยงกัน    แต่ไม่ต้องรีบนะ    ให้สบายก่อนแล้วค่อยไปก็ได้เรารอได้ ”                        วา เองก็เพิ่งรู้ว่าโซเฟียเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งจริงๆ          เขารู้สึกดีใจที่เจอคนดีๆแบบนี้  คนที่คอยห่วงใยเขา    แต่วาเองก็เกรงใจไม่อยากให้โซเฟียรอนานจึงค่อยๆ พยายามลุกขึ้น     
            “ เราหายเจ็บท้องแล้วละ  รีบไปกินข้าวกันเถอะ  “
            “ แน่ใจนะคุณเด๋อ  ไม่ใช่กินๆอยู่แล้วกiระอักเลือดกลางคันละ แหะๆ  ”            ทั้งสองคนหัวเราะให้กัน และกัน        เป็นครั้งแรกที่วารู้สึกชอบโซเฟียขึ้นมาบ้างแล้ว  นับตั้งแต่วันที่ได้เจอครั้งแรก    ตอนนี้วาลืมเรื่องความฝันของเขาไปจนหมดแล้ว  คงเป็นเพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อสักครุ่ทำให้เขาไม่มีเวลาไปคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นกระมัง
       
              ขณะที่เซตกับเด็กชายร่างใหญ่ทั้งสองคนกำลังเดินออกไปนอกตึกอาคารเรียน    ก็หารู้ไม่ว่ามีสายตาของชายคนหนึ่งกำลังจ้องติดตามพวกเขาอยู่        ชายคนนั้นยิ้มสะเหยะพร้อมกับมองไปยังพวกของเซตจากระยะไกล      คนๆนี้ไม่ใช่หากแต่เป็นไซโคร แนช นั่นเอง                 
            “ ไม่น่าเชื่อว่ายังมีพวก ลูกแกะที่หลงทางเหลืออยู่อีก  เห็นทีจะต้องชี้นำทางให้พวกมันเสียแล้ว ”       
            ไซแคร แนช พูดกับตัวเองพร้อมกับเดินตามพวกของเซตไป      เหตุการณ์ที่เซตกับวาต่อยกันนั้นเขาเห็นมันโดยตลอดหากแต่ไม่มีใครสังเกตเห็นขาท่านั้น      เขาเป็นคนที่เกลียดการทะเลาะวิวาทที่สุด  โดยเฉพาะคนที่นิสัยชอบหาเรื่องแบบเซต        คงเป็นเพราะเหตุการณ์นั้นที่ทำให้เขาต้องเกลียดพวกคนแบบนี้ไปจนวันตาย      เขาเกลียดความอ่อนแอของตัวเอง      และสาบานว่าจะอุทิศตนเพื่อต่อสู้กับความเลวร้ายของโลกใบนี้      แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้เขาลืมเรื่องราวในอดีตนั้นได้เลย              ไซแคร แนช หยุดกำไม้กางเขนของเขาเหมือนกับว่าคิดอะไรเก่าๆ ขึ้นมาได้อีกครั้งก่อนที่จะเดินตามพวกของเซตต่อไป
           
              นีโอ เสือใบ้นิค มิว และเบต้ากำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ทีโรงอาหาร      ซึ่งดูเหมือนว่า มิวจะสงสัยที่ว่า  ทำไมวาไปหยิบกล่องดินสอนานจัง  แต่เขาก็คิดว่าคงเป็นเพราะอาจจะรอโซเฟียอยู่ก็ได้จึงไม่เอ่ยปากถามความเห็นใคร
                  “ การแข่งประกวดวงปีนี้นายว่าเป็นยังไงบ้าง ”              เบต้าเป็นคนเอ่ยปากถาม  หลังจากที่เขาจัดการกับเจ้าก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ตรงหน้าของเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว     
                  “ เราก็ไม่รู้สินะ  เดี๋ยวตอนซ้อมวงเย็นนี้ก็รู้เองแหละ  ถ้าวงเราเล่นเข้ากันได้ดีก็คงจะไม่เป็นไร  เข้ารอบสบายๆอยุ่แล้ว ”
                “ ทำไมวามาข้าจังนะ ”            เบต้า เป็นคนถามซึ่งมิวก็อยากรู้เหมือนกัน
                “ ไม่รู้เหมือนกันนะ  เฮ้อ พอคิดถึงเรื่องวงขึ้นมาทีไร  เรารู้สึกหมั่นไส้ไอ้หมอนั่นไม่หายเลย ”
                “ ใครหรอ ”
                “ ไอ้ผู้นำแฟชั่นเซตยังไงละ  มันเป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้  อยู่ดีๆก็ออกจากวงเรา    วงเราเลยแตกกันเลย      ที่จริงเราก็ไม่ค่อยชอบหมอนั่นอยู่แล้วละ  ถึงแต่ก่อนจะอยู่วงเดียวกันก็ตามที ”
                “ อืมนะ  เราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรของเขาหรอก  แต่เราก็ไม่ค่อยชอบท่าทางเขาเลยอะ ”
                “ มันคิดว่ามันร้องเพลงเก่งมากกระมัง  ถึงออกจากวงเราไปตั้งวงใหม่เอง    อยากจะรู้เหมือนกันว่าวงใหม่ของมันจะดีขนาดไหนเชียว ”
                “ แต่มันก็น่าเสียดายนะ  ที่วงแชมป์หลายสมัยอย่างนายต้องมาแยกกัน  แต่ละคนฝีมือไม่ธรรมดาทั้งนั้นเลยนะวงนายน่ะ ”
                “ ก็ดีเหมือนกันจะได้รู้ไปว่า ใครมันแน่กว่าใครกันแน่ ”
                “ แล้วคนอื่นๆ ที่อยู่วงเก่านายละ  ทำไมนายไม่ชวนพวกนั้นมารวมกันแล้วปล่อยให้เซตออกไปแค่คนเดียวละ ”
                “ ก็เพราะว่าไอ้หมอนั่นมันไม่ได้แยกออกไปแค่คนเดียวน่ะสิ  มันไปกับมือคีย์บอร์ดแล้วก็มือเบสวงเราด้วยละ  เลยเหลือแค่เรากับพิชากิ          ส่วนพิชากิเองนั้นก็มีวงใหม่ของเขาแล้วเสียด้วย ”
                “ อืมนะ  ไม่เป็นไร  อย่างน้อยนายก็ยังมีเบต้าคนนี้อยู่ ”       
                “ ใช่แล้วอย่างน้อยเราก็ยังมีพวกนายอยู่ จริงไหมนิค ”            มิว พูดแหย่นิคพร้อมกับหัวเราะ      แต่ทันใดนั้นเองเขาก็หยุดหัวเราะลง  เพราะว่าคนที่เขาเห็นอยู่นั้นก็คือ  เซต นั่นเอง
                “ พูดถึงก็เจอพอดี  ดูที่ปากไอ้หมอนั่นสิ  มีรอยเลือดด้วยละ  สงสัยคงเจอใครหมั่นไส้เลยต่อยเข้าให้สะใจจริงๆ      อยากรู้จริงๆ ใครกล้าไปตะบันหน้าไอ้หมอนั่นมานะ ”          มิว พูดกับเบต้าด้วยท่าทางสะใจอย่างมาก
               
                เซตเดินผ่านพวกมิวที่กำลังนั่งกินข้าวกันอยู่โดยที่ทำเป็นมองไม่เห็นมิวที่กำลังหัวเราะอย่างสะใจอยู่      เซตเดินไปเรื่อยๆ  จนในที่สุดเขาก็นั่งลงที่โต๊ะว่างโต๊ะหนึ่งพร้อมกับเด็กชายทั้งสองคน       
              “ ไอ้เด็กใหม่ที่ชื่อ วา นั่นมันแสบจริงๆ เลยนะครับคุณเซต ”        เด็กชายร่างใหญ่คนหนึ่งพยายามพูดเอาใจเซต  แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล          เซตกลับมองไปที่เด็กชายคนนั้นด้วยท่าทางโมโหสุดขีด
              “ แกหุบปากไปเลยนะ !!  อย่าเอ่ยชื่อของไอ้นั่นให้เราได้ยินดีอีก ”
              “ ขอ ขอ โทษครับคุณเซต ”                  เป็นที่น่าแปลกที่เด็กชายร่างใหญ่กลับยอมเด็กชายที่ตัวเล้กกว่าอย่างเซตโดยง่ายดาย  ถ้าใครมาเห็นเขาคงจะต้องนึกขันอยู่เป็นแน่    ถ้าหากไม่รู้ว่าเด้กชายร่างใหญ่ทั้งสองคนนั้นเป็นคล้ายๆกับลูกสมุนของเซต          ที่เป็นลูกสมุนของเซตไม่ได้มีเพียงแค่เจ้าสองคนนี้เท่านั้นหากแต่ยังมีอีกหลายคน  ที่พวกนั้นยอมเซตก็เป็นเพราะพวกมันหวังผลประโยชน์โดยเห็นว่าเซตเป็นลูกเศรษฐีจึงยอมคบหาด้วย
              ขณะที่เซตกับเด็กชายทั้งสองคนกำลังนั่งกันอยู่อย่างเงียบๆ นั้นเอง      ก็มีเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งเดินตรงมาที่โต๊ะของพวกเซต 
                  “ หาตั้งนาน  นึกว่าอยู่ไหนที่แท้ก้อยู่ตรงนี้เอง ”        เด็กผู้หญิงคนนั้นพูดพร้อมกับนั่งลง      ดุเหมือนเธอจะสังเกตว่าเซตอารมณ์ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นักอต่ก็พูดต่อตามนิสัยของเธอ            “ แหม ดูอารมณ์ไม่ค่อยดีเลยนะ    ยังกับไปทะเลาะกับใครมาแน่ะ ”        เซตไม่ตอบ  แม้แต่มองหน้าของเธอยังไม่มองเลย  และดูเหมือนว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเพิ่งจะสังเกตเห็นรอยเลือดที่มุมปากของเซต      ทำให้เธอถึงกับอุทานออกมาเลยทีเดียว                  “ ว๊าย !! ตายแล้ว นายไปโดนอะไรมา  ใครทำกับนายแบบนี้เนี่ย  เจ็บมากไหมค่ะ ”      ดูเหมือนว่าเซตจะรำคาญกับท่าทางของเด็กผู้หญิงคนนี้เต็มที  เขาจึงพูดออกมาด้วยความโมโห
                    “ นี่ เธอเป็นอะไร  เป็นแม่เราหรือไง  ถึงชอบมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของเราจังเนี่ย    เราจะเป็นอะไรก็เรื่องของเราสิ  ”          เด็กผู้หญิงคนนั้นถึงกับหน้าเสีย  แต่ก็พยายามไม่แสดงสีหน้าออกมา    กลับยิ้มแล้วพูดดีๆกับเซต
                    “ เอมี่แค่เป็นห่วงเซตก็เท่านั้นเองนิ ”      ที่แท้เด็กผู้หญิงคนนี้ก็ชื่อเอมี่  “ ว่าแต่ตกลงเซตไปโดนอะไรมาหรอค่ะ ”       
                    “ ก็แค่ไปมีเรื่องนิดหน่อย ”              เซตตอบกลับแบบไม่ค่อยเต็มใจตอบนัก
                  “ ใครกันมันถึงกล้ามาทำเซตอย่างนี้ ”
                  “ มันชื่อ วา เป็นนักเรียนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาครับ คุณเอมี่ ”          เด็กชายร่างใหญ่คนหนึ่งเป็นผู้ตอบแทน       
                  “ อ๋อ เอมี่พอจะรู้แล้วละ  แต่ไม่น่าเชื่อเลยนะค่ะ    เพิ่งเข้ามาใหม่ก็กล้ามีเรื่องไปทั่วเสียแล้ว  แถมยังกล้ามาทำกับเซตแบบนี้อีก  เอมี่ไม่ยอมแน่คอยดูสิ ”
                  “ เธอจะไปทำอะไรมันได้ ”
                  “ คอยดูเอาก็แล้วกันค่ะ ”
                  “ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณโซเฟียเขามาช่วยเจ้านั่นไว้ก่อนนะ  เราก็จัดการมันได้แล้วเชียว ”            เมื่อสิ้นคำพูดของเซตที่เอ่ยถึงโซเฟียเรียบร้อย  สีหน้าของเอมี่ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่ง         
                  “ โซเฟีย ยัยโซเฟียตัวดีอีกแล้วหรอเนี่ย    ทำไมคุณเซตถึงต้องไปยอมมันด้วยละค่ะ  “    เอมี่ดูเหมือนว่าจะหลุดปากพุดออกไปโดยลืมตัว      เอเองแอบชอบเซตอยู่โดยที่เซตเองกลับไม่เคยจะชอบตัวเธอเลย  ชอบแต่โซเฟียทำให้เอมี่เกลียดชิงชังโซเฟียเอาอย่างมาก 
                  “ นี่เธอกล้าดียังไง  มาว่าคุณโซเฟียที่รักของเราเนี่ย  เงียบไปเลยนะ ! ”
                    “ เอมี่ของโทษค่ะ ”
                    “ อืม ช่างมันเหอะ  ไอ้คนที่ผิดคือ ไอ้เด็กใหม่ตัวดีนั่น    สักวันหนึ่งเถอะเราจะจัดการกับมัน  เรื่องมันไม่จบง่ายๆ แน่ ”
                  “ ใช่ค่ะ เอมี่จะช่วยเซตอีกแรงนะ ”                 
                  ดูเหมือนว่าเซตจะไม่ได้พูดแม้คำว่าขอบคุณให้กับเอมี่เลยแม้แต่น้อย      หลังจากนั้นเขาก็สั่งให้เด็กชายทั้งสองคนไปซื้ออาหารมาให้เขาและเอมี่   
             
                  เป็นเวลาเดียวกันกับที่วากับโซเฟียเดินมาถึงโรงอาหารพอดี        มิวเป็นคนแรกอีกเช่นเคยที่เห็นคนทั้งสองจึงโบกมือเรียกมาแต่ไกล      และเมื่อทั้งสองคนเดินมาจนถึงโต๊ะของพวกมิวแล้ว            ทั้งหมดก็ต้องตกใจ  เนื่องจากหน้าของวาที่มีเลือดออกเหมือนกัน
                    “ วา นี่นายไปโดนอะไรมาทำไมเลือดถึงออกแบบนี้ละ ”      มิว เป็นคนถามคนแรกพร้อมกับลุกขึ้นไปหาวา     
                  “ เปล่าหรอก เดี๋ยวนั่งก่อนก็ได้แล้ว จะเล่าให้ ”
                  “ นายโดนโซเฟียตบมาหรอ ”        เบต้าเป็นคนถาม ซึ่งดูเหมือนว่าคำถามจะไม่ได้สร้างสรรค์เอาเสียเลย  สมแล้วกับคนที่ดูคล้ายหุ่นยนต์อย่างเขา
                  “ นายจะบ้าหรอไงเบต้า  โซเฟียจะไปตบวาทำไมละ ก็เดินมาด้วยกันอยู่เนี่ย ”      มิว บอกอย่างหัวเสีย    ส่วนโซเฟียนั้นหัวเราะโดยที่ไม่ได้พูดอะไร                  และดูเหมือนว่าตอนนั้นเองมิวดุเหมือนว่าจะนึกอะไรออกมาได้        เซตก็มีรอยเลือดก็มุมปากอยู่เหมือนกันหรือว่า
                  “ นี่นายอย่านะว่านายไปมีเรื่องกับไอ้เจ้าเซตน่ะ ! ”  มิว ถามด้วยท่าทางตื่นต้น  ส่วนวานั้นไม่ได้ตื่นเต้นอะไรไปกับมิวด้วย     
                “ อืม ก็ทำนองนั้นแหละ”
                “ โอ้ว พระเจ้า นายเป็นอะไรมากหรือเปล่าเนี่ย ”        มิว ดูจะเป็นห่วงวาอย่างมากเลยทีเดียว  ซึ่งผิดกับนีโอและเสือใบ้นิคซึ่งยังนั่งอยู่เฉยๆ เหมือนกับว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น
               
                วาค่อยๆ นั่งลงพร้อมกับโซเฟีย  ซึ่งมิวก็เดินไปนั่งตามด้วยเช่นกัน 
             
                “ เราไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก ”
                “ แต่ดูท่าจะไม่ใช่อย่างที่พูดน่ะสิ  นายดูท่าจะเจ็บมากเลยนะ ”      มิว พูดอย่างห่วงใย      “ หน๋อยแน่ะ  มันอยู่ไหนนะ  เราจะไปตะบันหน้ามัน ”        มิว พูดพร้อมกับลุกขึ้น  โดยที่เบต้าเป็นคนรั้งเอาไว้
              “ ใจเย็นก่อนน่า  เราว่านายไปอาจจะแย่กว่าคุณเด๋อก็ได้นะ  เราขี้เกียจไปช่วยนะ”        โซเฟียพูดทำให้มิวใจเย็นลง  และค่อยๆ นั่งลง
                  หลังจากนั้นวาและโซเฟียก็เล่าเหตุการณ์ให้ทั้งหมดฟัง  เมื่อเล่าจบดูเหมือนว่ามิวจะเกิดอารมณ์ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง           
                  “ ใจเย็นหน่อยสิ  นายไปต่อยกับเขาตอนนี้  ถึงนายจะเป็นฝ่ายชนะแต่นายก็เป็นคนผิดนะ ”        โซเฟียพูดห้ามมิวอีกครั้ง
                “ แต่มัน ”        ก่อนที่มิวจะพูดอะไรอีก  วาก็เป็นคนพูดห้ามเอง   
                  “ ไม่เป็นไรหรอกน่า  คนอย่างนั้นช่างมันเหอะ  อีอย่างเราก็ไม่ได้ยอมเขาสักหน่อย ”
                  “ อืมนะ ”           
                  “ งั้นเราขอตัวไปซื้ออาหารทานก่อนนะ  รู้สึกว่าจะหิวเข้าแล้วสิเนี่ย ”              พูดจบวาและโซเฟียก้ลุกไปด้วยกัน  ปล่อยให้มิวนั่งอารมณ์เสียอยู่กับโต๊ะ  ซึ่งเบต้าก็เป็นคนนั่งพูดกับมิวห้มิวหายอารมณ์เสีย  ถึงเขาจะเหมือนหุ่นยนต์ก็ตามที             
                    วาและโซเฟียต่างเดินแยกกันไปซื้ออาหารของตนเอง        ซึ่งโซเฟียก็เดินเลือกอาหารไปเรื่อยๆ  โดยที่ไม่รู้ว่ามีสายตา  สายตาหนึ่งจับจ้องที่เธออยู่          สายตานั้นไม่ใช่ใครหากแต่เป็นเอมี่นี่เอง      เอมี่จ้องมองไปที่โซเฟียด้วยความชิงชัง    ส่วนเซตนั้นไม่ทันได้สังเกตเห็นเพราะมัวแต่นั่งหันหน้ามองไปที่อื่นอยู่ 
                  “ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน โซเฟีย !!”    เอมี่พูดกับตัวเอง  สักพักก็ละสายตาจากโซเฟียไปเนื่องจากเซตหันมาคุยด้วย        แล้วท่าทางของเอมี่ก็เปลี่ยนไปเป็นใส่ซื่อเหมือนเดิม
                   
                                      _____________________________________________
              “ เจ้านั่นมันก็ คือ ”        วีวี่พูดพร้อมกับหยุดไปสักพักหนึ่งก่อนที่จะพูดต่อ  ซึ่งดูเหมือนว่าวาตอนนี้อยากรู้ใจจะขาดแล้ว          “ มันเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบโซเฟียนะสิ ”
              “ แล้วยังไงต่อหรอ  เจ้านั่นมันชอบโซเฟียแล้วยังไงต่อละ ” 
              “ อ๋อ ลืมบอกไปเจ้านั่นน่ะมันชื่อ เซต ”                   
              “ แล้วยังไงต่ออีกละ ”       
            “ มันชอบโซเฟียมาประมาณเกือบปีได้แล้วละ  ซึ่งโซเฟียก็ไม่ได้ชอบมันเลยแม้แต่น้อย    แต่มันก็ตามตื้อไม่เลิกจนรู้สึกว่าจะหายไปสักพักหนึ่ง  ไอ้สักพักหนึ่งที่ว่าก็ คือ ตอนปิดเทอมอ่านะ  มันเลยไม่ได้ตามตื้อเพราะไม่ได้เจอกัน  จนล่าสุดนี่ก็เมื่อเช้านี้แหละ  ”
            “ หรอ ก็แค่คนมาตามตื้อเองนี่  ไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย ”
            “ นายอาจจะยังไม่รู้นะ  ว่านิสัยของมันเป็นยังไง    จะบอกให้ก็ได้นะ    เจ้านี่ชอบทำตัวเป็นผู้นำแฟชั่นของโรงเรียนเราละ  มันถือว่าตัวเองเป็นลูกเศรษฐีเลยใช้เงินชื่อเสื้อผ้าหรือของใช้ราคาแพงๆ  ใส่มาอวดคนในโรงเรียน      ซึ่งเราว่าก็ไม่เห็นจะมีใครชอบมันสักเท่าไหร่  ยกเว้นพวกผู้หญิงบางคนที่ตาบอดหลงคิดว่ามันเป็นคนดี  แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย  ”
            “ อืม แล้วยังไงต่อละ ”
            “ และแล้วก็ถึงคราวซวยของเพื่อนเราเพราะอยู่ดีๆ  มันก็มาเกิดชอบโซเฟียเสียได้    ส่วนถ้ามันรู้ว่ามีผู้ชายคนไหนชอบเข้ามายุ่งกับโซเฟียหรือทำตัวเป็นคู่แข่งของมัน  มันก็จะไปหาเรื่องคนๆ นั้นทันที    มันคงถือว่ามันมีวิชาการป้องกันตัวที่พ่อมันจ้างให้อาจารย์ชื่อดังมาสอนให้มัน  มันเลยกล้าหาเรื่องคน      ส่วนถ้าคนไหนที่มันสู้ด้วยไม่ได้ละก็  มันก็จะไปเรียกพวกมาจัดการ  เรียกง่ายๆว่า  พวกหมาหมู่เลยทีเดียว          เราว่าพวกแก๊งเอ็ดดี้นี่ก็แย่แล้วนะ  แต่ดูเหมือนเจ้านี่จะแย่กว่าร้อยเท่าเลยละ ”
            “ ฟังดูแล้วเหมือนพวกตัวโกงในพวกหนังสือนิยายเลยเนอะ  น่าสงสารจังต้องมาเจอกับคนแบบนี้ ”            ซึ่งเมื่อวาพูดจบก็ดูเหมือนว่า โซเฟียจะเริ่มพูดมาบ้างแล้ว  หลังจากปล่อยให้วีวี่เล่าเรื่องมานาน 
            “ ไม่เป็นไรหรอก  เราชินแล้วละ  แต่ไอ้ที่น่าห่วงรู้สึกว่าน่าจะเป็นนายเสียมากกว่านะ  เพราะรู้สึกว่าเจ้านั่นมันหมายหัวนายเอาไว้ด้วย ”
            “ หา ว่าไงนะ  แล้วเราเกี่ยวอะไรด้วยละ ”
            “ ก็มันเห็นว่านายนั่งข้างๆ กับโซเฟียแถมไปไหนด้วยกันด้วยไง  มันเลยหมายหัวไว้”  วีวี่บอก
          “ แต่ว่าเราไม่ใช่ ”      วากำลังจะพูดต่อแต่โซเฟียก็พูดแทรกขึ้นมาทันที  “ ไม่เป็นไรหรอก  คนแบบนั้นนายไม่ต้องไปกลัวมันหรอก  อีกอย่างนะถ้ามันมาทำอะไรนายนะ  เดี๋ยวเราจะจัดการมันให้เอง ”        โซเฟียพูดด้วยท่าทีจริงจัง
          “ แต่เราว่านิสัยกับการแต่งตัวของมันนี่พอๆ กันเลยนะ  อย่างเมื่ออย่างนี้ใส่เสื้อกันหนาวแถมมีผ้าพันคออีก  หนาวมากหรือไงก็ไม่รู้    แต่งไปก็ไม่ได้เท่เสียเลย  ดูแย่เปล่าๆ  แต่ก็ยังดีนะ    ถ้านายได้เห็นตอนที่มันแต่งชุดชาวนาเข้าเรียนละก็เราว่านายจะต้องรับไม่ได้แน่ๆ เลย ”      วีวี่เป็นคนพูด ดูเหมือนว่าคนที่วาเห็นตอนเช้าก็ คือ เซต นั่นเอง           
            “ งั้นก็แสดงว่าเราก็เคยเห็นเขาแล้วนะสิ  ก็เพราะตอนเช้ามีคนแต่งตัวเหมือนีที่เธอบอกเลย  แถมเธอยังพูดเหมือนกับมิวเลยละ ”
            “ เราพูดเหมือนกับหมอนั่นด้วยหรอเนี่ย แย่จริงๆ ”        วีวี่เหมือนจะพูดกับตัวเองมากกว่า  ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงดูไม่ค่อยถูกกับมิวนัก    อาจจะเป็นเพราะมิวชอบไปแกล้งวีวี่เล่นก็ได้  แต่ถึงยัง        ไงทั้งสองก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ดี                แต่เท่าๆที่วาฟังนิยายของคนที่ชื่อ เซต มานั้นเขารู้สึกว่าจะไม่ชอบคนๆนี้อย่างแรง  อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นพวกใช้กำลังมาหาเรื่องคนอื่นก็เป็นได้    และเขาก็ภาวนาว่าจะต้องไม่มีเรื่องกับเจ้าหมอนี่ให้ได้     
            ช่วงพักก่อนเข้าเรียนได้หมดไปในที่สุดซึ่งวันนี้มิว นีโอและเบต้าหรือแม้กระทั่งเสือใบ้นิคก็ไม่ได้เดินมาพุดคุยกับเขาที่โต๊ะอาจจะเป็นเพราะพวกเขากำลังคุยกับเพื่อนคนอื่นอยู่ก็ได้กระมัง        อกเช่นเคยชั่วโมงแรกของวันนี้ก็เป็นชั่วโมงคณิตศาสตร์ซึ่งน้อยคนนักที่จะชอบมัน    แต่วันนี้มีสิ่งที่แปลกออกไปนั่นก็คือ    วันนี้อาจารย์มาน่อฟไม่ได้เข้ามาแล้วเขียนกระดานเลย    หากแต่เข้ามาพร้อมกับพูดคุยกับนักเรียนเรื่องการแข่งขันปัญหาคณิตศาสตร์ระหว่างสถาบันตอนหลังจากที่โซเฟียได้บอกทำความเคารพเรียบร้อยแล้ว           
              เป็นเพราะวาคิดถึงแต่เรื่องความฝันมากไปจนตาผิดปกติหรือเปล่า  แต่ดูเหมือนว่าเสือใบ้นิคสนใจจะไปแข่งขันตอบปัญหาคณิตศาสตร์ระหว่างสถาบัน  ไม่ใช่เพราะเขาพูดบอกออกมา  แต่เป็นวามองไปที่โต๊ะของเสือใบ้นิคระหว่างที่อาจารย์กำลังพูดอยู่  ดูท่าทางเสือใบ้นิคจะตั้งใจฟังเป็นพิเศษเลยทีเดียว          ซึ่งการแข่งขันตอบปัญหานั้นจะให้นักเรียน 2 คนจับคู่กันโดยที่สามารถไปสมัครที่โต๊ะของอาจารย์มาน่อฟได้ทุกเวลา  ซึ่งรอบคัดเลือกจะเริ่มขึ้นหลังจากวันนี้นับไปอีกสองอาทิตย์          ซึ่งจะเหลือนักเรียนที่จะเข้าไปแข่งในรอบระหว่างสถาบันได้เพียง 4 คู่เท่านั้น                ส่วนตัววาเองนั้นไม่มีความคิดที่จะลงแข่งเลยเพราะถึงตัวเองจะไม่ได้อ่อนวิชาคณิตศาสตร์แต่ก็ไม่ได้ชอบ  หรือคิดว่าตัวเองจะไปสู้กับคนอื่นได้        และถึงเขาคิดจะลงแข่งจริงๆ  เขาก็ไม่มีคู่ที่จะลงอยู่ดี           
            หลังจากที่อาจารย์มาน่อฟพูดเรื่องการรับสมัครการแข่งขันตอบปัญหาเสร็จเรียบร้อยแล้ว  เขาก็เริ่มกลับสู่ภาพเดิมโดยการหยิกปากกาเมจิกขึ้นเขียนกระดานตามปกติเช่นเคย      ชั่วโมงแรกผ่านไปพร้อมกับการบ้านอีก 1 หน้าซึ่งวาถือว่าไม่ค่อยมากเท่าไหร่นัก  และก็ไม่ได้ยากมากมาย                  ส่วนชั่วโมงต่อไปเป็นชั่วโมงภาษาอังกฤษซึ่งก็มีการประกาศเรื่องการแข่งขันตอบปัญหาภาษาอังกฤษอีกเช่นกัน       
            ในที่สุดการเรียนภาควิชาการในช่วงเช้าก็สิ้นสุดลง    โดยปิดท้ายด้วยวิชาของอาจารย์พิชายะอีกเช่นเคย  ซึ่งวันนี้อาจารย์พิชายะก็พูดถึงเรื่องการแข่งขันตอบปัญหาความรู้รอบตัวในการแข่งระหว่างสถาบันเช่นกัน    แต่วาก็ไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่  เพราะตอนนี้เขามีหน้าที่ต้องฝึกปิงปองเพื่อไปสู่การแข่งขันระหว่างสถาบัน  แถมยังต้องซ้อมวงดนตรีของเขาอีก  แค่นี้ก็น่าจะหนักพออยู่แล้ว 
            นักเรียนในห้องเริ่มทยอยกันออกไปข้างนอกห้องกันแล้ว    ส่วนวานั้นยังคงนั่งจัดของใส่เป้ของเขาอยู่    ระหว่างนั้นมิว นีโอ เบต้า และเสือใบ้นิคก็เดินเข้ามาหาเขา   
              “ เออ คือ  ท่านหัวหน้าวงและท่านหัวหน้าห้องขอรับ  วันนี้เราจะทำการซ้อมวงดนตรีกันนะขอรับ  ยังไงถ้าเลิกเรียนแล้วก็ขอเชิญเจอกันที่หน้าตึกชมรมอีกเช่นเคยนะขอรับ ”  มิว พูดโดยแกล้งพูดให้เหมือนพวกยักษ์ในตะเกียงวิเศษ
            “ รับทราบภารกิจค่ะ ”          โซเฟีย ตอบรับด้วยท่าทางร่าเริงแจ่มใส 
            “ โอเค ”          วา ตอบกลับขณะที่ใส่หนังสือเล่มสุดท้ายให้เรียบร้อยลงในเป้       
            “ นี่ พวกนายจะไปกินอะไรก็ไปกันก่อนเถอะ  เดี๋ยวไว้เราจะตามไปนะ ”        ดูเหมือนโซเฟียจะนั่งเขียนงานหรืออะไรสักอย่างใสในกระดาษที่ดูเหมือนแบบสอบถามอยู่     
            “ ไม่เป็นไรหรอก เรารอได้นะ  ว่าแต่เธอทำอะไรของเธอหรอ ”      วา ถามพริ้อมกับมองไปยังกระดาษขาวแผ่นนั้น       
              “ นายไปก่อนเถอะคุณเด๋อ  เรายังต้องทำงานนี้อีกนาน  มันเป็นงานของพวกคณะกรรมการนักเรียนน่ะ ”             
              “ อย่างนั้นหรอ  ถ้าอย่างนั้นเราไม่กวนละนะ ”        วา บอกโซเฟีย    ลุกขึ้นสะพายเป้  จากนั้นก็บอกกับพวกมิว    “ งั้นพวกเราไปกัน ”     
            เมื่อวาเดินออกมาจากห้องเรียนแล้ว  เขาก็เดินกับพวกมิวไปเรื่อยๆ    จนกระทั่งเดินลงมาจนถึงชั้นที่หนึ่งแล้ว  เขาก็เพิ่งนึกได้ว่า ตัวเองนั้นได้ลืมหยิบกล่องดินสอผ้าสีดำของเขา  ซึ่งวางไว้บนเก้าอี้มาด้วย        เขาจึงบอกกับพวกมิวให้ไปกันก่อน           
              วาวิ่งกลับขึ้นไปจนเกือบจะถึงหน้าห้อง  เขาก็ต้องหยุดอยู่แค่ตรงนั้น      เนื่องจากข้างหน้าห้องของเขาในขณะนี้มีเด็กชายคนหนึ่งยืนอยู่  ดูเหมือนว่าเขาจะกำลังเปิดประตูห้องเพื่อเข้าไปข้างใน      เด็กชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น  หากแต่เป็นผู้นำแฟชั่นหรือคนที่ เซต นั่นเอง        และวาก็สามารถรู้เหตุผลที่เขากำลังจะเข้าไปในห้องนั้นได้โดยทันที  เซตคงจะเข้าไปเพื่อหาโซเฟียแน่ๆ เลย         
            แต่วาก็ไม่ได้สนใจเพราะเขาจะต้องรีบไปเอากล่องดินสอ  เขาจึงเดินตรงไปยังประตูหน้าห้อง      แต่เซตก็หันหน้ามาหาเขาทันที    ด้วยสายตาดูจะไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไหร่นัก   
            “ เฮ้ นายจะเข้าไปอะไรน่ะ ”      เซตถามวาก่อนที่ วาจะได้เปิดประตูเข้าไปด้วยเสียงที่ไม่เป็นมิตร  ซึ่งวาเองก็ไม่ค่อยชอบพฤติกรรมพวกนี้อยู่แล้ว  แต่ด้วยความใจเย็นจึงตอบกลับไปดีๆ
            “ คือ เราจะเข้าไปเอากล่องดินสอน่ะ  ”
            “ นายใช่ไอ้คนที่ชื่อวา ใช่หรือเปล่า ”          เซตถามอีกโดยที่วายังไม่ได้แม้แต่จะทันเตะประตูห้องเลย  ซึ่งดูเหมือนว่าวาจะเริ่มไม่ชอบการพูดของเซตมากยิ่งขึ้น
          “ ถ้าใช่แล้วนายจะทำไม ”         
            “ ในที่สุดก็เจอตัวจนได้ ”        หลังจากที่เซตพูดจบก็ดูเหมือนว่า  เขาจะเริ่มมองวาตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยทีเดียว      สายตาที่เขามองวานั้นดูเหมือนจะดูถูกวาอย่างมาก  ซึ่งวาเองก็พอจะเข้าใจ    เขาคงจะคิดว่า โซเฟียชอบวาแน่นอน  เลยมองด้วยสายตาอย่างนี้  ซึ่งวาก็ไม่ชอบการกระทำแบบนี้    แต่ก็ไม่อยากจะสนใจ          วาจึงจะเปิดประตูเพื่อเข้าไปเอากล่องดินสอต่อ  แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะทำไม่สำเร็จอีกครั้ง     
          “ นายยังไปไหนไม่ได้ ! ”      เซต พูดด้วยท่าทีมีอำนาจเหนือกว่า      ซึ่งดูเหมือนวาก็ไม่อยากจะอดอีกต่อไป
          “ นายเป็น ร.ป.ภ. หรือยังไง  เราจะเข้าห้องทำไมต้องมาถามโน้นถามนี่ ” 
          “ ปากดีจริงๆนะ  สมแล้วที่โดนไอ้พวกนั้นต่อยมา  นี่ยังไม่เข็ดอีกหรอ ”      ไอ้พวกนั้นที่เซตพูดคงจะหมายถึงพวกแก๊งเอ็ดดี้แน่นอน    วารู้สึกไม่ชอบคนๆ นี้เอามากๆเสียแล้ว      คนๆนี้อาจจะแย่กว่าก็อบอีกเสียด้วยวาคิดอย่างนั้น
          “ ปากดีก็ยังดีกว่าไอ้พวกบ้าใส่เสื้อกันหนาวแบบไม่อายใครมาเที่ยวเดินเล่นในโรงเรียนแล้วกัน ”
          “ พูดอย่างนี้แสดงว่าอยากเจ็บตัวสิท่า    อย่าคิดว่าโซเฟียจะช่วยแกได้นะ ”
          “ เราไม่อยากมีเรื่องนะ  เพราะฉะนั้นช่วยหลบๆ ไปได้ไหมเราจะเข้าห้องไปเอาของ  เข้าใจไหม ”      พูดจบวาก็กำลังจะเปิดประตูแต่คราวนี้เซตเดินกระแทกวาทำให้วาเซถอยไปเล็กน้อย   
          “ ไม่ให้เข้าแล้วจะทำไม ”                วาเริ่มไม่เข้าใจว่า  ทำไมมีแต่คนชอบมาหาเรื่องเขา  ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้ใครเลย  หรือมันเป็นเวรกรรมของเขาเอง         
            วายืนนิ่งอยู่สักพักหนึ่ง  เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรต่อไป  แต่ก็มองกลับไปที่เซตด้วยสายตาที่ดูน่ากลัวอย่างยิ่ง  เพียงแต่เซตก็มองมาที่วาเช่นนั้นเหมือนกัน    เสื้อกันหนาวและผ้าพันคอมันทำให้วายิ่งหมั่นไส้คนๆนี้มากขึ้นไปอีก       
         
            “ มาเจอกันสักหน่อยไหม  ไอ้เด็กใหม่ปากดี ” 
            “ สุนัขบางตัวมันยังไม่กัดคนโดยไม่มีเหตุผลเลย  แล้วทำไมนายถึงต้องทำตัวแย่กว่าสุนัขด้วยนะ ”     
            เมื่อวาพูดจบเซตก็ไม่พูอะไรทั้งนั้นแต่เดินเข้ามาเหมือนกับจะเข้ามากระชากคอเสื้อวา    ซึ่งวาเองก็รู้อยู่แล้ว  แต่ก็ไม่ได้เดินหนี        แล้วมันก็เป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ  เซตกระชากคอเสื้อวาพร้อมกับมองหน้าเขา 
          วาไม่ยอมปล่อยให้เป็นเหมือนกับตอนที่เขาถูกก็อบต่อยแน่นอน  ระหว่างที่เซตยังไม่ลงมือนั้นวาก็รีบลงมือก่อนทันที      โดยใช้แขนตีออกมาจากวงในปัดแขนของเซตออก  ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เขาก้าวขาข้างหนึ่งออกไปสกัดขาของเซตที่กำลังเซอยู่        ทำให้เซตเสียศูนย์จนเกือบจะล้มลง        วิธีการนี้วาไปจำมาจากหนังสือการ์ตูนเรื่องหนึ่งซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่ามันจะสามารถใช้ได้จริงๆ              ดูเหมือนว่าวาจะทำให้เซตโมโหขึ้นมากกว่าเดิมเสียอีก       
            “ พอแค่นี้เถอะ  เราไม่อยากมีเรื่อง  คนมีการศึกษาไม่น่าจะทำกันแบบนี้นะ ”      วาพูดก่อนที่จะเริ่มล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเขา  ซึ่งมีไพ่ประจำตัวที่ซาซาไรให้เขามา    ดูเหมือนว่าถ้าเซตยังไม่หยุด  เขาคงจะต้องฝึกทดสอบการปาไพ่ของเขากับเซตเสียแล้ว          เป็นอย่างที่วาคิดจริงๆ  เซตไม่ยอมหยุดแค่นั้น     
            “ แกคิดว่าพูดแค่นี้แล้วเรื่องมันจะจบหรือยังไง      ถ้าวันนี้ไม่ได้ต่อยแกสัก 2 3 หมัดคงจะไม่เป็นสุขแน่ๆ ”        ในเมื่อเซตพูดมาอย่างนี้วาก็จนปัญญาที่จะพูดอะไรอีกต่อไป  เป็นไงก็เป็นกัน  วาคิดในใจพร้อมกับนำมือออกมาจากกรเป๋า  เขาเปลี่ยนความคิดที่จะใช้ไพ่มาเป็นใช้หมัดแทน 
            เซคเดินเข้ามาอย่างเร็ว ง้างหมัดต่อยตรงไปที่วา  ซึ่งดูเหมือนว่าเซตจะไม่เร็วเหมือนกับก็อบ  จึงทำให้วาสามารถหลบได้อย่างง่ายดาย  แต่เซตก็ต่อยเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง                  วาเองในตอนนี้ยังไม่อยากจะลงมือก่อนสักเท่าไหร่  จึงได้แต่หลบไปเรื่อยๆ              จนในที่สุดเขาก็ต้องเลิกความคิดนั้นเมื่อหมัดซ้ายของเซตตรงมาที่หน้าของเขา  ซึ่งก็เกือบที่จะโดนหน้าของวา  แต่โชคดีที่วานำมือมากันได้เสียก่อน
            วาออกแรงผลักเซตให้กระเด็นออกไปอีกครั้ง  ซึ่งมันก็ไม่ได้ทำให้เซตถอยไปห่างจากวาเท่าไหร่ 
เซตจึงวิ่งเขามาหาวาอย่างเร็วพร้อมกับต่อยไปที่ท้องของวา  คราวนี้วาไม่สามารถกันได้  ทำให้วาเกิดอาการจุกเล็กน้อย      ซึ่งวาเองก็กัดฟันต่อยกลับไปโดนที่หน้าของเซตเต็มๆ         
            ที่มุมปากของเซตมีรอยเลือดไหลออกมาเล็กน้อย  เป็นเพราะหมัดของวาที่ต่อยสวนกลับไปเมื่อสักครู่นี้นี่เอง        ดูท่าทางเซตตอนนี้อยู่ในอาการโกรธจัด  ซึ่งดูแล้วค่อนข้างน่ากลัวมากเลยทีเดียว              วาเห็นเช่นนั้นก็เตรียมตัวรับมืออย่างเต็มที่            คราวนี้เซตวิ่งเข้ามาพร้อมกับกระโดดถีบวาอย่างแรง  โดยที่วาเองก็ยังไม่ทันตั้งตัว        เขาถูกถีบเข้าไปที่ท้องอย่างจัง      ทำให้เขาเซถอยหลังไปจนแทบจะทรุดลงไปเพราะเป็นการถีบที่แรงเอาการเลยทีเดียว    เท่านั้นยังไม่พอเซตยังวิ่งเข้ามาต่อยรัวใส่วา    ซึ่งวาเองก็พยายามกันไว้ให้ไม่โดนหน้าหรือท้องให้ได้มากที่สุด  แต่ด้วยความที่ยังจุกอยู่จึงทำให้แรงน้อยลง   
            เซตทั้งต่อยทั้งเตะโดยที่วานั้นยังไม่มีโอกาสได้โต้กลับ    จนในที่สุดโอกาสก็มีถึงระหว่างที่เซตกำลังจะต่อยมาอีกหมัดวาก็ก้มตัวหลบพร้อมกับกระทุ้งศอกเข้าไปใส่ท้องของเซตเต็มๆ    ซึ่งไม่ว่าใครก็ตามทีโดนศอกเข้าแรงที่ท้องอย่างนี้ก็แทบที่จะทรุดได้เหมือนกัน     
          การศอกเมื่อสักครู่นี้ทำให้เซตทรุดลงไปดูเหมือนว่าเขาจะเจ็บมาก    วาถอนหายใจพร้อมกับกุมท้องที่โดนถีบเข้าไปหลายครั้ง    แต่ดูเหมือนว่าโชคจะไม่เข้าข้างวา  เพราะในขณะนั้นเองก็มีเด็กผู้ชายอีกสองคนเดินเข้าไปที่เซตพร้อมกับช่วยกันพยุง          เด็กชายสองคนนี้ดูท่าทางจะต้องเป็นพวกเดียวกับเซตแน่นอน  แต่ก็ต่างกันตรงที่ขนาดของตัว    เพราะขนาดตัวของเด็กทั้งสองคนนี้ตัวใหญ่มาก     
          “ เป็นอะไรมากหรือแปล่าครับ คุณเซต ”    เด็กชายตัวใหญ่คนหนึ่งถามขณะที่ค่อยๆ พยุงเซตขึ้นมา
          “ ไม่เป็นอะไรมากหรอก ”          เมื่อสิ้นคำพูดของเซต  เด็กทั้งสองก็ต่างหันมามองที่วาทันที
          “ เจ้านั่นใช่ไหมครับ ที่มันหาเรื่องคุณเซต ”            เซตไม่ตอบ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าเด็กชายร่างใหญ่ทั้งสองนั้นจะเข้าใจได้เองโดยไม่ต้องถามอีก       
            “ แกจะต้องชดใช้ที่ทำกับคุณเซตแบบนี้ !! ”          เด็กชายร่างใหญ่อีกคนหนึ่งบอกวาด้วยเสียงอันไม่เป็นมิตร    ซึ่งดุไ แล้วทั้งสองคนนี้มีสีผิวที่ค่อนข้างดำ  ทำให้ทั้งสองคนนี้มีความน่ากลัวเพิ่มไปอีกขั้นหนึ่ง
          “ ทำไมเราจะต้องชดใช้ด้วย ก็เพื่อนนายมาหาเรื่องเราก่อนนะ ”
          “ หน่อยแน่ แกบังอาจว่าท่านเซตไปหาเรื่องแกก่อนงั้นหรือ  ช่างไม่เจียมตัวเอาเสียเลยนะ  อย่างนี้มันต้องสั่งสอนสักหน่อยเสียแล้ว  ”
          “ จะสั่งสอนก็เชิญได้เลย  ถ้ามีปัญญา ”        วาพูดด้วยความโมโห ในตอนนี้เขาคิดว่าเป็นไงก็เป็นกันเพราะถึงยังไงเขาก็คงต้องโดนรุมอีกตามเคย    แต่วันนี้ไม่ขอยอมแพ้ง่ายๆ           
        “ บังอาจนัก แกนี่มันช่างปากดีเสียจริงๆ  แล้วแกจะต้องเสียใจ  ”          หลังจากชายร่างใหญ่ผิวดำพูดจบ  วาก็ตัดสินใจหยิบไพ่สำรับที่ซาซาไรให้มาออกมาจากกระเป๋า      เมื่อเด็กชายร่างใหญ่ทั้งสองคนเห็นก็เกิดอาการสงสัยเล็กน้อย    จึงยังไม่ลงมือ
        “ อยากจะสั่งสอนทำไมยังไม่ลงมืออีกละ ”           
        “ ฮ่าๆ แกคิดว่าแกจะใช้ไพ่พวกนั้นสู้กับพวกเรางั้นหรือ ”      เด็กชายร่างใหญ่คนหนึ่งพูดออกมาพร้อมกับหัวเราะยกใหญ่         
        ไพ่หลุดออกจากมือขวาของวาไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่อาจทราบได้  มันบินเฉียดหน้าของเด็กชายคนที่กำลังหัวเราะวาอยู่      ส่งผลทำให้หน้าของเด็กชายคนนั้นปรากฎรอยไพ่กรีดเข้าที่แก้ม  มีรอยเลือดออกมาเล็กน้อย      ไพ่ใบนั้นจะว่าไปก็คมราวกับมีดเลยทีเดียว          เด็กชายคนนั้นหยุดหัวเราะทันที ซึ่งรวมถึงเด็กชายอีกคนและก็เซตด้วย           
          “ แกทำให้หน้าของเราเป็นรอย  แกจะต้องชดใช้ ”    เด็กชายร่างใหญ่คนที่ถูกวา  ปาไพ่ใส่หน้าวิ่งตรงมาที่วา  ดูแล้วน่ากลัวมาก      ด้วยร่างกายที่ใหญ่บึกบึน พริ้อมกับน้ำหนักตัวที่มาก  คงจะไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้ใครสลบได้ง่ายๆ ด้วยการต่อยเข้าหน้าเพียงหมัดเดียว          หากวาถูกต่อยเข้าไปแล้วละก็คงจะต้องสลบไปอย่างแน่นอน       
            ไพ่ใบที่สองหลุดออกมาจากมือของวาอีกครั้งคราวนี้มันบินตรงไปยังหน้าผากของเด็กชายร่างใหญ่        ไพ่แทบจะปักเข้าไปที่หน้าผากของเด็กคนนั้นที่เดียว      เลือดไหลออกมาราวกับโดนมีดบาดก็ไม่ปาน  แต่มันก็ไม่ทำให้เด็กคนนั้นหยุดความตั้งใจเลยแม้แต่น้อย    แต่กลับเพิ่มความโมโหเข้าไปอีก        คราวนี้เด็กชายร่างใหญ่อีกคนก็วิ่งเข้ามาด้วย              วาเองเนื่องจากยังฝึกการร่อนไพ่ได้ยังไม่ชำนายนักจึงไม่สามารถปาออกไปได้รวดเร็วเหมือนซาซาไร      แต่ก็ยังดีที่ในชั่วโมงชมรมเขาได้ฝึกมาแล้วบ้างเล็กน้อย  จึงยังพอนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างที่เห็น                   
            ไพ่ใบที่สามดูเหมือนจะไม่สามารถปาออกไปได้แล้ว    เนื่องจากเด็กชายร่างใหญ่คนแรกสามารถเข้าถึงตัววาได้แล้ว    เขาจับมือทั้งสองของวาไว้            วาพยายามดิ้นสุดชีวิตเพื่อที่จะได้หลุดออกมาเพราะเขารู้ว่าถ้าดิ้นไม่หลุดแล้วละก็จะเกิดอะไรกับตัวเขาบ้าง          ซึ่งก็เป็นโชคร้ายที่วาไม่สามารถดิ้นหลุดได้ทัน    เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เด็กชายร่างใหญ่อีกคนหนึ่งวิ่งเข้ามาถึงตัววาพอดี        เขาอ้อมไปข้างหลังล็อคแขนทั้งสองข้างของวาไว้          วาพยายามดิ้นอีกครั้งแต่ก็รู้ว่าไร้ผล    เด็กชายร่างใหญ่คนที่ถูกวาปาไพ่ใส่หัวเราะอย่างได้ชัย   
            “ นี่ คือ หมัดที่หนึ่ง ”      เขาต่อยตรงไปยังท้องของวา  ซึ่งวาเองก็จุกอยู่แล้ว  ทำให้ยิ่งเพิ่มความจุกเข้าไปอีก 
            “ นี่ คือ หมัดที่สอง ”        เขาต่อยซ้ำไปที่ท้องของวาอีกครั้ง  ทำให้วาต้องกัดฟันเพราะความเจ็บ  หมัดที่ต่อยเข้าไปมันไม่ใช่เบาๆ เลยจริงๆ       
            “ ที่แท้พวกแกนี่มันก็พวกหมาหมู่นี่เอง  ตัวๆ สู้ไม่ได้ถึงกับต้องรุมเลยเชียวหรือ ”        วา พูดถึงแม้จะมีแรงเหลือไม่มากก็ตามที 
          “ หุบปากของแกเสีย ไอ้ปากดี  แกไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนเรา  และนี่คือหมัดที่สาม  ”      คราวนี้เขาต่อยไปที่ปากของวาอย่างแรง  ทำให้วาเลือดอกมาอย่างมาก      “ เป็นไงละ สมน้ำหน้าปากแกจะได้หายดีเสียบ้าง ”     
         
           
          ในขณะนี้เองดูเหมือนว่า เซตจะหายเจ็บที่ท้องของเขาแล้ว  เขาค่อยๆ เดินตรงมาที่วาด้วยท่าทางพอใจอย่างมากที่เห็นวาดูรุมอัดโดยที่ไม่มีทางสู้       
           
          “ แกเสร็จแน่  คราวนี้คงจะทำให้แกหายปากดีไปอีกนาน ”              เซตพูดพร้อมกับใช้มือบีบไปที่คอของวา          วาพยายามดิ้นแต่ก็ไม่สามารถดิ้นได้อีกแล้ว  เพราะตอนนี้เขาไม่เหลือแรงอีกต่อไปแล้ว   
          “ ถึงแกจะดิ้นไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ”      เซตพูดพร้อมกับใช้มืออีกข้างหนึ่งต่อยเข้าไปที่ท้องของวาอีก      ถึงวาจะไม่มีแรงแต่เขาก็ใช้แรงที่มีเหลืออยู่เล็กน้อยของเขาถุ๋ยน้ำลายเข้าใส่หน้าของเซตเต็มที่          เวตใช้ผ้าพันคอเช็ดน้ำลายที่หน้าออก   
            “ แกบังอาจนัก  !!! ”        คราวนี้เขาเข่าศอกเข้าไปที่ท้องของวา    ซึ่งคราวนี้ทำให้วาหมดทางสู้อีกแล้ว  เพราะเขาถูกทำร้ายเข้าที่ท้องไปหลายครั้งมาก         
            ขณะที่เซตกำลังจะลงมือต่ออีกครั้ง  ประตูห้องก็ถูกเปิดออก    และแน่นอนคนที่ออกมาก็คือ  โซเฟียนั่นเอง  !!!        เสียงประตูห้องที่ถูกเปิดออกมาทำให้เซตหยุดลงมือ  และเมื่อเด็กชายทั้งสองคนนั้นหันไปเจอโซเฟีย  ก็รีบปล่อยแขนที่ล็อควาไว้ทันที           
            โซเฟียเมื่อเห็นวาอยู่ในสภาพนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปหาทันที      เมื่อวาถูกปล่อยเขาก็ทรุดลงทันทีเพราะความเจ็บปวด        โซเฟียค่อยๆ  พยุงวาขึ้นมาพร้อมกับหันไปมองเด็กชายทั้งสามคน     
            “ พวกนายทำอะไรของนายเนี่ย ”       
            “ เราเปล่านะ เราก็แค่ ..”      เซต เป็นคนพูดออกมาคนแรกโดยที่พยายามจะทำหน้าให้ดูเป็นคนดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ 
            “ พวกนั้นทำอะไรนาย  แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่า ”        โซเฟียถามวา พร้อมกับหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋ากางเกง  นำมาเช็ดรอยเลือดที่ปากของวา     
            “ ไม่เป็นอะไรมากหรอก  ขอบคุณนะ ”          วา พยายามพุดให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้        เมื่อเซตเห็นโซเฟียมีท่าทีเป็นห่วงกับวามาก  ก็ทำให้เขาโกรธจัดขึ้นมา  แต่ก็พยายามที่จะทำตัวให้นิ่งที่สุด 
          “ พวกนายเป็นลุกผู้ชายกันหรือเปล่าเนี่ย  ถึงต้องมารุมคนอื่นแบบนี้  หรือว่าเป็นพวกสุนัขกันแน่ ”        โซเฟียพูดด้วยความโมโห 
          “ แต่เพื่อนคุณโซเฟียเขามาว่าผมนะครับ ”        เซตเปลี่ยนท่าทีเป็นคนละคนเมื่อพูดกับโซเฟีย 
          “ หุบปากของนายไปเลยนะ  ทำไมเราจะไม่รู้นิสัยของนาย  ถ้าอยากรุมนักละก็เข้ามาเลยทั้งสามคนเนี่ยแหละ ”       
          “ โธ่ จะให้ผมทำร้ายคุณโซเฟียสุดที่รักได้อย่างไรกันครับ ”          เซต พูดด้วยเสียงหวาน ดูท่าทางน่าหมั่นไส้เป็นอย่างมาก    ถ้าวายังมีแรงเหลือแล้วโซเฟียไม่อยู่ตรงนี้ละก็  เขาอยากจะเข้าไปตะบันหน้าไปหมอนี้สัก 2-3 ครั้งจริงๆ
            “ ใครเป็นที่รักของนาย  คนอย่างนายเราไม่มีวันชอบหรอก  รู้ไว้เสียด้วย ”          โซเฟีย พูดพร้อมกับมองหน้าเซตด้วยความโมโห  ดูๆไปแล้วน่ากลัวมากเลยทีเดียวถ้าต้องเจอสายตาแบบนี้จ้องเข้า
            “ อย่าพูดแบบนั้นสิครับ  ไม่ดีนะครับ  มันเป็นการทำร่ายจิตใจน้อยๆ ของผมนะครับ ”          ไม่รู้ว่าเซตพูดออกมาได้อย่างไร  คำพูดของเขาฟังดุแล้วช่างน่าคลื่นไส้นัก 
            “ นายนี่มันน่าคลื่นไส้จริงๆเลย  แล้วอีกอย่างนะ  พวกนายจำไว้เลยนะ  ถ้าขืนยังมายุ่งกับเพื่อนของเราอีกพวกนายเจ็บตัวแน่ ”       
            “ นี่คุณโซเฟียปกป้องมันหรอครับ  ทำไมต้องปกป้องมันด้วย  มันมีอะไรที่ดีกว่าผม ”  เซต พูดพร้อมชี้หน้าวาอย่างดูถูก 
            “ อย่างน้อยเขาก็ไม่ใส่เสื้อบ้าๆ มาโรงเรียนแล้วเที่ยวมานั่งตามตื้อผู้หญิงอย่างนายหรอก ”          โซเฟียพูดพร้อมกับเก็บผ้าเช็ดหน้าที่เปื้อนรอยคราบเลือดของวาเข้าไปในกระเป่ากางเกง    จากนั้นก็พูดต่อ    “ แล้วพวกนายคอยดูนะ  เราจะเอาเรื่องที่พวกนายรุมทำร้ายเพื่อนเราไปบอกรุ่นพี่ซาโต้แล้ว    พวกนายจะต้องถูกลงโทษอย่างสาสม ”
            “  กลัวจังเลยครับ ”      เซตพุดด้วยท่าทีกวนโอ๊ย  จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าโมโห    “ ก็ได้ในเมื่อคุณโซเฟีย ปกป้องมันดีนัก  สักวันคุณจะต้องเสียใจที่ทำกับผมแบบนี้ ”          พูดจบเซตก็หันหน้าไปที่เด็กชายร่างใหญ่วึ่งยืนนิ่งอยู่นานแล้วพร้อมกับโบกมือเรียก      “ พวกเราไปกันได้แล้ว ”        แต่ก่อนที่เซตจะไปนั้นเขาก็หันกลับมาหาโซเฟียอีกครั้งพร้อมกับยิ้มให้          “ ผมไปก่อนนะครับ ที่รักของผม ”
 
              หลังจากที่ทั้งสามคนนั้นเดินไปแล้ว  โซเฟียก็ค่อยๆพาวาเข้ามาในห้องเรียน  ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครอยู่แล้ว  วากับโซเฟียค่อยๆ นั่งลงที่โต๊ะของพวกเขาเอง 
              “ ดูท่าทางนายจะโดนเอามากนะ  ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวเราพาไปที่ห้องพยาบาลเอาไหม  ”
              “ เราไม่ได้เป็นอะไรมากจริงๆ นะ  แต่ก็ขอบคุณมากๆนะ  ที่ช่วยเราไว้ ”
              “ ถ้าเราออกมาเร็วกว่านี้คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอก  เรานี่แย่จริงๆ เป็นถึงกรรมการนักเรียนแต่ก็ช่วยเพื่อนตัวเองไว้ไม่ได้  ”
              “ อย่าพูดแบบนั้นสิ  มันไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก ”      วา พูดพร้อมกับเอนตัวไปยังพนักพิง  พร้อมกับมือที่ยังคงกุมท้องอยู่   
            “ เราเกลียดไอ้หมอนั่นมากเลย    นิสัยแย่มาก  สักวันหนึ่งเถอะ    ถ้าเราทนไม่ไหวหมอนั่นเจ็บตัวแน่  อ่อ .”            โซเฟีย นึกอะไรขึ้นได้จึงหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากเป้ของตัวเอง      “ นี่ กล่องดินสอนาย  เรากะว่าจะคืนให้ตอนเจอกันอีกที  นึกว่านายจะไม่กลับมาเอาเสียแล้ว ”            วา รับกล่องดินสอสีดำจากโซเฟียมาวางไว้ที่โต๊ะก่อนดูเหมือนว่า  เขาจะยังไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นนอกจากนั่งพัก     
              “ เออ นี่ เมื่อกี้ไพ่ของนายหรือเปล่าที่ตกอยู่ที่พื้น 2 ใบน่ะ ”
              “ ใช่แล้ว  เราใช้ปาใส่พวกนั้นแต่เสียดายที่เรายังไม่เก่งพอ ”
              “ งั้นเดี๋ยวเราไปเก็บให้ก่อนนะ ”
              “ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเราไปเก็บเองก็ได้  ”                แต่ก็ไม่ทันที่วาจะพูดจบโซเฟียก็วิ่งออกไปหยิบเสียแล้ว   
                หลังจากที่โซเฟียออกไปเก็บไพ่ให้วาแล้ว  เธอก็เดินกลับเข้ามานั่งข้างๆ วาเหมือนเดิม   
                “ ไพ่พวกนี้ไม่เหมือนพวกไพ่ทั่วๆ ไปเลยนะ  ”
                “ ถูกต้องแล้วละ  ไพ่พวกนี้เป็นไพ่ชนิดพิเศษมันสามารถนำไปใช้เล่นกลได้ง่ายกว่าไพ่ธรรมดาทั่วๆไป  แถมยังสามารถใช้ในการป้องกันตัวได้อีกด้วยละ ”                  โซเฟียค่อยๆ ยื่นไพ่ทั้งสองใบนั้นให้วา  ซึ่งหน้าของไพ่ทั้งสองใบนั้นปรากฎเป็นไพ่คิงกับไพ่ควีน  แต่วาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย    เขานำไปไพ่ทั้งสองใบนั้นใส่สำรับตามเดิม           
              “ นี่นายกินข้าวเที่ยงไหวไหมเนี่ย ”
              “ อะไรกัน  เราไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย  แค่นี้สบายมาก ”            ยังไม่ทันขาดคำเลือดก็ไหลออกมาจากมุมปากของวาอีกครั้ง       
              “ ดูสิ ยังไม่ทันไรเลย เลือดออกมาอีกแล้ว  แล้วยังบอกว่าไม่เป็นไรอีก ”        โซเฟีย พูดพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดปากให้วาอีกที     
              “ เออ . ขอบคุณอีกครั้งนะ ”          วา พูดด้วยอาการเขินเล็กน้อย
            “ ไม่เป็นไรหรอก ”        จากนั้นโซเฟียก็พูดต่อ    “ แต่ไม่ต้องห่วงนะ  ถ้าวันหลังไอ้พวกนั้นมันมารบกวนนายอีกละก็  เราจะจัดการมันจริงๆด้วย  เดี๋ยวเราจะเอาเรื่องนี้ไปบอกรุ่นพี่ซาโต้เองนะ  คอยดูเถอะพวกนี้จะต้องถูกลงโทษแน่นอน ”               
            “ เราว่าเซตนี่แย่กว่าก็อบอีกนะ ”
            “ นายนี่แปลกจริงนะ  นำเอาคนสองคนนี้มาเปรียบกันได้  แต่มันก็จริงของนายแหละ  นายเซตนี่ไม่ได้แค่ชอบหาเรื่องคนอื่นอย่างเดียว  ยังชอบมายุ่งกับเราอีกด้วย  ”
              “ ถ้าเมื่อกี้ ไอ้สองคนนั้นมันไม่มานะ  เราก็คงไม่เป็นอย่างนี้หรอก ”
            “ นายจะบอกว่า นายสู้กับหมอนั่นได้งั้นหรอ ”
            “ ใช่แล้ว เราศอกเข้าไปที่ท้องของเขาเต็มๆ เลย  ที่จริงเราควรจะเป็นฝ่ายชนะนะ ”
            “ เรื่องใครแพ้ใครชนะช่างมันเถอะ  แต่นายก็เก่งนะที่สู้กับหมอนั่นได้ ”
            “ มันแปลกตรงไหนหรอ ”
            “ ก็เห็นเขาว่ากันว่า ที่บ้านหมอนั่นมีอาจารย์สอนวิชาต่อสู้ด้วยนิ  ถ้าเป้นอย่างนั้นแสดงว่าหมอนั่นไร้น้ำยา  สู้นายที่ไม่ได้เรียนมาก็ไม่ได้ยังไงละ ”
            “ เราก็ไม่รุ้เหมือนกัน ช่างมันเหอะเรื่องนี้ ”
            “ ถ้านายไหวแล้วก็บอกเรานะ  จะได้ไปกินข้าวเที่ยงกัน    แต่ไม่ต้องรีบนะ    ให้สบายก่อนแล้วค่อยไปก็ได้เรารอได้ ”                        วา เองก็เพิ่งรู้ว่าโซเฟียเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งจริงๆ          เขารู้สึกดีใจที่เจอคนดีๆแบบนี้  คนที่คอยห่วงใยเขา    แต่วาเองก็เกรงใจไม่อยากให้โซเฟียรอนานจึงค่อยๆ พยายามลุกขึ้น     
            “ เราหายเจ็บท้องแล้วละ  รีบไปกินข้าวกันเถอะ  “
            “ แน่ใจนะคุณเด๋อ  ไม่ใช่กินๆอยู่แล้วกiระอักเลือดกลางคันละ แหะๆ  ”            ทั้งสองคนหัวเราะให้กัน และกัน        เป็นครั้งแรกที่วารู้สึกชอบโซเฟียขึ้นมาบ้างแล้ว  นับตั้งแต่วันที่ได้เจอครั้งแรก    ตอนนี้วาลืมเรื่องความฝันของเขาไปจนหมดแล้ว  คงเป็นเพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อสักครุ่ทำให้เขาไม่มีเวลาไปคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นกระมัง
       
              ขณะที่เซตกับเด็กชายร่างใหญ่ทั้งสองคนกำลังเดินออกไปนอกตึกอาคารเรียน    ก็หารู้ไม่ว่ามีสายตาของชายคนหนึ่งกำลังจ้องติดตามพวกเขาอยู่        ชายคนนั้นยิ้มสะเหยะพร้อมกับมองไปยังพวกของเซตจากระยะไกล      คนๆนี้ไม่ใช่หากแต่เป็นไซโคร แนช นั่นเอง                 
            “ ไม่น่าเชื่อว่ายังมีพวก ลูกแกะที่หลงทางเหลืออยู่อีก  เห็นทีจะต้องชี้นำทางให้พวกมันเสียแล้ว ”       
            ไซแคร แนช พูดกับตัวเองพร้อมกับเดินตามพวกของเซตไป      เหตุการณ์ที่เซตกับวาต่อยกันนั้นเขาเห็นมันโดยตลอดหากแต่ไม่มีใครสังเกตเห็นขาท่านั้น      เขาเป็นคนที่เกลียดการทะเลาะวิวาทที่สุด  โดยเฉพาะคนที่นิสัยชอบหาเรื่องแบบเซต        คงเป็นเพราะเหตุการณ์นั้นที่ทำให้เขาต้องเกลียดพวกคนแบบนี้ไปจนวันตาย      เขาเกลียดความอ่อนแอของตัวเอง      และสาบานว่าจะอุทิศตนเพื่อต่อสู้กับความเลวร้ายของโลกใบนี้      แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้เขาลืมเรื่องราวในอดีตนั้นได้เลย              ไซแคร แนช หยุดกำไม้กางเขนของเขาเหมือนกับว่าคิดอะไรเก่าๆ ขึ้นมาได้อีกครั้งก่อนที่จะเดินตามพวกของเซตต่อไป
           
              นีโอ เสือใบ้นิค มิว และเบต้ากำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ทีโรงอาหาร      ซึ่งดูเหมือนว่า มิวจะสงสัยที่ว่า  ทำไมวาไปหยิบกล่องดินสอนานจัง  แต่เขาก็คิดว่าคงเป็นเพราะอาจจะรอโซเฟียอยู่ก็ได้จึงไม่เอ่ยปากถามความเห็นใคร
                  “ การแข่งประกวดวงปีนี้นายว่าเป็นยังไงบ้าง ”              เบต้าเป็นคนเอ่ยปากถาม  หลังจากที่เขาจัดการกับเจ้าก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ตรงหน้าของเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว     
                  “ เราก็ไม่รู้สินะ  เดี๋ยวตอนซ้อมวงเย็นนี้ก็รู้เองแหละ  ถ้าวงเราเล่นเข้ากันได้ดีก็คงจะไม่เป็นไร  เข้ารอบสบายๆอยุ่แล้ว ”
                “ ทำไมวามาข้าจังนะ ”            เบต้า เป็นคนถามซึ่งมิวก็อยากรู้เหมือนกัน
                “ ไม่รู้เหมือนกันนะ  เฮ้อ พอคิดถึงเรื่องวงขึ้นมาทีไร  เรารู้สึกหมั่นไส้ไอ้หมอนั่นไม่หายเลย ”
                “ ใครหรอ ”
                “ ไอ้ผู้นำแฟชั่นเซตยังไงละ  มันเป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้  อยู่ดีๆก็ออกจากวงเรา    วงเราเลยแตกกันเลย      ที่จริงเราก็ไม่ค่อยชอบหมอนั่นอยู่แล้วละ  ถึงแต่ก่อนจะอยู่วงเดียวกันก็ตามที ”
                “ อืมนะ  เราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรของเขาหรอก  แต่เราก็ไม่ค่อยชอบท่าทางเขาเลยอะ ”
                “ มันคิดว่ามันร้องเพลงเก่งมากกระมัง  ถึงออกจากวงเราไปตั้งวงใหม่เอง    อยากจะรู้เหมือนกันว่าวงใหม่ของมันจะดีขนาดไหนเชียว ”
                “ แต่มันก็น่าเสียดายนะ  ที่วงแชมป์หลายสมัยอย่างนายต้องมาแยกกัน  แต่ละคนฝีมือไม่ธรรมดาทั้งนั้นเลยนะวงนายน่ะ ”
                “ ก็ดีเหมือนกันจะได้รู้ไปว่า ใครมันแน่กว่าใครกันแน่ ”
                “ แล้วคนอื่นๆ ที่อยู่วงเก่านายละ  ทำไมนายไม่ชวนพวกนั้นมารวมกันแล้วปล่อยให้เซตออกไปแค่คนเดียวละ ”
                “ ก็เพราะว่าไอ้หมอนั่นมันไม่ได้แยกออกไปแค่คนเดียวน่ะสิ  มันไปกับมือคีย์บอร์ดแล้วก็มือเบสวงเราด้วยละ  เลยเหลือแค่เรากับพิชากิ          ส่วนพิชากิเองนั้นก็มีวงใหม่ของเขาแล้วเสียด้วย ”
                “ อืมนะ  ไม่เป็นไร  อย่างน้อยนายก็ยังมีเบต้าคนนี้อยู่ ”       
                “ ใช่แล้วอย่างน้อยเราก็ยังมีพวกนายอยู่ จริงไหมนิค ”            มิว พูดแหย่นิคพร้อมกับหัวเราะ      แต่ทันใดนั้นเองเขาก็หยุดหัวเราะลง  เพราะว่าคนที่เขาเห็นอยู่นั้นก็คือ  เซต นั่นเอง
                “ พูดถึงก็เจอพอดี  ดูที่ปากไอ้หมอนั่นสิ  มีรอยเลือดด้วยละ  สงสัยคงเจอใครหมั่นไส้เลยต่อยเข้าให้สะใจจริงๆ      อยากรู้จริงๆ ใครกล้าไปตะบันหน้าไอ้หมอนั่นมานะ ”          มิว พูดกับเบต้าด้วยท่าทางสะใจอย่างมาก
               
                เซตเดินผ่านพวกมิวที่กำลังนั่งกินข้าวกันอยู่โดยที่ทำเป็นมองไม่เห็นมิวที่กำลังหัวเราะอย่างสะใจอยู่      เซตเดินไปเรื่อยๆ  จนในที่สุดเขาก็นั่งลงที่โต๊ะว่างโต๊ะหนึ่งพร้อมกับเด็กชายทั้งสองคน       
              “ ไอ้เด็กใหม่ที่ชื่อ วา นั่นมันแสบจริงๆ เลยนะครับคุณเซต ”        เด็กชายร่างใหญ่คนหนึ่งพยายามพูดเอาใจเซต  แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล          เซตกลับมองไปที่เด็กชายคนนั้นด้วยท่าทางโมโหสุดขีด
              “ แกหุบปากไปเลยนะ !!  อย่าเอ่ยชื่อของไอ้นั่นให้เราได้ยินดีอีก ”
              “ ขอ ขอ โทษครับคุณเซต ”                  เป็นที่น่าแปลกที่เด็กชายร่างใหญ่กลับยอมเด็กชายที่ตัวเล้กกว่าอย่างเซตโดยง่ายดาย  ถ้าใครมาเห็นเขาคงจะต้องนึกขันอยู่เป็นแน่    ถ้าหากไม่รู้ว่าเด้กชายร่างใหญ่ทั้งสองคนนั้นเป็นคล้ายๆกับลูกสมุนของเซต          ที่เป็นลูกสมุนของเซตไม่ได้มีเพียงแค่เจ้าสองคนนี้เท่านั้นหากแต่ยังมีอีกหลายคน  ที่พวกนั้นยอมเซตก็เป็นเพราะพวกมันหวังผลประโยชน์โดยเห็นว่าเซตเป็นลูกเศรษฐีจึงยอมคบหาด้วย
              ขณะที่เซตกับเด็กชายทั้งสองคนกำลังนั่งกันอยู่อย่างเงียบๆ นั้นเอง      ก็มีเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งเดินตรงมาที่โต๊ะของพวกเซต 
                  “ หาตั้งนาน  นึกว่าอยู่ไหนที่แท้ก้อยู่ตรงนี้เอง ”        เด็กผู้หญิงคนนั้นพูดพร้อมกับนั่งลง      ดุเหมือนเธอจะสังเกตว่าเซตอารมณ์ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นักอต่ก็พูดต่อตามนิสัยของเธอ            “ แหม ดูอารมณ์ไม่ค่อยดีเลยนะ    ยังกับไปทะเลาะกับใครมาแน่ะ ”        เซตไม่ตอบ  แม้แต่มองหน้าของเธอยังไม่มองเลย  และดูเหมือนว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเพิ่งจะสังเกตเห็นรอยเลือดที่มุมปากของเซต      ทำให้เธอถึงกับอุทานออกมาเลยทีเดียว                  “ ว๊าย !! ตายแล้ว นายไปโดนอะไรมา  ใครทำกับนายแบบนี้เนี่ย  เจ็บมากไหมค่ะ ”      ดูเหมือนว่าเซตจะรำคาญกับท่าทางของเด็กผู้หญิงคนนี้เต็มที  เขาจึงพูดออกมาด้วยความโมโห
                    “ นี่ เธอเป็นอะไร  เป็นแม่เราหรือไง  ถึงชอบมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของเราจังเนี่ย    เราจะเป็นอะไรก็เรื่องของเราสิ  ”          เด็กผู้หญิงคนนั้นถึงกับหน้าเสีย  แต่ก็พยายามไม่แสดงสีหน้าออกมา    กลับยิ้มแล้วพูดดีๆกับเซต
                    “ เอมี่แค่เป็นห่วงเซตก็เท่านั้นเองนิ ”      ที่แท้เด็กผู้หญิงคนนี้ก็ชื่อเอมี่  “ ว่าแต่ตกลงเซตไปโดนอะไรมาหรอค่ะ ”       
                    “ ก็แค่ไปมีเรื่องนิดหน่อย ”              เซตตอบกลับแบบไม่ค่อยเต็มใจตอบนัก
                  “ ใครกันมันถึงกล้ามาทำเซตอย่างนี้ ”
                  “ มันชื่อ วา เป็นนักเรียนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาครับ คุณเอมี่ ”          เด็กชายร่างใหญ่คนหนึ่งเป็นผู้ตอบแทน       
                  “ อ๋อ เอมี่พอจะรู้แล้วละ  แต่ไม่น่าเชื่อเลยนะค่ะ    เพิ่งเข้ามาใหม่ก็กล้ามีเรื่องไปทั่วเสียแล้ว  แถมยังกล้ามาทำกับเซตแบบนี้อีก  เอมี่ไม่ยอมแน่คอยดูสิ ”
                  “ เธอจะไปทำอะไรมันได้ ”
                  “ คอยดูเอาก็แล้วกันค่ะ ”
                  “ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณโซเฟียเขามาช่วยเจ้านั่นไว้ก่อนนะ  เราก็จัดการมันได้แล้วเชียว ”            เมื่อสิ้นคำพูดของเซตที่เอ่ยถึงโซเฟียเรียบร้อย  สีหน้าของเอมี่ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่ง         
                  “ โซเฟีย ยัยโซเฟียตัวดีอีกแล้วหรอเนี่ย    ทำไมคุณเซตถึงต้องไปยอมมันด้วยละค่ะ  “    เอมี่ดูเหมือนว่าจะหลุดปากพุดออกไปโดยลืมตัว      เอเองแอบชอบเซตอยู่โดยที่เซตเองกลับไม่เคยจะชอบตัวเธอเลย  ชอบแต่โซเฟียทำให้เอมี่เกลียดชิงชังโซเฟียเอาอย่างมาก 
                  “ นี่เธอกล้าดียังไง  มาว่าคุณโซเฟียที่รักของเราเนี่ย  เงียบไปเลยนะ ! ”
                    “ เอมี่ของโทษค่ะ ”
                    “ อืม ช่างมันเหอะ  ไอ้คนที่ผิดคือ ไอ้เด็กใหม่ตัวดีนั่น    สักวันหนึ่งเถอะเราจะจัดการกับมัน  เรื่องมันไม่จบง่ายๆ แน่ ”
                  “ ใช่ค่ะ เอมี่จะช่วยเซตอีกแรงนะ ”                 
                  ดูเหมือนว่าเซตจะไม่ได้พูดแม้คำว่าขอบคุณให้กับเอมี่เลยแม้แต่น้อย      หลังจากนั้นเขาก็สั่งให้เด็กชายทั้งสองคนไปซื้ออาหารมาให้เขาและเอมี่   
             
                  เป็นเวลาเดียวกันกับที่วากับโซเฟียเดินมาถึงโรงอาหารพอดี        มิวเป็นคนแรกอีกเช่นเคยที่เห็นคนทั้งสองจึงโบกมือเรียกมาแต่ไกล      และเมื่อทั้งสองคนเดินมาจนถึงโต๊ะของพวกมิวแล้ว            ทั้งหมดก็ต้องตกใจ  เนื่องจากหน้าของวาที่มีเลือดออกเหมือนกัน
                    “ วา นี่นายไปโดนอะไรมาทำไมเลือดถึงออกแบบนี้ละ ”      มิว เป็นคนถามคนแรกพร้อมกับลุกขึ้นไปหาวา     
                  “ เปล่าหรอก เดี๋ยวนั่งก่อนก็ได้แล้ว จะเล่าให้ ”
                  “ นายโดนโซเฟียตบมาหรอ ”        เบต้าเป็นคนถาม ซึ่งดูเหมือนว่าคำถามจะไม่ได้สร้างสรรค์เอาเสียเลย  สมแล้วกับคนที่ดูคล้ายหุ่นยนต์อย่างเขา
                  “ นายจะบ้าหรอไงเบต้า  โซเฟียจะไปตบวาทำไมละ ก็เดินมาด้วยกันอยู่เนี่ย ”      มิว บอกอย่างหัวเสีย    ส่วนโซเฟียนั้นหัวเราะโดยที่ไม่ได้พูดอะไร                  และดูเหมือนว่าตอนนั้นเองมิวดุเหมือนว่าจะนึกอะไรออกมาได้        เซตก็มีรอยเลือดก็มุมปากอยู่เหมือนกันหรือว่า
                  “ นี่นายอย่านะว่านายไปมีเรื่องกับไอ้เจ้าเซตน่ะ ! ”  มิว ถามด้วยท่าทางตื่นต้น  ส่วนวานั้นไม่ได้ตื่นเต้นอะไรไปกับมิวด้วย     
                “ อืม ก็ทำนองนั้นแหละ”
                “ โอ้ว พระเจ้า นายเป็นอะไรมากหรือเปล่าเนี่ย ”        มิว ดูจะเป็นห่วงวาอย่างมากเลยทีเดียว  ซึ่งผิดกับนีโอและเสือใบ้นิคซึ่งยังนั่งอยู่เฉยๆ เหมือนกับว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น
               
                วาค่อยๆ นั่งลงพร้อมกับโซเฟีย  ซึ่งมิวก็เดินไปนั่งตามด้วยเช่นกัน 
             
                “ เราไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก ”
                “ แต่ดูท่าจะไม่ใช่อย่างที่พูดน่ะสิ  นายดูท่าจะเจ็บมากเลยนะ ”      มิว พูดอย่างห่วงใย      “ หน๋อยแน่ะ  มันอยู่ไหนนะ  เราจะไปตะบันหน้ามัน ”        มิว พูดพร้อมกับลุกขึ้น  โดยที่เบต้าเป็นคนรั้งเอาไว้
              “ ใจเย็นก่อนน่า  เราว่านายไปอาจจะแย่กว่าคุณเด๋อก็ได้นะ  เราขี้เกียจไปช่วยนะ”        โซเฟียพูดทำให้มิวใจเย็นลง  และค่อยๆ นั่งลง
                  หลังจากนั้นวาและโซเฟียก็เล่าเหตุการณ์ให้ทั้งหมดฟัง  เมื่อเล่าจบดูเหมือนว่ามิวจะเกิดอารมณ์ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง           
                  “ ใจเย็นหน่อยสิ  นายไปต่อยกับเขาตอนนี้  ถึงนายจะเป็นฝ่ายชนะแต่นายก็เป็นคนผิดนะ ”        โซเฟียพูดห้ามมิวอีกครั้ง
                “ แต่มัน ”        ก่อนที่มิวจะพูดอะไรอีก  วาก็เป็นคนพูดห้ามเอง   
                  “ ไม่เป็นไรหรอกน่า  คนอย่างนั้นช่างมันเหอะ  อีอย่างเราก็ไม่ได้ยอมเขาสักหน่อย ”
                  “ อืมนะ ”           
                  “ งั้นเราขอตัวไปซื้ออาหารทานก่อนนะ  รู้สึกว่าจะหิวเข้าแล้วสิเนี่ย ”              พูดจบวาและโซเฟียก้ลุกไปด้วยกัน  ปล่อยให้มิวนั่งอารมณ์เสียอยู่กับโต๊ะ  ซึ่งเบต้าก็เป็นคนนั่งพูดกับมิวห้มิวหายอารมณ์เสีย  ถึงเขาจะเหมือนหุ่นยนต์ก็ตามที             
                    วาและโซเฟียต่างเดินแยกกันไปซื้ออาหารของตนเอง        ซึ่งโซเฟียก็เดินเลือกอาหารไปเรื่อยๆ  โดยที่ไม่รู้ว่ามีสายตา  สายตาหนึ่งจับจ้องที่เธออยู่          สายตานั้นไม่ใช่ใครหากแต่เป็นเอมี่นี่เอง      เอมี่จ้องมองไปที่โซเฟียด้วยความชิงชัง    ส่วนเซตนั้นไม่ทันได้สังเกตเห็นเพราะมัวแต่นั่งหันหน้ามองไปที่อื่นอยู่ 
                  “ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน โซเฟีย !!”    เอมี่พูดกับตัวเอง  สักพักก็ละสายตาจากโซเฟียไปเนื่องจากเซตหันมาคุยด้วย        แล้วท่าทางของเอมี่ก็เปลี่ยนไปเป็นใส่ซื่อเหมือนเดิม
                   
                                      _____________________________________________
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น