คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #85 : บทเรียนที่ 79 กับดัก
บทเรียนที่ 79 กับดัก
การตะโกนแหกปากของมิวไม่เพียงทำให้พวกวาผวาเท่านั้น แต่ยังทำให้นักเรียนกลุ่มอื่นที่อยู่ในโรงอาหารหันมาให้ความสนใจด้วย ประกอบกับเสียงระฆังของนาฬิกาโบราณที่บอกเวลาดังขึ้นสร้างบรรยากาศชวนขนหัวลุกขึ้นมาทันที
“ พี่โซหนูกลัว ” ซิลเวียร์รีบกระโดดเข้าไปคลองแขนโซเฟียทั้งๆที่ยังกินไม่เสร็จดี
“ ไม่เอาน่าหนูน้อยไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก เดี๋ยวพี่ดูแลเอง ” วีวี่ยิ้มเย้ยมิว โดยจงใจล้อเลียนมิวเทียบกับซิลเวียร์
“ หึ เราแค่เป็นห่วงว่าเธอจะกลัวขนต้องเข้าห้องพยาบาลเสียก่อนก็เท่านั้นแหละ ”
“ แหมๆ ไม่ต้องเป็นห่วงกันถึงขนาดนั้นก็ได้นะ โฮะๆ ” วีวี่ป้องปากหัวเราะ
“ ดูน่าสนุกดีออก ” วายิ้ม รู้สึกสงสัยว่าการจัดงานของนักเรียนจะทำให้เขากลัวได้ถึงขนาดไหนกัน
“ เอาเถอะ ใครจะยังไงก็ช่าง วันนี้เราจะขอนอนที่โรงอาหารนี่จนกว่าท้องฟ้าจะสว่าง ”
“ แหะๆ คงจะทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกนะ ” โซเฟียถอนหายใจ
ขณะที่มิวกำลังจะท่ามว่าทำไม แสงไฟในห้องอาหารก็ดับลงกะทันหัน เสียงกรีดแรกดังขึ้นจากวีวี่ เธอคว้าจับสิ่งที่อยู่ใกล้ที่สุดเป็นหลักประกันชีวิต ซึ่งก็คือมิวที่ตกใจเพราะเสียงร้องของเธอเช่นกัน
“ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
เสียงหัวเราะชวนสยองดังก้องขึ้นห้องอาหาร
“ ยินดีต้อนรับเหล่าผู้กล้าที่จะมาท้าทายความตายกับข้าในค่ำคืนนี้ ต้องขอแสดงความชื่นชมในความกล้าที่พวกเจ้ายังยืนหยัดที่จะท้าทายกับข้า แต่ก็ต้องขอแสดงความเสียใจเช่นกัน ที่พวกเจ้าคงจะไม่มีชีวิตรอดได้เห็นรุ่งอรุณในวันพรุ่งนี้อีกแล้ว ”
“ โอ้โห เขาทำดีนะ ” วากล่าวแบบชมหน้าตาเฉย แม้จะอยู่ท่ามกลางความมืดแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย แต่ถึงกระนั้นการอยู่ใต้ความมืดนานๆแบบนี้ต่อไปคงจะไม่ดีแน่
“ การที่พวกเจ้าจะรอดชีวิตในคืนนี้ได้มีเพียงหนทางเดียวเท่านั้น คือ ผ่านด่านทดสอบทั้งสี่เพื่อรวบรวมของศักดิ์สิทธิ์เพื่อปราบข้าให้ได้ พวกเจ้ามีเวลาถึงเที่ยงคืนหรือเมื่อระฆังตีสี่ครั้งเท่านั้น ขอให้พวกเจ้าโชคดี ”
เสียงชวนขนหัวลุกกล่าว
“ Let’s the hunt begin !!! ”
ทันใดนั้นโคมไฟด้านบนก็ถูกจุดขึ้น แสงสว่างจากเปลวเทียนช่วยส่องให้วามองเห็นอะไรชัดขึ้น
มิวกับวีวี่แยกตัวออกจากกันทันทีที่เห็นอีกฝ่าย
“ ทำบ้าอะไรของเธอ แค่นี้ก็กลัวซะและ เมื่อกี้นี้ยังพูดดีอยู่เลย ”
“ เปล่าซะหน่อย เมื่อกี้หนูมันวิ่งมาชนขาหรอกย่ะ ” วีวี่โต้กลับ ทั้งๆที่ไม่เคยมีใครเห็นหนูในโรงอาหารมาก่อน
“ เย้ !! ” เสียงตะโกนแสดงความดีใจของนักเรียนชายล้วนอีกกลุ่มดังขึ้น
“ เอาละพวกเราไปล่าพวกปีศาจกันเถอะ คืนนี้เราจะเอารางวัลผู้กล้าให้ได้ ” หัวหน้ากลุ่มร่างอ้วนชูมือให้กำลังใจเพื่อนๆราวๆห้าคน ก่อนจะทยอยกันวิ่งออกประตูห้องอาหาร ซึ่งมิวไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเจ้าพวกนี้สนุกกันได้อย่างไร
“ พวกเราเอาไงกันดีละ ”วาหันไปถามโซเฟียซึ่งถูกซิลเวียร์เกาะติดหนึบอยู่
“ ก็คงต้องไปลุยกับเขาบ้างแหละนะ แหะๆ ”
แต่ยังไม่ทันขาดคำเสียงร้องโอดครวญอย่างเสียสติก็ดังขึ้น จากประตูห้องอาหารทำเอามิวสะดุ้งอีกครั้ง
“ เจ้าพวกมือใหม่ ไม่หัดศึกษากติกากันลย ”
เสียงจากนักเรียนหญิงคนหนึ่งพูดขึ้น ซึ่งเมื่อวาหันไปก็พบว่าร่างนั้นอยู่ในเสื้อคลุมสีน้ำตาลอ่อน ใบหน้าของเธอถูกปกปิดไว้ด้วยฮู้ดสวมศีรษะ ก่อนจะลุกขึ้นกระชับปืนเลเซอร์ในมือขึ้นตรวจเช็คความพร้อม ที่ข้อมือของเธอใส่ไว้ด้วยกำไรข้อมือสีเทามีจอแสดงอักษรสีแดงอยู่แต่ไม่สารถอ่านได้ว่ามันคืออะไร
บัดนี้เหล่านักเรียนที่เหลืออยู่ในห้องโถงมีแค่กลุ่มของพวกวาซึ่งได้แก่ มิว นีโอ โซเฟีย เสือใบ้นิค และซิลเวียร์หากจะนับรวมไปด้วย กับกลุ่มของนักเรียนหญิงปริศนาและพวกอีกสี่คน ที่ใส่ชุดแบบเดียวกัน
‘ ตึง ตึง ตึง ’
เสียงฝีเท้าของอะไรบางอย่างกำลังดังเข้ามายังห้องอาหาร วาเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ชอบมาพากกลขึ้นมา เขาควรจะทำอย่างไรดี
“ ของที่ฝากไว้คงไม่ลืมหรอกนะนีโอ ” โซเฟียกล่าว
“ ไม่ลืมหรอกน่า ” นีโอขยิบตาผ่านกรอบแว่น แล้วหยิบอุปกรณ์หลายชิ้นออกมาจากเป้ที่พกมา
กำไรข้อมือแบบเดียวกันกับหญิงสาวปริศนาวางลงหน้าพวกวา พร้อมกับปืนเลเซอร์อีกห้าหกกระบอกกับสายรัดเอวและซองเก็บปืน
นีโอรีบแจกจ่ายของเหล่านั้นให้กับทุกคน
“ นี่พวกเราจะต้องเล่นเกมนี้จริงๆหรอ ” มิวถาม
“ รีบๆใส่กำไรข้อมือเข้าเถอะน่าไม่มีเวลาแล้วนะ ” โซเฟียสั่ง แล้วยื่นอันที่เหลือวาก่อนที่เขาจะทันได้ตั้งคำถาม
วาสวมกำไรข้อมืออย่างว่าง่ายพร้อมหยิบปืนเลเซอร์ขึ้นมาดู เมื่อรัดกำไรข้อมือเข้าจอแสดงก็ส่องแสงขึ้นเป็นรูปหัวใจ
“ เธอก็สวมมันด้วยละกันนะซิลเวียร์ ” โซเฟียบอก “ เรื่องรายละเอียดเดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังคร่าวๆหลังจากนี้ก็แล้วกัน โชคดีที่เอามาเผื่อเบต้าด้วยเลยเหลือพอให้เราเล่นด้วย ”
“ ขอบคุณคะ หนูจะปกป้องพี่โซเอง ” ซิลเวียร์ก็เป็นหนึ่งในคนที่ดูสนุกอยู่
“ มันกำลังมาแล้วละ ” นีโอกล่าวกระชับปืนเลเซอร์เล็งไปยังประตู ซึ่งวาสังเกตว่าหญิงสาวทั้งคนนั้นก็ทำเช่นกัน จึงทำตาม
เงาของสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์พร้อมกระบองยักษ์เผยขึ้นหน้าประตูทางเข้าห้องอาหาร ก่อนที่ร่างยักษ์ของปีศาจโทรลขนาดเท่ากับคนจะปรากฏขึ้นหน้าห้องโถงแล้วคำรามด้วยเสียงประหลาด
บนหน้าอกของมันมีโซ่ตรวนห้อยอยู่ ตรงกลางมีวงกลมๆสีแดงรูปหัวใจอยู่ ซึ่งวาเดาว่าน่าจะเป็นจุดที่สามารถยิงใส่ได้
“ เล็งไว้ก่อน รอให้เข้ามาในระยะยิงแล้วค่อยยิง ประหยัดกระสุนกันด้วยละ ” โซเฟียออกคำสั่ง
ปีศาจโทรลที่ไม่ว่าจะดูยังไงก็ดูไม่ออกว่าเป็นคนใส่ชุดอยู่ในนั้นเดินเข้ามาในประตูอย่างเชื่องช้า มันกวาดตามองไปยังเหล่าผู้รอดชีวิตที่อยู่ภายในห้องราวกับกำลังคิดว่าจะจัดการกับใครก่อนดี
มิวขนลุกไปทั้งตัวพยายามยืนอยู่ด้านหลังพวกวา ซึ่งวีวี่ก็หลบอยู่ด้านหลังมิวอีกที
หญิงสาวปริศนาทั้งสี่ต่างประทับปืนรออย่างรู้งานเช่นกัน แต่ยังคงไม่ลั่นปืนออกไปจนกระทั่งการโจมตีมาถึง เจ้าโทรลวิ่งเข้าหาพวกเธอเป็นกลุ่มแรก
“ ยิง ” หญิงสาวหัวหน้ากลุ่มสั่ง จากนั้นเสียงปืนเลเซอร์ดังสวนกับเจ้าโทรลที่เจ้าเข้ามาหาพวกเธออย่างบ้าคลั่ง
“ พร้อมนะถ้ามันเข้ามาให้ยิงไปที่เป้าตรงโซ่นั่น ” โซเฟียบอกทุกคน ตำแหน่งของพวกเธอไม่สามารถที่จะยิงใส่จุดนั้นได้ ต้องรอให้เจ้าโทรลหันมาทางนี้ก่อน
หญิงสาวทั้งสี่พากันทยอยแยกย้ายหลบการโจมตีจากกระบองยักษ์ ก่อนที่ปีศาจโทรลจะเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายมายังพวกวา
“ ยิง ! ”
โซเฟียตะโกน พร้อมลั่นไกเป็นคนแรก ปืนเลเซอร์ส่งเสียงดังพิ้วๆ แต่ไม่มีแสงอะไรยิงออกไป
วาเล็งไปที่เป้าตรงโซ่ตรวจอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเหนี่ยวไกยิงออกไป แสงสีแดงกระพริบขึ้น แสดงว่าเข้าเป้าอย่างจัง
“ ไม่เลวนี่ ” โซเฟียชม
แต่เจ้าปีศาจโทรลไม่ได้หยุดมือ วิ่งรี่ตรงเข้าหาพวกเขา
“ แยกย้ายกันหาทางโจมตี ” โซเฟียร้อง จากนั้นทุกคนแยกย้ายกันไปซ้ายขวาเพื่อหลบการโจมตี
มิวกับวีวี่วิ่งไปพร้อมกับเสือใบ้นิคและนี ส่วนวา นีโอ โซเฟียกับซิลเวียร์วิ่งไปอีกทาง
วาสังเกตว่ที่ด้านหลังของโซ่ตรวน็มีเป้าอีกเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงลั่นไกอีกสามสี่นัดไปยังเป้า
แสงไฟสีแดงหระพริบหลายที พร้อมเสียงครามย่างเจ็บปวดของเจ้าโทรล มันกวาดโต๊ะอาหารผลิกคว่ำด้วยกระบองยักษ์แล้ววิ่งไล่ไปทางพวกมิว ซึ่งดูเหมือนจะมีเพียงนีโอกับเสือใบ้นิคที่ช่วยกันยิงเพื่อสกัดมันไว้ ในขณะที่หญิงส่วนอีกสี่คนยืนดูเชิงโดยไม่มีวี่แววว่าจะยื่นมือเข้าช่วยเมื่อพ้นระยะการโจมตีไปทางพวกเธอ
ไฟรูปหัวใจบนร่างของเจ้าโทรลลดลงไปจนเกือบจะหมดแล้ว
วานึกสนุกวิ่งเข้าไปเพื่อช่วยยิงในระยะใกล้ เขาวิ่งออกจากกลุ่มโซเฟียไปช่วยพวกมิวยิง
เพียงไม่นานนักเจ้าโทรลก็ล้มลงพร้อมด้วยสัญลักษณ์หัวใจที่หมดลง
“ ฟิ้ว ” วาเป่าปากกระบองปืนในท่าแบบคาวบอย “ งานนี้ท่าจะง่ายกว่าที่คิดนะ ”
“ ฝีมือไม่เลวนี่ แต่ใช้กระสุนไปเยอะขนาดนั้นระวังจะไม่เหลือตอนสุดท้ายนะ ” หญิงสาวปริศนากล่าวกับวาก่อนจะเดินออกประตูห้องอาหารพร้อมพวกอีกสามคนผ่านซากของเจ้าโทรลไป
“ นี่มันบ้าอะไรกัน ” มิวโวยวาย
“ แค่การอุ่นเครื่องน่ะ ” โซเฟียเก็บปืนเลเซอร์
“ พี่โซเก่งจังเลยค่ะ ” ซิลเวียร์ปรบมืออย่างสนุกที่เห็นเจ้าโทรลถูกปราบ เธอยังไม่ได้ใช้กระสุนเลยแม้แต่นัดเดียว
ทุกคนกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง โดยคราวนี้โซเฟียเริ่มอธิบายเรื่องให้ฟัง
“ ในฐานะรองประธานนักเรียน ความจริงเราไม่สมควรมาเล่นสนุก แต่ว่ารุ่นพี่ซาโต้กับทีมงานบอกว่าอยากให้ช่วยดูแลพวกเราเป็นพิเศษ เราเลยเข้าร่วมเล่นด้วย อย่างที่เห็นที่กำไรข้อมือของทุกคนตอนนี้มีรูปหัวใจสีแดงอยู่ ซึ่งก็คือพลังชีวิตของทุกคนนั่นเอง และมันจะลดลงเรื่อยๆหากถูกโจมตีจากพวกปีศาจ และหากเมื่อไหร่พลังชีวิตหมดลงก็คือ แพ้นั่นเอง ”
“ แค่นี้เองหรอ ” วาอมยิ้ม “ ไม่เห็นจะมีอะไรยากเลยนิ แค่ยิงๆๆ ”
โซเฟียทำหน้าจริงจัง
“ มันไม่ง่ายอย่างนั้นสิคุณเด๋อ ลองดูที่ข้างปืนเลเซอร์สิ ” เธอชี้ “ ที่ข้างปืนจะมีจำนวนกระสุนอยู่ แต่เมื่อมันหมดนายก็จะไม่มีอาวุธป้องกันพวกปีศาจอีกต่อไป ”
วามองตามและก็จริงอย่างที่เธอว่า ด้านข้างตรงลำกล้องมีจอแสดงจำนวนกระสุนขนาดเล็กอยู่เขียนว่า
‘ Silver Bullet x 33 ’
“ โอเค ถ้าอย่างนั้นคราวหน้าเราจะพยายามประหยัดก็แล้วกัน ว่าแต่พวกเราจะไปทางไหนกันต่อละ ” วาถาม
“ ก่อนอื่นเราต้องออกจากห้องอาหารก่อน จากนั้นค่อยหาแผนที่หรือก็คืออาวุธศักดิ์สิทธิ์อันแรกเพื่อนำทางไปสู่อาวุธศักดิ์สิทธืที่เหลือย แต่ต้องระวังหน่อยนะ เพราะด้านนอกก็มีพวกปีศาจแบบนี้อยู่เหมือนกัน ”
“ ไม่เอาละ เราจะอยู่ในนี้จนถึงเช้า ใครจะไปก็ตามสบาย ” มิวยืนกราน แต่ก็ถ้องผวาเมื่อเสียงคำรามของเจ้าโทรลที่นอนจู่ๆก็ดังขึ้นมา พร้อมร่างยักษ์ที่ลุกขึ้นมาใหม่
“ จะอยู่ก็ไม่ว่าอะไรนะ พวกเราไปกันเถอะ ” วีวี่เอ่ยปากชวน ทุกคนจึงรีบวิ่งออกจากห้องงอาหารก่อนที่เจ้าโทรลจะตั้งตัวได้อีกครั้ง
“ เฮ้ย ระ รอด้วยสิยัยบ้า ” มิวรีบวิ่งตาม
“ ทำไมมันยังลุกขึ้นมาอีกได้ละ ” วาถามโซเฟียขณะวิ่งอยู่พร้อมมองไปรอบๆเผื่อว่าจะมีตัวอะไรโผล่มาอีก แสงจันทร์ส่องผ่านหน้าต่างอาคารพร้อมเสียงหมาหอนดังได้บรรยากาศสมจริงมาก
“ เราไม่มีกำจัดปีศาจได้จนกว่าจะเอาชนะท่านเค้าท์ได้ ซึ่งการยิงจนหัวใจหมดจะช่วยให้พวกมันแค่สลบลงไปเท่านั้น ”
“ ท่านเค้าท์หมายถึงเจ้าเสียงประหลาดตอนแรกน่ะหรอ ”
“ แหะๆ ฉลาดใช้ได้นิ ” โซเฟียขมวดคิ้ว
ทั้งหมดวิ่งออกจากอาคารโรงอาหารอย่างรวดเร็ว ด้านนอกเงียบสงัดมองไปไม่พบวี่แววของผู้คนเลยสักนิด ผิดกับวันปกติที่อย่างน้อยก็มักจะมีนักเรียนที่ยังคงฝึกซ้อมชมรมหรือทำกิจกรรมเล่นกีฬากันอยู่บ้าง
“ เธอจะเคาะเราไปถึงไหน หืม แม่คนใจกล้า ” มิวหันไปบอกวีวี่ที่หลบอยู่หลังตนมาตลอดทางพร้อมดันมิวให้เดินไปโดยที่ตัวเธอไม่ได้มองทางแม้แต่น้อย
หญิงสาวปริศนาทั้งสี่อันตรธานหายไปไหนแล้วไม่ทราบ แต่วาไม่รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย กลับกันเขารู้สึกสนุกอย่างที่ไม่เคยมาก่อน เขากระชับปืนเลซอร์ในมือแล้วกวาดซ้ายขวาเผื่อว่าจะมีเจ้าพวกปีศาจโผล่ออกมาอีก
“ ว่าแต่เราจะหาแผนที่ได้ที่ไหนละ ” วาเริ่มถาม
“ ที่นั่นไงละ ” นีโอชี้ตรงไปยังตึกอาคารชมรมซึ่งทุกคนต่างรู้จักกันดี “ แต่คงจะวุ่นวายน่าดู”
“ แหะๆ ก็ทุกคนต้องไปเริ่มจากด่านนั้นกันนี่นะ ” โซเฟียยิ้ม ดูเธอจะเป็นคนที่รู้สึกสนุกรองมาไม่แพ้กัน หรืออาจจะมากกว่าวาด้วยซ้ำ เพราะเขารู้สึกว่าหล่อนรู้ข้อมูลเกือบหมดทุกอย่างเพียงแต่พยายามไม่บอกออกมาเพื่อให้ทุกคนสนุกก็เท่านั้น หรืออาจจะยกเว้นมิวกับวีวี่
“ เฮ้ มาได้แล้วพวก ” วากวักมือเรียกมิวที่ยังคงยืนอยู่หน้าอาคาร
“ แต่จะดีเรอะต้องเข้าไปในอาคารชมรมในเวลาแบบนี้ เราขอยอมแพ้เลยได้ไหม ” มิวตะโกนบอก แต่เสียงฝีมือของเจ้าโทรลที่ตามออกมาจากหน้าโรงอาหารก็ทำให้เขาต้องเปลี่ยนใจ รีบวิ่งแจ้นทิ้งวีวี่อยู่เบื้องหลังซึ่งก็ออกตัววิ่งตามมาอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทางเดินไปอาคารชมรมเหตุการณ์ดูเงียบสงบจนวาต้องหาวเบาๆ
“ สงสัยคนไม่ค่อยพอใช่ไหม เลยไม่มีอะไรออกมาเลย ”
“ หึๆ ” โซเฟียหัวเราะเจ่าเล่ห์ “ คุณเด๋อนี่ยังไงก็ยังเป็นคุณเด๋อจริงๆนะ ไม่ได้ศึกษาข้อมูลก่อนเลยนะ ตอนนี้ที่เหตุการณ์ยังสงบอยู่ก็เพราะเกมนี้เพิ่งเริ่มยังไงละ ทุกครั้งที่นาฬิกาตีบอกเวลาพวกปีศาจก็จะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อถึงเที่ยงคืนหากยังไม่มีใครปราบท่านเค้าท์ได้พวกเราก็ถือว่าเกมโอเวอร์ยังไงละ ”
“ ถ้าอย่างนั้นเราก็รอให้ใครสักคนไปปราบท่านเค้าท์สิ ” มิวแย้ง
“ อย่างนั้นก็ไม่สนุกสิ ” นีโอฉีกยิ้มน่ากลัวที่ทุกคนไม่เคยเห็นมาก่อน
‘ นี่พวกนายกำลังสนุกกันมากเลยใช่ไหม ’ มิวร้องในใจ วีวี่เองก็คงไม่ต่างกัน
เมื่อเดินมาถึงหน้าอาคารชมรมที่เบื้องหน้าทางเข้าปีศาจอีกอหน้าตาอัปลักษณ์ มีผ้าปิดปากปกปิดใบหน้าส่วนหนึ่งไว้หลังคดงอยืนเฝ้าประตูหัวเราะอย่างไม่น่าไว้ใจรออยู่
วากระชับปืนเล็งไปยังเจ้าปีศาจอีกอแต่ไม่ว่ายังไงก็หาจุดยิงไม่พบ จนมันเป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้น
“ Come Strangers ! ” พร้อมกวักมือเรียก “ เร่เข้ามาเหล่าคนแปลกหน้าทั้งหลาย พวกเจ้ามาถูกทางแล้ว มาสิมาใกล้ๆ ” ซึ่งในความคิดของมิวเจ้านี่ต่างหากที่น่าจะถูกเรียกว่าคนแปลกหน้า
“ จัดการมันเลยดีไหมคะ ” ซิลเวียร์ทำท่าล้วงอะไรบางอย่างซึ่งดูเหมือนจะไม่ใช่ปืนเลเซอร์ โซเฟียจึงรีบปราม
วาลดปืนลงเพราะเห็นว่าเจ้าปีศาจอีกอนี่คงไม่มีพิษสงเท่าไหร่ อีกอย่างนี่คงจะเป็นหนึ่งในตัวละครของเกมที่ท่านเค้าท์วางไว้เพื่อนำไปสู่การท้าทายด่านแรก
“ กำลังมองหาแผนที่กันอยู่สินะ ” มันหรี่ตามองกวาดทุกคน ซึ่งมิวและวีวี่ตัวกระตุกเล็กน้อยแต่พยายามเก็บอาการเอาไว้เมื่อถูกมองผ่าน
จากนั้นมันก็เปิดเสื้อคลุมสีดำที่ห่อหุ้มร่างมันออกมาอย่างรวดเร็ว จนวีวี่ต้องกรีดร้องปิดตา แต่ที่เห็นตรงหน้านั้นไม่ใช่สิ่งที่เธอคิด มันคือ แผนที่หลายฉบับที่ม้วนติดไว้ตามเสื้อคลุม
“ แผนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงอยู่ข้างใน แต่ที่ข้าจะให้พวกเจ้าก็เช่นเดียวกัน Strangers ” มันกล่าวด้วยเสียงแหบพร่าที่เร้าอารมณ์อย่างบอกไม่ถูก พร้อมหยิบแผนที่มาแจกจ่ายให้พวกวาทีละคน
“ แผนที่ที่ข้ามอบให้แก่พวกเจ้าคือ หนึ่งในชิ้นส่วนที่ขาดหายไป ซึ่งมีทั้งหมดสี่ชิ้น โดยอีกสามชิ้นขึ้นอยู่กับฝีมือของพวกเจ้าแล้วว่าจะหามันพบไหมในด่านเขาวงกตนรกนั่น ฮิๆๆๆ ”
มิวบอกได้เลยว่าเขาไม่ชอบเสียงหัวเราะของเจ้านี่แบบสุดๆ
วาคลี่แผนที่ออกมาดูพบว่ามันเป็นแผนที่ของโรงเรียนอับดุลอินเตอร์เพียงแต่ส่วนที่เขาได้มาไม่ได้บอกอะไรไปนอกเหนือจากบริเวณหน้าโรงเรียนกับหอพักซึ่งไม่มีที่อยู่ของอาวุธศักดิ์สิทธิ์เลยแม้แต่น้อย พอเหลือบมองไปที่แผนที่ของนีโอก็ยังคงเป็นแบบเดียวกัน แสดงว่าทุกคนได้รับแผนที่แบบเดียวกันหมด
“ กติกาของการเข้าไปที่เขาวงกตนั้นพวกเจ้าสามารถจะออกมาเมื่อไหร่ก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องรวบรวมแผนที่ได้ครบ ซึ่งวิธีการจะได้แผนที่ส่วนที่เหลือเพิ่มมีอยู่เพียงสองวิธีเท่านั้น หนึ่งก็คือ การค้นหาภายในอาคาร ”
เจ้าอีกอปิดปากซึ่งมีผ้าปิดอยู่แล้วหัวเราะชอบใจชูสองนิ้วหงิกงอขึ้น ซึ่งวายอมรับว่าแต่งออกมาได้สมจริงเอามากๆ
“ และสองพวกเจ้าต้องแย่งชิงจากผู้ถือครองคนอื่น ซึ่งผู้ถือครองแต่ละคนจะได้แผนที่ส่วนที่ไม่เหมือนกันอยู่ ก่อนเข้าไปเจ้าจะได้รับมอบชุดเกราะเพื่อใส่ไว้สำหรับเป็นเป้าเล็ง ถ้าหัวใจถูกยิงจนหมดก็ถือว่าตายและก็จะเกมโอเวอร์ทันที หึๆๆๆฮ่าๆๆๆฮิๆๆๆๆ ”
“ ทำไมเราไม่ยิงเจ้านี่ก่อนเลยเป็นไง ” มิวชักฉุนกระซิบบอกวา
“ ไปกันเถอะ ” แต่วาก้าวเข้าประตูอาคารชมรมเป็นคนแรกโดยไม่สนใจคำพูดของเจ้าอีกอแม้แต่น้อย
“ ขอให้พวกเจ้าโชคดีนะ Strangers !! แค่กๆๆ ” อีกอโบกมือให้พวกเขา
เมื่อก้าวข้ามาในตัวอาคารวูบแรกวารู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที ถึงแม้จะรู้ว่านี่เป็นเพียงแค่การจัดฉากแต่ก็ต้องยอมรับว่าจัดทำได้สมจริงอย่างยิ่ง สองข้างทางที่เคยเป็นกระจกสว่างใส บัดนี้ถูกตอกปิดด้วยไม้อัดเป็นรูปกากบาทได้อารมณ์เหมือนหนังสยองขวัญ ประกอบกับโคมไฟที่จุดด้วยเทียนไขด้านบนทำให้อาคารชมรมดูไม่ต่างอะไรกับปราสาทผีสิงดีๆเลย
เบื้องหน้าตรงห้องโถงใหญ่มีเสื้อเกราะจำนวนมากแขวนไว้จากลวดที่ขึงลงมาจากเพดาน บนตาขอมีรอยเลือดดูสมจริง วาหยิบชุดเกราะที่แขวนอยู่ตรงหน้าเขา ทันทีที่ชุดเกราะถูกหยิบออกมาลวดก็เด้งขึ้นพร้อมแสงเทียนจากประตูบานซ้ายและขวาที่สว่างขึ้น
“ ให้เลือกอย่างนั้นหรอ ” วาสวมชุดเกราะที่ทำจากแผ่นพลาสติกสะท้อนแสงตรงกลางมีรูปหัวใจแสดงถึงพลังชีวิตของเขาอยู่ และหากว่าเขาคิดไม่ผิดทุกส่วนนี้สามารถถูกยิงได้ทั้งสิ้น ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
“ ไปทางไหนกันดี ” วาหันไปถามเพื่อนๆที่ยังไม่ได้เริ่มสวมชุดเกราะเลย
“ รีบก้าวเข้าไปซะ ด่านนี้ไม่อนุญาตให้พวกเจ้าเข้าไปเป็นหมู่ได้ หนึ่งชุดเกราะต่อการเข้าหนึ่งครั้ง จงเลือกประตูภายในสิบวินาที มิเช่นนั้นจะถือว่าเกมโอเวอร์นะ ฮิๆๆๆ ” เสียงเจ้าอีกอเบื้องนอกดังก้องกังวานในห้องโถง
วาหัวเราะรู้สึกราวกับโดนท้าทาย
“ เอางั้นก็ได้ พวกนายก็ตามมาทีหลังละกันนะ ” วามองซ้ายทีขวาที เขาว่ากันว่าขวาร้ายซ้ายดีเพราะฉะนั้นเราไปทางขวาน่าจะสนุกกว่า แล้ววาก็ก้าวเข้าประตูด้านขวาโดยไม่เหลียวหลังกลับมาแม้แต่น้อย
โซเฟียส่ายหัว ‘ ไม่ไหวเลย ทำอะไรไม่คิดอีกแล้วตานี่ ’
“ พวกเราก็รีบตามวากันไปเถอะ เดี๋ยวจะหลงกันเสียก่อน ” นีโอเป็นคนถัดไปที่หยิบชุดเกราะมาสวม แต่กลับเดินเข้าไปที่ประตูซ้ายพร้อมพูดทิ้งท้ายว่า
“ ถ้าการคำนวณของเราไม่ผิดพลาดละก็ เราคงจะได้เจอกับวาโดยการเข้าประตูนี้ ”
“ หนูเข้าประตูไหนก็ได้ ขอแค่ได้อยู่กับพี่โซก็พอ ” ซิลเวียร์อ้อน
“ งั้นเธอเข้าไปก่อนเลยจ่ะ เดี๋ยวพี่จะตามหลังเธอไปเอง ” โซเฟียหยิบชุดเกราะมายื่นให้ แต่ซิลเวียร์ส่ายหน้า
“ ไม่อย่างนั้นเราออกจากปราสาทนี่ไปหาที่เงียบๆอยู่กันจนกว่างานจะเลิกดีไหมคะ ”
“ แหะๆ คงไม่ได้หรอก ถ้าอย่างนั้นเราตามพี่มาทีหลังก็แล้วกันนะ ” ว่าแล้วโซเฟียก็ก้าวเข้าประตูขวาไป ซิลเวียร์เห็นอย่างนั้นจึงรีบคว้าชุดเกราะพร้อมก้าวตามไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้มิวกับวีวี่ยืนเคว้งอยู่อย่างนั้น
“ จริงๆความคิดของเจ้าหนูนั่นก็ดูไม่เลวเหมือนกันนะ ” มิวกล่าวแบบหน้าตาย
“ เป็นครั้งแรกที่นายเริ่มคิดแบบมีเหตุผลนะ ” วีวี่สนับสนุน แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อเจ้าปีศาจอีกอลกล่าวกระตุ้น
“ ถ้าคิดจะออกมาข้างนอกตอนนี้ละก็ระวังพวกปีศาจค้างคาวหน่อยนะ ฮิๆๆๆๆ แล้วก็รีบๆเข้าไปกันได้ เพราะพวกมันกำลังจะบุกเข้าไปหาแล้วนะ ”
‘ ฟึ่บ ! ’
มิวและวีวี่หยิบชุดเกราะมาสวมพร้อมกันแบบไม่ได้นัดหมายพร้อมวิ่งเข้าประตูคนละบานกันโดยไม่บอกกล่าว
‘ ตึง ! ’
หลังจากที่วาก้าวผ่านประตูเข้ามาประตูเบื้องหลังเขาก็ถูกปิดลง เมื่อเดินไปเรื่อยๆได้สักระยะหนึ่งท่ามกลางความมืดที่มีแต่แสงจากเปลวเทียนเขาก็พบทางแยกอีกสองทาง
ประตูขวาเขียนว่า ‘ทางไปสุสาน’ ส่วนประตูซ้ายเขียนว่า ‘ทางไปถ้ำปีศาจ’
ก่อนที่จะเลือกว่าจะไปทางไหนวาลองเงี่ยหูฟังเสียงรอบๆปรากฏว่ามีเสียงฝีเท้าอยู่เบื้องหน้าประตูทางขวาอยู่พอสมควร แต่ทางฝั่งประตูด้านซ้ายไม่ค่อยมีเสียงนัก
‘ ถ้าคิดให้ดีสองทางที่จะไปแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ว่าจุดมุ่งหมายของเราคือ รวบรวมแผนที่ส่วนที่เหลืออีกสามชิ้นให้ได้ครบ หรือไม่จากคำบอกเล่าของเจ้าอีกอระหว่างทางเราอาจถูกดักซุ่มโจมตีเพื่อชิงแผนที่ไปก็ได้ เพราะฉะนั้นเราควรอยู่ในพื้นที่เปิดมากกว่า ’
วายิ้มเจ้าเล่ห์
‘ และข้อสำคัญเสียงฝีเท้าที่อยู่หลังประตูบานขวาแสดงว่าต้องมีอะไรบางอย่างดักซุ่มอยู่ เพราะฉะนั้นประตูทางขวาน่าสนใจกว่าเป็นกอง ’
พร้อมกระชับปืนเลเซอร์ขึ้นมาเหนืออก ใช้มือซ้ายค่อยๆดันประตูแง้มออก ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าที่ดังเบาๆอยู่ก็เงียบหายไป พร้อมฉลากเบื้องหน้าที่เป็นทางเดินวกวนสองข้างทางเต็มไปด้วยหลุดฝังศพที่ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่น่าไว้วางใจ
อากาศภายในสุสานหนาวเย็นเป็นพิเศษ หมอกปลอมจางๆลอยบดบังทัศวิสัยของเขาพอสมควร แต่นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกสนุก หากเปลี่ยนเป็นมิวหรือวีวี่ป่านนี้คงจะต้องกลุ้มใจกับหมอกที่เหนือหน้า แต่สำหรับวาแล้วนี่คือเกมของเขา หากมีศัตรูหรืออะไรประหลาดอยู่เบื้องหน้าด้วยความมืดและหมอกขนาดนี้ แสงไฟที่ส่องจากปืนหรือชุดเกราะก็จะยิ่งเด่นชัด แต่นั่นก็เป็นจุดอ่อนของตัวเขาเองเช่นกัน
แม้วาจะมีเคยเข้ามาในห้องชมรมบาส แต่ด้วยการสังเกตคร่าวๆแล้ว สุสานที่ว่านี้ก็คือ ห้องจำลองที่สร้างขึ้นจากห้องชมรมบาสนั่นเอง เนื่องจากต้นไม้สูงที่อยู่ด้านบนสองข้างขนานกันเกินไป และด้วยระยะห่าง และระดับความสูงของต้นไม้ทั้งสองที่ได้ระดับเท่ากันทำให้สรุปได้ว่านั่นน่าจะเป็นแป้นบาส
วาหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงครางของคน ที่เบื้องหน้าของเขาต้องมีสิ่งมีชีวิตอยู่แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นผู้เล่นหรือพวกปีศาจกันแน่ ดังนั้นเขาชะลอฝีเท้ากระชับปืนเดินอย่างระวัง จนกระทั่งเท้าของเขาเผลอเหยีบเข้ากับอะไรลบางอย่าง
“ โอ๊ย ไอ้บ้าเอ๊ย ทำอะไรของแกเนี่ย ไม่เห็นหรือไง ” เสียงด้านด้านล่างซึ่งน่าจะเป็นบริเวณเท้าของวาดังขึ้น
“ ขอโทษครับ ” วารีบยกเท้าขึ้น เขาแปลกใจเล็กน้อยที่ตนเองไม่ได้สังเกตเห็นแสงสีแดงบนชุดของชายผู้นอนอยู่ แต่นั่นก็เป็นเพราะว่าที่บนชุดเกราะไม่มีสัญญาณรูปหัวใจอีกแล้ว ซึ่งก็หายความว่าชายคนนี้เกมโอเว่อร์ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้องนี้ได้ไม่นานนัก
“ กะ แกเองเรอะ ” คนด้านล่างที่นอนอยู่พูดด้วยเสียงใหญ่ ซึ่งวาเองก็ฟังดูคุ้นๆ เมื่อพิจารณาดูใบหน้าที่นอนอยู่ก็พบว่า ใบหน้าเหลี่ยมที่ดูไร้สมองนั้นคือ โกจิ หนึ่งในแก๊งเอ็ดดี้ผู้อยู่ชมรมนักกล้าม
“ อ้าว โกจิ ทำไมถึงมานอนอยู่นี่ได้ แล้วคนอื่นละ ” วาถาม ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นม้วนแผนที่เรืองแสงวางอยู่บนซากไม้เก่าๆ จึงหยิบขึ้นมาดูด้วยความดีใจ
‘บรู้วววววว ! ’
เสียงหมาหอนทั่วขึ้นลั่นสุสาน ม้วนแผนที่นั้นเป็นกับดัก วารีบเก็บมันเข้าเหน็บกับช่องเก็บของข้างเข็มขัด
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกขนลุกสัญชาตญาณเบื้องลึกบอกว่ากำลังจะเกิดอะไรบางอย่างกับเขาในเร็วๆนี้
“ พะ พวกมันกำลังจะมา ” สีหน้าโกจิตื่นกลัวแบบสุดขีด เขาพยายามขยับร่างกายแต่ไม่สามรถทำได้ ไม่ทราบว่าชุดเกราะพิเศษนี้ทำมาจากอะไร แต่ถ้าทำให้พลังช้างสารอย่างโกจิลุกขึ้นยืน หรือแม้แต่จะขยับมือก็ไม่ได้แล้วคงจะหนักไม่ใช่เล่นๆ
“ พวกมัน ?! ” วาถาม
“ รีบหนีไปซะ ไม่สิก่อนจะหนีไป ช่วยพาเราไปด้วยนะได้โปรดเถอะ ” โกจิกล่าวเสียงหลงราวกับเด็กทารกเรียกหาแม่ แต่นั่นไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดูดีขึ้นเลย โดยเฉพาะการเสนอให้วาช่วยพาเขาที่แม้แต่ตัวเองยังลุกขึ้นไม่ได้หนีไปด้วย
เสียงใบไม้จากต้นไม้ที่สร้างจากแป้นบาสเคลื่อนไหว ก่อนที่แสงสีแดงหลายสิบจุดจะปรากฏขึ้นที่ต้นไม้ใหญ่ทั้งสอง และด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ทำให้วาต้องเล็งปืนขึ้นไปยังด้านบน หัวใจของเขาเต้นตึกตักเลือดในกายสูบฉีดเตรียมพร้อมรับกับอะไรบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น
“ ไม่ !!!! ” เสียงโกจิตะโกนลั่น แม้วาอยากจะบอกให้เขาหุบปากลงซะ แต่ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว เสียงตะโกนปลุกในจุดสีแดงด้านบนเริ่มเคลื่อนไหว
จุดสีแดงราวยี่สิบจุดเคลื่อนที่ไปมา พร้อมเสียงใบไม้ที่ถูกอะไรบางอย่างแหลกอากาศบินโฉบเข้าใส่ร่างของวาที่ประทับปืนเล็งอยู่
‘ ปิ้ว ! ’
วาไม่รอช้าลั่นไกยิงกระสุนนัดแรกออกไปถูกเป้าหมายที่เบื้องหน้า พร้อมเสียงตุบเป็นการแสดงให้เห็นว่าเขายิงถูก แต่เป้าหมายปริศนาอีกหลายสิบตัวกำลังบินฝ่าอากาศมายังเขา
เขารีบก้มหัวลบเจ้าจุดสีแดงที่พุ่งลงมาใส่เขา พยายามก้มตัวให้ต่ำที่สุดพร้อมวิ่งไปข้างหน้า
‘ ก่อนอื่นต้องหาที่ตั้งหลักที่เราจะเห็นเจ้าสิ่งมีชีวิตประหลาดพวกนี้เป็นกลุ่มเดียวเสียก่อน ’
วารีบเปลี่ยนตำแหน่งตัวเองจากเดิมที่เคยอยู่จุดที่เขาคิดว่าเป็นตรงกลางสนามบาส ไปยังด้านใดด้านหนึ่งซึ่งก็คือ จุดที่เขาเริ่มก้าวเข้ามา เขาวิ่งนำพวกมันมาพอสมควรแล้วจึงหันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับฝูงจุดแดงๆ ซึ่งในจุดนี้มีหมอกค่อนข้างน้อยทำให้เขามองเห็นพวกมันได้ค่อนข้างชัดเจน
ปีศาจค้าวคาวตาแดงตัวเล็กๆประมาณยี่สิบกว่าตัวกำลังพุ่งตรงมาทางเขา
วาไม่สนใจว่ามันจะมากันมากเท่าไหร่ เขากระหนำยิงพวกมันทีละตัวๆก่อนที่มันจะเข้ามาถึงร่าง ตอนนี้เขาสอยพวกมันลงไปได้เกือบสิบตัวแล้ว โดนที่ยิงพลาดไปเพียงแค่สามครั้งเท่านั้น
ทว่าบัดนี้พวกมันเข้ามาใกล้เขาทุกที และเมื่อถึงระยะโจมตีพวกมันก็บินโถมเข้ามาใส่วาราวกับลูกเห็บที่ตกกลางพายุหิมะ ก่อนที่วาจะถูกโจมตีเขาก็ตัดสินใจวิ่งสวนฝูงค้างคาวปีศาจ ร่างกายของเขาปะทะเข้ากับพวกมันประมาณสามสี่ตัว ซึ่งเขารู้สึกได้ว่าแม้ภายนอกมันจะดูเหมือนค้างคาวแต่จริงๆแล้วมันทำมาจากเหล็กแต่ถ้ามันชนเข้ากับหัวแบบจังๆละก็คงจะเจ็บไม่ใช่น้อย
เสียงปี๊ดๆตรงเข้าอกของเขาดังขึ้น สัญญาณรูปหัวใจลดลงบอกว่า พลังชีวิตของเขาเหลือเพียง 75% เพราะถูกการโจมตีเมื่อสักครู่ ซึ่งจนตอนนี้พวกมันก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุดโจมตีเลย
‘ ปิ้ว ปิ้ว ! ’
วาหันหลังยังพลางวิ่งหนีด้วยความหงุดหงิดที่ไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้ นี่เขาจะต้องมาจบในสภาพเดียวกับโกจิงั้นหรือเนี่ย
ปืนเลเซอร์กระหน่ำยิงอย่างไม่คิดชีวิต ค้างคาวปีศาจเกือบทั้งฝูงถูกยิงร่วงจนเหลือเพียงแค่สามตัวเท่านั้น แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
‘ แกร๊กๆ ’
‘ Reload !!! ’
เสียงเตือนจากปืนเลเซอร์ดังขึ้น เมื่อกระสุนเงินถูกนำใช้จนหมด วาไม่ทราบว่าควรทำเช่นไรต่อไปดี เขาได้แต่เอียงซ้ายทีขวาทีเพื่อหลบจากการบินโฉบของค้างคาวอีกสามตัว
“ ใช้ปืนของเราสิ ! ” เสียงของโกจิที่ด้านหน้าดังขึ้น คล้ายแสงสว่างที่ปลายถ้ำ แม้จะได้ยินเช่นนั้นแต่วาไม่ทราบว่าโกจิทำปืนหล่นไว้ที่ไหน
“ อยู่ไหน ” วาตะโกน
“ ข้างบน ! ”
“ บนไหน ?! ”
“ บนต้นไม้ !!! ” โกจิตอบ พยายามชี้นิ้ว แต่นั่นไม่ใช่ช่วยให้วารู้ตำแหน่งได้
วาไม่มีเวลาคิดว่าทำไมโกจิถึงทำปืนหลบไปบนต้นไม้ได้ แต่ตอนนี้เขาเห็นปืนเลเซอร์ที่ติดอยู่บนกิ่งไม้ด้านหน้าแล้ว โชคยังดีที่กิ่งไม้นี้ไม่สูงนัก เพราะฉะนั้นที่เขาต้องทำก็คือ พยายามวิ่งไปให้ถึงมันและปีนไปเก็บมัน หรือทำให้มันตกลงมาให้ได้
แต่ก่อนที่วาจะวิ่งไปถึงต้นไม้เสียงปืนเลเซอร์อีกกระบอกก็ดังขึ้น แสงเลเซอร์จะพลาดเป้าอยู่บ้าง แต่ค้างคาวทั้งสามก็ถูกสอยร่วงในไม่ช้า
‘ ฟู่ ’
เจ้าของปืนผู้ช่วยชีวิตวาเอาไว้เป่าลมใส่ปืนเลเซอร์คล้ายหนังคาวบอย ก่อนจะกล่าวเหน็บด้วยเสียงใส
“ ดูไม่จืดเลยนะคุณเด๋อ ”
ร่างอ้อนแอ้นก้าวเข้ามาหาวา ซึ่งฟังจากคำพูดก็รู้ได้ทันทีเลยว่าเธอคือ โซเฟีย
“ ขอบใจนะ มาได้ทันพอดีเลย แล้วคนอื่นละ ”
โซเฟียเอานิ้วแตะคาง
“ เราจำได้แค่ว่าเดินตามประตูที่ซิลเวียร์เข้ามาเป็นคนที่สี่ แต่ไม่เจอใครเลยแล้วพอเดินมาเรื่อยๆก็ได้เสียงเสียงปืนเลยรีบวิ่งมาดูน่ะ แหะๆ ” พลางนึกถึงทฤษฎีของนีโอที่เข้าประตูซ้ายแล้วจะได้เจอวา แต่เธอเป็นฝ่ายได้เจอก่อนเลยนึกดีใจไม่น้อยที่เธอสามารถอยู่เหนือการคำนวณของนีโอได้
“ ยิ้มอะไรของเธอน่ะ มาช่วยกันเก็บปืนก่อนดีกว่าไหม ไม่รู้ว่าอะไรจะโผล่มาอีก ”
“ ขี้สั่งเป็นตาลุงไปได้ ” โซเฟียขมวดคิ้ว แต่ก็ว่าตาม
“ เฮ้ พาเราไปด้วย ” เสียงโกจิตะโกนตามหลังมาขณะที่วากำลังพยายามจะปีนขึ้นไปเก็บปืน แต่ทั้งสองคนไม่ได้ตอบกลับ บางครั้งการปล่อยให้คนอย่างโกจิอยู่อย่างนั้นบ้างก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่น้อย ถึงแม้ตอนนี้เขาจะกลับตัวแล้วก็ตาม แต่ถึงทั้งสองพยายามที่จะช่วยก็คงไม่ได้อยู่ดี เพราะคนที่เกมโอเวอร์แล้วจะถูกเหล่าปีศาจเก็บตัวไปเองตามกฏ
“ ระวังหน่อยนะ ” โซเฟียป้องปากตะโกน เมื่อเห็นวาปีนเร็วเกินไป
‘ แกร๊ก ฟี้ดดด ! ’
เสียงปืนเลเซอร์ที่ง้างไกแล้วดังขึ้นที่ด้านหลังของเธอ มีใครบางคนอยู่ที่เบื้องหลัง
“ ถ้ายังไม่อยากเกมโอเวอร์ก็ส่งแผนที่และปืนของเธอมาซะ ” เจ้าของปืนที่จ่อหลังเธอกล่าวข่มขู่
“ แหะๆ นี่ไม่ตลกเลยนะคะ ” โซเฟียหัวเราะแห้งๆ แต่เจ้าของปืนง้างไกจนเสียงปืนเลเซอร์ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นการย้ำว่านี่ไม่ใช่การล้อเล่น
เธอชูมือทั้งสองข้างขึ้น พร้อมปืนเลเซอร์ที่ถูกแย่งชิงไปอย่างรวดเร็ว แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่ในใจขกลับคิดอะไรบางอย่าง
‘ หวังว่าคุณเด๋อคงจะรู้เรื่องแล้วนะ ไม่อย่างนั้นก็หวังว่าอย่าเพิ่งลงมาเลย ’
ขณะที่ความคิดว่ายังไม่สิ้นสุด เสียงกระซิบแผ่วๆก็ดังขึ้นเบื้องหลังของเจ้าของปืนปริศนา
“ ยกมือขึ้น และมอบแผนที่กับปืนของนายมาซะ นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะจะบอกให้ ”
เมื่อโซเฟียหันหน้ากลับหลังไปก็พบว่า วาได้เอาปืนจ่อหลังร่างปริศนานั้นไว้แล้ว แถมยังยักคิ้วให้อย่างมั่นใจ
‘ ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ทำไมนายถึงทำเท่ได้ทุกทีเชียวนะ ให้ตายสิ ’ เธอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
__________________________________________________
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับโรงเรียนมหาโจรคลับ และติดตามข่าวสารใหม่ๆเพิ่มเติมได้ที่ >> http://www.facebook.com/feelmyworld
ความคิดเห็น