ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรงเรียนมหาโจร

    ลำดับตอนที่ #55 : บทเรียนที่ 50 Ash like snow

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.01K
      72
      31 ธ.ค. 51






                                                                                     บทเรียนที่
    50  Ash like snow

     


     

     

     

    แอ๊ด ประตูห้องพยาบาลถูกโซเฟียผลักออกก่อนที่วาจะก้าวตามเข้าไป  ไฟในห้องพยาบาลถูกเปิดอย่างสว่างไสวชวนให้รู้สึกถึงความอบอุ่น ผิดกับบรรยากาศภายนอกซึ่งเต็มไปด้วยความหนาวเหน็บ เว้นแต่บางเตียงที่มีคนป่วยต้องการพักผ่อนก็ดับไฟไว้

    วา และโซเฟียก้าวตรงไปด้านในก่อนที่จะหยุดอยู่ที่เตียงหมายเลขห้า ซึ่งวาเพิ่งสังเกตว่าผ้าม่านสีขาวถูกเลิกออกแล้ว เห็นไซโคร แนชที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง เพียงแต่ในตอนนี้มีสติขึ้นมาแล้ว

    รุ่นพี่ฟื้นแล้วหรอครับ วาถามสีหน้าแสดงความดีใจ

    อะ อืม ไซโคร แนชตอบอำอึ้งๆ คล้ายยังไม่ได้สติดีนัก

    กลับมาแล้วหรอครับ เสียงจากเตียงด้านข้างดังขึ้น ก่อนที่ผ้าม่านด้านข้างจะถูกแหวกออก เห็นมาสเตอร์ซาซาไรยิ้มให้วากับโซเฟีย พร้อมด้วยมาสเตอร์ชไนเดอร์และก็อบที่กำลังนั่งดูอาการของดีว่าอยู่อย่างเย็นชา

    เมื่อวา และโซเฟียเห็นเช่นนั้นก็รีบกล่าวสวัสดีกับมาสเตอร์ชไนเดอร์และก็อบ ซึ่งคำทักทายกลับที่เขาได้มาก็เป็นเพียงแค่การพยักหน้ารับรู้เท่านั้น แต่วาไม่ได้ใสใจ คงเพราะรู้นิสัยของศิษย์ อาจารย์ทั้งสองคนนี้ดีอยู่แล้ว ส่วนโซเฟียก็หัวเราะแห้งๆผ่อนคลายความตึงเครียดไป

    หลวงพ่อ…… ไซโคร แนชกุมขมับ ทำท่าจะลุกขึ้น แต่ถูกซาซาไรห้ามไว้เสียก่อน

    อย่าเพิ่งลุกจะดีกว่านะครับ อาการของคุณยังไม่หายดีนัก ซาซาไรแตะบ่าไซโครแนช เบาๆ ส่วนทางด้านหลวงพ่อ หรือมาสเตอร์แอนเดอร์สันก็กลับไปได้สักพักแล้วละครับ ท่านกำชับให้ผมคอยบอกคุณว่า ห้ามแข่งในรอบต่อไปเป็นอันขาด จนกว่าท่านจะกลับมาดูอาการอีกที แล้วก็ขอให้พระผู้เป็นเจ้าคุ้มครองให้คุณหายไวๆ

    เมื่อพูดถึงตอนนี้ไซโคร แนชค่อยยอมเอนตัวลง แต่ดูเหมือนในใจจะรู้สึกเป็นกังวลอยู่หลายส่วน

    แล้วดีว่าเป็นยังไงบ้างครับ วาถาม ชำเลืองไปมองก็เห็นดีว่านอนอยู่อย่างสงบ เพียงแต่สีหน้าดูตึงเครียดอย่างไรชอบกล

    ก็ไม่เป็นไรมากครับ เมื่อสักครู่นี้ตอนที่ผมเข้ามาก็พบกับท่านผู้เฒ่ามานั่งรออยู่ก่อนแล้วละครับ ซาซาไรยิ้มมุมปาก

    ท่านผู้เฒ่า ? ” วาทวนคำถามด้วยสีหน้าสงสัย เขาไม่คิดว่าในโรงเรียนจะมีคนที่ถูกเรียกแบบนี้อยู่ด้วย ส่วนโซเฟียนั้นแสดงสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย แต่เป็นความประหลาดคนละแบบกับวา

    หมายถึงผู้อาวุโสเสี่ยงเลี้ยงหรือเปล่าค่ะ โซเฟียถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้มราวกับได้พูดถึงบุคคลในตำนาน

    ซาซาไรพยักหน้า ใช่แล้วละครับ ท่านผู้เฒ่าได้ดูการแข่งขันของคุณดีว่า เลยรีบรุดมาเตรียมรอรักษาให้ก่อนผมจะมาถึงเสียอีก พอรักษาเสร็จก็ไปทันทีเลยละครับ แถมยังไปโดยไม่บอกกล่าวเสียด้วยสิ  ซาซาไรลูบคาง เอ หรือจะเรียกว่าผมไม่ทันได้รู้สึกตัวก็ได้นะครับ มันเหมือนลมพัดผ่านไปแค่วูบหนึ่งเท่านั้นเอง

    ยิ่งฟังยิ่งดูประหลาด แต่สำหรับวานั้นเขาเริ่มรู้สึกชินกับเรื่องประหลาดแล้วตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ อย่างน้อยมันก็คงไม่ประหลาดมากกว่าไปแก๊งหมูดำที่ชอบคุมห้องน้ำโรงเรียนหรอกนะ

    โห แล้วผู้อาวุโสเขารักษายังไงหรอค่ะ ดูท่าทางโซเฟียจะสนอกสนใจเป็นพิเศษ

    ก็เห็นนั่งลงข้างๆแล้วก็…. ” ซาซาไรทำมือประกอบ เอามือตบใส่หน้าอกของคุณดีว่าทีหนึ่ง ดูเหมือนแรงมาก แต่กลับไม่มีเสียงเลยสักนิด ไม่รู้ว่าในความแรงนั้นแฝงความนิ่มนวลไว้ถึงขนาดไหนกัน  คงจะเป็นการรักษาด้วยลมปราณกระมังครับ เรื่องนี้ผมก็อธิบายให้ฟังไม่ได้ด้วยสิครับ แถมยังช่วยดูอาการให้คุณแนชด้วย เพียงแต่ของคุณแนชนี่ท่านผู้เฒ่าเพียงส่ายหน้าแล้วบอกว่า ปราณเป็นปกติดี แต่ที่ไม่ปกติอยู่ที่ใจมากกว่า

    แหะๆ ยิ่งฟังยิ่งอยากเจอตัวจริงจังนะค่ะ  โซเฟียอมยิ้ม

    เออ ขอถามอะไรหน่อยนะครับ ท่านผู้เฒ่าที่ว่า ใช่เป็นอาจารย์ประจำชมรมจ้าวกระบี่หรือเปล่าครับ วาที่เก็บความสงสัยมานานถามขึ้น

    ใช่แล้วละครับ ลืมไปเลยว่าคุณคงแปลกใจ เพราะผมไม่เคยเล่าเรื่องท่านให้ฟังเลย ท่านเป็นอาจารย์สอนกระบี่ระดับปรมาจารย์ซึ่งหาตัวจับได้ยากมากเลยละครับ ที่ชมรมก็รู้สึกว่าจะโผล่ไปน้อยมาก ส่วนใหญ่จะให้นักเรียน หรือที่ท่านเรียกว่าศิษย์เอกเป็นคนช่วยดูแลชมรมแทนนะครับ

    อืม วาทำเสียงสนใจ ความจริงเขาก็อ่านนิยายกำลังภายในมาพอสมควร เลยรู้สึกอยากจะพบดูสักครั้งว่าบุคลิกจะเหมือนพวกอาจารย์ของเหล่าจอมยุทธ์ที่เขียนไว้ในหนังสือไหม แต่เท่าที่เขารู้จักกับดีว่ามาก็รู้สึกว่าแค่ตัวดีว่าเองก็ใกล้เคียงพอตัวเลยทีเดียวละ ตั้งแต่ครั้งแรกที่แสดงการทำใบไม้ร่วงให้ดูแล้ว

    ครืดๆ โทรศัพท์มือถือของวาสั่นขึ้น

    เออ สักครู่นะครับ วารีบกดรับก่อนที่เสียงรอสายจะดังขึ้น

    แล้วถ้าเป็นอย่างนี้การแข่งครั้งต่อไปจะเป็นยังไงบ้างค่ะเนี่ย โซเฟียถามซาซาไร แววตามีความกังวลเล็กน้อย

    เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ ท่านผู้เฒ่าบอกแล้วว่านอนพักอีกไม่กี่ชั่วโมงเดี๋ยวคุณดีว่าก็กลับมาเป็นปกติแล้วละครับ แถมยังบอกอีกว่าหลังจากฟื้นแล้วให้คุณดีว่าไปหาด้วยละครับ คงจะต้องมีอะไรพิเศษๆให้อย่างแน่นอน จากนั้นพยักหน้าไปทางวา ส่วนคุณวาเมื่อคืนก่อนผม มาสเตอร์ชไนเดอร์แล้วก็คุณก็อบก็ติวเข้มพิเศษให้แล้วละครับ ถึงจะไม่ถึงขั้นที่จะเอาชนะใครได้ แต่ก็คงไม่ให้ใครมาชนะได้ง่ายๆหรอกครับ

    งั้นที่มาไม่ทันแข่งก็เพราะไปซ้อมมาอย่างนั้นหรอค่ะ โซเฟียทำหน้าประหลาดใจ จากนั้นอมยิ้มขึ้น ถ้าอย่างนั้นหนูก็จะพยายามให้มากขึ้นเผื่อส่วนของคนอื่นละกันนะค่ะ

    ใจสู้สมเป็นนักเรียนชมรมอัศวินจริงๆนะครับ

    ขอบคุณค่ะ โซเฟียยิ้มแฉ่ง

    แล้วก็จากที่ผมดูการประลองของคุณมา ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากจะให้…..”  แต่ก่อนที่ซาซาไรจะพูดจบ วาก็พูดแทรกขึ้นมา

    โทษทีนะครับ ผมต้องขอตัวไปซ้อมปิงปองก่อนแล้วละครับ  วาฝืนยิ้มคล้ายอยากจะนั่งพักก่อนสักหน่อย

    ครับ พยายามให้เต็มที่นะครับ ซาซาไรชูมือให้

    มีอะไรก็โทรมาบอกละกันนะ ไปละ วาหันมากล่าวกับโซเฟียก่อนที่จะก้าวออกจากห้องพยาบาลไป  พร้อมคำพูดทิ้งท้ายจากอดีตคู่ปรับ

    เฮอะ ปิงปองมันสนุกตรงไหนนะ ก็อบกอดอกส่ายหน้า

     

     

    แฮ่กๆ หลังจากวิ่งกลับไปที่ห้องพักนักกีฬา วาก็รีบบึ่งมายังห้องซ้อมปิงปองทันที โดยเมื่อมาถึงก็พบว่า พรีสไซและโซลีนกำลังซ้อมกันอยู่อย่างขะมักเขม้น โดยมีระรินและสมาชิกในชมรมบางคนมานั่งคอยเป็นกำลังใจให้ด้วย

    อ้าว มาแล้วเรอะ พรีสไซที่กำลังโต้กับโซลีนอยู่หันมาทัก ทำให้ลูกปิงปองที่โซลีนโต้กลับมาเด้งผ่านหน้าตัวเองไป

    ตั้งใจหน่อยสิ ถ้าแข่งจริงแล้วเสียสมาธิแบบนี้จะไปชนะได้ยังไงกัน โซลีนเสียงเข้มจริงจัง คล้ายสนใจการซ้อมมากกว่าสิ่งอื่นใด

    เอาน่าๆ ยังไงชั้นก็รับลูกนั้นไม่ได้อยู่แล้วละ พรีสไซโบกมือเดินมาหาวาโดยไม่สนใจโซลีน นี่เขาไม่รู้ตัวเลยหรือไงว่าโซลีนน่ากลัวขนาดไหน สงสัยจะสนิทกันจนมองไม่เห็นรังสีกดดันจากกัปตันทีมมาดขรึมแล้วกระมัง

    มาเร็วดีนี่ ได้ดูการแข่งเมื่อสักครู่นี้หรือเปล่า พรีสไซเท้าสะเอว

    ถ้าหมายถึงคู่หลังจากโรงเรียนบริงเกอร์กับเรนครอสละก็ไม่ได้ดูหรอก วาหลบตาพรีสไซ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรเวลาคุยกับพรีสไซเขารู้สึกเหมือนโดนเจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังสอบปากคำอยู่ตลอดเวลา

    อืม ดีจริงๆ พรีสไซฉีกยิ้ม แต่ช่างมันเถอะ เพราะนั่นมันไม่สำคัญ ที่ชั้นต้องการให้นายดูก็คือ คู่ของบริงเกอร์กับเรนครอสเท่านั้นก็พอแล้ว

    จากนั้นดุนแว่นขึ้น

    เพราะที่ชั้นต้องการจะบอกก็คือ คู่แข่งรอบต่อไปที่เราจะเจอน่ะ……… ”

    พอเลยนายน่ะถอยไป โซลีนที่ก้าวเข้ามาเมื่อไหร่ไม่รู้ ผลักพรีสไซที่กำลังจะทำท่ากดดันวาออกไป

    เฮ้ แต่ชั้นแค่จะเตือนเขาเท่านั้นนะ พรีสไซอ้าปาก ไม่พอใจที่โซลีนผลักตัวเองไปเสียดื้อๆ

    คู่แข่งที่จะต้องเจอรอบต่อไป นายก็คงจะดีรู้อยู่แล้ว โซลีนกล่าวโดยไม่สนใจพรีสไซเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้โซลีนจะดูจริงจังกว่าพรีสไซ แต่วาก็รู้สึกชอบที่จะคุยกับโซลีนมากกว่า

    ครับ คู่แข่งคู่ต่อไปของเราคือ อดีตแชมป์เมื่อปีที่แล้ว ไกเซอร์ด้อม ทีมที่ได้ชื่อว่าไร้พ่าย   วาชิงพูดก่อน ชื่อเสียงของโรงเรียนนี้แม้แต่วาเองก็เคยได้ยินมาตั้งแต่เมื่ออยู่โรงเรียนเก่าแล้วว่ามีกิตติศัพท์เพียงใด

    ก็ดี โซลีนผยักหน้า   เพราะฉะนั้นก็เตรียมทำใจไว้ได้เลย

    เฮ้ ไหนบอกว่าจะไม่กดดันเขาไงละ พรีสไซทำหน้าเบ้

    ก็แค่พูดให้เตรียมใจไว้เท่านั้นเอง โซลีนบอกปัดเอาดื้อๆ แต่ว่าพวกเราก็ใช่ว่าจะยอมแพ้ง่ายๆเสียเมื่อไหร่กัน จริงไหม

    อืม วายิ้มรับ จากนั้นก็นึกถึงคำพูดของครอสขึ้นมา ใช่แล้วเขาจะต้องไม่แพ้เด็ดขาด

    ชั้นเองก็มั่นใจว่าด้วยฝีมือของชั้นกับนายน่าจะพอเอาชนะผู้เล่นของทีมนั้นได้สักคนบ้าง โซลีนทอดสายตา

    จะบอกว่าชั้นสู้พวกนั้นไม่ได้เรอะไงกัน พรีสไซเบ้ปาก

    พูดตรงๆนะ ชั้นว่ายาก โซลีนกล่าวแบบตรงไปมาตรงสุดๆ เล่นเอาพรีสไซถึงกับมีน้ำโหขึ้นมานิดๆ

    คอยดูเถอะ พรุ่งนี้ชั้นจะเอาจริงแบบสุดๆให้ดู แล้วนายจะต้องมองชั้นใหม่ พรีสไซชี้หน้าโซลีน ซึ่งโซลีนนั้นเพียงเค้นหัวเราะเบาๆเท่านั้น หากวาไม่ได้คิดไปเองนี่อาจจะเป็นแผนกระตุ้นแรงใจให้กับพรีสไซก็เป็นได้

    เอาละ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า โซลีนตัดบท ที่ชั้นเรียกนายมานี่ ก็เพราะต้องการจะบอกข้อมูลของคู่แข่งให้นายทราบก่อน เผื่อว่าเวลาแข่งจะช่วยนายได้บ้าง

    คนแรกเอจิส ฉายาไร้กลยุทธ์ แม้จะชื่อไร้กลยุทธ์แต่ที่จริงแล้วมีแผนการอยู่มากมาย เป็นคนที่น่ากลัวมากในเรื่องการอ่านทางของคู่ต่อสู้ เขาสามารถจับทางของคู่แข่งแล้วอาศัยทางที่คู่แข่งไม่ถนัดเล่นงานคู่แข่งได้ภายในเวลาอันสั้น หากต้องเจอกับคนๆนี้มีแต่จะต้องเอาชนะจุดอ่อนของตัวเองในการแข่งให้ได้เท่านั้น ส่วนเรื่องฝีมือนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะคนที่จะสามารถเล่นงานจุดอ่อนทุกรูปแบบของคู่แข่งได้ก็แสดงว่าจุดอ่อนของเขาแทบจะไม่มีเลยนั่นเอง

    วาพยักหน้ารับ แค่ความสามารถของคนแรกก็ไม่ธรรมดาขนาดนี้แล้ว คนต่อไปคงไม่ต้องพูดถึง เพียงแต่ว่าเท่าที่ฟังมาเอจิสคนนี้ยังไม่ทำให้วารู้สึกสนใจได้สักเท่าไหร่นัก

    คนต่อไปรองหัวหน้าทีมมุซาชิ ฉายาดาบคู่ไร้พ่าย เป็นนักปิงปองที่ใช้ไม้ปิงปองสองไม้ได้เชี่ยวชาญราวกับเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย มีทั้งการรุกและรับที่สมบรูณ์แบบในตัวเอง

    สองไม้อย่างนั้นหรอ วาเอ๊ะใจถามขึ้น เพราะปกติในการแข่งทั่วไปต้องถือไม้ปิงปองเพียงไม้เดียวเท่านั้น

    เข้าใจถูกแล้ว เพราะนี่เป็นการแข่งระดับมัธยมไงละ เรื่องกฎเล็กๆน้อยๆเช่นนี้จึงเอื้ออำนวยได้  โซลีนแจกแจง อีกอย่างคงไม่มีใครบ้าพอจะใช้ไม้ปิงปองสองอันเล่นหรอกจริงไหม

    มันก็จริงนะ   ถึงต่อให้ใช้สองไม้เล่นได้วาก็ไม่คิดว่าจะมีใครบ้าพอที่จะใช้ แต่นี่ถึงกับมีคนใช้ไม้ปิงปองสองไม้ขึ้นมาจริงๆ  วาจึงเริ่มรู้สึกสนใจที่จะแข่งกับมุซาชิขึ้นมา

    แต่ว่าฝีมือของเจ้านี่ร้ายกาจมาก บางทีอาจจะร้ายอาจพอๆกับดาบอัคคีทมิฬ และโล่น้ำแข็งแห่งแสงรวมกันเลยก็ได้

    แล้วคนสุดท้ายละ วายิ่งฟังยิ่งน่าสนใจ

    คนสุดท้ายกัปตันทีมไกเซอร์ด้อม ชื่อว่า ทรอน โซลีนกล่าวสั้นๆ หลุบตาลง

    แล้วยังไงต่อละ วาอยากรู้ถึงฝีมือของคนที่มีระดับเป็นถึงกัปตัน เพราะฟังจากฝีมืออันแสนจะพิสดารของลูกทีมทั้งสองคนก็น่าสนใจขนาดนั้นแล้วกัปตันทีมจะขนาดไหนกัน

    ชั้นรู้เพียงแค่นี้ละ โซลีนยิ้มเจือนๆ

    เฮ้ๆ ก็เรื่องที่เจ้านั่นตาบอดไงละ พรีสไซแทรกขึ้น ทำเอาวาต้องตั้งใจฟังใหม่ หรือว่าเรื่องของนักปิงปองตาบอดที่วาเคยได้ยินมาจะเป็นเรื่องจริงจริงๆ

    อืม เขาเป็นคนตาบอด โซลีนทอดถอนใจ

    หา ไม่อยากจะเชื่อ วาตกใจ แล้วคนตาบอดจะตีลูกปิงปองโดนได้ยังไงกัน ?! ”

    ไม่รู้สินะ ชั้นเองก็ไม่เคยเห็นเจ้านั่นแข่งเหมือนกัน เพราะว่าคู่แข่งคนอื่นไม่เคยมีใครเอาชนะสองคนแรกได้เลยน่ะสิ พรีสไสกล่าวเสริม พร้อมครุ่นคิด บางทีเรื่องฝีมืออาจจะไม่มีเลยก็ได้ เพราะชั้นก็ไม่เชื่อหรอกว่าคนตาบอดจะตีลูกโดน ถึงต่อให้ตีโดนก็ไม่มีทางเอาชนะคนตาดีได้หรอก แค่ตีลูกให้ลงโต๊ะชั้นว่ามันก็สุดๆไปแล้วละ คงเพราะโรงเรียนสงสารเลยให้ลงเป็นตัวจริงมั้ง

    อืม ถึงจะเป็นไปได้ แต่วาก็ไม่คิดว่าโรงเรียนระดับแนวหน้าอย่างไกเซอร์ด้อมจะยอมให้นักกีฬาตัวจริงเป็นคนตาบอดง่ายๆแบบนี้ ทั้งข่าวที่เขาเคยได้ยินมา  โรงเรียนที่มีผู้เล่นระดับแค่นั้นอย่าว่าแต่ให้มาแข่งกับเราเลย แค่ชนะไกเซอร์ด้อมให้ได้สักลูกสองลูกก็ถือว่าบุญเต็มทีแล้วละ ทั้งคำพูดของคิงอีก ยังมีอีกคนที่ชั้นยังไม่เคยแข่งด้วยอยู่ เขาคือ นักปิงปองตาบอดคนหนึ่ง คงจะต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่นอน

    เรื่องฝีมือน่ะ ชั้นไม่คิดว่าเป็นของปลอมหรอกนะ โซลีนกล่าวหนักแน่น ก่อนจะส่งสายตาจริงจังมาจับจ้องยังวาและพรีสไซ เพราะฉะนั้นไม่ว่าใครจะได้แข่งกับใครก็จะประมาทไม่ได้เข้าใจไหม

    ครับ วาขานรับ

    หึ ชั้นอาจจะเจอกับเจ้าคนที่ได้ชื่อว่าไร้กลยุทธ์จริงๆ พรีสไซยิ้มมุมปาก ที่คิดแบบนี้คงเพราะคำสบประมาทของโซลีนกระมัง นับว่าแผนกระตุ้นแรงใจได้ผลดีทีเดียว

    เอาละตอนนี้เรามาซ้อมกันเถอะ เรื่องจุดแข็งจุดอ่อนในการเล่นของนายสองคน ชั้นจะเป็นคนดูให้เอง โซลีนสั่ง

    ขณะที่วาและพรีสไซกำลังจะทำการซ้อม โดยที่พรีสไซเริ่มมีสีหน้าเอาจริงขึ้นมาแล้วนั้น วาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆสืบเข้ามาทางด้านหลัง ก่อนที่จะหันกลับไปพบว่าเป็นไลร่านั่นเอง

    เอ่อ ถ้าไม่รังเกียจให้เราช่วยเป็นคู่ซ้อมให้เอาไหม ไลร่ายิ้มละมุน สีหน้าดูอิดโรยเล็กน้อย แต่ความกังวลใจดูหายไปมากแล้ว

    มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย วารู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก

    อืม ก็ดีเหมือนกัน ต้องรบกวนเธอแล้วนะ โซลีนแสดงความขอบคุณ แล้วก็วันนี้เธอสู้ได้สูสีมาก ต้องขอยอมรับ เพียงแต่ชั้นรู้สึกว่าเธอจะรีบจนเสียจังหวะไปหน่อยนะ

    ไม่หรอก เราแพ้จริงๆ ไลร่ายิ้มเจือนๆ

    อย่างนั้นเรอะ โซลีนพยักหน้ารับ แต่ก็ดูออกว่าไม่ค่อยเชื่ออยู่ดี  วาที่ฟังอยู่ก็ถึงกับคิดขึ้นมาได้ว่าตอนนั้นจู่ๆไลร่าก็ดูเร่งรีบขึ้นมาจริงๆ

    ว่าแต่ตอนที่แข่งอยู่น่ะ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า วาถามขึ้น ทำเอาไลร่าต้องหันมามองหน้าเขาด้วยความแปลกใจ

    ไม่นิ จากนั้นโยนลูกปิงปองในมือขึ้น ตัดบททันที ว่าแต่พร้อมจะซ้อมกันรึยังละ พรุ่งนี้ต้องนายต้องเจอศึกหนักกว่าเราอีกไม่ใช่หรอไง

    อืม เมื่อไม่อยากพูดวาเองก็ไม่อยากถามต่อเหมือนกัน จึงหันไปซ้อมมือให้เต็มที่ดีกว่า อย่างน้อยเขาคิดว่าวันนี้ต้องเอาแต้มจากไลร่าให้ได้สักลูกก็ยังดี

     

     

    นี่เขาไม่สามารถทำแต้มจากไลร่าได้เลยแม้แต่ลูกเดียวจริงๆหรือเนี่ย  หลังจากซ้อมกันด้วยเวลายาวนานกว่าสามชั่วโมงโซลีนก็ขอบคุณไลร่า และสั่งให้ทุกคนพักได้

    เอาละเรื่องจุดแข็งจุดอ่อน และวิธีรับมือชั้นก็บอกไปหมดแล้ว ที่เหลือนายก็ไปพักผ่อนและทำใจให้สบายๆ พรุ่งนี้เช้าตื่นให้ทันก็แล้วกัน ไม่งั้นชั้นจะปลุกให้ โซลีนกำชับ

    จากนั้นโซลีนก็เดินจากไป โดยที่คราวนี้ไม่มีพรีสไซเดินตามไปด้วย 

    ไหนเราลองตีลูกตัดมาทางด้านซ้ายของพี่หน่อยสิ พรีสไซสั่ง

    เห็นพรีสไซยังคงขะมักขะเม้นกับการซ้อมกับระรินต่อ คงเป็นเพราะคำพูดกระตุ้นจากโซลีนยังส่งผลอยู่แน่นอน แต่ถึงกระนั้นวาก็ไม่คิดที่จะซ้อมต่อแล้ว เพราะเขาทราบดีว่าหากซ้อมมากเกินไปพรุ่งนี้อาจจะเกิดอาการล้าก่อนได้ แถมยังต้องต่อสู้กับคู่แข่งระดับหินที่สุด หากสมาธิขาดเพราะงัวเงียจากการนอนไม่พอเขาคงจะต้องไม่พอใจแน่นอน ดังนั้นจึงขอตัวพรีสไซ และระรินออกมาก่อน

     

     

    ขอบคุณมากนะที่วันนี้มาช่วยเป็นคู่ซ้อมให้อีก วาหันมากล่าวกับไลร่าขณะกำลังเดินกันอยู่

    ไม่เป็นไรหรอก ไลร่าส่ายหน้า  ล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง จริงๆ ก็มีเรื่องอยากจะให้ช่วยอยู่แล้วละ

    ซองจดมหายสีขาวธรรมดาๆซองหนึ่งถูกยื่นเข้าหาตัววา  ที่มุมซ้ายเพียงเขียนสั้นๆว่าถึง เจ้าชายเท่านั้น

    หรือว่านี่……… ” วารับมาอย่างอ้ำๆอึ้งๆ อย่าบอกนะว่านี่จะเป็นจดหมายรัก แต่ก่อนที่วาจะคิดไปมากกว่านั้นไลร่าก็ชิงพูดขึ้น คลายความวิตกให้วาลงก่อน

    ใช่แล้วค่ะ นี่คือสิ่งที่อยากจะให้ช่วย ไลร่าตอบ ช่วยส่งจดหมายนี่ไปให้แนชด้วยนะค่ะ แต่ว่าอย่าลืมนะค่ะ ไม่ว่าแนชจะถามอะไรก็ตาม ห้ามบอกเด็ดขาดว่าใครเป็นคนส่งมาให้นะค่ะ

    ใจจริงวาอยากจะถามว่า แอบชอบรุ่นพี่อยู่ใช่ไหม แต่ก็ไม่กล้าถาม ความจริงนี้ก็น่าจะรู้อยู่แล้ว วาจึงได้แต่ถอนหายใจ

    เป็นอะไรหรือเปล่า ไลร่าเอียงคอ

    เปล่าหรอก แล้วจะส่งให้นะ วาหลบตา ก่อนจะหันกลับไปยิ้มให้อย่างปกติ อย่างน้อยถึงไลร่าจะไม่ได้ชอบเขา เขาก็น่าจะดีใจกับรุ่นพี่สิถึงจะถูก

    ขอบใจมากนะ ไลร่ายิ้มแฉ่งมือไขว้หลัง เดินถอยไปสองก้าว จากนั้นหันมากล่าวกับวา งั้นพรุ่งนี้ก็ขอให้โชคดีในการแข่งนะค่ะ แล้วจะมาเชียร์เป็นกำลังใจให้นะ

    ครับ วาโค้งให้ หายใจเข้าลึกๆ เออ เดี๋ยวก่อนสิครับ

    วารีบรั้งไลร่าไว้ก่อนที่เธอจะเดินจากไป

    มีอะไรหรอค่ะ ไลร่ายักคิ้ว

    อ๋อ เปล่าหรอกครับ โทษทีนะครับ วาโบกมือให้กับไลร่าที่ยิ้มให้กับเขาก่อนที่จะเดินจากไป เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจู่ๆก็เรียกเธอออกไป  จะเป็นเพราะความสงสัยหรือเพราะอะไรเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ตอนนี้เขาจึงคิดว่าควรจะไปหาไซโคร แนชเพื่อส่งจดหมายนี้ให้ก่อน หรือว่ารอให้ถึงวันพรุ่งนี้ค่อยยื่นให้ดี

    ยกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาคู่ใจ เป็นเวลาสามทุ่มสิบ ยังมีเวลาเหลืออีกเยอะ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจแวะไปหาไซโคร แนชก่อน เผื่อจะได้ไปดูอาการดีว่า และพบมาสเตอร์ซาซาไรและคนอื่นๆด้วย

    เมื่อไปถึงก็พบว่าไซโคร แนชฟื้นแล้ว โดยมีก็อบ มาสเตอร์ชไนเดอร์เฝ้าไข้อยู่ แถมคราวนี้ดูจะมีเรี่ยวแรงมากขึ้นกว่าตอนบ่ายเสียอีก ส่วนมาสเตอร์ซาซาไร ดีว่าและโซเฟียนั้นไม่อยู่ สงสัยคงจะออกไปซ้อมต่อ ไม่ก็อยู่ในระหว่างผลัดเวรเฝ้าอาการไซโคร แนช

    วายิ้มเดินตรงรี่เข้าไปหาไซโคร แนชทันที

    เป็นยังไงบ้างครับ

    ก็ดีขึ้น ไซโคร แนชตอบเสียงเรียบเหมือนคนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน แสดงว่าอาการดีขึ้นแล้วจริงๆ

    ขอให้หายไวๆนะครับ แล้วก็มีคนฝากของมาให้ด้วยละครับ ฮ่าๆ วาหัวเราะอย่างยินดี วางจดหมายลงยังตู้เล็กๆที่ข้างเตียงนอน

    ไซโคร แนชจะต้องชอบใจแน่นอนถ้ารู้ว่าเป็นใคร

    หืม ? ” ไซโคร แนชขมวดคิ้ว หยิบซองจดหมายปริศนานั้นขึ้นมาช้าๆ กวาดสายตามองราวกับจะพิจารณาว่าใครเป็นผู้ส่งมากันแน่ ก่อนที่จะหยุดสายตาตรงมุมซ้ายบนที่เขียนว่า ถึง เจ้าชาย

    สีหน้าของไซโคร แนชเปลี่ยนไปเป็นตึงเครียดขึ้น ส่วนวานั้นยังคงยิ้มอย่างดีใจคิดว่าไซโคร แนชคงจะกำลังประหลาดใจอยู่

    มือทั้งสองของไซโคร แนชสั่นขึ้นเล็กน้อย รวบรวมเรี่ยวแรงค่อยๆแกะสติ๊กเกอร์รูปหัวใจสีแดงที่ปิดผนึกออก ก่อนที่จะหยิบแผ่นกระดาษสีขาวธรรมดาแผ่นหนึ่งขึ้นมาอ่าน

    สายตากวาดตามตัวอักษรที่มีอยู่ทั้งหมดอย่างช้าๆ ราวกับว่าหากอ่านเร็วไปกว่านี้ตัวอักษรที่มีอยู่จะหลุดลอยออกไปจากหน้ากระดาษก็มิปาน อาการใจจดใจจ่อของไซโคร แนชยิ่งทำให้วาอมยยิ้มอย่างมีความสุขขึ้นไปอีก

    ยินดีด้วยนะครับรุ่นพี่ ฮ่าๆ ผมก็อยากจะบอกนะครับว่าเป็นใคร แต่เขาอายไม่กล้าบอก รุ่นพี่คงต้องอดใจรอไปก่อนนะครับ วาเตรียมพูดประโยคนี้กับไซโคร แนชเต็มที่

    คะ ใครเป็นคนส่งจดหมายนี่ให้เจ้า ไซโคร แนชจ้องวาตาเขม็งไม่คล้ายคนที่มีอาการดีใจสักเท่าไหร่ แววตาร้อนรุ่มอย่างเห็นได้ชัด

    ฮ่าๆ เรื่องนั้นคงบอกไม่ได้หรอกครับ วาแหย่

    มือทั้งสองของไซโคร แนชผลันกำแน่นสั่นระริกขึ้น เลือดลมสูบฉีดขึ้น

    หมับ !

    คอเสื้อของวาถูกกระชาก ทำให้ร่างของเขาถูกดึงไปด้านหน้าตามแรงจากมือขวาของไซโคร แนชโดยที่เจ้าตัวไม่ทันตั้งตัว

    ข้าถามว่าใครเป็นคนส่งจดหมายนี้ให้กับเจ้า ! ไซโคร แนชเค้นเสียง สีหน้าดูน่ากลัวเกินกว่าจะเป็นการล้อเล่น หรือเขินอายเพราะต้องการอยากรู้

    วากลืนน้ำลายอึกหนึ่ง ในหัวสับสนไปหมดไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ในจดหมายนั้นเขียนอะไรไว้กันแน่ หรอว่ารุ่นพี่ไม่เคยมีคนมาบอกรักแล้วเขินอายจนทำตัวไม่ถูกกันแน่

    ใจเย็นๆก่อนสิครับ คือว่า……… ” วายกมือทั้งสองข้างห้าม

    บอกมาเดี๋ยวนี้ ใครเป็นคนส่งจดหมายนี้ให้กับเจ้า แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ?! ” คราวนี้ไซโคร แนชกล่าวเสียงกร้าวเล่นเอาวาสะดุ้งขึ้นมาทันที ไซโคร แนชในตอนนี้น่ากลัวที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมาเลยทีเดียว ราวกับเป็นคนละคน

    ก็อบที่นั่งประสานอินอยู่ถึงกับตกใจ

    เฮ้ ! เกิดอะไรกันขึ้น ก็อบรีบเดินเข้ามาหา

    มีอะไรค่อยๆพูดกัน ที่นี่ห้องพยาบาลนะ อย่าเสียมารยาท ! มาสเตอร์ชไนเดอร์สั่งเสียงแข็ง เพิ่มความกดดันให้แก่บรรยายอีกหลายเท่าตัว

    แต่ไซโคร แนชไม่มีท่าทีว่าจะเชื่อฟังเลยแม้แต่น้อย กลับยิ่งกระชับคอเสื้อวาให้แน่นขึ้นกว่าเดิม

    คะ คือ วาทำตัวไม่ถูก เขารู้สึกว่าอากาศหายใจหายไปเล็กน้อยจากการถูกเสื้อรัดคอ แต่ถึงกระนั้นจะให้เขาผิดสัญญาที่ให้ไว้กับไลร่าก็ไม่ได้ด้วย ใจเย็นๆก่อนสิครับ ปล่อยผมก่อนผมอึดอัดนะครับ

    บอกมาเดี๋ยวนี้ !

    ปัก !

    มือที่กุมคอเสื้อของวาไว้ค่อยๆคลายออก ไซโคร แนชหมดสติไปในทันทีด้วยฝ่ามืออันรวบรัดของมาสเตอร์ ชไนเดอร์

    มะ มาสเตอร์ ! ก็อบอ้ำๆอึ้งๆ การตัดสินใจของมาสเตอร์ชไนเดอร์ออกจะดูรุนแรงไปหน่อยสำหรับคนป่วยอย่างไซโคร แนช แต่ก็นับว่าเป็นวิธีการในแบบของมาสเตอร์ไชเดอร์จริงๆ

    แฮ่กๆ

    วาลูบคอตัวเองอย่างตกใจ เขาไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

    ขอบคุณครับ เขารีบกล่าวขอบคุณ

    เรื่องของพวกเจ้าสองคนค่อยไปจัดการกันเองทีหลังก็แล้วกัน มาสเตอร์ชไนเดอร์กล่าวอย่างไม่แยแส นำสองนิ้วกดตรวจที่ชีพจรต้นคอไซโคร แนชเมื่อพบว่าไม่เป็นอะไรมากก็กลับไปนั่งยังเก้าอี้ตัวเดิมราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

    นี่มันเรื่องอะไรกัน ก็อบเค้น

    เราก็ไม่รู้เหมือนกัน วายิ้มอย่างหน้าเสีย เพียงแค่รุ่นพี่อ่านจดหมายฉบับนี้เท่านั้นแหละ

    ไหนขอข้าดูหน่อยสิ ก็อบทำท่าจะคว้าจดหมายไปเปิดอ่าน แต่ถูกวาสกัดเอาไว้

    ไม่ได้นะ มันเป็นความลับของคนอื่น

    ก็อบหรี่ตาลงจ้องหน้าวา

    งานล้วงความลับมันก็เป็นงานของนินจาอย่างพวกข้าอยู่แล้ว ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ก็อบยิ้มชั่วร้าย

    ไม่ได้นะ วาพยายามดึงจดหมายที่ถูกชิงไปคืนมา

    ก็อบ ! มาสเตอร์ชไนเดอร์ที่นั่งกอดอกเรียกเสียงแข็ง อย่าเสียมารยาท

    ขะ ขอรับ ก็อบจึงจำต้องคืนจดหมายให้แก่วาแต่โดยดี แม้จะทำท่าอยากรู้อยู่ก็ตาม

    วาเห็นท่าไม่ค่อยดีจึงกล่าวขอตัวไปก่อน

    หึ แค่เจ้าเปิดอ่าน เจ้าก็จะรู้แล้วละว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าไม่กล้าละก็เอามาให้ข้าเปิดดูก็ได้นะ รับรองว่าความลับจะไม่รั่วไหลอย่างแน่นอน ก็อบยิ้มเจ้าเล่ห์

    ไม่เป็นไร ขอบใจนะ วาปฏิเสธ เดินออกจากห้องพยาบาลที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด

    ขณะที่วากำลังเดินกลับไปยังห้องพักนักกีฬา เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก นั่นเป็นเพราะเขาไม่เคยเห็นไซโคร แนชเป็นเช่นนี้มาก่อน

    ที่แท้ข้อความในจดหมายนี้ซ่อนอะไรไว้กันแน่นะ ?

    ยิ่งคิดยิ่งอยากเปิดดู แต่ด้วยความที่สัญญาไว้กับไลร่า และด้วยนิสัยส่วนตัวของวาที่ไม่ชอบรู้ความลับของคนอื่นถ้าเขาไม่ได้อนุญาตแล้วด้วย จึงจำแต่จะต้องเก็บความสงสัยเอาไว้

    เรื่องนี้คงต้องรอให้เจอกับไลร่าอีกครั้งเท่านั้นถึงจะถามได้ ไม่ก็รอให้รุ่นพี่หายดีเสียก่อน แต่กลัวว่ารุ่นพี่จะยังไม่หายโกรธเราแล้วเป็นแบบวันนี้อีก นี่เราควรจะทำยังไงดีนะ

    บางครั้งการเป็นตัวกลางของเรื่องบางเรื่องก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป เพราะมันอาจนำปัญหามาสู่ตัวเราได้ ฉะนั้นคนเราควรคิดให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจรับปากอะไรไป

    วาหยิบซองจดหมายเจ้าปัญหาขึ้นมาพลิกไปมาช้าๆอยู่หลายรอบ พยายามห้ามใจไม่ให้เปิดดูข้อความที่เขียนไว้ด้านใน

    เรื่องบางเรื่องไม่รู้ก็เป็นทุกข์ บางเรื่องยิ่งรู้ก็ยิ่งเป็นทุกข์ ดังนั้นเราควรแยกแยะให้ออก และรู้จักการปล่อยวาง จึงจะทำให้เรามีความสุขได้

    นี่ เสียงเล็กแหลมหนึ่งดังขึ้น ทำลายความคิดที่จะเปิดซองจดหมายของวาลงในทันที

    อ้าว สโนว์หรอ วามองไปยังสโนว์ที่ไม่ทราบว่ามายืนอยู่ตรงหน้าของตนตั้งแต่เมื่อไหร่ด้วยความประหลาดใจ

    มาทำอะไรอยู่แถวนี้หา ? สโนว์ถามยิ้มมุมปาก สายตาของเธอสะกดวาได้อีกครั้ง

    ความจริงวายังไม่ลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนบ่าย แต่ด้วยความแปลกใจที่จู่ๆสโนว์ก็มายืนอยู่หน้าทำให้เขาลืมเรื่องทุกอย่างไปจนหมดสิ้น

    พอดีมาเยี่ยมรุ่นพี่น่ะ วารู้สึกดีใจอย่างประหลาด ทั้งๆที่เขาเพิ่งถูกสโนว์ทำร้ายจิตใจมาอยู่หยกๆ ว่าแต่เธอเถอะ มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน ไม่สิแล้วไม่ต้องกลับบ้านหรอ คนที่จะค้างได้ต้องเป็นนักกีฬาเท่านั้นไม่ใช่เรอะยังไงกัน

    แล้วจะทำไมละ สโนว์กวนกลับ เธอมักจะเป็นแบบนี้เสมอเมื่อรู้สึกไม่พอใจอะไรบางอย่าง เล่นเอาวาตั้งตัวไม่ถูกประจำ แต่เขาก็รู้ดีว่าควรจะตอบกลับไปอย่างไร

    ก็ไม่ทำไมหรอก แค่เป็นห่วงก็เท่านั้นเอง วายิ้ม เขาเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมจู่ๆถึงพูดอะไรแบบนี้ออกไปได้ง่ายๆ ทั้งๆที่ปกติเขาแทบจะไม่เคยพูดอะไรแบบนี้กับใครเลย

    สโนว์ยิ้มขึ้น จากนั้นราวกับคิดถึงเรื่องบางเรื่องขึ้นมาได้ รอยยิ้มน้อยๆก็หุบลงก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นคำพูดประชดประชันขึ้น

    เดี๋ยวนี้หัดพูดอะไรหวานๆกับผู้หญิงเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ใครเป็นคนสอนนะ หรือว่าจะเป็นแม่สาวคนนั้น สโนว์เบ้ปาก แต่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ เพราะเรามีคนเป็นห่วงแล้วละ

    เมื่อได้ยินเช่นนี้รอยยิ้มของวาก็หุบลงเช่นกัน ในจิตใจคล้ายถูกมีดกรีดขึ้นอีกครั้ง

    ไม่ใช่หัดพูดสักหน่อย ก็เธอเองไม่ใช่หรอที่เป็นคนบอกให้เราหัดพูดความในใจออกมาบ้าง วาอยากจะโต้กลับ แต่พยายามข่มกลั้นอารมณ์เอาไว้ โดยการสูดหายใจเข้าลึกๆ เขารู้ดีว่าหากประชดสโนว์กลับไปจะเกิดอะไรขึ้น

    หรอ ถ้าอย่างนั้นก็ขอโทษด้วยนะ วายิ้มเจือนๆ พยายามซ่อนความเสียใจเอาไว้

    สโนว์ย่นปากกลอกตาดูสีหน้าวาอยู่สักพักหนึ่ง ราวกับต้องการจะอ่านให้ออกว่า วารู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อสักครู่นี้หรือไม่ แต่ดูจากรอยยิ้มบนใบหน้าแล้วไม่น่าจะรู้สึกเสียใจเลยสักนิด

    พอดีเราขออนุญาตอาจารย์ทวิตตี้ไว้ว่าจะขออยู่ดูการแข่งที่นี่ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันสุดท้ายไว้นานแล้วละ สโนว์เปลี่ยนเรื่อง

    อืม วาพยักหน้ารับ อาจารย์ทวิตตี้เป็นอาจารย์ประจำชั้นที่โรงเรียนเก่าตอนมัธยมสี่ของเขา แถมยังมีหน้าที่พิเศษเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองอีกด้วย เธอเป็นอาจารย์หญิงสูงอายุท่าทางใจดีคนหนึ่ง  มีเอกลักษณ์ประจำตัวคือ ผมที่ขาวโผลนและแว่นตาทรงกลมอันเล็กที่เมื่อสวมใส่อยู่แล้วราวกับมันจะร่วงหล่นลงจากดั้งจมูกเล็กๆของเธอได้ตลอดเวลา  ถึงจะจู้จี้ในการสอนไปบ้างแต่ก็เป็นหนึ่งในอาจารย์ไม่กี่คนที่วารู้สึกนับถือเพราะความใจดีและมีเหตุผลของเธอ  อีกทั้งเธอยังให้ความเอ็นดูแก่ สโนว์เป็นพิเศษด้วย

    ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าสโนว์ขออนุญาตแล้วเธอจะไม่ปฏิเสธ

    แล้วอาจารย์ท่านสบายดีไหม วาถามอย่างห่วงใย ในใจนึกย้อนไปถึงวันเก่าๆ

    สบายดีเลยละ แกยังบ่นถึงนายอยู่เลยนะ สโนว์เท้าสะเอว   บ่นว่าเจ้าตัวยุ่งประจำห้องโดนไล่ออกแล้วจะไปก่อกวนที่โรงเรียนอื่นให้วุ่นวายหรือเปล่านะ

    ฮ่าๆ จริงหรอ ถ้ามีเวลาสงสัยต้องแวะไปเยี่ยมท่านสักหน่อยแล้วละ วายิ้มร่า

    จ๊ะ คงจะโดนเขกหัวอีกตามเคยแหละนายน่ะ สโนว์แซว

    ใช่สิ เรามันไม่ใช่ศิษย์รักแบบเธอนี่ ว่าแต่ทำไมเธอถึงอยากจะค้างที่นี่หรอ วาอดใจถามไม่ได้ เขาแอบหวังเล็กๆเสียด้วยว่าเธอจะบอกว่าค้างเพราะอยากเชียร์เขาแม้จะเป็นเหตุผลเล็กๆก็ตาม

    พอดีที่นี่น่าสนใจดี อีกอย่างเราอยากเปิดหูเปิดตาดูการแข่งหลายๆอย่างน่ะ

    อืม แล้วเหตุผลอื่นละ วาซักไซ้

    เหตุผลอื่นที่ว่าหมายความว่ายังไง สโนว์ขมวดคิ้ว

    อย่างเช่น อยากมาเชียร์เราอะไรทำนองนี้ไง วาเกาหัวเขินอาย

    อ๋อ เรื่องนั้นนะหรอ แน่นอนอยู่แล้ว สโนว์ยิ้ม วาอยากรู้จริงๆว่าภายใต้ดวงตานั้นแฝงความจริงจังในคำพูดมากน้อยเพียงใดกัน  แต่สักพักแววตาที่เป็นประกายของสโนว์ก็หลุบตาลง เบือนหน้าไปทางอื่น

    แต่ที่สำคัญกว่านั้นนายคงรู้ใช่ไหมว่าเรามาเชียร์ครอสด้วย

    หัวใจของวาตกวูบ สมองคล้ายชาไปส่วนหนึ่ง

    ว่าแล้ว ไม่น่าถามเลยให้ตายสิ วาสูดหายใจเข้าลึกๆ สะกดความโมโหซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่ามันมาจากไหนเอาไว้

    พรุ่งนี้ครอสก็แข่งด้วยละ สโนว์ชำเลืองมามองวาขณะกล่าว เห็นวาก้มหน้ายิ้มอยู่

    อืม อย่างนั้นหรอ วาทวนคำพูดราวกับคนไม่มีสติ นี่เธอไม่คิดจถามมั่งเลยรึยังไงว่าเราก็แข่งด้วยหรือเปล่า

    เห็นบอกว่าโรงเรียนที่แข่งด้วยก็เก่งเอาเรื่องเหมือนกันนะ แต่ก็บอกอีกนั่นละว่าเอาชนะได้สบายๆ สโนว์พูดต่ออย่างไม่แยแส

    พูดถึงครอสนี่ก็เก่งนะ ตั้งแต่แข่งมายังไม่เคยแพ้ใครเลย ไม่แน่นะอาจจะได้แชมป์ก็ได้นะถ้าไม่แพ้…….

    พะ พอได้รึยัง !!! จู่ๆวาก็เค้นเสียงอย่างไม่พอใจขึ้น ความอดทนที่กลั้นเอาไว้ทั้งหมดพังทลายลงในทันใด

    สโนว์ที่กล่าวอยู่ถึงกับตกใจปิดปากเงียบในทันที

    เป็นอะไรของเธอน่ะ เธอถามเสียงค่อย สีหน้าเป็นกังวล

    อะไรๆก็ครอสๆ วาโกรธเลือดขึ้นหน้า ถ้าเป็นห่วงกันมากก็รีบไปหาซะสิ !

    ตาจ้องตา คราวนี้วาไม่สนอะไรอีกแล้ว เขาจะไม่ยอมทนอีกต่อไป พอกันทีถ้ารักกันมากขนาดนั้นละก็…….

    น่ารำคาญที่สุด เราเกลียดเธอจริงๆ เธอมันไม่เคยพอ ! วากล่าวต่อโดยไม่มีโอกาสให้สโนว์เอ่ยปากพูดอะไรทั้งสิ้น

    สโนว์ที่ได้ยินเริ่มตาแดงขึ้นมา ทะ ทำไมต้องว่ากันถึงขนาดนี้ด้วย กล่าวเสียงสั่นเครือ

    ถ้ามันเก่งมากขนาดนั้น ดีมากขนาดนั้นช่วยไปรักกันไกลๆหน่อยนะ เพราะเรารำคาญเต็มทนแล้ว แล้วก็ฝากไปบอกมันด้วยนะ ถ้าเก่งจริงก็อย่าเก่งแต่ปาก เอาชนะเราให้ได้ก่อนแล้วค่อยอวดโม้เถอะ !

    มากไปแล้วนะวา

    พูดถึงตอนนี้สโนว์เริ่มน้ำตาคลอแล้ว หากเป็นปกติหรือเมื่อก่อนถ้าวากล้าพูดถึงขนาดนี้มีหวังโดนตี ไม่ก็โดนตวาดกลับไปแล้ว แต่คราวนี้เธอกลับทำได้เพียงแค่สะอื้นเท่านั้น

    ใจร้ายที่สุด สโนว์กัดฟันกล่าวเสียงสั่น น้ำตาไหลลงอาบแก้ม

    เฮ้ แกน่ะ ! เสียงชายคนหนึ่งตะโกนดังขึ้นมาจากด้านข้างของวา และทันทีที่วาหันไปนั้น

    ขวับ !

    หมัดหนักๆหมัดหนึ่งก็พุ่งเข้าเต็มแก้มข้างขวาของวา ทำเอาวาเซถอยไป หัวมึนงง แต่ก่อนที่จะคิดถึงเรื่องความเจ็บปวดที่ได้รับนั้น

    วาก็หันขวับไปยังเจ้าของหมัด พร้อมปล่อยหมัดซ้ายสวนไปในทันที  หมัดนี้ไม่ได้ตั้งใจปล่อยใส่หน้า แต่เพราะร่างกายของวาเซจึงจงใจต่อยใส่ท้องซึ่งเป็นจุดที่ใกล้ที่สุดเท่าที่สติจะสั่งการได้

    ปุก

    ชายคนนั้นโดนหมัดของวาเข้าเต็มๆ ถึงกับทรุดลงไป

    แก ! ชายคนนั้น หรือก็คือ ครอสเจ้าของเรื่องที่เพิ่งถูกกล่าวถึงเมื่อครู่นั่นเอง เขาเห็นวาตะโกนว่าสโนว์ จากนั้นกล่าวถากถางถึงตนก็เกิดน็อตหลุดซัดหมัดใส่วาโดยไม่คิดอะไรทั้งสิ้น

    ครอสกัดฟันกรอดด้วยความโกรธแม้จะรู้สึกจุกที่ท้องอย่างรุนแรงแต่ก็ยันตัวขึ้นพร้อมพุ่งเข้าไปหมายจะซัดวาต่อ

    รังแกผู้หญิงคิดว่าตัวเองแน่มากใช่ไหม ครอสตะโกนลั่นด้วยความโกรธ แล้วไอ้ที่ปากดีเมื่อตะกี้นี้ อยากเจอชั้นมากใช่ไหม งั้นก็เข้ามาเลยสิ ! ”

    วาไม่โต้ตอบอะไรกลับไปทั้งสิ้น ในตอนนี้เขาคล้ายไม่มีสติรับรู้อะไรทั้งนั้น ความกดดันจากหลายๆเรื่องทำให้เขาเพียงแต่ต้องการจะซัดหน้าของครอสให้ล้มหงายไปก็พอ ซึ่งปกติเขาเองก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ขนาดโดนพวกก็อบ โกจิเล่นงานวันแรกของการเข้าเรียน หรือแม้แต่เซตที่เข้ามาหาเรื่องตอนแรกก็ยังไม่รู้สึกโมโหเท่าตอนนี้  ดังนั้นเขาวิ่งเข้าหาครอสโดยไม่สนว่าสภาพหน้าตัวเองที่ถูกต่อยไปนั้นเป็นอย่างไร และที่สิ่งกำลังทำอยู่นั้นคืออะไรกันแน่

     

     


                                        __________________________________________________

      





     




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×