คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #50 : บทเรียนที่ 45 ฟูจิน และไรจิน
บทเรียนที่ 45 ฟูจิน และไรจิน
“ เอาละครับทุกท่านการประลองอาวุธคู่แรกของเช้าวันนี้ระหว่างโรงเรียนอับดุล อินเตอร์ และโรงเรียนฮิงะกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้าแล้ว ขอให้ท่านที่ยังไม่มีที่นั่งรีบหาที่นั่งกันด้วยครับ ” ชายนักประกาศหน้านิ่งเจ้าเก่ากล่าวขึ้น ท่ามกลางเสียงปรบมือที่ดังกึกก้องไปทั่วห้อง
ดีว่าที่นั่งอยู่ข้างเวทีพยายามสะกดความตื่นเต้นเอาไว้ แม้เขาจะเคยผ่านการประลองมาแล้ว แต่นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่เขาได้ขึ้นมาเหยียบบนเวทีการประลองระหว่างสถาบัน เป็นเวทีเดียวกับที่พี่ชายของเขาเคยขึ้นมายืนต่อสู้ และก็เป็นเวทีเดียวกับที่ซากุระขึ้นมาต่อสู้แล้วเช่นกัน ซ้ำการประลองครั้งนี้ยังมีแค่เขากับโซเฟียเพียงสองคนเท่านั้น
“ สรุปหมอนั่นคงมาไม่ได้ใช่ไหม ” โซเฟียที่กำลังใส่ชุดเกราะถามขึ้น
“ คงจะเป็นอย่างนั้นละครับ ” ดีว่ายิ้ม “ ไม่รู้ว่าตอนนี้จะฝึกไปถึงไหนแล้ว หรือไม่ก็อาจจะสลบไปแล้วก็ได้ครับ ”
“ แหะๆ ขนาดนั้นเชียวหรอ ” โซเฟียยิ้มแหยงๆ คล้ายกำลังคิดภาพวาในสภาพล่อแล่หลังจากการฝึกหนัก แม้เมื่อวานเธอจะไม่ได้เจอกับเขา และอาจารย์ที่ตามมาคุมด้านการประลองอาวุธเลยก็ตาม แต่เท่าที่ดีว่าเล่าให้ฟังดูเหมือนว่า การฝึกคงจะเข้มงวดมิใช่น้อย
แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่มีเวลาหลงเหลือให้คิดเรื่องอะไรทั้งสิ้นอีกแล้ว ทั้งนี้เพราะคู่แข่งจากโรงเรียนฮิงะบัดนี้เตรียมพร้อมอยู่บนเวทีเรียบร้อยแล้ว
“ ก่อนอื่นขอเชิญตัวแทนโรงเรียนอับดุลอินเตอร์ออกมาที่ด้านหน้าเพื่อทายหัวเหรียญ และกำหนดกฎในการแข่งรอบนี้ด้วยครับ ” เด็กชายนักประกาศกล่าวขึ้น
“ ไม่เป็นไรครับผมไปเอง คุณโซเฟียใส่ชุดเกราะรอไปก่อนได้เลยครับ ” ดีว่าบอกโซเฟียเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะก้าวขึ้นไป
ด้านบนเวทียืนไว้ด้วยนักเรียนในชุดนินจาผู้หนึ่ง ที่บนหน้าผากของเขาคาดไว้ด้วยที่ป้องกันหัวนินจาสีดำมีตราสัญลักษณ์โรงเรียนฮิงะซึ่งเขียนเป็นตัวอักษรคันจิอยู่ ที่ปากถูกปิดด้วยผ้าสีดำตามสไตล์นินจา ที่คอพันไว้ด้วยผ้าพันคอสีแดงชวนให้ดูน่าเกรงขาม ด้านหลังสะพายไว้ด้วยดาบนินจา ซึ่งดูเหมือนว่าจะสามารถชักออกมาโจมตีได้ถูกเมื่อ แต่ที่ทำให้นินจาผู้นี้สะดุดตาดีว่ามากที่สุดไม่ใช่ผมที่ตั้งยาวจนเกือบจะปิดตา แต่เป็นเพราะดีว่าเคยเจอกับนินจาคนนี้มาก่อนต่างหาก
ใช่แล้วนินจาผู้นี้คือ ชิโนบิ มาซาซึมุ ฉายา นินจากระเพาะเหล็กที่เมื่อวานเพิ่งลงแข่งกินจุไปนั่นเอง !
มาซาซึมุยืนหลับตาประสาน(นิ้ว)แน่นิ่ง ไม่มีท่าทีว่าจะลืมตาขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย
‘ ฟิ้ว ’
สายลมสั้นๆสายหนึ่งพัดผ่านหน้าของมาซาซึมุไป ผ้าพันคอสีแดงพลิ้วตามกระแสลมเล็กน้อย ทำให้มาซาซึมุค่อยๆลืมตาขึ้น และก็ต้องกับสายตาของดีว่าที่จดจ้องอยู่ก่อนแล้ว
“ เป็นเจ้าเองรึที่ปลุกข้าให้ตื่นขึ้น ” มาซาซึมุจ้องไปยังดีว่า สายตาดูจริงจัง และมีสมาธิ แถมยังแฝงกลิ่นอายฆ่าฟันชนิดที่เรียกได้ว่าแตกต่างจากมาซาซึมุคนเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง อาจจะมีเหมือนกันเพียงอย่างเดียวคือความเพี้ยนก็เป็นได้
ดีว่าไม่ได้ตอบเพียงยิ้มให้เล็กน้อย ความรู้สึกตื่นเต้นกำลังไหลผ่านไปทั่วตัวของเขา แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกร้อนรนแต่อย่างใด กลับกันมันยิ่งทำให้เขารู้สึกว่ายิ่งต้องสงบเยือกเย็นให้มากขึ้น
สักพักหนึ่งกรรมการก็เข้ามาถามว่าทั้งสองฝ่ายจะเลือกหัวเหรียญด้านใด
“ ผมไม่ขอเลือก ” มาซาซึมุหลับตาประสานอินต่อ “ เพื่อที่จะฟื้นฟูฮิงะและฝึกฝนตนเองแล้ว ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด และหนทางใดล้วนแต่ต้องกระทำทั้งสิ้น ดังนั้นเชิญคุณเลือกกติกามาได้ตามสะดวก ”
“ ต้องขอขอบคุณมากเลยนะครับที่ให้เกรียติโรงเรียนผมเป็นฝ่ายเลือกกฎ ” ดีว่าแย้มยิ้ม “ แต่ผมเองก็เช่นเดียวกับคุณเหมือนกัน ไม่ว่าจะด้วยกฎแบบไหนผมก็จะขอประลองเพื่อฝึกฝนตนเอง ”
คำพูดของดีว่าทำให้มาซาซึมุที่หลับตาอยู่ต้องลืมตาขึ้นมามองยังดีว่าอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้มาซาซึมุเริ่มสัมผัสได้จากแววตาของดีว่าแล้วว่า คนๆนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู่ธรรมดา มาซาซึมุเห็นแววตาที่มุ่งมั่นในตัวของดีว่า เพียงแต่ในแววตานั้นยังคงแฝงความกังวลอยู่บ้าง
“ ถ้าอย่างนั้นก็ประลองตามปรกติเป็นอย่างไร ใครชนะสองในสามก็ถือเป็นผู้ชนะ ” มาซาซึมุยื่นข้อเสนอ
“ หากเป็นเช่นนั้นก็ได้ครับ เพียงแต่ว่า ” ดีว่าเหลือบตาไปยังโซเฟีย “ ทีมของผมในวันนี้เหลือเพียงแค่สองคนเท่านั้น ”
คำพูดของดีว่าคล้ายแฝงความหมายว่า หากจะต่อสู้แบบตัวต่อตัวแล้วดูผลชนะสองในสามก็ย่อมได้ เพียงแต่ตนเองจะเสียเปรียบเพราะมีผู้แข่งขันเพียงสองคนเท่านั้น ดังนั้นหากมาซาซึมุยังคงเลือการต่อสู้แบบตัวต่อตัวก็เท่ากับว่า จงใจเอาเปรียบตน ซึ่งดูจากคำพูด และนิสัยของมาซาซึมุที่ดีว่าวิเคราะห์เอาไว้แล้วย่อมไม่ใช่คนแบบนั้นแน่
ความจริงจะให้สู้แบบตัวต่อตัวดีว่าก็ไม่เกี่ยง แต่ตอนนี้เขาจำเป็นต้องรับผิดชอบทีมในฐานะผู้นำ หากการตัดสินใจของเขานำมาซึ่งความผ่ายแพ้ต่อทีมแล้ว เขาคงไม่สามารถทำได้
บางครั้งคนที่เป็นผู้นำต้องคิดถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าตัวเองอยู่เสมอ แม้การได้เป็นผู้นำจะดูเหมือนว่ามีอำนาจเหนือคนอื่น แต่หากใครได้เคยเป็นผู้นำที่ดีมาบ้างแล้วจะรู้ว่ามันไม่สนุกอย่างที่คิด เพราะหากทำดีก็เสมอตัว ทำแย่ก็เข้าตัวไป
มาซาซึมุที่ได้ยินคำพูดของดีว่า ถึงกับยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ ร้ายกาจจริงๆนะครับ ถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับว่าเหลือกฎในการตัดสินอยู่เพียงสองวิธีเท่านั้นสินะ ”
“ ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ ” ดีว่าก้มหัวอย่างนอบน้อม ช่วยสลายรังสีฆ่าฟันของมาซาซึมุลงไปได้มากทีเดียว
“ ถ้าอย่างนั้นจะตัดสินแบบตัวต่อตัวรอบเดียว หรือสองต่อสองรอบเดียวละ ”
“ ขอตัดสินแบบสองต่อสองรอบเดียวครับ ” ดีว่าตอบคำ ความจริงทั้งหมดดีว่าได้ตัดสินใจไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ว่าถ้าหากทอยหัวเหรียญได้ก็จะขอเลือกการตัดสินแบบสองต่อสอง
เหตุผลที่เลือกคือ หนึ่ง - ด้วยจำนวนคนที่น้อยกว่า ต่อให้สามารถชนะในคู่แรก แต่หากพละกำลังหมดเสียก่อนที่จะถึงรอบตัดสินจริงๆชัยชนะที่ได้ตอนแรกก็จะไร้ประโยชน์ทันที สอง - เขาได้ปรึกษากันกับโซเฟียแล้ว และโซเฟียก็เห็นด้วย ซึ่งทั้งสองคนก็มีแผนในการต่อสู้แบบคู่อยู่ด้วย เพราะนำบทเรียนที่ได้จากตอนที่ผ่ายแพ้ให้แก่การแข่งคู่ครั้งแรกกับจินเจ และโกจิมาเป็นตัวอย่าง
และข้อสุดท้าย เป็นข้อที่ดีว่าไม่อยากที่จะคิดมากที่สุด นั่นคือ เขาในตอนนี้ไม่มีความมั่นใจที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้แบบแต่ก่อนอีกแล้ว และเขาก็ไม่กล้าพอที่จะเอาฝีมือของตัวเองเป็นเครื่องแบกรับความเป็นอยู่ของทีมอีกด้วย
“ ถ้าเช่นนั้นฮิงะก็ขอน้อมรับคำท้า ” มาซาซึมุกล่าวจบก็คาราวะให้แก่ดีว่าทีหนึ่ง
‘ ฟ้าว ’
และดีว่าก็ต้องพบว่าเสื้อคลุมของเขาพลิ้วไหวไปเพราะสายลมเช่นกัน จากนั้นรังสีคุกคามก็เริ่มแผ่ออกมาจากตัวของมาซาซึมุทันที ก่อนที่ทั้งสองจะเดินกลับไปยังฝั่งโรงเรียนของแต่ละคน
“ เป็นอะไรไปสีหน้าไม่ค่อยดีเลยนะ ” โซเฟียที่ใส่ชุดเกราะเรียบร้อยแล้ว และกำลังเหน็บดาบเพลิงอัคคีไว้ข้างเอวอยู่ถามขึ้นเมื่อเห็นดีว่าเดินกลับมา
“ ไม่เป็นอะไรหรอกครับ ” ดีว่ายิ้ม แม้จะกล่าวเช่นนั้นแต่ความไม่สบายใจก็ปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน
“ ทำหน้ากลุ้มแบบนี้ไม่สมกับเป็นนายเลยนะ ถ้าเป็นคุณเด๋อก็ว่าไปอย่าง ” โซเฟียแซว “ มั่นใจในตัวเองหน่อย นายเก่งจะตายไป เก่งกว่าเราด้วยซ้ำ ถ้านายท้อเสียตั้งแต่ยังไม่แข่งแล้วเราไม่แย่หรอ แหะๆ ”
“ ขอโทษด้วยครับ ” ดีว่ากล่าวเบาๆ ทำเอาโซเฟียต้องถอนหายใจอีกครั้งหนึ่ง
“ เอาเถอะ ยังไงก็สู้ตายนะ ” โซเฟียชูกำปั้นให้กับดีว่า ซึ่งก็เป็นครั้งแรกที่ดีว่าชูกำปั้นให้กับโซเฟีย
หลังจากใช้เวลาไม่นานดีว่าก็สวมชุดป้องกันเป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่จะขึ้นเวทีโซเฟียก็เห็นดีว่าหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งขึ้นมาผูกไว้กับแขนขวาของเขา เมื่อสังเกตดีๆก็ต้องพบว่านั่นคือผ้าผืนที่วีวี่ถักให้แก่ดีว่าตอนที่ดีว่าแข่งที่โรงเรียนนั่นเอง ไม่น่าเชื่อว่าดีว่ายังคงเก็บมันไว้อย่างดี แถมยังเอามาผูกอีกเสียด้วย งานนี้ถ้าวีวี่เห็นสงสัยคงเป็นปลื้มตายแน่นอน
“ ผ้านำโชคน่ะครับ ” ดีว่ากล่าวเมื่อเห็นโซเฟียจ้อง
“ แหะๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ค่ะ ” โซเฟียทำหน้าเจ้าเล่ห์ เล่นเอาดีว่ารู้สึกเขินขึ้นมาทันที ดูแล้วน่ารักไปอีกแบบ แถมยังช่วยลดความกดดันให้แก่ดีว่าลงไปอีกด้วย
เมื่อทั้งสองคนก้าวขึ้นไปยังเวที ก็ปรากฏภาพที่สร้างความประหลาดใจให้แก่ทั้งสองอย่างยิ่ง ภาพมาซาซึมุในชุดเกราะป้องกันสีดำแบบนินจา ซึ่งน่าจะเป็นแบบพิเศษประจำโรงเรียนฮิงะ ดูแล้วน่าเกรงขาม แถมดูเพิ้นๆยังคล้ายหุ่นยนต์นินจาด้วยซ้ำ แต่ที่น่าประหลาดใจไม่ใช่ชุดของมาซาซึมุ แต่เป็นชุดของนักเรียนอีกคนหนึ่งต่างหาก
นักเรียนคนนี้สวมชุดเกราะป้องกันสีดำเหมือนมาซาซึมุ มีผ้าพันคอสีขาวซึ่งต่างจากมาซาซึมุที่เป็นสีแดง เพียงแต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะประเด็นสำคัญคือชุดเกราะที่เขาสวมใส่อยู่นั้นดูคุ้นตาเป็นอย่างยิ่ง ที่เกราะหมวกป้องกันหัวไม่ได้มีหน้ากากกระจกปิดเหมือนเช่นชุดเกราะทั่วไป แต่กลับเป็นรูปดวงตากลมโตสีขาวมีเส้นตัดเป็นเหลี่ยมๆอยู่ด้านในสองข้าง ที่กลางหัวเป็นมีตัวอักษรรูปตัว H สีขาวยาวขึ้นไป ตรงปากเป็นเหล็กสีเทา บริเวณลำตัวเป็นชุดเกราะที่คล้ายเกราะนินจาแบบมาซาซึมุ ถัดไปเป็นเข็มขัดที่น่าจะใส่มีดสั้นไว้มากมายเช่นมาซาซึมุ แต่มันกลับว่างเปล่า ที่หัวเข็มขัดเป็นลูกแก้วสีขาวด้านในเขียนไว้ด้วยสัญลักษณ์ตัว H ด้านข้างเอวเหน็บไว้ด้วยดาบนินจาขนาดยาวเล่มหนึ่ง ส่วนเกราะเท้าทั้งแต่หน้าแข้งลงไปก็ดูใหญ่เป็นพิเศษ
และหากพิจารณาโดยรวมๆแล้วละก็ ชุดเกราะนี้ช่างเป็นชุดเกราะที่ใกล้เคียงกับชุดของฮีโร่ยอดฮิตตลอดกาลของคุณหนูๆทั้งหลายซึ่งก็คือ ไอ้มดแดง !!! นั่นเอง เพียงแต่นี่อาจจะเป็นไอ้มดนินจาแทน
ที่ทำให้โซเฟียยิ่งแน่ใจเลยก็คือ ท่ายืนของเจ้าของชุดเกราะนั่นเอง มือซ้ายของเขาประสานอินไว้ ส่วนมือขวานั่นกางออกไปด้านซ้ายทำท่าราวกับตัวเองเป็นไอ้มดแดงจริงๆ
“ แหะๆ นายคิดเหมือนที่เราคิดไหม ” โซเฟียยิ้มแหยงๆ ส่วนดีว่านั้นแม้จะอยากหัวเราะตาม แต่ก็เพ่งสมาธิไว้ไม่ยอมประมาทแม้แต่น้อย
“ การแข่งแบบสองต่อสองตัดสินในรอบเดียวระหว่างทีมมิราเคิล โรงเรียนอับดุล อินเตอร์ และทีมโรงเรียน ฮิงะ โดยมีพลังชีวิตคนละ 3,000 หน่วย โรงเรียนไหนล้มคู่ต่อสู้อีกโรงเรียนลงได้หมดก่อนเป็นผู้ชนะ เริ่มได้ ณ บัดนี้ !!! ” เด็กชายนักประกาศกล่าวด้วยเสียงไร้อารมณ์ ราวกับไม่รู้สึกแปลกใจในชุดเกราะไอ้มดนินจานั่นเลยแม้แต่น้อย
“ อย่าประมาทนะครับ เห็นอย่างนั้นก็เถอะ แต่เมื่อสักครู่ตอนขึ้นไปทายหัวเหรียญผมสัมผัสได้ถึงฝีมือที่ไม่ธรรมดาของเขาเลยละครับ ” ดีว่ากระซิบ
“ อืม ไม่ต้องห่วง เราไม่เคยประมาทอะไรอยู่แล้ว ” โซเฟียกล่าวจริงจัง
“ ฮ่าๆๆๆ ” เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งดังมาจากนักเรียนในชุดเกราะมดนินจา “ ได้เวลาแล้วสินะ ”
“ ใช่แล้วละครับ คุณโคทาโร่ ” มาซาซึมุกล่าวอย่างนอบน้อม
“ ถ้าอย่างนั้นละก็
” ว่าแล้วไอ้มดนินจา หรือคุณโคทาโร่ก็ตวัดมือข้างขวาที่กางอยู่พลิกไปด้านขวาทันที
‘ ชิ้ง ! ’
โซเฟียรีบชักดาบเพลิงอัคคีออกมาเตรียมรับการโจมตีอย่างรวดเร็ว คู่ต่อสู้ที่เป็นนินจามักจะอาศัยความรวดเร็วในการโจมตี เพราะฉะนั้นจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด แต่ทว่า
..
“ ฮ่าๆๆๆ ไม่ต้องตกใจไปสาวน้อย ” โคทาโร่ไม่ได้โจมตี แต่กลับตั้งท่าประจำตัวก่อนที่จะตะโกนเสียงดังว่า
“ แปลงร่าง !!! ”
จากนั้นมือข้างที่ไม่ได้ประสานอินก็หมุนเข็มขัดรูปตัว H พร้อมกันนั้นปรากฏแสงสว่างออกจากดวงตากลมโตทั้งสองข้าง และจากตัวอักษรตัว H บนหัว
“ มดนินจา ไรเดอร์ฮิงะ มาแล้ว !!! ”
ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบสงัด ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงปรบมือเกรียวกราวจากเหล่านักเรียนที่ได้เห็นการแปลงร่างอันแสนจะอลังการเท่าที่นินจาคนหนึ่งจะทำได้ บางคนที่ยังไม่เคยเห็นมาก่อนถึงกับหัวเราะ บางคนที่เคยเห็นแล้วรู้สึกชอบก็ปรบมือให้อีกครั้งหนึ่ง มีบ้างบางคนถึงกับศรัทธาในตัวโคทาโร่ถึงขนาดติดตามดูทีมฮิงะมาตั้งแต่ที่แข่งรอบแรกเลยก็มี
แต่อีกมุมหนึ่งในที่นั่งข้างเวทีก็ได้ยินเสียงนักเรียนคนหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยความเอือมระอา
“ เฮ้อ ช่างเสียสถาบันนินจาโดยแท้ ” คนที่กล่าวเช่นนี้ก็คือ ก็อบ จากชมรมนินจาโรงเรียนอับดุล อินเตอร์ อดีตคู่ปรับเก่าของวานั่นเอง
“ เสียสถาบันหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ภายนอกหรอกนะ จงตั้งใจดูไว้เสียเถิด เจ้าพวกนี้คือ สองในสามสุดยอดนักเรียนชมรมนินจาของโรงเรียนฮิงะละ ” มาสเตอร์ชไนเดอร์ อาจารย์ประจำชมรมนินจาผู้แสนเย็นชากล่าวขึ้น กอดอกมองไปยังเวที
ไม่ว่าใครก็ตามหากมานั่งอยู่ข้างๆสองศิษย์ อาจารย์นี้จะต้องพบกับรังสีคุกคามขุมหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าเข้ามานั่งใกล้ๆทั้งสองคนนี้เลย เว้นเสียแต่นักเรียนหนุ่มหน้าละอ่อนคนหนึ่งที่ดูไร้เรี่ยวแรง และชายหนุ่มท่าทางอารมณ์ดีคนหนึ่ง
ที่แท้ทั้งก็อบ และมาสเตอร์ชไนเดอร์มาเพื่อชมดูการแข่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้นหรือ ?
“ พร้อมรึยังมาซาซึมุ ” โคทาโร่ตั้งท่าประสานอิน
“ พร้อมแล้วขอรับ ” มาซาซึมุย่อตัวลงมือขวาเลื่อนไปจับด้ามดาบที่ด้านหลัง ตั้งท่าแบบนินจา
ส่วนทางด้านดีว่าก็หันไปกระซิบกับโซเฟีย
“ ไม่ผิดแน่ครับ สองคนนั้นจะต้องเป็นไรจิน กับฟูจินแห่งโรงเรียนฮิงะตามาที่มาสเตอร์ชไนเดอร์บอกแน่นอนครับ ”
“ อืม ” โซเฟียพยักหน้า “ เราก็ว่าอย่างนั้น ”
“ คนที่สวมชุดเกราะนินจาธรรมดาน่าจะเป็นฟูจิน ส่วนคนที่สวมชุดเกราะแบบพิเศษน่าจะเป็นไรจินที่ได้ยินว่ามาเป็นนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดของโรงเรียนฮิงะ และก็เป็นหัวหน้าทีมโรงรียนฮิงะด้วยละครับ ”
ขณะที่กำลังกล่าวอยู่นั่นเอง ทั้งสองคนก็ต้องรีบกระโดดออกห่างจากกันในทันที
‘ วูบ วูบ !! ’
เสียงดาวกระจายนินจาพุ่งผ่านหน้าทั้งสองไปอย่างรวดเร็ว ชนิดที่แทบจะหลบไม่ทันเลยทีเดียว จากนั้นเงาร่างของมาซาซึมุก็หายไปเสียแล้ว
‘ เช้ง เช้ง เช้ง ! ’
ดาบนินจาฟันออกด้วยความรวดเร็ว ชนิดที่โซเฟียแทบจะตั้งรับไม่ทัน ดีที่ดาบเพลิงอัคคีเป็นดาบอัศวินที่มีความหนาของแบบเบาบาง จึงสามารถตั้งรับการจู่โจมของมาซาซึมุได้อย่างทันถ่วงที แต่อาจจะเสียเปรียบในด้านพลังโจมตีอยู่บ้าง ทั้งนี้เพราะดาบเพลิงอัคคีไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรับจากโจมตี แต่ถูกออกแบบมาเพื่อให้โจมตีศัตรูอย่างรวดเร็วมากกว่า
ยิ่งแต่ละดาบของมาซึมุฟันออกด้วยความรุนแรง และรวดเร็วอย่างมาก แถมยังเป็นรูปแบบการโจมตีที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โซเฟียอยู่ชมรมอัศวินจึงถูกฝึกฝนวิธีการฟันดาบมาแบบอัศวิน เมื่อมาพบกับการโจมตีด้วยดาบแบบนินจาแล้วจึงยากต่อการรับมืออยู่บ้าง ยังดีที่เธอก็มีพรสวรรค์ในด้านปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์
ดังนั้นโซเฟียจึงสามารถรับการโจมตีของมาซาซึมุได้อย่างไม่พลาดเลยแม้แต่ดาบเดียว
“ ต้องขออภัยด้วยนะขอรับ ! ” มาซาซึมุกล่าวขึ้นจากนั้นหมุนตัว ตวัดเท้าเตะเฉียงใส่โซเฟียด้วยความรวดเร็ว โซเฟียแม้ปกติจะรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ไม่สามารถรวดเร็วไปกว่านินจาอย่างมาซาซึมุได้ จึงถูกเตะกระเด็นล้มลงทันที
ดีว่าเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ชักกระบี่ดวงดาวออกมาทันที เสียงกระบี่ที่ออกจากฝักส่งเสียงเปรี้ยงปร้างไปทั่วสนาม ก่อนที่จะพุ่งตัวเพื่อเข้าไปช่วยคุ้มกันโซเฟีย
แต่ทันใดนั้นเองเงาร่างสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าของดีว่า ก่อนที่ขาที่ใส่ด้วยเกราะเท้าแบบพิเศษจะตวัดเตะใส่ดีว่าให้กระเด็นล้มลงไปอีกคนหนึ่ง
‘ ช่างรวดเร็วจริงๆ ’ ก็อบที่ดูอยู่ถึงกับอดที่จะชมไม่ได้ บางทีคนผู้นี้อาจจะเร็วกว่าตนเองเสียอีก
โคทาโร่หลังจากเตะดีว่ากระเด็นไป แทนที่จะพุ่งเข้าไปโจมตีใส่ดีว่า กลับพุ่งไปอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป้าหมายของเขากลับเป็นโซเฟียแทน
สไตล์การต่อสู้แบบนี้ช่างคล้ายกับเมื่อตอนที่ทั้งคู่สู้กับจินเจ และโกจิอย่างยิ่ง ทุกคนมุ่งเป้าไปยังโซเฟียก่อน คงเพราะเห็นว่าเป็นเป้าที่กำจัดง่ายที่สุดก็เป็นไปได้
“ ช่วยไม่ได้แฮะ ในเมื่อเป็นแบบนี้
” โซเฟียที่ล้มอยู่รวบรวมเรี่ยวแรง หมุนตัวด้วยความรวดเร็ว มือข้างขวาเขี่ยดาบเพลิงอัคคีไปกับพื้นทันที
“ ข้าแด่อัคคีแห่งความมืดเอ๋ย ! จงทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับข้า !! จงเผาพลาญศัตรูของข้าชั่วกัปชั่วกัลป์ !!! ”
ทันใดนั้นเองพื้นรอบๆตัวของโซเฟียปรากฏเป็นไฟวงกลมล้อมรอบตัวเธอขึ้น ก่อนที่ดาบในมือจะปรากฏเพลิงสีแดงส่องสว่างจ้าขึ้นมา ทำเอามาซาซึมุ และโคทาโร่ที่พุ่งตัวเข้าไปเซถอยหลังหลบเกือบไม่ทันทีเดียว
“ นะ นั่นมันอะไรกันครับเนี่ย ” มาซาซึมุถามด้วยความตกใจ “ ระ หรือว่าหล่อนจะเป็นนินจาเงาอัคคี !!! ”
‘ ใช่ซะที่ไหนเล่า ! ’ โซเฟียยิ้มเจือนๆ
“ เย็นไว้มาซาซึมุ ลืมไปแล้วหรือว่าเจ้าเป็นใคร ” โคทาโร่เตือนสติ
“ ขอโทษด้วยครับ ท่านหัวหน้า ” มาซาซึมุกล่าวกับโคทาโร่ราวกับมีกันเพียงแค่สองคนบนเวที
“ ชิโนบิ มาซาซึมุ เทพสายลมฟูจิน ! เจ้าจงไปจัดการกับเจ้านินจาเงาอัคคีนั่นซะ เพื่อฮิงะของเรา !!! ” โคทาโร่ชี้นิ้วสั่งราวกับตัวเองเป็นหัวหน้านินจาที่สั่งลูกน้องไปสังหารคนที่ตนถูกว่าจ้าง
“ รับทราบขอรับ เพื่อฮิงะ ย๊าก !!! ” ว่าแล้วมาซาซึมุก็พุ่งตัวเข้ามาโซเฟีย โดยไม่สนว่าดาบในมือของเธอขณะนี้จะลุกโชติช่วงไปด้วยเปลวไฟขนาดไหน
“ วิชานินจาฮิงะ ควันพรางกาย ! ” จากนั้นมือขวาของมาซาซึมุปรากฎด้วยระเบิดควันลูกกลมๆสี่ห้าลูกในง่ามนิ้ว พร้อมซัดใส่โซเฟียด้วยความรวดเร็ว
จากนั้นกลุ่มควันก็ปรากฏขึ้นรอบตัวของโซเฟีย ทำให้เธอมองอะไรแทบไม่เห็น แต่เธอก็ไม่ได้เสียสมาธิแม้แต่น้อย รีบควงดาบเพลิงอัคคีในมือไปมาเพื่อป้องกันอาวุธลับ และการโจมตีจากระยะประชิด พร้อมพยายามเอาตัวออกจากระเบิดควันให้เร็วที่สุด
แต่ทว่าแม้จะคิดได้เช่นนั้นแต่มาซาซึมุก็พุ่งผ่านเข้ามาในกลุ่มควันอย่างรวดเร็ว และฟันดาบใส่โซเฟียจากด้านบนโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว
‘ กระบี่สุญญากาศ ! ’
แต่พริบตาเดียวกัน ก่อนที่ดาบจะฟันใส่หัวของโซเฟียนั้น เสียงปราณกระบี่เกรี้ยวกราดก็พุ่งแหวกกลุ่มควันซัดใส่มาซาซึมุที่กระโดดอยู่กลางอากาศเข้าอย่างจัง พาร่างบางของนินจาสายลมกระเด็นล้มลงกับกับพื้นอย่างจัง
‘ โครม ! ’
และเช่นกันแม้ดีว่าจะสามารถช่วยโซเฟียเอาไว้ได้ แต่เขาเองก็ถูกโคทาโร่พุ่งเข้ามาเตะจากด้านข้างกระเด็นล้มลงอีกครั้ง
การจู่โจมของโคทาโร่ยังรวดเร็วกว่าการโคจรลมปราณของดีว่าเสียอีก การต่อสู้ครั้งนี้ช่างเป็นการต่อสู้ที่ต้องอาศัยจังหวะและความเร็วอย่างยิ่ง ซึ่งจากที่ดูๆแล้วพวกดีว่าเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด
กลุ่มควันแม้จะถูกกระบี่สุญญากาศแหวกออกไป แต่ไม่นานก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพราะควันที่ลอยออกมาจากลูกระเบิดนินจานั้นยังคงไม่หมดลงง่ายๆ
นินจาฮิงะที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดนินจาสายสังหารช่างน่ากลัวสมชื่อเสียจริงๆ
บัดนี้กลุ่มควันมิเพียงบดบังไปรอบตัวโซเฟีย แต่ถึงกับเริ่มบดบังไปทั่วเวทีแล้ว แถมามาซาซึมุที่โดนกระบี่สุญญากาศซัดเข้าอย่างจัง ยังดีดตัวขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็ว ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่ฝึกในชมรมนินจาโดยปกติจะได้รับการฝึกฝนให้อดทนเป็นพิเศษอยู่แล้ว ประกอบกับที่ได้ชื่อว่าเป็น เทพสายลมฟูจินคงทำให้กระบี่สุญญากาศของดีว่าแทบจะไร้ผลเลยก็ว่าได้
‘ ไม่เลว นี่ขนาดเราฝึกมาอย่างดีแล้วแท้ๆ ยังไม่สามารถหลบปราณกระบี่ของเจ้านั่นได้ แถมยังพลังลมปราณที่รุนแรงขนาดที่ทำให้เรากระเด็นได้อีกไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ’
แต่เป้าหมายของมาซาซึมุตอนนี้ยังไม่ใช่ดีว่าแต่เป็นโซเฟีย ดังนั้นในขณะที่กลุ่มควันยังอยู่เขาจึงตั้งใจจะกำจัดโซเฟียให้ได้
มาซาซึมุใช้มือซ้ายรวบมีดสั้นหลายเล่มเข้าใส่ง่ามมืออย่างคล่องแคล่ว จากนั้นเมื่อเห็นเปลวไฟจากดาบเพลิงอัคคีที่เบื้องหน้าก็ซัดมีดนินจา(คุไน)ใส่เงาร่างของโซเฟียทันที
‘ เช้ง เช้ง ฟึบ !!! ’
โซเฟียที่ตั้งสมาธิควงดาบเพลิงอัคคีอยู่ จู่ๆก็เห็นมีดนินจาพุ่งตรงเข้าใส่หน้าประมาณห้าหกเล่มด้วยความเร็วสูง เธอพยายามควงดาบเพลิงอัคคีเพื่อปัดป้องมีดเหล่านั้น แต่ถึงกระนั้นมีดนินจาเล่มหนึ่งที่หลุดรอดจากดาบเพลิงอัคคีก็พุ่งตรงเข้าไปใส่หน้ากากป้องกันอย่างจัง ทำเอาพลังชีวิตของเธอลดลงไป 1,000 หน่วยเลยทีเดียว
‘ ไม่ได้การเสียแล้วขื่นเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆเราต้องแย่แน่ๆ ’ โซเฟียรีบคิดหาหนทาง เพราะหากยังอยู่ในกลุ่มควันอยู่ไม่เพียงมองอะไรไม่ค่อยเห็น แต่ยังเสียเปรียบอย่างมาก ทั้งดาบเพลิงอัคคีก็ไม่สามารถใช้กระบวนท่าหลอกสายตาอย่าง เพลิงอัคคีเริงระบำได้เพราะกลุ่มควันช่วยลดแสงที่ส่องจากดาบเพลิงอัคคีลงไปจนเกือบหมด แถมภายใต้กลุ่มควันแล้วก็เป็นที่รู้ๆกันอยู่ว่า เมื่อมีกลุ่มควันกับไฟขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น กลุ่มควันจะยิ่งทวีความหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกันกับเวลาที่เกิดไฟไหม้นั่นเอง
‘ จะทำยังไงดี ควันเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆเพราะดาบเพลิงอัคคี ’ โซเฟียพยายามคิดหาทางออกให้เร็วที่สุด และทันใดนั้นเองเธอก็คิดถึงตอนที่วาประลองกับก็อบขึ้นมา ตอนนั้นทั้งๆที่ก็อบเป็นนินจา แต่วากลับอาศัยกลุ่มควันเพื่อพรางตัวแทน ว่าแล้วเธอก็รีบควงดาบเพลิงอัคคีอย่างรวดเร็วทันที ทำให้ควันยิ่งทวีความหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ
“ ภายใต้กลุ่มควันเช่นนี้ไม่น่าจะใครหลุดรอดจากนินจาฮิงะไปได้หรอก ” มาสเตอร์ชไนเดอร์กล่าวอย่างเย็นชา ราวกับไม่ได้เชียร์พวกโซเฟีย และดีว่าเลยแม้แต่น้อย
“ มันก็ไม่แน่หรอกครับ ” จู่ๆชายหนุ่มท่าทางอารมณ์ดีที่นั่งข้างๆก็กล่าวขึ้น ก็อบเองแทบไม่อยากจะเชื่อว่า ในโลกนี้จะมีใครกล้าขัดมาสเตอร์ชไนเดอร์ บางทีอาจมีเพียงคนเดียวเท่านั้น คือ ชายหนุ่มท่าทางอารมณ์ดีผู้นี้ก็เป็นได้ “ จริงอยู่ที่ว่ากลุ่มควันนั้นนินจาฮิงะเป็นคนสร้างขึ้นเพื่อพรางตัว แต่ก็ใช่ว่าคนอื่นจะไม่สามารถพรางตัวได้ด้วยนี่ครับ ”
“ เฮอะ ช่างไม่รู้อะไรเลยจริงๆ แม้จะพรางตัวได้เหมือนกัน แต่ความช่ำชองที่ต่างกันต้องทำให้ฝ่ายที่ชำนาญกว่าได้เปรียบอยู่แล้ว ” มาสเตอร์ชไนเดอร์หันมองไปชายหนุ่มท่าทางอารมณ์ด้วยสายตาเหยียดหยาม แต่ชายหนุ่มท่าทางอารมณ์ดีคล้ายไม่รู้สึกกดดันเลยแม้แต่น้อย กลับยิ้มกล่าวตอบกลับไป
“ ก็เพราะชำนาญกว่าจึงมั่นใจ เมื่อมั่นใจมากไปก็จะเป็นฝ่ายพลาดท่าเสียเอง หากสามารถอาศัยจังหวะนี้เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ทำอะไรที่เหนือความคาดหมายได้แล้วละก็ จะกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบทันที ”
มาสเตอร์ชไนเดอร์ถึงกลับไม่อาจไม่ยอมรับ เพียงเค้นหัวเราะจากนั้นนั่งนิ่งต่อไป
“ บางครั้งการทำอะไรที่เหนือความคาดหมายของผู้คน ก็คือสิ่งที่เขาเรียกว่า มายากล นั่นละครับ ” ที่แท้ชายหนุ่มคนนั้นก็คือ ซาซาไรอาจารย์อารมณ์ดีประจำชมรมนักมายากล คู่ปรับตลอดกาลของมาสเตอร์ชไนเดอร์นั่นเอง
น่าเสียดายหากโซเฟียได้ยินคำพูดประโยคนี้ไม่แน่ว่าอาจจะคิดหาทางพลิกสถานการณ์ได้บ้าง ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ควงดาบเพลิงอัคคีให้กลุ่มควันยิ่งทวีความหนาแน่นมากขึ้น เพิ่มความได้เปรียบให้แก่มาซาซึมุแบบนี้
ยิ่งนานกลุ่มควันยิ่งหนาแน่นขึ้น ซ้ำยังรอบๆบริเวณที่โซเฟียควงดาบนั้นยังปรากฏเป็นกลุ่มควันสีดำเด่นชัดเข้าไปอีก ง่ายต่อการเป็นเป้าโจมตีอย่างยิ่ง
มาซาซึมุที่ย่อตัวพรางกายอยู่ไม่รอช้า พุ่งตัวด้วยความรวดเร็วเข้าไปยังกลุ่มควันสีดำ ซึ่งคาดว่าต้องเป็นจุดที่โซเฟียยืนอยู่แน่นอน
ส่วนทางด้านโคทาโร่เมื่อเห็นเช่นนั้นก็รีบพุ่งตัวเข้าไปยังบริเวณกลุ่มควันทันที
‘ หวังว่ามันคงจะได้ผลนะ ’ โซเฟียที่ควงดาบอยู่รีบหยุดมือจากนั้นวิ่งออกไปจากบริเวณนั้นทันที
‘ วูบ !!! ’
และด้วยความรวดเร็วราวเทพแห่งสายลมมาซาซึมุก็กระโจนผ่ากลุ่มควันสีดำที่เห็นเงาร่างของคนผู้หนึ่งยืนอยู่ พริบตานั้นมาซาซึมุเงื้อนินจาเคน(ดาบนินจา)ในท่าเตรียมฟันกลางอากาศ ก่อนที่กลุ่มควันบริเวณด้านหน้าจะค่อยๆคลี่คลายขึ้น เป็นจังหวะเดียวกันกับที่โคทาโร่ก็พุ่งเข้ามาจากด้านข้างพอดี
และแล้วเมื่อภาพที่เบื้องหน้าปรากฏเด่นชัดขึ้น มาซาซึมุก็ต้องพบว่าผิดคาดแล้ว
“ ระ ระวังครับ มันเป็นกับดัก !!! ”
แต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว เงาร่างนั้นกลับเป็นดีว่าแทนที่จะเป็นโซเฟีย !
“ ปราณกระบี่สายที่หก ! พายุสลาตัน !!! ”
พริบตานั้นดีว่าตวัดกระบี่หมุนรอบตัวคล้ายกับพายุลูกหนึ่ง บริเวณรอบๆตัวของดีว่าก็ปรากฏเป็นเกราะพายุหมุนที่ซัดใส่มาซาซึมุที่อยู่ใกล้ที่สุด และโคทาโร่ที่รีบเปลี่ยนท่าร่างเพื่อหลบการโจมตีอยู่ ให้กระเด็นออกไปทันที
ปราณกระบี่สายที่หก พายุสลาตันนั้นเป็นปราณกระบี่สายที่ใช้ในระยะประชิดตัวเพื่อป้องกันการโจมตีจากศัตรูหลายๆคนในเวลาเดียว โดยการสร้างพายุหมุนลมปราณขนาดย่อมรอบๆตัวผู้ใช้ พลังทำลายล้างรุนแรงมาก เพียงแต่มีข้อจำกัดอยู่ที่เวลาในการโคจรลมปราณที่เกือบจะนานพอๆกับปราณกระบี่สายที่สาม ระเบิดเวลา และระยะในการโจมตีซึ่งสั้นมาก
และก็เกือบเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ดีว่าวกกระบี่ออกอีกครั้ง ที่ด้านหลังของมาซาซึมุก็มีเสียงดังขึ้น
“ ข้าแด่อัคคีแห่งความมืดเอ๋ย ! จงทำตามพันธะสัญญาที่ให้ไว้กับสายลม !! แปรเปลี่ยนเป็นเพลิงนรกเผาพลาญศัตรูของข้าให้มอดไหม้ชั่วกัปชั่วกัลป์ !!! ”
โซเฟียชูดาบเพลิงอัคคีที่ลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงไปยังมาซาซึมุที่ลอยอยู่กลางอากาศ
“ ปราณกระบี่ไร้เงา !!! ”
พริบตาเดียวกันนั้นดีว่าพุ่งปราณกระบี่ออกจากกระบี่ดวงดาวตรงไปยังดาบเพลิงอัคคีของโซเฟีย และทันทีที่ปราณกระบี่ไร้เงาประสานเข้ากับเปลวเพลิงของดาบเพลิงอัคคี ก็เกิดเพลิงขนาดยักษ์พุ่งออกจากปลายดาบของดาบเพลิงอัคคีใส่ยังมาซาซึมุที่ลอยอยู่กลางอากาศ
‘ INFERNO FLAME !!! ’
เปลวเพลิงที่พุ่งพวยออกจากดาบเพลิงอัคคีที่เป็นผลมาจากการผสานระหว่างปราณกระบี่ไร้เงา และเปลวเพลิงของดาบเพลิงอัคคี ขณะนี้มันกำลังแผ่พุ่งพลังอย่างบ้าคลั่งราวกับจะเผาพลาญศัตรูที่อยู่เบื้องหน้าให้กลายเป็นจุลเลยทีเดียว
ช่างเป็นภาพที่ทั้งสวยงามตระการตา และน่ากลัวเฉกเช่นเพลิงเวทมนต์จากนรกก็มิปาน การผสานท่าของทั้งสองคนนี้เกิดขึ้นมาจากอุบัติเหตุครั้งที่เคยประลองกับจินเจ และโกจิ ซึ่งครั้งนั้นปราณกระบี่ของดีว่าบังเอิญซัดถูกดาบเพลิงอัคคีของโซเฟียและไม่สามารถควบคุมได้ เกิดเป็นเพลิงที่ลุกวาบขึ้นมาวูบหนึ่ง แต่ครั้งนี้ผิดกันทั้งสองฝึกฝนจนสามารถหาวิธีควบคุมมันได้แล้ว แต่ก็นับว่าอันตรายมากหากจะนำมาใช้
“ ระ ร้อนนนนนนนนนน ” มาซาซึมุที่โดนเพลิงนรกเผาอยู่ตะโกนลั่น ก่อนที่จะใช้มือซ้ายประสานอินขึ้น พร้อมหมุนตัวกลางอากาศ
“ เคล็ดวิชานินจาฮิงะ คาไมทาจิ (ปีศาจสายลมในความเชื่อของคนญี่ปุ่น) !!! ”
พริบตานั้นปรากฏสายลมหมุนที่คล้ายกับปราณกระบี่สลาตันของดีว่าขึ้น แม้พลังจะรุนแรงน้อยกว่าแต่ดูเฉียบคมกว่า ดูราวกับกงล้อสายลมที่หมุนออกจากตัวมาซาซึมุไปยังทุกทิศทางทุกทาง
ส่งผลให้เพลิงที่โชติช่วงจากพลังของลมปราณนั้นสงบลงให้ทันที และหมอกควันรอบข้างถูกพัดจางออกไปหมดสิ้น
ภาพเบื้องหน้าของทุกสายตาในตอนนี้คือ มาซาซึมุที่ยืนประสานอินแน่นิ่งอยู่กลางเวที โดยเบื้องหน้ามีดีว่าที่ยืนประจันหน้าอยู่ ด้านหลังเป็นโซเฟียที่ยกดาบเพลิงอัคคีตั้งท่าเตรียมจู่โจมออก ส่วนทางด้านขวาเป็นโคทาโร่ที่กำลังประสานอินอยู่เช่นกัน
“ ร้ายกาจจริงๆ สมกับที่เป็นนินจาเงาอัคคี วางแผนเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส แถมยังใช้เพลิงนรกเคล็ดวิชาประจำตระกูลเงาอัคคีทำร้ายข้าได้ถึงขนาดนี้ ”
การโจมตีจากไฟเมื่อสักครู่นี้ หากมาซาซึมุใช้คาไมทาจิ หรือสายลมจู่โจมออกสลายเปลวเพลิงแล้วละก็ อาจจะต้องผ่ายแพ้ไปเสียแล้ว ทั้งนี้เพราะพลังชีวิตของเขาลดลงไปถึง 2,000 หน่วยเลยทีเดียว ส่วนโคทาโร่สมกับเป็นหัวหน้าทีมสามารถหลบรอดเพลิงนรกไปได้ แต่ก็ยังโดนเฉี่ยวๆไปบ้างเล็กน้อย พลังชีวิตจึงลดไปเพียงแค่ 200 หน่วยเท่านั้น
“ ดูท่าเราคงจะต้องใช้ไรจิน กับฟูจินแล้วสินะ ” โคทาโร่ที่ประสานอินอยู่กล่าวกับมาซาซึมุ
“ ครับคุณโคทาโร่ มิเช่นนั้นพวกเราคงจะต้องผ่ายแพ้ให้แก่เจ้าพวกนินจาเงาอัคคีแน่นอน ผมจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ต้องซ้ำรอยเช่นเดียวกับสมัยอดีตที่นินจาฮิงะสังหารโนบุนากะไม่สำเร็จอีก ฮิงะจะต้องฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง !!! ”
มาซาซึมุจู่ๆก็ใช้มือซ้ายหยิบคัมภีร์นินจาจากข้างเอวกางเป็นทางยาวลงไป ที่คัมภีร์เขียนไว้ด้วยภาษาญี่ปุ่นเป็นตัวคันจิที่โซเฟีย และดีว่าไม่สามารถจะแปรความได้ ส่วนตรงปลายของคัมภีร์วาดไว้ด้วยรูปของเทพวายุฟูจิน ที่ดูน่าเกรงกลัวอย่างยิ่ง ส่วนมือขวากางมือออกเขียนตัวอักษรกลางอากาศ ราวกับนินจาที่กำลังร่ายคาถาอยู่
ซึ่งทางด้านโคทาโร่ก็กำลังทำเช่นเดียวกัน โดยที่คัมภีร์ของโคทาโร่เป็นรูปเทพอัสนีไรจิน ที่ยิ่งดูน่ากลัวมากกว่าของเทพฟูจินของมาซาซึมุเสียอีก
ไม่ว่านี่จะเป็นการกระทำที่ดูประหลาดขนาดไหนก็ตาม แต่ตอนนี้โซเฟีย และดีว่ารู้เพียงแต่ว่าการต่อสู้ต่อนับจากนี้คงจะไม่ใช่ง่ายๆอีกเสียแล้ว
พริบตานั้นหลังจากร่ายคาถาเสร็จ รังสีฆ่าฟันก็แผ่พุ่งออกจากตัวของนินจาทั้งสองคนทันที
“ ระวังตัวด้วยนะครับ คุณโซเฟีย ” ดีว่ารีบตะโกน เพราะรู้สึกถึงรังสีฆ่าฟันที่ไม่ธรรมดา แต่ก็เหมือนจะไม่ทันการณ์เสียแล้ว
“ นินจาเงาอัคคีนั่น เจ้าจงสังหารมันซะ ! ” โคทาโร่สั่ง “ ส่วนเจ้ามือกระบี่สายลมนั่น ข้าจะเป็นคนจัดการเอง ”
“ รับทราบขอรับ ! ” มาซาซึมุรับคำจากนั้นย่อตัวลง เพียงพริบตาก็พุ่งเข้าหาโซเฟียด้วยความรวดเร็ว
‘ ฉับ ฉับ ฉับ ! ’
นินจาเคนในมือฟันออกอย่างไม่ยั้งมือ ถึงกับรวดเร็วกว่าเมื่อครั้งแรกที่โจมตีเสียอีก ยังดีที่ดาบในมือของโซเฟียตอนนี้ยังคงลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง ช่วยให้สามารถปัดนินจาเคนไปได้บ้าง
‘ เร็วกว่าเดิมหลายเท่าตัวแบบนี้ ต้องรีบจัดการเสียแล้ว ’ โซเฟียที่กำลังรับมืออยู่พยายามหาช่วงโหว่จากการโจมตี และทันใดนั้นมาซาซึมุก็หมุนตัวเตะออกแบบครั้งแรก แต่ครั้งนี้โซเฟียสามารถหลบได้อย่างหวุดหวิด
จังหวะนี่แหละ !
“ กระบวนท่าที่หนึ่ง เพลิงอัคคีเริงระบำ !!! ”
หลังจากการโจมตีของมาซาซึมุเปิดช่องโหว่ โซเฟียก็รีบเปลี่ยนท่าฟันดาบออกเป็นแบบอัศวินโจมตีกลับไปบ้าง ดาบเพลิงอัคคีในมือควงไปมาด้วยความรวดเร็ว ยิ่งตอนนี้หมอกควันหมดลงแล้ว เพลิงอัคคีบนดาบยิ่งปรากฏเด่นชัด หากเพ่งมองต่อไปมากๆจะต้องถูกหลอกตาแบบครั้งที่ไอร่อนนักรบเกราะเหล็กเคยโดนมาแล้วแน่ๆ
“ เจ้านินจาเงาอัคคีเอ๋ย เมื่ออยู่ต่อหน้าเทพวายุยังกล้าใช้เทพอัคคีอีกรึ ! ” พริบตานั้นมาซาซึมุก็พลิ้วร่างตีลังกากลับหลัง จากนั้นร่ายคาถาขึ้น
“ คาไมทาจิ มีดสายลม !!! ”
นินจาเคนในมือถูกตวัดวูบขึ้น ก่อนที่โซเฟียจะพบว่าเปลวเพลิงบนดาบเพลิงอัคคีถูกดับวูบลงในทันที แต่ไม่มีเวลาให้ตกตะลึงแล้ว จู่ๆมาซาซึมุก็ซัดทั้งดาวกระจายนินจา และมีดนินจาใส่เธออย่างบ้าคลั่ง
‘ เช้ง เช้ง เช้ง ! ’
ขณะนี้ภาพเบื้องหน้าแจ่มชัดกว่าตอนที่อยู่ในหมอกควันเธอจึงสามารถปัดอาวุธลับพลางหลบไปด้วยได้หมดสิ้น แต่ทว่านั่นเป็นเพียงแค่แผนล่อเท่านั้น เพราะพริบตานั้นเองเงาร่างของมาซาซึมุก็พุ่งอ้อมมาจากด้านหลังก่อนที่จะย่อตัวลง พร้อมตวัดนินจาเคนเสยเข้าที่กลางหลังของโซเฟีย
‘ ฟับ ! ’
ราวกับสายลมที่พัดผ่านมาวูบหนึ่ง แต่คมกริบราวมีดกรีด พลังชีวิตของโซเฟียลดลงไปถึง 800 หน่วย แต่เธอก็ไม่เสียสติ รีบวิ่งออกไปด้านหน้าเพื่อหลบจากโจมตีจากด้านหลัง
แต่มาซาซึมุคล้ายวิญญาณลมคาไมทาจิจริงๆ เขาพุ่งตัวตามโซเฟียไปในทันที ซึ่งถ้าเทียบกันด้านความเร็วโดยปกติแล้วก็มาซาซึมุก็เร็วกว่าอยู่นิดหน่อย แต่ขณะนี้มาซาซึมุใช้เทพวายุแล้ว จึงรวดเร็วยิ่งกว่าหลายเท่าตัว
‘ ฟับ ฟับ ! ’
นินจาเคนฟันใส่อากาศธาตุสองครั้ง ทั้งนี้เพราะโซเฟียเอี้ยวตัวหลบได้อย่างฉิวเฉียด ภาพที่เบื้องหน้าช่างเป็นภาพที่ทรมานใจคนดูเสียจริงๆ ดูเหมือนว่าแฟนๆที่มาเชียร์โซเฟียจะเริ่มหน้าเสียกันแล้ว ทั้งนี้เพราะมาซาซึมุรวดเร็วราวกับภูตผีที่โซเฟียทำได้ในขณะนี้เพียงแค่วิ่ง แต่หลบจากโจมตีเท่านั้น
ทางด้านดีว่าไม่ใช่ไม่คิดจะไปช่วยโซเฟีย แต่ถูกโคทาโร่ยืนขวางเอาไว้ ภาพโซเฟียที่ถูกโจมตีอย่างไม่สามารถโต้ตอบอยู่นั้นทำให้ดีว่ารู้สึกร้อนรนอย่างยิ่ง แต่เขาต้องไม่เสียสมาธิเด็ดขาด ทั้งนี้เพราะโคทาโร่ยังคงยืนนิ่งจ้องมายังดีว่าตาไม่กระพริบ
และดีว่าเองก็เคยได้รับรู้ถึงพลังความรวดเร็วของสายฟ้ามาบ้างแล้ว ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่เขาทำได้ก็เพียงแค่ยืนประจันหน้า รอจังหวะที่จะโจมตีออกไปเท่านั้น
‘ ฟิ้ว ! ’
สายลมพัดผ่านหน้าของโคทาโร่ไป ผ้าพันคอสีขาวพลิ้วตามไปเล็กน้อย
ดีว่าโคจรพลังลมปราณ และพลังสมาธิไว้กับกระบี่ในมือ ตอนนี้ความกดดันทั้งมวลไม่ได้อยู่ที่ความไม่มั่นใจในฝีมือของตัวเองอีกต่อไปแล้ว เขารู้เพียงแต่ว่าครั้งนี้จะต้องช่วยเหลือโซเฟียให้ได้ เขาจะไม่ยอมให้โซเฟียต้องแพ้เพราะเขาอีกแล้ว ดังนั้นสายตาของดีว่าจึงแปรเปลี่ยนไปเป็นคมกริบราวกับกระบี่ในมือของเขา
“ หึ ” โคทาโร่เค้นหัวเราะ “ นายรู้ไหมทำไมชั้นสามารถมายืนตรงจุดนี้ได้ ”
เสียงสายฟ้าเปรี้ยงปร้างขึ้น แต่ไม่ทราบว่ามันก่อตัวจากที่ใด
“ ชั้นเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบในไรเดอร์มาก เพราะพวกเขาจะคอยปกป้องทุกคนเสมอ ไม่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูแบบไหนก็ตาม ”
มือของโคทาโร่ค่อยๆเลื่อนลงไปดึงนินจาเคนออกจากข้างเอว จากนั้นก้าวต่อไปอย่างไม่ขาดตอน สายตาจับจ้องไปยังดีว่า
“ ชั้นเองก็เช่นกันเป็นหัวหน้าทีมโรงเรียนฮิงะ เพื่อฟื้นฟูฮิงะ และปกป้องนินจาทุกคนแล้ว ชั้นจะแพ้ไม่ได้ แต่ที่สำคัญกว่านั้นไม่ใช่ชัยชนะ แต่มันเป็นความรู้สึกสนุกทุกครั้งที่ชั้นได้ต่อสู้ในชุดเกราะนี้ นายรู้ไหมว่าเพราะอะไร ”
หากเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัวละก็ดีว่าอาจจะถามกลับไป แต่ภาพที่เบื้องหลังของโคทาโร่นั้นกดดันจนเขารู้สึกว่าไม่มีอารมณ์จะเล่นถามตอบกับโคทาโร่แล้ว ซึ่งดูเหมือนว่าโคทาโร่จะสังเกตความร้อนรนในแววตาของดีว่าได้ จึงยิ้มขึ้นเล็กน้อย เพียงแต่ภายใต้หน้ากากไรเดอร์ฮิงะ ไม่สามารถมองเห็นรอยยิ้มอย่างมีชัยนั้นได้
“ เพราะทุกครั้งไม่ว่าตอนไหนก็ตามที่ไรเดอร์ทุกคนใช้ท่าไม้ตาย ไรเดอร์คิก แล้วศัตรูทุกคนจะไม่สามารถหลบพ้น และต้องผ่ายแพ้หมดสิ้น ซึ่งชั้นที่ชื่นชอบไรเดอร์โดยส่วนตัวอยู่แล้วก็ได้ฝึกลูกเตะอันทรงพลังนั้นจนสำเร็จ มันเป็นการประสานระหว่างฮีโร่ที่ชั้นชื่นชอบกับคาถานินจาเทพอัสนีอย่างลงตัวที่สุด ! ”
เสียงสายฟ้าดังเปรี้ยงปร้าง คราวนี้ดีว่ารู้แล้วว่ามันดังมาจากที่ใด
ที่เกราะขาข้างขวานั่นเอง มันกำลังสะสมพลังงานสายฟ้าที่บ้าคลั่งอันมหาศาลเอาไว้
โคทาโร่กดไปยังเข็มขัดของเขา จากนั้นมันเสียงส่งเสียงนับเวลาดังขึ้น
‘ ONE ! ’
โคทาโร่ตั้งมือซ้ายประสานอิน เอาขาข้างขวาถอยหลังไปก้าวหนึ่ง มือขวาร่ายคาถา
‘ TWO ! ’
เสียงสายฟ้าเปรี้ยงปร้างดังไปทั่ว แต่ดีว่ารู้ดีว่าเวลานั้นกำลังมาถึงแล้ว ดังนั้นเขาค่อยๆหมุนกระบี่ในมือขึ้นเพื่อตั้งท่าอย่างช้าๆ สายตาจดจ้องไปยังทุกการเคลื่อนไหวของโคทาโร่
“ นายพร้อมแล้วหรือยัง !!! ”
‘ THREE ! ’
‘ วี้ดๆๆๆๆๆ ’
แสงไฟปรากฏขึ้นบนอักษรรูปตัว H บนหัว และเข็มขัดของโคทาโร่ ก่อนที่เท้าข้างขวาจะปรากฏสายฟ้าอันบ้าคลั่งขึ้น และทันใดนั้นโคทาโร่ก็กระโดดพุ่งตรงเข้าหาดีว่าแล้ว
“ RIDER KICK !!! ”
_________________________________________________
ความคิดเห็น