ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรงเรียนมหาโจร

    ลำดับตอนที่ #50 : บทเรียนที่ 45 ฟูจิน และไรจิน

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.85K
      58
      22 พ.ค. 51

                                  



                                                                          
    บทเรียนที่
    45 ฟูจิน และไรจิน


     

     

     

    เอาละครับทุกท่านการประลองอาวุธคู่แรกของเช้าวันนี้ระหว่างโรงเรียนอับดุล อินเตอร์ และโรงเรียนฮิงะกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้าแล้ว ขอให้ท่านที่ยังไม่มีที่นั่งรีบหาที่นั่งกันด้วยครับ ชายนักประกาศหน้านิ่งเจ้าเก่ากล่าวขึ้น ท่ามกลางเสียงปรบมือที่ดังกึกก้องไปทั่วห้อง

    ดีว่าที่นั่งอยู่ข้างเวทีพยายามสะกดความตื่นเต้นเอาไว้ แม้เขาจะเคยผ่านการประลองมาแล้ว แต่นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่เขาได้ขึ้นมาเหยียบบนเวทีการประลองระหว่างสถาบัน เป็นเวทีเดียวกับที่พี่ชายของเขาเคยขึ้นมายืนต่อสู้ และก็เป็นเวทีเดียวกับที่ซากุระขึ้นมาต่อสู้แล้วเช่นกัน ซ้ำการประลองครั้งนี้ยังมีแค่เขากับโซเฟียเพียงสองคนเท่านั้น

    สรุปหมอนั่นคงมาไม่ได้ใช่ไหม โซเฟียที่กำลังใส่ชุดเกราะถามขึ้น

    คงจะเป็นอย่างนั้นละครับ ดีว่ายิ้ม ไม่รู้ว่าตอนนี้จะฝึกไปถึงไหนแล้ว หรือไม่ก็อาจจะสลบไปแล้วก็ได้ครับ

    แหะๆ ขนาดนั้นเชียวหรอ โซเฟียยิ้มแหยงๆ คล้ายกำลังคิดภาพวาในสภาพล่อแล่หลังจากการฝึกหนัก แม้เมื่อวานเธอจะไม่ได้เจอกับเขา และอาจารย์ที่ตามมาคุมด้านการประลองอาวุธเลยก็ตาม แต่เท่าที่ดีว่าเล่าให้ฟังดูเหมือนว่า การฝึกคงจะเข้มงวดมิใช่น้อย

    แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่มีเวลาหลงเหลือให้คิดเรื่องอะไรทั้งสิ้นอีกแล้ว ทั้งนี้เพราะคู่แข่งจากโรงเรียนฮิงะบัดนี้เตรียมพร้อมอยู่บนเวทีเรียบร้อยแล้ว

    ก่อนอื่นขอเชิญตัวแทนโรงเรียนอับดุลอินเตอร์ออกมาที่ด้านหน้าเพื่อทายหัวเหรียญ และกำหนดกฎในการแข่งรอบนี้ด้วยครับ   เด็กชายนักประกาศกล่าวขึ้น

    ไม่เป็นไรครับผมไปเอง คุณโซเฟียใส่ชุดเกราะรอไปก่อนได้เลยครับ   ดีว่าบอกโซเฟียเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะก้าวขึ้นไป

    ด้านบนเวทียืนไว้ด้วยนักเรียนในชุดนินจาผู้หนึ่ง ที่บนหน้าผากของเขาคาดไว้ด้วยที่ป้องกันหัวนินจาสีดำมีตราสัญลักษณ์โรงเรียนฮิงะซึ่งเขียนเป็นตัวอักษรคันจิอยู่ ที่ปากถูกปิดด้วยผ้าสีดำตามสไตล์นินจา ที่คอพันไว้ด้วยผ้าพันคอสีแดงชวนให้ดูน่าเกรงขาม ด้านหลังสะพายไว้ด้วยดาบนินจา ซึ่งดูเหมือนว่าจะสามารถชักออกมาโจมตีได้ถูกเมื่อ แต่ที่ทำให้นินจาผู้นี้สะดุดตาดีว่ามากที่สุดไม่ใช่ผมที่ตั้งยาวจนเกือบจะปิดตา แต่เป็นเพราะดีว่าเคยเจอกับนินจาคนนี้มาก่อนต่างหาก

    ใช่แล้วนินจาผู้นี้คือ ชิโนบิ มาซาซึมุ ฉายา นินจากระเพาะเหล็กที่เมื่อวานเพิ่งลงแข่งกินจุไปนั่นเอง !

    มาซาซึมุยืนหลับตาประสาน(นิ้ว)แน่นิ่ง ไม่มีท่าทีว่าจะลืมตาขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย 

    ฟิ้ว

    สายลมสั้นๆสายหนึ่งพัดผ่านหน้าของมาซาซึมุไป ผ้าพันคอสีแดงพลิ้วตามกระแสลมเล็กน้อย ทำให้มาซาซึมุค่อยๆลืมตาขึ้น และก็ต้องกับสายตาของดีว่าที่จดจ้องอยู่ก่อนแล้ว

    เป็นเจ้าเองรึที่ปลุกข้าให้ตื่นขึ้น มาซาซึมุจ้องไปยังดีว่า สายตาดูจริงจัง และมีสมาธิ แถมยังแฝงกลิ่นอายฆ่าฟันชนิดที่เรียกได้ว่าแตกต่างจากมาซาซึมุคนเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง อาจจะมีเหมือนกันเพียงอย่างเดียวคือความเพี้ยนก็เป็นได้

    ดีว่าไม่ได้ตอบเพียงยิ้มให้เล็กน้อย ความรู้สึกตื่นเต้นกำลังไหลผ่านไปทั่วตัวของเขา แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกร้อนรนแต่อย่างใด กลับกันมันยิ่งทำให้เขารู้สึกว่ายิ่งต้องสงบเยือกเย็นให้มากขึ้น

    สักพักหนึ่งกรรมการก็เข้ามาถามว่าทั้งสองฝ่ายจะเลือกหัวเหรียญด้านใด

    ผมไม่ขอเลือก มาซาซึมุหลับตาประสานอินต่อ เพื่อที่จะฟื้นฟูฮิงะและฝึกฝนตนเองแล้ว ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด และหนทางใดล้วนแต่ต้องกระทำทั้งสิ้น ดังนั้นเชิญคุณเลือกกติกามาได้ตามสะดวก

    ต้องขอขอบคุณมากเลยนะครับที่ให้เกรียติโรงเรียนผมเป็นฝ่ายเลือกกฎ ดีว่าแย้มยิ้ม แต่ผมเองก็เช่นเดียวกับคุณเหมือนกัน ไม่ว่าจะด้วยกฎแบบไหนผมก็จะขอประลองเพื่อฝึกฝนตนเอง

    คำพูดของดีว่าทำให้มาซาซึมุที่หลับตาอยู่ต้องลืมตาขึ้นมามองยังดีว่าอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้มาซาซึมุเริ่มสัมผัสได้จากแววตาของดีว่าแล้วว่า คนๆนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู่ธรรมดา มาซาซึมุเห็นแววตาที่มุ่งมั่นในตัวของดีว่า เพียงแต่ในแววตานั้นยังคงแฝงความกังวลอยู่บ้าง

    ถ้าอย่างนั้นก็ประลองตามปรกติเป็นอย่างไร ใครชนะสองในสามก็ถือเป็นผู้ชนะ มาซาซึมุยื่นข้อเสนอ

    หากเป็นเช่นนั้นก็ได้ครับ เพียงแต่ว่า ดีว่าเหลือบตาไปยังโซเฟีย ทีมของผมในวันนี้เหลือเพียงแค่สองคนเท่านั้น

    คำพูดของดีว่าคล้ายแฝงความหมายว่า  หากจะต่อสู้แบบตัวต่อตัวแล้วดูผลชนะสองในสามก็ย่อมได้ เพียงแต่ตนเองจะเสียเปรียบเพราะมีผู้แข่งขันเพียงสองคนเท่านั้น ดังนั้นหากมาซาซึมุยังคงเลือการต่อสู้แบบตัวต่อตัวก็เท่ากับว่า จงใจเอาเปรียบตน ซึ่งดูจากคำพูด และนิสัยของมาซาซึมุที่ดีว่าวิเคราะห์เอาไว้แล้วย่อมไม่ใช่คนแบบนั้นแน่

    ความจริงจะให้สู้แบบตัวต่อตัวดีว่าก็ไม่เกี่ยง แต่ตอนนี้เขาจำเป็นต้องรับผิดชอบทีมในฐานะผู้นำ หากการตัดสินใจของเขานำมาซึ่งความผ่ายแพ้ต่อทีมแล้ว เขาคงไม่สามารถทำได้

    บางครั้งคนที่เป็นผู้นำต้องคิดถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าตัวเองอยู่เสมอ แม้การได้เป็นผู้นำจะดูเหมือนว่ามีอำนาจเหนือคนอื่น แต่หากใครได้เคยเป็นผู้นำที่ดีมาบ้างแล้วจะรู้ว่ามันไม่สนุกอย่างที่คิด เพราะหากทำดีก็เสมอตัว ทำแย่ก็เข้าตัวไป

    มาซาซึมุที่ได้ยินคำพูดของดีว่า ถึงกับยิ้มออกมาเล็กน้อย

    ร้ายกาจจริงๆนะครับ ถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับว่าเหลือกฎในการตัดสินอยู่เพียงสองวิธีเท่านั้นสินะ

    ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ ดีว่าก้มหัวอย่างนอบน้อม ช่วยสลายรังสีฆ่าฟันของมาซาซึมุลงไปได้มากทีเดียว

    ถ้าอย่างนั้นจะตัดสินแบบตัวต่อตัวรอบเดียว หรือสองต่อสองรอบเดียวละ

    ขอตัดสินแบบสองต่อสองรอบเดียวครับ ดีว่าตอบคำ ความจริงทั้งหมดดีว่าได้ตัดสินใจไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ว่าถ้าหากทอยหัวเหรียญได้ก็จะขอเลือกการตัดสินแบบสองต่อสอง

    เหตุผลที่เลือกคือ หนึ่ง - ด้วยจำนวนคนที่น้อยกว่า ต่อให้สามารถชนะในคู่แรก แต่หากพละกำลังหมดเสียก่อนที่จะถึงรอบตัดสินจริงๆชัยชนะที่ได้ตอนแรกก็จะไร้ประโยชน์ทันที สอง - เขาได้ปรึกษากันกับโซเฟียแล้ว และโซเฟียก็เห็นด้วย ซึ่งทั้งสองคนก็มีแผนในการต่อสู้แบบคู่อยู่ด้วย เพราะนำบทเรียนที่ได้จากตอนที่ผ่ายแพ้ให้แก่การแข่งคู่ครั้งแรกกับจินเจ และโกจิมาเป็นตัวอย่าง

    และข้อสุดท้าย เป็นข้อที่ดีว่าไม่อยากที่จะคิดมากที่สุด นั่นคือ เขาในตอนนี้ไม่มีความมั่นใจที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้แบบแต่ก่อนอีกแล้ว และเขาก็ไม่กล้าพอที่จะเอาฝีมือของตัวเองเป็นเครื่องแบกรับความเป็นอยู่ของทีมอีกด้วย

    ถ้าเช่นนั้นฮิงะก็ขอน้อมรับคำท้า มาซาซึมุกล่าวจบก็คาราวะให้แก่ดีว่าทีหนึ่ง

    ฟ้าว

    และดีว่าก็ต้องพบว่าเสื้อคลุมของเขาพลิ้วไหวไปเพราะสายลมเช่นกัน จากนั้นรังสีคุกคามก็เริ่มแผ่ออกมาจากตัวของมาซาซึมุทันที ก่อนที่ทั้งสองจะเดินกลับไปยังฝั่งโรงเรียนของแต่ละคน

     

     

    เป็นอะไรไปสีหน้าไม่ค่อยดีเลยนะ โซเฟียที่ใส่ชุดเกราะเรียบร้อยแล้ว และกำลังเหน็บดาบเพลิงอัคคีไว้ข้างเอวอยู่ถามขึ้นเมื่อเห็นดีว่าเดินกลับมา

    ไม่เป็นอะไรหรอกครับ ดีว่ายิ้ม แม้จะกล่าวเช่นนั้นแต่ความไม่สบายใจก็ปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน

    ทำหน้ากลุ้มแบบนี้ไม่สมกับเป็นนายเลยนะ ถ้าเป็นคุณเด๋อก็ว่าไปอย่าง โซเฟียแซว มั่นใจในตัวเองหน่อย นายเก่งจะตายไป เก่งกว่าเราด้วยซ้ำ ถ้านายท้อเสียตั้งแต่ยังไม่แข่งแล้วเราไม่แย่หรอ แหะๆ

    ขอโทษด้วยครับ ดีว่ากล่าวเบาๆ ทำเอาโซเฟียต้องถอนหายใจอีกครั้งหนึ่ง

    เอาเถอะ ยังไงก็สู้ตายนะ โซเฟียชูกำปั้นให้กับดีว่า ซึ่งก็เป็นครั้งแรกที่ดีว่าชูกำปั้นให้กับโซเฟีย

    หลังจากใช้เวลาไม่นานดีว่าก็สวมชุดป้องกันเป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่จะขึ้นเวทีโซเฟียก็เห็นดีว่าหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งขึ้นมาผูกไว้กับแขนขวาของเขา  เมื่อสังเกตดีๆก็ต้องพบว่านั่นคือผ้าผืนที่วีวี่ถักให้แก่ดีว่าตอนที่ดีว่าแข่งที่โรงเรียนนั่นเอง ไม่น่าเชื่อว่าดีว่ายังคงเก็บมันไว้อย่างดี แถมยังเอามาผูกอีกเสียด้วย งานนี้ถ้าวีวี่เห็นสงสัยคงเป็นปลื้มตายแน่นอน

    ผ้านำโชคน่ะครับ ดีว่ากล่าวเมื่อเห็นโซเฟียจ้อง

    แหะๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ค่ะ โซเฟียทำหน้าเจ้าเล่ห์ เล่นเอาดีว่ารู้สึกเขินขึ้นมาทันที ดูแล้วน่ารักไปอีกแบบ แถมยังช่วยลดความกดดันให้แก่ดีว่าลงไปอีกด้วย

     

     

    เมื่อทั้งสองคนก้าวขึ้นไปยังเวที ก็ปรากฏภาพที่สร้างความประหลาดใจให้แก่ทั้งสองอย่างยิ่ง ภาพมาซาซึมุในชุดเกราะป้องกันสีดำแบบนินจา ซึ่งน่าจะเป็นแบบพิเศษประจำโรงเรียนฮิงะ ดูแล้วน่าเกรงขาม แถมดูเพิ้นๆยังคล้ายหุ่นยนต์นินจาด้วยซ้ำ แต่ที่น่าประหลาดใจไม่ใช่ชุดของมาซาซึมุ แต่เป็นชุดของนักเรียนอีกคนหนึ่งต่างหาก

    นักเรียนคนนี้สวมชุดเกราะป้องกันสีดำเหมือนมาซาซึมุ มีผ้าพันคอสีขาวซึ่งต่างจากมาซาซึมุที่เป็นสีแดง เพียงแต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะประเด็นสำคัญคือชุดเกราะที่เขาสวมใส่อยู่นั้นดูคุ้นตาเป็นอย่างยิ่ง  ที่เกราะหมวกป้องกันหัวไม่ได้มีหน้ากากกระจกปิดเหมือนเช่นชุดเกราะทั่วไป แต่กลับเป็นรูปดวงตากลมโตสีขาวมีเส้นตัดเป็นเหลี่ยมๆอยู่ด้านในสองข้าง ที่กลางหัวเป็นมีตัวอักษรรูปตัว H สีขาวยาวขึ้นไป ตรงปากเป็นเหล็กสีเทา บริเวณลำตัวเป็นชุดเกราะที่คล้ายเกราะนินจาแบบมาซาซึมุ  ถัดไปเป็นเข็มขัดที่น่าจะใส่มีดสั้นไว้มากมายเช่นมาซาซึมุ แต่มันกลับว่างเปล่า ที่หัวเข็มขัดเป็นลูกแก้วสีขาวด้านในเขียนไว้ด้วยสัญลักษณ์ตัว H  ด้านข้างเอวเหน็บไว้ด้วยดาบนินจาขนาดยาวเล่มหนึ่ง ส่วนเกราะเท้าทั้งแต่หน้าแข้งลงไปก็ดูใหญ่เป็นพิเศษ

    และหากพิจารณาโดยรวมๆแล้วละก็ ชุดเกราะนี้ช่างเป็นชุดเกราะที่ใกล้เคียงกับชุดของฮีโร่ยอดฮิตตลอดกาลของคุณหนูๆทั้งหลายซึ่งก็คือ ไอ้มดแดง !!! นั่นเอง เพียงแต่นี่อาจจะเป็นไอ้มดนินจาแทน

    ที่ทำให้โซเฟียยิ่งแน่ใจเลยก็คือ ท่ายืนของเจ้าของชุดเกราะนั่นเอง มือซ้ายของเขาประสานอินไว้ ส่วนมือขวานั่นกางออกไปด้านซ้ายทำท่าราวกับตัวเองเป็นไอ้มดแดงจริงๆ

    แหะๆ นายคิดเหมือนที่เราคิดไหม โซเฟียยิ้มแหยงๆ ส่วนดีว่านั้นแม้จะอยากหัวเราะตาม แต่ก็เพ่งสมาธิไว้ไม่ยอมประมาทแม้แต่น้อย

    การแข่งแบบสองต่อสองตัดสินในรอบเดียวระหว่างทีมมิราเคิล โรงเรียนอับดุล อินเตอร์ และทีมโรงเรียน  ฮิงะ โดยมีพลังชีวิตคนละ 3,000 หน่วย โรงเรียนไหนล้มคู่ต่อสู้อีกโรงเรียนลงได้หมดก่อนเป็นผู้ชนะ เริ่มได้ ณ บัดนี้ !!!   เด็กชายนักประกาศกล่าวด้วยเสียงไร้อารมณ์  ราวกับไม่รู้สึกแปลกใจในชุดเกราะไอ้มดนินจานั่นเลยแม้แต่น้อย

    อย่าประมาทนะครับ เห็นอย่างนั้นก็เถอะ แต่เมื่อสักครู่ตอนขึ้นไปทายหัวเหรียญผมสัมผัสได้ถึงฝีมือที่ไม่ธรรมดาของเขาเลยละครับ ดีว่ากระซิบ

    อืม ไม่ต้องห่วง เราไม่เคยประมาทอะไรอยู่แล้ว โซเฟียกล่าวจริงจัง

     

     

    ฮ่าๆๆๆ เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งดังมาจากนักเรียนในชุดเกราะมดนินจา ได้เวลาแล้วสินะ

    ใช่แล้วละครับ คุณโคทาโร่ มาซาซึมุกล่าวอย่างนอบน้อม

    ถ้าอย่างนั้นละก็…………” ว่าแล้วไอ้มดนินจา หรือคุณโคทาโร่ก็ตวัดมือข้างขวาที่กางอยู่พลิกไปด้านขวาทันที

    ชิ้ง !

    โซเฟียรีบชักดาบเพลิงอัคคีออกมาเตรียมรับการโจมตีอย่างรวดเร็ว คู่ต่อสู้ที่เป็นนินจามักจะอาศัยความรวดเร็วในการโจมตี เพราะฉะนั้นจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด แต่ทว่า…………..

    ฮ่าๆๆๆ ไม่ต้องตกใจไปสาวน้อย โคทาโร่ไม่ได้โจมตี แต่กลับตั้งท่าประจำตัวก่อนที่จะตะโกนเสียงดังว่า

    แปลงร่าง !!!

    จากนั้นมือข้างที่ไม่ได้ประสานอินก็หมุนเข็มขัดรูปตัว H พร้อมกันนั้นปรากฏแสงสว่างออกจากดวงตากลมโตทั้งสองข้าง และจากตัวอักษรตัว H บนหัว

    มดนินจา  ไรเดอร์ฮิงะ มาแล้ว !!! ”

    ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบสงัด ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงปรบมือเกรียวกราวจากเหล่านักเรียนที่ได้เห็นการแปลงร่างอันแสนจะอลังการเท่าที่นินจาคนหนึ่งจะทำได้  บางคนที่ยังไม่เคยเห็นมาก่อนถึงกับหัวเราะ บางคนที่เคยเห็นแล้วรู้สึกชอบก็ปรบมือให้อีกครั้งหนึ่ง มีบ้างบางคนถึงกับศรัทธาในตัวโคทาโร่ถึงขนาดติดตามดูทีมฮิงะมาตั้งแต่ที่แข่งรอบแรกเลยก็มี

    แต่อีกมุมหนึ่งในที่นั่งข้างเวทีก็ได้ยินเสียงนักเรียนคนหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยความเอือมระอา

    เฮ้อ ช่างเสียสถาบันนินจาโดยแท้ คนที่กล่าวเช่นนี้ก็คือ ก็อบ จากชมรมนินจาโรงเรียนอับดุล อินเตอร์ อดีตคู่ปรับเก่าของวานั่นเอง

    เสียสถาบันหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ภายนอกหรอกนะ จงตั้งใจดูไว้เสียเถิด เจ้าพวกนี้คือ สองในสามสุดยอดนักเรียนชมรมนินจาของโรงเรียนฮิงะละ มาสเตอร์ชไนเดอร์ อาจารย์ประจำชมรมนินจาผู้แสนเย็นชากล่าวขึ้น กอดอกมองไปยังเวที

    ไม่ว่าใครก็ตามหากมานั่งอยู่ข้างๆสองศิษย์ อาจารย์นี้จะต้องพบกับรังสีคุกคามขุมหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าเข้ามานั่งใกล้ๆทั้งสองคนนี้เลย เว้นเสียแต่นักเรียนหนุ่มหน้าละอ่อนคนหนึ่งที่ดูไร้เรี่ยวแรง และชายหนุ่มท่าทางอารมณ์ดีคนหนึ่ง

    ที่แท้ทั้งก็อบ และมาสเตอร์ชไนเดอร์มาเพื่อชมดูการแข่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้นหรือ ?

     

    พร้อมรึยังมาซาซึมุ โคทาโร่ตั้งท่าประสานอิน

    พร้อมแล้วขอรับ มาซาซึมุย่อตัวลงมือขวาเลื่อนไปจับด้ามดาบที่ด้านหลัง ตั้งท่าแบบนินจา

    ส่วนทางด้านดีว่าก็หันไปกระซิบกับโซเฟีย

    ไม่ผิดแน่ครับ สองคนนั้นจะต้องเป็นไรจิน กับฟูจินแห่งโรงเรียนฮิงะตามาที่มาสเตอร์ชไนเดอร์บอกแน่นอนครับ

    อืม โซเฟียพยักหน้า เราก็ว่าอย่างนั้น

    คนที่สวมชุดเกราะนินจาธรรมดาน่าจะเป็นฟูจิน ส่วนคนที่สวมชุดเกราะแบบพิเศษน่าจะเป็นไรจินที่ได้ยินว่ามาเป็นนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดของโรงเรียนฮิงะ และก็เป็นหัวหน้าทีมโรงรียนฮิงะด้วยละครับ

    ขณะที่กำลังกล่าวอยู่นั่นเอง ทั้งสองคนก็ต้องรีบกระโดดออกห่างจากกันในทันที

    วูบ วูบ !!

    เสียงดาวกระจายนินจาพุ่งผ่านหน้าทั้งสองไปอย่างรวดเร็ว ชนิดที่แทบจะหลบไม่ทันเลยทีเดียว จากนั้นเงาร่างของมาซาซึมุก็หายไปเสียแล้ว

    เช้ง เช้ง เช้ง !

    ดาบนินจาฟันออกด้วยความรวดเร็ว ชนิดที่โซเฟียแทบจะตั้งรับไม่ทัน ดีที่ดาบเพลิงอัคคีเป็นดาบอัศวินที่มีความหนาของแบบเบาบาง จึงสามารถตั้งรับการจู่โจมของมาซาซึมุได้อย่างทันถ่วงที แต่อาจจะเสียเปรียบในด้านพลังโจมตีอยู่บ้าง ทั้งนี้เพราะดาบเพลิงอัคคีไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรับจากโจมตี แต่ถูกออกแบบมาเพื่อให้โจมตีศัตรูอย่างรวดเร็วมากกว่า

    ยิ่งแต่ละดาบของมาซึมุฟันออกด้วยความรุนแรง และรวดเร็วอย่างมาก แถมยังเป็นรูปแบบการโจมตีที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โซเฟียอยู่ชมรมอัศวินจึงถูกฝึกฝนวิธีการฟันดาบมาแบบอัศวิน เมื่อมาพบกับการโจมตีด้วยดาบแบบนินจาแล้วจึงยากต่อการรับมืออยู่บ้าง ยังดีที่เธอก็มีพรสวรรค์ในด้านปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์  

    ดังนั้นโซเฟียจึงสามารถรับการโจมตีของมาซาซึมุได้อย่างไม่พลาดเลยแม้แต่ดาบเดียว

    ต้องขออภัยด้วยนะขอรับ ! มาซาซึมุกล่าวขึ้นจากนั้นหมุนตัว ตวัดเท้าเตะเฉียงใส่โซเฟียด้วยความรวดเร็ว โซเฟียแม้ปกติจะรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ไม่สามารถรวดเร็วไปกว่านินจาอย่างมาซาซึมุได้ จึงถูกเตะกระเด็นล้มลงทันที

    ดีว่าเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ชักกระบี่ดวงดาวออกมาทันที เสียงกระบี่ที่ออกจากฝักส่งเสียงเปรี้ยงปร้างไปทั่วสนาม ก่อนที่จะพุ่งตัวเพื่อเข้าไปช่วยคุ้มกันโซเฟีย

    แต่ทันใดนั้นเองเงาร่างสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าของดีว่า ก่อนที่ขาที่ใส่ด้วยเกราะเท้าแบบพิเศษจะตวัดเตะใส่ดีว่าให้กระเด็นล้มลงไปอีกคนหนึ่ง

    ช่างรวดเร็วจริงๆ ก็อบที่ดูอยู่ถึงกับอดที่จะชมไม่ได้ บางทีคนผู้นี้อาจจะเร็วกว่าตนเองเสียอีก

    โคทาโร่หลังจากเตะดีว่ากระเด็นไป แทนที่จะพุ่งเข้าไปโจมตีใส่ดีว่า กลับพุ่งไปอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป้าหมายของเขากลับเป็นโซเฟียแทน

    สไตล์การต่อสู้แบบนี้ช่างคล้ายกับเมื่อตอนที่ทั้งคู่สู้กับจินเจ และโกจิอย่างยิ่ง  ทุกคนมุ่งเป้าไปยังโซเฟียก่อน คงเพราะเห็นว่าเป็นเป้าที่กำจัดง่ายที่สุดก็เป็นไปได้

    ช่วยไม่ได้แฮะ ในเมื่อเป็นแบบนี้………… ” โซเฟียที่ล้มอยู่รวบรวมเรี่ยวแรง หมุนตัวด้วยความรวดเร็ว มือข้างขวาเขี่ยดาบเพลิงอัคคีไปกับพื้นทันที

    ข้าแด่อัคคีแห่งความมืดเอ๋ย ! จงทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับข้า !! จงเผาพลาญศัตรูของข้าชั่วกัปชั่วกัลป์ !!!

    ทันใดนั้นเองพื้นรอบๆตัวของโซเฟียปรากฏเป็นไฟวงกลมล้อมรอบตัวเธอขึ้น ก่อนที่ดาบในมือจะปรากฏเพลิงสีแดงส่องสว่างจ้าขึ้นมา ทำเอามาซาซึมุ และโคทาโร่ที่พุ่งตัวเข้าไปเซถอยหลังหลบเกือบไม่ทันทีเดียว

    นะ นั่นมันอะไรกันครับเนี่ย มาซาซึมุถามด้วยความตกใจ ระ หรือว่าหล่อนจะเป็นนินจาเงาอัคคี !!!

    ใช่ซะที่ไหนเล่า ! โซเฟียยิ้มเจือนๆ

    เย็นไว้มาซาซึมุ ลืมไปแล้วหรือว่าเจ้าเป็นใคร โคทาโร่เตือนสติ

    ขอโทษด้วยครับ ท่านหัวหน้า มาซาซึมุกล่าวกับโคทาโร่ราวกับมีกันเพียงแค่สองคนบนเวที  

    ชิโนบิ มาซาซึมุ เทพสายลมฟูจิน ! เจ้าจงไปจัดการกับเจ้านินจาเงาอัคคีนั่นซะ เพื่อฮิงะของเรา !!! โคทาโร่ชี้นิ้วสั่งราวกับตัวเองเป็นหัวหน้านินจาที่สั่งลูกน้องไปสังหารคนที่ตนถูกว่าจ้าง

    รับทราบขอรับ เพื่อฮิงะ ย๊าก !!! ว่าแล้วมาซาซึมุก็พุ่งตัวเข้ามาโซเฟีย โดยไม่สนว่าดาบในมือของเธอขณะนี้จะลุกโชติช่วงไปด้วยเปลวไฟขนาดไหน

    วิชานินจาฮิงะ ควันพรางกาย ! จากนั้นมือขวาของมาซาซึมุปรากฎด้วยระเบิดควันลูกกลมๆสี่ห้าลูกในง่ามนิ้ว พร้อมซัดใส่โซเฟียด้วยความรวดเร็ว

    จากนั้นกลุ่มควันก็ปรากฏขึ้นรอบตัวของโซเฟีย ทำให้เธอมองอะไรแทบไม่เห็น แต่เธอก็ไม่ได้เสียสมาธิแม้แต่น้อย  รีบควงดาบเพลิงอัคคีในมือไปมาเพื่อป้องกันอาวุธลับ และการโจมตีจากระยะประชิด พร้อมพยายามเอาตัวออกจากระเบิดควันให้เร็วที่สุด

    แต่ทว่าแม้จะคิดได้เช่นนั้นแต่มาซาซึมุก็พุ่งผ่านเข้ามาในกลุ่มควันอย่างรวดเร็ว และฟันดาบใส่โซเฟียจากด้านบนโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว

    กระบี่สุญญากาศ !

    แต่พริบตาเดียวกัน ก่อนที่ดาบจะฟันใส่หัวของโซเฟียนั้น เสียงปราณกระบี่เกรี้ยวกราดก็พุ่งแหวกกลุ่มควันซัดใส่มาซาซึมุที่กระโดดอยู่กลางอากาศเข้าอย่างจัง พาร่างบางของนินจาสายลมกระเด็นล้มลงกับกับพื้นอย่างจัง

    โครม !

    และเช่นกันแม้ดีว่าจะสามารถช่วยโซเฟียเอาไว้ได้ แต่เขาเองก็ถูกโคทาโร่พุ่งเข้ามาเตะจากด้านข้างกระเด็นล้มลงอีกครั้ง

    การจู่โจมของโคทาโร่ยังรวดเร็วกว่าการโคจรลมปราณของดีว่าเสียอีก การต่อสู้ครั้งนี้ช่างเป็นการต่อสู้ที่ต้องอาศัยจังหวะและความเร็วอย่างยิ่ง ซึ่งจากที่ดูๆแล้วพวกดีว่าเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด  

     

     

    กลุ่มควันแม้จะถูกกระบี่สุญญากาศแหวกออกไป แต่ไม่นานก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพราะควันที่ลอยออกมาจากลูกระเบิดนินจานั้นยังคงไม่หมดลงง่ายๆ

    นินจาฮิงะที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดนินจาสายสังหารช่างน่ากลัวสมชื่อเสียจริงๆ

    บัดนี้กลุ่มควันมิเพียงบดบังไปรอบตัวโซเฟีย แต่ถึงกับเริ่มบดบังไปทั่วเวทีแล้ว แถมามาซาซึมุที่โดนกระบี่สุญญากาศซัดเข้าอย่างจัง ยังดีดตัวขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็ว ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย

    ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่ฝึกในชมรมนินจาโดยปกติจะได้รับการฝึกฝนให้อดทนเป็นพิเศษอยู่แล้ว ประกอบกับที่ได้ชื่อว่าเป็น เทพสายลมฟูจินคงทำให้กระบี่สุญญากาศของดีว่าแทบจะไร้ผลเลยก็ว่าได้

    ไม่เลว นี่ขนาดเราฝึกมาอย่างดีแล้วแท้ๆ ยังไม่สามารถหลบปราณกระบี่ของเจ้านั่นได้ แถมยังพลังลมปราณที่รุนแรงขนาดที่ทำให้เรากระเด็นได้อีกไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

    แต่เป้าหมายของมาซาซึมุตอนนี้ยังไม่ใช่ดีว่าแต่เป็นโซเฟีย ดังนั้นในขณะที่กลุ่มควันยังอยู่เขาจึงตั้งใจจะกำจัดโซเฟียให้ได้

    มาซาซึมุใช้มือซ้ายรวบมีดสั้นหลายเล่มเข้าใส่ง่ามมืออย่างคล่องแคล่ว จากนั้นเมื่อเห็นเปลวไฟจากดาบเพลิงอัคคีที่เบื้องหน้าก็ซัดมีดนินจา(คุไน)ใส่เงาร่างของโซเฟียทันที

    เช้ง เช้ง ฟึบ !!!

    โซเฟียที่ตั้งสมาธิควงดาบเพลิงอัคคีอยู่ จู่ๆก็เห็นมีดนินจาพุ่งตรงเข้าใส่หน้าประมาณห้าหกเล่มด้วยความเร็วสูง เธอพยายามควงดาบเพลิงอัคคีเพื่อปัดป้องมีดเหล่านั้น แต่ถึงกระนั้นมีดนินจาเล่มหนึ่งที่หลุดรอดจากดาบเพลิงอัคคีก็พุ่งตรงเข้าไปใส่หน้ากากป้องกันอย่างจัง ทำเอาพลังชีวิตของเธอลดลงไป 1,000 หน่วยเลยทีเดียว

    ไม่ได้การเสียแล้วขื่นเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆเราต้องแย่แน่ๆ โซเฟียรีบคิดหาหนทาง เพราะหากยังอยู่ในกลุ่มควันอยู่ไม่เพียงมองอะไรไม่ค่อยเห็น แต่ยังเสียเปรียบอย่างมาก ทั้งดาบเพลิงอัคคีก็ไม่สามารถใช้กระบวนท่าหลอกสายตาอย่าง เพลิงอัคคีเริงระบำได้เพราะกลุ่มควันช่วยลดแสงที่ส่องจากดาบเพลิงอัคคีลงไปจนเกือบหมด แถมภายใต้กลุ่มควันแล้วก็เป็นที่รู้ๆกันอยู่ว่า เมื่อมีกลุ่มควันกับไฟขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น กลุ่มควันจะยิ่งทวีความหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกันกับเวลาที่เกิดไฟไหม้นั่นเอง

    จะทำยังไงดี ควันเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆเพราะดาบเพลิงอัคคี โซเฟียพยายามคิดหาทางออกให้เร็วที่สุด และทันใดนั้นเองเธอก็คิดถึงตอนที่วาประลองกับก็อบขึ้นมา ตอนนั้นทั้งๆที่ก็อบเป็นนินจา แต่วากลับอาศัยกลุ่มควันเพื่อพรางตัวแทน ว่าแล้วเธอก็รีบควงดาบเพลิงอัคคีอย่างรวดเร็วทันที ทำให้ควันยิ่งทวีความหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ

    ภายใต้กลุ่มควันเช่นนี้ไม่น่าจะใครหลุดรอดจากนินจาฮิงะไปได้หรอก มาสเตอร์ชไนเดอร์กล่าวอย่างเย็นชา ราวกับไม่ได้เชียร์พวกโซเฟีย และดีว่าเลยแม้แต่น้อย

    มันก็ไม่แน่หรอกครับ จู่ๆชายหนุ่มท่าทางอารมณ์ดีที่นั่งข้างๆก็กล่าวขึ้น ก็อบเองแทบไม่อยากจะเชื่อว่า ในโลกนี้จะมีใครกล้าขัดมาสเตอร์ชไนเดอร์ บางทีอาจมีเพียงคนเดียวเท่านั้น คือ ชายหนุ่มท่าทางอารมณ์ดีผู้นี้ก็เป็นได้   จริงอยู่ที่ว่ากลุ่มควันนั้นนินจาฮิงะเป็นคนสร้างขึ้นเพื่อพรางตัว แต่ก็ใช่ว่าคนอื่นจะไม่สามารถพรางตัวได้ด้วยนี่ครับ

    เฮอะ ช่างไม่รู้อะไรเลยจริงๆ แม้จะพรางตัวได้เหมือนกัน แต่ความช่ำชองที่ต่างกันต้องทำให้ฝ่ายที่ชำนาญกว่าได้เปรียบอยู่แล้ว มาสเตอร์ชไนเดอร์หันมองไปชายหนุ่มท่าทางอารมณ์ด้วยสายตาเหยียดหยาม แต่ชายหนุ่มท่าทางอารมณ์ดีคล้ายไม่รู้สึกกดดันเลยแม้แต่น้อย กลับยิ้มกล่าวตอบกลับไป

    ก็เพราะชำนาญกว่าจึงมั่นใจ เมื่อมั่นใจมากไปก็จะเป็นฝ่ายพลาดท่าเสียเอง หากสามารถอาศัยจังหวะนี้เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ทำอะไรที่เหนือความคาดหมายได้แล้วละก็ จะกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบทันที

    มาสเตอร์ชไนเดอร์ถึงกลับไม่อาจไม่ยอมรับ เพียงเค้นหัวเราะจากนั้นนั่งนิ่งต่อไป

    บางครั้งการทำอะไรที่เหนือความคาดหมายของผู้คน ก็คือสิ่งที่เขาเรียกว่า มายากล นั่นละครับ ที่แท้ชายหนุ่มคนนั้นก็คือ ซาซาไรอาจารย์อารมณ์ดีประจำชมรมนักมายากล คู่ปรับตลอดกาลของมาสเตอร์ชไนเดอร์นั่นเอง

    น่าเสียดายหากโซเฟียได้ยินคำพูดประโยคนี้ไม่แน่ว่าอาจจะคิดหาทางพลิกสถานการณ์ได้บ้าง ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ควงดาบเพลิงอัคคีให้กลุ่มควันยิ่งทวีความหนาแน่นมากขึ้น เพิ่มความได้เปรียบให้แก่มาซาซึมุแบบนี้

    ยิ่งนานกลุ่มควันยิ่งหนาแน่นขึ้น ซ้ำยังรอบๆบริเวณที่โซเฟียควงดาบนั้นยังปรากฏเป็นกลุ่มควันสีดำเด่นชัดเข้าไปอีก ง่ายต่อการเป็นเป้าโจมตีอย่างยิ่ง

    มาซาซึมุที่ย่อตัวพรางกายอยู่ไม่รอช้า พุ่งตัวด้วยความรวดเร็วเข้าไปยังกลุ่มควันสีดำ ซึ่งคาดว่าต้องเป็นจุดที่โซเฟียยืนอยู่แน่นอน

    ส่วนทางด้านโคทาโร่เมื่อเห็นเช่นนั้นก็รีบพุ่งตัวเข้าไปยังบริเวณกลุ่มควันทันที

    หวังว่ามันคงจะได้ผลนะ โซเฟียที่ควงดาบอยู่รีบหยุดมือจากนั้นวิ่งออกไปจากบริเวณนั้นทันที

    วูบ !!!

    และด้วยความรวดเร็วราวเทพแห่งสายลมมาซาซึมุก็กระโจนผ่ากลุ่มควันสีดำที่เห็นเงาร่างของคนผู้หนึ่งยืนอยู่ พริบตานั้นมาซาซึมุเงื้อนินจาเคน(ดาบนินจา)ในท่าเตรียมฟันกลางอากาศ ก่อนที่กลุ่มควันบริเวณด้านหน้าจะค่อยๆคลี่คลายขึ้น เป็นจังหวะเดียวกันกับที่โคทาโร่ก็พุ่งเข้ามาจากด้านข้างพอดี

    และแล้วเมื่อภาพที่เบื้องหน้าปรากฏเด่นชัดขึ้น มาซาซึมุก็ต้องพบว่าผิดคาดแล้ว

    ระ ระวังครับ มันเป็นกับดัก !!!  

    แต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว เงาร่างนั้นกลับเป็นดีว่าแทนที่จะเป็นโซเฟีย !

    ปราณกระบี่สายที่หก ! พายุสลาตัน !!!

    พริบตานั้นดีว่าตวัดกระบี่หมุนรอบตัวคล้ายกับพายุลูกหนึ่ง บริเวณรอบๆตัวของดีว่าก็ปรากฏเป็นเกราะพายุหมุนที่ซัดใส่มาซาซึมุที่อยู่ใกล้ที่สุด และโคทาโร่ที่รีบเปลี่ยนท่าร่างเพื่อหลบการโจมตีอยู่ ให้กระเด็นออกไปทันที

    ปราณกระบี่สายที่หก พายุสลาตันนั้นเป็นปราณกระบี่สายที่ใช้ในระยะประชิดตัวเพื่อป้องกันการโจมตีจากศัตรูหลายๆคนในเวลาเดียว โดยการสร้างพายุหมุนลมปราณขนาดย่อมรอบๆตัวผู้ใช้ พลังทำลายล้างรุนแรงมาก เพียงแต่มีข้อจำกัดอยู่ที่เวลาในการโคจรลมปราณที่เกือบจะนานพอๆกับปราณกระบี่สายที่สาม ระเบิดเวลา และระยะในการโจมตีซึ่งสั้นมาก

    และก็เกือบเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ดีว่าวกกระบี่ออกอีกครั้ง ที่ด้านหลังของมาซาซึมุก็มีเสียงดังขึ้น

    ข้าแด่อัคคีแห่งความมืดเอ๋ย ! จงทำตามพันธะสัญญาที่ให้ไว้กับสายลม !! แปรเปลี่ยนเป็นเพลิงนรกเผาพลาญศัตรูของข้าให้มอดไหม้ชั่วกัปชั่วกัลป์ !!!

    โซเฟียชูดาบเพลิงอัคคีที่ลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงไปยังมาซาซึมุที่ลอยอยู่กลางอากาศ

    ปราณกระบี่ไร้เงา !!!

    พริบตาเดียวกันนั้นดีว่าพุ่งปราณกระบี่ออกจากกระบี่ดวงดาวตรงไปยังดาบเพลิงอัคคีของโซเฟีย และทันทีที่ปราณกระบี่ไร้เงาประสานเข้ากับเปลวเพลิงของดาบเพลิงอัคคี ก็เกิดเพลิงขนาดยักษ์พุ่งออกจากปลายดาบของดาบเพลิงอัคคีใส่ยังมาซาซึมุที่ลอยอยู่กลางอากาศ

    ‘ INFERNO FLAME !!! ’

    เปลวเพลิงที่พุ่งพวยออกจากดาบเพลิงอัคคีที่เป็นผลมาจากการผสานระหว่างปราณกระบี่ไร้เงา และเปลวเพลิงของดาบเพลิงอัคคี ขณะนี้มันกำลังแผ่พุ่งพลังอย่างบ้าคลั่งราวกับจะเผาพลาญศัตรูที่อยู่เบื้องหน้าให้กลายเป็นจุลเลยทีเดียว  

    ช่างเป็นภาพที่ทั้งสวยงามตระการตา และน่ากลัวเฉกเช่นเพลิงเวทมนต์จากนรกก็มิปาน การผสานท่าของทั้งสองคนนี้เกิดขึ้นมาจากอุบัติเหตุครั้งที่เคยประลองกับจินเจ และโกจิ ซึ่งครั้งนั้นปราณกระบี่ของดีว่าบังเอิญซัดถูกดาบเพลิงอัคคีของโซเฟียและไม่สามารถควบคุมได้ เกิดเป็นเพลิงที่ลุกวาบขึ้นมาวูบหนึ่ง แต่ครั้งนี้ผิดกันทั้งสองฝึกฝนจนสามารถหาวิธีควบคุมมันได้แล้ว แต่ก็นับว่าอันตรายมากหากจะนำมาใช้

    ระ ร้อนนนนนนนนนน มาซาซึมุที่โดนเพลิงนรกเผาอยู่ตะโกนลั่น ก่อนที่จะใช้มือซ้ายประสานอินขึ้น พร้อมหมุนตัวกลางอากาศ

    เคล็ดวิชานินจาฮิงะ คาไมทาจิ (ปีศาจสายลมในความเชื่อของคนญี่ปุ่น) !!! 

    พริบตานั้นปรากฏสายลมหมุนที่คล้ายกับปราณกระบี่สลาตันของดีว่าขึ้น แม้พลังจะรุนแรงน้อยกว่าแต่ดูเฉียบคมกว่า ดูราวกับกงล้อสายลมที่หมุนออกจากตัวมาซาซึมุไปยังทุกทิศทางทุกทาง

    ส่งผลให้เพลิงที่โชติช่วงจากพลังของลมปราณนั้นสงบลงให้ทันที และหมอกควันรอบข้างถูกพัดจางออกไปหมดสิ้น

    ภาพเบื้องหน้าของทุกสายตาในตอนนี้คือ มาซาซึมุที่ยืนประสานอินแน่นิ่งอยู่กลางเวที โดยเบื้องหน้ามีดีว่าที่ยืนประจันหน้าอยู่ ด้านหลังเป็นโซเฟียที่ยกดาบเพลิงอัคคีตั้งท่าเตรียมจู่โจมออก ส่วนทางด้านขวาเป็นโคทาโร่ที่กำลังประสานอินอยู่เช่นกัน

    ร้ายกาจจริงๆ สมกับที่เป็นนินจาเงาอัคคี วางแผนเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส แถมยังใช้เพลิงนรกเคล็ดวิชาประจำตระกูลเงาอัคคีทำร้ายข้าได้ถึงขนาดนี้

    การโจมตีจากไฟเมื่อสักครู่นี้ หากมาซาซึมุใช้คาไมทาจิ หรือสายลมจู่โจมออกสลายเปลวเพลิงแล้วละก็ อาจจะต้องผ่ายแพ้ไปเสียแล้ว ทั้งนี้เพราะพลังชีวิตของเขาลดลงไปถึง 2,000 หน่วยเลยทีเดียว ส่วนโคทาโร่สมกับเป็นหัวหน้าทีมสามารถหลบรอดเพลิงนรกไปได้ แต่ก็ยังโดนเฉี่ยวๆไปบ้างเล็กน้อย พลังชีวิตจึงลดไปเพียงแค่ 200 หน่วยเท่านั้น

    ดูท่าเราคงจะต้องใช้ไรจิน กับฟูจินแล้วสินะ โคทาโร่ที่ประสานอินอยู่กล่าวกับมาซาซึมุ

    ครับคุณโคทาโร่ มิเช่นนั้นพวกเราคงจะต้องผ่ายแพ้ให้แก่เจ้าพวกนินจาเงาอัคคีแน่นอน ผมจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ต้องซ้ำรอยเช่นเดียวกับสมัยอดีตที่นินจาฮิงะสังหารโนบุนากะไม่สำเร็จอีก ฮิงะจะต้องฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง !!!

     มาซาซึมุจู่ๆก็ใช้มือซ้ายหยิบคัมภีร์นินจาจากข้างเอวกางเป็นทางยาวลงไป ที่คัมภีร์เขียนไว้ด้วยภาษาญี่ปุ่นเป็นตัวคันจิที่โซเฟีย และดีว่าไม่สามารถจะแปรความได้ ส่วนตรงปลายของคัมภีร์วาดไว้ด้วยรูปของเทพวายุฟูจิน ที่ดูน่าเกรงกลัวอย่างยิ่ง ส่วนมือขวากางมือออกเขียนตัวอักษรกลางอากาศ ราวกับนินจาที่กำลังร่ายคาถาอยู่

    ซึ่งทางด้านโคทาโร่ก็กำลังทำเช่นเดียวกัน โดยที่คัมภีร์ของโคทาโร่เป็นรูปเทพอัสนีไรจิน ที่ยิ่งดูน่ากลัวมากกว่าของเทพฟูจินของมาซาซึมุเสียอีก

    ไม่ว่านี่จะเป็นการกระทำที่ดูประหลาดขนาดไหนก็ตาม แต่ตอนนี้โซเฟีย และดีว่ารู้เพียงแต่ว่าการต่อสู้ต่อนับจากนี้คงจะไม่ใช่ง่ายๆอีกเสียแล้ว

    พริบตานั้นหลังจากร่ายคาถาเสร็จ รังสีฆ่าฟันก็แผ่พุ่งออกจากตัวของนินจาทั้งสองคนทันที

    ระวังตัวด้วยนะครับ คุณโซเฟีย ดีว่ารีบตะโกน เพราะรู้สึกถึงรังสีฆ่าฟันที่ไม่ธรรมดา แต่ก็เหมือนจะไม่ทันการณ์เสียแล้ว

    นินจาเงาอัคคีนั่น เจ้าจงสังหารมันซะ ! โคทาโร่สั่ง ส่วนเจ้ามือกระบี่สายลมนั่น ข้าจะเป็นคนจัดการเอง

    รับทราบขอรับ ! มาซาซึมุรับคำจากนั้นย่อตัวลง เพียงพริบตาก็พุ่งเข้าหาโซเฟียด้วยความรวดเร็ว

    ฉับ ฉับ ฉับ !

    นินจาเคนในมือฟันออกอย่างไม่ยั้งมือ ถึงกับรวดเร็วกว่าเมื่อครั้งแรกที่โจมตีเสียอีก ยังดีที่ดาบในมือของโซเฟียตอนนี้ยังคงลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง ช่วยให้สามารถปัดนินจาเคนไปได้บ้าง

    เร็วกว่าเดิมหลายเท่าตัวแบบนี้ ต้องรีบจัดการเสียแล้ว โซเฟียที่กำลังรับมืออยู่พยายามหาช่วงโหว่จากการโจมตี และทันใดนั้นมาซาซึมุก็หมุนตัวเตะออกแบบครั้งแรก แต่ครั้งนี้โซเฟียสามารถหลบได้อย่างหวุดหวิด

    จังหวะนี่แหละ !

    กระบวนท่าที่หนึ่ง เพลิงอัคคีเริงระบำ !!!

    หลังจากการโจมตีของมาซาซึมุเปิดช่องโหว่ โซเฟียก็รีบเปลี่ยนท่าฟันดาบออกเป็นแบบอัศวินโจมตีกลับไปบ้าง ดาบเพลิงอัคคีในมือควงไปมาด้วยความรวดเร็ว ยิ่งตอนนี้หมอกควันหมดลงแล้ว เพลิงอัคคีบนดาบยิ่งปรากฏเด่นชัด หากเพ่งมองต่อไปมากๆจะต้องถูกหลอกตาแบบครั้งที่ไอร่อนนักรบเกราะเหล็กเคยโดนมาแล้วแน่ๆ

    เจ้านินจาเงาอัคคีเอ๋ย เมื่ออยู่ต่อหน้าเทพวายุยังกล้าใช้เทพอัคคีอีกรึ ! พริบตานั้นมาซาซึมุก็พลิ้วร่างตีลังกากลับหลัง จากนั้นร่ายคาถาขึ้น

    คาไมทาจิ มีดสายลม !!!

    นินจาเคนในมือถูกตวัดวูบขึ้น ก่อนที่โซเฟียจะพบว่าเปลวเพลิงบนดาบเพลิงอัคคีถูกดับวูบลงในทันที แต่ไม่มีเวลาให้ตกตะลึงแล้ว จู่ๆมาซาซึมุก็ซัดทั้งดาวกระจายนินจา และมีดนินจาใส่เธออย่างบ้าคลั่ง

    เช้ง เช้ง เช้ง ! ’

    ขณะนี้ภาพเบื้องหน้าแจ่มชัดกว่าตอนที่อยู่ในหมอกควันเธอจึงสามารถปัดอาวุธลับพลางหลบไปด้วยได้หมดสิ้น แต่ทว่านั่นเป็นเพียงแค่แผนล่อเท่านั้น เพราะพริบตานั้นเองเงาร่างของมาซาซึมุก็พุ่งอ้อมมาจากด้านหลังก่อนที่จะย่อตัวลง พร้อมตวัดนินจาเคนเสยเข้าที่กลางหลังของโซเฟีย

    ฟับ !

    ราวกับสายลมที่พัดผ่านมาวูบหนึ่ง แต่คมกริบราวมีดกรีด พลังชีวิตของโซเฟียลดลงไปถึง 800 หน่วย แต่เธอก็ไม่เสียสติ รีบวิ่งออกไปด้านหน้าเพื่อหลบจากโจมตีจากด้านหลัง

    แต่มาซาซึมุคล้ายวิญญาณลมคาไมทาจิจริงๆ เขาพุ่งตัวตามโซเฟียไปในทันที ซึ่งถ้าเทียบกันด้านความเร็วโดยปกติแล้วก็มาซาซึมุก็เร็วกว่าอยู่นิดหน่อย แต่ขณะนี้มาซาซึมุใช้เทพวายุแล้ว จึงรวดเร็วยิ่งกว่าหลายเท่าตัว

    ฟับ ฟับ !

    นินจาเคนฟันใส่อากาศธาตุสองครั้ง ทั้งนี้เพราะโซเฟียเอี้ยวตัวหลบได้อย่างฉิวเฉียด ภาพที่เบื้องหน้าช่างเป็นภาพที่ทรมานใจคนดูเสียจริงๆ ดูเหมือนว่าแฟนๆที่มาเชียร์โซเฟียจะเริ่มหน้าเสียกันแล้ว ทั้งนี้เพราะมาซาซึมุรวดเร็วราวกับภูตผีที่โซเฟียทำได้ในขณะนี้เพียงแค่วิ่ง แต่หลบจากโจมตีเท่านั้น

    ทางด้านดีว่าไม่ใช่ไม่คิดจะไปช่วยโซเฟีย แต่ถูกโคทาโร่ยืนขวางเอาไว้ ภาพโซเฟียที่ถูกโจมตีอย่างไม่สามารถโต้ตอบอยู่นั้นทำให้ดีว่ารู้สึกร้อนรนอย่างยิ่ง แต่เขาต้องไม่เสียสมาธิเด็ดขาด ทั้งนี้เพราะโคทาโร่ยังคงยืนนิ่งจ้องมายังดีว่าตาไม่กระพริบ

    และดีว่าเองก็เคยได้รับรู้ถึงพลังความรวดเร็วของสายฟ้ามาบ้างแล้ว ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่เขาทำได้ก็เพียงแค่ยืนประจันหน้า รอจังหวะที่จะโจมตีออกไปเท่านั้น

    ฟิ้ว !

    สายลมพัดผ่านหน้าของโคทาโร่ไป ผ้าพันคอสีขาวพลิ้วตามไปเล็กน้อย

    ดีว่าโคจรพลังลมปราณ และพลังสมาธิไว้กับกระบี่ในมือ ตอนนี้ความกดดันทั้งมวลไม่ได้อยู่ที่ความไม่มั่นใจในฝีมือของตัวเองอีกต่อไปแล้ว เขารู้เพียงแต่ว่าครั้งนี้จะต้องช่วยเหลือโซเฟียให้ได้ เขาจะไม่ยอมให้โซเฟียต้องแพ้เพราะเขาอีกแล้ว ดังนั้นสายตาของดีว่าจึงแปรเปลี่ยนไปเป็นคมกริบราวกับกระบี่ในมือของเขา

    หึ โคทาโร่เค้นหัวเราะ นายรู้ไหมทำไมชั้นสามารถมายืนตรงจุดนี้ได้

    เสียงสายฟ้าเปรี้ยงปร้างขึ้น แต่ไม่ทราบว่ามันก่อตัวจากที่ใด

    ชั้นเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบในไรเดอร์มาก เพราะพวกเขาจะคอยปกป้องทุกคนเสมอ ไม่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูแบบไหนก็ตาม

    มือของโคทาโร่ค่อยๆเลื่อนลงไปดึงนินจาเคนออกจากข้างเอว จากนั้นก้าวต่อไปอย่างไม่ขาดตอน สายตาจับจ้องไปยังดีว่า

    ชั้นเองก็เช่นกันเป็นหัวหน้าทีมโรงเรียนฮิงะ เพื่อฟื้นฟูฮิงะ และปกป้องนินจาทุกคนแล้ว ชั้นจะแพ้ไม่ได้ แต่ที่สำคัญกว่านั้นไม่ใช่ชัยชนะ แต่มันเป็นความรู้สึกสนุกทุกครั้งที่ชั้นได้ต่อสู้ในชุดเกราะนี้ นายรู้ไหมว่าเพราะอะไร

    หากเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัวละก็ดีว่าอาจจะถามกลับไป แต่ภาพที่เบื้องหลังของโคทาโร่นั้นกดดันจนเขารู้สึกว่าไม่มีอารมณ์จะเล่นถามตอบกับโคทาโร่แล้ว ซึ่งดูเหมือนว่าโคทาโร่จะสังเกตความร้อนรนในแววตาของดีว่าได้ จึงยิ้มขึ้นเล็กน้อย เพียงแต่ภายใต้หน้ากากไรเดอร์ฮิงะ ไม่สามารถมองเห็นรอยยิ้มอย่างมีชัยนั้นได้

    เพราะทุกครั้งไม่ว่าตอนไหนก็ตามที่ไรเดอร์ทุกคนใช้ท่าไม้ตาย ไรเดอร์คิก แล้วศัตรูทุกคนจะไม่สามารถหลบพ้น และต้องผ่ายแพ้หมดสิ้น ซึ่งชั้นที่ชื่นชอบไรเดอร์โดยส่วนตัวอยู่แล้วก็ได้ฝึกลูกเตะอันทรงพลังนั้นจนสำเร็จ มันเป็นการประสานระหว่างฮีโร่ที่ชั้นชื่นชอบกับคาถานินจาเทพอัสนีอย่างลงตัวที่สุด !

    เสียงสายฟ้าดังเปรี้ยงปร้าง คราวนี้ดีว่ารู้แล้วว่ามันดังมาจากที่ใด

    ที่เกราะขาข้างขวานั่นเอง มันกำลังสะสมพลังงานสายฟ้าที่บ้าคลั่งอันมหาศาลเอาไว้

    โคทาโร่กดไปยังเข็มขัดของเขา จากนั้นมันเสียงส่งเสียงนับเวลาดังขึ้น

    ONE ! ’

    โคทาโร่ตั้งมือซ้ายประสานอิน เอาขาข้างขวาถอยหลังไปก้าวหนึ่ง มือขวาร่ายคาถา

    TWO ! ’

    เสียงสายฟ้าเปรี้ยงปร้างดังไปทั่ว แต่ดีว่ารู้ดีว่าเวลานั้นกำลังมาถึงแล้ว ดังนั้นเขาค่อยๆหมุนกระบี่ในมือขึ้นเพื่อตั้งท่าอย่างช้าๆ สายตาจดจ้องไปยังทุกการเคลื่อนไหวของโคทาโร่

    นายพร้อมแล้วหรือยัง !!!

    ‘ THREE ! ’

    วี้ดๆๆๆๆๆ

    แสงไฟปรากฏขึ้นบนอักษรรูปตัว H บนหัว และเข็มขัดของโคทาโร่ ก่อนที่เท้าข้างขวาจะปรากฏสายฟ้าอันบ้าคลั่งขึ้น และทันใดนั้นโคทาโร่ก็กระโดดพุ่งตรงเข้าหาดีว่าแล้ว

    “ RIDER KICK !!!

     



                     _________________________________________________

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

      

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×