คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #43 : บทเรียนที่ 38 พลังที่ซ่อนอยู่ และอาวุธลึกลับ
บทเรียนที่ 38 พลังที่ซ่อนอยู่ และอาวุธลึกลับ
ดาบยักษ์ฟาดใส่พื้นอย่างจังอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่เหมือนเดิมเพราะสเวนถูกแทงด้วยดาบของไซโคร แนช ส่วนไซโคร แนชนั้นอาศัยรีเฟรกโหมดเพี้ยวเสี้ยววินาทีหมุนตัวออกจากรัศมีดาบของสเวน จากนั้นรีบลุกขึ้นทันที
นับว่าดาบนี้โดนเข้าอย่างจังทีเดียว แต่พลังชีวิตของสเวนนั้นก็ลดลงไปเพียงแค่ 500 หน่วยเท่านั้น คงเป็นผลมากจากการใช้ก๊อดสเต้นช์ทำให้การบาดเจ็บที่ได้รับลดลงไปกว่าครึ่ง ซึ่งรวมแล้วตอนนี้สเวนเหลือพลังชีวิตอยู่ 3200 หน่วย ส่วนไซโคร แนชนั้นเหลือ 3800 หน่วย ถึงแม้ว่าจะห่างกันไม่มากนัก แต่ดูจากสถานการณ์แล้วสเวนได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด
ไซโคร แนชที่ลุกขึ้นมายืนได้อีกครั้งไม่รอช้ารีบโจมตีเข้าใส่สเวนในทันที แต่สเวนที่หันหลังให้อยู่นั้นใช้เพียงแค่สะบัดแขนซ้ายขึ้นมากระแทกใส่ไซโคร แนชเท่านั้นก็ทำให้ไซโคร แนชกระเด็นไปไกลล้มลงกับพื้นอีกครั้ง
สเวนนั้นไม่รอช้า หลังจากตั้งหลักได้ก็พุ่งเข้าหาไซโคร แนชอีกครั้ง ไซโคร แนชก็รีบลุกขึ้นและวิ่งหลบด้วยความรวดเร็ว ตวัดดาบใส่สเวนซึ่งสเวนก็ตวัดดาบยักษ์ขึ้นมารับได้อย่างสบายๆ หนำซ้ำยังปล่อยหมัดซ้ายใส่ไซโคร แนชอย่างรวดเร็ว ทำให้ไซโคร แนชต้องกระเด็นไปอีกครั้ง
‘ พละพลังมหาศาลเสียจริงๆ ไม่ธรรมดาเลยเจ้าหมอนี่ สมแล้วที่พกความมั่นใจว่าจะสามารถโค่นนักสู้ศักดิ์สิทธิได้ แค่หมัดธรรมดาก็ทำให้เรากระเด็นได้แล้ว . ’
ก่อนที่ไซโคร แนชจะคิดอะไรต่อไปนั้น เขาก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นที่หัวของเขาจนเกือบจะทรุดลงไปกับพื้นทันที
‘ เราเองดูท่าว่าหากใช้รีเฟรกโหมดไปมากกว่านี้ก็คงจะไม่ดีแน่ ถ้าอย่างนั้นต้องรีบตัดสินแพ้ชนะให้ได้แล้วละ ’
ดังนั้นไซโคร แนชจึงพุ่งเข้าหาสเวนใหม่ จากนั้นรอจังหวะที่สเวนวาดดาบเข้าใส่ตน ก้มตัวหลบจากนั้นตวัดดาบในมือซ้ายออกหวังฟันใส่กลางลำตัวในระยะประชิดที่สุด แต่ทว่า
ไซโคร แนชยังเร็วไม่พอ ก๊อด สเต้นช์ไม่เพียงเป็นพลังลมปราณสายฟ้าที่เพิ่มพลังมหาศาลให้แก่ผู้ใช้ ทั้งยังเพิ่มพลังการป้องกัน และความเร็วขึ้นกว่าเท่าตัว
ดาบในมือซ้ายของไซโคร แนชถูกมือซ้ายของสเวนคว้าจับไว้ได้ และทันใดนั้นเองดาบยักษ์ก็ตวัดวกกลับใส่ไซโคร แนชทันที
พริบตานั้นไซโคร แนชจึงตัดสินใจใช้ไหล่ขวาเข้าปะทะเพื่อลดระยะการเหวี่ยงดาบเพื่อให้พลังทำลายลดเหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
‘ ปัก !!! ’
แม้ระยะการวาดดาบของสเวนจะเป็นเพียงแค่ระยะสั้นๆเท่านั้น แต่ไหล่ขวาที่พุ่งเข้าปะทะนั้นคล้ายจะหลุดออกจากบ่าไปแล้ว
ความเจ็บปวดวิ่งพล่านไปทั่วบริเวณไหล่ และแขนขวาซึ่งก็เจ็บหนักจากการโจมตีครั้งก่อนอยู่แล้ว
ไซโคร แนชนั้นได้แต่กัดฟันทน แม้เรี่ยวแรงในตอนนี้ยังพอมีอยู่ แต่ความเจ็บปวดนั้นคล้ายสั่งการให้สมองบอกร่างกายของเขาให้หยุดการทำงานเสียตอนนี้
ร่างกายของไซโคร แนชคล้ายกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไหล่ขวานอกจากต้องรับแรงปะทะเมื่อสักครู่ไปแล้วตอนนี้ก็ยังต้องยันอยู่กับดาบยักษ์ที่บีบเข้ามาเรื่อยๆ ส่วนมือซ้ายก็พยายามจะดึงดาบออกมาจากมือของสเวนให้ได้
ช่างเป็นภาพที่ทรมานใจคนดูเสียจริงๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ไซโคร แนชตอนนี้อยู่ในสถาการณ์ที่เลวร้ายสุดๆ พลังชีวิตของเขาเริ่มลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากดาบยักษ์ที่กำลังบีบเข้าใส่ไหล่ขวาอย่างไม่หยุดหย่อนราวกับต้องการบีบอัด
ไซโคร แนชให้ผ่ายแพ้ไปในสภาพเช่นนี้
“ นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน หงุดหงิดเป็นบ้าเลยให้ตายสิ !!! ” เกก้าดีนที่นั่งดูอยู่ถึงกับเป็นเดือดเป็นร้อนแทนไม่ได้ เขาคงจะยอมไม่ได้แน่หากไซโคร แนชต้องมาแพ้ให้กับสเวนเสียก่อนที่จะได้สู้กับเขา
“ ชิ จบกันเสียทีสินะ ” จี ดาบคลั่งที่นั่งอยู่ถึงกับได้โอกาส หันไปยิ้มกวนให้กับเกก้าดีนทีนึง
วานั้นได้แต่นั่งลุ้น แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง ไซโคร แนชจะแพ้จริงหรือ ? พลังชีวิตที่กำลังลดลงเรื่อยๆ คือ เวลาที่จะให้คำตอบแก่วา
ส่วนดีว่านั้นถึงกับประสานมือแน่นไม่สงบเยือกเย็นเหมือนครั้งก่อนๆที่เคยดูไซโคร แนชแข่ง ครั้งนี้เขาไม่อาจประเมินพลังของคู่ต่อสู้ได้เลย และหากเปลี่ยนเป็นเขาเองแล้ว ก็ไม่แน่ว่าจะใช้พลังลมปราณจัดการกับคนๆนี้ได้
และเมื่อคิดถึงตรงนี้ก็ทำให้เขาหวนถึงซากุระที่ใช้การโคจรพลังลมปราณในเวลาชั่วอึดใจ ซัดดาบยักษ์ปลิวไปราวกับกิ่งไม้ ถ้าหากเรามีพลังลมปราณได้ถึงขั้นนั้นก็คงจะดีสิ .
พลังชีวิตของไซโคร แนชตอนนี้ลดลงเหลือ 2800 หน่วยแล้ว
ไซโคร แนชพบว่าร่างกายของเขาเริ่มทนทานการบีบอัดนี้ไม่ไหวแล้ว มือซ้ายที่ถือดาบไว้ยิ่งพยายามดึงดาบออกสักเท่าไหร่ก็ยิ่งเปลืองแรงที่จะเอาไว้ใช้รับดาบยักษ์ด้านขวาไว้เท่านั้น
“ ยอมรับความผ่ายแพ้ซะเถอะครับ ” สเวนกัดฟันเพิ่มพลังดันดาบยักษ์ใส่ไซโคร แนช
“ อ๊าก ! ” ไซโคร แนชเริ่มทนไม่ไหวเสียแล้ว หลุดปากร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ความจริงหากแขนขวาของเขายังคงเป็นปกติอยู่ละก็ลำพังการปะทะกำลังในแบบนี้นั้นไม่ใช่ปัญหาเลย และตอนนี้ไม่ใช่เพียงไหล่ขวาเท่านั้น แต่หัวของเขาก็เริ่มจะทนทานการใช้รีเฟรกโหมดไม่ได้เสียแล้ว
ไซโคร แนชรู้สึกสายตาพร่ามัว เรี่ยวแรงที่มีอยู่คล้ายกำลังจะหายไปหมดสิ้น
เมื่ออยู่ต่อหน้าก๊อด สเต้นช์ พลังของพระผู้เป็นเจ้าแล้ว เขาคล้ายกลายเป็นเพียงแค่คนตัวเล็กๆเท่านั้น จะทำอย่างไรต่อไปดี ขืนต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ละก็จะต้องแพ้แน่นอน
‘ เมื่อใดที่ปล่อยซึ่งทุกสิ่ง แล้วเจ้าจะได้ทุกอย่าง ’
จู่ๆภาพของหลวงพ่อที่ฝึกฝนวิชาให้กับตนก็ปรากฏขึ้นมา แต่ทำไมถึงต้องเป็นคำพูดประโยคนี้ด้วยนะ คำพูดที่ครั้งหนึ่งเขาเองเคยคิดว่าเข้าใจ
และเหมือนสายฟ้าที่ฟาดเข้ามาในหัว มือซ้ายที่กำดาบไว้แน่นของไซโคร แนชเริ่มผ่อนคลายลง มุมปากที่เคยกัดฟันแน่นบัดนี้เริ่มมีรอยยิ้มน้อยๆปรากฎขึ้นมาแล้ว
‘ ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจก็เถอะนะครับว่ามันเกี่ยวกับการใช้ชีวิต หรือการต่อสู้ยังไง แต่ก็ ขอบคุณนะครับ ’
สเวนเริ่มอยากจัดการไซโคร แนชให้ได้โดยไว จึงเริ่มเปลี่ยนจากการใช้ดาบยักษ์บีบไหล่ขวา เป็นง้างดาบเพื่อจะโจมตีใส่ไซโคร แนชอีกครั้ง โดยมือซ้ายก็ยังคงจับดาบของไซโคร แนชไว้อย่างแนบแน่น
“ เอาละนะ ”
ดาบยักษ์ชูขึ้นฟ้าสะท้อนกับแสงฟ้าที่ส่องด้านบน คล้ายเป็นภาพการประหารนักโทษ หรือนี่จะเป็นแสงสว่างสุดท้ายของไซโคร แนชในการแข่งครั้งนี้
“ จบกันเสียที ประหาร ! ”
ดาบยักษ์ฟาดใส่ไซโคร แนชอย่างเต็มกำลัง บนดาบยักษ์ปรากฏสายฟ้าขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ราวกับดาบจากเทพเจ้าผู้กำลังจะลงโทษเหล่าปีศาจร้าย
แต่ไซโคร แนชยิ้มอย่างใจเย็นจากนั้นรอคอยจังหวะที่เหมาะสมที่สุดขณะที่ดาบยักษ์ห่างจากตัวเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น
ช่างเป็นการตัดสินใจที่ต้องใช้ความเยือกเย็น และความมั่นใจสูงทีเดียว เพราะหากพลาดไปแม้แต่น้อยก็คงจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
‘ ปึง ! ’
เสียงดาบยักษ์ฟาดผ่านอากาศธาตุ กระทบสู่พื้นเวทีทำให้พื้นเวทีแตกกระจายแสดงถึงพลังทำลายอันมหาศาล แต่ไม่มีเวลาให้หยุดหายใจ หรือแม้แต่คิดแล้วสำหรับสเวน
‘ หายไปไหนกัน ! ’
เพียงแค่วูบเดียวที่ความคิดแวบขึ้นมา สายฟ้าก็วาปขึ้นมาต่อหน้าสเวนในทันที
‘ ฟับ ฟับ ’
ดาบในมือของไซโคร แนชฟันออกอย่างรวดเร็วใส่มือซ้ายของสเวน จากนั้นดาบที่กำอยู่ในมือซ้ายของสเวนก็ร่วงหล่นลงกระทบพื้น
ที่แท้คำพูดของหลวงพ่อที่แวบขึ้นมาในหัวของไซโคร แนชทำให้เขาคิดได้ ‘ เมื่อใดที่ปล่อยซึ่งทุกสิ่ง แล้วเจ้าจะได้ทุกอย่าง ’
ไซโคร แนชที่ต้องถูกบีบอยู่ในตอนแรกนั้นเป็นเพราะเขาพยายามจะดึงดาบออกจากมือของสเวน ซึ่งแน่นอนขณะที่สเวนใช้พลังก๊อด สเต้นช์อยู่นั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย แต่หากทิ้งดาบของตนไปในความหมายของนักสู้นั้นก็เท่ากับละทิ้งซึ่งศักดิ์ศรีไป
แต่ไซโคร แนชก็ตัดสินใจได้ว่าหากไม่ยอมปล่อยมือออกจากดาบของเขา เขาจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน เขายังมีภาระ หน้าที่ที่ต้องทำอยู่ ยังมีเพื่อนร่วมทีมที่ยังเชื่อในตัวของเขาอยู่ และคำสัญญาที่ต้องรักษาไว้ให้ได้ .
เพราะฉะนั้นไซโคร แนชจึงอาศัยจังหวะที่สเวนต้องทุ่มสมาธิ และกำลังมากที่สุดเพื่อปล่อยดาบทำให้สเวนเสียศูนย์ จากนั้นใช้รีเฟรกโหมดเคลื่อนตัวออกพร้อมดึงดาบที่เหลืออยู่ข้างเอวของตนฟันใส่มือของสเวน
ก่อนที่ดาบจะร่วงหล่นสู่พื้นไซโคร แนชก็อาศัยช่วงเวลาเพียงชั่วพริบตาเท่านั้นสอดดาบในมือซ้ายกลับสู่ฝักก่อนที่จะหมุนตัวราบไปกับพื้น และรับดาบไว้ได้อย่างทันถ่วงที
บัดนี้ดาบคู่สายฟ้ากลับมาสู่เขาอีกครั้ง ดังคำที่ว่า ‘ เมื่อปล่อยซึ้งทุกสิ่ง เจ้าจะได้ทุกอย่าง ’ ที่หลวงพ่อเคยกล่าวไว้ไม่มีผิด
แม้จะละทิ้งศักดิ์ศรีของนักรบ แต่ไซโคร แนชก็เข้าใกล้คำว่า พาลาดิน มากขึ้นกว่าเดิมแล้ว ความรู้สึกที่ต้องเสียสละแม้ทุกสิ่งเพื่อปกป้องสิ่งสำคัญ นั่นคือ ‘ หัวใจของนักรบที่แท้จริง ’ นี่ต่างหากที่สำคัญกว่าคำว่า ศักดิศรี !!!
คนเราบางครั้งหากรู้จักปล่อยวางบ้าง ไม่แน่ว่าเขาอาจจะได้ซึ้งทุกสิ่งจริงๆ เพราะเมื่อไม่ต้องการซึ่งทุกสิ่งแล้ว เราก็จะมีทุกอย่างนั่นเอง เพียงแต่ว่าการปล่อยวางแม้จะดูง่าย และสบายที่สุดเพราะสิ่งที่ต้องทำก็คือ การอยู่เฉยๆและปล่อยให้มันผ่านไป แต่น้อยคนนักที่จะสามารถทำได้
บางทีคนเหล่านั้นอาจเหมือนไซโคร แนชที่ไม่สามารถดึงดาบออกได้ตลอดกาล เพราะตัวเองนั่นแหละที่เป็นคนกำมันไว้อย่างแนบแน่นเอง แล้วท่านละเป็นไซโคร แนชในแบบไหน ?
สเวนเมื่อรู้ว่าพลาดท่าแล้วก็รีบเปลี่ยนท่าในทันที แม้แขนซ้ายจะรู้สึกชาวูบไปบ้าง แต่ด้วยพลังของลมปราณสายฟ้าที่ช่วยเสริมพลังให้ตนเองก็ทำให้อาการนั้นหายไปในเวลาเพียงชั่วพริบตา ดาบยักษ์ที่กระทบพื้นนั้นชูขึ้นในทันที จากนั้นวาดวงโจมตีใส่ไซโคร แนชอย่างไม่รอช้า
ไซโคร แนชยิ้มอย่างมั่นใจว่าต้องสามารถหลบได้อย่างแน่นอน พุ่งตัวเข้าหมายจะฟันดาบใส่สเวนให้ได้อีกสองสามดาบ
ดาบยักษ์ของสเวนวาดออกอย่างรวดเร็วจนใกล้จะถึงหน้าของไซโคร แนชที่กำลังพุ่งเข้ามา หากไม่สามารถหลบพ้นดาบนี้ได้ละก็ .
ขณะที่ดาบยักษ์ห่างจากหน้าของไซโคร แนชเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น ร่างกายของไซโคร แนชก็ขยับวูบลงทันที
‘ เอาละนะ . ’
ไซโคร แนชเพ่งสมาธิ จากนั้นเล็งที่จุดตายเพียงจุดเดียวที่ไม่ว่าจะมีพลังป้องกันที่สูงส่งขนาดไหนก็ตาม ก็ไม่อาจทนทานได้
ดาบยักษ์กำลังจะฟาดใส่ศีรษะของไซโคร แนชแล้ว หากไซโคร แนชหยุดการเคลื่อนไหวแม้แต่เพียงนิดเดียว หรือแม้แต่ช้าไปเพียงวูบหนึ่งละก็ ผลที่ตามมาก็พอคาดเดาได้
แต่ไซโคร แนชในตอนนี้ไม่มีทางหลบไม่พ้น เพราะมีรีเฟรกโหมดที่ช่วยเพิ่มความรวดเร็วให้
‘ เปรี๊ยะ !!! ’
จู่ๆภาพเบื้องหน้าคล้ายสว่างจ้า มองไม่เห็นแม้กระทั่งดาบยักษ์ที่ห่างจากตนเพียงสิบเซนต์ และตามมาด้วยความเจ็บปวดที่ไม่อาจประมาณได้
เนื่องจากใช้รีเฟรกโหมดมากเกินขีดจำกัดเวลา ส่งผลให้สมองไม่สามารถทนรับความเจ็บปวดได้อีกต่อไป
“ อ๊าก !!! ” ไซโคร แนชรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาในหัวอย่างไม่อาจทนทานได้ เสียจังหวะไปทันที
และ ..
‘ ตึง !!! ’
ดาบยักษ์ฟาดถูกไซโคร แนชอย่างจัง ทำให้เขาต้องกระเด็นไปไกลล้มลงกับพื้นในทันที ดาบในมือซ้ายหลุดหมุนคว้างไปกับพื้นตามแรงกระแทกที่ได้รับ
ดีว่าที่นั่งดูอยู่ถึงกับไม่อยากเชื่อสายตา วาเองก็เช่นกัน ‘ นี่รุ่นพี่แพ้แล้วอย่างนั้นหรือ ? ’
ต่อให้ไม้แพ้แต่เจอดาบยักษ์ขนาดนั้นฟันใส่ก็สาหัสแล้ว นี่ยังไม่รวมพลังลมปราณสายฟ้าแบบเสริมพลัง ‘ก๊อด สเต้นช์ ’ ที่ทำให้ผู้ใช้มีพละกำลังเทียบเท่าพระเจ้าเข้าไปอีก
โซเฟียที่นั่งดูอยู่แม้จะเป็นคนที่ชินชากับการดูการประลองอาวุธแล้วก็ตาม แต่ภาพที่เพิ่งปรากฏต่อหน้านั้นสร้างความตื่นตระหนกให้แก่เธออย่างมาก พละกำลังมหาศาลขนาดที่ยังไม่เคยพบเคยเห็นจากผู้เข้าแข่งขันหน้าไหนมาก่อน พลังป้องกันที่แม้แต่ไอร่อนนักรบเกราะเหล็กก็ไม่อาจจะเอามาวิจารณ์ร่วมด้วยได้
นี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จะรับมือได้จริงๆหรือ ? ทีมมิราเคิลแพ้แล้ว ? ไซโคร แนช นักสู้ศักดิ์สิทธิ์เพียงคนเดียวของโรงเรียนที่สามารถผ่านการทดสอบเป็นพาลาดินได้ แพ้ให้แก่อัศวินนักฆ่าแล้วอย่างนั้นหรือ ?
“ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย ?! ” เกก้าดีนถึงกับเลือดขึ้นหน้า ไซเมตเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน ได้แต่เอามือไปเตะบ่าเกก้าดีนเตือนให้สงบลงบ้าง
“ เอาน่า ผิดหวังสินะ แต่อย่าลืมนะว่าคู่ต่อไปเราก็ต้องลงแข่งแล้ว ” ไซเมตยิ้ม เบือนหน้าจากภาพไซโคร แนชที่นอนกองบนเวทีไปวูบหนึ่ง “ และไม่ว่าในการแข่งคู่นี้ใครจะชนะก็ตาม เราก็ต้องจัดการมันอยู่ดีไม่ใช่หรือ ? ”
เกก้าดีนไม่ยอมตอบกัดฟันจ้องไซโคร แนชที่นอนกองอยู่อย่างหมดสภาพ ในแววตามีเปลวเพลิงลุกโชนขึ้น คล้ายต้องการจะจุดไฟเผา หรือกระตุ้นให้ไซโคร แนชลุกขึ้นมาให้จงได้
ส่วนจี ดาบคลั่งนั้นยิ้มอย่างสะใจพร้อมกับเริ่มเช็ดดาบของตน เตรียมพร้อมจะแข่งต่อในรอบต่อไป
สเวนยิ้มอย่างมั่นใจ จากนั้นตั้งดาบยักษ์ไว้ยืนดูไซโคร แนชที่นอนกับพื้นอย่างหมดสภาพ มือของไซโคร แนชกุมศีรษะแน่นราวกับมันจะแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ ร่างกายเริ่มสั่นไปด้วยความเจ็บปวดทั้งจากการโจมตีของสเวน และผลจากรีเฟรกโหมด
‘ เราแพ้แล้วหรือเนี่ย . ’
ไซโคร แนชแม้จะเจ็บปวดเพียงใด แม้มือทั้งสองจะไม่ได้กุมดาบไว้ แต่ในหัวยังคงคิดถึงผลการแข่งขันอยู่
วากัดฟันดูไซโคร แนชที่เริ่มนอนดิ้นไปดิ้นมา มือกุมศีรษะท่าทางทรมานอย่างแสนสาหัส
“ ระ รุ่นพี่ .. ”
วาเงยหน้าขึ้นจากนั้นตัดสินใจว่าจะวิ่งขึ้นไปช่วยประคองไซโคร แนชกลับมา แต่ขณะที่กำลังจะวิ่งขึ้นไปนั้นก็ถูกโซเฟียดึงตัวเอาไว้ก่อน
“ ใจเย็น เธอลืมไปแล้วหรือว่าสัญญาณยังไม่ได้น่ะ ” หากสัญญาณเตือนยังไม่ดังก็หมายความว่า ยังไม่มีผู้ชนะ และถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าตอนนี้ไซโคร แนชยังไม่แพ้นั่นเอง !!!
สเวนเองก็ลืมข้อนี้ไปเสียสนิท เขากำลังดีใจกับชัยชนะก็ได้รับอยู่ โดยที่ไม่ทันได้สังเกตเลยว่า พลังชีวิตของไซโคร แนชยังคงหลงเหลืออยู่ 10 หน่วย !!!
“ แต่ว่ารุ่นพี่ท่าทางจะไม่ไหวแล้วนะ ” วาแย้ง
โซเฟียยิ้มอย่างอ่อนโยน พร้อมกับส่ายหน้า
“ ไม่หรอก รุ่นพี่ต้องไม่อยากแพ้เพราะนายขึ้นไปช่วยประคองเขามาแน่ คนอย่างรุ่นพี่คงไม่ยอมแพ้ ถ้าพลังชีวิตยังไม่ถึง 0 หรอกนะ ” จากนั้นชี้ไปยังไซโคร แนช “ นั่นไงเห็นไหม รุ่นพี่พยายามจะลุกขึ้นมาแล้ว ”
“ แต่ . ” วาแม้จะเข้าใจก็ตาม แต่ด้วยพลังชีวิตเพียงแค่ 10 หน่วยต่อพลังชีวิต 2500 หน่วย และในสภาพร่อแร่แบบนั้น กับคู่ต่อสู้ที่เปี่ยมไปด้วยสภาพสมบรูณ์เต็มร้อยเช่นนั้น เรียกได้ว่าไม่มีเปอร์เซนต์ชนะให้เห็นเลยจริงๆ
“ เชื่อรุ่นพี่เถอะครับ .. ” ดีว่าเม้มปาก ในน้ำเสียงแฝงทั้งความเชื่อใจ และเข้าใจในตัวไซโคร แนชอย่างยิ่ง “ หากเป็นผม รุ่นพี่ก็คงไม่ยอมขึ้นไปช่วยแน่นอนครับ และผมเองก็คงไม่ยอมตัดใจง่ายๆอย่างที่คุณโซเฟียพูดแน่นอนครับ จนกว่าพลังชีวิตจะเหลือ 0 ”
วาหันกลับไปมองบนเวที ตอนนี้ไซโคร แนชลุกขึ้นมาได้อีกครั้งหนึ่งแล้ว แต่ดูท่าทางแค่จะยืนยังจะยืนไม่ค่อยไหวเลย
“ อย่างนั้นหรือ .. ” วาหลับตา จากนั้นกล่าวต่อ “ เข้าใจแล้วละ ถ้าอย่างนั้นมาช่วยเป็นกำลังใจให้รุ่นพี่จงกว่าจะถึงที่สุดก็แล้วกันนะ ”
ไซโคร แนชพยายามประคองตัวเองให้ยืนขึ้นมา แต่สักพักหนึ่งร่างกายก็ทรุดลงไปเองอย่างควบคุมไม่ได้
แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้สเวนที่กำลังยิ้มย่องต้องตกตะลึงถึงขีดสุดแล้ว
“ เป็นไปได้ยังไงกัน ” สเวนจ้องเขม็ง “ ทั้งๆที่โดนโจมตีเข้าไปขนาดนั้นแล้ว แถมยังเป็นจุดตายอีก มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ ”
ไซโคร แนชหอบหายใจ จากนั้นยิ้มพร้อมหัวเราะ
“ ฮ่าๆ ไม่มีอะไรผิดพลาดหรอกนะ ถ้าจะผิดพลาดก็ผิดที่ข้ายังเป็นคนที่ .เกือบจะไม่ได้ลุกขึ้นมา และเจ้าเป็นคนที่ยืนอยู่แทนต่างหากละ ”
“ หมายความว่ายังไงกัน ?! ”
“ จริงอยู่ที่รีเฟรกโหมดทำให้ข้าเสียจังหวะในการจัดการเจ้าในดาบเดียวลงไป แถมยังเสียจังหวะในการหลบดาบของเจ้าอีก แต่ทว่าจังหวะนั้นข้าก็เอียงตัวออกไปได้ทันเช่นกัน ผลก็คือ . ” ชี้ไปที่ไหล่ขวาที่ห้อยตกลงคล้ายกลายเป็นคนพิการไปแล้ว “ ไหล่ขวาของข้าเป็นโล่ป้องกันไปเต็มๆ ” และสุดท้ายชี้ที่แถวต้นคอ “ แถมแรงกระแทกยังรามขึ้นมาถึงแถวนี้อีกก็เท่านั้นเอง ”
จากนั้นไซโคร แนชเป่าลมออกจากปากพร้อมยืดตัวขึ้นมา ฝืนยืนได้อีกครั้งหนึ่ง
“ แต่ก็อย่างว่านะ โชคข้ามันดีจริงๆที่ยังไม่แพ้ ขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่ให้โอกาสข้าอีกครั้ง ”
แต่สเวนกลับหัวเราะอย่างสะใจ
“ ฮ่าๆ คิดหรือว่าด้วยสภาพกับพลังชีวิตที่เหลือเพียงแค่นั้นจะเอาชนะผมได้น่ะ ”
“ มันก็ไม่แน่ ” ไซโคร แนชกล่าวจบก็ค่อยๆเดินไปหยิบดาบของเขาที่ตกอยู่ “ เฮ้อ แขนขวาข้ามันก็เต็มทนแล้วละนะ ”
สเวนแม้จะมีพลังชีวิตอยู่ถึง 2500 หน่วย แต่ไม่ทราบเพราะเหตุใด สิ่งหนึ่งก็ผุดเข้ามาในจิตใจของเขา เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เขาต้องรีบยกดาบยักษ์ขึ้นมาจากพื้นทันที คราวนี้ถึงกับกุมไว้ด้วยขมือทั้งสองข้าง จากนั้นโคจรพลังลมปราณสายฟ้าออกอย่างสุดกำลังราวกับว่าต้องการจะจัดการกับไซโคร แนชในสภาพที่เต็มร้อยอย่างไรอย่างนั้น
“ อย่ามาทำเป็นขู่ไปหน่อยเลย เตรียมตัวแพ้ได้แล้ว !!! ” ความจริงคำพูดที่สเวนควรจะพูดน่าจะเป็น ‘ ด้วยสภาพเพียงแค่นี้ แค่ใช้มือเปล่าก็พอแล้ว ’ แต่ความรู้สึกนั้นที่กำลังไหลไปทั่วร่างกายของเขาทำให้สมองคล้ายหยุดสั่งการไปชั่วคราว
ความรู้สึกที่เรียกว่า ‘ ความกลัว ’ นั่นเอง !
โซโคร แนชใช้มือซ้ายกุมดาบไว้แนบแน่น จากนั้นมองตรงไปยังเป้าหมายของเขา สภาพของไซโคร แนชในตอนนี้ไม่คล้ายคนที่มีพลังชีวิตเหลือเพียง 10 หน่วยเลยแม้แต่น้อย กลับกันกับสเวนอย่างสิ้นเชิง
“ ข้าแด่เทพฮามาผู้ยิ่งใหญ่ .. ” ขณะที่ไซโคร แนชกำลังกล่าวอยู่นั้นสายฟ้าคล้ายวนไปรอบตัวของไซโคร แนชเล็กน้อย สเวนความจริงสมควรรีบชิงโจมตีใส่ แต่ขาทั้งสองคล้ายถูกทนต์สะกดไม่กล้าพลีพล่ามโจมตีใส่
“ โปรดประทานความแหลมคมอันศักดิ์สิทธิ์ให้แก่ข้า ” สายฟ้าไหลผ่านดาบที่อยู่ในมือซ้าย
“ พิ ธี ชำ ระ ดาบ สาย ฟ้า !!! ”
‘ เปรี้ยง !!! ’
สิ้นคำสายฟ้าผ่าลงใส่ดาบในมือซ้าย ส่งเสียงเปรี้ยงปร้างไปทั่วบริเวณ สายฟ้าที่เจิดจ้ายิ่งกว่าของสเวนหลายเท่าตัว ! ข่มขู่ให้ทั้งสเวน ผู้ชมและผู้เข้าแข่งขันจากโรงเรียนอื่นต้องเบิกตาโพลงขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตา
“ ฮ่าๆๆๆ ” เกก้าดีนตอนนี้ถึงกับหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เพียงพอแล้ว ฮ่าๆๆๆ ต้องอย่างนี้สิ ต้องอย่างนี้สิ !!! ” ร่างกายสั่นไปทั่วตัว รู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะหยุดตัวเองไม่ได้
“ เรามาตัดสินกัน ” ไซโคร แนชกล่าวอย่างสงบ แต่สายฟ้าที่ดังเปรี้ยงปร้างบนดาบนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิ้ง ดาบของไซโคร แนชคล้ายไม่ช่ดาบธรรมดาอีกต่อไป แต่คล้ายถูกสายฟ้ากลืนกินรวมเป็นดาบสายฟ้าไปเสียแล้ว
สเวนไม่ตอบคำ แต่ตั้งสมาธิแน่วแน่ เพียงแค่ดาบเดียวเท่านั้น ไม่สิ เพียงแค่สะกิดโดนเท่านั้น เราก็จะชนะแล้ว ไม่ต้องกลัว ทุ่มเทกำลังทั้งหมดไปสิ ‘ อัศวินนักฆ่า ’ เราไม่มีทางแพ้หรอก .
ไซโคร แนชส่ายหน้าครั้งหนึ่งก่อนที่จะโคจรพลังลมปราณสายฟ้าขึ้นอีกครั้ง ‘ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ค่อยอยากจะใช้เลยจริงๆ . ’
“ ข้าแด่เทพฮามาผู้ยิ่งใหญ่ .. โปรดประทานพลังความเร็วที่เหนือซึ่งทุกสรรพสิ่งให้แก่ข้าด้วยเถิด ”
“ ก๊อด สปีด !!! ”
กล่าวจบไม่ทราบว่ามีการเปลี่ยนแปลงใดๆ หรือไม่ แต่สเวนที่เพ่งสมาธิอยู่เต็มร้อย พร้อมกับดาบยักษ์ที่อัดแน่นไปด้วยพลังลมปราณสายฟ้าก็ตวัดดาบออกทันที
ไม่ใช่เพราะว่าตั้งใจจะโจมตี แต่ถูกโจมตี ! แถมยังถูกโจมตีจากระยะไกลอีกต่างหาก !!
ใช่แล้ว .พริบตานั้นเองดาบสายฟ้าที่คล้ายสายฟ้าของพระผู้เป็นเจ้าก็พุ่งแหวกอากาศเข้าหาสเวนอย่างรวดเร็ว ยังดีที่เขาตั้งสมาธิไว้ก่อนจึงรีบตวัดดาบยักษ์ออกฟันตามแนวขนานปัดดาบสายฟ้าออกไปได้อย่างทันท่วงที ถึงกับเรียกได้ว่าแทบหวุดหวิด
‘ เปรี้ยง !!! ’
เสียงดาบทั้งสองปะทะกัน ก่อนที่สายฟ้าบนดาบยักษ์ของสเวนจะถูกพลังที่ไหลออกจากดาบสายฟ้าปั่นป่วนให้ไหลไปมาอย่างบ้าคลั่ง
สเวนแม้จะตกใจไปบ้าง แต่ก็ยิ้มออกมาแล้ว ทั้งนี้เพราะเขาเห็นไซโคร แนชซัดดาบสายฟ้าใส่เขาภายในชั่วพริบตา แถมยังสามารถปัดดาบสายฟ้าที่ทรงอานุภาพนั้นได้อีก เท่ากับว่าพลังที่ไซโคร แนชทุ่มมาทั้งหมดก็หมดสิ้นลงแล้ว
แต่รอยยิ้มก็ต้องสลายไปในทันที เมื่อพบว่า ไซโคร แนชในตอนนี้อยู่ที่ไหน !
รวดเร็วยิ่งกว่าประกายสายฟ้า รวดเร็วกว่าทุกสรรพสิ่งในโลก
นี่น่ะหรือ ก๊อด สปีด !!
ไซโคร แนชวิ่งบนดาบยักษ์ของสเวนที่ตั้งท่าอย่างไม่สามารถทำอะไรได้ทัน เป็นเพียงแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น
ดาบที่อยู่ในเอวอีกเล่มถูกชักออกมา
และ
ภาพเบื้องหน้าของสเวนเป็นสีขาวว่างเปล่าไปหมด คล้ายถูกสายฟ้าที่ฟาดลงมาจากสรวงสวรรค์ผ่าลงตรงหน้า และจะเป็นภาพที่สเวนไม่มีวันลืมเลย
นี่น่ะหรือ พลังที่แท้จริงของนักสู้ศักดิ์สิทธิ์ !! นี่น่ะหรือที่เขาลือกันว่า เจ้าชายสายฟ้า !!!
ดาบยักษ์ที่กุมแน่นค่อยๆคล้ายออกช้าๆ สายฟ้าที่ไหลอยู่บนฟ้าค่อยๆลดประกายลง จากนั้นร่างของสเวนก็หงายล้มลง พร้อมเสียงอ๊อดที่ดังก้องไปทั่วห้องก่อนที่ร่างกายของสเวนจะสัมผัสกับพื้น
แทบจะไม่มีใครทราบว่าเหตุการณ์เมื่อสักครู่เกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ที่รู้ก็คือ สเวนถูกฟันใส่คอหอยอย่างจังด้วยดาบที่ยังไม่โคจรพลังสายฟ้าอีกเล่มของไซโคร แนชที่ถูกชัดออกมาในเสี้ยววินาที
“ และผู้ชนะของเราก็คือ ไซโคร แนชแห่งทีมมิริเคิลครับ !!! ” หนุ่มนักประกาศกล่าวเสียงสงบนิ่ง แต่แฝงไปด้วยความตื่นเต้นที่พยายามข่มเอาไว้ “ ซึ่งก็หมายความว่า ทีมชนะในรอบนี้ก็คือทีมมิราเคิลด้วยครับ ”
เงียบไปสักพักก่อนที่เสียงปรบมือจะดังขึ้นอย่างล้นหล้า วากับโซเฟียถึงกับจับมือแสดงความดีใจอย่างออกนอกหน้า ส่วนดีว่านั้นยิ้มและยืนขึ้นปรบมือ เขารู้สึกประทับใจในตัวไซโคร แนชอย่างเปี่ยมล้น เป็นความรู้สึกเดียวกันกับที่เขามีต่อพี่ชายเลย
ไซโคร แนชยืนสงบนิ่งสักพักหนึ่ง ก่อนที่จะค่อยๆหันหลังไปมองยังสเวนที่นอนกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ แต่บนใบหน้าของสเวนนั้นไม่มีความรู้สึกเสียใจที่ต้องพ่ายแพ้เลยแม้แต่น้อย กลับกันกลับปรากฎรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าราวกับภูมิใจที่ตนเองได้แพ้อย่างสมศักดิ์ศรีแล้ว
“ ไม่เป็นไรใช่ไหม ” ไซโคร แนชถามอย่างห่วงใย
สเวนส่ายหน้า
“ ขอโทษนะที่เคยว่าคุณไว้ ”
รอยยิ้มเล็กพุดขึ้นบนหน้าไซโคร แนช
“ ไม่เลย ” จากนั้นยื่นมือให้สเวน “ แต่ก็อยากจะฝากเอาไว้หน่อยนะ . คำคนน่ะอย่าไปสนให้มันมากนัก มันไม่ได้อยู่ที่ว่าเขาเป็นใครหรอกนะ แต่มันอยู่ที่ว่าเขาทำอะไรมากกว่า ”
เมื่อยืนขึ้นได้สเวนก็จับมือแสดงความยินดีกับไซโคร แนช
“ ขอบคุณมากครับ ” และก่อนที่ไซโคร แนชจะก้าวลงจากเวทีนั้นก็ได้ยินว่า “ ผมจะคอยเอาใจช่วยนะครับ ชนะผมแล้วคงไม่แพ้ใครหรอกจริงไหม ”
ไซโคร แนชไม่ตอบเพียงแค่โบกมือขึ้นพร้อมก้าวต่ออย่างช้าๆ วา โซเฟีย ดีว่าก็เดินไปรออยู่ข้างเวทีแล้ว ซึ่งขณะที่กำลังรออยู่นั้นจู่ๆ ไซโคร แนชก็เซล้มลงจนทั้งสามคนแทบจะเข้าไปประคองไม่ทันเลยทีเดียว
“ รุ่นพี่ๆ ”
เสียง และภาพทุกอย่างหายไปจากความรู้สึกของไซโคร แนช ตอนนี้มีเพียงเสียงหนึ่งเท่านั้นที่เขาได้ยิน
‘ ขอบใจนะมากนะ ที่ช่วยเป็นกำลังใจให้ชั้นลุกขึ้นมายืนได้อีกครั้งหนึ่ง .. ’ ไซโคร แนชคล้ายกำลังกล่าวกับใครสักคน
ช่วงที่ไซโคร แนชล้มอยู่นั้นเขารู้สึกว่าได้ยินเสียงของรีน่ามาบอกให้เขาลุกขึ้นสู้
สัญญา จะต้องรักษาสัญญาเอาไว้ให้ได้
และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ไซโคร แนชมีแรงลุกขึ้นมาอีกครั้ง ส่วนตอนนี้เจ้าชายของเราคงต้องการการพักผ่อนสักพักหนึ่ง
“ ชิ ชักช้าจริงๆ ” จี ดาบคลั่งบ่นอย่างไม่พอใจ ทำให้นักเรียนทีมโรงเรียนดอนเบสทั้งสามหันมามองเขาเป็นสายตาเดียว “ ไม่ต้องปรึกษากันให้มากหรอก ยังไงพวกแกก็แพ้อยู่แล้ว ”
“ ว่าไงนะ ! ” เด็กชายใส่แว่นผมปิดหน้าหันมาจ้องใส่จี ดาบคลั่ง
“ ไม่เอาน่า ไม่ต้องไปสนใจหรอก คนแบบนี้มันก็เก่งแต่ปากนั่นละ ” เด็กชายร่างยักษ์หนวดเครารุงรัง ซึ่งก็คือหัวหน้าทีมเป็นคนเข้ามาห้ามไว้ ส่วนไซเมตนั้นก็รีบกล่าวขอโทษแทนจี ดาบคลั่ง
ผ่านไปสักพักหนึ่งหัวหน้าทีมโรงเรียนดอนเบสจึงกล่าวกับชายนักประกาศ อึดใจเดียวก็ได้ยินเสียงประกาศขึ้น
“ เอาละครับ ต่อไปเป็นคู่ที่สอง และเป็นคู่สุดท้ายของวันนี้แล้วนะครับ โดยทีมไวท์ ฟ๊อก จากโรงเรียนดอนเบสนั้นทายหัวเหรียญชนะและยื่นข้อเสนอแข่งแบบสามต่อสามกับทีมโรงเรียนเกเบรียล ” จากนั้นยิ้มเล็กน้อย
“ ซึ่งโรงเรียนเกเบรียลก็ตอบรับ แต่ก็ไม่ขอรับสิทธิพิเศษเช่นเดียวกับทีมโรงเรียนอับดุลนะครับ ” ตอนนี้ทีมไวท์ฟ๊อกซึ่งประกอบไปด้วยหัวหน้าทีมร่างยักษ์ถือขวานยักษ์ในมือทั้งสองข้าง เด็กชายแว่นผมปิดหน้าถือคทาประหลาด และเด็กชายผอมสูงสะพายธนูและอาวุธลับ ก้าวขึ้นมาบนเวทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนทางด้านโรงเรียนเกเบรียลนั้นไซเมตเป็นคนแรกที่เดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมรอยยิ้ม ตามด้วยจี ดาบคลั่งที่ถือดาบทมิฬที่ยังอยู่ในฝักขึ้นมาพาดไหล่ท่าทางหยิ่งยะโส และคนสุดท้าย
‘ ตึง !!! ’
เสียงดังขึ้น พร้อมกับพื้นเวทีที่สั่นสะเทือนไม่แพ้กับเมื่อตอนที่ดาบยักษ์ของสเวนกระแทกลงพื้น ไม่แน่ว่าอาจจะถึงกับดังกว่า และน่าเกรงขามกว่าหลายสิบเท่า
“ นะ นั่น มันอะไรกันเนี่ย ?! ” เด็กชายแว่นกล่าวอย่างตะลึง
“ เย็นไว้มันก็แค่ของเล่นเท่านั้น ลืมแล้วหรือว่าอาวุธที่สำคัญที่สุดของเราคืออะไร ” หัวหน้าทีมกล่าวอย่างมั่นใจ
“ อืม ทีมยังไงละ การประสานกันอย่างลงตัว และท่วงทำนองที่สมบรูณ์แบบที่สุด ! ” เด็กชายแว่นมั่นใจขึ้นมาในทันที
ชายนักประกาศเมื่อเห็นว่าทั้งสองทีมพร้อมแล้วก็กล่าวเริ่มการแข่งด้วยเสียงสงบๆตามสไตล์ทันที
“ เอาละครับ การแข่งคู่ที่สอง รอบตัดสิน กฎพิเศษคือ การแข่งแบบสามต่อสาม ระหว่างทีมไวท์ฟ๊อก จากโรงเรียนดอนเบส และทีมโรงเรียนเกเบรียล เริ่มขึ้นได้ ณ บัดนี้ !!! ”
“ ฟอร์เมชั่น วัน ! ” หัวหน้าทีมกล่าวในทันทีที่เสียงประกาศสิ้นสุดลง เด็กชายแว่นกระโดดขึ้นไปขี่คอหัวหน้าทีมในทันที ส่วนเด็กชายผอมสูงถอยหลังไป พร้อมง้างคันธนูไปที่เป้าหมาย ซึ่งเป้าหมายแรกก็คือ จี ดาบคลั่ง นั่นเอง
แต่เมื่อจัดรูปแบบเสรจก็ต้องพบว่า ทีมฝั่งตรงข้ามนั้นไม่ได้สนใจตัวเองเลยแม้แต่น้อย กลับกันกลับยืนเถียงกันเองอย่างหน้าตาเฉย
“ พวกนี้ชั้นจัดการเอง ” จี ดาบคลั่งกำลังจะดึงดาบออกจากฝัก ก็ถูกเกก้าดีนดันมือไว้ทันที
“ ไม่ต้อง ” เกก้าดีนจ้องหน้า “ ชั้นจะจัดการเอง ”
“ ชิ แกมีสิทธิอะไร ! ”
ไซเมตที่ยืนฟังอยู่ต้องทำมือเตะหน้าผากด้วยความเบื่อหน่าย
“ พวกนายเนี่ยน้า .. รีบๆตกลงกันเร็วๆหน่อย เดี๋ยวฝั่งนั้นเขาจะไม่พอใจเอาน่า ” แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจ
“ แกว่าอะไรนะ ชั้นไม่มีสิทธิงั้นรึ ? แกคงลืมไปแล้วมั้ง ว่าเวลาที่แกมีปัญหาใครกันที่เป็นคนช่วยแกไว้ ” เกก้าดีนยิ้มอย่างชั่วร้าย ทำเอาจี ดาบคลั่งหุบปากไปในทันที
“ โอเคๆ ชั้นยอม เชิญตามสบาย ” จี ดาบคลั่งวางดาบลงกับพื้น พร้อมค่อยๆนั่งหันหลังลง
“ นี่ พวกแกจะดูถูกกันมากไปแล้วนะ ” เด็กชายร่างผอมสูงทนไม่ไหว ยิงธนูตรงใส่จี ดาบคลั่งในทันที
‘ แว่บ ! ฟับ ฟับ ! ’
ประกายแสงสีดำวูบขึ้นสองครั้ง จากนั้นพบว่าธนูดอกนั้นถูกฟันแยกออกเป็นสามส่วน โดยจุดที่โดนฟันคือ หลังหัวธนู และบริเวณหางขนนก
“ บ้าน่า ” เด็กชายผอมสูงถึงกับตะลึง มันไม่น่าจะบังเอิญขนาดนี้ได้ แต่ว่ามันแม่นยำจนเกินไป และก็รวดเร็วจนเกินไป รวดเร็วจนน่ากลัว ..
“ อย่าเพิ่งตกใจไป ลืมไปแล้วหรือท่วงทำนองอันสมบรูณ์ของพวกเราน่ะ ” หัวหน้าทีมคำรามเรียกสติเด็กชายผอมสูง
“ คะ ครับ ”
ทันใดนั้นเองขณะที่กำลังเรียกสติกันอยู่นั้น ..
‘ ตึง ! ’
พื้นเวทีสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เสียงดังก้องไปทั่วทั้งห้อง
“ พวกแกมั่วพล่ามอะไรกันอยู่ น่ารำคาญเป็นบ้า ” เกก้าดีนยิ้มอย่างชังชิง เขาเบื่อหน่ายพวกไร้ฝีมือเป็นที่สุด
“ หึ ปากดีแล้วก็อย่าแพ้ละกัน คิดว่าของเล่นพรรณนั้นจะขู่ให้กลัวได้งั้นรึ สงสัยแกคงทำได้แค่ขู่ละมั้ง ! ” เด็กชายแว่นกล่าวอย่างมั่นใจ โดยไม่รู้เลยว่าคำพูดนั้นจะส่งผลต่อพวกตนเพียงใด
“ ท่าจะไม่ค่อยดีเสียแล้วสิ ” ไซเมต กอดอกส่ายหน้า คล้ายกับจะไว้อาลัยให้กับทั้งสามคนนั้น “ ดันพูดอะไรที่เจ้าหมอนั่นเกลียดที่สุดไปแล้วจนได้ ”
เกก้าดีนก้มหน้าจากนั้นบนมือขวาปรากฏสายฟ้าพุ่งพวยออกมาอย่างบ้าคลั่ง ต่างจากสายฟ้าที่ปรากฏขึ้นบนดาบของไซโคร แนชอย่างสิ้นเชิง ถ้าสายฟ้าของไซโคร แนชคือสายฟ้าจากเทพเจ้าผู้พิทักษ์แล้ว สายฟ้าของเกก้าดีนก็เปรียบเสมือนสายฟ้าของเทพเจ้าผู้กำลังพิโรธถึงขีดสุด !
“ พวกแกเตรียมตัวรับการลงทัณฑ์จากพระผู้เป็นเจ้าได้เลย !!! ”
‘ Grand Cross !!! ’
‘ ตึง !!! ’
เสียงดังกึกก้องไปทั่วเวที ตามด้วยเสียงร้องครวญครางอย่างเจ็บปวดทรมานจากเด็กนักเรียนทั้งสาม ก่อนที่ทุกสิ่งจะกลับสู่ความเงียบ
ราวกับว่า พระเจ้าได้พิพากษาโทษเสร็จสิ้นแล้ว
____________________________________
ความคิดเห็น