โรงเรียนมหาโจร

ลำดับตอนที่ #37 : บทเรียนที่ 32 เซียนกระบี่ชี้แนะ

                               บทเรียนที่ 32  เซียนกระบี่ชี้แนะ

สเวนถอนหายใจเฮือกหนึ่ง  ก่อนที่จะพบว่ามีเด็กนักเรียนชายชมรมของตนท่าทางเหนื่อยล้าวิ่งมาหา

“ อ้าว เป็นอะไรไปละนั่น ”

เด็กนักเรียนคนนั้นกล่าวอย่างตะกุกตะกัก

“ คะ - คือ ว่าที่ชมรมเรามีเรื่องนะครับ ค - -คุณสเวนช่วยไปดูหน่อยเถอะครับ ”

“ ให้ตายสินะ วันนี้ทำไมถึงมีแต่เรื่องนะ นี่ก็ใกล้ถึงเวลาจะต้องประลองแล้วด้วย ” แต่สเวนก็รีบวิ่งปราดออกไปอย่างรวดเร็วแม้จะแบกดาบยักษ์เช่นนั้นอยู่บนหลังก็ตาม

เมื่อสเวนวิ่งมาจนถึงชมรมของตนก็ต้องตกใจเพราะสภาพที่เห็นอยู่ก็คือ รุ่นน้องชมรมของตนนอนกองอยู่กับพื้น และมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังพูดคุยอยู่ชายเสื้อคลุมดำ จากนั้นสักพักก็มีชายในเสื้อคลุมสีเพลิงเข้ามา ดูท่าว่าจะเกิดการต่อสู้กันขึ้นแน่นอน

แต่คราวนี้สเวนไม่กล้าเขวี้ยงดาบบุ่มบ่ามเหมือนตอนห้ามไซโคร แนชกับเกก้าดีน ทั้งนี้เพราะระยะห่างของทั้งคู่ประชิดกันเกินไป และการต่อสู้ของทั้งคู่จะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ

ดีว่านั้นถอยเดินห่างออกจากจีสองสามก้าว จากนั้นกางแขนออกเป็นเชิญบอกให้ผู้หญิงคนนั้นถอยห่างออกไปเสีย

และเมื่อดีว่าหันไปมองก็ต้องพบว่า เธอเดินถอยห่างออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

‘ ถึงแม้ว่าเราจะเคยชนะเขามาแล้วก็จะประมาทไม่ได้เด็ดขาด ’ ดีว่าจ้องหน้าจีรอจังหวะจู่โจม   

‘ ช่องโหว่ที่เมื่อก่อนที่เคยมีหายไป ทั้งแววตาที่ดุร้ายกว่าเดิม หนำซ้ำยังเสื้อคลุมสีดำนั่นอีก มันหมายความว่ายังไงกันแน่ …….’

“ มัวเหม่ออะไรอยู่ดีว่า ! ”

จีดาบคลั่งกล่าวจบที่แก้มของดีว่าก็รู้สึกชาวูบ  เลือดไหลซึมลงมาอย่างช้าๆ  ผู้ที่ใช้ดาบความจริงไม่สมควรมีความรวดเร็วถึงขนาดนี้  หนำซ้ำผู้ต่อสู้ด้วยยังเป็นดีว่า  นี่ดีว่าเชื่องช้ากว่าจี ดาบคลั่งถึงขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย ?!

“ เป็นอะไรไปตกใจอย่างนั้นหรือ ? ฮ่าๆ ”  จี ดาบคลั่งควงดาบทมิฬไปมา กระบวนท่าดุดันร้ายกาจกว่าเดิมหลายเท่าตัว

ดีว่ารีบก้าวถอยออกห่างจากจี ทะละนิดๆ จากนั้นรีบรวบรวมลมปราณในตัว พร้อมเกร็งพลังลมปราณใส่กระบี่  และก็ต้องพบว่าในกระบี่ไม้นั้นถูกอัดแน่นไว้ด้วยพลังลมปราณมหาศาลพุ่งพวยออกมา 

แต่ไม่มีเวลาให้คิดแล้ว  ดีว่าโคจรลมปราณได้ถึงจุดหนึ่งก็ซัดกระบี่ออกในทันที

“ กระบวนท่าที่หนึ่ง กระบี่สุญญากาศ ! ”

กระบี่สูญญากาศที่เคยใช้ซัด จี ดาบคลั่งล้มกระเด็นไปเมื่อครั้งนั้น  ขนาดที่ว่าแม้ใส่ชุดเกราะป้องกันจี ดาบคลั่งยังบาดเจ็บจากภายในขนาดนั้น แต่ตอนนี้ไม่มีชุดเกราะป้องกันยิ่งไม่ต้องพูดถึง

ลมปราณเป็นคลื่นคล้ายคมมีดพุ่งออกเข้าหาจีดาบคลั่งด้วยความรวดเร็ว  และจี ดาบคลั่งก็ยังคงไม่ยอมหลบอีกเช่นเคย

“ ชิ ! คิดจะใช้ไม้เก่าเป็นครั้งที่สองน่ะ มันไม่ได้ผลหรอกนะ ”

จากนั้นเห็นจี ดาบคลั่งตวัดดาบควงด้วยความรวดเร็ว สร้างม่านดาบขึ้นก็สามารถทลายพลังลมปราณที่อัดแน่นได้อย่างสบายๆ

“ ฮ่าๆ นี่น่ะหรอกระบี่สุญญากาศ ช่างกระจอกสิ้นดี ”

 ดีว่าต้องตะลึงอีกครั้งหนึ่ง เพราะกระบี่สุญญากาศไม่ใช่ท่าที่จะถูกทำลายได้ด้วยพลังของอาวุธแต่เพียงอย่างเดียว  แม้แต่ชุดเกราะ  ลมปราณก็ยังสามารถทะลุผ่านไปได้  นับประสาอะไรกับม่านดาบที่ถูกควงขึ้น  ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ต้องแสดงว่า จี ดาบคลั่งจะต้องใช้พลังลมปราณมาช่วยป้องกันแน่ๆ !!

ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ฝีมือของจี ดาบคลั่งจะสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัว !

เพียงแต่ว่าในช่วงเวลาเพียงแค่สั้นๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าจี ดาบคลั่งจะสามารถฝึกพลังลมปราณได้

ขณะที่ดีว่ากำลังคิดอยู่นั้น จี ดาบคลั่งก็พุ่งตัวเข้าหาดีว่าในทันที

‘ รวดเร็วเหลือเกิน ’

‘ ปัก ! ’

ดีว่าเกือบจะตั้งรับไม่ทัน  กระบี่ไม้ถูกปะทะเข้ากับดาบทมิฬในทันที  ที่กระบี่ไม้ไม่ถูกฟันหักสองท่อนก็เพราะดีว่าใช้มืออีกข้างหนึ่งช่วยดันหนุนกระบี่ไม้ไว้

ดีว่ารู้สึกถึงพลังอันหนักหน่วงของจี ดาบคลั่ง จนแทบจะต้านรับไม่ไหว  และเขารู้สึกว่าขืนต้านกันอย่างนี้ต่อไปเขาจะต้องเสียเปรียบแน่นอน  แต่ถึงแม้ดีว่าจะรวบรวมพลังลมปราณสักเท่าไหร่ก็ไม่สามารถผลักจี ดาบคลั่งออกไปได้

‘ จริงด้วยสิ ต้องใช้ลมปราณจัดการ ’

ว่าแล้วดีว่าก็รีบรวบรวมลมปราณอีกครั้ง จากนั้นก็พุ่งลมปราณผ่านทางกระบี่ไม้อีกครั้งหนึ่ง 

‘ ปราณกระบี่สายที่สาม ระเบิดเวลา !! ’

จี ดาบคลั่งรู้สึกได้ถึงลมปราณสายหนึ่งพุ่งเข้ามาในร่างกายของตน  และเขาก็รู้ดีว่ามันคือ ลมปราณสายที่สาม ระเบิดเวลา !

แต่จี ดาบคลั่งก็เค้นหัวเราะออกมา

“ ไม่เลว ” จากนั้นก็ผลักดีว่ากระเด็นออกไป  พร้อมกับรีบตวัดดาบลากกับพื้น ดีว่าที่กำลังเซอยู่นั้นรู้สึกได้ถึงพลังลมปราณอันหนักหน่วงพุ่งเข้าหาตนด้วยความรวดเร็ว

“ เอาพลังลมปราณของแกคืนไปซะ ฮ่าๆๆ ”

ดีว่าไม่สามารถหลบได้ จึงรีบโคจรลมปราณให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ทัน ได้แต่เอากระบี่ไม้ตั้งรับไว้เท่านั้น

‘ เปรี๊ยะ ’

พลังลมปราณอันหนักหน่วงกระแทกดีว่ากระเด็นล้มลงกับพื้น กระบี่ไม้ในมือหลุดลอยออกไป  แต่กระบี่ไม้นั้นไม่ล่วงหล่นกับพื้นเพราะมันถูกรับไว้ได้ด้วยมือของผู้หญิงคนนั้นอย่างทันท่วงที

ส่วนดีว่านั้นคาดว่าตนเองจะต้องได้รับบาดเจ็บภายในไม่มากก็น้อย  แต่ก็ต้องแปลกใจที่ตนเองกลับไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย นอกจากการกระแทกลงกับพื้นเท่านั้น

ดังนั้นดีว่าจึงรีบลุกขึ้น

นั่นทำให้จี ดาบคลั่งแปลกใจเล็กน้อย

“ ใช้ได้...... โดนพลังลมปราณขนาดนั้นเข้าไป แล้วยังสามารถลุกขึ้นมาได้อีก สมแล้วที่เป็นดีว่าปราณกระบี่ไร้เงา  แต่ดูเหมือนว่าแกจะแพ้ชั้นแล้วละนะ ”

‘ ฟับ ฟับ ฟับ ! ’

จากนั้นดีว่ารู้สึกถึงรังสีดาบกรีดเข้าใส่ร่างของตนสามจุด เสื้อคุมเพลิงอัคคีขาดเป็นรอยถึงสามแห่งภายในพริบตา !

“ นี่คือ สามกระบวนท่าที่ชั้นเคยต่อให้  ครั้งหน้าคงจะต้องยอมให้ชั้นต่อให้แล้วสินะ ฮ่าๆๆ ” จี ดาบคลั่งชี้ดาบทมิฬไปยังผู้หญิงคนนั้น  “ เอาละ ชั้นคิดว่าชั้นหมดธุระกับเจ้าหมอนี่แล้ว ถึงจะผิดหวังไปหน่อย แต่ก็ทำให้ชั้นสนุกได้บ้าง ต่อไปก็เธอละนะแม่สาวน้อย ”

เห็นฝีมือของจี ดาบคลั่งในตอนนี้ ที่แม้แต่ดีว่าปราณกระบี่ไร้เงาผู้ที่เคยเอาชนะจี ดาบคลั่งมาได้แล้วครั้งหนึ่งยังต้องแพ้อย่างหมดรูปแล้ว หากเป็นคนอื่นคงจะต้องถอดใจแล้ว  แต่หญิงสาวคนนี้กลับยื่นแขนซ้ายออก พร้อมเล็งกระบี่ไม้ไปยังหน้าของจี ดาบคลั่ง แถมยังแย้มยิ้มอย่างสบายใจ

“ ไม่เลวทีเดียว ” จากนั้นส่ายหน้าเล็กน้อย “ แต่เราจะบอกอะไรให้นะ…… ลมปราณน่ะไม่ใช่ของที่จะหักโหมฝึกให้ได้ภายในสองสามวันนะ  ถ้าหากนายยังขืนฝึกด้วยวิธีแบบนั้นอยู่นายจะต้องเสียใจนะ ”

คำพูดของหญิงสาวคล้ายมีดที่แทงเข้าสู่หัวใจของจี ดาบคลั่งทำเอาจี ดาบคลั่งแปลกใจอย่างมาก ผู้หญิงคนนี้แค่มองปราดเดียวก็รู้ถึงวิธีในการฝึกของตน  ที่แท้เธอเป็นใครกันแน่นะ

แต่ด้วยความมั่นใจในฝีมือของตนเองจี ดาบคลั่งจึงยืนยันที่จะต่อสู้ต่อไป

“ เอาละ ถ้าพร้อมแล้ว จะเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้เลย ” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มขึ้น “ หรือจะให้เราต่อให้สักห้ากระบวนท่าละ ฮิฮิ ”

“ ใจกล้าดีนี่ แต่สงสัยจะดีแต่ขู่ละมั้ง ” จี ดาบคลั่งเริ่มตั้งท่าเตรียมโจมตีแล้ว  “ เธอนั่นละ ถ้าพร้อมแล้วก็เข้ามาเลยดีกว่า ”

“ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เกรงใจละนะ ” ผู้หญิงคนนั้นทำท่าคล้ายจะพุ่งเข้าใส่จี ดาบคลั่ง แต่กระบวนท่ากลับเปลี่ยนกลางคันเป็นตวัดกระบี่ไม้ออกเป็นวงท่วงท่างดงามรวดเร็วยิ่งนัก คล้ายเชื่องช้าแต่ความจริงกลับรวดเร็ว

ที่ใช้ออกก็คือ กระบี่สุญญากาศนั่นเอง !!

สเวนที่เห็นเหตุการณ์อยู่เมื่อเห็นว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสเหมาะที่ตนเองควรจะเข้าไปห้ามเสียก็รีบพุ่งปราดเข้าขวางกลางระหว่าง  พร้อมกับตวัดดาบยักษ์เป็นโล่ป้องกันพลังลมปราณจากฝั่งด้านผู้หญิงคนนั้น  ส่วนมือข้างซ้ายที่สวมถุงมือหนังคว้าดาบทมิฬของจี ดาบคลั่งไว้แน่น

ช่างเป็นการลงมือที่บ้าบิ่นจริงๆ แต่ก็ได้ผลจี ดาบคลั่งไม่สามารถดึงดาบของตนออกจากมือข้างซ้ายของสเวนได้เลยแม้จะพยายามเกร็งลมปราณสักเท่าไหร่ก็ตาม

‘ ฟ้าว ปัง !!! ’

แต่ที่ทำให้ทั้งจี ดาบคลั่ง ดีว่า และสเวนต้องตกใจก็คือ ดาบยักษ์ในมือของสเวนกลับกระเด็นออกออกไปราวกับถูกแรงระเบิดกระแทกเข้าใส่  มือที่กุมดาบทมิฬของจี ดาบคลั่งถึงกับสั่น ปล่อยดาบทมิฬของจี ดาบคลั่งหลุดมือไปในทันที  หนำซ้ำร่างกายยังรู้สึกถึงพลังลมปราณอันมหาศาลพุ่งเข้าใส่  แต่กลับไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด 

จี ดาบคลั่งก็รู้สึกเช่นกัน  สเวนนั้นแค่เซเล็กน้อย แต่จี ดาบคลั่งกระเด็นล้มลงกับพื้น ถึงกับกระเด็นไปไกลกว่าครั้งแรกที่ถูกดีว่าใช้กระบี่สุญญากาศซัดใส่เสียอีก ร่างกายรู้สึกบอบช้ำจนแทบไม่สามารถลุกขึ้นได้อีก

ดีว่าที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตะลึงจนบอกกล่าวอะไรไม่ออก  กระบวนท่าเหมือนกัน 

แต่อานุภาพนั้นต่างกันราวฟ้ากับดิน  พลังลมปราณของผู้หญิงคนนี้อยู่ในระดับสุดยอดจริงๆ

ไม่เพียงแต่สามารถควบคุมพลังลมปราณได้อย่างใจนึก เพียงชั่วพริบตาสามารถรู้ได้ถึงการมาของสเวนและเปลี่ยนการส่งทอดพลังลมปราณได้   นอกจากนั้นยังสามารถส่งพลังให้ดาบยักษ์ที่เต็มไปด้วยลมปราณสายฟ้านั้นกระเด็นออกไปได้โดยไม่ทำร้ายคนที่ยืนขวางอยู่คนแรก  แต่ทำร้ายใส่คนถัดไปได้

ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่ และยิ่งเสื้อนอกเครื่องแบบของโรงเรียนไซเซน แบบนั้น หรือว่าผู้หญิงคนนี้นี่แหละจะเป็น……………..!!!

“ ต้องขอโทษจริงๆนะค่ะ  ไม่คิดว่าจะเข้ามาห้ามในจังหวะนี้พอดี ” ผู้หญิงคนนั้นก้มหัวขอโทษด้วยท่าทีสุภาพเรียบร้อย

   สเวนถึงกับต้องหันไปสบสายตาวูบหนึ่ง และก็พบว่าเธอยิ้มอย่างเป็นกันเองที่สุดให้แก่ตนเอง  แม้จะเป็นคนไม่สนใครไหร่ แต่เมื่อพบสายตาเช่นนั้น  สเวนก็ถึงกับต้องหลบตาไปในทันที จากนั้นเดินไปเก็บดาบยักษ์ที่หล่นลงไป

‘ นี่มันอะไรกันเนี่ย ข้อมือยังรู้สึกชาวูบอยู่เลย ’

“ ไม่เป็นไรหรอก ขอบคุณมากที่ช่วยรุ่นน้องชมรมผมไว้  ถ้ายังไงทางนี้ผมจัดการต่อเอง ” สเวนกล่าวตามปกตินิสัยของตน

ผู้หญิงคนนั้นไม่กล่าวะไรต่อ แต่เดินไปหาดีว่า พร้อมกับยื่นมือให้ช้าๆ  ดีว่ารู้สึกว่าเป็นครั้งแรกที่ตนเองไม่กล้าสบสายตากับใครตรงๆ  ทั้งมือที่ยื่นมาก็ไม่กล้ารับ ความรู้สึกเช่นนี้ไม่ได้เกิดจากความอับอายที่มีฝีมือสู้ไม่ได้แต่เป็นความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง……..

แต่เมื่อดีว่าได้สบสายตากับเธอก็ไม่อาจปฎิเสธมือที่ยื่นมาให้ตนได้  เมื่อมือของดีว่าสัมผัสถูกมือของเธอนั้นก็รู้สึกถึงพลังลมปราณอันมหาศาลไหลผ่านสู่ร่างกายตนเองวูบหนึ่ง ถึงกับทำให้สามารถลุกขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม

“ ขอบใจมากนะจ๊ะ ” รอยยิ้มนั้นช่างอ่อนหวานเสียจริงๆ

“ ไม่เป็นไรครับ ” ดีว่าแม้จะเป็นคนนิ่งๆ แต่คราวนี้เขารู้สึกเหมือนร่างกายตัวเองควบคุมไม่ค่อยได้อย่างไงอย่างนั้น

หญิงสาวเห็นท่าทางอายของดีว่าก็ต้องแอบหัวเราะออกมา นั่นยิ่งทำให้ดีว่ารู้สึกยิ่งอายเข้าไปใหญ่  เมื่อหญิงสาวรู้ว่าทำให้ดีว่าอายก็รีบหันหน้าไปทางอื่น พร้อมกล่าวกับจีดาบคลั่ง

“ นายเองก็รีบๆ ขอโทษพวกเขาซะ และก็กลับไปรักษาตัวละ ไม่นานเดี๋ยวก็หาย ” จากนั้นก็ทำสีหน้าจริงจัง “ และก็อย่าลืมละ วิธีการฝึกลมปราณแบบนั้นน่ะ มันจะเป็นอันตรายได้นะ ”

เมื่อกล่าวจบก็หันมาบอกกับดีว่า

“ ตอนนี้พวกเราคงหมดธุระกับที่นี่แล้วละ ดูเหมือนว่าคนที่เราต้องการจะหาเขาไม่อยู่แฮะ พวกเราไปกันเถอะค่ะ  ”

“ พวกเราหรอครับ  ”  ดีว่าทำหน้างง

“ ใช่แล้วค่ะ พวกเรา ” เธอเริ่มหันมาสบตากับดีว่าอีกครั้งแล้ว  “ เดี๋ยวจะไปไม่ทันการประลองนะค่ะ ”

“ คะ ครับ ”  ดีว่าคล้ายถูกมนต์สะกดเดินตามผู้หญิงคนนี้ไปแต่โดยดี  ทิ้งให้สเวนกับจี ดาบคลั่งจัดการปัญหากันต่อไป

สเวนถอนหายใจอีกครั้งหนึ่งจากนั้นหันไปมองยังจี ดาบคลั่งที่พยายามจะลุกขึ้นยืนอย่างบอบช้ำ พร้อมเค้นหัวเราะใส่

“ หึ สภาพดูไม่ได้เลยนะคุณเนี่ย ” สายตาของสเวนบอกถึงความน่าสมเพชของจี ดาบคลั่งอย่างชัดเจน

จี ดาบคลั่งไม่กล่าวอะไร แค่ลุกขึ้นยืนได้ก็นับว่าตัวเองโชคดีแล้ว  จากนั้นค่อยๆ เดินไปหยิบดาบทมิฬของตนอย่างช้าๆ  และชี้ดาบไปยังสเวน

“ แกอย่าคิดว่าชั้นจะกลัวแกนะ ” ทันใดที่เอ่ยปากขึ้น จี ดาบคลั่งก็ต้องทรุดลงไปในทันที ความบอบช้ำที่แผ่กระจายไปทั่วร่างกายของเขาในตอนนี้ ราวกับจะฉีกร่างนี้ออกเป็นชิ้นๆนี้ไม่ใช่ผลของการโดนลมปราณเมื่อสักครู่ แต่เกิดจาการฝึกลมปราณแบบผิดวิธีของเขานั่นเอง และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขารู้สึกแบบนี้

“ เฮ้ๆ นี่คุณไหวไหมเนี่ย ” สเวนส่ายหน้าอย่างสมเพช “ เอาละ ถ้าไม่กลัวก็ไม่ว่าอะไร เพียงแต่ขอโทษรุ่นน้องของผมซะ แล้วไสหัวไป ผมจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกอาจารย์ของคุณ ”

จี ดาบคลั่งในตอนนี้ไม่สามารถรับรู้อะไรได้แล้ว นอกจากความเจ็บปวด  สเวนแม้จะเห็นท่าทีว่ามันผิดปกติ แต่ด้วยความเป็นคนเย็นชา จึงเค้นเสียงหนักกล่าวต่อ

“ ว่ายังไงละ จะขอโทษ หรือไม่ขอโทษ !!! ” จากนั้นปักดาบยักษ์ใส่พื้นอย่างหนักหน่วงเป็นการขู่ขวัญ  แต่จี ดาบคลั่งไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย เพราะอาการเจ็บปวดมันเกินที่จะรับรู้อะไรทั้งนั้น

“ ขอโทษอีกครั้งครับ ” เสียงที่คุ้นเคยกล่าวขึ้น ซึ่งเมื่อสเวนหันไปก็ต้องพบกับไซเมต และ

เกก้าดีนอีกครั้ง   ไซเมตเดินมายิ้มให้กับสเวนพร้อมกับก้มหัวให้อีกครั้ง  ส่วนเกก้าดีนรีบวิ่งเข้าไปช่วยจี ดาบคลั่งถึงแม้จะไม่ค่อยเต็มใจก็ตาม

“ หึ คงจะทรมานมากสินะ ” เกก้าดีนกล่าวลอยๆจากนั้นยิ้มให้กับจี ดาบคลั่ง “ ช่วย ช่วย ชั้นเร็วเข้า !!! ” จีดาบคลั่งพยายามกล่าวอย่างเจ็บปวด

“ ฮ่าๆ นี่ท่าไม่ติดว่าแกอยู่ทีมเดียวกับชั้นละก็นะ ชั้นคงไม่ยอมช่วยพวกที่ไม่ใช่นักสู้ศักดิ์สิทธิ์หรอกนะ ”

เกก้าดีนปากกล่าวเช่นนั้นแต่แท้จริงโคจรลมปราณสายฟ้าเพื่อเตรียมช่วยเหลือไว้แต่แรกแล้ว “ เอาละนะ เจ็บนิดหน่อย เหมือนทุกครั้งนั่นละนะ ” จากนั้นนำมือไปวางบนท้องของจี ดาบคลั่งพร้อมกับปล่อยพลังลมปราณสายฟ้าเข้าใส่

ทันใดนั้นจี ดาบคลั่งรู้สึกเหมือนร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นเพราะเกก้าดีนใช้รีเฟรกชั่นใส่ไปยังจุดที่ลมปราณถูกกักอยู่ในตัวจี ดาบคลั่ง โดยรีเฟรกชั่นจะทำลายลมปราณที่รวมตัวกันอยู่ให้หมดสิ้นไป แต่ผลที่ตามมาก็คือ ร่างกายของผู้ที่โดนนั้นจะรู้สึกทรมานราวกับร่างจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

นี่คือ หนึ่งในพลังที่เกก้าดีนภูมิใจที่จะใช้ในการล้มไซโคร แนช  เพียงแต่เท่านี้ยังนับว่าน้อยไป เพราะพลังที่ใช้ไปนั้นเป็นเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้น !

หากใช้พลังนี้ใส่ไซโคร แนชเต็มที่แล้วอะไรจะเกิดขึ้นมาตามก็ไม่อาจทราบได้ ?!

จี ดาบคลั่งตะโกนด้วยความเจ็บปวด ‘ อ้าสสส !!! ’ ฟังราวกับเสียงครวญครางของปีศาจ  

ไม่นานนักร่างกายของจี ดาบคลั่งก็ค่อยๆทุเลาความเจ็บปวดลง ส่วนจี ดาบคลั่งนั้นหมดสติไปในทันที

สเวนนั้นในใจแม้จะโกรธแค้นจี ดาบคลั่งที่ทำร้ายรุ่นน้อง และไม่ให้เกรียติตน แต่เมื่อเห็นอาการอันน่าสมเพชของจี ดาบคลั่งแล้วความโกรธก็เปลี่ยนไปเป็นความสมเพชแทน

“ เอาละ ถ้าพวกคุณหมดธุระแล้วก็เชิญกลับไปได้แล้ว หนี้บัญชีนี้ ผมจะทวงคืนตอนประลองก็แล้วกัน ”

ไซเมตยิ้มให้กับสเวน ในแววตาแฝงความขอบคุณ รวมทั้งท้าทายสเวน

“ ขอบคุณมากครับ หวังว่าเราคงจะได้สู้กัน ”  ไซเมตหันไปพยักหน้าให้กับเกก้าดีน เป็นสัญญาณว่า ‘ กลับกันได้แล้ว ’

แต่ก่อนที่จะกลับนั้นไซเมตก้มลงหยิบหินก้อนเล็กๆก่อนหนึ่งบนพื้น จากนั้นซัดใส่ดาบยักษ์ของสเวน

‘ เป้ง ! ’

หินก้อนเล็กนั้นกระทบกับดาบยักษ์ในทันที หากมองจากระยะไกลก็ราวกับลมที่พัดใส่ภูเขา ไม่มีการสะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย

แต่สเวนก็รู้สึกได้ถึงพลังอันหนักหน่วงที่ถ่ายทอดมาสู่มือของตนเอง  มือของสเวนรู้สึกชาไปวูบหนึ่ง  ความรู้สึกเช่นเดียวกับตอนที่ถูกลมปราณของผู้หญิงคนนั้นพุ่งใส่

“ แล้วก็…….อยากจะขอเตือนไว้สักนิดนะครับ  อย่าดูถูกนักสู้ศักดิ์สิทธิ์ให้มันมากนัก !  ” สายตาของไซเมตเปลี่ยนไปเป็นน่ากลัวกว่าเกก้าดีนเสียอีก  หลังจากกล่าวจบสีหน้าก็กลับกลายมายิ้มอย่างรวดเร็ว “ แล้วเราคงจะได้เจอกัน ”

สเวนแย้มยิ้มออกมาเมื่อมองเงาหลังของไซเมต ‘ ดูท่าปีนี้จะมีแต่พวกบ้าๆทั้งนั้นเลยแฮะ ’

ดีว่าไม่อาจละสายตาจากเธอคนนี้ได้จริงๆ  เขาคล้ายถูกมนต์สะกดให้เดินตามเธอไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย คล้ายต่อให้เป็นนรกหรือสวรรค์ก็พร้อมที่จะเดินตามไป

ทั้งนี้เพราะในใจของดีว่ารู้สึกราวกับถูกกระบี่หลายพันเล่มฟันใส่  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ตนเองไม่สามารถต่อกรกับจี ดาบคลั่งได้เลยแม้แต่น้อย ทั้งเรื่องฝีมือของผู้หญิงคนนี้ที่ห่างกับเขาอยู่หลายขุม จนทำให้ดีว่ารู้สึกศรัทธาผู้หญิงคนนี้โดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว

‘ การฝึกที่ผ่านมาทั้งหมดของเรามันไร้ประโยชน์ขนาดนี้เชียวหรือ ? ’

และดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะเริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมาบ้างเล็กน้อย

“ เป็นอะไรไปหรือเปล่า  ยังเจ็บที่แผลนั่นอยู่ใช่ไหม ? ”

ดีว่าเหมือนถูกปลุกจากความฝัน นำมือมาจับยังแผลที่แก้มของตนเอง

“ อ่อ แผลนี่น่ะหรอครับ ไม่เจ็บแล้วละครับ เลือดก็หยุดไหลแล้วด้วย ”

ผู้หญิงคนนั้นยิ้มพร้อมกับส่ายหัว

“ ไม่ใช่ๆ ” จากนั้นชี้ไปยังบริเวณหัวใจของตัวเอง “หมายถึงตรงนี้ต่างหาก ”

ดีว่ารู้สึกราวกับผู้หญิงคนนี้สามารถอ่านจิตใจของตนเองได้อย่างทะลุปรุโปร่ง  ไม่ทราบว่าจะตอบว่าอะไรดี

เมื่อเห็นว่าตนเองจี้จุดมากเกินไป เธอจึงพยายามเปลี่ยนเรื่อง

“ ขอโทษนะค่ะ ถ้าพูดตรงจุดเกินไป ” จากนั้นมองหน้าดีว่า   “ อย่าท้อแท้ไปเลยนะค่ะ วิถีกระบี่ของคุณดีว่าน่ะเยี่ยมกว่าที่เคยได้ยินมาเสียอีก ”

ดีว่าเริ่มยิ้มออกมา แม้จะรู้ว่าเป็นการปลอบใจก็ตาม แต่คำพูดของเธอคนนี้ทำให้เขารู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาได้อย่างประหลาด

“ แต่ว่าอะไรหรอครับ………..”  ดีว่าเดาว่าเธอต้องมีอะไรจะพูดต่อแน่

เธอยิ้มเล็กน้อย ที่ดีว่าเดาใจเธอถูก

“ แต่ว่า….นั่นไม่ใช่วิถีกระบี่ของคุณดีว่า ”

ดีว่าอึ้งเล็กน้อยกับคำพูดของเธอ ‘ วิถีกระบี่เยี่ยม แต่ไม่ใช่วิถีกระบี่ของเราน่ะหรอ ? ’

เมื่อเห็นดีว่าเริ่มงงเธอจึงอธิบายต่อ โดยหยุดเดินและชักกระบี่ไม้ออกมาตั้งตรง

“ นี่เป็นกระบี่ของใครค่ะ ”

แน่นอนว่าต้องเป็นกระบี่ของเธอ

“ ก็ของคุณ… ”

เธอพยักหน้า จากนั้นก็กวัดแกว่งกระบี่ออกมาเป็นกระบวนท่า หนึ่งกระบวนท่า

“ ถ้าอย่างนั้นนี่คือ วิถีกระบี่ของใครค่ะ ? ”

แน่นอนก็ต้องเป็นวิถีกระบี่ของเธอ

“  ของคุณอีกเช่นกัน… ”

เธอยิ้มออกมาจากนั้นกวัดแกว่งกระบี่ออกอีกครั้ง เพลงกระบี่ดูสับสน แต่ก็สามารถมองออกได้ว่านั่นคือ วิถีดาบของจี ดาบคลั่ง !

“ ถ้าอย่างนั้นนี่คือ วิถีดาบของใครค่ะ ”

“ จะ จีดาบคลั่ง ”

“ ใช่แล้วค่ะ ”  เธอพยักหน้า “ แล้วคุณดีว่าคิดว่ามันเป็นอย่างไรบ้างละค่ะ ”

“ ใช้ออกมาได้ยอดเยี่ยมมากครับ แต่มันเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง ”

คราวนี้เธอยิ้มออกมาแล้ว

“ ใช่แล้วค่ะ สิ่งที่ขาดไปก็คือ ความเป็นตัวของตัวเอง ” เมื่อพูดถึงตรงนี้เธอก็ร่ายเพลงกระบี่ขึ้นหนึ่งชุด และเป็นชุดที่ดีว่าจะไม่มีวันลืมเลย

“ แม้กระบี่จะเป็นของตนเอง แต่วิถีกระบี่ไม่ใช่ของตนเอง เพลงกระบี่ย่อมสับสน ขาดพลัง  แม้จะรวดเร็ว แต่ก็ขาดซึ่งความมั่นคง ” เธอกล่าวขณะร่ายเพลงกระบี่  “ วิถีกระบี่ที่ยึดติดตามวิถีกระบี่ผู้อื่น ย่อมนำมาสู่ความผ่ายแพ้ เพราะเพลงกระบี่นั้นไม่อาจยึดติดได้ ! ”

คำพูดของเธอคล้ายกับกระบี่ที่แทงเข้าสู่หัวใจของดีว่า

‘ เพลงกระบี่ไม่อาจยึดติดอย่างนั้นหรือ ? ’ แม้ดีว่าจะเคยได้ยินมาจากพี่ชายของตน แต่กลับไม่ค่อยเข้าใจความหมาย ทว่าในตอนนี้กระบี่ไม้ที่อยู่ต่อหน้าเขาคล้ายเอ่ยวาจาให้คำตอบแก่ดีว่า

“ ที่ไม่อาจยึดติดนั่นเพราะ หากยึดติดกระบวนท่าย่อมไม่อาจพลิกแพลง เมื่อไม่อาจะพลิกแพลงก็ไร้ซึ่งความเป็นกระบี่ !!! ”

‘ ฟัป !! ’

กระบี่ไม้หยุดอยู่ตรงหน้าดีว่า พร้อมกับคำตอบของทุกสิ่งทุกอย่าง เหตุผลที่ทำให้ดีว่าพ่ายแพ้

“ คงจะเริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้นแล้วสินะค่ะ ”

“ ครับ แต่ที่ว่าวิถีกระบี่ของผมยึดติดนั่น่ะ ……ผมยึดติดเพลงกระบี่ของใครอยู่หรอครับ ?! ”

เธอแย้มยิ้มออกมา

“ วิถีกระบี่ที่คุณยึดติดอยู่ก็คือ วีถีกระบี่ของแดชพี่ชายคุณยังไงละค่ะ ! ”

ดีว่าถึงกับสะเทือนกับคำตอบของเธอ คล้ายแผ่นดินจะยุบลงไปในทันที  ที่ผ่านมาเขายึดถือกระบี่ตามแบบของพี่เขามาตลอดจริงๆ นั่นเพราะพี่ชายเป็นคนที่เขานับถือมากที่สุด จนทำให้เขาลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเสียสนิท และเมื่อได้พบความจริงก็ทำให้หัวสมองของเขาสับสนไปหมด

“ และหากเปรียบเทียบกันระหว่างคุณในตอนนี้กับพี่ชายของคุณในตอนนั้นแล้ว คุณยังสู้พี่ชายของคุณไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เพียงแต่มีสิ่งหนึ่งในตอนนี้ที่ทำให้คุณเหนือกว่าพี่ชายคุณ เป็นเพียงสิ่งเดียวที่พี่ชายคุณไม่มี แต่มันมีอยู่ในตัวคุณ นั่นก็คือ ความเป็นเลิศในการฝึกฝนกระบี่……….”

และดีว่าก็ลืมนึกไปสนิทเลยว่า เธอรู้จักพี่ชายเขาได้อย่างไร เพราะถึงแม้จะรู้จักชื่อก็ไม่อาจรู้ซึ้งถึงวิถีกระบี่ แสดงว่าเธอต้องรู้ถึงวิถีกระบี่ของพี่ชายเขา เพียงแต่ดีว่าไม่ได้คิดเท่านั้น ในตอนนี้หัวสมองของดีว่ามีเพียงความสับสนเท่านั้น

“ ตอนนี้สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ค้นหาวิถีกระบี่ของตนเองให้ได้ วิถีกระบี่ที่จะมีเพียงคุณคนเดียวเท่านั้นที่ใช้ได้  แม้จี ดาบคลั่งจะมีฝีมือเหนือกว่าในตอนนี้ แต่ด้วยการฝึกที่ผิดวิธีจะต้องนำเขาไปสู่ชะตากรรมที่เลวร้ายในอนาคตอย่างแน่นอน ”

เธอเก็บกระบี่คืนสู่ฝัก จากนั้นเริ่มเดินออกห่างจากดีว่า

“ ในตอนนี้สิ่งที่ดิฉันพอจะช่วยคุณได้ก็มีเพียงเท่านี้ ” จากนั้นหันมายิ้มให้แก่ดีว่า  รอยยิ้มนั้นราวกับเทพธิดามาอวยชัยให้  “ หวังว่าคุณคงจะพัฒนาขึ้นจนกว่าจะถึงตอนที่เราต้องประลองกันนะค่ะ ”

ดีว่าแม้จะกล่าวขอบคุณ หรือคำลาสักคำก็ไม่อาจกล่าวได้  ร่างกายของเขาคล้ายถูกมนต์สะกดตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกับผู้หญิงคนนี้  ไม่ว่าจะเป็นความงดงามที่คล้ายเทพธิดา ฝีมือกระบี่อันสูงส่ง และคำชี้แน่ะที่กล่าวรวมถึงพี่ชายของเขา

‘ วิถีกระบี่ของตัวเราเอง ? ความเป็นเลิศในการฝึกฝนกระบี่ ? ’ คำพูดนี้ดังก้องอยู่ในหัวดีว่า  โดยที่เขาไม่อาจเข้าใจได้แม้แต่น้อย……………

ตั้งแต่ดีว่าฝึกฝนกระบี่มาเขาไม่เคยพบเจอกับปัญหาในการฝึกเลยแม้แต่น้อย เขาก้าวตามทางเดินที่พี่ชายวางไว้ให้เสมอจนกระทั่งมาถึงวันนี้  เป็นวันแรกที่เขาได้พบกับกำแพง  และดีว่าจะสามารถทำลายกำแพงอันนี้ไปได้หรือไม่ ?

                          ___________________________________