ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : บทเรียนที่ 13 ปราณกระบี่สำแดงเดช
                                  บทเรียนที่ 13    ปราณกระบี่สำแดงเดช
   
                คนทั้งห้องหันมองตรงไปยัง จีดาบคลั่งเป็นสายตาเดียว    จากนั้นเสียงพึมพาก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง  คงจะเป็นเพราะการโอ้อวดของเขานั่นเอง 
                    นักเรียนชายตัวอ้วนที่วาเห็นนั้นถึงกับจ้องหน้าจีดาบคลั่งแบบตาไม่กระพริบเลยทีเดียว      ซาโต้เลื่อนแว่นขึ้นมาพร้อมกับแย้มยิ้ม      ส่วนโซเฟียนั้นยิ้มให้จีอย่างท้าทาย   
                    “ มันจะไม่เป็นการดูถูกกันไปหน่อยเรอะนาย ”        เด็กชายร่างสูงคนหนึ่งทางฝั่งอับดุลอินเตอร์ตะโกนออกมาด้วยความโมโห
                    “ ใช่แล้ว ที่จริงคนปากดีอย่างนาย    แค่เราคนเดียวก็น่าจะเกินพอแล้วละมั้ง ”    เด็กชายอีกคนหนึ่งพูดเสริมมา    พร้อมกับทำท่าควงมีดสั้นที่อยู่ในมือ
                  “ ชิ เดี๋ยวก็จะได้รู้กันว่า พวกกระจอกน่ะมันไม่มีสิทธิ์จะมาสั่งสอนคนที่เหนือกว่า ”          จี ดาบคลั่งพูดเย้ยหยั่น        และก่อนที่ใครจะพูดอะไรจ่อ เด็กชายอ้วนแว่นก็รีบพูดแทรกมาทันที
                  “ ใจเย็นไว้ก่อนครับทุกคน  ในเมื่อเขาคิดว่าเขาสามารถเอาชนะเราทั้งสามคนได้ละก็  ลองให้เขาพิสูจน์ดูเองดีกว่านะ ”
                จี ถึงกับจ้องตรงไปยังเด็กชายอ้วนแว่นเลยทีเดียว    สายตาของจีนั้นดูช่างน่ากลัวและช่างดูถูกเหยียดหยามเอาเสียจริงๆ  แต่เด็กชายอ้วนแว่นก็หาได้สนใจไม่     
                “ น่าหมั่นไส้จริงๆ เลยนะค่ะคนแบบนี้ ”        โซเฟียกระซิบพูดกับซาโต้
                ซาโต้ค่อยๆ กล่าวอย่างใจเย็นว่า
                “ มันก็จริง  แต่ปล่อยเขาไปเหอะ  รอบของพวกเรามันเสร็จไปแล้ว  ปล่อยให้สามคนนั้นเขาจัดการก็แล้วกัน  คงจะไม่เกินความสามารถของสามคนนั้นหรอก ”   
                สิ้นประโยคของซาโต้เด็กชายนักประกาศก็รีบกล่าวต่ออย่างตื่นเต้นทันที
                “ โอ้ววววว !!!  มันยังไงกันครับนี่ท่านผู้ชม  รู้สึกว่าการประลองรอบที่ 3 นี้ท่าทางจะไม่ธรรมดาเสียแล้วละครับ ”
              ทันทีที่เด็กชายนักประกาศกล่าวจบ จีดาบคลั่งก็กระโดดขึ้นมาบนเวทีทันที    ไม่มีใครทราบว่าเขาใส่ชุดเกราะเสร็จตั้งแต่เมื่อไหร่    รู้เพียงแต่ว่าคนที่สามารถกระโดดระยะไกลขึ้นมาบนเวทีขนาดนี้ต้องมีฝีมือไม่ธรรมดาเป็นแน่แท้                 
                จีดาบคลั่งเดินเข้าไปที่เด็กชายนักประกาศพร้อมกับแย่งไมค์ออกมาจากมือทันที     
                “ ตอนนี้เราขึ้นมารอแล้ว  เมื่อไหร่พวกแกจะรีบขึ้นมาละ  หรือว่ากลัวจนไม่กล้าขึ้นมากันแน่ ”
                “ สงสัยต้องทำให้มันได้รู้สักหน่อยแล้ว ”      เด็กชายที่ถือมีดสั้นกล่าว  พร้อมกับใส่ชุดเกราะป้องกันจากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีลานประลอง
                เมื่อ จี ดาบคลั่งเห็นดังนั้นก็กล่าวต่อ
              “ ชิ  ขึ้นมาเพียงแค่คนเดียวคิดว่าจะสู้เราได้งั้นรึ ”
              “ อย่าทำเป็นปากดีไปหน่อยเลย  เดี๋ยวนายก็จะปากดีไม่ได้แล้วละ ”
              “ ชิ ”
            จี ดาบคลั่งโยนไมค์ออกไปจากมือของเขา  ซึ่งเด็กชายนักประกาศถึงกับเกือบรับไว้ไม่ทัน    เมื่อได้ไมค์คืนมาแล้วเด็กชายก็กล่าวต่อ
              “ ในที่สุดการประลองคู่ที่ 3 ก็กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วละครับ          ระหว่าง จี ดาบคลั่งฝั่งโรงเรียนเกบรียลผู้ที่บอกว่าสามารถล้มทั้งสามคนที่เหลือได้อย่างสบาย กับ น้อยส์ ผู้ใช้มีดสั้นเป็นอาวุธ ฟังว่าวิชามีดสั้นของเขานั้นสามารถล้มคู่ต่อสู้ได้ภายในมีดเดียวเชยวละครับ      ใครจะเป็นผู้ชนะการประลองรอบนี้กันแน่นะครับ ”
              “ ชิ  เริ่มเสียทีพูดอยู่ได้ ”
              จี ดาบคลั่งพูดพร้อมกับชักดาบออกมาจากฝัก  เด็กชายนักประกาศรู้สึกไม่ชอบจีเลยจึงรีบประกาศอกไป  ในใจเขาหวังว่าจีดาบคลั่งคงจะต้องถูกเล่นงานจนแพ้ย่อยยับแน่  และเมื่อถึงเวลานั้นเขาจะพูดซ้ำเติมให้เต็มทีเลยทีเดียว
              “ เอาละครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา    ขอเริ่มการประลองคู่ที่ 3 ได้เลย ณ บัดนี้ครับ ! ”
              น้อยส์เมื่อเห็นจีดาบคลั่งชักดาบเตรียมพร้อมแล้ว  เขาก็เริ่มควงมีดสั้นเล่มเล็กของเขาอย่างคล่องแคล่ว  พร้อมกับกล่าว
         
                “ เข้ามาเลย  เจ้าปากดี  แล้วนายจะได้รู้ว่านายเองกระจอกแค่ไหน ”
                “ ชิ พวกกระจอกไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี ”
                พูดจบจีดาบคลั่งก็พุ่งตัวตรงเข้าไปหาน้อยส์ในทันที      ดาบของจีนั้นเป็นดาบสีดำสนิทดูแล้วดุดันอำมหิตเสียจริงๆ        น้อยส์เมื่อเห็นจีดาบคลั่งพุ่งตัวเข้ามาก็ควงมีดต่อเ  และเตรียมพร้อมที่จะโจมตีกลับในทันทีที่จี ดาบคลั่งลงมือ     
                เมื่อจีดาบคลั่งเข้าใกล้น้อยส์ในระยะลงมือแล้ว  เขาก็ตวัดดาบของเขาออกไปในทันที  ความเร็วระดับนี้น้อยคนนักที่จะหลบพ้นได้ 
            วาถึงกับไม่อยากมอง  เขาคิดว่าน้อยส์คงจะต้องถูกฟันลงที่คอเป็นแน่        แต่ในพริบตาเดียวกันนั้นเอง ไม่น่าเชื่อว่าน้อยส์จะสามารถรับการโจมตีของจีดาบคลั่งได้       
       
                ดาบของจีถึงกับถูกรับได้ด้วยมีดสั้นที่ยาวเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้นเอง        ถ้าไม่ใช่ผู้ที่มีสติมั่นคงและได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีแล้วละก็  คงจะไม่สามารถรับการโจมตีที่เร็วขนาดนี้ได้แน่นอน
     
                ไม่รอให้จีดาบคลั่งลงมือต่อน้อยส์ถีบไปที่ท้องของจีเต็มๆ    ทำให้จีดาบคลั่งกระเด็นออกไป  แต่ก็ไม่ถึงกับล้ม    ไลท์พอต์ยของจีดาบคลั่งถึงกับลบไป  60 หน่วย        พร้อมกับเสียงปรบมือของนักเรียนทั้งห้อง
                น้อยส์ยิ้มพร้อมกับกล่าว
              “ ที่คุยโวมาที่แท้ก็เท่านั้น  คนที่กระจอกแถมยังปากดีน่ะ มันก็คือ นายเองนั่นแหละจำไว้ด้วย ”
                น้อยส์ค่อยๆ  เดินเข้าไปใกล้จีดาบคลั่งที่ล้มลงอยู่  พร้อมกับเตรียมลงมือต่อชนิดที่เรียกว่าไม่ยอมให้จีดาบคลั่งลุกขึ้นมาได้เลยทีเดียว
                “ ลาก่อนนะ คนปากดี ”
                  แต่ขณะที่น้อยส์กำลังจะก้มลงแทงจีนั้น    ดสบสีดำสนิทก็แทงตรงเข้าไปที่คอหอยของน้อยส์เสียแล้ว  ไลท์พอต์ยของน้อยส์ถึงกับหมดไปเลยในการโจมตีทีเดียว 
                  จี ดาบคลั่งสามารถลงมือได้แม้กระทั่งนอนอยู่กับพื้น    ไม่มีใครคิดว่าเขาจะสามารถสปริงตัวขึ้นมาได้ด้วยความเร็วระดับนี้    การโจมตีก็รวดเร็วและอำมหิตเสียจริงๆ 
                  มดที่ถูกกำอยู่ในมือของน้อยส์นั้นถึงกับกระเด็นออกไปตกลงสู่พื้น    เนื่องเพราะถูกดาบของจีดาบคลั่งฟันนั่นเอง          จียังไม่หยุดลงมือ  เขายังคงโจมตีน้อยส์ต่ออย่างไม่หยุดยั้ง    กระบวนท่าของจีนั้นรวดเร็วและอำมหิต  ดูแล้วช่างบ้าคลั่งเสียจริงๆ         
                    ไลท์พอต์ยของน้อยส์ถึงกับค่อยๆ ติดลบลงไปเรื่อยๆ      จีหัวเราะอย่างบ้าคลั่งในขณะที่ลงมือต่ออย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลงเมื่อไร        นักเรียนในห้องหลายคนรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก  บางคนถึงกับตะโกนด่าเลยทีเดียว 
                  ดีว่าขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด  ดูแล้วเคร่งเครียดขึ้นมากเลยทีเดียว  ไม่บอกก็รู้ว่าเขาไม่ชอบการกระทำของจีดาบคลั่งแค่ไหน    วาเองก็เหมือนกันเขาคิดว่าถ้าเขาลุกขึ้นไปสู้ได้ตอนนี้แล้วละก็  เขาอยากจะตะบันหน้าไอ้หมอนั่นสักครั้ง
                  “ ฮ่าๆ  ไอ้พวกกระจอกบอกแล้วว่าอย่ามาทำเป็นสั่งสอน  ”          จีดาบคลั่งพูดอย่างบ้าคลั่งในขณะที่ลงมืออย่างไม่หยุดยั้ง  และทันใดนั้นเอง
                  “ พอได้แล้ว  นายบ้าไปแล้วหรอ ”     
                  เด็กชายอ้วนแว่นตะโกนจากนั้นวิ่งขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับเด็กชายร่างสูงอีกคนหนึ่ง    จีดาบคลั่งเมื่อเห็นดังนั้นก็หยุดลงมือพร้อมกับถีบน้อยส์กระเด็นออกไป      น้อยส์ถึงกับลงไปนอนหมอบในทันที
                  “ ดีๆ เข้ามาเลยไอ้พวกกระจอก ”
                  เด็กชายนักประกาศเมื่อเห็นดังนั้นก็เริ่มประกาศต่อทันที
                  “ เอาละครับ งานนี้จีดาบคลั่งไม่รอดแน่นอน  เพราะคู่ต่อสู้ของเขามีถึงสองคนแถมทั้งสองคนนี้ยังไม่ใช่คนที่มีฝีมือธรรมดาอีกด้วยละครับ    คนที่ถือขวานขนาดใหญ่อยู่นั้นก็ คือ ขวานยักษ์กิม    และส่วนอีกคนก็คือ แม็กดาบายวนั่นเองละครับ ”
       
       
                    แม็กละกิมวิ่งตรงไปยังจีดาบคลั่งอย่างรวดเร็ว  ไม่น่าเชื่อว่าแม้กิมที่ตัวอ้วนขนาดนั้นจะสามารถวิ่งได้รวดเร็วปานนี้          จีดาบคลั่งเมื่อเห็นดังนั้นก็ตั้งท่าเตรียมรับการโจมตีของทั้งคู่ 
                  แม็กเป็นฝ่ายลงมือก่อนเขาตวัดดาบหมายจะแทงตรงไปยังบริเวณท้องของจีดาบคลั่งแต่ทว่า    ดาบของเขาก็ถูกตวัดหลุดออกมาจากมืออย่างง่ายดายด้วยการตวัดดาบเพียงครั้งเดียวของจีดาบคลั่ง
 
                    “ ชิ เจ้าพวกกระจอก    กระบวนท่าที่หนึ่ง  ดาบคลั่งสังหาร !!!! ”
                 
                    จี ดาบคลั่งลงมืออย่างรวดเร็วมาก  กระบวนท่ารุนแรงและบ้าคลั่ง  เรียกได้ว่า  ใครโดนกระบวนท่านี้ไปแล้วละก็แทบจะไม่มีโอกาสได้หายใจเลยทีเดียว   
                    การตวัดดาบของจี แต่ละคลั่งล้วนรวดเร็วยิ่ง  ราวกับว่าเขาสามารถโจมตีคู่ต่อสู้ 2 ครั้งภายในการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียวเลยก็ว่าได้      ไลท์พอต์ยของแม็กค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ  จนในที่สุดเมื่อจีดาบคลั่งตวัดดาบสุดท้าย ฟันผ่าไปกลางลำตัวของแม็ก        ไลท์พอต์ยของแม็กถึงกับกลายเป็น 0 หน่วยเลยทีเดียว
                      ไม่น่าเชื่อว่าการลงมือเพียงไม่กี่วินาทีของจีดาบคลั่งจะสามารถเอาชนะแม็กที่ถือว่ามีฝีมือไม่น้อยเลยได้ง่ายๆ        แม็กล้มลงไปกับพื้นราวกับคนสูญเสียสติ                    กิมยังไม่ทันที่จะวิ่งเข้าไปถึงจีดาบคลั่งเมื่อเห็นกระบวนท่าอันโหดเหี้ยมอำมหิตนั้นถึงกับต้องหยุดตัวเองไม่ให้เดินเข้าไปภายในทันที 
                      เมื่อแม็กล้มลงไปกับพื้น ตอนนี้ก็เหลือเพียงจีดาบคลั่งกับกิมขวานยักษ์เท่านั้น    กิมกำขวานเล่มใหญ่ของเขาไว้อย่างแน่น    เขารู้สึกว่าเหงื่อเริ่มไหลออกมามาก ทั้งๆ ที่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรเลย  หรือนี่จะเรียกได้ว่าความกลัว ?   
                      จีดาบคลั่งยิ้มอย่างเหยียดหยามพร้อมกับค่อยๆ เดินเข้าไปหากิมอย่างช้าๆ    ในขณะที่จีดาบคลั่งกำลังเดินเข้าไปหา      กิมก็ค่อยๆ เดินถอยหลังไปเรื่อยๆ 
                      วาถึงกับไม่เชื่อสายตาของตัวเอง  ไม่อยากจะเชื่อว่า จี ดาบคลั่งจะสามารถล้มคู่ต่อสู้สองคนแรกได้ง่ายดายเพียงนี้      และเขาก็ไม่คิดว่ากิมจะสามารถเอาชนะจีดาบคลั่งได้เลย  ซึ่งทั้งโซเฟียและซาโต้หรือแม้แต่นักเรียนทั้งห้องก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน 
                      กิมเริ่มตั้งสติได้ และเลิกเดินถอยหลังอีกต่อไป    เขากำขวานแน่นเตรียมพร้อมโจมตีจีดาบคลั่ง  และแล้วจีดาบคลั่งก็เดินเข้ามาจนถึงระยะที่จะโจมตีได้แล้ว        เขาตวัดดาบสีดำสนิทของเขาออกไปแต่มันก็ถูกรับได้โดยกขวานยักษ์ของกิม      ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะสามารถใช้ขวานยักษ์ที่มีน้ำหนักมากขนาดนั้นมารับการโมตีของจีดาบคลั่งได้รวดเร็วปานนี้   
     
                    เมื่อการโมตีถูกรับได้ จีดาบคลั่งก็รีบตวัดดาบกลับพร้อมกับโจมตีอีกครั้ง    คราวนี้เขาลงมือเร็วกว่าเดิมแต่กิมก็ยังคงป้องกันเอาไว้ได้        จีดาบคลั่งเริ่มโจมตีอย่างต่อเนื่องซึ่งก้เป็นที่น่าแปลกที่กิมยังคงสามารถรับการโมตีของจีดาบคบลั่งไว้ได้ทั้งหมด     
                      นักเรียนทั้งห้องถึงกับเงียบ และใจจดใจจ่อกับการประลองคู่นี้เป็นอย่างมาก    บางคนถึงกับจ้องิดูอย่างไม่กระพริบตาเลยทีเดียว     
                      “ โอ้ว ท่านผู้ชมครับ  ไม่น่าเชื่อว่าการโจมตีของจีดาบคลั่งจะถูกกิมขวานยักษ์ป้องกันได้หมดเลยละครับ  สมแล้วที่เขาว่ากันว่า  ขวานยักษ์ของกิมนั้นมีพลังป้องกันที่มั่นคงดุจขุนเขา    ขวานเล่มนั้นทำมาจากเหล็กที่เบาเป็นพิเศษ  ถึงแม้จะดูใหญ่โตแต่น้ำหนักก็ไม่ได้หนักมากอย่างที่คิด  แถมลักษณะขวานที่ใหญ่เป็นพิเศษจึงทำให้สามารับการโจมตีได้ดีไม่แพ้โล่เลยทีเดียวละครับ  ”
                  เด็กชายนักประกาศกล่าวด้วยเสียงที่มีความหวัง  เขาคิดว่ากิมจะต้องไม่แพ้จีดาบคลั่งอย่างง่ายๆ แน่นอน      ส่วนจีดาบคลั่งนั้นก็ยังคงโจมตีต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง และทุกครั้งที่ลงมือก็จะเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ กระบวนท่าก็ดุดันอำมหิตยิ่งนัก  แต่กิมก็ยังคงรับการโจมตีได้หมดอยู่ดี 
                 
                    เสียงดาบกระทบกับขวานดัง “  เปร็ง !!! ”  ไปทั่วห้อง  กิมกล่าวขณะที่กำลังใช้ขวานกันดาบของจีที่กดลงมาอย่างหนักหน่วง
                  “ การโจมตีของนายไม่มีผลอะไรเลยแม้แต่น้อย  เมื่อมาอยู่ต่อหน้าขวานยักษ์ของเรา ”
                  “ ชิ ขวานยักษ์โสโครกของแกไม่คู่ควรจะมาเทียบกับดาบคลั่งของเราหรอก ”
                  “ เดี๋ยวก็จะรู้ว่าขวานของเราหรือดาบของนายกันแน่ที่จะเทียบกันไม่ได้ ”
                  กล่าวจบกิมก็รวบรวมกำลังดันดาบของจีดาบคลั่งออกไปได้    จากนั้นก็ถือขวานด้วยมือเพียงข้างเดียวพร้อมกับตั้งท่า  ท่าทางกิมคงจะเอาจริงแล้ว
                  “ แพ้เสียเถิด  ท่าไม้ตาย ขวานถลายภูผา !!!  ”
                  พร้อมกันนั้นกิมก็กระโดดขึ้นไปพร้อมกับหมุนตัว  ขวานถูกตวัดหมุนตามอย่างรวดเร็วมันพุ่งตรงไปยังจีดาบคลั่งอย่างทรงพลัง      ถ้าใครได้เห็นการโจมตีอันทรงพลัง มั่นคง และรวดเร็วของกิมขวานยักษ์แล้วละก็  เชื่อว่า 99.99 %  ต้องไม่เชื่อว่าจะมีใครสามารถหลบการโจมตีนี้ไปได้เลย  เว้นแต่คนๆ นั้นจะเป็นพระเจ้า
                  ขวานห่างจากจี ดาบคลั่งเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้นในตอนนี้  แต่ในพริบตาเดียวกันนั้นเอง  ไม่น่าเชื่อว่าดาบของจี ดาบคลั่งจะสามารถตวัดของออกมา 
                  จีดาบคลั่งไม่ได้หลบการโจมตีของกิมเลยแม้แต่น้อย  และก็ไม่ได้โจมตีไปที่กิมด้วย  เพราะถ้าเขาหลบได้ละก็คงจะไม่ใช่คนเป็นอย่างแน่    แต่สิ่งที่จีดาบคลั่งทำลงไปนั้นยิ่งน่าตกใจยิ่งกว่าการหลบการโจมตีอันนั้นได้เสียอีก   
                  ประกายดาบสีดำวูบขึ้นในเวลาเพียงไม่ถึงเสี้ยววินาที  การลงมือของจี ดาบคลั่งรวดเร็วอย่างยิ่ง และทันใดนั้นเองเมื่อดาบสีดำนั้นกระทบเข้ากับขวานยักษ์ของกิม      เสียง “ เผล็ง !!!  ”  ก็ดังลั่นห้องทั้งห้อง   
                  ขวานยักษ์ที่แข็งแกร่งปานภูผา  ถูกดาบของจีดาบคลั่งฟันหักของเป็นสองส่วน    แต่จีดาบคลั่งก็ไม่ได้หยุดการโมตีเพียงแค่นั้นเขาตวัดดาบด้วยความรวดเร็วราวกับว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นแทงตรงไปยังบริเวณคอหอยของกิมอย่างรวดเร็ว   
                  กิมค่อยๆ หงายหลังล้มลงไปกับพื้น ทั้งๆที่ยังคงกำวานยักษ์ที่แตกสลายไปแล้วไว้แน่น  ไลท์พอต์ยของกิมถูกลบลงเหลือ 0 หน่วยเหมือนทั้งสองคนแรก          นักเรียนทั้งห้องถึงกับไม่เชื่อสายตา  การลงมือที่รวดเร็ว รุนแรง และบ้าคลั่งนี้ไม่ใช่เรียกว่า พระเจ้า  แต่มันเหมือนดั่งการโจมตีของ ปีศาจร้าย !     
                  “ มะ มะ ไม่น่าเชื่อเลยครับ  ขวานยักษ์ที่ทำจากเหล็กอย่างดีชนิดพิเศษของกิมถูกดาบเล่มสีดำของจีดาบคลั่งฟันตกออกเป็นเสี่ยงๆ    และก็เช่นกันครับผู้ที่ชนะการประลองคู่ที่ 3 ได้แก่จีดาบคลั่งนั่นเองละครับ ”
                  เด็กชายนักประกาศกล่าวอย่างไม่เชื่อสายตาของตัวเอง  ห้องทั้งสองตกอยู่ในความเงียบไม่มีแม้แต่เสียงปรบมือแสดงความยินดีแม้แต่น้อย            แม็ก น้อยส์ และกิมค่อยๆ ถูกด็กนักเรียนสองสามคนเข้ามาช่วยกันพยุงออกไปจากเวทีด้วยความยากลำบาก 
                    ส่วนจี ดาบคลั่งนั้นยังคงยืนอยู่บนเวทีอย่างไม่กลัวเกรงใคร  พร้อมกับกวาดสายตาไปยังนักเรียนที่นั่งอยู่เรื่อยๆ  จนในที่สุดสายตาก็หยุดนิ่งจับจ้องตรงมายังที่วานั่งอยู่นั่นเอง    วาถึงกับสะดุ้งตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่กระวนกระวายสักเท่าไหร่           
                    ทว่าสายตาของจีดาบคลั่งถึงแม้จะจ้องตรงไปยังที่ของวา  แต่ก็ไม่ได้ประสานสายตากับวาโดยตรง  คนที่จีดาบคลั่งกำลังประสานสายตาอยู่นั้นกลับเป็นดีว่าซึ่งนั่งอยุ่ข้างๆ วานั่นเอง
                    นักเรียนหลายคนเริ่มมองตามจีดาบคลั่งไป  จนทำให้นักเรียนเกือบจะทั้งห้องมองตรงไปยังบริเวณที่วานั่งอยู่นั่นเอง  แม้แต่โซเฟียเองก็มองตามไปด้วยและเธอก็รู้ว่าคนที่ถูกชี้อยู่นั้นเป็น ดีว่าหรือไม่ก็วานั่นเอง            ส่วนดีว่านั้นก็จ้องกลับไปที่จีดาบคลั่งเหมือนกัน  ท่าทางของดีว่านั้นไม่ได้ตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย   
                    ทั้งสองคนจ้องกันอยู่สักพักหนึ่ง  ในที่สุดจีดาบคลั่งก็ตะโกนออกไปว่า   
                    “ ในที่นี้มีใครอยากจะมาประลองกับเราก็เชิญได้เลย  จะเข้ามาสักกี่คนก็ได้  ถ้าคิดว่พวกแกล้มเราได้ละก็นะ  หรือโดยเฉพาะแกและคนที่นั่งข้างๆ แก !!! ”       
                    พร้อมกันนั้นจีดาบคลั่งก็ชี้ดาบตรงไปยังดีว่า และแน่นอนคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ดีว่าถ้าไม่ใช่ซาซาไรก็ย่อมต้องเป็นวานั่นเอง  ซึ่งดูเหมือนว่าคนนั่งข้างๆ ที่จีดาบคลั่งหมายความถึง น่าจะเป็นวาเสียมากกว่า
                    เสียงของนักเรียนในห้องเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง    ส่วนใหญ่เป็นเสียงที่เกิดจากการซุบซิบว่า จีดาบคลั่งเสียมากกว่า      แต่ก็เป็นที่น่าแปลกที่นักเรียนบางคนที่นำอาวุธประจำตัวมาด้วยก็ไม่กล้าลุกขึ้นยืนเลยแม้แต่คนเดียว   
                  โซเฟียนั้นทำท่าจะเดินขึ้นไปบนเวที  แต่ก็ถูกซาโต้ห้ามเอาไว้ก่อน
                  “ ห้ามหนูทำละค่ะรุ่นพี่ คนแบบนี้ถ้าไม่สั่งสอนให้รู้สำนึกคงจะไม่ได้แล้วละค่ะ ”
                  “ ใจเย็นไว้ก่อนน่า  ถึงแม้จะเป็นเธอก็ไม่แน่ว่าจะสามารถเอาชนะเจ้าหมอนั่นได้นะ ”
                  “ ไม่มีทางหรอกค่ะ  หนูต้องเอาชนะเจ้านั่นได้แน่นอน ”
                  “ พี่ก็เชื่อนะว่าเธอต้องสู้เจ้านั่นชนะ  เพียงแต่ว่าอาวุธของเจ้านั่นร้ายกาจมาก  ไม่แน่ว่าดาบเพลิงอัคคีของเธออาจจะต้องถูกฟันหักออกเป็นชิ้นๆ เลยก็ได้นะ    และที่สำคัญอีกอย่างนึงเลย  ตอนนี้เจ้านั่นอยู่ในสภาพวอร์มอัพเต็มร้อยแล้ว            ฉายาจีดาบคลั่ง ของเจ้านั่นไม่ใช่ได้มาเพราะการลงมือที่มั่นคงและรุนแรงหรอกนะ  แต่เป็นเพราะการลงมือย่างบ้าคลั่งไม่คิดชีวิตของเจ้านั่นต่างหาก    เมื่อใดที่เพลงดาบของมันคลั่งจนถึงจุดๆ หนึ่งแล้วละก็    ยากที่จะหาผู้ใดต้านทานได้เลย ”
                เมื่อโซเฟียได้ยินคำพูดของซาโต้แล้วจึงหยุดคิดดูสักพักแต่ก็กล่าวต่อ
                “ แล้วอย่างนี้เราจะต้องทำยังไงกันละค่ะ ”
                “ พี่เชื่อว่า ไม่ต้องถึงมือของพวกเราหรอก    แค่สองคนที่อยู่บนนั้นก็น่าจะพอรับมือได้อยู่แล้ว ”
                สองคนที่ซาโต้ว่าหมายถึงใครกันแน่      ใช่แล้วย่อมไม่ใช่ใครอื่นใด    วาและดีว่านั่นเองซึ่งโซเฟียก็รู้ได้ทันทีจากสายตาของซาโต้ที่มองตรงไปยังดีว่าและวา   
     
                  “ การประลองระหว่างสถาบันในวันนี้สิ้นสุดลงแล้วนะครับ  ต่อไปก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถลงมาประลองฝีมือกันได้ตามสบายเลยนะครับ ”
                เด็กชายนักประกาศกล่าวออกมาในขณะที่คนทั้งห้องยังคงจ้องมองไปมาระหว่างดีว่าและจีดาบคลั่ง
                  ดีว่าค่อยๆ กล่าวเบาๆ กับวา
                  “ คนแบบนี้น่าสั่งสอนไหมครับ  คุณวา ”
                  “ ก็น่าอยู่หรอกนะ  เพียงแต่ว่าเราคงไม่ได้เป็นคนที่จะไปสั่งสอนเขาแน่อะ  เพราะขนาดคนเก่งๆ ตั้งสามคนยังแพ้เลย    แล้วจะเอาอะไรกับเรา  อาวุธของเราก็ยังไม่มีเลย ”
                  วา ตอบอย่างสิ้นหวัง  แต่ดีว่ากลับแย้มยิ้มอย่างน่าประหลาด
                  “ เมื่อสักครู่นี้เขาอุส่าห์เชื้อเชิญเราสองคนแล้วนะครับ  เราสองคนน่าจะลงไปให้เป็นเกรียติแก่เขาหน่อยนะครับ    และผมก็อยากจะทำให้เขาได้รู้ว่า  คนอย่างเขานั้นไม่ได้เก่งไปกว่าใครเลย ”
                  กล่าวจบวายังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ  ดีว่าก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับจับมือวาให้ลุกขึ้นตาม    ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรวากลับยืนขึ้นตามดีว่าอย่างง่ายดาย  ทั้งๆ ที่ใจจริงเขาไม่ได้อยากจะยืนขึ้นเลยแม้แต่น้อย
                  “ ไปกันเถอะครับ ” 
                  ดีว่าพูดพร้อมกับจูงมือวาเดินลงไปยังด้านล่าง  แต่ก่อนที่วาและดีว่าจะเดินลงไปนั้น  ซาซาไรก็ยิ้มพร้อมกับชูสองนิ้วให้กับทั้งสองคน
                  “ สู้ให้เต็มที่อย่าให้เสียชื่อโรงเรียนนะครับ ”
                  “ ครับมาสเตอร์ ”   
                ดีว่าตอบกลับอย่างมั่นใจ      ส่วนวาเมื่อเห็นดีว่าตอบก็ตอบกลับไปอย่างไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่
                  “ คะ ครับ ” 
                จี ดาบคลั่งยิ้มอย่างมีเลศนัย  สายตาจับจ้องไปยังดีว่าและวาอย่างจดจ่อ        ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังเดินลงมาขางล่างนั้น  ก็มีเด็กผู้หญิงท่าทางหน้าตาดีคนหนึ่งยืนขึ้นมาจากแถวข้างขวาสุดที่ติดกับทางเดิน 
 
                “ เดี๋ยวก่อนค่ะ ทั้งสองคน ! ”   
                ดีว่าและวาหันไปมองยังเด็กผู้หญิงคนนั้นพร้อมกัน    ดีว่าเป็นฝ่ายถามก่อน
                “ มิทราบว่ามีอะไรหรอครับ ”
                “ คือว่า นายสองคนจะไปสู้กับจีดาบคลั่งคนนั้นหรอค่ะ ”
                “ ใช่แล้วละครับ ”
                “ คือ ว่าเรามีเกราะแขนพิเศษที่สามารรับการโมตีได้ดีกว่าของไอร่อนเกราะเหล็ก แล้วเราก็อยากให้นายคนใดคนหนึ่งสวมมันไว้    มันจะช่วยลดการโจมตีได้เป้นอย่างดีเลยทีเดียวละ  ”
              “ ไม่เป็นไรหรอกครับ ขอบคุณมาก  พวกเราไม่จำเป็นต้องใช้มันหรอกครับ ”
              ดีว่ากล่าวอย่างสุภาพ  ในขณะที่กำลังทำท่าจะเดินต่อไป  วาก็เป็นฝ่านกล่าวขึ้น
              “ อย่าเพิ่งไปสิ ดีว่า    เขาอุส่าห์เอาเกราะป้องกันพิเศษมาให้เรา  อย่างน้อยเราก็น่าจะขอยืมมาใช้ก่อนก็ไม่เสียหายนี่ ”
              “ ใช่แล้วค่ะ  รับไว้ก่อนก็ได้  แล้วชนะค่อยเอามาคืนนะค่ะ ”
              เด็กผู้หญิงคนนั้นกล่าวจบก็รีบหยิบเกราะแขนออกมาจากเป้ส่งไปให้วาในทันที    วารู้สึกได้ถึงความหนักของเกราะแขนอันนั้นแต่ก็ไม่ได้สนใจนัก  คงเป็นเพราะคิดว่าเกราะธรรมดาที่เขาจะต้องใส่ก้คงหนักเท่านี้กระมัง 
                “ งั้นเราไปก่อนนะ  ขอบคุณมาก ”
                กล่าวจบวาก็รีบเดินตามดีว่าไปข้างล่าง  ส่วนดีว่านั้นทำท่าทางไม่ไว้ใจเด็กผู้หญิงคนนั้นสักเท่าไหร่นัก  แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากว่าอะไรแต่อย่างใด 
                เมื่อวาและดีว่าเดินลงมาจนถึงข้างล่างแล้ว  ทั้งสองคนก็เดินตรงไปยังฝั่งโรงเรียนอับดุล อินเตอร์ซึ่งมีซาโต้และโซเฟียยืนคอยอยู่แล้ว
     
                  “ ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าคุณเด๋อจะกล้าลงมากับเขาด้วย ”
                  “ นี่ เธอชมหรือว่ากำลังว่าเราอยู่เนี่ย ”
                  “ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน แหะๆ ”           
                  โซเฟียถึงกับเปลี่ยนไปราวกับคนละคน  ที่เมื่อสักครู่ยังต้องการจะขึ้นไปยังเวทีลานประลองอยู่เลย  ส่วนซาโต้นั้นเมื่อเห็นวาถือชุดเกราะแขนลงมาก็ท่าทางสงสัยเล็กน้อย  จึงกำลังจะขอวามาดูแต่จีดาบคลั่งก็ตะโกนเร่งมาว่า
                  “ ชิ ชักช้าเสียจริงๆ  คงจะกลัวมากสิท่า ”
                  ดีว่าไม่ตอบ  วาก็เช่นนั้นแต่ในความรู้สึกของวาในตอนนี้เขาอยากจะล้มหมอนั่นให้ได้เสียจริงๆ    ดีว่าและวาเริ่มสวมชุดเกราะป้องกัน    เป็นที่น่าแปลกที่วายังไม่รู้ว่าจะใช้อะไรไปสู้กับจีดาบคลั่งเลย  แต่ก็ทำการสวมชุดเกราะป้องกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว  โดยวาได้สวมเกราะป้องกันแขนที่เด็กผู้หญิงคนนั้นให้เข้าไปด้วย
                  โซเฟียหันมาพูดกับว่า เมื่อเห็นว่าวาพร้อมแล้ว
                  “ แล้วนี่นายจะเอาอาวุธอะไรไปสู้กับเขาเนี่ย ”
                  “ อาวุธไม่มีหรอก  มีแต่ใจน่ะ ”
                วา ตอบกลับไปอย่างเล่นๆ แต่ก็รีบพูดต่อเมื่อรู้ว่า โซเฟียไม่ขำด้วย
                “ เราก็ยังไม่รู้เลยว่าเราจะเอาอะไรไปสู้ ”
                “ นี่แหละน้า  สมแล้วที่เป็นคุณเด๋อ    งั้นเราให้นายยืมดาบของเราเอาไหม  ”
                โซเฟีย พูดพร้อมกับกำลังจะหยิบดาบของตนออกจากฝัก  แต่วาก็รีบกล่าวขึ้นมาก่อน
              “ ไม่เป็นไรหรอก  เราว่าเราคงจะใช้มันไม่ดีเท่าเธอหรอก  เราขอแค่ดาบธรรมดาๆ เล่มหนึ่งที่เจ้านั่นฟันไม่หักก็พอแล้วละ”
              “ งั้นรอสักครู่นะ ”
              ก่อนที่โซเฟียกำลังจะเดินไปหยิบดาบให้วานั้น เธอก้เหมือนนึกขึ้นได้จึงเอี้ยวตัวไปถามดีว่าด้วย
              “ แล้วนายละ จะเอาอาวุธอะไรไหม ”
              “ ผมขอแค่กระบี่เล่มเดียวก็พอครับ ”
              “ กระบี่หรอ  ไม่ค่อยจะเห็นคนใช้สักเท่าไหร่เลยนะ  นายนี่แปลกดีจัง  นี่นายใช่ดีว่ารึเปล่าละ ”
              “ ใช่แล้วครับ ”
              “ อ๋อ ดีๆ เราว่านายจัดการเจ้าหมอนั่นได้แน่  เดี๋ยวเราไปหยิบอาวุธมาให้พวกนายก่อนนะ ”
              โซเฟีย กล่าวจบก็รีบวิ่งตรงไปยังห้องเล็กๆ ที่อยู่ภายในห้องชมรมโดยทันที    ไม่นานนักเธอก็วิ่งกลับมาพร้อมด้วยกระบี่เล่มไม่ยาวนัก กับดาบที่มีขนาดยาวพอสมควร 
             
                วาและดีว่ารับมันมาพร้อมกับตรวจดูอย่างถี่ถ้วน      วานั้นลองเหวี่ยงดาบไปมาอยู่สองสามทีก็รู้สึกว่ามันหนักผิดกว่าปกติจึงถามโซเฟียไปว่า
                “ ทำไมมันหนักจัง ”
                “ หา นี่น่ะหรอหนักคุณเด๋อ  ท่าทางนายจะไม่ค่อยจะมีแรงแล้วละ  ดาบอันนี้เบาที่สุดเท่าที่เราจะหามาได้แล้วละนะจะบอกให้ “
              วาเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก  เขาคิดว่าที่นี่คงจะมีแต่ดาบหนักๆ เป็นเสียส่วนใหญ่ซึ่งนี่ก็คงจะไม่แปลกอะไรท่าดาบเล่มถ้าดาบที่เขาอถือยู่จะออกหนักไปบ้าง   
     
                “ ในที่สุดก็มีผู้กล้าที่จะมาสู้กับจีดาบคลั่งแล้วละครับ    ทั้งสองคนนี้จะสามารถสู้กับจีดาบคลั่งได้หรือไม่  ผมนี่เดาไม่ออกเลยทีเดียวละครับท่านผู้ชม ! ”
                เด็กชายนักประกาศประกาศด้วยท่าทางคึกคักเหมือนเดิม  แต่ทันใดนั้นเองก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งลุกขึ้นยืนพร้อมกับตะโกนออกมาว่า
                “ อย่างนี้ดูท่าทางจะไม่ค่อยยุติธรรมเลยนะครับ  จะให้คนๆ เดียวสู้กับคนสองคนได้ยังไงผมไม่เห็นด้วย  ถึงแม้จะรู้ๆ กันอยู่ว่าจีดาบคลั่งนั้นเก่งก็ตามที  ผมขอเสนอตัวเป็นคู่กับจีดาบคลั่งเพื่อให้เกิดความยุติธรรมเองครับ ”
                เด็กผู้ชายคนนั้นสะเหยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะค่อยๆ เดินลงมายังบริเวณด้านล่าง      ไม่ต้องบอกวาก็รู้ในทันทีว่า เด็กผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันแน่    ไม่ใช่ใครอื่นใด เขาคือ เด็กผู้ชายคู่อริของวานั่นเอง  “เซต “
              เสียงนักเรียนในห้องเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง  ดูเหมือนว่าจะหมั่นไส้การกระทำของเซตเป็นเสียส่วนใหญ่  แต่ก็ไม่มีใครกล้าตะกนว่าออกไป    ได้แต่นั่งนินทากันอยู่อย่างนั้น    แต่ก็ยังมีนักเรียนผู้หญิงบางกลุ่มส่งเสียงเชียร์ให้กับเซต  ซึ่งเมื่อเซตได้ยินเขาก็หันไปยิ้มให้พร้อมกับโบกมืออย่างน่าหมั่นไส้        คราวนี้วารู้สึกว่าจะประลองขึ้นมาในทันทีเลยทีเดียว   
             
                “ โอ้ว  อะไรกันครับเนี่ย  มีการเพิ่มผู้ประลองขึ้นมาอีกหนึ่งคนหรือครับเนี่ย  ดูเหมือนว่าการประลองคู่นี้น่าจะตื่นเต้นเร้าใจสุดๆ เลยละครับท่านผู้ชม ”     
                โซเฟียเมื่อเห็นเซตส่งยิ้มมาให้ถึงกับต้องเบือนหน้าหนี  เธอไม่เคยรู้สึกชอบผู้ชายคนนี้เลยแม้สักนิดเดียว          เซตไม่ได้เดินตรงมายังโซเฟียแต่เขากลับเดินไปยังฝั่งโรงเรียนเกเบรียลแทนพร้อมกับนำชุดเกราะฝั่งโรงเรียนเกเบรียลมาสวมใส่  อาวุธที่เขาใช้ก็เป็นดาบเล่มเหมือนกับที่วากำลังใช้อยู่เลย  แต่ดูท่าทางเขาจะไม่รู้สึกหนักเหมือนที่วารู้สึกเลยแม้แต่น้อย 
                ดีว่าหันมามองหน้าวาเมื่อเขาสวมชุดเกราะเรียบร้อยแล้ว
                “ ไปกันเถอะครับ ”
                “ โอเค เราพร้อมแล้ว ”
              วาเดินตามดีว่าขึ้นไปยังเวทีลานประลอง  อย่ากล้าๆ กลัวๆ    และก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เซตสวมชุดเกราะเรียบร้อยแล้ว      เซตจึงค่อยๆ เดินขึ้นไปบนเวทีลานประลองพร้อมกับควงดาบไปมาอย่างไม่ค่อยคล่องแคล่วนักคงหวังจะขู่ขวัญวากระมัง  แต่นั่นมันก็ไม่ได้ทำให้เขาดูน่าเกรงขามขึ้นมาสักเท่าไหร่นัก
                “ ชิ อย่ามาเป็นตัวถ่วงเราก็แล้วกัน ”
                จีดาบคลั่งพูดอย่างหยิ่งยโสกับเซต  ซึ่งเซตก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปได้แต่ยิ้มอย่าไม่ค่อยจะพอใจนัก  เด็กชายนักประกาศเมื่อเห็นว่าทั้งสองฝ่ายพร้อมแล้วจึงกล่าวเปิดการประลองขึ้น
                “  เป็นอันว่าทั้งสองฝ่ายพร้อมแล้วนะครับ  ต่อจากนี้ก็จะขอเปิดการประลองรอบพิเศษขึ้นได้ ณ บัดนี้ครับ !!  ”
                เสียงเฮ ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง  จากนั้นเด็กชายนักประกาศก็กล่าวต่อ
                “ ทางฝั่งโรงเรียนเกเบรียลจีดาบคลั่งและก็ เซตแห่งโรงเรียนอับอุล อินเตอร์ครับ    ส่วนทางด้านโรงเรียนอับดุล อินเตอร์ ได้แก่  ดีว่าปราณกระบี่ไร้เงาฟังว่า  เพลงกระบี่ของเขานกเลิศเลอพิสดารไร้ที่ติเลยทีเดียวเชียวละครับ  แถมยังมีวิชาปราณกระบี่อีกด้วยซึ่งน้อยคนที่จะได้เห็น  วันนี้เราจะได้เห็นกันหรือไม่ก็ต้องติดตามดูกันครับ ”
                ยังไม่ทันที่เด็กชายนักประกาศจะกล่าวต่อ  เสียงกรี๊ดก็ดังลั่นห้อง  ทีนี้คงจะเป็นทีของพวกนักเรียนหญิงบ้างแล้ว  หลังจากที่พวกนักเรียนชายร้องเชียร์โซเฟียไปแล้ว    คนที่ถูกเชียร์ไม่ใช่ใครอื่นใดเป็นดีว่านั่นเอง    วาเองก็ไม่รู้มาก่อนว่าดีว่าจะเป็นที่นิยมมากขนาดนี้      เมื่อเสียงกรี๊ดค่อยๆ ลดลงเด็กชายนักประกาศจึงค่อยๆ กล่าวต่อ 
                  “ และอีกคนหนึ่งก็คือ ”
                  ไม่มีเสียงกล่าวต่อ  เป็นเพราะเด็กชายนักประกาศไม่รู้ว่าวาเป็นใครกันแน่  เขาจึงเดินเข้าไปหาวาพร้อมกับถาม
                “ มิทราบว่าชื่ออะไรหรอครับ ”
                เด็กชายนักประกาศยื่นไมค์ไปที่วา
                “ ผมชื่อวาครับ  ”
                วา ตอบอย่างอายๆ ซึ่งก็ไม่ได้มีนักเรียนคนไหนร้องตะโกนเชียร์วาเลย  มีแต่ซุบซิบพูดคุยกัน  เนื่องจากไม่ค่อยจะคุ้นหน้าวานัก
                “ ไม่ค่อยคุ้นหน้าเลยนะครับเนี่ย”
                “ เออ คือ ผมเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่นะครับ ”
                “ อ่อ เข้าใจแล้วครับ ”
                เมื่อถามเสร็จเรียบร้อยเด็กชายนักประกาศก็เดินกลับไปยังบริเวณกลางเวทีลานประลองพร้อมกับกล่าวต่อ
                “ และอีกคนหนึ่งก็ คือ วา นักเรียนใหม่ของโรงเรียนอับดุล อินเตอร์นั่นเองครับ  อาจจะมีบางคนรู้จักเขาแล้วบ้างนะครับ  ฝีมือของเขาจะร้ายกาจเพียงใดผมก็ไม่อาจจะทราบได้  คงต้องรอพิสูจน์พร้อมๆ กันแล้วละครับท่านผู้ชม        เอาละครับงั้นก็ขอเริ่มการประลองรอบพิเศษขึ้นอีกครั้งหนึ่งเลย ณ บัดนี้ครับ !!!  ”
              นกเรียนทั้งห้องปรบมือพร้อมกันอีกครั้งหนึ่ง  จากนั้นทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งหนึ่ง
                ทั้งสองฝ่ายไม่มีท่าทีว่าใครจะเป็นฝ่ายลงมือก่อนเลย  จนในที่สุดจีดาบคลั่งก็เป็นฝ่ายเริ่มลงมือก่อน    โดยการพุ่งตัวตรงไปยังดีว่าพร้อมกับยื่นปลายดาบตรงเข้าหาที่ดีว่าด้วยความเร็วอย่างยิ่ง   
                  แต่ทว่าดีว่าเพียงแค่สะบัดกระบี่ออกไปเท่านั้นเอง  ดาบของจีดาบคลั่งที่ดูทรงพลังและอำมหิตอันนั้นก็ถูกปัดออกไปในอีกทิศทางอย่างง่ายดาย  ราวกับว่ามีเวทมนต์            แต่จีดาบคลั่งก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจเมื่อดาบถูกปัดไปก็รีบตวัดดาบกลับมาในทันที    คราวนี้ดีว่าแค่เอียงตัวก็สามารถหลบการโจมตีของจีดาบคลั่งได้อย่างง่ายดาย 
                  ดีว่าถึงกับเอามือไพ่ลหลังไว้ข้างหนึ่ง  ส่วนอีกข้างหนึ่งจับกระบี่ไว้มั่นเพื่อเตรียมพร้อมที่จะรับการโมตีและตอบโต้กลับ          จีดาบคลั่งถึงกับกัดกรามด้วยความเคียดแค้นที่ไม่สามารถทำอะไรดีว่าได้เลย 
                  นักเรียนทั้งห้องถึงกับอึ้งไปตามๆ กันกับความสามารถของดีว่า  ถึงแม้จะถูกโมตีอย่างบ้าคลั่งแค่กลับสงบนิ่งราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
                  “ ชิ จะดูถูกกันไปหน่อยแล้ว !!! ”
             
                  จีดาบคลั่งเพิ่มความเร็วในการโจมตีขึ้นแต่ก็ยังไม่มสามารถทำอะไรไรดีว่าได้อยู่ดี      ส่วนวานั้นถึงกับยืนอยู่เฉยๆ ทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว  ได้แต่มองการต่อสู้ของทั้งสองอย่างใจจดใจจ่อ  แต่ในขณะที่วากำลังจดจ่ออยู่นั่นเอง  เขาก็รู้สึกว่ามีคนกำลังอยู่ทางด้านหลังของเขา 
                  วารีบหันหลังกลับไปดูก็พบกับดาบของเซตตวัดตรงมาหมายจะแทงไปที่เขาอย่างรวดเร็ว  วายกดาบขึ้นอย่างไม่ค่อยคล่องแคล่วนัก ซึ่งก็โชคดีที่เขาสามารถรับดาบของเซตไว้ได้ทัน     
                  เซตพยายามดันดาบของวาให้หลุดออกไปให้ได้  ส่วนวาก็พยายามกันการดันของเซตไว้อย่างเต็มความสามารถ  แต่เขารู้สึกว่าแขนของเขาหนักเหลือเกิน          เมื่อถูกกดมาเรื่อยๆ แขนของวาก็เริ่มหมดแรง และเมื่อเห็นว่าวาเริ่มหมดแรงเซตก็ใช้กำลังเฮือกใหญ่ชักดาบกลับและฟันเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง 
                  เมื่อเห็นดังนั้นวาก็รีบถอยหลังเอนตัวหลบ แต่ก็ถูกฟันเข้าที่หน้าอก  โชคดีที่ยังไม่ถึงกับโดนเข้าเต็มๆ    ไลท์พอต์ยของวาถึงกับถูกลดลงไป  295 หน่วยเลยทีเดียว  ซึ่งถือว่าลบเยอะอย่างน่าผิดปกติ 
                    “ หึหึ แกไม่มีวันเอาชนะเราได้หรอก  และวันนี้เราก็จะทำให้แกได้รู้ว่า แกน่ะมันไร้น้ำยา    แล้วนักเรียนทุกคนจะได้เห็นว่า แกมันกระจอกแค่ไหน ”
                  “ ให้ตายสิ  เราไม่เคยมีความรู้สึกชอบคนอย่างนายเลย  ผู้ชายอะไรผู้หญิงเขารำคาญแล้วยังตามตื้ออยู่ได้ ”
                  “ หุบปากของแกเดี๋ยวนี้นะ !”
                  ยังไม่ทันที่วาจะพูดต่อเซตก็รีบตวัดดาบเข้ามาที่วาทันที  ซึ่งวาก็ถอยหลังหลบไปได้อย่างทันท่วงที
                  “ คนเรามีสมองมีไว้คิดว่า ควรจะทำตามคำสั่งของคนอื่นหรือเปล่า  แล้วเรื่องอะไรเราจะต้องหุบปากตามคนอย่างนายด้วย  คนที่น่าจะหุบปากน่าจะเป็นนายเสียมากกว่านะ ”
                    “ หน่อย แก แก จะต้องชดใช้ในสิ่งที่แกพูดออกมาก  คอยดู ”
                    “ ก็ดูอยู่นี่ยังไงละ ”
                    เซตโจมตีวาอย่างบ้าคลั่ง  ไม่ต่างจากคนบ้าที่ไร้สติสักเท่าไหร่นัก    ส่วนวานั้นก็คอยหลบไปเรื่อยๆ บางครั้งก็ตวัดดาบกลับไปบ้าง   
                      วารู้สึกว่าการที่เขาจะตวัดดาบเพื่อโมตีออกไปในแต่ละครั้ง ช่างยากลำบากนัก  แขนของเขาเหมือนกับถูกลูกตุ้มถ่วงเอาไว้ก็ไม่ปาน    แต่ในที่สุดเขาก็ออกแรงฟันออกไปเมื่อเห็นว่าเซตมีช่องโหว่
                      ดาบของวาตวัดผ่าตรงไปยังกลางลำตัวของเซตพอดี  ทำเอาเซตถึงกับเซไปเลยทีเดียว  ซึ่งวาก็ไม่ยอมปล่อยให้โอกาสสำคัญนี้หลุดมือไปได้  เขารีบฟันเขาไปอย่างต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง   
                    ที่ๆ วาพยายามโมตีเข้าไปให้ได้มากที่สุดดูเหมือนจะเป็นส่วนลำตัวกับแขน  โดยวาคิดว่าท่าทำให้อาวุธหลุดออกจากมือของเซตได้  เขาคงจะชนะได้อย่างไม่ยากเย็นเป็นแน่          ไลท์พอต์ยของเซตค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ  แต่ขณะที่วากำลังโมตีเซตอย่างไม่ทันตั้งตัวอยู่นั่นเอง        จีดาบคลั่งก็เปลี่ยนการโมตีจากที่กำลังต่อสู้กับดีว่าตรงมายังวาอย่างรวดเร็ว 
                    วาถึงกับไม่ทันตั้งตัวดาบของจีดาบคลั่งก็อยู่ห่างจากเขาเพียงไม่กี่นิ้วแล้ว    โซเฟียถึงกับไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น      ถ้าเกิดถูกดาบนี้โจมตีเข้าไปแล้วละก็น้อยคนนักที่จะรอดไปได้
                      ดีว่าอยู่ห่างจากจีดาบคลั่งไม่มากนัก  แต่ถ้าจะให้วิ่งไปรับดาบของจีดาบคลั่งในตอนนี้แล้วละก็  คงจะไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน
                      “ ชิ แกนี่มันตัวเกะกะจริงๆ  คงไม่รอดแล้วละนะ ”
 
                        มิคาด จีดาบคลั่งถึงกับกระเด็นออกไปเหมือนกับถูกคนผลักหรือต่อยเข้าเต็มๆ ที่ท้อง    วาถึงกับไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง      กระบี่ที่ดีว่าตวัดออกไปนั้นถึงกับมีแรงลมวูบหนึ่งพัดขึ้นมา  พร้อมกับตรงไปยังจีดาบคลั่ง      หรือสิ่งนี้ที่เขาจะเรียกกันว่า “  ปราณกระบี่ “ กันแน่        เสียงปรบมือดังไปทั่วทั้งห้อง  เมื่อดีว่าตวัดกระบี่นั้นออกไป
                    “ อย่ารุมกันสิครับ  คู่ต่อสู้ของคุณคือผมนะครับ  ถึงแม้คุณเองอาจจะยังไม่ถึงขั้นที่จะเป็นคู่มือให้กับผมได้ก็ตามที  ”
                    “ ชิ อย่ามาทำเป็นปากดีไปหน่อย  เราจะจัดการกับแกก่อนแล้วค่อยจัดการกับเจ้าเด็กใหม่นั่นเอง ”
                   
                      เด็กชายนักประกาศถึงกับรีบกล่าวขึ้นมาอย่างแปลกใจ
                    “ โอ้ว  ท่านผู้ชมครับในที่สุดปราณกระบี่ของดีว่ากำลังสำแดงฤทธิ์เดชออกมาให้พวกเราเห็นกันแล้วละครับ  ไม่น่าเชื่อว่าการตวัดกระบี่เพียงครั้งเดียวก็สามารถทำให้จีดาบคลั่งเสียการทรงตัวไปได้เชียวละครับ  หรือว่างานนี้จีดาบคลั่งจะต้องผ่ายแพ้ให้แก่ดีว่ากันแน่  ”                 
                      จีดาบคลั่งหันกลับไปโจมตีดีว่าอีกครั้ง  วิชาเพลงดาบกับเพลงกระบี่ของจีดาบคลั่งและดีว่าต่างกันราวฟ้ากับดิน      คนหนึ่งลงมืออย่างรวดเร็ว ดุดัน อำมหิต    ถึงกับไม่สนว่า ตัวเองจะโดนโมตีกลับมาหรือไม่    ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นกลับสงบเยือกเย็น    แต่ภายใต้ความเยือกเย็นนั้น  กระบวนท่าของกระบี่กลับมีการพลิกแพลงอย่างยิ่ง
                    “ ตายเสียเถิด กระบวนท่า  ดาบคลั่งสังหาร !!! ”     
                    จีดาบคลั่งตะโกนออกมาอย่างบ้าดีเดือด  ทันใดนั้นเองท่าทางการโมตีของจีดาบคลั่งก็เปลี่ยนไป  เหมือนกับการโมตีที่ไม่มีจุดหมายราวกับคนเสียสติ  แต่กลับรวดเร็วอย่างยิ่ง   
                    ดาบถูกตวัดไปมา บางทีก็ลงไปข้างล่างบ้าง  บางทีก็ขึ้นข้างบนบ้าง แต่ทว่าถึงอย่างนั้นก็ตามดีว่าก็สามารถรับการโมตีทั้งหมดไว้ได้ราวกับอ่านทางของจีดาบคลั่งออก 
                    ประกายกระบี่ตวัดวูบขึ้น  ดาบของจีดาบคลั่งถึงกับถูกตวัดกระเด็นหลุดของจากมือไปในทันที  พร้อมกันนั้นดีว่าก็ตวัดกระบี่ขึ้นอีกวูบหนึ่ง  กระบี่ซัดเข้าใส่ท้องของจีดาบคลั่งเต็มๆ
                  จีดาบคลั่งถึงกับกระเด็นไปอีกครั้ง  ไม่ใช่เพราะความแรงของกระบี่  แต่กลับเป็นพลังลมปราณที่แฝงรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกับกระบี่นั่นเอง          ไลท์พอต์ยของจีดาบคลั่งถึงกับลบไป 1600 หน่วยเลยทีเดียว  เท่านั้นยังไม่พอจีดาบคลั่งรู้สึกว่าภายในร่างกายบอบช้ำไปทั่วร่าง  คงเป็นเพราะปราณกระบี่ของดีว่านั่นเอง 
                  ขณะนั้นเองเซตก็ตั้งตัวได้พอดีเมื่อเห็นว่าว่าไม่ทันระวังเขาก็ตวัดดาบเข้าใส่ว่าอย่างเร็ว  วาถึงกับหลบไม่ได้  จึงโดนดาบนั้นเข้าไปเต็มๆ  ไลท์พอต์ยของวาลบลงไปอีก  1305 หน่วย  ซึ่งถือว่าเยอะจนเกือบจะใกล้เคียงจากการโจมตีของดีว่าเลยทีเดียว 
                  แต่เมื่อวาถูกโจมตีเข้ามาเขาก็กัดฟันสู้ ตวัดดาบกลับตรงไปยังเซตทันที    ดาบของวานั้นถึงกับฟันตรงไปยังบริเวณก้านคอของเซต  ทำให้ไลท์พอต์ยของเซตลดลงไป 1000 หน่วย  แต่ก็เป็นที่น่าแปลกอย่างยิ่งที่วาโจมตีถูกส่วนสำคัญกลับลดไลท์พอต์ยของเซตไปได้แค่ 1000 หน่วยเท่านั้น    ในขณะที่เซตโจมตีถูกลำตัวกลับทำให้ไลท์พอต์ยของวาลบไปถึง 1305 หน่วยเลยทีเดียว      ท่าทางจะต้องมีอะไรผิดพลาดเสียแล้วงานนี้ 
                  แต่วาก็ไม่สู้จะใส่ใจกับเรื่องนี้นัก  เขารีบถอยหลังออกห่างจากเซตทันทีโดยไม่คิดที่จะโจมตีซ้ำ  เนื่องจากเกรงว่าจะถูกโมตีกลับ    แต่เซตก็ไม่ได้โจมตีกลับมาอย่างที่เขาคิดไว้      เนื่องจากการโจมตีของวานั้นถึงกับทำให้เซตรู้สึกมึนงงเป็นอย่างมากถึงกับแทบจะยืนยังไม่ไหวเลยทีเดียว 
             
                  ขณะเดียวกันนั้นเองทางด้านดีว่ากับจีดาบคลั่ง    เมื่อดาบของจีดาบคลั่งถูกตวัดกระเด็นออกไปแล้ว  ดีว่าถึงกับยืนอยู่เฉยๆ โดยไม่ได้ลงมือซ้ำ      ดีว่ายืนอยู่อย่างสง่าพร้อมกับมองไปยังจีดาบคลั่งที่กำลังค่อยๆ พยุงตัวขึ้นมา
                  “ ถ้าคิดว่ายังสู้ไหวละก็  ลุกขึ้นแล้วก็หยิบอาวุธที่คุณมั่นใจนักหนามาล้มผมให้ได้อย่างที่พูดสิครับ ”
                  “ ฮ่าๆ ”
                  จดาบคลั่งถึงกับหัวเราะออกได้ ?  ทั้งๆ ที่ถูกปราณกระบี่อัดเข้าไปเต็มๆ    ทั้งๆ ที่ร่างกายก็บอบช้ำปานนั้น ?
                  “ ชิ ที่แท้ปราณกระบี่ของแกมันก็เท่านี้เองสินะ  ไม่เห็นมันจะรุนแรงอย่างครั้งแรกที่เราเจอกันเลยนะ  อย่างว่าคงเป็นเพราะเราเก่งขึ้นแต่แกกลับยังคงกระจอกเหมือนเดิมสินะ ”
                  “ มันจะไม่เป็นการหลงตัวเองไปหน่อยหรอครับ    ปราณกระบี่ที่ผมใช้ใส่คุณไปเมื่อสักครู่นี้มันแค่ปราณกระบี่ขั้นที่ 1 หรือที่เรียกว่าปราณกระบี่ไร้เงาธรรมดาเท่านั้นเองนะครับ    เพราะผมคิดว่าถ้าคุณโดนปราณกระบี่สิบสองสายเข้าไปแล้วละก็  คุณคงไม่มีโอกาสได้ลุกขึ้นมาอวดตัวเองอีกเป็นแน่  ”
                  จี ดาบคลั่งถึงกับพูดไม่ออก  นี่แค่ปราณกระบี่ขั้นที่ 1 เองหรือนี่    แค่ขั้นที่ 1 ก็ทำเอาเขาแทบจะยืนไม่ขึ้นอยู่แล้ว  แล้วถ้าขั้นที่ 12 ละเขาจะเป็นอย่างไร        จีดาบคลั่งไม่อยากแม้แต่จะคิดรีบลุกขึ้นในทันทีทำให้เหมือนว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิด     
                  จีดาบคลั่งค่อยๆ หยิบดาบสีดำอำมหิตอันนั้นขึ้นมาพร้อมกับกวัดแกว่งไปมาเป็นกระบวนท่าจากนั้นสายตาของจีกาบคลั่งก็เปลี่ยนไป      เขาจ้องมองดีว่าด้วยสายตาที่ดุดันและน่ากลัวความเดิมราวกับเป็นคนละคนเลยทีเดียว
                “ ชิ ต่อจากนี้เราจะให้โอกาสแก  เราจะต่อให้แกโจมตีเข้ามาสามกระบวนท่า ”
                “ ไม่เคยมีใครต่อให้ผมได้ถึงสามกระบวนท่า  แม้แต่กระบวนท่าเดียวก็ไม่มี  ”
                ดีว่าตอบด้วยความสงบเยือกเย็น  แต่คำพูดของเขานั้นคมราวกระบี่ที่ถืออยู่ก็ปาน
                “ ไม่ลองจะรู้ได้อย่างไร ”
                “ โลกนี้มีเรื่องบ้างเรื่องสู้ไม่ลองจะดีกว่า  เพราะหากใครต่อให้ผมได้ถึงสามกระบวนท่าแล้วละก็  หลังจากจบสามกระบวนท่าแล้วลพก็  คนผู้นั้นเห็นทีไม่น่าจะยังสามารถยืนอยู่ได้อีก ”
                “ ชิ  งั้นก็ต้องเสียใจด้วย    ที่เราไม่ใช่คนอย่างที่แกพูดถึง  และถ้าแกไม่ยอมรับความหวังของเราไว้ละก็        แกจะต้องเสียใจในภายหลังแน่          เพราะหลังจากที่แกใช้สามกระบวนท่าเสร็จแล้วละก็เราจะใช้ท่าไม้ตาย    “ กระบวนท่าดาบมารคลั่ง  “  จัดการแกสะ ”
                  ดีว่าถึงกับนิ่งไปสักพักหนึ่งกับคำพูดของจีดาบคลั่ง      ท่าไม้ตายดาบมารคลั่งของจีดาบคลั่งนั้นถ้าคนที่รู้จักดีละก็จะพบว่าไม่เคยมีใครต้านทานมันได้เลยแม้แต่คนเดียว     
            ดาบมารคลั่งเป็นการรวมพลังทั้งหมดของผู้ใช้เข้ากับดาบให้เป็นหนึ่งเดียว      ความเกรี้ยวกราดและความรุนแรงของกระบวนท่านั้นสูงส่งมาก  เป็นกระบวนท่าที่เหมือนกันการฆ่าคนตัวไปในตัวโดยจะเน้นการโมตีอย่างไม่หยุดยั้งไปเรื่อยๆ ใส่คู่ต่อสู้              ตราบใดที่ยังไม่สามารถล้มคู่ต่อสู้ลงได้กระบวนท่าก็จะไม่สิ้นสุดลง  หรือจนกว่าตัวผู้ใช้จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เองเสียก่อน    แต่ข้อเสียของการใช้กระบวนท่านี้ก็คือ จะเปิดช่องโหว่มากพอสมควรที่จะถูกตู่ต่อสู้โจมตีกลับมาได้    แต่ถึงอย่างใดก็ตามไม่เคยมีใครล้มจีดาบคลั่งกลับไปได้เลย  เมื่อถูกกระบวนท่าดาบมารคลั่งเข้าเป็นต้องพ่ายทุกราย    แม้แต่ตัวของดีว่าเองนั้นก็ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถต้านทานได้เช่นกัน
                ดีว่าถึงกับหัวเราะ
                “  ถ้าอย่างนั้นเห็นทีผมก็คงจะต้องจัดการคุณให้ได้ภายในสามกระบวนท่าใช่ไหมละครับ ”
                “ ถูกต้องแล้ว แต่คนอย่างเราไม่มีทางแพ้แกภายในสามกระบวนท่าแน่นอน ”
                ดีว่าไม่พูดต่อแต่กลับสะบัดกระบี่ขึ้น
                “ กระบวนท่าที่หนึ่ง  กระบี่สูญญากาศ  ”
                ท่ากระบี่สูญญากาศเป็นการฟันกระบี่ออกไปอย่างรวดเร็ว ให้เกิดช่องว่างสูญญากาศไปยังศัตรู  น้อยคนนักที่จะสามารถทำได้เช่นนี้        เนื่องเพราะการออกกระบี่ไปแต่ละครั้งไม่ได้ใช้กำลังเพียงแค่ผลิกข้อมือหรือแค่แขน  แต่เป็นการโคจรลมปราณทั้งร่างกายให้รวมกันเป็นหนึ่งถึงจะสามารถฟันออกไปได้หนึ่งกระบี่                                                                                         
                การตวัดกระบี่อย่างรวดเร็วของดีว่านั้นทำให้อากาศบริเวณรอบๆ อัดตัวรวมกันจนเกิดเป็นสูญญากาศวิ่งตรงเข้าไปยังจีดาบคลั่ง      แต่จีดาบคลั่งกลับไม่ได้เกรงกลัวต่อกระบี่สูญญากาศของดีว่าเลยแม้แต่น้อยกลับยืนยิ้มอย่างเหิมเกริมรอรับการโมตีอย่างมั่นใจ        กระบี่สูญญากาศพุ่งตรงไปอย่างรวดเร็วจนในที่สุดมันห่างจากจีดาบคลั่งเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น     
                                                  __________________________________
               
         
             
                 
                 
                 
             
     
             
 
                 
                 
   
               
                   
                 
           
               
     
                     
                       
                     
                     
       
                 
           
               
             
 
               
   
             
       
   
                คนทั้งห้องหันมองตรงไปยัง จีดาบคลั่งเป็นสายตาเดียว    จากนั้นเสียงพึมพาก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง  คงจะเป็นเพราะการโอ้อวดของเขานั่นเอง 
                    นักเรียนชายตัวอ้วนที่วาเห็นนั้นถึงกับจ้องหน้าจีดาบคลั่งแบบตาไม่กระพริบเลยทีเดียว      ซาโต้เลื่อนแว่นขึ้นมาพร้อมกับแย้มยิ้ม      ส่วนโซเฟียนั้นยิ้มให้จีอย่างท้าทาย   
                    “ มันจะไม่เป็นการดูถูกกันไปหน่อยเรอะนาย ”        เด็กชายร่างสูงคนหนึ่งทางฝั่งอับดุลอินเตอร์ตะโกนออกมาด้วยความโมโห
                    “ ใช่แล้ว ที่จริงคนปากดีอย่างนาย    แค่เราคนเดียวก็น่าจะเกินพอแล้วละมั้ง ”    เด็กชายอีกคนหนึ่งพูดเสริมมา    พร้อมกับทำท่าควงมีดสั้นที่อยู่ในมือ
                  “ ชิ เดี๋ยวก็จะได้รู้กันว่า พวกกระจอกน่ะมันไม่มีสิทธิ์จะมาสั่งสอนคนที่เหนือกว่า ”          จี ดาบคลั่งพูดเย้ยหยั่น        และก่อนที่ใครจะพูดอะไรจ่อ เด็กชายอ้วนแว่นก็รีบพูดแทรกมาทันที
                  “ ใจเย็นไว้ก่อนครับทุกคน  ในเมื่อเขาคิดว่าเขาสามารถเอาชนะเราทั้งสามคนได้ละก็  ลองให้เขาพิสูจน์ดูเองดีกว่านะ ”
                จี ถึงกับจ้องตรงไปยังเด็กชายอ้วนแว่นเลยทีเดียว    สายตาของจีนั้นดูช่างน่ากลัวและช่างดูถูกเหยียดหยามเอาเสียจริงๆ  แต่เด็กชายอ้วนแว่นก็หาได้สนใจไม่     
                “ น่าหมั่นไส้จริงๆ เลยนะค่ะคนแบบนี้ ”        โซเฟียกระซิบพูดกับซาโต้
                ซาโต้ค่อยๆ กล่าวอย่างใจเย็นว่า
                “ มันก็จริง  แต่ปล่อยเขาไปเหอะ  รอบของพวกเรามันเสร็จไปแล้ว  ปล่อยให้สามคนนั้นเขาจัดการก็แล้วกัน  คงจะไม่เกินความสามารถของสามคนนั้นหรอก ”   
                สิ้นประโยคของซาโต้เด็กชายนักประกาศก็รีบกล่าวต่ออย่างตื่นเต้นทันที
                “ โอ้ววววว !!!  มันยังไงกันครับนี่ท่านผู้ชม  รู้สึกว่าการประลองรอบที่ 3 นี้ท่าทางจะไม่ธรรมดาเสียแล้วละครับ ”
              ทันทีที่เด็กชายนักประกาศกล่าวจบ จีดาบคลั่งก็กระโดดขึ้นมาบนเวทีทันที    ไม่มีใครทราบว่าเขาใส่ชุดเกราะเสร็จตั้งแต่เมื่อไหร่    รู้เพียงแต่ว่าคนที่สามารถกระโดดระยะไกลขึ้นมาบนเวทีขนาดนี้ต้องมีฝีมือไม่ธรรมดาเป็นแน่แท้                 
                จีดาบคลั่งเดินเข้าไปที่เด็กชายนักประกาศพร้อมกับแย่งไมค์ออกมาจากมือทันที     
                “ ตอนนี้เราขึ้นมารอแล้ว  เมื่อไหร่พวกแกจะรีบขึ้นมาละ  หรือว่ากลัวจนไม่กล้าขึ้นมากันแน่ ”
                “ สงสัยต้องทำให้มันได้รู้สักหน่อยแล้ว ”      เด็กชายที่ถือมีดสั้นกล่าว  พร้อมกับใส่ชุดเกราะป้องกันจากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีลานประลอง
                เมื่อ จี ดาบคลั่งเห็นดังนั้นก็กล่าวต่อ
              “ ชิ  ขึ้นมาเพียงแค่คนเดียวคิดว่าจะสู้เราได้งั้นรึ ”
              “ อย่าทำเป็นปากดีไปหน่อยเลย  เดี๋ยวนายก็จะปากดีไม่ได้แล้วละ ”
              “ ชิ ”
            จี ดาบคลั่งโยนไมค์ออกไปจากมือของเขา  ซึ่งเด็กชายนักประกาศถึงกับเกือบรับไว้ไม่ทัน    เมื่อได้ไมค์คืนมาแล้วเด็กชายก็กล่าวต่อ
              “ ในที่สุดการประลองคู่ที่ 3 ก็กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วละครับ          ระหว่าง จี ดาบคลั่งฝั่งโรงเรียนเกบรียลผู้ที่บอกว่าสามารถล้มทั้งสามคนที่เหลือได้อย่างสบาย กับ น้อยส์ ผู้ใช้มีดสั้นเป็นอาวุธ ฟังว่าวิชามีดสั้นของเขานั้นสามารถล้มคู่ต่อสู้ได้ภายในมีดเดียวเชยวละครับ      ใครจะเป็นผู้ชนะการประลองรอบนี้กันแน่นะครับ ”
              “ ชิ  เริ่มเสียทีพูดอยู่ได้ ”
              จี ดาบคลั่งพูดพร้อมกับชักดาบออกมาจากฝัก  เด็กชายนักประกาศรู้สึกไม่ชอบจีเลยจึงรีบประกาศอกไป  ในใจเขาหวังว่าจีดาบคลั่งคงจะต้องถูกเล่นงานจนแพ้ย่อยยับแน่  และเมื่อถึงเวลานั้นเขาจะพูดซ้ำเติมให้เต็มทีเลยทีเดียว
              “ เอาละครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา    ขอเริ่มการประลองคู่ที่ 3 ได้เลย ณ บัดนี้ครับ ! ”
              น้อยส์เมื่อเห็นจีดาบคลั่งชักดาบเตรียมพร้อมแล้ว  เขาก็เริ่มควงมีดสั้นเล่มเล็กของเขาอย่างคล่องแคล่ว  พร้อมกับกล่าว
         
                “ เข้ามาเลย  เจ้าปากดี  แล้วนายจะได้รู้ว่านายเองกระจอกแค่ไหน ”
                “ ชิ พวกกระจอกไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี ”
                พูดจบจีดาบคลั่งก็พุ่งตัวตรงเข้าไปหาน้อยส์ในทันที      ดาบของจีนั้นเป็นดาบสีดำสนิทดูแล้วดุดันอำมหิตเสียจริงๆ        น้อยส์เมื่อเห็นจีดาบคลั่งพุ่งตัวเข้ามาก็ควงมีดต่อเ  และเตรียมพร้อมที่จะโจมตีกลับในทันทีที่จี ดาบคลั่งลงมือ     
                เมื่อจีดาบคลั่งเข้าใกล้น้อยส์ในระยะลงมือแล้ว  เขาก็ตวัดดาบของเขาออกไปในทันที  ความเร็วระดับนี้น้อยคนนักที่จะหลบพ้นได้ 
            วาถึงกับไม่อยากมอง  เขาคิดว่าน้อยส์คงจะต้องถูกฟันลงที่คอเป็นแน่        แต่ในพริบตาเดียวกันนั้นเอง ไม่น่าเชื่อว่าน้อยส์จะสามารถรับการโจมตีของจีดาบคลั่งได้       
       
                ดาบของจีถึงกับถูกรับได้ด้วยมีดสั้นที่ยาวเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้นเอง        ถ้าไม่ใช่ผู้ที่มีสติมั่นคงและได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีแล้วละก็  คงจะไม่สามารถรับการโจมตีที่เร็วขนาดนี้ได้แน่นอน
     
                ไม่รอให้จีดาบคลั่งลงมือต่อน้อยส์ถีบไปที่ท้องของจีเต็มๆ    ทำให้จีดาบคลั่งกระเด็นออกไป  แต่ก็ไม่ถึงกับล้ม    ไลท์พอต์ยของจีดาบคลั่งถึงกับลบไป  60 หน่วย        พร้อมกับเสียงปรบมือของนักเรียนทั้งห้อง
                น้อยส์ยิ้มพร้อมกับกล่าว
              “ ที่คุยโวมาที่แท้ก็เท่านั้น  คนที่กระจอกแถมยังปากดีน่ะ มันก็คือ นายเองนั่นแหละจำไว้ด้วย ”
                น้อยส์ค่อยๆ  เดินเข้าไปใกล้จีดาบคลั่งที่ล้มลงอยู่  พร้อมกับเตรียมลงมือต่อชนิดที่เรียกว่าไม่ยอมให้จีดาบคลั่งลุกขึ้นมาได้เลยทีเดียว
                “ ลาก่อนนะ คนปากดี ”
                  แต่ขณะที่น้อยส์กำลังจะก้มลงแทงจีนั้น    ดสบสีดำสนิทก็แทงตรงเข้าไปที่คอหอยของน้อยส์เสียแล้ว  ไลท์พอต์ยของน้อยส์ถึงกับหมดไปเลยในการโจมตีทีเดียว 
                  จี ดาบคลั่งสามารถลงมือได้แม้กระทั่งนอนอยู่กับพื้น    ไม่มีใครคิดว่าเขาจะสามารถสปริงตัวขึ้นมาได้ด้วยความเร็วระดับนี้    การโจมตีก็รวดเร็วและอำมหิตเสียจริงๆ 
                  มดที่ถูกกำอยู่ในมือของน้อยส์นั้นถึงกับกระเด็นออกไปตกลงสู่พื้น    เนื่องเพราะถูกดาบของจีดาบคลั่งฟันนั่นเอง          จียังไม่หยุดลงมือ  เขายังคงโจมตีน้อยส์ต่ออย่างไม่หยุดยั้ง    กระบวนท่าของจีนั้นรวดเร็วและอำมหิต  ดูแล้วช่างบ้าคลั่งเสียจริงๆ         
                    ไลท์พอต์ยของน้อยส์ถึงกับค่อยๆ ติดลบลงไปเรื่อยๆ      จีหัวเราะอย่างบ้าคลั่งในขณะที่ลงมือต่ออย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลงเมื่อไร        นักเรียนในห้องหลายคนรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก  บางคนถึงกับตะโกนด่าเลยทีเดียว 
                  ดีว่าขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด  ดูแล้วเคร่งเครียดขึ้นมากเลยทีเดียว  ไม่บอกก็รู้ว่าเขาไม่ชอบการกระทำของจีดาบคลั่งแค่ไหน    วาเองก็เหมือนกันเขาคิดว่าถ้าเขาลุกขึ้นไปสู้ได้ตอนนี้แล้วละก็  เขาอยากจะตะบันหน้าไอ้หมอนั่นสักครั้ง
                  “ ฮ่าๆ  ไอ้พวกกระจอกบอกแล้วว่าอย่ามาทำเป็นสั่งสอน  ”          จีดาบคลั่งพูดอย่างบ้าคลั่งในขณะที่ลงมืออย่างไม่หยุดยั้ง  และทันใดนั้นเอง
                  “ พอได้แล้ว  นายบ้าไปแล้วหรอ ”     
                  เด็กชายอ้วนแว่นตะโกนจากนั้นวิ่งขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับเด็กชายร่างสูงอีกคนหนึ่ง    จีดาบคลั่งเมื่อเห็นดังนั้นก็หยุดลงมือพร้อมกับถีบน้อยส์กระเด็นออกไป      น้อยส์ถึงกับลงไปนอนหมอบในทันที
                  “ ดีๆ เข้ามาเลยไอ้พวกกระจอก ”
                  เด็กชายนักประกาศเมื่อเห็นดังนั้นก็เริ่มประกาศต่อทันที
                  “ เอาละครับ งานนี้จีดาบคลั่งไม่รอดแน่นอน  เพราะคู่ต่อสู้ของเขามีถึงสองคนแถมทั้งสองคนนี้ยังไม่ใช่คนที่มีฝีมือธรรมดาอีกด้วยละครับ    คนที่ถือขวานขนาดใหญ่อยู่นั้นก็ คือ ขวานยักษ์กิม    และส่วนอีกคนก็คือ แม็กดาบายวนั่นเองละครับ ”
       
       
                    แม็กละกิมวิ่งตรงไปยังจีดาบคลั่งอย่างรวดเร็ว  ไม่น่าเชื่อว่าแม้กิมที่ตัวอ้วนขนาดนั้นจะสามารถวิ่งได้รวดเร็วปานนี้          จีดาบคลั่งเมื่อเห็นดังนั้นก็ตั้งท่าเตรียมรับการโจมตีของทั้งคู่ 
                  แม็กเป็นฝ่ายลงมือก่อนเขาตวัดดาบหมายจะแทงตรงไปยังบริเวณท้องของจีดาบคลั่งแต่ทว่า    ดาบของเขาก็ถูกตวัดหลุดออกมาจากมืออย่างง่ายดายด้วยการตวัดดาบเพียงครั้งเดียวของจีดาบคลั่ง
 
                    “ ชิ เจ้าพวกกระจอก    กระบวนท่าที่หนึ่ง  ดาบคลั่งสังหาร !!!! ”
                 
                    จี ดาบคลั่งลงมืออย่างรวดเร็วมาก  กระบวนท่ารุนแรงและบ้าคลั่ง  เรียกได้ว่า  ใครโดนกระบวนท่านี้ไปแล้วละก็แทบจะไม่มีโอกาสได้หายใจเลยทีเดียว   
                    การตวัดดาบของจี แต่ละคลั่งล้วนรวดเร็วยิ่ง  ราวกับว่าเขาสามารถโจมตีคู่ต่อสู้ 2 ครั้งภายในการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียวเลยก็ว่าได้      ไลท์พอต์ยของแม็กค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ  จนในที่สุดเมื่อจีดาบคลั่งตวัดดาบสุดท้าย ฟันผ่าไปกลางลำตัวของแม็ก        ไลท์พอต์ยของแม็กถึงกับกลายเป็น 0 หน่วยเลยทีเดียว
                      ไม่น่าเชื่อว่าการลงมือเพียงไม่กี่วินาทีของจีดาบคลั่งจะสามารถเอาชนะแม็กที่ถือว่ามีฝีมือไม่น้อยเลยได้ง่ายๆ        แม็กล้มลงไปกับพื้นราวกับคนสูญเสียสติ                    กิมยังไม่ทันที่จะวิ่งเข้าไปถึงจีดาบคลั่งเมื่อเห็นกระบวนท่าอันโหดเหี้ยมอำมหิตนั้นถึงกับต้องหยุดตัวเองไม่ให้เดินเข้าไปภายในทันที 
                      เมื่อแม็กล้มลงไปกับพื้น ตอนนี้ก็เหลือเพียงจีดาบคลั่งกับกิมขวานยักษ์เท่านั้น    กิมกำขวานเล่มใหญ่ของเขาไว้อย่างแน่น    เขารู้สึกว่าเหงื่อเริ่มไหลออกมามาก ทั้งๆ ที่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรเลย  หรือนี่จะเรียกได้ว่าความกลัว ?   
                      จีดาบคลั่งยิ้มอย่างเหยียดหยามพร้อมกับค่อยๆ เดินเข้าไปหากิมอย่างช้าๆ    ในขณะที่จีดาบคลั่งกำลังเดินเข้าไปหา      กิมก็ค่อยๆ เดินถอยหลังไปเรื่อยๆ 
                      วาถึงกับไม่เชื่อสายตาของตัวเอง  ไม่อยากจะเชื่อว่า จี ดาบคลั่งจะสามารถล้มคู่ต่อสู้สองคนแรกได้ง่ายดายเพียงนี้      และเขาก็ไม่คิดว่ากิมจะสามารถเอาชนะจีดาบคลั่งได้เลย  ซึ่งทั้งโซเฟียและซาโต้หรือแม้แต่นักเรียนทั้งห้องก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน 
                      กิมเริ่มตั้งสติได้ และเลิกเดินถอยหลังอีกต่อไป    เขากำขวานแน่นเตรียมพร้อมโจมตีจีดาบคลั่ง  และแล้วจีดาบคลั่งก็เดินเข้ามาจนถึงระยะที่จะโจมตีได้แล้ว        เขาตวัดดาบสีดำสนิทของเขาออกไปแต่มันก็ถูกรับได้โดยกขวานยักษ์ของกิม      ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะสามารถใช้ขวานยักษ์ที่มีน้ำหนักมากขนาดนั้นมารับการโมตีของจีดาบคลั่งได้รวดเร็วปานนี้   
     
                    เมื่อการโมตีถูกรับได้ จีดาบคลั่งก็รีบตวัดดาบกลับพร้อมกับโจมตีอีกครั้ง    คราวนี้เขาลงมือเร็วกว่าเดิมแต่กิมก็ยังคงป้องกันเอาไว้ได้        จีดาบคลั่งเริ่มโจมตีอย่างต่อเนื่องซึ่งก้เป็นที่น่าแปลกที่กิมยังคงสามารถรับการโมตีของจีดาบคบลั่งไว้ได้ทั้งหมด     
                      นักเรียนทั้งห้องถึงกับเงียบ และใจจดใจจ่อกับการประลองคู่นี้เป็นอย่างมาก    บางคนถึงกับจ้องิดูอย่างไม่กระพริบตาเลยทีเดียว     
                      “ โอ้ว ท่านผู้ชมครับ  ไม่น่าเชื่อว่าการโจมตีของจีดาบคลั่งจะถูกกิมขวานยักษ์ป้องกันได้หมดเลยละครับ  สมแล้วที่เขาว่ากันว่า  ขวานยักษ์ของกิมนั้นมีพลังป้องกันที่มั่นคงดุจขุนเขา    ขวานเล่มนั้นทำมาจากเหล็กที่เบาเป็นพิเศษ  ถึงแม้จะดูใหญ่โตแต่น้ำหนักก็ไม่ได้หนักมากอย่างที่คิด  แถมลักษณะขวานที่ใหญ่เป็นพิเศษจึงทำให้สามารับการโจมตีได้ดีไม่แพ้โล่เลยทีเดียวละครับ  ”
                  เด็กชายนักประกาศกล่าวด้วยเสียงที่มีความหวัง  เขาคิดว่ากิมจะต้องไม่แพ้จีดาบคลั่งอย่างง่ายๆ แน่นอน      ส่วนจีดาบคลั่งนั้นก็ยังคงโจมตีต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง และทุกครั้งที่ลงมือก็จะเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ กระบวนท่าก็ดุดันอำมหิตยิ่งนัก  แต่กิมก็ยังคงรับการโจมตีได้หมดอยู่ดี 
                 
                    เสียงดาบกระทบกับขวานดัง “  เปร็ง !!! ”  ไปทั่วห้อง  กิมกล่าวขณะที่กำลังใช้ขวานกันดาบของจีที่กดลงมาอย่างหนักหน่วง
                  “ การโจมตีของนายไม่มีผลอะไรเลยแม้แต่น้อย  เมื่อมาอยู่ต่อหน้าขวานยักษ์ของเรา ”
                  “ ชิ ขวานยักษ์โสโครกของแกไม่คู่ควรจะมาเทียบกับดาบคลั่งของเราหรอก ”
                  “ เดี๋ยวก็จะรู้ว่าขวานของเราหรือดาบของนายกันแน่ที่จะเทียบกันไม่ได้ ”
                  กล่าวจบกิมก็รวบรวมกำลังดันดาบของจีดาบคลั่งออกไปได้    จากนั้นก็ถือขวานด้วยมือเพียงข้างเดียวพร้อมกับตั้งท่า  ท่าทางกิมคงจะเอาจริงแล้ว
                  “ แพ้เสียเถิด  ท่าไม้ตาย ขวานถลายภูผา !!!  ”
                  พร้อมกันนั้นกิมก็กระโดดขึ้นไปพร้อมกับหมุนตัว  ขวานถูกตวัดหมุนตามอย่างรวดเร็วมันพุ่งตรงไปยังจีดาบคลั่งอย่างทรงพลัง      ถ้าใครได้เห็นการโจมตีอันทรงพลัง มั่นคง และรวดเร็วของกิมขวานยักษ์แล้วละก็  เชื่อว่า 99.99 %  ต้องไม่เชื่อว่าจะมีใครสามารถหลบการโจมตีนี้ไปได้เลย  เว้นแต่คนๆ นั้นจะเป็นพระเจ้า
                  ขวานห่างจากจี ดาบคลั่งเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้นในตอนนี้  แต่ในพริบตาเดียวกันนั้นเอง  ไม่น่าเชื่อว่าดาบของจี ดาบคลั่งจะสามารถตวัดของออกมา 
                  จีดาบคลั่งไม่ได้หลบการโจมตีของกิมเลยแม้แต่น้อย  และก็ไม่ได้โจมตีไปที่กิมด้วย  เพราะถ้าเขาหลบได้ละก็คงจะไม่ใช่คนเป็นอย่างแน่    แต่สิ่งที่จีดาบคลั่งทำลงไปนั้นยิ่งน่าตกใจยิ่งกว่าการหลบการโจมตีอันนั้นได้เสียอีก   
                  ประกายดาบสีดำวูบขึ้นในเวลาเพียงไม่ถึงเสี้ยววินาที  การลงมือของจี ดาบคลั่งรวดเร็วอย่างยิ่ง และทันใดนั้นเองเมื่อดาบสีดำนั้นกระทบเข้ากับขวานยักษ์ของกิม      เสียง “ เผล็ง !!!  ”  ก็ดังลั่นห้องทั้งห้อง   
                  ขวานยักษ์ที่แข็งแกร่งปานภูผา  ถูกดาบของจีดาบคลั่งฟันหักของเป็นสองส่วน    แต่จีดาบคลั่งก็ไม่ได้หยุดการโมตีเพียงแค่นั้นเขาตวัดดาบด้วยความรวดเร็วราวกับว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นแทงตรงไปยังบริเวณคอหอยของกิมอย่างรวดเร็ว   
                  กิมค่อยๆ หงายหลังล้มลงไปกับพื้น ทั้งๆที่ยังคงกำวานยักษ์ที่แตกสลายไปแล้วไว้แน่น  ไลท์พอต์ยของกิมถูกลบลงเหลือ 0 หน่วยเหมือนทั้งสองคนแรก          นักเรียนทั้งห้องถึงกับไม่เชื่อสายตา  การลงมือที่รวดเร็ว รุนแรง และบ้าคลั่งนี้ไม่ใช่เรียกว่า พระเจ้า  แต่มันเหมือนดั่งการโจมตีของ ปีศาจร้าย !     
                  “ มะ มะ ไม่น่าเชื่อเลยครับ  ขวานยักษ์ที่ทำจากเหล็กอย่างดีชนิดพิเศษของกิมถูกดาบเล่มสีดำของจีดาบคลั่งฟันตกออกเป็นเสี่ยงๆ    และก็เช่นกันครับผู้ที่ชนะการประลองคู่ที่ 3 ได้แก่จีดาบคลั่งนั่นเองละครับ ”
                  เด็กชายนักประกาศกล่าวอย่างไม่เชื่อสายตาของตัวเอง  ห้องทั้งสองตกอยู่ในความเงียบไม่มีแม้แต่เสียงปรบมือแสดงความยินดีแม้แต่น้อย            แม็ก น้อยส์ และกิมค่อยๆ ถูกด็กนักเรียนสองสามคนเข้ามาช่วยกันพยุงออกไปจากเวทีด้วยความยากลำบาก 
                    ส่วนจี ดาบคลั่งนั้นยังคงยืนอยู่บนเวทีอย่างไม่กลัวเกรงใคร  พร้อมกับกวาดสายตาไปยังนักเรียนที่นั่งอยู่เรื่อยๆ  จนในที่สุดสายตาก็หยุดนิ่งจับจ้องตรงมายังที่วานั่งอยู่นั่นเอง    วาถึงกับสะดุ้งตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่กระวนกระวายสักเท่าไหร่           
                    ทว่าสายตาของจีดาบคลั่งถึงแม้จะจ้องตรงไปยังที่ของวา  แต่ก็ไม่ได้ประสานสายตากับวาโดยตรง  คนที่จีดาบคลั่งกำลังประสานสายตาอยู่นั้นกลับเป็นดีว่าซึ่งนั่งอยุ่ข้างๆ วานั่นเอง
                    นักเรียนหลายคนเริ่มมองตามจีดาบคลั่งไป  จนทำให้นักเรียนเกือบจะทั้งห้องมองตรงไปยังบริเวณที่วานั่งอยู่นั่นเอง  แม้แต่โซเฟียเองก็มองตามไปด้วยและเธอก็รู้ว่าคนที่ถูกชี้อยู่นั้นเป็น ดีว่าหรือไม่ก็วานั่นเอง            ส่วนดีว่านั้นก็จ้องกลับไปที่จีดาบคลั่งเหมือนกัน  ท่าทางของดีว่านั้นไม่ได้ตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย   
                    ทั้งสองคนจ้องกันอยู่สักพักหนึ่ง  ในที่สุดจีดาบคลั่งก็ตะโกนออกไปว่า   
                    “ ในที่นี้มีใครอยากจะมาประลองกับเราก็เชิญได้เลย  จะเข้ามาสักกี่คนก็ได้  ถ้าคิดว่พวกแกล้มเราได้ละก็นะ  หรือโดยเฉพาะแกและคนที่นั่งข้างๆ แก !!! ”       
                    พร้อมกันนั้นจีดาบคลั่งก็ชี้ดาบตรงไปยังดีว่า และแน่นอนคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ดีว่าถ้าไม่ใช่ซาซาไรก็ย่อมต้องเป็นวานั่นเอง  ซึ่งดูเหมือนว่าคนนั่งข้างๆ ที่จีดาบคลั่งหมายความถึง น่าจะเป็นวาเสียมากกว่า
                    เสียงของนักเรียนในห้องเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง    ส่วนใหญ่เป็นเสียงที่เกิดจากการซุบซิบว่า จีดาบคลั่งเสียมากกว่า      แต่ก็เป็นที่น่าแปลกที่นักเรียนบางคนที่นำอาวุธประจำตัวมาด้วยก็ไม่กล้าลุกขึ้นยืนเลยแม้แต่คนเดียว   
                  โซเฟียนั้นทำท่าจะเดินขึ้นไปบนเวที  แต่ก็ถูกซาโต้ห้ามเอาไว้ก่อน
                  “ ห้ามหนูทำละค่ะรุ่นพี่ คนแบบนี้ถ้าไม่สั่งสอนให้รู้สำนึกคงจะไม่ได้แล้วละค่ะ ”
                  “ ใจเย็นไว้ก่อนน่า  ถึงแม้จะเป็นเธอก็ไม่แน่ว่าจะสามารถเอาชนะเจ้าหมอนั่นได้นะ ”
                  “ ไม่มีทางหรอกค่ะ  หนูต้องเอาชนะเจ้านั่นได้แน่นอน ”
                  “ พี่ก็เชื่อนะว่าเธอต้องสู้เจ้านั่นชนะ  เพียงแต่ว่าอาวุธของเจ้านั่นร้ายกาจมาก  ไม่แน่ว่าดาบเพลิงอัคคีของเธออาจจะต้องถูกฟันหักออกเป็นชิ้นๆ เลยก็ได้นะ    และที่สำคัญอีกอย่างนึงเลย  ตอนนี้เจ้านั่นอยู่ในสภาพวอร์มอัพเต็มร้อยแล้ว            ฉายาจีดาบคลั่ง ของเจ้านั่นไม่ใช่ได้มาเพราะการลงมือที่มั่นคงและรุนแรงหรอกนะ  แต่เป็นเพราะการลงมือย่างบ้าคลั่งไม่คิดชีวิตของเจ้านั่นต่างหาก    เมื่อใดที่เพลงดาบของมันคลั่งจนถึงจุดๆ หนึ่งแล้วละก็    ยากที่จะหาผู้ใดต้านทานได้เลย ”
                เมื่อโซเฟียได้ยินคำพูดของซาโต้แล้วจึงหยุดคิดดูสักพักแต่ก็กล่าวต่อ
                “ แล้วอย่างนี้เราจะต้องทำยังไงกันละค่ะ ”
                “ พี่เชื่อว่า ไม่ต้องถึงมือของพวกเราหรอก    แค่สองคนที่อยู่บนนั้นก็น่าจะพอรับมือได้อยู่แล้ว ”
                สองคนที่ซาโต้ว่าหมายถึงใครกันแน่      ใช่แล้วย่อมไม่ใช่ใครอื่นใด    วาและดีว่านั่นเองซึ่งโซเฟียก็รู้ได้ทันทีจากสายตาของซาโต้ที่มองตรงไปยังดีว่าและวา   
     
                  “ การประลองระหว่างสถาบันในวันนี้สิ้นสุดลงแล้วนะครับ  ต่อไปก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถลงมาประลองฝีมือกันได้ตามสบายเลยนะครับ ”
                เด็กชายนักประกาศกล่าวออกมาในขณะที่คนทั้งห้องยังคงจ้องมองไปมาระหว่างดีว่าและจีดาบคลั่ง
                  ดีว่าค่อยๆ กล่าวเบาๆ กับวา
                  “ คนแบบนี้น่าสั่งสอนไหมครับ  คุณวา ”
                  “ ก็น่าอยู่หรอกนะ  เพียงแต่ว่าเราคงไม่ได้เป็นคนที่จะไปสั่งสอนเขาแน่อะ  เพราะขนาดคนเก่งๆ ตั้งสามคนยังแพ้เลย    แล้วจะเอาอะไรกับเรา  อาวุธของเราก็ยังไม่มีเลย ”
                  วา ตอบอย่างสิ้นหวัง  แต่ดีว่ากลับแย้มยิ้มอย่างน่าประหลาด
                  “ เมื่อสักครู่นี้เขาอุส่าห์เชื้อเชิญเราสองคนแล้วนะครับ  เราสองคนน่าจะลงไปให้เป็นเกรียติแก่เขาหน่อยนะครับ    และผมก็อยากจะทำให้เขาได้รู้ว่า  คนอย่างเขานั้นไม่ได้เก่งไปกว่าใครเลย ”
                  กล่าวจบวายังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ  ดีว่าก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับจับมือวาให้ลุกขึ้นตาม    ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรวากลับยืนขึ้นตามดีว่าอย่างง่ายดาย  ทั้งๆ ที่ใจจริงเขาไม่ได้อยากจะยืนขึ้นเลยแม้แต่น้อย
                  “ ไปกันเถอะครับ ” 
                  ดีว่าพูดพร้อมกับจูงมือวาเดินลงไปยังด้านล่าง  แต่ก่อนที่วาและดีว่าจะเดินลงไปนั้น  ซาซาไรก็ยิ้มพร้อมกับชูสองนิ้วให้กับทั้งสองคน
                  “ สู้ให้เต็มที่อย่าให้เสียชื่อโรงเรียนนะครับ ”
                  “ ครับมาสเตอร์ ”   
                ดีว่าตอบกลับอย่างมั่นใจ      ส่วนวาเมื่อเห็นดีว่าตอบก็ตอบกลับไปอย่างไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่
                  “ คะ ครับ ” 
                จี ดาบคลั่งยิ้มอย่างมีเลศนัย  สายตาจับจ้องไปยังดีว่าและวาอย่างจดจ่อ        ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังเดินลงมาขางล่างนั้น  ก็มีเด็กผู้หญิงท่าทางหน้าตาดีคนหนึ่งยืนขึ้นมาจากแถวข้างขวาสุดที่ติดกับทางเดิน 
 
                “ เดี๋ยวก่อนค่ะ ทั้งสองคน ! ”   
                ดีว่าและวาหันไปมองยังเด็กผู้หญิงคนนั้นพร้อมกัน    ดีว่าเป็นฝ่ายถามก่อน
                “ มิทราบว่ามีอะไรหรอครับ ”
                “ คือว่า นายสองคนจะไปสู้กับจีดาบคลั่งคนนั้นหรอค่ะ ”
                “ ใช่แล้วละครับ ”
                “ คือ ว่าเรามีเกราะแขนพิเศษที่สามารรับการโมตีได้ดีกว่าของไอร่อนเกราะเหล็ก แล้วเราก็อยากให้นายคนใดคนหนึ่งสวมมันไว้    มันจะช่วยลดการโจมตีได้เป้นอย่างดีเลยทีเดียวละ  ”
              “ ไม่เป็นไรหรอกครับ ขอบคุณมาก  พวกเราไม่จำเป็นต้องใช้มันหรอกครับ ”
              ดีว่ากล่าวอย่างสุภาพ  ในขณะที่กำลังทำท่าจะเดินต่อไป  วาก็เป็นฝ่านกล่าวขึ้น
              “ อย่าเพิ่งไปสิ ดีว่า    เขาอุส่าห์เอาเกราะป้องกันพิเศษมาให้เรา  อย่างน้อยเราก็น่าจะขอยืมมาใช้ก่อนก็ไม่เสียหายนี่ ”
              “ ใช่แล้วค่ะ  รับไว้ก่อนก็ได้  แล้วชนะค่อยเอามาคืนนะค่ะ ”
              เด็กผู้หญิงคนนั้นกล่าวจบก็รีบหยิบเกราะแขนออกมาจากเป้ส่งไปให้วาในทันที    วารู้สึกได้ถึงความหนักของเกราะแขนอันนั้นแต่ก็ไม่ได้สนใจนัก  คงเป็นเพราะคิดว่าเกราะธรรมดาที่เขาจะต้องใส่ก้คงหนักเท่านี้กระมัง 
                “ งั้นเราไปก่อนนะ  ขอบคุณมาก ”
                กล่าวจบวาก็รีบเดินตามดีว่าไปข้างล่าง  ส่วนดีว่านั้นทำท่าทางไม่ไว้ใจเด็กผู้หญิงคนนั้นสักเท่าไหร่นัก  แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากว่าอะไรแต่อย่างใด 
                เมื่อวาและดีว่าเดินลงมาจนถึงข้างล่างแล้ว  ทั้งสองคนก็เดินตรงไปยังฝั่งโรงเรียนอับดุล อินเตอร์ซึ่งมีซาโต้และโซเฟียยืนคอยอยู่แล้ว
     
                  “ ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าคุณเด๋อจะกล้าลงมากับเขาด้วย ”
                  “ นี่ เธอชมหรือว่ากำลังว่าเราอยู่เนี่ย ”
                  “ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน แหะๆ ”           
                  โซเฟียถึงกับเปลี่ยนไปราวกับคนละคน  ที่เมื่อสักครู่ยังต้องการจะขึ้นไปยังเวทีลานประลองอยู่เลย  ส่วนซาโต้นั้นเมื่อเห็นวาถือชุดเกราะแขนลงมาก็ท่าทางสงสัยเล็กน้อย  จึงกำลังจะขอวามาดูแต่จีดาบคลั่งก็ตะโกนเร่งมาว่า
                  “ ชิ ชักช้าเสียจริงๆ  คงจะกลัวมากสิท่า ”
                  ดีว่าไม่ตอบ  วาก็เช่นนั้นแต่ในความรู้สึกของวาในตอนนี้เขาอยากจะล้มหมอนั่นให้ได้เสียจริงๆ    ดีว่าและวาเริ่มสวมชุดเกราะป้องกัน    เป็นที่น่าแปลกที่วายังไม่รู้ว่าจะใช้อะไรไปสู้กับจีดาบคลั่งเลย  แต่ก็ทำการสวมชุดเกราะป้องกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว  โดยวาได้สวมเกราะป้องกันแขนที่เด็กผู้หญิงคนนั้นให้เข้าไปด้วย
                  โซเฟียหันมาพูดกับว่า เมื่อเห็นว่าวาพร้อมแล้ว
                  “ แล้วนี่นายจะเอาอาวุธอะไรไปสู้กับเขาเนี่ย ”
                  “ อาวุธไม่มีหรอก  มีแต่ใจน่ะ ”
                วา ตอบกลับไปอย่างเล่นๆ แต่ก็รีบพูดต่อเมื่อรู้ว่า โซเฟียไม่ขำด้วย
                “ เราก็ยังไม่รู้เลยว่าเราจะเอาอะไรไปสู้ ”
                “ นี่แหละน้า  สมแล้วที่เป็นคุณเด๋อ    งั้นเราให้นายยืมดาบของเราเอาไหม  ”
                โซเฟีย พูดพร้อมกับกำลังจะหยิบดาบของตนออกจากฝัก  แต่วาก็รีบกล่าวขึ้นมาก่อน
              “ ไม่เป็นไรหรอก  เราว่าเราคงจะใช้มันไม่ดีเท่าเธอหรอก  เราขอแค่ดาบธรรมดาๆ เล่มหนึ่งที่เจ้านั่นฟันไม่หักก็พอแล้วละ”
              “ งั้นรอสักครู่นะ ”
              ก่อนที่โซเฟียกำลังจะเดินไปหยิบดาบให้วานั้น เธอก้เหมือนนึกขึ้นได้จึงเอี้ยวตัวไปถามดีว่าด้วย
              “ แล้วนายละ จะเอาอาวุธอะไรไหม ”
              “ ผมขอแค่กระบี่เล่มเดียวก็พอครับ ”
              “ กระบี่หรอ  ไม่ค่อยจะเห็นคนใช้สักเท่าไหร่เลยนะ  นายนี่แปลกดีจัง  นี่นายใช่ดีว่ารึเปล่าละ ”
              “ ใช่แล้วครับ ”
              “ อ๋อ ดีๆ เราว่านายจัดการเจ้าหมอนั่นได้แน่  เดี๋ยวเราไปหยิบอาวุธมาให้พวกนายก่อนนะ ”
              โซเฟีย กล่าวจบก็รีบวิ่งตรงไปยังห้องเล็กๆ ที่อยู่ภายในห้องชมรมโดยทันที    ไม่นานนักเธอก็วิ่งกลับมาพร้อมด้วยกระบี่เล่มไม่ยาวนัก กับดาบที่มีขนาดยาวพอสมควร 
             
                วาและดีว่ารับมันมาพร้อมกับตรวจดูอย่างถี่ถ้วน      วานั้นลองเหวี่ยงดาบไปมาอยู่สองสามทีก็รู้สึกว่ามันหนักผิดกว่าปกติจึงถามโซเฟียไปว่า
                “ ทำไมมันหนักจัง ”
                “ หา นี่น่ะหรอหนักคุณเด๋อ  ท่าทางนายจะไม่ค่อยจะมีแรงแล้วละ  ดาบอันนี้เบาที่สุดเท่าที่เราจะหามาได้แล้วละนะจะบอกให้ “
              วาเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก  เขาคิดว่าที่นี่คงจะมีแต่ดาบหนักๆ เป็นเสียส่วนใหญ่ซึ่งนี่ก็คงจะไม่แปลกอะไรท่าดาบเล่มถ้าดาบที่เขาอถือยู่จะออกหนักไปบ้าง   
     
                “ ในที่สุดก็มีผู้กล้าที่จะมาสู้กับจีดาบคลั่งแล้วละครับ    ทั้งสองคนนี้จะสามารถสู้กับจีดาบคลั่งได้หรือไม่  ผมนี่เดาไม่ออกเลยทีเดียวละครับท่านผู้ชม ! ”
                เด็กชายนักประกาศประกาศด้วยท่าทางคึกคักเหมือนเดิม  แต่ทันใดนั้นเองก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งลุกขึ้นยืนพร้อมกับตะโกนออกมาว่า
                “ อย่างนี้ดูท่าทางจะไม่ค่อยยุติธรรมเลยนะครับ  จะให้คนๆ เดียวสู้กับคนสองคนได้ยังไงผมไม่เห็นด้วย  ถึงแม้จะรู้ๆ กันอยู่ว่าจีดาบคลั่งนั้นเก่งก็ตามที  ผมขอเสนอตัวเป็นคู่กับจีดาบคลั่งเพื่อให้เกิดความยุติธรรมเองครับ ”
                เด็กผู้ชายคนนั้นสะเหยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะค่อยๆ เดินลงมายังบริเวณด้านล่าง      ไม่ต้องบอกวาก็รู้ในทันทีว่า เด็กผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันแน่    ไม่ใช่ใครอื่นใด เขาคือ เด็กผู้ชายคู่อริของวานั่นเอง  “เซต “
              เสียงนักเรียนในห้องเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง  ดูเหมือนว่าจะหมั่นไส้การกระทำของเซตเป็นเสียส่วนใหญ่  แต่ก็ไม่มีใครกล้าตะกนว่าออกไป    ได้แต่นั่งนินทากันอยู่อย่างนั้น    แต่ก็ยังมีนักเรียนผู้หญิงบางกลุ่มส่งเสียงเชียร์ให้กับเซต  ซึ่งเมื่อเซตได้ยินเขาก็หันไปยิ้มให้พร้อมกับโบกมืออย่างน่าหมั่นไส้        คราวนี้วารู้สึกว่าจะประลองขึ้นมาในทันทีเลยทีเดียว   
             
                “ โอ้ว  อะไรกันครับเนี่ย  มีการเพิ่มผู้ประลองขึ้นมาอีกหนึ่งคนหรือครับเนี่ย  ดูเหมือนว่าการประลองคู่นี้น่าจะตื่นเต้นเร้าใจสุดๆ เลยละครับท่านผู้ชม ”     
                โซเฟียเมื่อเห็นเซตส่งยิ้มมาให้ถึงกับต้องเบือนหน้าหนี  เธอไม่เคยรู้สึกชอบผู้ชายคนนี้เลยแม้สักนิดเดียว          เซตไม่ได้เดินตรงมายังโซเฟียแต่เขากลับเดินไปยังฝั่งโรงเรียนเกเบรียลแทนพร้อมกับนำชุดเกราะฝั่งโรงเรียนเกเบรียลมาสวมใส่  อาวุธที่เขาใช้ก็เป็นดาบเล่มเหมือนกับที่วากำลังใช้อยู่เลย  แต่ดูท่าทางเขาจะไม่รู้สึกหนักเหมือนที่วารู้สึกเลยแม้แต่น้อย 
                ดีว่าหันมามองหน้าวาเมื่อเขาสวมชุดเกราะเรียบร้อยแล้ว
                “ ไปกันเถอะครับ ”
                “ โอเค เราพร้อมแล้ว ”
              วาเดินตามดีว่าขึ้นไปยังเวทีลานประลอง  อย่ากล้าๆ กลัวๆ    และก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เซตสวมชุดเกราะเรียบร้อยแล้ว      เซตจึงค่อยๆ เดินขึ้นไปบนเวทีลานประลองพร้อมกับควงดาบไปมาอย่างไม่ค่อยคล่องแคล่วนักคงหวังจะขู่ขวัญวากระมัง  แต่นั่นมันก็ไม่ได้ทำให้เขาดูน่าเกรงขามขึ้นมาสักเท่าไหร่นัก
                “ ชิ อย่ามาเป็นตัวถ่วงเราก็แล้วกัน ”
                จีดาบคลั่งพูดอย่างหยิ่งยโสกับเซต  ซึ่งเซตก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปได้แต่ยิ้มอย่าไม่ค่อยจะพอใจนัก  เด็กชายนักประกาศเมื่อเห็นว่าทั้งสองฝ่ายพร้อมแล้วจึงกล่าวเปิดการประลองขึ้น
                “  เป็นอันว่าทั้งสองฝ่ายพร้อมแล้วนะครับ  ต่อจากนี้ก็จะขอเปิดการประลองรอบพิเศษขึ้นได้ ณ บัดนี้ครับ !!  ”
                เสียงเฮ ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง  จากนั้นเด็กชายนักประกาศก็กล่าวต่อ
                “ ทางฝั่งโรงเรียนเกเบรียลจีดาบคลั่งและก็ เซตแห่งโรงเรียนอับอุล อินเตอร์ครับ    ส่วนทางด้านโรงเรียนอับดุล อินเตอร์ ได้แก่  ดีว่าปราณกระบี่ไร้เงาฟังว่า  เพลงกระบี่ของเขานกเลิศเลอพิสดารไร้ที่ติเลยทีเดียวเชียวละครับ  แถมยังมีวิชาปราณกระบี่อีกด้วยซึ่งน้อยคนที่จะได้เห็น  วันนี้เราจะได้เห็นกันหรือไม่ก็ต้องติดตามดูกันครับ ”
                ยังไม่ทันที่เด็กชายนักประกาศจะกล่าวต่อ  เสียงกรี๊ดก็ดังลั่นห้อง  ทีนี้คงจะเป็นทีของพวกนักเรียนหญิงบ้างแล้ว  หลังจากที่พวกนักเรียนชายร้องเชียร์โซเฟียไปแล้ว    คนที่ถูกเชียร์ไม่ใช่ใครอื่นใดเป็นดีว่านั่นเอง    วาเองก็ไม่รู้มาก่อนว่าดีว่าจะเป็นที่นิยมมากขนาดนี้      เมื่อเสียงกรี๊ดค่อยๆ ลดลงเด็กชายนักประกาศจึงค่อยๆ กล่าวต่อ 
                  “ และอีกคนหนึ่งก็คือ ”
                  ไม่มีเสียงกล่าวต่อ  เป็นเพราะเด็กชายนักประกาศไม่รู้ว่าวาเป็นใครกันแน่  เขาจึงเดินเข้าไปหาวาพร้อมกับถาม
                “ มิทราบว่าชื่ออะไรหรอครับ ”
                เด็กชายนักประกาศยื่นไมค์ไปที่วา
                “ ผมชื่อวาครับ  ”
                วา ตอบอย่างอายๆ ซึ่งก็ไม่ได้มีนักเรียนคนไหนร้องตะโกนเชียร์วาเลย  มีแต่ซุบซิบพูดคุยกัน  เนื่องจากไม่ค่อยจะคุ้นหน้าวานัก
                “ ไม่ค่อยคุ้นหน้าเลยนะครับเนี่ย”
                “ เออ คือ ผมเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่นะครับ ”
                “ อ่อ เข้าใจแล้วครับ ”
                เมื่อถามเสร็จเรียบร้อยเด็กชายนักประกาศก็เดินกลับไปยังบริเวณกลางเวทีลานประลองพร้อมกับกล่าวต่อ
                “ และอีกคนหนึ่งก็ คือ วา นักเรียนใหม่ของโรงเรียนอับดุล อินเตอร์นั่นเองครับ  อาจจะมีบางคนรู้จักเขาแล้วบ้างนะครับ  ฝีมือของเขาจะร้ายกาจเพียงใดผมก็ไม่อาจจะทราบได้  คงต้องรอพิสูจน์พร้อมๆ กันแล้วละครับท่านผู้ชม        เอาละครับงั้นก็ขอเริ่มการประลองรอบพิเศษขึ้นอีกครั้งหนึ่งเลย ณ บัดนี้ครับ !!!  ”
              นกเรียนทั้งห้องปรบมือพร้อมกันอีกครั้งหนึ่ง  จากนั้นทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งหนึ่ง
                ทั้งสองฝ่ายไม่มีท่าทีว่าใครจะเป็นฝ่ายลงมือก่อนเลย  จนในที่สุดจีดาบคลั่งก็เป็นฝ่ายเริ่มลงมือก่อน    โดยการพุ่งตัวตรงไปยังดีว่าพร้อมกับยื่นปลายดาบตรงเข้าหาที่ดีว่าด้วยความเร็วอย่างยิ่ง   
                  แต่ทว่าดีว่าเพียงแค่สะบัดกระบี่ออกไปเท่านั้นเอง  ดาบของจีดาบคลั่งที่ดูทรงพลังและอำมหิตอันนั้นก็ถูกปัดออกไปในอีกทิศทางอย่างง่ายดาย  ราวกับว่ามีเวทมนต์            แต่จีดาบคลั่งก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจเมื่อดาบถูกปัดไปก็รีบตวัดดาบกลับมาในทันที    คราวนี้ดีว่าแค่เอียงตัวก็สามารถหลบการโจมตีของจีดาบคลั่งได้อย่างง่ายดาย 
                  ดีว่าถึงกับเอามือไพ่ลหลังไว้ข้างหนึ่ง  ส่วนอีกข้างหนึ่งจับกระบี่ไว้มั่นเพื่อเตรียมพร้อมที่จะรับการโมตีและตอบโต้กลับ          จีดาบคลั่งถึงกับกัดกรามด้วยความเคียดแค้นที่ไม่สามารถทำอะไรดีว่าได้เลย 
                  นักเรียนทั้งห้องถึงกับอึ้งไปตามๆ กันกับความสามารถของดีว่า  ถึงแม้จะถูกโมตีอย่างบ้าคลั่งแค่กลับสงบนิ่งราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
                  “ ชิ จะดูถูกกันไปหน่อยแล้ว !!! ”
             
                  จีดาบคลั่งเพิ่มความเร็วในการโจมตีขึ้นแต่ก็ยังไม่มสามารถทำอะไรไรดีว่าได้อยู่ดี      ส่วนวานั้นถึงกับยืนอยู่เฉยๆ ทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว  ได้แต่มองการต่อสู้ของทั้งสองอย่างใจจดใจจ่อ  แต่ในขณะที่วากำลังจดจ่ออยู่นั่นเอง  เขาก็รู้สึกว่ามีคนกำลังอยู่ทางด้านหลังของเขา 
                  วารีบหันหลังกลับไปดูก็พบกับดาบของเซตตวัดตรงมาหมายจะแทงไปที่เขาอย่างรวดเร็ว  วายกดาบขึ้นอย่างไม่ค่อยคล่องแคล่วนัก ซึ่งก็โชคดีที่เขาสามารถรับดาบของเซตไว้ได้ทัน     
                  เซตพยายามดันดาบของวาให้หลุดออกไปให้ได้  ส่วนวาก็พยายามกันการดันของเซตไว้อย่างเต็มความสามารถ  แต่เขารู้สึกว่าแขนของเขาหนักเหลือเกิน          เมื่อถูกกดมาเรื่อยๆ แขนของวาก็เริ่มหมดแรง และเมื่อเห็นว่าวาเริ่มหมดแรงเซตก็ใช้กำลังเฮือกใหญ่ชักดาบกลับและฟันเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง 
                  เมื่อเห็นดังนั้นวาก็รีบถอยหลังเอนตัวหลบ แต่ก็ถูกฟันเข้าที่หน้าอก  โชคดีที่ยังไม่ถึงกับโดนเข้าเต็มๆ    ไลท์พอต์ยของวาถึงกับถูกลดลงไป  295 หน่วยเลยทีเดียว  ซึ่งถือว่าลบเยอะอย่างน่าผิดปกติ 
                    “ หึหึ แกไม่มีวันเอาชนะเราได้หรอก  และวันนี้เราก็จะทำให้แกได้รู้ว่า แกน่ะมันไร้น้ำยา    แล้วนักเรียนทุกคนจะได้เห็นว่า แกมันกระจอกแค่ไหน ”
                  “ ให้ตายสิ  เราไม่เคยมีความรู้สึกชอบคนอย่างนายเลย  ผู้ชายอะไรผู้หญิงเขารำคาญแล้วยังตามตื้ออยู่ได้ ”
                  “ หุบปากของแกเดี๋ยวนี้นะ !”
                  ยังไม่ทันที่วาจะพูดต่อเซตก็รีบตวัดดาบเข้ามาที่วาทันที  ซึ่งวาก็ถอยหลังหลบไปได้อย่างทันท่วงที
                  “ คนเรามีสมองมีไว้คิดว่า ควรจะทำตามคำสั่งของคนอื่นหรือเปล่า  แล้วเรื่องอะไรเราจะต้องหุบปากตามคนอย่างนายด้วย  คนที่น่าจะหุบปากน่าจะเป็นนายเสียมากกว่านะ ”
                    “ หน่อย แก แก จะต้องชดใช้ในสิ่งที่แกพูดออกมาก  คอยดู ”
                    “ ก็ดูอยู่นี่ยังไงละ ”
                    เซตโจมตีวาอย่างบ้าคลั่ง  ไม่ต่างจากคนบ้าที่ไร้สติสักเท่าไหร่นัก    ส่วนวานั้นก็คอยหลบไปเรื่อยๆ บางครั้งก็ตวัดดาบกลับไปบ้าง   
                      วารู้สึกว่าการที่เขาจะตวัดดาบเพื่อโมตีออกไปในแต่ละครั้ง ช่างยากลำบากนัก  แขนของเขาเหมือนกับถูกลูกตุ้มถ่วงเอาไว้ก็ไม่ปาน    แต่ในที่สุดเขาก็ออกแรงฟันออกไปเมื่อเห็นว่าเซตมีช่องโหว่
                      ดาบของวาตวัดผ่าตรงไปยังกลางลำตัวของเซตพอดี  ทำเอาเซตถึงกับเซไปเลยทีเดียว  ซึ่งวาก็ไม่ยอมปล่อยให้โอกาสสำคัญนี้หลุดมือไปได้  เขารีบฟันเขาไปอย่างต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง   
                    ที่ๆ วาพยายามโมตีเข้าไปให้ได้มากที่สุดดูเหมือนจะเป็นส่วนลำตัวกับแขน  โดยวาคิดว่าท่าทำให้อาวุธหลุดออกจากมือของเซตได้  เขาคงจะชนะได้อย่างไม่ยากเย็นเป็นแน่          ไลท์พอต์ยของเซตค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ  แต่ขณะที่วากำลังโมตีเซตอย่างไม่ทันตั้งตัวอยู่นั่นเอง        จีดาบคลั่งก็เปลี่ยนการโมตีจากที่กำลังต่อสู้กับดีว่าตรงมายังวาอย่างรวดเร็ว 
                    วาถึงกับไม่ทันตั้งตัวดาบของจีดาบคลั่งก็อยู่ห่างจากเขาเพียงไม่กี่นิ้วแล้ว    โซเฟียถึงกับไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น      ถ้าเกิดถูกดาบนี้โจมตีเข้าไปแล้วละก็น้อยคนนักที่จะรอดไปได้
                      ดีว่าอยู่ห่างจากจีดาบคลั่งไม่มากนัก  แต่ถ้าจะให้วิ่งไปรับดาบของจีดาบคลั่งในตอนนี้แล้วละก็  คงจะไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน
                      “ ชิ แกนี่มันตัวเกะกะจริงๆ  คงไม่รอดแล้วละนะ ”
 
                        มิคาด จีดาบคลั่งถึงกับกระเด็นออกไปเหมือนกับถูกคนผลักหรือต่อยเข้าเต็มๆ ที่ท้อง    วาถึงกับไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง      กระบี่ที่ดีว่าตวัดออกไปนั้นถึงกับมีแรงลมวูบหนึ่งพัดขึ้นมา  พร้อมกับตรงไปยังจีดาบคลั่ง      หรือสิ่งนี้ที่เขาจะเรียกกันว่า “  ปราณกระบี่ “ กันแน่        เสียงปรบมือดังไปทั่วทั้งห้อง  เมื่อดีว่าตวัดกระบี่นั้นออกไป
                    “ อย่ารุมกันสิครับ  คู่ต่อสู้ของคุณคือผมนะครับ  ถึงแม้คุณเองอาจจะยังไม่ถึงขั้นที่จะเป็นคู่มือให้กับผมได้ก็ตามที  ”
                    “ ชิ อย่ามาทำเป็นปากดีไปหน่อย  เราจะจัดการกับแกก่อนแล้วค่อยจัดการกับเจ้าเด็กใหม่นั่นเอง ”
                   
                      เด็กชายนักประกาศถึงกับรีบกล่าวขึ้นมาอย่างแปลกใจ
                    “ โอ้ว  ท่านผู้ชมครับในที่สุดปราณกระบี่ของดีว่ากำลังสำแดงฤทธิ์เดชออกมาให้พวกเราเห็นกันแล้วละครับ  ไม่น่าเชื่อว่าการตวัดกระบี่เพียงครั้งเดียวก็สามารถทำให้จีดาบคลั่งเสียการทรงตัวไปได้เชียวละครับ  หรือว่างานนี้จีดาบคลั่งจะต้องผ่ายแพ้ให้แก่ดีว่ากันแน่  ”                 
                      จีดาบคลั่งหันกลับไปโจมตีดีว่าอีกครั้ง  วิชาเพลงดาบกับเพลงกระบี่ของจีดาบคลั่งและดีว่าต่างกันราวฟ้ากับดิน      คนหนึ่งลงมืออย่างรวดเร็ว ดุดัน อำมหิต    ถึงกับไม่สนว่า ตัวเองจะโดนโมตีกลับมาหรือไม่    ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นกลับสงบเยือกเย็น    แต่ภายใต้ความเยือกเย็นนั้น  กระบวนท่าของกระบี่กลับมีการพลิกแพลงอย่างยิ่ง
                    “ ตายเสียเถิด กระบวนท่า  ดาบคลั่งสังหาร !!! ”     
                    จีดาบคลั่งตะโกนออกมาอย่างบ้าดีเดือด  ทันใดนั้นเองท่าทางการโมตีของจีดาบคลั่งก็เปลี่ยนไป  เหมือนกับการโมตีที่ไม่มีจุดหมายราวกับคนเสียสติ  แต่กลับรวดเร็วอย่างยิ่ง   
                    ดาบถูกตวัดไปมา บางทีก็ลงไปข้างล่างบ้าง  บางทีก็ขึ้นข้างบนบ้าง แต่ทว่าถึงอย่างนั้นก็ตามดีว่าก็สามารถรับการโมตีทั้งหมดไว้ได้ราวกับอ่านทางของจีดาบคลั่งออก 
                    ประกายกระบี่ตวัดวูบขึ้น  ดาบของจีดาบคลั่งถึงกับถูกตวัดกระเด็นหลุดของจากมือไปในทันที  พร้อมกันนั้นดีว่าก็ตวัดกระบี่ขึ้นอีกวูบหนึ่ง  กระบี่ซัดเข้าใส่ท้องของจีดาบคลั่งเต็มๆ
                  จีดาบคลั่งถึงกับกระเด็นไปอีกครั้ง  ไม่ใช่เพราะความแรงของกระบี่  แต่กลับเป็นพลังลมปราณที่แฝงรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกับกระบี่นั่นเอง          ไลท์พอต์ยของจีดาบคลั่งถึงกับลบไป 1600 หน่วยเลยทีเดียว  เท่านั้นยังไม่พอจีดาบคลั่งรู้สึกว่าภายในร่างกายบอบช้ำไปทั่วร่าง  คงเป็นเพราะปราณกระบี่ของดีว่านั่นเอง 
                  ขณะนั้นเองเซตก็ตั้งตัวได้พอดีเมื่อเห็นว่าว่าไม่ทันระวังเขาก็ตวัดดาบเข้าใส่ว่าอย่างเร็ว  วาถึงกับหลบไม่ได้  จึงโดนดาบนั้นเข้าไปเต็มๆ  ไลท์พอต์ยของวาลบลงไปอีก  1305 หน่วย  ซึ่งถือว่าเยอะจนเกือบจะใกล้เคียงจากการโจมตีของดีว่าเลยทีเดียว 
                  แต่เมื่อวาถูกโจมตีเข้ามาเขาก็กัดฟันสู้ ตวัดดาบกลับตรงไปยังเซตทันที    ดาบของวานั้นถึงกับฟันตรงไปยังบริเวณก้านคอของเซต  ทำให้ไลท์พอต์ยของเซตลดลงไป 1000 หน่วย  แต่ก็เป็นที่น่าแปลกอย่างยิ่งที่วาโจมตีถูกส่วนสำคัญกลับลดไลท์พอต์ยของเซตไปได้แค่ 1000 หน่วยเท่านั้น    ในขณะที่เซตโจมตีถูกลำตัวกลับทำให้ไลท์พอต์ยของวาลบไปถึง 1305 หน่วยเลยทีเดียว      ท่าทางจะต้องมีอะไรผิดพลาดเสียแล้วงานนี้ 
                  แต่วาก็ไม่สู้จะใส่ใจกับเรื่องนี้นัก  เขารีบถอยหลังออกห่างจากเซตทันทีโดยไม่คิดที่จะโจมตีซ้ำ  เนื่องจากเกรงว่าจะถูกโมตีกลับ    แต่เซตก็ไม่ได้โจมตีกลับมาอย่างที่เขาคิดไว้      เนื่องจากการโจมตีของวานั้นถึงกับทำให้เซตรู้สึกมึนงงเป็นอย่างมากถึงกับแทบจะยืนยังไม่ไหวเลยทีเดียว 
             
                  ขณะเดียวกันนั้นเองทางด้านดีว่ากับจีดาบคลั่ง    เมื่อดาบของจีดาบคลั่งถูกตวัดกระเด็นออกไปแล้ว  ดีว่าถึงกับยืนอยู่เฉยๆ โดยไม่ได้ลงมือซ้ำ      ดีว่ายืนอยู่อย่างสง่าพร้อมกับมองไปยังจีดาบคลั่งที่กำลังค่อยๆ พยุงตัวขึ้นมา
                  “ ถ้าคิดว่ายังสู้ไหวละก็  ลุกขึ้นแล้วก็หยิบอาวุธที่คุณมั่นใจนักหนามาล้มผมให้ได้อย่างที่พูดสิครับ ”
                  “ ฮ่าๆ ”
                  จดาบคลั่งถึงกับหัวเราะออกได้ ?  ทั้งๆ ที่ถูกปราณกระบี่อัดเข้าไปเต็มๆ    ทั้งๆ ที่ร่างกายก็บอบช้ำปานนั้น ?
                  “ ชิ ที่แท้ปราณกระบี่ของแกมันก็เท่านี้เองสินะ  ไม่เห็นมันจะรุนแรงอย่างครั้งแรกที่เราเจอกันเลยนะ  อย่างว่าคงเป็นเพราะเราเก่งขึ้นแต่แกกลับยังคงกระจอกเหมือนเดิมสินะ ”
                  “ มันจะไม่เป็นการหลงตัวเองไปหน่อยหรอครับ    ปราณกระบี่ที่ผมใช้ใส่คุณไปเมื่อสักครู่นี้มันแค่ปราณกระบี่ขั้นที่ 1 หรือที่เรียกว่าปราณกระบี่ไร้เงาธรรมดาเท่านั้นเองนะครับ    เพราะผมคิดว่าถ้าคุณโดนปราณกระบี่สิบสองสายเข้าไปแล้วละก็  คุณคงไม่มีโอกาสได้ลุกขึ้นมาอวดตัวเองอีกเป็นแน่  ”
                  จี ดาบคลั่งถึงกับพูดไม่ออก  นี่แค่ปราณกระบี่ขั้นที่ 1 เองหรือนี่    แค่ขั้นที่ 1 ก็ทำเอาเขาแทบจะยืนไม่ขึ้นอยู่แล้ว  แล้วถ้าขั้นที่ 12 ละเขาจะเป็นอย่างไร        จีดาบคลั่งไม่อยากแม้แต่จะคิดรีบลุกขึ้นในทันทีทำให้เหมือนว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิด     
                  จีดาบคลั่งค่อยๆ หยิบดาบสีดำอำมหิตอันนั้นขึ้นมาพร้อมกับกวัดแกว่งไปมาเป็นกระบวนท่าจากนั้นสายตาของจีกาบคลั่งก็เปลี่ยนไป      เขาจ้องมองดีว่าด้วยสายตาที่ดุดันและน่ากลัวความเดิมราวกับเป็นคนละคนเลยทีเดียว
                “ ชิ ต่อจากนี้เราจะให้โอกาสแก  เราจะต่อให้แกโจมตีเข้ามาสามกระบวนท่า ”
                “ ไม่เคยมีใครต่อให้ผมได้ถึงสามกระบวนท่า  แม้แต่กระบวนท่าเดียวก็ไม่มี  ”
                ดีว่าตอบด้วยความสงบเยือกเย็น  แต่คำพูดของเขานั้นคมราวกระบี่ที่ถืออยู่ก็ปาน
                “ ไม่ลองจะรู้ได้อย่างไร ”
                “ โลกนี้มีเรื่องบ้างเรื่องสู้ไม่ลองจะดีกว่า  เพราะหากใครต่อให้ผมได้ถึงสามกระบวนท่าแล้วละก็  หลังจากจบสามกระบวนท่าแล้วลพก็  คนผู้นั้นเห็นทีไม่น่าจะยังสามารถยืนอยู่ได้อีก ”
                “ ชิ  งั้นก็ต้องเสียใจด้วย    ที่เราไม่ใช่คนอย่างที่แกพูดถึง  และถ้าแกไม่ยอมรับความหวังของเราไว้ละก็        แกจะต้องเสียใจในภายหลังแน่          เพราะหลังจากที่แกใช้สามกระบวนท่าเสร็จแล้วละก็เราจะใช้ท่าไม้ตาย    “ กระบวนท่าดาบมารคลั่ง  “  จัดการแกสะ ”
                  ดีว่าถึงกับนิ่งไปสักพักหนึ่งกับคำพูดของจีดาบคลั่ง      ท่าไม้ตายดาบมารคลั่งของจีดาบคลั่งนั้นถ้าคนที่รู้จักดีละก็จะพบว่าไม่เคยมีใครต้านทานมันได้เลยแม้แต่คนเดียว     
            ดาบมารคลั่งเป็นการรวมพลังทั้งหมดของผู้ใช้เข้ากับดาบให้เป็นหนึ่งเดียว      ความเกรี้ยวกราดและความรุนแรงของกระบวนท่านั้นสูงส่งมาก  เป็นกระบวนท่าที่เหมือนกันการฆ่าคนตัวไปในตัวโดยจะเน้นการโมตีอย่างไม่หยุดยั้งไปเรื่อยๆ ใส่คู่ต่อสู้              ตราบใดที่ยังไม่สามารถล้มคู่ต่อสู้ลงได้กระบวนท่าก็จะไม่สิ้นสุดลง  หรือจนกว่าตัวผู้ใช้จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เองเสียก่อน    แต่ข้อเสียของการใช้กระบวนท่านี้ก็คือ จะเปิดช่องโหว่มากพอสมควรที่จะถูกตู่ต่อสู้โจมตีกลับมาได้    แต่ถึงอย่างใดก็ตามไม่เคยมีใครล้มจีดาบคลั่งกลับไปได้เลย  เมื่อถูกกระบวนท่าดาบมารคลั่งเข้าเป็นต้องพ่ายทุกราย    แม้แต่ตัวของดีว่าเองนั้นก็ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถต้านทานได้เช่นกัน
                ดีว่าถึงกับหัวเราะ
                “  ถ้าอย่างนั้นเห็นทีผมก็คงจะต้องจัดการคุณให้ได้ภายในสามกระบวนท่าใช่ไหมละครับ ”
                “ ถูกต้องแล้ว แต่คนอย่างเราไม่มีทางแพ้แกภายในสามกระบวนท่าแน่นอน ”
                ดีว่าไม่พูดต่อแต่กลับสะบัดกระบี่ขึ้น
                “ กระบวนท่าที่หนึ่ง  กระบี่สูญญากาศ  ”
                ท่ากระบี่สูญญากาศเป็นการฟันกระบี่ออกไปอย่างรวดเร็ว ให้เกิดช่องว่างสูญญากาศไปยังศัตรู  น้อยคนนักที่จะสามารถทำได้เช่นนี้        เนื่องเพราะการออกกระบี่ไปแต่ละครั้งไม่ได้ใช้กำลังเพียงแค่ผลิกข้อมือหรือแค่แขน  แต่เป็นการโคจรลมปราณทั้งร่างกายให้รวมกันเป็นหนึ่งถึงจะสามารถฟันออกไปได้หนึ่งกระบี่                                                                                         
                การตวัดกระบี่อย่างรวดเร็วของดีว่านั้นทำให้อากาศบริเวณรอบๆ อัดตัวรวมกันจนเกิดเป็นสูญญากาศวิ่งตรงเข้าไปยังจีดาบคลั่ง      แต่จีดาบคลั่งกลับไม่ได้เกรงกลัวต่อกระบี่สูญญากาศของดีว่าเลยแม้แต่น้อยกลับยืนยิ้มอย่างเหิมเกริมรอรับการโมตีอย่างมั่นใจ        กระบี่สูญญากาศพุ่งตรงไปอย่างรวดเร็วจนในที่สุดมันห่างจากจีดาบคลั่งเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น     
                                                  __________________________________
               
         
             
                 
                 
                 
             
     
             
 
                 
                 
   
               
                   
                 
           
               
     
                     
                       
                     
                     
       
                 
           
               
             
 
               
   
             
       
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น