ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : เกรย์คีย์..แบล็กบัตเตอร์ฟราย..เวย์
คุยกานหน่อยน๊า >W<
หวัดดีค่า ^W^ แข็งใสมาอัพเรื่องแล้วนะคะ เลือกอัพวันนี้ เพราะเป็นวันหนึ่งในปี ที่แข็งใสชอบที่สุดเลย
Merry Christmas & Happy New Year ค่า  มีความสุขความเจริญเบิกบานสำราญใจกันมากๆมายๆนะคะ สุขภาพดีแข็งแรง มีเงินมีทอง
มีแฟนสวยๆหล่อๆ งิ้วว~~  โชคดีนะคะ
สำหรับการสอบก็ขอให้สอบผ่านได้คะแนนดีๆ พอใจกับผลสอบ โชคดีในการสอบทุกท่านนะคะ
^^\" ขออภัยที่ดองซะนาน เผอิญน้ำแข็งมีปัญหากับบทของเฮีย..นิดหน่อย ตอนนี้เคลียร์ได้แล้ว ก็เลยเอามาลงให้ยลกันนะจ๊ะ
ถ้ามีข้อผิดพลาดต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยเน้ออออ  รักผู้อ่านทุกคนคร่า ขอบคุณทุกโหวต ทุกคอมเม้น นะคะ รักเธอเสมอ..
                                                                                                                                  ~~น้ำแข็งใส~~
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ยินดีที่รู้จักนะ ทั้งสองคน”เรนพูดยิ้มๆ 
“อื้อ หวัดดีนะ”
หลี่หวันพูดง่ายๆ แล้วหันไปพูดกับพี่ปรายอีก “เจ๊ปรายนานแล้วนะ”
“หวัดดี”
มัฟฟินพูดง่ายกว่า..
“สวัสดี  อยู่ร.ร.เก่าของสาลี่ใช่มั๊ย อะไรนะ..”
เมฆเริ่มชินกับบรรยากาศอารมณ์ไม่ดี
“ฟีโรโซ่..ฟีโรโซเฟอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล”
ฟินตอบแล้วลุกไปเร่งพี่ปรายถึงที่
“มาแล้วๆ เร่งนักเร่งหนา รอหน่อยสิ เด็กๆนี่ใจร้อน”
พี่ปราย กับฟินเอาน้ำปั่นที่สั่งไว้มาเสริฟให้ที่โต๊ะ น้ำปั่นที่เรน กับเมฆสั่งก็ถูกนำมาเสริฟเช่นกัน
ชั้นคว้าแก้วน้ำมานั่งดูด
อา..อารมณ์ดี มีความสุข สุขีสโมสร
อารมณ์ดีแล้ว เย้ๆ
น้ำเย็น ดีจัง
แล้วดูท่าทางฟิน กับหวันก็อยู่ในความรู้สึกเดียวกัน คืออารมณ์ดีขึ้นทันตา
อย่างที่เคยบอกไว้ว่าพวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายมีหน้าตาเป็นอาวุธ หน้าตาอารมณ์ความรู้สึกเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว
“เอ่อ..เมื่อกี้พวกนายว่าไงนะ อ้อ ชื่อเรน กับเมฆใช่มั๊ย อยู่ร.ร.อะไรกันหรอ”
เฮ้ย ไอ้ฟินอารมณ์ดีแล้วพูดมากนะ
“อ่า..ก็เออ..ทริโอริสน่ะ”
เมฆ  ตามอารมณ์มัฟฟินไม่ทัน เลยพูดตะกุกตะกักแบบงงๆนิดหน่อย
“อ้อ ทรีโอ  อร่อย เอ๊ย ดังนี่ ที่เค้าบอกกันว่าในโรงเรียนที่หรูไฮมากเลยใช่มั๊ย”
หวันพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชม แต่หน้าตามันไม่ค่อยจะชื่นชมเท่าไหร่เลย
แล้วอะไรวะ หรูไฮของแก
อย่าบอกว่ามาจาก หรูหราและไฮโซ นะเว้ย
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก”
เรนพูดแล้วดูดน้ำต่อ
“เอ้อ นายที่ชื่อเรนน่ะ  หน้าตาดีนะ”
มัฟฟินเงยหน้าจากที่ดูดน้ำปั่นอย่างเมามันขึ้นมาพูด แล้วกลับไปสนใจน้ำปั่นของมันต่อ
“ขอบใจ”
เรนยิ้มๆให้ เมฆส่งสายตาริษยาไปให้นิดหน่อย
“เออ..นี่ๆ นายอยู่ร.ร.นั้นงั้นก็รวยสิ”
หวันพูดอย่างสนใจ
นี่แก..ติดนิสัยไอ้บ้านีทมาอีกคนแล้วหรอ..
งกซะ..
“อ่า..ถ้าเราอยู่ปรีชญาประสิทธิ์แล้วรวย  แล้วเธออยู่ ฟีโรโซ่ นี่ไม่คุณหนูมหาเศรษฐีเหรอ”
เมฆพูดอย่างหวาด พอจะคาดเดาเรื่องต่อไปได้
“ไม่หรอกๆ นายรวยแน่ๆเลย ใช่มั๊ยๆ”
ฟินมันพูด ทำตาเป็นประกายราวกับเห็นสมบัติ  เมฆ กับเรนมองหน้ากัน
รู้สึกขายขี้หน้าอย่างบอกไม่ถูก..
ไอ้นีท เข้าทรงรึไงวะ..
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก”
เรนพูดยิ้มแหยๆ 
“นายนามสกุลอะไรล่ะ”
เฮ้ยๆ แกสองคนไปยุ่งอะไรกับตระกูลเค้าอีกล่ะ
“เอ่อ..วิสุทธิ์วโรดม..”
เรนตอบแบบด้วยน้ำเสียงงงๆปนไม่แน่ใจว่าพวกนี้อยากเอาไปทำอะไร
“นายล่ะ”
หลี่หวันหันมาถามเมฆ ในขณะที่มัฟฟินนั่งพูดทวนนามสกุลของเรน
“..ศิริวิวัฒน์..”
สีหน้าที่เป็นคิ้วชนกันเกิดขึ้นบนใบหน้าเกลี้ยงเกลาของเมฆ
“เออ..สรุปพวกนายรวยแน่ๆ ชั้นมั่นใจ”
ไอ้ฟินพูดตัดการสนทนา ไต่ถามนามสกุล
“นาย”
หวัน กับฟินชี้มาที่เมฆที่นั่งงงๆอยู่
“ชั้น”
เมฆชี้เข้าหาตัวเอง แล้วถามเสียงสูง
“ไปเที่ยวกันเถอะ นะๆ อยากซื้อของอ้ะ ไปด้วยกันนะ  เออ..หวันแกบอกว่าจะดูหนังใช่มั๊ย ไปๆ นะจ๊ะเมฆนะ ไปด้วยกันน๊า”
ฟินมันพูดอ้อนวอน ซะหวานอย่างที่มันไม่เคยทำมาก่อน
“นั่นสิๆ นะๆ เมฆ นะ เราอยากดูหนังอ่ะ ไปด้วยกันน๊า”
หลี่หวัน กับมัฟฟินลากเมฆวิ่งออกนอกร้าน ทั้งๆที่เจ้าตัวยังงงๆไม่รู้เรื่อง
และชั้นกับเรนก็นั่งอยู่กันแค่ 2 คนในโต๊ะนั้น
“นี่..เพื่อนเธอเป็นอะไรมากเปล่า”
เรนถามน้ำเสียงกวนกว่าเดิมเยอะ
เป็นอะไร มันดูเหมือนคนมากไปหน่อยเรอะ
“องค์ลง”
ชั้นตอบสั้นๆ เรนขยับรอยยิ้มที่มุมปากเล็กๆ น่ารัก เข้ากับหน้าหล่อๆของเค้ามาก
“จริงหรอ เพื่อนเธอเป็นแบบนี้ทุกครั้งรึเปล่าเนี่ย..แล้ว..เมฆ..เพื่อนเราไม่เป็นไรใช่มั๊ย”
ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงลื่นไหลไปเรื่อย
“คงจะไม่”
เอาล่ะสิ..คู่เกย์อีกคู่แล้ว..
แก๊งเกย์นี่มันเป็นแก๊งเสริมสร้างความรักคู่เกย์รึเปล่าฟะ ไอ้ใบไม้ กะเฮียสนก็คู่นึง
“เหรอ แล้วจะไงต่อ”
“เอาไงน่ะหรอ..หึหึ..”
“อะไรหรอ”
“แหม ไม่น่าถาม นายต้องเป็นคนจ่ายค่าน้ำไงเล่า”
เรนทำหน้าอึ้งเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเบาๆ
“ไหงงั้นล่ะ เพื่อนเรา 1 เพื่อนเธอตั้ง 2 ต่างคนต่างจ่ายก็แล้วกัน”
นายช่างเป็นสุภาพตัวผู้
“พี่ๆ แตงโมปั่นน้ำแดงค่ะ”
เสียงหวานๆของใครบางคนดังขึ้นหน้าร้าน ก่อนที่เสียงนั้นจะพุ่งหลาวมาที่โต๊ะเล็กๆที่เรานั่งอยู่
“เรน นั่นเรนใช่มั๊ย..เรนจริงๆด้วย”
เจ้าของเสียงเป็นผู้หญิงหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู จิ้มลิ้ม ผมยาวปะบ่า แต่งตัวน่ารัก วิ่งมาที่โต๊ะที่เรนนั่งอยู่
ถ้าสายตาของชั้นไม่พลาดไปล่ะก็ เรนทำหน้าเหมือนว่ารู้สึกแย่
“ว่าไง เดล”
เรนพูดยิ้มๆ แต่ยิ้มนั้นมันดูเหมือนว่าจะเป็นยิ้มที่ปั้นขึ้นมา 
พวกการแสดงมารยาตบตาคนน่ะ ผ่านมานตักต่อนักแล้ว
เรน..
รอยยิ้มของนายต้องบอกได้ว่าเป็นรอยยิ้มที่ค่อนข้างที่ดูรำคาญเล็กๆนะ
“มาทำอะไรหรอ เรน”
ผู้หญิงที่ชื่อ เดล ถามยิ้มๆ
มาเล่นหมากเก็บมั้ง..
รอยยิ้มที่เรียกได้ว่ายิ้มเยาะ
ยังดีนะที่เธอไม่ได้ยิ้มมาให้ชั้น ไม่งั้นชกโครม..
“ก็มากับเพื่อนน่ะ”
นายมันตอบไม่ตรงคำถามนะ...
เดลเลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อย แล้วหันมามองชั้น ก่อนจะหันกลับไปที่เรนอีก
“นี่ ใครหรอ”
เมียน้อย พ่อ  มึงไง กราบกูซะ
“สาลี่ เป็นน้องของ..”
เรนยังพูดไม่ทันจบ ยัยเดลนั่นก็โพล่งพูดต่อ อย่างกับไม่คิดจะฟังคำตอบเลย
“แฟนใหม่หรอ เร็วดีนะเรน  เราเพิ่งเลิกกันไปแค่สัปดาห์เดียว..ไม่นึกว่า..”
ก่อนจะสิ้นเสียงยัยนั่นเหลือบสายตามามองชั้น
ถ้าชั้นต่อยซักที มันจะเกิดเรื่องมั๊ยนะ..
“น้อง น้ำที่น้องสั่งได้แล้วนะ”
เสียงพี่ปรายดังขึ้น เดลหันไปส่งยิ้มให้พี่ปราย แล้วยื่นเงินให้ก่อนจะรับน้ำมา และหันกลับมาที่เรนอีก
“คือว่า..สาลี่เป็น..”
เรนสบตาชั้น พอจะเข้าใจว่าหมายถึงอะไร..
ชั้นยักคิ้วเป็นการส่งซิกแนว  เรนยิ้มรับ
ขอร้องถูกคนแล้วไอ้น้องเอ๋ย จงรู้ซะว่า สาลี่ คนนี้แสดงละครได้เก่งที่สุดในโลกหล้า
“เอ่อ..เรน คนนี้ที่เล่าให้ฟังใช่มั๊ย โห เจอจริงๆแล้วนึกไม่ถึงเลยนะ ว่าจะ..”
ท้ายประโยคละไว้ในฐานที่คนโง่อย่างยัยหน้าป้าแช่มอย่างมันไม่เข้าใจ
“ว่าอะไร”
เดลถามตวาดๆหน่อย จับอารมณ์โกรธได้ชัดเจนเลย
“ว่าอะไรก็ช่างเถอะ ว่าแต่เดลเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมต้องมาตวาดสาลี่ด้วย”
เรนถามตอกกลับไป เดลหน้าเสียนิดหน่อย  แล้วทำเป็นงอนๆ
ยิ่งเห็นยิ่งหน้าตบ...
“ลี่ ไปเถอะ”
เรนกระชากแขนชั้นให้ลุกขึ้น แล้วควักแบงค์ร้อยให้พี่ปราย แล้วเดินออกจากร้าน เดลตะโกน กรี๊ดๆ ตามหลังออกมา มีคนมองหลายคน
เฮ้..อยากเถียงต่ออ้ะ...ยังไม่ทันเปิดโรงเลย..ตั้ง ยังไม่ได้ต่อเลย...
เรามาหยุดที่ม้านั่ง ที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านมากมายอะไร
“นั่นเดล แฟนเก่าเรา ขอโทษด้วยนะที่เค้าเสียมารยาท”
นี่นายขอโทษแทนยัยหน้าป้าแช่มทำไม
“ไม่ต้องหรอก ความจริงแล้ว ถ้ายัยนั่นไม่ได้เป็นแฟนเก่านาย  เราจับตบไปนานแล้ว”
“อืมม์...”
“เลิกกันแล้วหรอ”
“อือ..”
“ดีใจด้วยที่เลิกได้”
“อะไรนะ”
“เปล่า”
...ความจริงน่าจะดีใจนะที่แกะป้าแช่มอย่างยัยนั่นออกไปได้....
“นี่ สาลี่”
เรนเรียกเบาๆ  ชั้นหันหน้าไปสบตา แล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“คบกันมั๊ย”
...ง่ายดีนะ...
“ตกลง”
“ทำไมง่ายจังง่ะ”
เรนถามด้วยน้ำเสียงเป็นเชิงว่าไม่น่าเชื่อ
“แล้วทำไมต้องยากด้วย”
“แล้วทำไมต้องไม่ยากล่ะ”
“แล้วทำไมต้องไม่ง่ายล่ะ”
รู้จักมั๊ย กวนน่ะ..
“งั้น เหตุผลล่ะ”
เรนยังซักไซ้ต่อ
เหตุผลหรอ..ตอนนี้ชั้นอารมณ์ดี แล้วยังอยู่ว่างๆ  และนายก็หน้าตาดีพอที่จะควงแล้วไม่อาย
“นายหน้าตาใช้ได้”
อันที่จริงต้องบอกว่า ไร้ซึ่งเหตุผล
“ขอบใจนะ แต่..แค่นั้นหรอ”
แค่นั้นเดะ..พูดแบบนี้ท้าต่อยปะ..
“อือ หรือจะให้บอกว่าชั้นพิศวาสนายตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นดีล่ะ”
“ก็ใช่ไง แบบนั้นมันดูมีเหตุผลมากกว่า”
เรนพูดยิ้มกว้าง
นายนี่มัน..หลงตัวเอง..
“มันยากนะ เพราะว่าไม่ว่าจะยังไง ชั้นก็คิดว่าพี่สนหล่อกว่า”
เรนทำหน้าไม่อยากเชื่อนิดหน่อย
“เอาเถอะ ยังไงค่านิยมตัวชั้น ก็มากกว่าพี่ชายเธอล่ะกันนะ”
หมอนั่นยิ้มกวนๆมาให้
“พวกที่โหวตให้นายมันตาบอด อ้อๆ รู้แล้วที่พี่สนได้คะแนนน้อยกว่า ก็เพราะไอ้ไม้มันงี่เง่า แล้วคนอื่นก็รวมพี่สนเข้าไปด้วย คะแนนเลยน้อย”
“ห๊ะ แต่ว่า..ชั้นว่าพี่ไม้ของเธอ คนชอบเยอะจนตั้งเป็นแฟนคลับได้เลยนะ”
ชั้นนั่งลงบนม้านั่ง แล้วตอบกลับไป
“เยอะจนตั้งเป็นคณะลิเกได้น่ะสิ”
“พี่สนก็เยอะนะ เห็นว่ามีพวกผู้หญิงขอถ่ายรูปบ่อยๆ วันงานร.ร.น่ะ  พอๆกับเฮียไม้เลย”
ว่าไงนะ...ไอ้ผู้หญิงโฉดใจทรามหน้าไหนกล้าเข้ามาใกล้พี่ชายกู..
“มันเป็นใคร ผู้หญิงที่ว่าน่ะ”
“ไม่รู้ แต่พวกรุ่นพี่ม.6 น่ะ”
“มันต้องตาย”
เรนเลิกคิ้วซ้ายขึ้น
“เธอเหมือนที่เฮียไม้พูดจริงๆเลย”
อะไร มันนินทาชั้นเรอะ..
“พูดว่า..”
“ว่าสาลี่หวงพี่สนมาก ขนาดเพื่อนผู้หญิงยังไม่ค่อยอยากจะให้เข้าใกล้เลย”
“หมายถึง 3 ปีก่อนงั้นสิ”
“อะไร 3 ปีก่อน”
เรนทำหน้าสงสัย
“ไม่มีอะไรหรอกแค่อัดผู้หญิงที่เข้ามาทำสำออยใกล้ๆพี่สนแค่นั้นเอง”
“ผู้หญิงนี่รุ่นพี่งั้นหรอ”
นายนี่สงสัยอะไรมากมาย
“เออดิ”
“ทำไมเธอโหดจังง่ะ..ว่าแต่โทรตามเพื่อนเธอก่อนดีมั๊ย”
ใครว่าโหด อุตส่าห์ออมมือให้เห็นว่าเป็นรุ่นพี่หรอก สำออยแดกอ้ะเด้
ชั้นควักมือถือออกมาจากกระเป๋าเป้ แล้วกดเลือกรายชื่อ
ที่ระบุชื่อเจ้าของหมายเลขว่า หลี่หวัน
สัญญาณจากโทรศัพท์ดังประมาณ 5 ครั้ง เสียงหวันก็ดังผ่านเข้ามา
“ว่าไง ลี่ แกอยู่ไหนอ้ะ”
แกน่ะสิไสหัวไปไหน..
“แกนั่นแหละ อยู่ไหน”
เสียงเน้นหนักที่คำสุดท้าย 
“อยู่เนี้ย”  ..กูจะตรัสรู้มั๊ยว่ามึงไปอยู่ไหน..
“หวัน ถ้าแกงี่เง่าอีกรอบเดียว..วันนี้แกงี่เง่ามามากเกินพอแล้ว อยู่ไหน”
“โธ่ ไอ้ลี่ แกอ่ะ ดูอย่างไอ้ฟินมันดิ มันยังHappyอยู่เลย เอาเป็นว่าเดี๋ยวเราไปรอแกที่ลานกว้างละกัน”
ลานกว้าง คือชื่อเรียกที่แบล็กบัตเตอร์ฟรายเรียกกันติดปาก
ความจริงคือไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร ก็เลยเรียกกันแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร
ลานกว้างเป็นลานว่างๆที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านเท่าไหร่
เป็นที่สิงสถิตย์ของพวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายตั้งแต่รุ่นอดีต จนถึงปัจจุบัน และจะต่อไปยังอนาคต
พวกสมาชิกแก๊งที่ออกจากร.ร.ไปแล้วก็ชอบมานั่งคุยกันที่นี่ บ้างก็มาดูน้องใหม่ บ้างก็มาหาเพื่อนเก่า
“โอเค งั้นแค่นี้”
หวันตอบรับสั้นๆนิดหน่อย แล้ววางสายไป
“ไปกันเถอะ”
สิ้นคำพูดก็กระชากมือเรน แล้วเดินตรงไปที่ลานกว้าง 
“ไปไหนหรอ สาลี่” เรนถาม แล้วยังคงเดินตามมาเรื่อยๆ
“ลานกว้าง”
“ที่ไหนอ้ะ”
“ไม่รู้”
ก็ไม่รู้จะตอบยังไงอ้ะ..ก็ที่นั่นอ้ะ ตรงนั้นน่ะ..
“อ้าว ไหงงั้นล่ะ” เสียงเรนพูดขึ้นมาเบาๆ
ซักพักเราสองคนก็มาถึงลานกว้าง มีพวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายนั่งอยู่เป็นกลุ่มๆ พวกที่นั่งอยู่ก่อนหยุดกิจกรรมต่างๆแล้วหันหน้ามามองเราสองคนเป็นตาเดียว
พวกนี้คนรู้จักทั้งนั้นแหละ..อ้อ..ฟรายเดย์ ไดซ์ วอยซ์ สอง และคนอื่นๆก็อยู่ พวกผู้ชายอย่างเฮียบอลก็นั่งเป็นกลุ่มรวมกัน
ชั้นยักคิ้วให้นิดหน่อย ไม่ให้เรนที่กำลังหอบอยู่เห็น  พวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายดูเหมือนจะเข้าใจ และเริ่มหันกลับไปทำกิจกรรมของตนต่อ
“เฮ้ๆสาลี่ เรน”
เสียงมัฟฟินดังขึ้น พวกมันเพิ่งมาถึง  เห็นได้ชัดว่าไถตังเมฆได้สนุกสนาน
“ไปไหนกันมาหรอ”
เรนเปิดฉากถาม หวันยิ้มๆ
“ถามเพื่อนนายสิ”
เรนหันไปที่เมฆ ซึ่งเมฆกำลังมองไปรอบๆลานที่พวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายนั่งเล่นกันอยู่ ทำให้เรนกวาดสายตามองตาม
พวกนายอย่ามาฉลาดแถวนี้..
“นี่ สาลี่ ที่นี่นี่ไหนหรอ” เมฆถาม ยังไม่ละสายตาไปจากพวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายที่ทำท่าไม่สนใจ
“ลานกว้าง”
ฟินตอบแทน 
“ไม่เคยมาเลยอ้ะ  มีที่แบบนี้ด้วยหรอ”
เรนพูดเรียบๆ
“ไม่แปลกหรอก ไม่ค่อยมีคนผ่านมาเท่าไหร่ นอกจากพวกนร.ฟีโรโซ่ที่มานั่งคุยกันบ่อยๆ”
หวันตอบ แล้วยักไหล่
“หรอ..อืมม์”
เรนตอบเบาๆ
“มานี่ๆ ม้าหินตรงนั้นว่าง”
ฟินต้อนพวกเราไปนั่งที่ม้าหินอ่อนข้างๆโต๊ะของฟรายเดย์ หัวหน้าแก๊งDestinyคนปัจจุบันอย่างไม่เกรงกลัว
เรน และเมฆเองก็คงไม่เคยเจอฟรายเดย์ แต่อาจจะได้ยินชื่อเสียงมาบ้าง
ฟรายเดย์ กับไดซ์เงียบลงถนัดตา วอยซ์เหลือบตามามองชายหนุ่มทั้งสอง
“นี่ๆ พวกนายว่าไงนะ อยู่ทรีโอริสมั๊ย”
หวันเริ่มเปิดโรงคลายความเงียบ แต่ชื่อร.ร.ทำให้พวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายที่อยู่ในบริเวณนั้นนิ่งเงียบและรอฟังต่อ
ทำให้บรรยากาศไม่คลายความกดดันลงเลย
“อือ..ใช่ๆ”
เมฆพูดตอบ ฟินเริ่มทำท่าสนใจมากขึ้น
“แล้ว...ร.ร.นายน่ะ..มี..”
ชั้นสะกิดฟินนิดหน่อยให้มันพูดดีๆ
“มีอะไรหรอ”
เรนทำหน้าสงสัยขึ้นมา  เมฆเองก็ทำหน้าเหมือนประเมิน
“มีคนหล่อรึเปล่า ”
..เงียบ..สงบเลย... ฟรายเดย์หยิบขนมเข้าปาก ลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินตรงมาที่โต๊ะที่เรานั่งอยู่
“สาลี่ หลี่หวัน มัฟฟิน สวัสดี”
ฟรายเดย์ทักทาย ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
พวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายที่อยู่ในลานกว้างทั้งหมด ขอย้ำอีกครั้ง ทั้งหมดนิ่งเงียบ และให้ความสนใจมายังโต๊ะของเรา
ฟรายเดย์ หัวหน้า Destiny  ก้าวเข้าไปใกล้สมาชิก แก๊งG.K.
“หวัดดีเจ๊”
หวันพูดแบบกวนๆ
“ว่าไง”
ฟินยิ้มให้
“สวัสดี”
ชั้นพูดทักตอบง่ายๆ
“นี่ใครหรอ”
ฟรายเดย์พูดแล้วมองไปทางเรน และเมฆอย่างไม่เกรงกลัว
“นี่เรน นั่นเมฆ อยู่ร.ร.ทรีโอริส”
ฟินพูดถึงชื่อร.ร.เพื่อย้ำความมั่นใจให้หัวหน้า
“หรอ ยินดีที่รู้จักนะ เราชื่อ เดย์ อยู่ฟีโรโซ่”
ฟรายเดย์ยิ้มๆให้ เรนกับเมฆก็ยิ้มบางๆตอบ
“ยินดีที่รู้จัก”
เรนพูดยิ้มๆ
“อ้อ จริงสิ พี่ชายชั้นล่ะ”
ชั้นถามเรน กับเมฆ  ลืมไอ้เฮียสองตัวไปเลย
“ออ คงอยู่กับเฮียชาน่ะ”
เมฆผู้น่าสงสาร อยู่ถ่ำเสือ ยังพูดชื่อหัวหน้าแก๊งตัวเองออกมาอีก
ฟรายเดย์คงปล่อยพวกนายไปหรอก  ถึงแก๊งพวกเราทั้ง 2 แก๊งจะไม่มีเรื่องกัน แต่หัวหน้าคนปัจจุบัน..
ของผีเสื้อปีกดำ..มันไม่แน่..
“ขอนั่งด้วยนะ”
ฟรายเดย์นั่งลงข้างๆหลี่หวัน สีหน้ายังคงปกติยิ้มแย้มแจ่มใสดี
“พี่ชายเราทำอะไรบ้างหรอ อย่าบอกนะว่าวันนี้ออกไปเล่นเกมส์อีกน่ะ”
ไอ้เฮียไม้ยิ่งบ้าเกมส์อยู่ ..โตเป็นกระบือไถนา เขายาวแล้วยังจะมาเล่นเกมส์อีก
“เปล่าหรอก วันนี้แก๊งเราไปอัดกับแก๊งอื่นมาน่ะ”
ไอ้หยา..เรนนายโง่หรือเซ่อ
เออ..พวกนายไม่รู้นี่หว่า ว่าพวกเราอยู่แบล็กบัตเตอร์ฟราย..
ฟรายเดย์หรี่นัยน์ตาลงเล็กน้อย แล้วพูดลองเชิง
“ไปอัดกันหรอ อันตรายแย่เลย”
“ไม่หรอก ยังไงแก๊งเราก็ชนะอยู่แล้ว”
เมฆพูดต่อ อย่าไม่รู้สึกรู้สา มัฟฟิน กับหลี่หวันเองก็นั่งฟังเงียบๆ
“พี่ชายชั้นไปเตะไปต่อยกับคนอื่นเป็นด้วยหรอ เห็นเป็นแต่ไถนา”
“ห๊ะ พี่ชายเธอน่ะ..จะบอกว่า..ตัวเต็งของแก๊งเชียวนา”
หนูเมฆลอยยังคงไม่รู้เรื่องต่อไป
“แล้วอัดกันเพราะอะไรอ้ะ แล้วอัดกันมันเป็นยังไงหรอ”
ฟินพูดด้วยใบหน้าไร้เดียงสา
กูรู้นะ..ถ้าอย่างมันน่ะ ไร้เดียงสา หึ  ตลกเลย คนทั่วโลกคงโง่ตายแล้ว
“ก็ไงดีอ้ะ แบบว่าท้าต่อยอ้ะ ประมาณนั้น”
เรนพูดตอบ  แล้วตามด้วยเมฆ
“เล่าให้ฟังเอามั๊ย สนุกนะ”
“อื้อ อยากฟัง เล่าทีนะ”
ฟรายเดย์พูดอย่างสนุกสนาน
เมฆ กับเรนเล่าเรื่องต่างๆของแก๊งที่มีเรืองกับแก๊งอื่น โดยฟรายเดย์นั่งฟังเงียบๆ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีครับ ผมชื่อ ใบไม้ นะครับ  ผมมีฝาแฝดอีกคน ชื่อ ต้นสน มันเกิดก่อนผมแค่ 1 นาที หน้าตาเราคล้ายๆกัน
เน้นนะ คล้ายๆ เพราะว่าผมหล่อกว่า จริงมั๊ยครับ
ตอนนี้ผม กับเฮียสนไปส่งสาลี่เสร็จแล้ว เอ่อ..สาลี่นี่ น้องสาวครับ มันเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น เป็นน้องสาวที่โหดร้าย
มาก อย่าพูดถึงเลย
หลังจากที่ส่งไอ้ลี่แล้ว เราสองคนก็ไปจอดรถแถวๆร.ร.ฟีโรโซ่ของไอ้ลี่น่ะแหละ 
ถึงสาลี่จะเป็นน้องสาวที่โหดร้ายแค่ไหน แต่ก็เป็นน้องสาวผม เลยต้องคอยตามดูแล
เห็นบอกว่าจะไปอัดกับใคร เลยตามมาดูซักหน่อย ว่าไม่เป็นอะไรมาก
“เฮ้ย เฮียสน นี่กี่โมงแล้วอ้ะ ทำไมพวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายยังไม่ออกมาซักที”
เฮียสนหันมามองหน้าผม แล้วยกมือถือตัวเองขึ้นมาดู
“บ่ายโมง 15 นาที”
“พวกนี้ไม่ค่อยตรงเวลาเลย”
เฮียสนพยักหน้าเนิบๆแบบเห็นด้วย
ผม กับเฮียสนรอพวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายซักพัก มือถือสุดที่รักของผมก็สั่น ทำให้ต้องกดรับ
“ว่าไง ไอ้น้อง”
“น้องมึงชื่อสาลี่ กูชื่อ ชา”
ไอ้ชาโทรมาครับ..มันหล่อนะ แต่ผมว่าผมหล่อกว่า..จะยังไงก็ช่าง ผมหล่อที่สุด
“แล้วว่าไงล่ะ”
“วันนี้กูจะยกแก๊งไปอัดกับแก๊งเวย์  เมื่อกี้เพิ่งไปท้ามันมา”
แล้วมึงจะบอกกูทำไมวะ..
แก๊งเวย์ เป็นฉายาที่เรียกกัน ความจริงแล้วแก๊งนี้ชื่อ ไวโอเลน แปลว่าความรุนแรง
มันเป็นคู่อริกับแก๊งผม ที่มีฉายาว่า เกรย์คีย์ ที่ไอ้สาลี่ชอบล้อนั่นแหละ ความจริงแล้วเกรย์คีย์คือสัญลักษณ์แก๊งครับ
เป็นลูกกุญแจอันเล็กๆ สีเงิน 
“แล้วทำไม”
“อ้าว ก็มึง กับไอ้สนต้องมาด้วยไงวะ เดี๋ยวจะอัดกันตอนบ่ายโมงครึ่ง มึงต้องมาเดี๋ยวนี้โว้ย”
เฮ้ย กูอยู่ในสถานการณ์ดูแลน้องสาวอยู่เว้ย
“ไม่เว้ย กูไม่ว่าง เฮียสนก็ไม่ว่าง”
“งั้นมึงบอกมาว่าอะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่างธุระของมึง กับแก๊ง”
น้องสาวกูสำคัญกว่า..
“ธุระ”
“งั้นมึงบอกมาธุระอะไรสำคัญกว่าแก๊งวะ”
“ดูแลน้อง”
ไอ้ชามันสบถอะไรซักอย่าง แต่กูรู้นะ มันด่ากู
“น้องสาวมึงโตแล้วนะเว้ย มาเดี๋ยวนี้  กูพนันกับมึงไว้เลย ถ้าสาลี่บาดเจ็บล่ะก็กูจะจ่ายค่าพยาบาลให้”
“ไม่ค่อยคุ้มเลยว่ะ ชา”
“ถ้างั้นเอางี้ กูให้มึงพันนึง แล้วก็จ่ายค่าพยาบาลให้ด้วย ถ้าน้องสาวมึงบาดเจ็บ พนันได้เลยว่าสาลี่ไม่เป็นไร”
โอ้ เงินๆ 
“ตกลง แค่นี้นะ เดี๋ยวกูจะไปหามึงภายใน 10 นาที”
สิ้นสุดการสนทนา หันไปบอกเฮียสนที่มองมาเป็นเชิงถาม
“ชาเรียกรวมแก๊ง”
“แล้วสาลี่..” ก่อนที่สนจะพูดจบประโยคใบไม้ก็กระชากมือพี่ชายแล้ว วิ่งขึ้นรถของตัวเอง
“ไปเว้ย”
ต้นสนงงๆ แล้วขับตามไป
“อะไรของมึงวะ แล้วสาลี่ล่ะ”
เฮียสนถาม
มึงจะสงสัยอะไรมากมายวะเนี่ย เงินนะมึง  ไม่สำคัญเรอะ
“พันนึงของกู ของมึง..ศูนย์บาท”
ผมตอบง่ายๆ เฮียสนมันทำหน้างงกับประโยคสุดท้าย
ต้นสนงงเล็กๆ แต่ไม่คิดจะเอ่ยถาม จนขี่มอร์เตอร์ไซด์มาถึงรั้วโรงเรียนทริโอริส
สมาชิกแก๊งเกรย์คีย์ยืนรอรวมกันอยู่ที่รั้วประตูโรงเรียน มีชายืนนำอยู่ข้างหน้า  มันยักคิ้วกวนๆมาให้ครั้งนึง
“นัดเลี้ยงเอ็มเคกันเหรอ”
ต้นสนพูดก่อนจะกวาดสายตาไปมองคนในแก๊งตัวเอง
“เออ มาช้าชะมัดพวกแกนี่”
เทมส์ส่ายหัวอย่างระอา แล้วมันก็ลูบหัวเด็กผู้หญิงคนนึงที่ยืนอยู่ข้างๆมัน เด็กผู้หญิงคนนี้อายุเท่ากับสาลี่ ชื่อ ไทม์ น้องสาวมัน หน้าตาก็ดี เสียแต่นิสัยโครตเถื่อน จะดีก็ต่อเมื่ออยู่กับพี่มัน ต่างจากไอ้ลี่ จะอยู่หน้าอยู่หลัง มันก็ยังเถื่อนได้
“แล้วพวกมึงมาทำอะไรกันเนี่ย” เฮียสนผู้ไม่รู้ชะตากรรมยังไม่รู้ต่อไป  ชาทำหน้ารำคาญนิดหน่อย
“ไอ้ไม้ มึงยังไม่บอกพี่ชายมึงหรอ”
เทมส์ถาม ยังคงลูบหัวน้องสาวตัวเองเล่นอยู่ ก่อนที่ไทม์จะเอามือปัดออก
ใบไม้ยักไหล่ ไม่สนใจ ต้นสนเลิกคิ้วขึ้นมองไปทางน้องชายฝาแฝดตัวดี
“จะอัดกับแก๊งเวย์ ตอนบ่ายโมง สามสิบ”
ใบไม้พูดเบาๆพอที่จะให้คนแถวนั้นได้ยิน 
“จะไปแล้วด้วย พวกนายนี่ชักช้า”
เสียงผู้หญิงอีกคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ 
“ไม่เอาน่า ออทั่ม ก็มาแล้วนี่ไง”
ใบไม้พูดเสียงสำนึกผิด  ออทั่มส่งสายตามาดร้ายเล็กน้อยมาให้
“ไปเลยนะเว้ย ขึ้นรถๆ ไปๆ ที่ลานร.ร.วัชเรนทร์ธรา”
ชาตะโกนสั่งก่อนจะเดินไปที่มอร์เตอร์ไซด์ตัวเอง  แต่ก่อนที่จะขึ้นขี่ ก็มีเสียงโต้ถามขึ้นมา
“สรุปไปเข้าถ่ำเสือใช่มั๊ยเนี่ย”
เจ้าของเสียงคือ ฟรังค์ รุ่นน้องชาติฝรั่งเศส  ชาตะโกนตอบสั้นๆง่ายๆกลับมาว่า
“เออ”
หลังจากนั้นแก๊งเกรย์คีย์ทั้งหมดก็ไม่อยู่ที่ร.ร.วัชเรนทร์ธรา ร.ร.ของแก๊งไวโอเลน หรือเวย์
“เฮ้ ไอ้ชา!!”
เสียงผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเล่นฟุตบอลในสนามของ ร.ร.นั้นตะโกนเรียกให้หัวหน้าแก๊งเกรย์คีย์หันหน้าไปมองตามเสียง
“เกรย์คีย์อย่างพวกมึงมาก่อนเวลาเป็นด้วยหรอวะ”
ออทั่มเหลือบตาไปมองนาฬิกาข้อมือที่ เข็มสั้นชี้เลข 5  เป็นเวลา บ่ายโมง 25 นาที มาก่อนเวลา 5 นาที
“เออ เพิ่งรู้หรอว่าพวกกูรักษาเวลา ดีกว่าไอ้หมาอย่างมึง”
เฮียเทมส์เข้าโหมดได้เวลาสติแตก เปลี่ยนบุคลิก
ตอนนี้อารมณ์ของแต่ละคนคงพร้อมอัดเต็มที่แล้ว จากการกระทำของแต่ละคน
ไอ้เทมส์ที่ปกติเป็นคนสุภาพเริ่มมีอาการเคือง  เรนกับเมฆรุ่นน้องสองคนที่ปกติอยู่ในร.ร.จะกวนทะเล้น นอกจากอยู่ต่อหน้าผู้หญิงเริ่มมองกลุ่มเวย์ที่ทำหน้าไม่รู้ร้อนด้วยแววตามุ่งร้าย ก่อนจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกวนตีนตามฉบับของพวกมัน
ฟรังค์ กั๊ส เฮียฟอล และฟลุค ก็พยามสงบสติ รวบรวมลมปรานภายใน เตรียมลุย
พวกผู้ชายคนอื่นๆก็มีอาการต่างๆกันไป  ส่วนชายังคงทีท่าสงบนิ่งเงียบอยู่เช่นเดิม
ส่วนพวกผู้หญิง อย่าง ออทั่มกับไทม์ ที่เริ่มกวาดตาดูผู้ท้าชิงหญิงที่นั่งหัวเราะคิกคักอยู่ที่เก้าอี้ไม้ 
เด็กผู้หญิงอีกหลายๆคนก็อยู่ในสภาพเดียวกัน
พวกผู้หญิงตัวเต็งอย่างพี่ดรีม อีฟนิ่งที่เป็นคนนำทีมหญิงก็ยืนอมลูกอมอย่างสบายอารมณ์
“เหอะ หมาหรอ อย่างน้อยก็ภักดี ฉลาดกว่าควายอย่างพวกแกก็แล้วกัน”
ผู้หญิงผิวเข้มอีกคนพูดขึ้น ไอ้ชาจ้องหน้าผู้หญิงคนนั้นเขม็ง
“งั้นพวกแกรู้มั๊ย ว่าทำไมถึงมีแต่คนบอกว่าควายโง่..”อีฟนิ่ง พูดเสียงเย็นๆ
ผู้หญิงคนนั้มองกลับมาด้วยแววตากวนประสาท ก่อนจะตอบกลับมา
“เพราะมันโง่เหมือนพวกแกไงยะ”
“เปล่าๆ..ที่ว่าควายโง่น่ะ เป็นเพราะมันกินหญ้าเป็นอาหาร ตามแต่ก่อนแล้วเค้าว่าให้กินอาหารประเภทโปรตีนถึงจะฉลาด แต่ควายกินหญ้าก็เลยบอกว่าควายโง่ แล้วโง่ยังไม่พอ มันยังฉลาดกว่าพวกแก เพราะอย่างนั้นชั้นกินว่าควายมันฉลาด ใช่แล้ว ฉลาดกว่าพวกแกหลายเท่าตัว”
อาแมน ยอมรับในความสามารถท่องบทภาวนาเพื่อมวลชนไถ่ชีวิตโคกระบือ
ยังพวกผู้หญิงฝ่ายนั้นเริ่มเขม้นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
“พวกแกว่าไงนะ อีชะนี นังอีฟนิ่ง คราวนี้ถ้าชั้นตบแกไม่เลือดกบปาก ชั้นไม่ยอมหยุดแน่”
ผู้หญิงผมสั้นอีกคนยืนขี้นมาชี้หน้าด่าอีฟนิ่ง
“แหมๆ อะไรกัน น้องแวว พี่อาวุโสกว่านะ ชะนีอะไรล่ะ  นังส้น ตีน”
อีฟนิ่งด่ากลับไปอย่างหน้าระรื่น ผู้ชายหลายคนเริ่มถอนหายใจ
ปล่อยให้มันด่ากันให้จบคงไม่ได้ เพราะท่าทางจะอีกนาน
เทมส์เริ่มเปิดศึกคนแรก วิ่งเข้าไปต่อยกับผู้ชายฝ่ายนั้นก่อน ตามด้วยไอ้เรน กับเมฆ ที่คงสงบสติจนแตก ฝ่ายผู้ชายอีกหลายคนวิ่งตามไปอัด พวกผู้หญิงก็เริ่มเปิดฉากบ้าง อีฟนิ่ง กับพี่ดรีมยังนิ่งอยู่
หวัดดีค่า ^W^ แข็งใสมาอัพเรื่องแล้วนะคะ เลือกอัพวันนี้ เพราะเป็นวันหนึ่งในปี ที่แข็งใสชอบที่สุดเลย
Merry Christmas & Happy New Year ค่า  มีความสุขความเจริญเบิกบานสำราญใจกันมากๆมายๆนะคะ สุขภาพดีแข็งแรง มีเงินมีทอง
มีแฟนสวยๆหล่อๆ งิ้วว~~  โชคดีนะคะ
สำหรับการสอบก็ขอให้สอบผ่านได้คะแนนดีๆ พอใจกับผลสอบ โชคดีในการสอบทุกท่านนะคะ
^^\" ขออภัยที่ดองซะนาน เผอิญน้ำแข็งมีปัญหากับบทของเฮีย..นิดหน่อย ตอนนี้เคลียร์ได้แล้ว ก็เลยเอามาลงให้ยลกันนะจ๊ะ
ถ้ามีข้อผิดพลาดต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยเน้ออออ  รักผู้อ่านทุกคนคร่า ขอบคุณทุกโหวต ทุกคอมเม้น นะคะ รักเธอเสมอ..
                                                                                                                                  ~~น้ำแข็งใส~~
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ยินดีที่รู้จักนะ ทั้งสองคน”เรนพูดยิ้มๆ 
“อื้อ หวัดดีนะ”
หลี่หวันพูดง่ายๆ แล้วหันไปพูดกับพี่ปรายอีก “เจ๊ปรายนานแล้วนะ”
“หวัดดี”
มัฟฟินพูดง่ายกว่า..
“สวัสดี  อยู่ร.ร.เก่าของสาลี่ใช่มั๊ย อะไรนะ..”
เมฆเริ่มชินกับบรรยากาศอารมณ์ไม่ดี
“ฟีโรโซ่..ฟีโรโซเฟอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล”
ฟินตอบแล้วลุกไปเร่งพี่ปรายถึงที่
“มาแล้วๆ เร่งนักเร่งหนา รอหน่อยสิ เด็กๆนี่ใจร้อน”
พี่ปราย กับฟินเอาน้ำปั่นที่สั่งไว้มาเสริฟให้ที่โต๊ะ น้ำปั่นที่เรน กับเมฆสั่งก็ถูกนำมาเสริฟเช่นกัน
ชั้นคว้าแก้วน้ำมานั่งดูด
อา..อารมณ์ดี มีความสุข สุขีสโมสร
อารมณ์ดีแล้ว เย้ๆ
น้ำเย็น ดีจัง
แล้วดูท่าทางฟิน กับหวันก็อยู่ในความรู้สึกเดียวกัน คืออารมณ์ดีขึ้นทันตา
อย่างที่เคยบอกไว้ว่าพวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายมีหน้าตาเป็นอาวุธ หน้าตาอารมณ์ความรู้สึกเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว
“เอ่อ..เมื่อกี้พวกนายว่าไงนะ อ้อ ชื่อเรน กับเมฆใช่มั๊ย อยู่ร.ร.อะไรกันหรอ”
เฮ้ย ไอ้ฟินอารมณ์ดีแล้วพูดมากนะ
“อ่า..ก็เออ..ทริโอริสน่ะ”
เมฆ  ตามอารมณ์มัฟฟินไม่ทัน เลยพูดตะกุกตะกักแบบงงๆนิดหน่อย
“อ้อ ทรีโอ  อร่อย เอ๊ย ดังนี่ ที่เค้าบอกกันว่าในโรงเรียนที่หรูไฮมากเลยใช่มั๊ย”
หวันพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชม แต่หน้าตามันไม่ค่อยจะชื่นชมเท่าไหร่เลย
แล้วอะไรวะ หรูไฮของแก
อย่าบอกว่ามาจาก หรูหราและไฮโซ นะเว้ย
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก”
เรนพูดแล้วดูดน้ำต่อ
“เอ้อ นายที่ชื่อเรนน่ะ  หน้าตาดีนะ”
มัฟฟินเงยหน้าจากที่ดูดน้ำปั่นอย่างเมามันขึ้นมาพูด แล้วกลับไปสนใจน้ำปั่นของมันต่อ
“ขอบใจ”
เรนยิ้มๆให้ เมฆส่งสายตาริษยาไปให้นิดหน่อย
“เออ..นี่ๆ นายอยู่ร.ร.นั้นงั้นก็รวยสิ”
หวันพูดอย่างสนใจ
นี่แก..ติดนิสัยไอ้บ้านีทมาอีกคนแล้วหรอ..
งกซะ..
“อ่า..ถ้าเราอยู่ปรีชญาประสิทธิ์แล้วรวย  แล้วเธออยู่ ฟีโรโซ่ นี่ไม่คุณหนูมหาเศรษฐีเหรอ”
เมฆพูดอย่างหวาด พอจะคาดเดาเรื่องต่อไปได้
“ไม่หรอกๆ นายรวยแน่ๆเลย ใช่มั๊ยๆ”
ฟินมันพูด ทำตาเป็นประกายราวกับเห็นสมบัติ  เมฆ กับเรนมองหน้ากัน
รู้สึกขายขี้หน้าอย่างบอกไม่ถูก..
ไอ้นีท เข้าทรงรึไงวะ..
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก”
เรนพูดยิ้มแหยๆ 
“นายนามสกุลอะไรล่ะ”
เฮ้ยๆ แกสองคนไปยุ่งอะไรกับตระกูลเค้าอีกล่ะ
“เอ่อ..วิสุทธิ์วโรดม..”
เรนตอบแบบด้วยน้ำเสียงงงๆปนไม่แน่ใจว่าพวกนี้อยากเอาไปทำอะไร
“นายล่ะ”
หลี่หวันหันมาถามเมฆ ในขณะที่มัฟฟินนั่งพูดทวนนามสกุลของเรน
“..ศิริวิวัฒน์..”
สีหน้าที่เป็นคิ้วชนกันเกิดขึ้นบนใบหน้าเกลี้ยงเกลาของเมฆ
“เออ..สรุปพวกนายรวยแน่ๆ ชั้นมั่นใจ”
ไอ้ฟินพูดตัดการสนทนา ไต่ถามนามสกุล
“นาย”
หวัน กับฟินชี้มาที่เมฆที่นั่งงงๆอยู่
“ชั้น”
เมฆชี้เข้าหาตัวเอง แล้วถามเสียงสูง
“ไปเที่ยวกันเถอะ นะๆ อยากซื้อของอ้ะ ไปด้วยกันนะ  เออ..หวันแกบอกว่าจะดูหนังใช่มั๊ย ไปๆ นะจ๊ะเมฆนะ ไปด้วยกันน๊า”
ฟินมันพูดอ้อนวอน ซะหวานอย่างที่มันไม่เคยทำมาก่อน
“นั่นสิๆ นะๆ เมฆ นะ เราอยากดูหนังอ่ะ ไปด้วยกันน๊า”
หลี่หวัน กับมัฟฟินลากเมฆวิ่งออกนอกร้าน ทั้งๆที่เจ้าตัวยังงงๆไม่รู้เรื่อง
และชั้นกับเรนก็นั่งอยู่กันแค่ 2 คนในโต๊ะนั้น
“นี่..เพื่อนเธอเป็นอะไรมากเปล่า”
เรนถามน้ำเสียงกวนกว่าเดิมเยอะ
เป็นอะไร มันดูเหมือนคนมากไปหน่อยเรอะ
“องค์ลง”
ชั้นตอบสั้นๆ เรนขยับรอยยิ้มที่มุมปากเล็กๆ น่ารัก เข้ากับหน้าหล่อๆของเค้ามาก
“จริงหรอ เพื่อนเธอเป็นแบบนี้ทุกครั้งรึเปล่าเนี่ย..แล้ว..เมฆ..เพื่อนเราไม่เป็นไรใช่มั๊ย”
ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงลื่นไหลไปเรื่อย
“คงจะไม่”
เอาล่ะสิ..คู่เกย์อีกคู่แล้ว..
แก๊งเกย์นี่มันเป็นแก๊งเสริมสร้างความรักคู่เกย์รึเปล่าฟะ ไอ้ใบไม้ กะเฮียสนก็คู่นึง
“เหรอ แล้วจะไงต่อ”
“เอาไงน่ะหรอ..หึหึ..”
“อะไรหรอ”
“แหม ไม่น่าถาม นายต้องเป็นคนจ่ายค่าน้ำไงเล่า”
เรนทำหน้าอึ้งเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเบาๆ
“ไหงงั้นล่ะ เพื่อนเรา 1 เพื่อนเธอตั้ง 2 ต่างคนต่างจ่ายก็แล้วกัน”
นายช่างเป็นสุภาพตัวผู้
“พี่ๆ แตงโมปั่นน้ำแดงค่ะ”
เสียงหวานๆของใครบางคนดังขึ้นหน้าร้าน ก่อนที่เสียงนั้นจะพุ่งหลาวมาที่โต๊ะเล็กๆที่เรานั่งอยู่
“เรน นั่นเรนใช่มั๊ย..เรนจริงๆด้วย”
เจ้าของเสียงเป็นผู้หญิงหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู จิ้มลิ้ม ผมยาวปะบ่า แต่งตัวน่ารัก วิ่งมาที่โต๊ะที่เรนนั่งอยู่
ถ้าสายตาของชั้นไม่พลาดไปล่ะก็ เรนทำหน้าเหมือนว่ารู้สึกแย่
“ว่าไง เดล”
เรนพูดยิ้มๆ แต่ยิ้มนั้นมันดูเหมือนว่าจะเป็นยิ้มที่ปั้นขึ้นมา 
พวกการแสดงมารยาตบตาคนน่ะ ผ่านมานตักต่อนักแล้ว
เรน..
รอยยิ้มของนายต้องบอกได้ว่าเป็นรอยยิ้มที่ค่อนข้างที่ดูรำคาญเล็กๆนะ
“มาทำอะไรหรอ เรน”
ผู้หญิงที่ชื่อ เดล ถามยิ้มๆ
มาเล่นหมากเก็บมั้ง..
รอยยิ้มที่เรียกได้ว่ายิ้มเยาะ
ยังดีนะที่เธอไม่ได้ยิ้มมาให้ชั้น ไม่งั้นชกโครม..
“ก็มากับเพื่อนน่ะ”
นายมันตอบไม่ตรงคำถามนะ...
เดลเลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อย แล้วหันมามองชั้น ก่อนจะหันกลับไปที่เรนอีก
“นี่ ใครหรอ”
เมียน้อย พ่อ  มึงไง กราบกูซะ
“สาลี่ เป็นน้องของ..”
เรนยังพูดไม่ทันจบ ยัยเดลนั่นก็โพล่งพูดต่อ อย่างกับไม่คิดจะฟังคำตอบเลย
“แฟนใหม่หรอ เร็วดีนะเรน  เราเพิ่งเลิกกันไปแค่สัปดาห์เดียว..ไม่นึกว่า..”
ก่อนจะสิ้นเสียงยัยนั่นเหลือบสายตามามองชั้น
ถ้าชั้นต่อยซักที มันจะเกิดเรื่องมั๊ยนะ..
“น้อง น้ำที่น้องสั่งได้แล้วนะ”
เสียงพี่ปรายดังขึ้น เดลหันไปส่งยิ้มให้พี่ปราย แล้วยื่นเงินให้ก่อนจะรับน้ำมา และหันกลับมาที่เรนอีก
“คือว่า..สาลี่เป็น..”
เรนสบตาชั้น พอจะเข้าใจว่าหมายถึงอะไร..
ชั้นยักคิ้วเป็นการส่งซิกแนว  เรนยิ้มรับ
ขอร้องถูกคนแล้วไอ้น้องเอ๋ย จงรู้ซะว่า สาลี่ คนนี้แสดงละครได้เก่งที่สุดในโลกหล้า
“เอ่อ..เรน คนนี้ที่เล่าให้ฟังใช่มั๊ย โห เจอจริงๆแล้วนึกไม่ถึงเลยนะ ว่าจะ..”
ท้ายประโยคละไว้ในฐานที่คนโง่อย่างยัยหน้าป้าแช่มอย่างมันไม่เข้าใจ
“ว่าอะไร”
เดลถามตวาดๆหน่อย จับอารมณ์โกรธได้ชัดเจนเลย
“ว่าอะไรก็ช่างเถอะ ว่าแต่เดลเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมต้องมาตวาดสาลี่ด้วย”
เรนถามตอกกลับไป เดลหน้าเสียนิดหน่อย  แล้วทำเป็นงอนๆ
ยิ่งเห็นยิ่งหน้าตบ...
“ลี่ ไปเถอะ”
เรนกระชากแขนชั้นให้ลุกขึ้น แล้วควักแบงค์ร้อยให้พี่ปราย แล้วเดินออกจากร้าน เดลตะโกน กรี๊ดๆ ตามหลังออกมา มีคนมองหลายคน
เฮ้..อยากเถียงต่ออ้ะ...ยังไม่ทันเปิดโรงเลย..ตั้ง ยังไม่ได้ต่อเลย...
เรามาหยุดที่ม้านั่ง ที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านมากมายอะไร
“นั่นเดล แฟนเก่าเรา ขอโทษด้วยนะที่เค้าเสียมารยาท”
นี่นายขอโทษแทนยัยหน้าป้าแช่มทำไม
“ไม่ต้องหรอก ความจริงแล้ว ถ้ายัยนั่นไม่ได้เป็นแฟนเก่านาย  เราจับตบไปนานแล้ว”
“อืมม์...”
“เลิกกันแล้วหรอ”
“อือ..”
“ดีใจด้วยที่เลิกได้”
“อะไรนะ”
“เปล่า”
...ความจริงน่าจะดีใจนะที่แกะป้าแช่มอย่างยัยนั่นออกไปได้....
“นี่ สาลี่”
เรนเรียกเบาๆ  ชั้นหันหน้าไปสบตา แล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“คบกันมั๊ย”
...ง่ายดีนะ...
“ตกลง”
“ทำไมง่ายจังง่ะ”
เรนถามด้วยน้ำเสียงเป็นเชิงว่าไม่น่าเชื่อ
“แล้วทำไมต้องยากด้วย”
“แล้วทำไมต้องไม่ยากล่ะ”
“แล้วทำไมต้องไม่ง่ายล่ะ”
รู้จักมั๊ย กวนน่ะ..
“งั้น เหตุผลล่ะ”
เรนยังซักไซ้ต่อ
เหตุผลหรอ..ตอนนี้ชั้นอารมณ์ดี แล้วยังอยู่ว่างๆ  และนายก็หน้าตาดีพอที่จะควงแล้วไม่อาย
“นายหน้าตาใช้ได้”
อันที่จริงต้องบอกว่า ไร้ซึ่งเหตุผล
“ขอบใจนะ แต่..แค่นั้นหรอ”
แค่นั้นเดะ..พูดแบบนี้ท้าต่อยปะ..
“อือ หรือจะให้บอกว่าชั้นพิศวาสนายตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นดีล่ะ”
“ก็ใช่ไง แบบนั้นมันดูมีเหตุผลมากกว่า”
เรนพูดยิ้มกว้าง
นายนี่มัน..หลงตัวเอง..
“มันยากนะ เพราะว่าไม่ว่าจะยังไง ชั้นก็คิดว่าพี่สนหล่อกว่า”
เรนทำหน้าไม่อยากเชื่อนิดหน่อย
“เอาเถอะ ยังไงค่านิยมตัวชั้น ก็มากกว่าพี่ชายเธอล่ะกันนะ”
หมอนั่นยิ้มกวนๆมาให้
“พวกที่โหวตให้นายมันตาบอด อ้อๆ รู้แล้วที่พี่สนได้คะแนนน้อยกว่า ก็เพราะไอ้ไม้มันงี่เง่า แล้วคนอื่นก็รวมพี่สนเข้าไปด้วย คะแนนเลยน้อย”
“ห๊ะ แต่ว่า..ชั้นว่าพี่ไม้ของเธอ คนชอบเยอะจนตั้งเป็นแฟนคลับได้เลยนะ”
ชั้นนั่งลงบนม้านั่ง แล้วตอบกลับไป
“เยอะจนตั้งเป็นคณะลิเกได้น่ะสิ”
“พี่สนก็เยอะนะ เห็นว่ามีพวกผู้หญิงขอถ่ายรูปบ่อยๆ วันงานร.ร.น่ะ  พอๆกับเฮียไม้เลย”
ว่าไงนะ...ไอ้ผู้หญิงโฉดใจทรามหน้าไหนกล้าเข้ามาใกล้พี่ชายกู..
“มันเป็นใคร ผู้หญิงที่ว่าน่ะ”
“ไม่รู้ แต่พวกรุ่นพี่ม.6 น่ะ”
“มันต้องตาย”
เรนเลิกคิ้วซ้ายขึ้น
“เธอเหมือนที่เฮียไม้พูดจริงๆเลย”
อะไร มันนินทาชั้นเรอะ..
“พูดว่า..”
“ว่าสาลี่หวงพี่สนมาก ขนาดเพื่อนผู้หญิงยังไม่ค่อยอยากจะให้เข้าใกล้เลย”
“หมายถึง 3 ปีก่อนงั้นสิ”
“อะไร 3 ปีก่อน”
เรนทำหน้าสงสัย
“ไม่มีอะไรหรอกแค่อัดผู้หญิงที่เข้ามาทำสำออยใกล้ๆพี่สนแค่นั้นเอง”
“ผู้หญิงนี่รุ่นพี่งั้นหรอ”
นายนี่สงสัยอะไรมากมาย
“เออดิ”
“ทำไมเธอโหดจังง่ะ..ว่าแต่โทรตามเพื่อนเธอก่อนดีมั๊ย”
ใครว่าโหด อุตส่าห์ออมมือให้เห็นว่าเป็นรุ่นพี่หรอก สำออยแดกอ้ะเด้
ชั้นควักมือถือออกมาจากกระเป๋าเป้ แล้วกดเลือกรายชื่อ
ที่ระบุชื่อเจ้าของหมายเลขว่า หลี่หวัน
สัญญาณจากโทรศัพท์ดังประมาณ 5 ครั้ง เสียงหวันก็ดังผ่านเข้ามา
“ว่าไง ลี่ แกอยู่ไหนอ้ะ”
แกน่ะสิไสหัวไปไหน..
“แกนั่นแหละ อยู่ไหน”
เสียงเน้นหนักที่คำสุดท้าย 
“อยู่เนี้ย”  ..กูจะตรัสรู้มั๊ยว่ามึงไปอยู่ไหน..
“หวัน ถ้าแกงี่เง่าอีกรอบเดียว..วันนี้แกงี่เง่ามามากเกินพอแล้ว อยู่ไหน”
“โธ่ ไอ้ลี่ แกอ่ะ ดูอย่างไอ้ฟินมันดิ มันยังHappyอยู่เลย เอาเป็นว่าเดี๋ยวเราไปรอแกที่ลานกว้างละกัน”
ลานกว้าง คือชื่อเรียกที่แบล็กบัตเตอร์ฟรายเรียกกันติดปาก
ความจริงคือไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร ก็เลยเรียกกันแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร
ลานกว้างเป็นลานว่างๆที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านเท่าไหร่
เป็นที่สิงสถิตย์ของพวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายตั้งแต่รุ่นอดีต จนถึงปัจจุบัน และจะต่อไปยังอนาคต
พวกสมาชิกแก๊งที่ออกจากร.ร.ไปแล้วก็ชอบมานั่งคุยกันที่นี่ บ้างก็มาดูน้องใหม่ บ้างก็มาหาเพื่อนเก่า
“โอเค งั้นแค่นี้”
หวันตอบรับสั้นๆนิดหน่อย แล้ววางสายไป
“ไปกันเถอะ”
สิ้นคำพูดก็กระชากมือเรน แล้วเดินตรงไปที่ลานกว้าง 
“ไปไหนหรอ สาลี่” เรนถาม แล้วยังคงเดินตามมาเรื่อยๆ
“ลานกว้าง”
“ที่ไหนอ้ะ”
“ไม่รู้”
ก็ไม่รู้จะตอบยังไงอ้ะ..ก็ที่นั่นอ้ะ ตรงนั้นน่ะ..
“อ้าว ไหงงั้นล่ะ” เสียงเรนพูดขึ้นมาเบาๆ
ซักพักเราสองคนก็มาถึงลานกว้าง มีพวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายนั่งอยู่เป็นกลุ่มๆ พวกที่นั่งอยู่ก่อนหยุดกิจกรรมต่างๆแล้วหันหน้ามามองเราสองคนเป็นตาเดียว
พวกนี้คนรู้จักทั้งนั้นแหละ..อ้อ..ฟรายเดย์ ไดซ์ วอยซ์ สอง และคนอื่นๆก็อยู่ พวกผู้ชายอย่างเฮียบอลก็นั่งเป็นกลุ่มรวมกัน
ชั้นยักคิ้วให้นิดหน่อย ไม่ให้เรนที่กำลังหอบอยู่เห็น  พวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายดูเหมือนจะเข้าใจ และเริ่มหันกลับไปทำกิจกรรมของตนต่อ
“เฮ้ๆสาลี่ เรน”
เสียงมัฟฟินดังขึ้น พวกมันเพิ่งมาถึง  เห็นได้ชัดว่าไถตังเมฆได้สนุกสนาน
“ไปไหนกันมาหรอ”
เรนเปิดฉากถาม หวันยิ้มๆ
“ถามเพื่อนนายสิ”
เรนหันไปที่เมฆ ซึ่งเมฆกำลังมองไปรอบๆลานที่พวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายนั่งเล่นกันอยู่ ทำให้เรนกวาดสายตามองตาม
พวกนายอย่ามาฉลาดแถวนี้..
“นี่ สาลี่ ที่นี่นี่ไหนหรอ” เมฆถาม ยังไม่ละสายตาไปจากพวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายที่ทำท่าไม่สนใจ
“ลานกว้าง”
ฟินตอบแทน 
“ไม่เคยมาเลยอ้ะ  มีที่แบบนี้ด้วยหรอ”
เรนพูดเรียบๆ
“ไม่แปลกหรอก ไม่ค่อยมีคนผ่านมาเท่าไหร่ นอกจากพวกนร.ฟีโรโซ่ที่มานั่งคุยกันบ่อยๆ”
หวันตอบ แล้วยักไหล่
“หรอ..อืมม์”
เรนตอบเบาๆ
“มานี่ๆ ม้าหินตรงนั้นว่าง”
ฟินต้อนพวกเราไปนั่งที่ม้าหินอ่อนข้างๆโต๊ะของฟรายเดย์ หัวหน้าแก๊งDestinyคนปัจจุบันอย่างไม่เกรงกลัว
เรน และเมฆเองก็คงไม่เคยเจอฟรายเดย์ แต่อาจจะได้ยินชื่อเสียงมาบ้าง
ฟรายเดย์ กับไดซ์เงียบลงถนัดตา วอยซ์เหลือบตามามองชายหนุ่มทั้งสอง
“นี่ๆ พวกนายว่าไงนะ อยู่ทรีโอริสมั๊ย”
หวันเริ่มเปิดโรงคลายความเงียบ แต่ชื่อร.ร.ทำให้พวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายที่อยู่ในบริเวณนั้นนิ่งเงียบและรอฟังต่อ
ทำให้บรรยากาศไม่คลายความกดดันลงเลย
“อือ..ใช่ๆ”
เมฆพูดตอบ ฟินเริ่มทำท่าสนใจมากขึ้น
“แล้ว...ร.ร.นายน่ะ..มี..”
ชั้นสะกิดฟินนิดหน่อยให้มันพูดดีๆ
“มีอะไรหรอ”
เรนทำหน้าสงสัยขึ้นมา  เมฆเองก็ทำหน้าเหมือนประเมิน
“มีคนหล่อรึเปล่า ”
..เงียบ..สงบเลย... ฟรายเดย์หยิบขนมเข้าปาก ลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินตรงมาที่โต๊ะที่เรานั่งอยู่
“สาลี่ หลี่หวัน มัฟฟิน สวัสดี”
ฟรายเดย์ทักทาย ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
พวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายที่อยู่ในลานกว้างทั้งหมด ขอย้ำอีกครั้ง ทั้งหมดนิ่งเงียบ และให้ความสนใจมายังโต๊ะของเรา
ฟรายเดย์ หัวหน้า Destiny  ก้าวเข้าไปใกล้สมาชิก แก๊งG.K.
“หวัดดีเจ๊”
หวันพูดแบบกวนๆ
“ว่าไง”
ฟินยิ้มให้
“สวัสดี”
ชั้นพูดทักตอบง่ายๆ
“นี่ใครหรอ”
ฟรายเดย์พูดแล้วมองไปทางเรน และเมฆอย่างไม่เกรงกลัว
“นี่เรน นั่นเมฆ อยู่ร.ร.ทรีโอริส”
ฟินพูดถึงชื่อร.ร.เพื่อย้ำความมั่นใจให้หัวหน้า
“หรอ ยินดีที่รู้จักนะ เราชื่อ เดย์ อยู่ฟีโรโซ่”
ฟรายเดย์ยิ้มๆให้ เรนกับเมฆก็ยิ้มบางๆตอบ
“ยินดีที่รู้จัก”
เรนพูดยิ้มๆ
“อ้อ จริงสิ พี่ชายชั้นล่ะ”
ชั้นถามเรน กับเมฆ  ลืมไอ้เฮียสองตัวไปเลย
“ออ คงอยู่กับเฮียชาน่ะ”
เมฆผู้น่าสงสาร อยู่ถ่ำเสือ ยังพูดชื่อหัวหน้าแก๊งตัวเองออกมาอีก
ฟรายเดย์คงปล่อยพวกนายไปหรอก  ถึงแก๊งพวกเราทั้ง 2 แก๊งจะไม่มีเรื่องกัน แต่หัวหน้าคนปัจจุบัน..
ของผีเสื้อปีกดำ..มันไม่แน่..
“ขอนั่งด้วยนะ”
ฟรายเดย์นั่งลงข้างๆหลี่หวัน สีหน้ายังคงปกติยิ้มแย้มแจ่มใสดี
“พี่ชายเราทำอะไรบ้างหรอ อย่าบอกนะว่าวันนี้ออกไปเล่นเกมส์อีกน่ะ”
ไอ้เฮียไม้ยิ่งบ้าเกมส์อยู่ ..โตเป็นกระบือไถนา เขายาวแล้วยังจะมาเล่นเกมส์อีก
“เปล่าหรอก วันนี้แก๊งเราไปอัดกับแก๊งอื่นมาน่ะ”
ไอ้หยา..เรนนายโง่หรือเซ่อ
เออ..พวกนายไม่รู้นี่หว่า ว่าพวกเราอยู่แบล็กบัตเตอร์ฟราย..
ฟรายเดย์หรี่นัยน์ตาลงเล็กน้อย แล้วพูดลองเชิง
“ไปอัดกันหรอ อันตรายแย่เลย”
“ไม่หรอก ยังไงแก๊งเราก็ชนะอยู่แล้ว”
เมฆพูดต่อ อย่าไม่รู้สึกรู้สา มัฟฟิน กับหลี่หวันเองก็นั่งฟังเงียบๆ
“พี่ชายชั้นไปเตะไปต่อยกับคนอื่นเป็นด้วยหรอ เห็นเป็นแต่ไถนา”
“ห๊ะ พี่ชายเธอน่ะ..จะบอกว่า..ตัวเต็งของแก๊งเชียวนา”
หนูเมฆลอยยังคงไม่รู้เรื่องต่อไป
“แล้วอัดกันเพราะอะไรอ้ะ แล้วอัดกันมันเป็นยังไงหรอ”
ฟินพูดด้วยใบหน้าไร้เดียงสา
กูรู้นะ..ถ้าอย่างมันน่ะ ไร้เดียงสา หึ  ตลกเลย คนทั่วโลกคงโง่ตายแล้ว
“ก็ไงดีอ้ะ แบบว่าท้าต่อยอ้ะ ประมาณนั้น”
เรนพูดตอบ  แล้วตามด้วยเมฆ
“เล่าให้ฟังเอามั๊ย สนุกนะ”
“อื้อ อยากฟัง เล่าทีนะ”
ฟรายเดย์พูดอย่างสนุกสนาน
เมฆ กับเรนเล่าเรื่องต่างๆของแก๊งที่มีเรืองกับแก๊งอื่น โดยฟรายเดย์นั่งฟังเงียบๆ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีครับ ผมชื่อ ใบไม้ นะครับ  ผมมีฝาแฝดอีกคน ชื่อ ต้นสน มันเกิดก่อนผมแค่ 1 นาที หน้าตาเราคล้ายๆกัน
เน้นนะ คล้ายๆ เพราะว่าผมหล่อกว่า จริงมั๊ยครับ
ตอนนี้ผม กับเฮียสนไปส่งสาลี่เสร็จแล้ว เอ่อ..สาลี่นี่ น้องสาวครับ มันเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น เป็นน้องสาวที่โหดร้าย
มาก อย่าพูดถึงเลย
หลังจากที่ส่งไอ้ลี่แล้ว เราสองคนก็ไปจอดรถแถวๆร.ร.ฟีโรโซ่ของไอ้ลี่น่ะแหละ 
ถึงสาลี่จะเป็นน้องสาวที่โหดร้ายแค่ไหน แต่ก็เป็นน้องสาวผม เลยต้องคอยตามดูแล
เห็นบอกว่าจะไปอัดกับใคร เลยตามมาดูซักหน่อย ว่าไม่เป็นอะไรมาก
“เฮ้ย เฮียสน นี่กี่โมงแล้วอ้ะ ทำไมพวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายยังไม่ออกมาซักที”
เฮียสนหันมามองหน้าผม แล้วยกมือถือตัวเองขึ้นมาดู
“บ่ายโมง 15 นาที”
“พวกนี้ไม่ค่อยตรงเวลาเลย”
เฮียสนพยักหน้าเนิบๆแบบเห็นด้วย
ผม กับเฮียสนรอพวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายซักพัก มือถือสุดที่รักของผมก็สั่น ทำให้ต้องกดรับ
“ว่าไง ไอ้น้อง”
“น้องมึงชื่อสาลี่ กูชื่อ ชา”
ไอ้ชาโทรมาครับ..มันหล่อนะ แต่ผมว่าผมหล่อกว่า..จะยังไงก็ช่าง ผมหล่อที่สุด
“แล้วว่าไงล่ะ”
“วันนี้กูจะยกแก๊งไปอัดกับแก๊งเวย์  เมื่อกี้เพิ่งไปท้ามันมา”
แล้วมึงจะบอกกูทำไมวะ..
แก๊งเวย์ เป็นฉายาที่เรียกกัน ความจริงแล้วแก๊งนี้ชื่อ ไวโอเลน แปลว่าความรุนแรง
มันเป็นคู่อริกับแก๊งผม ที่มีฉายาว่า เกรย์คีย์ ที่ไอ้สาลี่ชอบล้อนั่นแหละ ความจริงแล้วเกรย์คีย์คือสัญลักษณ์แก๊งครับ
เป็นลูกกุญแจอันเล็กๆ สีเงิน 
“แล้วทำไม”
“อ้าว ก็มึง กับไอ้สนต้องมาด้วยไงวะ เดี๋ยวจะอัดกันตอนบ่ายโมงครึ่ง มึงต้องมาเดี๋ยวนี้โว้ย”
เฮ้ย กูอยู่ในสถานการณ์ดูแลน้องสาวอยู่เว้ย
“ไม่เว้ย กูไม่ว่าง เฮียสนก็ไม่ว่าง”
“งั้นมึงบอกมาว่าอะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่างธุระของมึง กับแก๊ง”
น้องสาวกูสำคัญกว่า..
“ธุระ”
“งั้นมึงบอกมาธุระอะไรสำคัญกว่าแก๊งวะ”
“ดูแลน้อง”
ไอ้ชามันสบถอะไรซักอย่าง แต่กูรู้นะ มันด่ากู
“น้องสาวมึงโตแล้วนะเว้ย มาเดี๋ยวนี้  กูพนันกับมึงไว้เลย ถ้าสาลี่บาดเจ็บล่ะก็กูจะจ่ายค่าพยาบาลให้”
“ไม่ค่อยคุ้มเลยว่ะ ชา”
“ถ้างั้นเอางี้ กูให้มึงพันนึง แล้วก็จ่ายค่าพยาบาลให้ด้วย ถ้าน้องสาวมึงบาดเจ็บ พนันได้เลยว่าสาลี่ไม่เป็นไร”
โอ้ เงินๆ 
“ตกลง แค่นี้นะ เดี๋ยวกูจะไปหามึงภายใน 10 นาที”
สิ้นสุดการสนทนา หันไปบอกเฮียสนที่มองมาเป็นเชิงถาม
“ชาเรียกรวมแก๊ง”
“แล้วสาลี่..” ก่อนที่สนจะพูดจบประโยคใบไม้ก็กระชากมือพี่ชายแล้ว วิ่งขึ้นรถของตัวเอง
“ไปเว้ย”
ต้นสนงงๆ แล้วขับตามไป
“อะไรของมึงวะ แล้วสาลี่ล่ะ”
เฮียสนถาม
มึงจะสงสัยอะไรมากมายวะเนี่ย เงินนะมึง  ไม่สำคัญเรอะ
“พันนึงของกู ของมึง..ศูนย์บาท”
ผมตอบง่ายๆ เฮียสนมันทำหน้างงกับประโยคสุดท้าย
ต้นสนงงเล็กๆ แต่ไม่คิดจะเอ่ยถาม จนขี่มอร์เตอร์ไซด์มาถึงรั้วโรงเรียนทริโอริส
สมาชิกแก๊งเกรย์คีย์ยืนรอรวมกันอยู่ที่รั้วประตูโรงเรียน มีชายืนนำอยู่ข้างหน้า  มันยักคิ้วกวนๆมาให้ครั้งนึง
“นัดเลี้ยงเอ็มเคกันเหรอ”
ต้นสนพูดก่อนจะกวาดสายตาไปมองคนในแก๊งตัวเอง
“เออ มาช้าชะมัดพวกแกนี่”
เทมส์ส่ายหัวอย่างระอา แล้วมันก็ลูบหัวเด็กผู้หญิงคนนึงที่ยืนอยู่ข้างๆมัน เด็กผู้หญิงคนนี้อายุเท่ากับสาลี่ ชื่อ ไทม์ น้องสาวมัน หน้าตาก็ดี เสียแต่นิสัยโครตเถื่อน จะดีก็ต่อเมื่ออยู่กับพี่มัน ต่างจากไอ้ลี่ จะอยู่หน้าอยู่หลัง มันก็ยังเถื่อนได้
“แล้วพวกมึงมาทำอะไรกันเนี่ย” เฮียสนผู้ไม่รู้ชะตากรรมยังไม่รู้ต่อไป  ชาทำหน้ารำคาญนิดหน่อย
“ไอ้ไม้ มึงยังไม่บอกพี่ชายมึงหรอ”
เทมส์ถาม ยังคงลูบหัวน้องสาวตัวเองเล่นอยู่ ก่อนที่ไทม์จะเอามือปัดออก
ใบไม้ยักไหล่ ไม่สนใจ ต้นสนเลิกคิ้วขึ้นมองไปทางน้องชายฝาแฝดตัวดี
“จะอัดกับแก๊งเวย์ ตอนบ่ายโมง สามสิบ”
ใบไม้พูดเบาๆพอที่จะให้คนแถวนั้นได้ยิน 
“จะไปแล้วด้วย พวกนายนี่ชักช้า”
เสียงผู้หญิงอีกคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ 
“ไม่เอาน่า ออทั่ม ก็มาแล้วนี่ไง”
ใบไม้พูดเสียงสำนึกผิด  ออทั่มส่งสายตามาดร้ายเล็กน้อยมาให้
“ไปเลยนะเว้ย ขึ้นรถๆ ไปๆ ที่ลานร.ร.วัชเรนทร์ธรา”
ชาตะโกนสั่งก่อนจะเดินไปที่มอร์เตอร์ไซด์ตัวเอง  แต่ก่อนที่จะขึ้นขี่ ก็มีเสียงโต้ถามขึ้นมา
“สรุปไปเข้าถ่ำเสือใช่มั๊ยเนี่ย”
เจ้าของเสียงคือ ฟรังค์ รุ่นน้องชาติฝรั่งเศส  ชาตะโกนตอบสั้นๆง่ายๆกลับมาว่า
“เออ”
หลังจากนั้นแก๊งเกรย์คีย์ทั้งหมดก็ไม่อยู่ที่ร.ร.วัชเรนทร์ธรา ร.ร.ของแก๊งไวโอเลน หรือเวย์
“เฮ้ ไอ้ชา!!”
เสียงผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเล่นฟุตบอลในสนามของ ร.ร.นั้นตะโกนเรียกให้หัวหน้าแก๊งเกรย์คีย์หันหน้าไปมองตามเสียง
“เกรย์คีย์อย่างพวกมึงมาก่อนเวลาเป็นด้วยหรอวะ”
ออทั่มเหลือบตาไปมองนาฬิกาข้อมือที่ เข็มสั้นชี้เลข 5  เป็นเวลา บ่ายโมง 25 นาที มาก่อนเวลา 5 นาที
“เออ เพิ่งรู้หรอว่าพวกกูรักษาเวลา ดีกว่าไอ้หมาอย่างมึง”
เฮียเทมส์เข้าโหมดได้เวลาสติแตก เปลี่ยนบุคลิก
ตอนนี้อารมณ์ของแต่ละคนคงพร้อมอัดเต็มที่แล้ว จากการกระทำของแต่ละคน
ไอ้เทมส์ที่ปกติเป็นคนสุภาพเริ่มมีอาการเคือง  เรนกับเมฆรุ่นน้องสองคนที่ปกติอยู่ในร.ร.จะกวนทะเล้น นอกจากอยู่ต่อหน้าผู้หญิงเริ่มมองกลุ่มเวย์ที่ทำหน้าไม่รู้ร้อนด้วยแววตามุ่งร้าย ก่อนจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกวนตีนตามฉบับของพวกมัน
ฟรังค์ กั๊ส เฮียฟอล และฟลุค ก็พยามสงบสติ รวบรวมลมปรานภายใน เตรียมลุย
พวกผู้ชายคนอื่นๆก็มีอาการต่างๆกันไป  ส่วนชายังคงทีท่าสงบนิ่งเงียบอยู่เช่นเดิม
ส่วนพวกผู้หญิง อย่าง ออทั่มกับไทม์ ที่เริ่มกวาดตาดูผู้ท้าชิงหญิงที่นั่งหัวเราะคิกคักอยู่ที่เก้าอี้ไม้ 
เด็กผู้หญิงอีกหลายๆคนก็อยู่ในสภาพเดียวกัน
พวกผู้หญิงตัวเต็งอย่างพี่ดรีม อีฟนิ่งที่เป็นคนนำทีมหญิงก็ยืนอมลูกอมอย่างสบายอารมณ์
“เหอะ หมาหรอ อย่างน้อยก็ภักดี ฉลาดกว่าควายอย่างพวกแกก็แล้วกัน”
ผู้หญิงผิวเข้มอีกคนพูดขึ้น ไอ้ชาจ้องหน้าผู้หญิงคนนั้นเขม็ง
“งั้นพวกแกรู้มั๊ย ว่าทำไมถึงมีแต่คนบอกว่าควายโง่..”อีฟนิ่ง พูดเสียงเย็นๆ
ผู้หญิงคนนั้มองกลับมาด้วยแววตากวนประสาท ก่อนจะตอบกลับมา
“เพราะมันโง่เหมือนพวกแกไงยะ”
“เปล่าๆ..ที่ว่าควายโง่น่ะ เป็นเพราะมันกินหญ้าเป็นอาหาร ตามแต่ก่อนแล้วเค้าว่าให้กินอาหารประเภทโปรตีนถึงจะฉลาด แต่ควายกินหญ้าก็เลยบอกว่าควายโง่ แล้วโง่ยังไม่พอ มันยังฉลาดกว่าพวกแก เพราะอย่างนั้นชั้นกินว่าควายมันฉลาด ใช่แล้ว ฉลาดกว่าพวกแกหลายเท่าตัว”
อาแมน ยอมรับในความสามารถท่องบทภาวนาเพื่อมวลชนไถ่ชีวิตโคกระบือ
ยังพวกผู้หญิงฝ่ายนั้นเริ่มเขม้นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
“พวกแกว่าไงนะ อีชะนี นังอีฟนิ่ง คราวนี้ถ้าชั้นตบแกไม่เลือดกบปาก ชั้นไม่ยอมหยุดแน่”
ผู้หญิงผมสั้นอีกคนยืนขี้นมาชี้หน้าด่าอีฟนิ่ง
“แหมๆ อะไรกัน น้องแวว พี่อาวุโสกว่านะ ชะนีอะไรล่ะ  นังส้น ตีน”
อีฟนิ่งด่ากลับไปอย่างหน้าระรื่น ผู้ชายหลายคนเริ่มถอนหายใจ
ปล่อยให้มันด่ากันให้จบคงไม่ได้ เพราะท่าทางจะอีกนาน
เทมส์เริ่มเปิดศึกคนแรก วิ่งเข้าไปต่อยกับผู้ชายฝ่ายนั้นก่อน ตามด้วยไอ้เรน กับเมฆ ที่คงสงบสติจนแตก ฝ่ายผู้ชายอีกหลายคนวิ่งตามไปอัด พวกผู้หญิงก็เริ่มเปิดฉากบ้าง อีฟนิ่ง กับพี่ดรีมยังนิ่งอยู่
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น