ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : หญิงร้าย...เอาคืน
คุยกานหน่อยน๊าคะ ^W^
เราไม่เคยคุยกานผ่านในนี้เลยเนอะ? งั้นนี่ก้อครั้งแรกนะเจ้าคะ ขอบคุณมากๆค่า สำหรับทุกคอมเม้น ทุกโหวต ทุกเยี่ยมเยียน >W<
น้ำแข็งใสแต่งยาวไปรึเปล่าคะเนี่ย? (เห็นเค้าว่ามาเยอะ) หรือเถื่อนไปรึเปล่าคะ?  ถ้าอย่างนั้นขออภัยด้วยนะคะ
ส่วนเรื่องเมลของน้ำแข็ง ปัจจุบันแข็งใสใช้เมล Frey_sayuri@hotmail.com ค่า ส่งเมล หรือแอดมาก้อด้ายค่า
อ๊าาาา แหมๆ น้ำแข็งดองมา 10 วันแล้วหรอคะเนี่ย - -\" ขอโทษคร่า มาอัพทำหน้าที่แร้วน๊อ
ช่วงนี้จะสอบกันแล้วก็ ตั้งใจอ่านหนังสือ โชคดีในการสอบนะคะ เกรด4สถิตอยู่กับท่าน อาแมน เพี้ยงง
อ้ะๆ ไม่กล้าพร่ามยาว (นี่ไม่ยาวแล้วนะจ๊ะ) ไม่พูดมากไม่ใช่น้ำแข็งใส หุหุ ไปอตอนที่ 7 กันเลยดีกว่าเนอะ ^^\"
//คำเตือน//เถื่อนเกินไป รับไม่ไหว ปิดไปเลย >W< งิ้วววว เถื่อนๆๆ เหมือนคนแต่ง เย้ ??
 
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากที่พวกเราได้รับความเชื่อใจจากพวกเซ็นแล้ว ก็กลับมาหาพวกลีดเดอร์ที่กำลังเอาอาวุธของเล่นลูกเล่นต่างๆเก็บใส่กระเป๋า หรือบางคนก็ใช้ถุงกระดาษ
“ว่าไงจ๊ะ” แอนนากระโดดมาเกาะไหล่หวัน มิยูกิวิ่งมาดักหน้า
“เป็นไงมั่ง เซริจัง วันจัง ฟินจัง” อ้อ มิยูกิเรียก หวัน ว่า วัน เหตุผล ไม่มีใครรู้ เหมือนที่มันเรียกชั้นว่า เซริ ทั้งๆที่มันเรียกสาลี่ กับหลี่หวันได้
สบายๆ
“เรียบร้อย วางใจได้ สบายมาก”ฟินตอบแทน ชั้นและหวัน
“ไปกันเถอะ..เฮ้ย เซ็น หนูไปทำอะไรกับหน้ามา เอาไปไถพื้นเรอะ”
ไดซ์เอ่ยขึ้นมาหลังจากที่เตรียมอะไรกันพร้อมแล้ว เพิ่งเห็นรอยแดงบนแก้มของเซ็นที่กำลังนวดป้อยๆ
มัฟฟินยิ้มแหยๆให้ชั้น  แล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทันที เซ็นมองไอ้ฟินด้วยสายตาอาฆาตเล็กๆ
“เปล่าหรอครับ ผมแค่รู้สึกว่าหน้ามันรู้สึกชาๆ เลยต้องทำให้มันรู้สึก”
ไดซ์ วอยซ์ สองมองหน้ากัน แล้วพยักหน้ารับ 
“ไปกันเถอะ เราเตรียมของเสร็จแล้ว” วอยซ์พูดเร่ง ส่วนสองเดินไปลากพวกลีดเดอร์ผู้ชายที่นั่งอยู่ให้ลุกเดิน
จากนั้นมิยูกิก็เอาดาบไม้ออกมา แล้ววิ่งนำไปพร้อมกับแอนนา แล้วพวกเราค่อยๆเดินตามไป  พวกลีดเดอร์ผู้หญิงก็เดินอย่างสบายอารมณ์ และพวกผู้ชายที่เดินอย่างยืดเส้นยืดสาย เตรียมพร้อม
ส่วนฟรายเดย์
“ไดซ์ สู้แทนเราด้วยนะ”
คุณหัวหน้านั่งเล่นปืนอัดลมอยู่ในโรงเรียนรอฟังข่าวดี..
“มากันแล้วหรอ รอนานแล้วนะ” เสียงนี้ทดังขึ้นหลังจากที่เราเดินกันมาถึงจุดนัดหมาย  ยัยถึกพวกนั้นยังไม่มา  นี้ทกำลังนั่งยองๆ อยู่บนพื้นพร้อมกับแบล๊กบัตเตอร์ฟรายผู้หญิงอีกคน
“นังวอกอยู่ไหน”
วอยซ์ถามด้วยใบหน้าใสซื่อยิ้มแย้ม ไม่เข้ากับคำถาม  นี้ทส่ายหน้าช้าๆ แล้วทำหน้าเซ็ง
“พวกนี้มันน่าจับเปลี่ยนชื่อเป็นอีชักช้า ไม่ก็ร่ำไร”
พี่สองพูดพึมพำกับตัวเอง  ด้วยน้ำเสียงที่ขยะแขยง ฟังแล้วแปร่งยังไงไม่รู้
“เฮ้ย!! มาแล้วเว้ยเฮ้ย”
ไดซ์พูดแล้วชี้ไปข้างหน้า เห็นเป็นแก๊งพวกนักถึก และมีผู้ชายอีก 5-6 คน ตามมา
ผู้หญิงคนที่เคยโดนชั้นตบ คงเป็นคนนำเดินมา แล้วมองหน้าชั้นอย่างแค้นๆ ก่อนจะหันไปตามเสียงเรียกของไดซ์
“หญิง กับหญิง ชาย กับชาย ถ้าโกงล่ะก็ ตาย”
น้ำเสียงแสดงถึงความเย็นเยือก และเฉยชา เล่นเอายัยหัวหน้าฝ่ายนั้นสะดุ้งนิดๆ
“ตะ..ตกลง ก็ไม่ได้บอกว่าจะโกงนี่...”
ยัยนั่นพูดเสียงสั่นๆ เพราะสายตาของพวกลีดเดอร์ที่เหลือนอกจากไดซ์ พร้อมใจกันจ้องเขม็งไปที่คู่ต่อสู้อย่างขุ่นเคือง และเย็นชา
“เดี๋ยวพวกผู้ชายเปิดศึกตรงนี้  ส่วนพวกผู้หญิงข้างในสวนสาธารณะ”
พี่บอลพูด แล้วชี้สั่งพวกลีดเดอร์ผู้หญิงให้เข้าไปในสวน ส่วนพวกผู้ชายยืนอยู่ตรงนี้
พวกนังถึกพวกนั้นเดินตามเข้ามา ช่วงที่เดินเข้ามาสังเกตเห็นความกดดันได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะนักยักษ์ที่ชื่อ เมย์  มันทำท่าราวกับจะขาดใจตาย
“เฮ้ ก่อนที่จะมีเรื่องกัน พวกแกตอบคำถามชั้นมาก่อนดีกว่า”
คำถามแรกทันทีที่เข้ามายืนประจำที่ในตำแหน่ง และสถานที่ที่ดูดี และห่างไกลพวกผู้ชายที่สุด..
ข้างส้วม..
หรือจะสุภาพหน่อยคือ..สุนัขขา เอ๊ย สุขา
คำถามของไดซ์เหมือนเป็นเสียงที่ช่วยให้ความกดดันหายไปทันที เพราะพวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายกำลังเก็บรายละเอียดรอบตัว 
สองทำหน้าสมเพชสถานที่นิดหน่อย  วอยซ์ขมวดคิ้ว แล้วกลืนน้ำลายลงคอ
ส่วนพวกคนอื่นๆก็พอกัน ทำหน้าขยะแขยงสุดๆเมื่อมองไปที่ห้องส้วมใกล้ๆ
“ทำไมชั้นต้องตอบด้วย”
นังชะนีหน้าวอกที่เป็นหัวหน้าตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงพอๆกับไดซ์  คงจะเริ่มชิน
“ก็ดี ไม่ต้องตอบก็ได้ ชั้นรู้ว่าเธอไม่มีปัญญาตอบ ไหนๆตัวเธอก็เป็นสัตว์เซลล์เดียวอยู่แล้ว”
นีทเป็นคนเถียงกลับไป ด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยสุดๆ
ส่วนนังนั่นพอได้ยินอย่างนั้นแล้วก็เลยไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากด่ากลับมา
“นังกระหรี่!!พวกแกด่าชั้นหรอ!!”
“อีสาหร่าย!!! เราออกจะพูดชัดเจนขนาดนั้นยังจะมาถามกลับทำไมอีกยะ  อ้อ แหม เธอนี่น่าสงสารนะ เกิดมาก็น่าตาไม่ได้เรื่อง แล้วยังหูตึงเป็นคนแก่ แถมยังไร้สมองอีกต่างหาก”
คำด่ากลับไปฟังดูเจ็บแสบใช้ได้เป็นของฟิน  ที่ด่ากลับอย่างไม่สะท้านซักนิด
พวกอีสาหร่ายพอโดนด่ากลับไปก็กรี๊ดๆ แสบแก้วหู
สาหร่าย เพิ่งรู้ว่ามันเป็นคำด่า จะว่าไปด่าแล้วมันเจ็บนะเนี่ย
นังกระหรี่อีสาหร่าย เข้ากันชะมัด
“พวกแกเป็นเปรตเรอะ ร้องเหมือนนะ  พวกเดียวกันนี่นะ”
เจ๊สองที่ดูจะคันปากมาตั้งแต่เมื่อกี้  ด่ากลับไปแล้ววิ่งไปตบนังเปรตที่อยู่ใกล้มือที่สุด
พวกลีดเดอร์ที่เหลือวิ่งเข้าไปด้วยเช่นกัน ไดซ์ยืนมองแล้วยิ้มสะใจ
ศึกครั้งนี้ แบล็กบัตเตอร์ฟรายชนะขาด  เพราะมีคนมากกว่า แต่แก๊งเรามีคติที่ว่า ให้อะไรมา จะเอาคืนมากกว่าเท่าตัว
ครั้งแรกมันรุมเด็กเรา ครั้งนี้เราก็จะรุมมัน ซึ่งคตินี้ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปแล้วว่ายุติธรรมขั้นลบ
ชั้น หลี่หวัน มัฟฟิน  ไดซ์  วอยซ์ ไม่ได้เข้าไปร่วมอัดพวกมันตอนนี้ เพราะดูๆไปแล้วแค่พวกลีดเดอร์ที่เหลือก็แทบจะบอกได้ว่าชนะขาดลอย
พี่สองถึงจะดูๆไปแล้วอาจจะเรียบร้อยบ้าง แต่ถ้ามามองจากมุมนี้แล้ว ยิ่งกว่าปลาปิรันย่ากินควายทั้งตัว
เพราะคุณเธอเล่นตบซะฝ่ายนั้นเลือด กลบ ปาก
“น่าสงสารนะ” วอยซ์พูดยิ้มๆ ไดซ์ยิ้มบางๆ
“นั่นสิน่าสงสารนะ” หวันพูดเบาๆ   
หวัน..หน้าแกดูไม่ค่อยจะสงสารเลยว่ะ..
“แต่สมน้ำหน้ามากกว่า ฮิฮิ” วอยซ์หัวเราะเบาๆอย่างชอบใจ  หวันหัวเราะคิกคักเช่นกัน
พวกลีดเดอร์ของDestiny หน้าตาดีทุกคน แต่เสียใจด้วยนะ ความโหดเหี้ ยมอำมหิตทัดเทียมหน้าตา
ยิ่งพวกน่ารักๆสวยๆพวกนั้นยิ่งซาดิสม์
มิยูกิตอนนี้โดน 2 คนรุม เพราะลีดเดอร์คนอื่นวางมือจากสองคนนี้แล้วไปอัดที่เหลือ
แย่เลยนะนี่
ความจริง..คนที่แย่น่ะ..2 คนที่รุมนั่นแหละ
ขอโทษนะ..ลืมบอกไปว่า..มิยูกิน่ะ..เคนโด้ 5 ดั้ง
“โอะ น่าสมเพชจังเลย ขนาดรุมนะนี่” ไดซ์พึมพำเบาๆ จากสายตาก็เห็นได้ชัดว่ามองที่มิยูกิถูกรุมอยู่
พวกที่รุมมิยูกิตอนนี้ล้มไปแล้ว และไม่มีท่าทีว่าจะลุกขึ้นมาอีก
“พวกแกใช้อาวุธนี่!!” เสียงผู้หญิงคนนึงดังขึ้นมา
“แล้วใครห้ามล่ะ” มิยูกิเถียงกลับ แล้วยิ้มแสยะๆ แอนนาเดินมาสมทบ
ยัยถึกที่ชื่อเมย์  ตอนนี้มันวิ่งเข้ามาหามิยูกิ กับแอนนา มันหยิบมีดออกมาอีกครั้ง เสียแต่ว่าโดนกระชากผมกลับไป แล้วนีทก็ล็อกแขนไว้  สองเดินไปแกะมีดออกมาจากมือของมัน แล้วโยนทิ้งมาใกล้ๆพวกชั้น
มัฟฟินเดินไปเก็บมือพับ แล้วเอามาถือเล่น
ตอนนี้สภาพของพวกฝ่ายนั้นดูไม่ได้เลย ทั้งๆที่พวกผีเสื้อปีกดำ แทบจะไม่มีแผลเลยซักนิด เพราะเป็นฝ่ายรุม
ข้าวฟ่างเอาเชือกเส้นโตขนาดมัดควาย ออกมาจากกระเป๋าเป้ แล้วส่งต่อให้พี่สองช่วยกันมัด
สองมัดพวกนี้รวมเข้าไว้ด้วยกัน ไดซ์เดินเข้ามาดูสภาพด้วยสีหน้าสมเพช
“เอาล่ะ ได้เวลาสนุกแล้วนะ หึหึ”
“ได้เวลาสนุกแล้วสิ” ชั้นกับฟินหัวเราะประสานกัน  หวันตามันเป็นประกายขี้เล่นสนุกสนาน
ไดซ์ลากมันมาแถวๆหน้าห้องน้ำ เหมือนแกล้ง
“เฮ้ ตามปกติแล้วอ้ะนะ เราจะแกล้งคู่อริเราต่อ แต่ชั้นเตรียมวิธีมาเล่นกับอีสาหร่ายอย่างพวกแกแล้วล่ะ”
ท่านผู้นำผู้ซึ่งได้รับอำนาจมาจากฟรายเดย์ พูดแล้วยิ้มอย่างประหลาด
ไดซ์ น่ากลัวกว่า จูออนอีก..เชื่อชั้นมั๊ย..
“ปล่อยชั้นนะ ปล่อย บอกให้ปล่อยไงเล่า”
ยัยพวกนั้นตะโกนออกมา ยิ่งเป็นการบันดาลโทสะซะมากกว่า เพราะไอ้หวันถีบมันไปทีนึง
“เฮ้ย พวกแกหิวแล้วใช่มั๊ย นี่ๆ ชั้นจะให้แกกินขนมปัง”
ไดซ์พูดด้วยน้ำเสียงประหลาดๆ แล้วรื้อหาของในถุงกระดาษของตัวเองท่ามกลางความประหลาดใจของหลายๆคน และความเกรงกลัวของยัยสาหร่ายพวกนั้น
“หึหึ เอาแบบไหนดีจ๊ะ โซฟีก็มีนะ หรือเอา ลอลิเอะ  เอะๆ โมเดส ก็มีนะเออ หรือๆ..เอ้าๆ มีแบบหลายแบบนะ เอาสีอะไร ลอลิเอะสีส้ม สีชมพู หรือจะเอาสีฟ้าดี  เอาแบบกลางวันกลางคืน ใหญ่ หนา เล็ก บาง เอายังไง ฮิฮิ”
ไดซ์พูดเหมือนคนบ้า  เอาผ้าอนามัยทั้งถุงชูขึ้นมาให้นังพวกนั้นดู
ตอนนี้พวกนั้นพอจะรู้ชะตากรรมของตัวเองว่าจะโดนอะไร  หน้าพวกนั้นเริ่มซีดลงเรื่อยๆ
ส่วนพวกลีดเดอร์หน้าถอดสีไปเหมือนกัน ส่วนชั้นหรอ หึหึ อีสาลี่เป็นคนคิด ก็ขอร่วมด้วยช่วยกันกับไดซ์แล้วกันนะ
“เอ้าๆ ชั้นเลือกให้นะ  โซฟีแบบกลางคืนดีกว่า ใหญ่ดี หึหึ อ้าปากกว้างๆนะจ๊ะ”
ข้าวฟ่างเอากับเค้าด้วย
นี้ทเองก็เริ่มหัวเราะคิกคักออกมา สองเองก็อมยิ้มเล็กที่มุมปาก ส่วนวอยซ์น่ะ เอากล้องออกมาถ่ายวีดีโอสคลิปตั้งแต่ต้นแล้ว
“เริ่มจากแกก็แล้วกัน”
ไดซูดเปิดฉากแกล้งคน เริ่มจากยัยหัวหน้าคนนำทีมของฝ่ายนั้น ซึ่งกรีดร้องอย่างเอาเป็นเอาตาย
“อย่างงั้นแหละ อ้าปากกว้างๆน๊า ก๊ากๆ”
ไดซ์แกะโซฟีแบบกลางคืนออกมาจากถุง
แล้วให้มัฟฟิน กับหวันมาจับหัวมันให้อยู่เฉยๆ
ไดซ์ค่อยๆจับผ้าอนามัย เน้นย้ำว่า อนามัยจริงๆ เพราะยังไม่ได้ใช้ ยัดใส่ปากนังสาหร่ายคนนำทีมนั่น ท่ามกลางความตื่นตระหนกของเพื่อนผองของยัยนั่น
“เดี๋ยว”
ไดซ์พูดขึ้นมา ก่อนที่ผ้าอนามัยจะเข้าไปอยู่ในปาก  ตอนนี้ผ้าอนามัย กับปากยัยนั่นห่างกันแค่ 5-6 เซนติเมตร
ไดซ์เอาผ้าอนามัยให้ชั้นถือก่อน แล้วหันไปสั่งพวกลีดเดอร์ที่ยืนล้อมวงอยู่
“ใครใส่ผ้าอนามัยโซฟีแบบ 2 ชั้น เอาออกมาชั้นนึง เดี๋ยวนี้!!!!”
คำสั่งอันน่าสะพรึงกลัวดังออกมา  คำสั่งของไดซ์ตอนนี้มีอำนาจเท่ากับคำสั่งฟรายเดย์  พวกลีดเดอร์มองหน้ากันช้าๆ แล้วสามัคคีส่ายหน้า
ส่วนพวกที่ถูกมัดอยู่ทำหน้าจะร้องไห้
ไดซ์ทำหน้าผิดหวัง ก่อนจะแสยะยิ้มอย่างโรคจิต  แล้วหันหน้าไปหามัฟฟิน กับหลี่หวัน
“มัฟฟิน หลี่หวัน ไปดูในห้องน้ำ มันน่าจะมีตกค้างอยู่มั่งล่ะนะ  ไปเอามา!!!”
คราวนี้ยัยสาหร่ายพวกนั้นร้องไห้เลย
ไอ้หวันไอ้ฟิน สงสารพวกแกว่ะ มันทำหน้าซังกะตาย
แล้วเดินเข้าไปให้ห้องน้ำ วอยซ์ยังถ่ายวิดีโออย่างสะใจ เข้าใจว่าจะใช้แบล็กเมล์
ซักพักหลี่หวัน กับมัฟฟินก็เดินออกมา ด้วยมือเปล่า  อันที่จริงมันคงจะมีตกค้างอยู่แหละ เพียงแต่ไอ้สองคนนั้นมันคงพร้อมใจกันทำเป็นมองไม่เห็น ไม่ใช่เพราะสงสารยัยพวกนั้น แต่เพราะพวกมันไม่กล้าจับมากกว่า
“ว่าไง”
ไดซ์ถามทันทีที่พวกมันเดินออกมา พวกมันส่ายหน้า แล้วชูมือ ซึ่งไม่มีอะไรให้ไดซ์ดู
“ไม่ไหวเลย มันต้องมีแน่ๆ ชั้นเข้าไปเอาเองก็ได้”
พวกนังวอกร้องไห้หนักเข้าใหญ่ 
เฮ้อ สงสารชะมัด มันน่าจะสกปรกน่าดู
“ไดซ์ ไม่ต้องหรอก มีอะไรก็ใช้แค่นั้นล่ะ”
ชั้นดึงแขนไดซ์ไว้ก่อนที่คุณพี่เธอจะไปเอาอาวุธเถื่อนไม่พึงประสงค์ออกมา
“ห๊ะ แต่..เออ..ก็ได้วะ”
เฮ้อ..พวกแกขอบใจชั้นซะ...นังบัดซบ
ไดซ์เอาผ้าอนามัยจากมือชั้นจับยัดใส่ปากยัยนั่นทันที
ไม่อยากอธิบาย ยัยนั่นทั้งกรี๊ดทั้งร้องไห้ ทั้งๆที่ผ้าอนามัยคาปากนั่นแหละ..
น่าสมเพชสุดขีด..
เพื่อนๆชะนีของยัยนั่น ร้องไห้เช่นกัน มันคงไม่อยากโดนเหมือนเพื่อนมัน
แต่มันเป็นคราวโชคดีนะ เพราะคำพูดของไดซ์ต่อไป
“ไม่เอาแล้ว เบื่อๆ ไม่สนุกเลย พวกนี้นี่เล่นไม่สนุก พวกที่เหลือไปกินหญ้า แล้วร้อง มอมอ เดะ”
มัฟฟินเอามีดพับของยัยยักษ์ ชื่อเมย์ ไปตัดเชือก แล้วลากหัวพวกมันมาที่สนามหญ้า นอกจากยัยที่โดนจับยัดขนมปังไม่พึงประสงค์ ไดซ์บอกว่าปล่อยมันไว้
“เอ้า เร็วสิ รึอยากโดนเอาผ้าอนามัยยัดปากอีก”
สิ้นคำพูดของมิยูกิ พวกนั้นรีบทำตามคำสั่งอย่างเร่งรีบ วอยซ์ถ่ายวีดีโอไปไม่ขาดซักตอน
คราวนี้ภาพออกมาดูตลกใช่ได้เลยล่ะ พวกนั้นมันร้องมอมอ แล้วไม่ได้กินหญ้าหรอกนะ แค่ทำท่า แต่มันก็ทำให้ไดซ์หัวเราะคิกคักได้
หลังจากนั้นพวกเราก็ทิ้งยัยพวกนี้ แล้ววิ่งไปหากลุ่มผู้ชาย
ซึ่งตอนนี้ผลก็ออกมาเรียบร้อย Destiny ชนะ
พวกฟิลว์ กำลังนั่งหอบอยู่บนพื้น  พี่บอลก็ไล่ตะเพิดไอ้พวกผู้ชายพวกนั้นไป
“เป็นไงมั่ง”
สองถามง่ายๆ พี่บอลชู 2 นิ้วให้ ไดซ์ฉีกยิ้มกว้าง
“แล้วพวกผู้หญิงล่ะ”
โอมถามกลับมา แล้วยันตัวเองขึ้นจากพื้น
“เฮ้ย  ลีดเดอร์ผู้หญิงของผีเสื้อปีกดำ จะแพ้น่ะเหรอ ไม่เคยได้ยินเลย”
ไดซ์พูดจาเยาะเย้ยเล็กๆ  โยยิ้มๆให้
“กลับโรงเรียนได้แล้วล่ะ เรียบร้อยแล้ว”วอยซ์พูดจบ ก็กดสิ้นสุดการบันทึกวีดีโอสคลิป
“แล้วพวกเธอทำอะไรกับยัยพวกนั้นบ้างล่ะ”
เซ็นถามขึ้นมา พวกผู้หญิงก็แค่อมยิ้ม
“อยากรู้หรอ จะดูมั๊ยล่ะ เดี๋ยวค่อยดูพร้อมฟรายเดย์แล้วกัน” วอยซ์ถามอย่างขี้เล่น แล้ววิ่งนำกลับโรงเรียน
“ไดซ์จ๋า”
เสียงหวานๆของฟรายเดย์ดังขึ้น ตามมาด้วยการกระโดดเข้าใส่
“เป็นไงมั่งจ๊ะ ฟรายเดย์รู้นะ ชนะใช่มั๊ย ชนะใช่มั๊ย ดีจังเลยนะ ชนะอีกแล้วล่ะสิ”
“อื้อ แพ้ไม่เป็นท่าเลย”
นีทพูดเล่นๆกับฟรายเดย์  เล่นเอาฟรายเดย์ทำหน้ากังวล
“เฮ้ย ไอ้นีท อย่ามาจิ้งจก  ชนะเว้ย”
ไอ้หวันพูดแย้ง
อะไรวะจิ้งจก..
“อะไรจิ้งจกวะ ไอ้หวัน”
ฟินถามมันด้วยสีหน้างงๆ  ส่วนหวันมันยิ้มๆ
“ก็จิ้งจกร้องยังไงล่ะ”
“จุ๊จุ๊ หรอ” มิยูกิถาม ทำหน้าเอ๋อ
“ใช่ ก็ขี้จุ๊เบเบ ขี้จุ๊ตาลาลา ไง ฮ่าๆ”
โห แก มุขแบบว่าไปขุดมาจากไหน...
“สรุปคือชนะใช่มั๊ยจ๊ะจ๋า วอยซ์เอามาดู”
ฟรายเดย์หันไปหาวอยซ์  ซึ่งส่งกล้องดิจิตอลให้ 
ฟรายเดย์ และกลุ่มผู้ชายนั่งล้อมวงกันดูเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ 30 นาที  ต่างคนก็มีอาการที่ต่างกันออกไป ฟรายเดย์หัวเราะอย่างอารมณ์ดี  พวกผู้ชายหน้าถอดสีไปเลย
“ว้าว เก่งกันจังเลยน๊า  ไม่เสียทีที่วางใจ”
ฟรายเดย์ยิ้มหวาน  มัฟฟินเดินมากอดคอ
“แล้วฟรายเดย์อยู่นี่ทำอะไรล่ะ”
“นั่นไง”
ฟรายเดย์ชี้ไปที่หน้าต่างบานนึงที่แตก เป็นหน้าต่างของห้องประชุมใหญ่ มัฟฟินอึ้งนิดหน่อย
“อย่าบอกนะว่ายิงไปโดนกระจกแตกน่ะ”
ไดซ์ถามตรงๆ ฟรายเดย์พยักหน้า  ไดซ์เอามือขึ้นกุมขมับ
“เมื่อวาน ฟรายเดย์ เพิ่งทำกระจกแตกไปบานนึงเองนะ”
ชั้นพูดบอก ฟรายเดย์ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ แล้วพูดปัดความผิดอย่างไม่ใส่ใจ
“ชั้นเปล่า..กระจกมันสำออยแตกเอง คนทำกระจกทำไม่ดี กระจกไม่แข็งแรง ไม่ใช่ความผิดฟรายเดย์นะ\"
นั่นสิ..เธอไม่ได้ผิดเต็มประตู..แต่มันผิดเต็มหน้าต่างเลย...
“เอาเป็นว่าวันนี้เคลียร์แล้วนะ ถ้ามีอะไรก็เรียกล่ะกัน”
ประโยคสุดท้ายของการสนทนา ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว ขอไปเที่ยวให้สบายใจล่ะนะ 
ชั้นหันไปมองหน้าหลี่หวัน กับมัฟฟิน  หลี่หวันยิ้มๆ  มัฟฟินพูดลาคนในแก๊ง
“งั้นเรา 3 คนไปแล้วนะ  ไดซ์ ฟรายเดย์ วอยซ์ สอง มิยูกิ แอนนา ข้าวฟ่าง นี้ท โอม โย ฟิลว์ เซ็น บอล เอ่อ...และที่เหลืออ้ะนะ ไปก่อนนะ แล้วเจอกันถ้ามีโอกาส”
เราสามคนเดินออกมาจากอาณาเขตโรงเรียนได้ซักพัก หลี่หวันก็พูดขึ้นมาก่อน
“อย่าบอกนะว่าจะกลับบ้านเลย”
มัฟฟินมองหน้าชั้น
“ไม่เว้ย”
คำตอบอย่างพร้อมเพรียงมาจากไอ้สาลี่คนนี้ และไอ้มัฟฟิน มิฟฟี่
หวันยิ้มแบบเจ้าเล่ห์
“ไปไหนดีหว่า”
ไอ้ฟินเอ่ยเกริ่นๆ
“ไปดูหนังกันเถอะ นะๆ หนังเรื่องที่เราอยากดูมันเข้าโรงแล้วอ่ะ  พวกแกจะไปดูเป็นเพื่อนเราใช่มั๊ย”
หวันพูดแล้วทำหน้าอ้อนวอน หน้าตาแบบนี้ทำให้คิ้วชั้นมันกระตุกนิดหน่อยแบบรำคาญ
ไอ้หวัน..ชั้นอยากรู้นักว่าหนังอะไร..
“ไม่”
พอมันได้ยินคำตอบชั้นมันก็ทำหน้าตายอยาก อย่างกับจะลงไปดิ้นกับพื้น มันโวยวายเป็นเด็กๆ
“ไม่น๊า แก ..แกใจร้ายใจดำ ไม่เห็นใจเด็กตาดำๆ นิสัยดีๆ น่ารักๆแบบเรามั่งหรอ แก..แก ต้องไปดูกับเรานะ ไอ้ฟินนะๆ ไอ้สาลี่แกใจร้ายกับเราหรอ เราไม่เคยคิดว่าแกจะทำกับเราแบบนี้นะ แต่ก่อนเราออกจะรักแก ใช่ๆ แต่ก่อนแกออกจะรักเรา ทำไมตอนนี้แกเปลี่ยนไป เปลี่ยนไป แกไปมีคนอื่นแล้วใช่มั๊ย เลยไม่รักเราแล้วงั้นสิ ทำไมแกเป็นคนแบบนี้”
เฮ้ย..แกจะลงแดงตายรึเปล่าวะเนี่ย..
ออ..หรือ..บ้านแกส้วมพัง  ท่าทางกระดูกหมาจะติดคอแกนะ ทำให้เพี้ยนๆ
“เอ่อ..น้องหวัน น้องหวัน...น้องหวัน ขี้ไม่ออกหรอคะ”
“ไอ้สาลี่!!ไอ้ประสาท”
ไหงแกมาว่าชั้นอย่างงั้นล่ะ
“แกสิประสาท เป็นปราสาททั้งหลังเลย”
ดีมากไอ้มัฟฟิน แสนอร่อย
พูดชื่อแกแล้วหิวทุกทีเลย
“โธ่ เราอยากดูหนังเรื่องนั้นมากนี่นา ไม่ดูไม่ได้ ต้องดูวันนี้ด้วย”
มันยังยืนยันโวยวายไม่ยอมแพ้
“เรื่องอะไรวะ”
เรื่องเกิดอาการรำคาญ
“เอ่อ..ทายดิ”
แน่ะ..แกกวนส้นตึกชั้นนะ..
“บอกมาเร็วๆ  จะดูอะไรก็บอก ไม่ชอบทายอะไรเอ่ย”
มัฟฟินดูท่าทางจะอยู่ในอาการแบบเดียวกับชั้น
“อะไรเอ่ยก็ปากสิ”
......
หวัน..แกฉลาดมาก..
มัฟฟินเริ่มมีอาการหรี่ตาลงเล็กๆ  ส่วนอีสาลี่หรอ หึหึ ชั้นชักหมดความอดทนแล้วนะ
“เฮ้ย พวกแก อย่าเครียดๆ”
หวันพูดยิ้มร่า
“ขอกูเครียดซักทีเถอะ”
หวันยิ้มแหยๆ ให้มัฟฟินที่อารมณ์บูดเข้าที่
“งั้นไปดูหนังกันนะ”
“ไม่”
“ใจร้าย งั้นเลิกคบ”
มันยังเถียงกลับ
“เลิกไปเลย ต้องไปที่อำเภอมะ”
มัฟฟินเถียงกลับ หวันหันไปมองทางอื่น ทำเป็นไม่ได้ยิน
งี่เง่าชะมัด..เพื่อนชั้นเหรอเนี่ย..ไม่ใช่มั้ง
“ถ้างั้นไปเที่ยวกันนะ”
หลี่หวันหันกลับมาพร้อมข้อเสนอใหม่
“มันแน่อยู่แล้ว”
“งั้นลี่ แกไปด้วยใช่มั๊ย”
มันหันมาถามชั้น
เอาไงอ่ะ..ยังไม่อยากกลับบ้าน..
เป็นว่าพยักหน้าตอบมันไป
“งั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวหวันเรียกรถให้นะ”
ว่าแล้วมันก็วิ่งนำไปโบกรถ  ปล่อยให้ชั้นกับฟินมองหน้ากันหน่ายๆ
“ไปไหนอ้ะ มิฟฟี่”
ชั้นเอ่ยถาม ตอนที่ไอ้หบ้าหวันหันมาบอกว่าได้รถแล้ว
“สยาม มีที่อื่นให้ไปปะล่ะ แล้วก็ เราชื่อมัฟฟิน”
ชั้นพยักหน้าเนิบๆ แล้วเดินไปหาหลี่หวันที่อารมณ์ดีเป็นพิเศษ
จากที่ฝากหน้าที่รับผิดชอบการเดินทางให้ลุงคนขับแท็กซี่  บรรยากาศในรถไม่มีอะไรมากนอกจากนั่งตกลงกันว่าจะไปทำอะไรกันดี
“ไม่รูจะทำอะไร จะไปดูหนังมันก็เข้าทางไอ้หวัน ไม่ไป”
มัฟฟินออกความเห็น
“เฮ้ย เข้าทางเราแล้วไงหรอ ก็ดีสิ จะได้ดูหนัง ดูหนังๆ”
หลี่หวันออกความเห็น
“กูเดินเล่น”
และท่านสาลี่
พวกมันมองหน้าชั้น มัฟฟินเลิกคิ้วข้างขวาขึ้น หลี่หวันหรี่ตาลง
มึงจะกินชั้นเรอะ..รึจะท้าตบ..ไม่นะ กูถนัดต่อยมากกว่า..
“ก็ดีนะ..ไม่อยากซื้อของ..เปลือง”
โอ้ มัฟฟิน แกติดนิสัยไอ้นีทมาแล้วเรอะ
“..ก็ได้นะ..ไว้เราชวนพ่อไปดูก็ได้วะ”
เอ่อ..หวัน แกเข้าใจอะไรง่ายขึ้นนะ เพราะไม่งั้นเจอท้าต่อยแน่เลย หึหึ
“เออ..มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วเว้ย”
มันสองคนนั่งเงียบๆ
ดี สงบสุข..
เมื่อถึงจุดหมายไอ้ฟินเอาเงินยื่นให้ลุงโชเฟอร์แซงหน้าไอ้หวัน ที่กำลังควักตังออกมาจากกระเป๋า
หลี่หวันชี้หน้าฟิน แบบฝากแค้น แล้วเดินสะบัดหน้าไป
ส่วนไอ้ฟินน่ะหรอ แลบลิ้นใส่ตามหลังไป
ไอ้พวกนี้..กวนส้น..
“ไอ้ฟิน ไอ้ลี่ เดินเร็วๆหน่อยสิ เดี๋ยวเปลี่ยนชื่อให้เป็นชักช้า กับร่ำไรเลย”
หว่านหวันบ่นกลับมา อันที่จริง มันตะโกน เอ่อ..แหกปากมากกว่า
เอ้อ..ถ้าชั้นกับไอ้ฟิน เป็นชักช้า กับร่ำไร แกคงเป็นอืดอาดใช่มั๊ย หรืออึ่งอ่างดี
“เออ!!”
ฟินกระแทกเสียงแล้วเดินตามไป ชั้นส่ายหน้าอย่างเสียไม่ได้ ก่อนเดินไปตบหัวมัน
“แก จะกินน้ำ”
ชั้นพูดง่ายๆ หวันมันมองหน้าแบบกวนๆ
“ก็ซื้อเดะ บอกเราทำไม เราไม่ใช่แม่แกนะ”
ดูมัน..งี่เง่า  กวนส้นตึก
“มาต่อยกันหน่อยดีมั๊ย”
“แหะๆ แกอย่ามาล้อเล่นนะเว้ย”
นั่น..เปลี่ยนอารมณ์เร็วดีนี่
“น้ำอะไรอ้ะ ร้านพี่ปรายมั๊ย”
พี่ปราย เป็นเจ้าของร้านน้ำปั่น  สนิทกันดี เลยไปนั่งเล่นที่ร้านบ่อยๆ
“ก็ได้  ไปๆเดินเร็วๆ” สิ้นเสียงก็ดันหลังไอ้เพื่อนตัวดีให้เดินไปเร็วๆ
ร้านของพี่เค้าตกแต่งเป็นสีส้มซะส่วนใหญ่ เห็นเจ๊แกบอกว่าเป็นความชอบส่วนตัว พี่ปรายยังอายุไม่มาก ยังหน้าเด็กๆวัยรุ่นอยู่เลย
“เจ๊ปราย”
ชั้นเรียกออกไป เพราะเจ๊กำลังนั่งกินขนมอยู่หลังเคาท์เตอร์
พี่ปรายเงยหน้าขึ้นมา 
หญิงสาวอายุไม่มาก ผมสีน้ำตาลแดง ตาสองชั้นกลมโต ผิวขาวรับกับจมูกโด่ง
“อ้าว เด็กๆ ว่าไงจ๊ะ”
พี่ปรายถามด้วยเสียงใสๆ ชวนฟัง 
“อ้าว นั่นสาลี่ใช่มั๊ย กลับมาแล้วหรอ”
“เจ๊ๆ แอปเปิ้ล กับกล้วยปั่น ด่วนๆ เหมือนเดิมทุกประการ อย่าเพิ่งพูดมาก”
พี่ปรายเบ้ปากนิดหน่อย
“สาลี่นี่ อุตส่าห์หลงคิดว่าสวยขึ้น น่ารักขึ้น เฮ้อ เอาเถอะ กลับมาก็สั่งเลย ของฝากก็ไม่มี”
นี่เธอ... 
อ้ะ เจ๊ว่าชั้นสวยเหรอ ใช่สิ รู้ตัวอยู่แล้ว ขอบใจ
“3 แก้วด่วนพี่”
ไอ้ฟินพูดเร่ง พี่ปรายถอนหายใจแล้วเดินไปที่เครื่องปั่น แล้วบอกให้พี่พนักงานคนนึงออกไปก่อน
“สาวๆ นั่งเล่นไปก่อนนะจ๊ะ”
พี่ปรายพูดบอก
เสียแต่ว่าชั้น หวัน ฟินนั่งรอเรียบร้อยแล้ว
“พี่ครับ โอลิโอ้ปั่นนะ 2 เลย เร็วๆหน่อยก็ดีนะครับ”
เสียงหนึ่งที่คุ้นๆดังขึ้นมาหน้าร้าน ทำให้ต้องหันไปมอง
เจ้าของเสียงคือเด็กชายหน้าตาหล่อเหลาสองคน ซึ่งใบหน้ามีรอยช้ำ เป็นแผลอยู่ แต่ไม่ได้ทำให้ใบหน้าลดราศีลงไป
เรน กับเมฆ...แก๊ง เกรย์คีย์..
“พี่ปรายไม่มีลัดคิวนะ”
เรื่องอะไรจะยอม เจ๊แกยิ่งเห็นแก่ผู้ชายหล่ออยู่ คนเค้ายิ่งหิวน้ำอยู่ด้วย มาก่อนได้ก่อน มาหลังรอไปเว้ย
เรน กับเมฆหันมามองตามเสียง
“อ้าว สาลี่นี่ มาทำอะไรที่นี่หรอ”
เรนถามอย่างอารมณ์ดี เมฆยิ้มๆให้
“นายเห็นว่าชั้นมากระโดดเชือก ตีกบอยู่รึเปล่าล่ะ”
อารมณ์เสีย..ทำไมวันนี้อารมณ์เสีย..
“เอ่อ..เปล่า..”
เมฆตอบแทนเรนที่ยังอึ้งๆอยู่
“สาลี่ รู้จักกันหรอ งั้นพี่ให้น้องสองคนก่อนนะ สาลี่ ฟิน หวันรอหน่อยนะจ๊ะ”
เฮ้ย เจ๊ปราย ขัดหน้าด้วยสก๊อตไบต์ปะเนี่ย  หม้อชะมัด
“ไม่ได้!!”
ชั้น ฟิน หวันประสานเสียงกัน พี่ปรายหน้าจ๋อยลงไป
“เอ่อ..ให้พวกสาลี่ไปก่อนก็ได้ฮะ”
เรนพูดแล้วยิ้มแหยๆ
ปกติชอบนะผู้ชายที่พูด ฮะ เนี่ย  ทำไมวันนี้อารมณ์ไม่อำนวยเลย
เรน กับเมฆเดินเข้ามาหา
“สาลี่จะไปไหนต่อหรอ”
เรนเอ่ยถามก่อน
“ก็เดินเล่นไปเรื่อย ไม่รู้จะไปไหน”
“ไปด้วยกันมั๊ย เราบริการเอง”
เรนถามยิ้มๆ
“นายขายบริการหรอ”
อึ้งครับ...ไอ้ฟิน ไอ้หวันที่เท้าคางอยู่ ยังเอาหน้าตัวเองกระแทกกับโต๊ะได้
เรน กับเมฆหน้าเจื่อนไปถนัดเลย  ชั้นเป็นคนดีใช่มั๊ย
“เปล่าหรอก..บริการนี่หมายถึงจะช่วยเทคแคล์ดูแลให้”
อ้อ หรอ
“ความจริงแล้วพวกนายต้องไปกับเรา ไม่ใช่เราไปกับพวกนาย”
“..อ่าหรอ..เออ..เรน..มึงว่าไง”
เมฆพูดขึ้นมา  แล้วสะกิดเรน
“เออ..นี่เพื่อนลี่หรอ แนะนำบ้างสิ”
เมฆพูดต่อ เพราะเรนยังไม่รู้จะตอบกลับยังไง
“ลี่ แกต้องแนะนำเค้าให้เรา ไม่ใช่แนะนำเราให้เค้า”
หวันพูดขึ้นมา 
“นี่เมฆ ส่วนนั่นเรน ส่วนนี่ฟิน นี่หวัน”
“ยินดีที่รู้จักนะ”
เราไม่เคยคุยกานผ่านในนี้เลยเนอะ? งั้นนี่ก้อครั้งแรกนะเจ้าคะ ขอบคุณมากๆค่า สำหรับทุกคอมเม้น ทุกโหวต ทุกเยี่ยมเยียน >W<
น้ำแข็งใสแต่งยาวไปรึเปล่าคะเนี่ย? (เห็นเค้าว่ามาเยอะ) หรือเถื่อนไปรึเปล่าคะ?  ถ้าอย่างนั้นขออภัยด้วยนะคะ
ส่วนเรื่องเมลของน้ำแข็ง ปัจจุบันแข็งใสใช้เมล Frey_sayuri@hotmail.com ค่า ส่งเมล หรือแอดมาก้อด้ายค่า
อ๊าาาา แหมๆ น้ำแข็งดองมา 10 วันแล้วหรอคะเนี่ย - -\" ขอโทษคร่า มาอัพทำหน้าที่แร้วน๊อ
ช่วงนี้จะสอบกันแล้วก็ ตั้งใจอ่านหนังสือ โชคดีในการสอบนะคะ เกรด4สถิตอยู่กับท่าน อาแมน เพี้ยงง
อ้ะๆ ไม่กล้าพร่ามยาว (นี่ไม่ยาวแล้วนะจ๊ะ) ไม่พูดมากไม่ใช่น้ำแข็งใส หุหุ ไปอตอนที่ 7 กันเลยดีกว่าเนอะ ^^\"
//คำเตือน//เถื่อนเกินไป รับไม่ไหว ปิดไปเลย >W< งิ้วววว เถื่อนๆๆ เหมือนคนแต่ง เย้ ??
 
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากที่พวกเราได้รับความเชื่อใจจากพวกเซ็นแล้ว ก็กลับมาหาพวกลีดเดอร์ที่กำลังเอาอาวุธของเล่นลูกเล่นต่างๆเก็บใส่กระเป๋า หรือบางคนก็ใช้ถุงกระดาษ
“ว่าไงจ๊ะ” แอนนากระโดดมาเกาะไหล่หวัน มิยูกิวิ่งมาดักหน้า
“เป็นไงมั่ง เซริจัง วันจัง ฟินจัง” อ้อ มิยูกิเรียก หวัน ว่า วัน เหตุผล ไม่มีใครรู้ เหมือนที่มันเรียกชั้นว่า เซริ ทั้งๆที่มันเรียกสาลี่ กับหลี่หวันได้
สบายๆ
“เรียบร้อย วางใจได้ สบายมาก”ฟินตอบแทน ชั้นและหวัน
“ไปกันเถอะ..เฮ้ย เซ็น หนูไปทำอะไรกับหน้ามา เอาไปไถพื้นเรอะ”
ไดซ์เอ่ยขึ้นมาหลังจากที่เตรียมอะไรกันพร้อมแล้ว เพิ่งเห็นรอยแดงบนแก้มของเซ็นที่กำลังนวดป้อยๆ
มัฟฟินยิ้มแหยๆให้ชั้น  แล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทันที เซ็นมองไอ้ฟินด้วยสายตาอาฆาตเล็กๆ
“เปล่าหรอครับ ผมแค่รู้สึกว่าหน้ามันรู้สึกชาๆ เลยต้องทำให้มันรู้สึก”
ไดซ์ วอยซ์ สองมองหน้ากัน แล้วพยักหน้ารับ 
“ไปกันเถอะ เราเตรียมของเสร็จแล้ว” วอยซ์พูดเร่ง ส่วนสองเดินไปลากพวกลีดเดอร์ผู้ชายที่นั่งอยู่ให้ลุกเดิน
จากนั้นมิยูกิก็เอาดาบไม้ออกมา แล้ววิ่งนำไปพร้อมกับแอนนา แล้วพวกเราค่อยๆเดินตามไป  พวกลีดเดอร์ผู้หญิงก็เดินอย่างสบายอารมณ์ และพวกผู้ชายที่เดินอย่างยืดเส้นยืดสาย เตรียมพร้อม
ส่วนฟรายเดย์
“ไดซ์ สู้แทนเราด้วยนะ”
คุณหัวหน้านั่งเล่นปืนอัดลมอยู่ในโรงเรียนรอฟังข่าวดี..
“มากันแล้วหรอ รอนานแล้วนะ” เสียงนี้ทดังขึ้นหลังจากที่เราเดินกันมาถึงจุดนัดหมาย  ยัยถึกพวกนั้นยังไม่มา  นี้ทกำลังนั่งยองๆ อยู่บนพื้นพร้อมกับแบล๊กบัตเตอร์ฟรายผู้หญิงอีกคน
“นังวอกอยู่ไหน”
วอยซ์ถามด้วยใบหน้าใสซื่อยิ้มแย้ม ไม่เข้ากับคำถาม  นี้ทส่ายหน้าช้าๆ แล้วทำหน้าเซ็ง
“พวกนี้มันน่าจับเปลี่ยนชื่อเป็นอีชักช้า ไม่ก็ร่ำไร”
พี่สองพูดพึมพำกับตัวเอง  ด้วยน้ำเสียงที่ขยะแขยง ฟังแล้วแปร่งยังไงไม่รู้
“เฮ้ย!! มาแล้วเว้ยเฮ้ย”
ไดซ์พูดแล้วชี้ไปข้างหน้า เห็นเป็นแก๊งพวกนักถึก และมีผู้ชายอีก 5-6 คน ตามมา
ผู้หญิงคนที่เคยโดนชั้นตบ คงเป็นคนนำเดินมา แล้วมองหน้าชั้นอย่างแค้นๆ ก่อนจะหันไปตามเสียงเรียกของไดซ์
“หญิง กับหญิง ชาย กับชาย ถ้าโกงล่ะก็ ตาย”
น้ำเสียงแสดงถึงความเย็นเยือก และเฉยชา เล่นเอายัยหัวหน้าฝ่ายนั้นสะดุ้งนิดๆ
“ตะ..ตกลง ก็ไม่ได้บอกว่าจะโกงนี่...”
ยัยนั่นพูดเสียงสั่นๆ เพราะสายตาของพวกลีดเดอร์ที่เหลือนอกจากไดซ์ พร้อมใจกันจ้องเขม็งไปที่คู่ต่อสู้อย่างขุ่นเคือง และเย็นชา
“เดี๋ยวพวกผู้ชายเปิดศึกตรงนี้  ส่วนพวกผู้หญิงข้างในสวนสาธารณะ”
พี่บอลพูด แล้วชี้สั่งพวกลีดเดอร์ผู้หญิงให้เข้าไปในสวน ส่วนพวกผู้ชายยืนอยู่ตรงนี้
พวกนังถึกพวกนั้นเดินตามเข้ามา ช่วงที่เดินเข้ามาสังเกตเห็นความกดดันได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะนักยักษ์ที่ชื่อ เมย์  มันทำท่าราวกับจะขาดใจตาย
“เฮ้ ก่อนที่จะมีเรื่องกัน พวกแกตอบคำถามชั้นมาก่อนดีกว่า”
คำถามแรกทันทีที่เข้ามายืนประจำที่ในตำแหน่ง และสถานที่ที่ดูดี และห่างไกลพวกผู้ชายที่สุด..
ข้างส้วม..
หรือจะสุภาพหน่อยคือ..สุนัขขา เอ๊ย สุขา
คำถามของไดซ์เหมือนเป็นเสียงที่ช่วยให้ความกดดันหายไปทันที เพราะพวกแบล็กบัตเตอร์ฟรายกำลังเก็บรายละเอียดรอบตัว 
สองทำหน้าสมเพชสถานที่นิดหน่อย  วอยซ์ขมวดคิ้ว แล้วกลืนน้ำลายลงคอ
ส่วนพวกคนอื่นๆก็พอกัน ทำหน้าขยะแขยงสุดๆเมื่อมองไปที่ห้องส้วมใกล้ๆ
“ทำไมชั้นต้องตอบด้วย”
นังชะนีหน้าวอกที่เป็นหัวหน้าตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงพอๆกับไดซ์  คงจะเริ่มชิน
“ก็ดี ไม่ต้องตอบก็ได้ ชั้นรู้ว่าเธอไม่มีปัญญาตอบ ไหนๆตัวเธอก็เป็นสัตว์เซลล์เดียวอยู่แล้ว”
นีทเป็นคนเถียงกลับไป ด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยสุดๆ
ส่วนนังนั่นพอได้ยินอย่างนั้นแล้วก็เลยไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากด่ากลับมา
“นังกระหรี่!!พวกแกด่าชั้นหรอ!!”
“อีสาหร่าย!!! เราออกจะพูดชัดเจนขนาดนั้นยังจะมาถามกลับทำไมอีกยะ  อ้อ แหม เธอนี่น่าสงสารนะ เกิดมาก็น่าตาไม่ได้เรื่อง แล้วยังหูตึงเป็นคนแก่ แถมยังไร้สมองอีกต่างหาก”
คำด่ากลับไปฟังดูเจ็บแสบใช้ได้เป็นของฟิน  ที่ด่ากลับอย่างไม่สะท้านซักนิด
พวกอีสาหร่ายพอโดนด่ากลับไปก็กรี๊ดๆ แสบแก้วหู
สาหร่าย เพิ่งรู้ว่ามันเป็นคำด่า จะว่าไปด่าแล้วมันเจ็บนะเนี่ย
นังกระหรี่อีสาหร่าย เข้ากันชะมัด
“พวกแกเป็นเปรตเรอะ ร้องเหมือนนะ  พวกเดียวกันนี่นะ”
เจ๊สองที่ดูจะคันปากมาตั้งแต่เมื่อกี้  ด่ากลับไปแล้ววิ่งไปตบนังเปรตที่อยู่ใกล้มือที่สุด
พวกลีดเดอร์ที่เหลือวิ่งเข้าไปด้วยเช่นกัน ไดซ์ยืนมองแล้วยิ้มสะใจ
ศึกครั้งนี้ แบล็กบัตเตอร์ฟรายชนะขาด  เพราะมีคนมากกว่า แต่แก๊งเรามีคติที่ว่า ให้อะไรมา จะเอาคืนมากกว่าเท่าตัว
ครั้งแรกมันรุมเด็กเรา ครั้งนี้เราก็จะรุมมัน ซึ่งคตินี้ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปแล้วว่ายุติธรรมขั้นลบ
ชั้น หลี่หวัน มัฟฟิน  ไดซ์  วอยซ์ ไม่ได้เข้าไปร่วมอัดพวกมันตอนนี้ เพราะดูๆไปแล้วแค่พวกลีดเดอร์ที่เหลือก็แทบจะบอกได้ว่าชนะขาดลอย
พี่สองถึงจะดูๆไปแล้วอาจจะเรียบร้อยบ้าง แต่ถ้ามามองจากมุมนี้แล้ว ยิ่งกว่าปลาปิรันย่ากินควายทั้งตัว
เพราะคุณเธอเล่นตบซะฝ่ายนั้นเลือด กลบ ปาก
“น่าสงสารนะ” วอยซ์พูดยิ้มๆ ไดซ์ยิ้มบางๆ
“นั่นสิน่าสงสารนะ” หวันพูดเบาๆ   
หวัน..หน้าแกดูไม่ค่อยจะสงสารเลยว่ะ..
“แต่สมน้ำหน้ามากกว่า ฮิฮิ” วอยซ์หัวเราะเบาๆอย่างชอบใจ  หวันหัวเราะคิกคักเช่นกัน
พวกลีดเดอร์ของDestiny หน้าตาดีทุกคน แต่เสียใจด้วยนะ ความโหดเหี้ ยมอำมหิตทัดเทียมหน้าตา
ยิ่งพวกน่ารักๆสวยๆพวกนั้นยิ่งซาดิสม์
มิยูกิตอนนี้โดน 2 คนรุม เพราะลีดเดอร์คนอื่นวางมือจากสองคนนี้แล้วไปอัดที่เหลือ
แย่เลยนะนี่
ความจริง..คนที่แย่น่ะ..2 คนที่รุมนั่นแหละ
ขอโทษนะ..ลืมบอกไปว่า..มิยูกิน่ะ..เคนโด้ 5 ดั้ง
“โอะ น่าสมเพชจังเลย ขนาดรุมนะนี่” ไดซ์พึมพำเบาๆ จากสายตาก็เห็นได้ชัดว่ามองที่มิยูกิถูกรุมอยู่
พวกที่รุมมิยูกิตอนนี้ล้มไปแล้ว และไม่มีท่าทีว่าจะลุกขึ้นมาอีก
“พวกแกใช้อาวุธนี่!!” เสียงผู้หญิงคนนึงดังขึ้นมา
“แล้วใครห้ามล่ะ” มิยูกิเถียงกลับ แล้วยิ้มแสยะๆ แอนนาเดินมาสมทบ
ยัยถึกที่ชื่อเมย์  ตอนนี้มันวิ่งเข้ามาหามิยูกิ กับแอนนา มันหยิบมีดออกมาอีกครั้ง เสียแต่ว่าโดนกระชากผมกลับไป แล้วนีทก็ล็อกแขนไว้  สองเดินไปแกะมีดออกมาจากมือของมัน แล้วโยนทิ้งมาใกล้ๆพวกชั้น
มัฟฟินเดินไปเก็บมือพับ แล้วเอามาถือเล่น
ตอนนี้สภาพของพวกฝ่ายนั้นดูไม่ได้เลย ทั้งๆที่พวกผีเสื้อปีกดำ แทบจะไม่มีแผลเลยซักนิด เพราะเป็นฝ่ายรุม
ข้าวฟ่างเอาเชือกเส้นโตขนาดมัดควาย ออกมาจากกระเป๋าเป้ แล้วส่งต่อให้พี่สองช่วยกันมัด
สองมัดพวกนี้รวมเข้าไว้ด้วยกัน ไดซ์เดินเข้ามาดูสภาพด้วยสีหน้าสมเพช
“เอาล่ะ ได้เวลาสนุกแล้วนะ หึหึ”
“ได้เวลาสนุกแล้วสิ” ชั้นกับฟินหัวเราะประสานกัน  หวันตามันเป็นประกายขี้เล่นสนุกสนาน
ไดซ์ลากมันมาแถวๆหน้าห้องน้ำ เหมือนแกล้ง
“เฮ้ ตามปกติแล้วอ้ะนะ เราจะแกล้งคู่อริเราต่อ แต่ชั้นเตรียมวิธีมาเล่นกับอีสาหร่ายอย่างพวกแกแล้วล่ะ”
ท่านผู้นำผู้ซึ่งได้รับอำนาจมาจากฟรายเดย์ พูดแล้วยิ้มอย่างประหลาด
ไดซ์ น่ากลัวกว่า จูออนอีก..เชื่อชั้นมั๊ย..
“ปล่อยชั้นนะ ปล่อย บอกให้ปล่อยไงเล่า”
ยัยพวกนั้นตะโกนออกมา ยิ่งเป็นการบันดาลโทสะซะมากกว่า เพราะไอ้หวันถีบมันไปทีนึง
“เฮ้ย พวกแกหิวแล้วใช่มั๊ย นี่ๆ ชั้นจะให้แกกินขนมปัง”
ไดซ์พูดด้วยน้ำเสียงประหลาดๆ แล้วรื้อหาของในถุงกระดาษของตัวเองท่ามกลางความประหลาดใจของหลายๆคน และความเกรงกลัวของยัยสาหร่ายพวกนั้น
“หึหึ เอาแบบไหนดีจ๊ะ โซฟีก็มีนะ หรือเอา ลอลิเอะ  เอะๆ โมเดส ก็มีนะเออ หรือๆ..เอ้าๆ มีแบบหลายแบบนะ เอาสีอะไร ลอลิเอะสีส้ม สีชมพู หรือจะเอาสีฟ้าดี  เอาแบบกลางวันกลางคืน ใหญ่ หนา เล็ก บาง เอายังไง ฮิฮิ”
ไดซ์พูดเหมือนคนบ้า  เอาผ้าอนามัยทั้งถุงชูขึ้นมาให้นังพวกนั้นดู
ตอนนี้พวกนั้นพอจะรู้ชะตากรรมของตัวเองว่าจะโดนอะไร  หน้าพวกนั้นเริ่มซีดลงเรื่อยๆ
ส่วนพวกลีดเดอร์หน้าถอดสีไปเหมือนกัน ส่วนชั้นหรอ หึหึ อีสาลี่เป็นคนคิด ก็ขอร่วมด้วยช่วยกันกับไดซ์แล้วกันนะ
“เอ้าๆ ชั้นเลือกให้นะ  โซฟีแบบกลางคืนดีกว่า ใหญ่ดี หึหึ อ้าปากกว้างๆนะจ๊ะ”
ข้าวฟ่างเอากับเค้าด้วย
นี้ทเองก็เริ่มหัวเราะคิกคักออกมา สองเองก็อมยิ้มเล็กที่มุมปาก ส่วนวอยซ์น่ะ เอากล้องออกมาถ่ายวีดีโอสคลิปตั้งแต่ต้นแล้ว
“เริ่มจากแกก็แล้วกัน”
ไดซูดเปิดฉากแกล้งคน เริ่มจากยัยหัวหน้าคนนำทีมของฝ่ายนั้น ซึ่งกรีดร้องอย่างเอาเป็นเอาตาย
“อย่างงั้นแหละ อ้าปากกว้างๆน๊า ก๊ากๆ”
ไดซ์แกะโซฟีแบบกลางคืนออกมาจากถุง
แล้วให้มัฟฟิน กับหวันมาจับหัวมันให้อยู่เฉยๆ
ไดซ์ค่อยๆจับผ้าอนามัย เน้นย้ำว่า อนามัยจริงๆ เพราะยังไม่ได้ใช้ ยัดใส่ปากนังสาหร่ายคนนำทีมนั่น ท่ามกลางความตื่นตระหนกของเพื่อนผองของยัยนั่น
“เดี๋ยว”
ไดซ์พูดขึ้นมา ก่อนที่ผ้าอนามัยจะเข้าไปอยู่ในปาก  ตอนนี้ผ้าอนามัย กับปากยัยนั่นห่างกันแค่ 5-6 เซนติเมตร
ไดซ์เอาผ้าอนามัยให้ชั้นถือก่อน แล้วหันไปสั่งพวกลีดเดอร์ที่ยืนล้อมวงอยู่
“ใครใส่ผ้าอนามัยโซฟีแบบ 2 ชั้น เอาออกมาชั้นนึง เดี๋ยวนี้!!!!”
คำสั่งอันน่าสะพรึงกลัวดังออกมา  คำสั่งของไดซ์ตอนนี้มีอำนาจเท่ากับคำสั่งฟรายเดย์  พวกลีดเดอร์มองหน้ากันช้าๆ แล้วสามัคคีส่ายหน้า
ส่วนพวกที่ถูกมัดอยู่ทำหน้าจะร้องไห้
ไดซ์ทำหน้าผิดหวัง ก่อนจะแสยะยิ้มอย่างโรคจิต  แล้วหันหน้าไปหามัฟฟิน กับหลี่หวัน
“มัฟฟิน หลี่หวัน ไปดูในห้องน้ำ มันน่าจะมีตกค้างอยู่มั่งล่ะนะ  ไปเอามา!!!”
คราวนี้ยัยสาหร่ายพวกนั้นร้องไห้เลย
ไอ้หวันไอ้ฟิน สงสารพวกแกว่ะ มันทำหน้าซังกะตาย
แล้วเดินเข้าไปให้ห้องน้ำ วอยซ์ยังถ่ายวิดีโออย่างสะใจ เข้าใจว่าจะใช้แบล็กเมล์
ซักพักหลี่หวัน กับมัฟฟินก็เดินออกมา ด้วยมือเปล่า  อันที่จริงมันคงจะมีตกค้างอยู่แหละ เพียงแต่ไอ้สองคนนั้นมันคงพร้อมใจกันทำเป็นมองไม่เห็น ไม่ใช่เพราะสงสารยัยพวกนั้น แต่เพราะพวกมันไม่กล้าจับมากกว่า
“ว่าไง”
ไดซ์ถามทันทีที่พวกมันเดินออกมา พวกมันส่ายหน้า แล้วชูมือ ซึ่งไม่มีอะไรให้ไดซ์ดู
“ไม่ไหวเลย มันต้องมีแน่ๆ ชั้นเข้าไปเอาเองก็ได้”
พวกนังวอกร้องไห้หนักเข้าใหญ่ 
เฮ้อ สงสารชะมัด มันน่าจะสกปรกน่าดู
“ไดซ์ ไม่ต้องหรอก มีอะไรก็ใช้แค่นั้นล่ะ”
ชั้นดึงแขนไดซ์ไว้ก่อนที่คุณพี่เธอจะไปเอาอาวุธเถื่อนไม่พึงประสงค์ออกมา
“ห๊ะ แต่..เออ..ก็ได้วะ”
เฮ้อ..พวกแกขอบใจชั้นซะ...นังบัดซบ
ไดซ์เอาผ้าอนามัยจากมือชั้นจับยัดใส่ปากยัยนั่นทันที
ไม่อยากอธิบาย ยัยนั่นทั้งกรี๊ดทั้งร้องไห้ ทั้งๆที่ผ้าอนามัยคาปากนั่นแหละ..
น่าสมเพชสุดขีด..
เพื่อนๆชะนีของยัยนั่น ร้องไห้เช่นกัน มันคงไม่อยากโดนเหมือนเพื่อนมัน
แต่มันเป็นคราวโชคดีนะ เพราะคำพูดของไดซ์ต่อไป
“ไม่เอาแล้ว เบื่อๆ ไม่สนุกเลย พวกนี้นี่เล่นไม่สนุก พวกที่เหลือไปกินหญ้า แล้วร้อง มอมอ เดะ”
มัฟฟินเอามีดพับของยัยยักษ์ ชื่อเมย์ ไปตัดเชือก แล้วลากหัวพวกมันมาที่สนามหญ้า นอกจากยัยที่โดนจับยัดขนมปังไม่พึงประสงค์ ไดซ์บอกว่าปล่อยมันไว้
“เอ้า เร็วสิ รึอยากโดนเอาผ้าอนามัยยัดปากอีก”
สิ้นคำพูดของมิยูกิ พวกนั้นรีบทำตามคำสั่งอย่างเร่งรีบ วอยซ์ถ่ายวีดีโอไปไม่ขาดซักตอน
คราวนี้ภาพออกมาดูตลกใช่ได้เลยล่ะ พวกนั้นมันร้องมอมอ แล้วไม่ได้กินหญ้าหรอกนะ แค่ทำท่า แต่มันก็ทำให้ไดซ์หัวเราะคิกคักได้
หลังจากนั้นพวกเราก็ทิ้งยัยพวกนี้ แล้ววิ่งไปหากลุ่มผู้ชาย
ซึ่งตอนนี้ผลก็ออกมาเรียบร้อย Destiny ชนะ
พวกฟิลว์ กำลังนั่งหอบอยู่บนพื้น  พี่บอลก็ไล่ตะเพิดไอ้พวกผู้ชายพวกนั้นไป
“เป็นไงมั่ง”
สองถามง่ายๆ พี่บอลชู 2 นิ้วให้ ไดซ์ฉีกยิ้มกว้าง
“แล้วพวกผู้หญิงล่ะ”
โอมถามกลับมา แล้วยันตัวเองขึ้นจากพื้น
“เฮ้ย  ลีดเดอร์ผู้หญิงของผีเสื้อปีกดำ จะแพ้น่ะเหรอ ไม่เคยได้ยินเลย”
ไดซ์พูดจาเยาะเย้ยเล็กๆ  โยยิ้มๆให้
“กลับโรงเรียนได้แล้วล่ะ เรียบร้อยแล้ว”วอยซ์พูดจบ ก็กดสิ้นสุดการบันทึกวีดีโอสคลิป
“แล้วพวกเธอทำอะไรกับยัยพวกนั้นบ้างล่ะ”
เซ็นถามขึ้นมา พวกผู้หญิงก็แค่อมยิ้ม
“อยากรู้หรอ จะดูมั๊ยล่ะ เดี๋ยวค่อยดูพร้อมฟรายเดย์แล้วกัน” วอยซ์ถามอย่างขี้เล่น แล้ววิ่งนำกลับโรงเรียน
“ไดซ์จ๋า”
เสียงหวานๆของฟรายเดย์ดังขึ้น ตามมาด้วยการกระโดดเข้าใส่
“เป็นไงมั่งจ๊ะ ฟรายเดย์รู้นะ ชนะใช่มั๊ย ชนะใช่มั๊ย ดีจังเลยนะ ชนะอีกแล้วล่ะสิ”
“อื้อ แพ้ไม่เป็นท่าเลย”
นีทพูดเล่นๆกับฟรายเดย์  เล่นเอาฟรายเดย์ทำหน้ากังวล
“เฮ้ย ไอ้นีท อย่ามาจิ้งจก  ชนะเว้ย”
ไอ้หวันพูดแย้ง
อะไรวะจิ้งจก..
“อะไรจิ้งจกวะ ไอ้หวัน”
ฟินถามมันด้วยสีหน้างงๆ  ส่วนหวันมันยิ้มๆ
“ก็จิ้งจกร้องยังไงล่ะ”
“จุ๊จุ๊ หรอ” มิยูกิถาม ทำหน้าเอ๋อ
“ใช่ ก็ขี้จุ๊เบเบ ขี้จุ๊ตาลาลา ไง ฮ่าๆ”
โห แก มุขแบบว่าไปขุดมาจากไหน...
“สรุปคือชนะใช่มั๊ยจ๊ะจ๋า วอยซ์เอามาดู”
ฟรายเดย์หันไปหาวอยซ์  ซึ่งส่งกล้องดิจิตอลให้ 
ฟรายเดย์ และกลุ่มผู้ชายนั่งล้อมวงกันดูเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ 30 นาที  ต่างคนก็มีอาการที่ต่างกันออกไป ฟรายเดย์หัวเราะอย่างอารมณ์ดี  พวกผู้ชายหน้าถอดสีไปเลย
“ว้าว เก่งกันจังเลยน๊า  ไม่เสียทีที่วางใจ”
ฟรายเดย์ยิ้มหวาน  มัฟฟินเดินมากอดคอ
“แล้วฟรายเดย์อยู่นี่ทำอะไรล่ะ”
“นั่นไง”
ฟรายเดย์ชี้ไปที่หน้าต่างบานนึงที่แตก เป็นหน้าต่างของห้องประชุมใหญ่ มัฟฟินอึ้งนิดหน่อย
“อย่าบอกนะว่ายิงไปโดนกระจกแตกน่ะ”
ไดซ์ถามตรงๆ ฟรายเดย์พยักหน้า  ไดซ์เอามือขึ้นกุมขมับ
“เมื่อวาน ฟรายเดย์ เพิ่งทำกระจกแตกไปบานนึงเองนะ”
ชั้นพูดบอก ฟรายเดย์ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ แล้วพูดปัดความผิดอย่างไม่ใส่ใจ
“ชั้นเปล่า..กระจกมันสำออยแตกเอง คนทำกระจกทำไม่ดี กระจกไม่แข็งแรง ไม่ใช่ความผิดฟรายเดย์นะ\"
นั่นสิ..เธอไม่ได้ผิดเต็มประตู..แต่มันผิดเต็มหน้าต่างเลย...
“เอาเป็นว่าวันนี้เคลียร์แล้วนะ ถ้ามีอะไรก็เรียกล่ะกัน”
ประโยคสุดท้ายของการสนทนา ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว ขอไปเที่ยวให้สบายใจล่ะนะ 
ชั้นหันไปมองหน้าหลี่หวัน กับมัฟฟิน  หลี่หวันยิ้มๆ  มัฟฟินพูดลาคนในแก๊ง
“งั้นเรา 3 คนไปแล้วนะ  ไดซ์ ฟรายเดย์ วอยซ์ สอง มิยูกิ แอนนา ข้าวฟ่าง นี้ท โอม โย ฟิลว์ เซ็น บอล เอ่อ...และที่เหลืออ้ะนะ ไปก่อนนะ แล้วเจอกันถ้ามีโอกาส”
เราสามคนเดินออกมาจากอาณาเขตโรงเรียนได้ซักพัก หลี่หวันก็พูดขึ้นมาก่อน
“อย่าบอกนะว่าจะกลับบ้านเลย”
มัฟฟินมองหน้าชั้น
“ไม่เว้ย”
คำตอบอย่างพร้อมเพรียงมาจากไอ้สาลี่คนนี้ และไอ้มัฟฟิน มิฟฟี่
หวันยิ้มแบบเจ้าเล่ห์
“ไปไหนดีหว่า”
ไอ้ฟินเอ่ยเกริ่นๆ
“ไปดูหนังกันเถอะ นะๆ หนังเรื่องที่เราอยากดูมันเข้าโรงแล้วอ่ะ  พวกแกจะไปดูเป็นเพื่อนเราใช่มั๊ย”
หวันพูดแล้วทำหน้าอ้อนวอน หน้าตาแบบนี้ทำให้คิ้วชั้นมันกระตุกนิดหน่อยแบบรำคาญ
ไอ้หวัน..ชั้นอยากรู้นักว่าหนังอะไร..
“ไม่”
พอมันได้ยินคำตอบชั้นมันก็ทำหน้าตายอยาก อย่างกับจะลงไปดิ้นกับพื้น มันโวยวายเป็นเด็กๆ
“ไม่น๊า แก ..แกใจร้ายใจดำ ไม่เห็นใจเด็กตาดำๆ นิสัยดีๆ น่ารักๆแบบเรามั่งหรอ แก..แก ต้องไปดูกับเรานะ ไอ้ฟินนะๆ ไอ้สาลี่แกใจร้ายกับเราหรอ เราไม่เคยคิดว่าแกจะทำกับเราแบบนี้นะ แต่ก่อนเราออกจะรักแก ใช่ๆ แต่ก่อนแกออกจะรักเรา ทำไมตอนนี้แกเปลี่ยนไป เปลี่ยนไป แกไปมีคนอื่นแล้วใช่มั๊ย เลยไม่รักเราแล้วงั้นสิ ทำไมแกเป็นคนแบบนี้”
เฮ้ย..แกจะลงแดงตายรึเปล่าวะเนี่ย..
ออ..หรือ..บ้านแกส้วมพัง  ท่าทางกระดูกหมาจะติดคอแกนะ ทำให้เพี้ยนๆ
“เอ่อ..น้องหวัน น้องหวัน...น้องหวัน ขี้ไม่ออกหรอคะ”
“ไอ้สาลี่!!ไอ้ประสาท”
ไหงแกมาว่าชั้นอย่างงั้นล่ะ
“แกสิประสาท เป็นปราสาททั้งหลังเลย”
ดีมากไอ้มัฟฟิน แสนอร่อย
พูดชื่อแกแล้วหิวทุกทีเลย
“โธ่ เราอยากดูหนังเรื่องนั้นมากนี่นา ไม่ดูไม่ได้ ต้องดูวันนี้ด้วย”
มันยังยืนยันโวยวายไม่ยอมแพ้
“เรื่องอะไรวะ”
เรื่องเกิดอาการรำคาญ
“เอ่อ..ทายดิ”
แน่ะ..แกกวนส้นตึกชั้นนะ..
“บอกมาเร็วๆ  จะดูอะไรก็บอก ไม่ชอบทายอะไรเอ่ย”
มัฟฟินดูท่าทางจะอยู่ในอาการแบบเดียวกับชั้น
“อะไรเอ่ยก็ปากสิ”
......
หวัน..แกฉลาดมาก..
มัฟฟินเริ่มมีอาการหรี่ตาลงเล็กๆ  ส่วนอีสาลี่หรอ หึหึ ชั้นชักหมดความอดทนแล้วนะ
“เฮ้ย พวกแก อย่าเครียดๆ”
หวันพูดยิ้มร่า
“ขอกูเครียดซักทีเถอะ”
หวันยิ้มแหยๆ ให้มัฟฟินที่อารมณ์บูดเข้าที่
“งั้นไปดูหนังกันนะ”
“ไม่”
“ใจร้าย งั้นเลิกคบ”
มันยังเถียงกลับ
“เลิกไปเลย ต้องไปที่อำเภอมะ”
มัฟฟินเถียงกลับ หวันหันไปมองทางอื่น ทำเป็นไม่ได้ยิน
งี่เง่าชะมัด..เพื่อนชั้นเหรอเนี่ย..ไม่ใช่มั้ง
“ถ้างั้นไปเที่ยวกันนะ”
หลี่หวันหันกลับมาพร้อมข้อเสนอใหม่
“มันแน่อยู่แล้ว”
“งั้นลี่ แกไปด้วยใช่มั๊ย”
มันหันมาถามชั้น
เอาไงอ่ะ..ยังไม่อยากกลับบ้าน..
เป็นว่าพยักหน้าตอบมันไป
“งั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวหวันเรียกรถให้นะ”
ว่าแล้วมันก็วิ่งนำไปโบกรถ  ปล่อยให้ชั้นกับฟินมองหน้ากันหน่ายๆ
“ไปไหนอ้ะ มิฟฟี่”
ชั้นเอ่ยถาม ตอนที่ไอ้หบ้าหวันหันมาบอกว่าได้รถแล้ว
“สยาม มีที่อื่นให้ไปปะล่ะ แล้วก็ เราชื่อมัฟฟิน”
ชั้นพยักหน้าเนิบๆ แล้วเดินไปหาหลี่หวันที่อารมณ์ดีเป็นพิเศษ
จากที่ฝากหน้าที่รับผิดชอบการเดินทางให้ลุงคนขับแท็กซี่  บรรยากาศในรถไม่มีอะไรมากนอกจากนั่งตกลงกันว่าจะไปทำอะไรกันดี
“ไม่รูจะทำอะไร จะไปดูหนังมันก็เข้าทางไอ้หวัน ไม่ไป”
มัฟฟินออกความเห็น
“เฮ้ย เข้าทางเราแล้วไงหรอ ก็ดีสิ จะได้ดูหนัง ดูหนังๆ”
หลี่หวันออกความเห็น
“กูเดินเล่น”
และท่านสาลี่
พวกมันมองหน้าชั้น มัฟฟินเลิกคิ้วข้างขวาขึ้น หลี่หวันหรี่ตาลง
มึงจะกินชั้นเรอะ..รึจะท้าตบ..ไม่นะ กูถนัดต่อยมากกว่า..
“ก็ดีนะ..ไม่อยากซื้อของ..เปลือง”
โอ้ มัฟฟิน แกติดนิสัยไอ้นีทมาแล้วเรอะ
“..ก็ได้นะ..ไว้เราชวนพ่อไปดูก็ได้วะ”
เอ่อ..หวัน แกเข้าใจอะไรง่ายขึ้นนะ เพราะไม่งั้นเจอท้าต่อยแน่เลย หึหึ
“เออ..มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วเว้ย”
มันสองคนนั่งเงียบๆ
ดี สงบสุข..
เมื่อถึงจุดหมายไอ้ฟินเอาเงินยื่นให้ลุงโชเฟอร์แซงหน้าไอ้หวัน ที่กำลังควักตังออกมาจากกระเป๋า
หลี่หวันชี้หน้าฟิน แบบฝากแค้น แล้วเดินสะบัดหน้าไป
ส่วนไอ้ฟินน่ะหรอ แลบลิ้นใส่ตามหลังไป
ไอ้พวกนี้..กวนส้น..
“ไอ้ฟิน ไอ้ลี่ เดินเร็วๆหน่อยสิ เดี๋ยวเปลี่ยนชื่อให้เป็นชักช้า กับร่ำไรเลย”
หว่านหวันบ่นกลับมา อันที่จริง มันตะโกน เอ่อ..แหกปากมากกว่า
เอ้อ..ถ้าชั้นกับไอ้ฟิน เป็นชักช้า กับร่ำไร แกคงเป็นอืดอาดใช่มั๊ย หรืออึ่งอ่างดี
“เออ!!”
ฟินกระแทกเสียงแล้วเดินตามไป ชั้นส่ายหน้าอย่างเสียไม่ได้ ก่อนเดินไปตบหัวมัน
“แก จะกินน้ำ”
ชั้นพูดง่ายๆ หวันมันมองหน้าแบบกวนๆ
“ก็ซื้อเดะ บอกเราทำไม เราไม่ใช่แม่แกนะ”
ดูมัน..งี่เง่า  กวนส้นตึก
“มาต่อยกันหน่อยดีมั๊ย”
“แหะๆ แกอย่ามาล้อเล่นนะเว้ย”
นั่น..เปลี่ยนอารมณ์เร็วดีนี่
“น้ำอะไรอ้ะ ร้านพี่ปรายมั๊ย”
พี่ปราย เป็นเจ้าของร้านน้ำปั่น  สนิทกันดี เลยไปนั่งเล่นที่ร้านบ่อยๆ
“ก็ได้  ไปๆเดินเร็วๆ” สิ้นเสียงก็ดันหลังไอ้เพื่อนตัวดีให้เดินไปเร็วๆ
ร้านของพี่เค้าตกแต่งเป็นสีส้มซะส่วนใหญ่ เห็นเจ๊แกบอกว่าเป็นความชอบส่วนตัว พี่ปรายยังอายุไม่มาก ยังหน้าเด็กๆวัยรุ่นอยู่เลย
“เจ๊ปราย”
ชั้นเรียกออกไป เพราะเจ๊กำลังนั่งกินขนมอยู่หลังเคาท์เตอร์
พี่ปรายเงยหน้าขึ้นมา 
หญิงสาวอายุไม่มาก ผมสีน้ำตาลแดง ตาสองชั้นกลมโต ผิวขาวรับกับจมูกโด่ง
“อ้าว เด็กๆ ว่าไงจ๊ะ”
พี่ปรายถามด้วยเสียงใสๆ ชวนฟัง 
“อ้าว นั่นสาลี่ใช่มั๊ย กลับมาแล้วหรอ”
“เจ๊ๆ แอปเปิ้ล กับกล้วยปั่น ด่วนๆ เหมือนเดิมทุกประการ อย่าเพิ่งพูดมาก”
พี่ปรายเบ้ปากนิดหน่อย
“สาลี่นี่ อุตส่าห์หลงคิดว่าสวยขึ้น น่ารักขึ้น เฮ้อ เอาเถอะ กลับมาก็สั่งเลย ของฝากก็ไม่มี”
นี่เธอ... 
อ้ะ เจ๊ว่าชั้นสวยเหรอ ใช่สิ รู้ตัวอยู่แล้ว ขอบใจ
“3 แก้วด่วนพี่”
ไอ้ฟินพูดเร่ง พี่ปรายถอนหายใจแล้วเดินไปที่เครื่องปั่น แล้วบอกให้พี่พนักงานคนนึงออกไปก่อน
“สาวๆ นั่งเล่นไปก่อนนะจ๊ะ”
พี่ปรายพูดบอก
เสียแต่ว่าชั้น หวัน ฟินนั่งรอเรียบร้อยแล้ว
“พี่ครับ โอลิโอ้ปั่นนะ 2 เลย เร็วๆหน่อยก็ดีนะครับ”
เสียงหนึ่งที่คุ้นๆดังขึ้นมาหน้าร้าน ทำให้ต้องหันไปมอง
เจ้าของเสียงคือเด็กชายหน้าตาหล่อเหลาสองคน ซึ่งใบหน้ามีรอยช้ำ เป็นแผลอยู่ แต่ไม่ได้ทำให้ใบหน้าลดราศีลงไป
เรน กับเมฆ...แก๊ง เกรย์คีย์..
“พี่ปรายไม่มีลัดคิวนะ”
เรื่องอะไรจะยอม เจ๊แกยิ่งเห็นแก่ผู้ชายหล่ออยู่ คนเค้ายิ่งหิวน้ำอยู่ด้วย มาก่อนได้ก่อน มาหลังรอไปเว้ย
เรน กับเมฆหันมามองตามเสียง
“อ้าว สาลี่นี่ มาทำอะไรที่นี่หรอ”
เรนถามอย่างอารมณ์ดี เมฆยิ้มๆให้
“นายเห็นว่าชั้นมากระโดดเชือก ตีกบอยู่รึเปล่าล่ะ”
อารมณ์เสีย..ทำไมวันนี้อารมณ์เสีย..
“เอ่อ..เปล่า..”
เมฆตอบแทนเรนที่ยังอึ้งๆอยู่
“สาลี่ รู้จักกันหรอ งั้นพี่ให้น้องสองคนก่อนนะ สาลี่ ฟิน หวันรอหน่อยนะจ๊ะ”
เฮ้ย เจ๊ปราย ขัดหน้าด้วยสก๊อตไบต์ปะเนี่ย  หม้อชะมัด
“ไม่ได้!!”
ชั้น ฟิน หวันประสานเสียงกัน พี่ปรายหน้าจ๋อยลงไป
“เอ่อ..ให้พวกสาลี่ไปก่อนก็ได้ฮะ”
เรนพูดแล้วยิ้มแหยๆ
ปกติชอบนะผู้ชายที่พูด ฮะ เนี่ย  ทำไมวันนี้อารมณ์ไม่อำนวยเลย
เรน กับเมฆเดินเข้ามาหา
“สาลี่จะไปไหนต่อหรอ”
เรนเอ่ยถามก่อน
“ก็เดินเล่นไปเรื่อย ไม่รู้จะไปไหน”
“ไปด้วยกันมั๊ย เราบริการเอง”
เรนถามยิ้มๆ
“นายขายบริการหรอ”
อึ้งครับ...ไอ้ฟิน ไอ้หวันที่เท้าคางอยู่ ยังเอาหน้าตัวเองกระแทกกับโต๊ะได้
เรน กับเมฆหน้าเจื่อนไปถนัดเลย  ชั้นเป็นคนดีใช่มั๊ย
“เปล่าหรอก..บริการนี่หมายถึงจะช่วยเทคแคล์ดูแลให้”
อ้อ หรอ
“ความจริงแล้วพวกนายต้องไปกับเรา ไม่ใช่เราไปกับพวกนาย”
“..อ่าหรอ..เออ..เรน..มึงว่าไง”
เมฆพูดขึ้นมา  แล้วสะกิดเรน
“เออ..นี่เพื่อนลี่หรอ แนะนำบ้างสิ”
เมฆพูดต่อ เพราะเรนยังไม่รู้จะตอบกลับยังไง
“ลี่ แกต้องแนะนำเค้าให้เรา ไม่ใช่แนะนำเราให้เค้า”
หวันพูดขึ้นมา 
“นี่เมฆ ส่วนนั่นเรน ส่วนนี่ฟิน นี่หวัน”
“ยินดีที่รู้จักนะ”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น