ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ||:+:||ร้าย แสบ ซ่า แบบว่า รักเธอ||:+:||

    ลำดับตอนที่ #5 : ขอมอบแด่น้องหมาสองตัว

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ย. 48




    หลังจากกินข้าวเสร็จ ไม่รู้จะทำอะไร เลยมานั่งอยู่ในห้องทำงานพ่อ  ห้องนี้มีตู้หนังสือเต็มไปหมด หาข้อมูลข่าวสาร วิชาการอะไรได้ที่นี่ เรียกได้ว่าเป็นห้องสมุดส่วนตัว





    ชาร์ลูลู กับรุยเดินเข้ามานอนอยู่ข้างๆเก้าอี้สองข้าง  ชาร์ลูลูเริ่มเอาเท้าหน้าขึ้นมากดหูให้พับลงไป ส่วนรุยก็นอนอย่างเรียบร้อย  





    ชั้นนอนเอาเท้าพาดอยู่ที่แขนเก้าอี้ตัวใหญ่ที่โต๊ะทำงานพ่อ  



    มือข้างซ้ายถือมีดสำหรับแกะซองจดหมายแบบเป็นแท่ง  มือขวาถือปากกาของพ่อที่มันจะอยู่บนโต๊ะเสมอ  



    แล้วลงมือเขียนอะไรบางอย่างลงในกระดาษ





    “เฮ้อ เบื่อแฮะ น่าจะไปเที่ยวกับไอ้ฟิน กับไอ้หวันต่อนะเนี่ย”  พูดกับมวลสารที่ไม่มีการตอบรับกลับมา

    รุยครางในลำคอนิดหน่อย





    ครืดๆ!!

    เสียงมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะสั่น เด็กหญิงจึงค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมาดู



    สานเรียกเข้า ขึ้นชื่อ  มิยูกิ ทาเคอุจิ





    “โมชิโมชิ สาลี่เดส”





    “เซริจัง ทำอะไรอยู่หรอ”

    มันถามกลับมาเป็นภาษาไทย





    “เล่นเหมือนที่เคยเล่น กับพี่มิซากิ”

    เสียงตอบกลับไปอย่างเบื่อหน่าย





    “อะไรอ้ะ เคยเล่นอะไรกับพี่เค้าเหรอ”





    “อ้อ..โอนถ่ายทรัพย์สิน”





    “อ๋อ ติดพี่เค้ามาล่ะสิ ระวังคนเค้าจะคิดว่าฆ่าตัวตายล่ะ อย่างเขียนจดหมายลาอย่างนี้”

    เหอะๆ ทำไมชั้นต้องฆ่าตัวตายด้วยล่ะ ออกจะมีความสุข





    “อื้อ เข้าใจแล้ว จะรีบเล่นรีบทิ้ง”





    “งั้นแค่นี้นะ”

    สิ้นสุดคำพูดก็ตัดการสนทนา





    หลังจากที่วางมือถือบนโต๊ะ ก็นั่งอ่านข้อความที่ตัวเองเขียนในกระดาษ ในขณะเดียวกันป้าเนียงก็เปิดประตูเข้ามาพอดี

    “คุณหนู ป้าเอาอาหารว่างมาให้ทานค่ะ”





    “ค่ะ เดี๋ยวป้าวางไว้บนโต๊ะนี่ก่อนนะ สาลี่กำลังยุ่งอยู่”

    ป้าเนียงเดินเอาถาดเค้ก  และน้ำมาวางไว้ให้ตามที่ชั้นชี้



    “กำลังทำอะไรอยู่หรอคะ”





    “เขียนจดหมายค่ะ”





    “จดหมายอะไรคะ คุณหนู”





    “จดหมายลาไปเกิดใหม่”

    หลังจากตอบไปก็หมุนมีดเปิดซองจดหมายในมือซ้าย แล้วหัวเราะ





    “ว้าย!! คุณหนูพูดอะไรอย่างงั้น  แล้วนั่นมีดนะคะ วางซะเถอะค่ะ”

    ป้าเนียงตกใจที่ชั้นนั่งเล่นมีด ทั้งที่มันเป็นมีดเปิดซองจดหมาย







    “ไม่หรอกค่ะ ถึงจะแทงจริงๆ มันเจ็บแป๊ปเดียวเอง  แล้วเลือดก็จะไหลออกมา แบบนี้ไง นี่ ป้าดูสิ”

    ชั้นปาดข้อมือบางๆ พอที่จะเรียกเลือดสีแดงให้ไหลออกมา



    ส่วนป้าเนียงก็ตกใจ  จนช็อกทำอะไรไม่ถูก พูดออกมาไม่เป็นคำ



    “คุณ..คุณ..กรีด..เลือด..จดหมาย..ลาตาย...”



    ป้าเนียงใช้เวลารวบรวมสติประมวลผลเล็กน้อยก่อนจะตะโกนออกมา



    “ช่วยด้วย!! คุณหนูจะฆ่าตัวตาย  คุณสน คุณไม้ แย่แล้ว!!!”

    แล้วป้าแกก็วิ่งออกไปนอกห้อง



    ฆ่าตัวตาย..คิดไปได้...



    ชั้นออกจะมีความสุขจะฆ่าตัวตายกะผีอะไร



    เฮ้อ..





    ป้าเนียงวิ่งไปตะโกนบอกคนในบ้านไปว่า คุณหนูฆ่าตัวตาย  แล้ววิ่งไปที่โทรศัพท์ และโทรหาต้นสนทันที

                                              

         -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------







    กลุ่มเด็กชายหนุ่มกลุ่มใหญ่ที่กำลังเล่นเกมกันอยู่ที่เกมเซ็นเตอร์  



    “ไม้ มึงรับโทรศัพท์สิวะ” ชายหนุ่มคนหนึ่งตะโกนบอกเพื่อนที่กำลังเล่นเกมอย่างเมามัน





    “ไม่ใช่ของกูเว้ย ไอ้สน มึงรับดิ” เจ้าของชื่อ ไม้  ตะโกนกลับไป ทำให้คนที่ตะโกนมาเงียบแล้วหยิบมือถือขึ้นมาดู



    “ที่บ้านโทรมา มีอะไรวะ”ต้นสนรับโทรศัพท์อย่างหงุดหงิดนิดหน่อย “เฮ้ย  ตัวกูตายแล้ว ไอ้ไม้บ้า”



    “ฮัลโหล”





    “คุณต้นสนคะ คุณหนู คุณหนู”

    เสียงป้าเนียงดังมาจากปลายสาย



    “คุณหนู...สาลี่ หรอ ทำไม”





    ระหว่างที่กำลังงงกับโทรศัพท์ ไม้ก็ตะโกนขึ้นมา “เฮ้ย กูก็ตายไอ้สน เพราะมึงรับโทรศัพท์”



    “คุณหนูฆ่า..ฆ่าตัวตาย!!!”



    ต้นสนนิ่ง เงียบ งง ช็อก กับสิ่งที่ได้ยินมา



    “อะไรนะ พูดใหม่ ในนี้เสียงดัง สาลี่ฆ่าใครตาย”



    ใบไม้เดินมาสมทบด้วยท่าทางหงุดหงิด แล้วพึมพำว่า “เพราะมึงตัวกูตาย เพราะมึงรับมือถือ เพราะมึง”



    “คุณหนูฆ่าตัวตายค่ะ!!”







    “เฮ้ย!!! ไม้เว้ยย!! เฮ้ย ป้าพูดใหม่ อยู่ดีๆแช่งลี่ทำไม”

    สนกรอกเสียงลงในโทรศัพท์



    “มีอะไรหรอ พี่สน”

    เรน กับเมฆเดินมาสมทบ หลังจากเล่นเกมของตัวเองแพ้



    “ไม้ๆ มึง...มึง..กูงง”



    “มึงงงอะไรสน มานี่กูคุยเอง” ไม้แย่งโทรศัพท์ไปจากมือต้นสน



    “ฮัลโหล มีอะไร”



    “คุณไม้...คุณหนูฆ่าตัวตาย!!”  



    “ห๊ะ..สน..ป้าเค้าบอกว่าสาลี่ฆ่าตัวตาย แค่นี้มึงก็ไม่รู้เรื่อง..เฮ้ย.. เฮ้ย!!! ป้าๆ ป้า สาลี่ฆ่าตัวตาย ป้าพูดอะไรนะ”



    “พี่ไม้ มีอะไรหรอ”

    เรนถาม แล้วหันไปมองหน้าเมฆ





    “อะไรฆ่าตัวตายนะ”

    เมฆถามซ้ำ  แต่ยังไม่ได้คำตอบ ก็ถูกไม้วิ่งมาลากไป ส่วนเรนก็ถูกต้นสนกระชากไปที่รถมอร์เตอร์ไซด์ ของตัวเองทันที





      “ไปเว้ย กลับบ้าน เดี๋ยวน้องกูตาย”



    สนโยนหมวกกันน็อกให้เรน  ใบไม้โยนอีกอันให้เมฆ แล้วรีบกระชากขึ้นรถ แล้วขับกลับบ้าน





    “สาลี่เป็นอะไร พี่”

    เรน กับเมฆยังไม่เข้าใจ  จึงถามขึ้นหลังจากที่ถูกกระชากออกมาจากเกมเซ็นเตอร์







    “ที่บ้านโทรมาบอกว่าสาลี่ฆ่าตัวตาย”

    ไม้ตอบสั้นๆ  แล้วสามัคคีกับต้นสนเหยียบเกินร้อย





    “เฮ้ย เรน  มึงรับโทรศัพท์ทีดิ  มันสั่นอยู่เนี่ย”



    ต้นสนตะโกนบอก เรนก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงล้วงมือถือออกมา



    “ฟลุค โทรมา” เรนบอก แล้วกดรับสาย







    “เฮ้ย !! ไอ้เชี่ยสน มึงอยู่ไหนวะ  ไอ้ห่ าไม้อยู่กับมึงใช่มั๊ย  แล้วไอ้สาดเรน กับเมฆมันหายหัวไปไหนวะ  แล้วมึงทิ้งกูอยู่นี่เรอะไง  ไอ้พวกคุณพี่ชา มันบอกว่าจะไปดูหนังผีต่อ แต่กูไม่ดู กูกลัว”





    “เอ่อ..ตอนนี้ไอ้สาดที่พี่ว่ากำลังรับสายอยู่นะ เรากำลังจะมุ่งหน้าไปบ้านของพี่สน”

    เรนตอบเรียบๆ  ก่อนจะกรอกเสียงลงโทรศัพท์ดังๆเพื่อที่จะให้ ต้นสน ใบไม้ และเมฆได้ยินด้วย



    “และไอ้เชี่ยสน ไอ้ห่ าไม้ ไอ้สาดเมฆก็อยู่ที่นี่ด้วย”





    ไม้แหกปากกลับมา “มึงว่าใครไอ้ห่ าวะ”





    “มึงไปบ้านไอ้เชี่ยสนทำไม มันจัดปาร์ตี้เรอะ ทำไมไม่ชวนตู”





    “โอ้ ปาร์ตี้เลยพี่  สาลี่ฆ่าตัวตายปาร์ตี้ฮัลโลวีนดีมะ”





    “ห๊ะ!! แกว่าอะไรนะ ใครฆ่าตัวตาย ใครฆ่าใคร”





    “ไอ้สาดเรน มึงอย่าเล่นนี่น้องสาวกูนะเว้ย”



    ต้นสนที่นั่งอยู่ข้างหน้าตะโกนด่า





    “เออ..กูมันสาด”





    “แล้วนี่มันยังไง อะไร เฮ้ยๆ!!”





    “อ้อ ครับ บอส ทราบแล้ว ขณะนี้พวกเรากำลังอยู่ที่พิกัดที่ 38.9 หน้าบ้านเรียบร้อยปลอดภัยแล้วครับ”

    เรนพูดจบก็กดปิดสายทันที โดยไม่ฟังเสียงแหกปากกลับมาของฟลุค







    หลังจากที่ต้นสนกับใบไม้ปีนรั้วบ้านเข้าไป  ทั้งๆที่บ้านของตัวเอง  ในขณะที่เรนกับเมฆเดินเข้าประตูหน้าบ้าน



    “ป้าเนียง!!! นี่มันเกิดอะไรขึ้น สาลี่อยู่ไหน แล้วมันเป็นอะไร ฆ่าตัวตายอะไร มันเป็นไงบ้าง” ใบไม้ยิงคำถามรัว ทันทีที่เจอหน้าป้าเนียง



    “นั่นสิ ที่โทรไปบอกสาลี่ฆ่าตัวตาย หมายความว่าไง แล้วลี่เป็นอะไร”

    ต้นสนถามอีกคน  







    ในระหว่างที่ต้นสน และใบไม้กำลังยิงคำถามรัวใส่ป้าเนียง อย่างไม่รอฟังคำตอบ

    เมฆก็เริ่มคุยกับเรน



    “เฮ้ย กูว่าลากพี่สองคนนั่นไปหาสาลี่ดีกว่า เดี๋ยวน้องสาวมันจะตายเพราะมัวแต่ถามนี่แหละ”





    “เออ..กูว่าขึ้นไปเลยไม่ง่ายกว่าเรอะ”

    เรนออกความเห็น เมฆพยักหน้ารับ







    “พี่สน พี่ไม้  เราขึ้นไปก่อนนะครับ อย่าลืมตามขึ้นไปนะ”

    เมฆ กับเรนพูดแล้ว วิ่งขึ้นบันไดขึ้นไป





    “เฮ้ย!! สาลี่ กูลืมไป ไม้เว้ย”

    ต้นสน ลากคอใบไม้วิ่งขึ้นบันไดไปสมทบกับพวกเรน





    “แล้วสาลี่มันอยู่ไหนวะ”

    ใบไม้ถามขึ้นในขณะที่วิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนของสาลี่ ที่เจ้าของไม่อยู่ในห้อง





    โฮ่งๆ!!

    เสียงคุ้นหูดังขึ้น เรนหันหน้าไปมองต้นเสียง



    “รุย  สาลี่ไปไหน”

    สนถาม แล้วลูบหัวรุย



    “มันคาบอะไรมาน่ะ” เมฆมองอย่างสงสัย แล้วดึงสิ่งบางสิ่งออกมาจากปากมัน

    สิ่งนั้นคือ มีดเปิดซองจดหมายยาว ที่เปื้อนเลือดที่คม



    “มีดนี่มัน..เลอะเลือดด้วย”



    เรนพูดอย่างใช้ความคิด แล้วพูดกับรุย “รุย พาไปหาสาลี่เร็ว”





    รุยเห่าครั้งนึงแล้ววิ่งนำไปตามทางตรงไปเรื่อยๆ  จนมาหยุดอยู่ที่ห้องทำงาน

    เรนดันประตูให้เปิดเข้าไป  และสิ่งที่เห็นคือ...









    เด็กหญิงที่นอนอยู่บนเก้าอี้ ซึ่งเอาขาทั้งสองพาดไว้ที่แขนของเก้าอี้ตัวใหญ่  และกำลังเลียแผลที่มีเลือดไหลเป็นทางอย่างโรคจิต   และยังมีสุนัขขนสีขวาออกเงินเป็นมันเงา นั่งอยู่ที่พื้นข้างๆอย่างสวามิภัค ในปากคาบกระดาษอยู่แผ่นนึง





    “เอ่อ..ขอโทษที เข้าผิดห้อง”

    เรนปิดประตูทันที ด้วยความตกใจกับภาพที่เห็น





    “เฮ้ย อะไรวะ ไอ้เรน  สาลี่ล่ะ”

    ไม้ถามอย่างกังวล  ต้นสนมีท่าทีงงสงสัย



    “น่ากลัวว่ะ ไอ้เมฆ” เรนพูดกับเพื่อนรักที่ยืนทำหน้าไม่ถูก อย่างแปลกใจ  ในขณะที่ใบไม้เปิดประตูเข้าไปข้างใน แล้วแหกปากเสียงดัง





    “มีอะไรวะ ไอ้ไม้ สาลี่ล่ะ” ต้นสนวิ่งเข้าไปในห้องทันที แล้วก็ต้องตะลึงค้าง และเริ่มไม่แน่ใจว่านี่ใช่น้องสาวของพวกเขาจริงรึเปล่า



    “สาลี่”

    ต้นสนเรียกเสียงเบาๆ  สาลี่ที่กำลังเลียแผลอยู่ เงยหน้าขึ้นมามอง



    “พี่สน พี่ไม้ มีอะไรหรอ”

    สาลี่ถามกลับมาแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว



    “ลี่ แกทำอะไรกับข้อมือ แล้วเลือดนี่มันอะไรกัน แกจะฆ่าตัวตายหรอ เพราอะไร เพราะชั้นไม่ดีใช่ไหม หรือเพราะแกรู้แล้วว่าชั้นแอบไปเอาขนมที่แกเก็บเอาไว้ไปกินจนหมด”

    ใบไม้ถามอย่างกังวล ระคนระบาย





    “เฮ้ย  ไอ้ใบไม้ แกยอมรับแล้วใช่มั๊ย ว่าแกเอาขนมชั้นไปกิน   นั่นไง  ยอมสารภาพแล้วล่ะสิ  ชั้นจะไม่โกรธแกนะ แต่ต้องยอมเป็นเบ๊ชั้น 1 วัน”

    สาลี่ลุกขึ้นมายืนบนเก้าอี้ ชี้หน้าพูดกับพี่ชาย





    “ลี่..ลี่ทำอะไรกับข้อมือน่ะ”



    ต้นสนเดินเข้ามาดึงให้สาลี่นั่งลงตามเดิม แล้วดึงข้อมือน้องสาวมาดูอย่างเป็นห่วง





    “ลี่เปล่า แค่เอามีดมาปาดให้ป้าเนียงดูว่ามันมีเลือดไหลออกมา”



    ต้นสนอึ้งจนพูดไม่ออก ใบไม้กำลังสะกดอารมณ์ที่ไม่รู้ว่าโกรธ หรือโล่งใจดีที่น้องสาวไม่เป็นไร  



    “เฮ้ จะให้เรียกรถพยาบาลมั๊ย”

    เสียงเมฆดังเข้ามาในห้อง ไม้ตะโกนกลับออกไป



    “ไม่ต้อง!! น้องสาวกูตายยาก”





    เรน เข้ามาในห้อง พร้อมกับเมฆ แล้วเดินเข้ามาใกล้ๆสาลี่



    “ไม่เป็นไรใช่ไหม แล้วที่บอกว่าฆ่าตัวตาย”

    ชายหนุ่มถามขึ้น แล้วหันหน้าไปมองต้นสน



    “ไม่เป็นไรแล้วล่ะ เรน ขอบใจมากนะ แล้วก็ขอโทษด้วยที่ทำให้ตกใจ”

    สนบอกแล้วส่ายหน้า  ก่อนจะตะโกนเรียกป้าเนียงให้เอากล่องปฐมพยาบาลมาทำแผลให้น้องสาวที่แสนดี ที่ทำให้เป็นห่วงซะเรื่อย





    “ไอ้สาลี่!!”





    ใบไม้ตะคอกใส่หน้า เมื่อเรนเป็นคนทำแผลปฐมพยาบาลเรียบร้อย แทนที่พี่ชายจะทำ

    “อะไร เสียงดังจริง”

    น้องสาวตัวแซบถามกลับอย่างไม่ใส่ใจ  





    \"แกไม่เป็นไร แล้วทำไมมาบอกว่าแกฆ่าตัวตาย มันหมายความว่าไง นี่เล่นเอาชั้นเกือบหัวใจวายตาย เหยียบเกินร้อยจนเกือบจะโดนสิบล้อแดกเนี่ย”

    ใบไม้นั่งบ่นเป็นคนแก่





    “ก็ลี่ไม่ได้เป็นไร แค่กรีดข้อมือ แล้วป้าเนียงก็ตกใจ บอกว่าลี่ฆ่าตัวตาย”



    “แล้วแกกรีดข้อมือทำไม ใครๆก็ต้องคิดว่าแกฆ่าตัวตายทั้งนั้นแหละ”



    “อ้าว แล้วใครให้คิดเล่า  ลี่ออกจะมีความสุข จะฆ่าตัวตายทำซากปรักหักพังอะไรล่ะ”



    ในช่วงที่ไม้ กับสาลี่กำลังเถียงกันอยู่ ต้นสน เมฆกำลังให้ความสนใจ กับสิ่งที่เรนกำลังเอาออกมาจากปากของชาร์ลูลู



    กระดาษแผ่นเล็กๆ ที่ออกมาจากปากของน้องหมา  มีข้อความอยู่ที่ถูกเขียนด้วยลายมือของสาลี่  เนื้อความว่าด้วยเรื่องของ..







           ข้าพเจ้ามีชื่อว่า สาลี่ ครอบครัวของข้าพเจ้าประกอบด้วยคุณพ่อที่แสนใจดี คุณแม่ที่แสนน่ารัก  พี่ชายงี่เง่าอีก 2 ตัว และสุนัขที่ภักดี และแสนดี อีก 2



               ข้าพเจ้าขอประกาศในกระดาษแผ่นนี้ว่า ทรัพย์สินของข้าพเจ้าทั้งหมด จะถูกถ่ายทอดตกสู่น้องหมาสองตัว แต่เพียงกลุ่มเดียว



               และพี่ชาย 2 ตัวของข้าพเจ้าจะไม่มีวันได้รับมรดก และทรัพย์สินของข้าพเจ้าแม้แต่ประการใด   เนื่องด้วยความ งี่เง่า เอาแต่ใจ ของพี่ไม้ และความใจดี และใจเย็นซะจนแข็งเกินไปของพี่สน






    เนื้อหาซึ่งบอกได้ว่าสุนัข 2 ตัว ดีกว่าพี่ชายแท้ๆทั้ง 2 คน



    “สาลี่”

    ต้นสนเรียกเบาๆ  สาลี่หันหน้าหลบมาจากการเถียงกับใบไม้



    “นี่มันอะไรหรอ”

    สนถามหน้าตาย ทำหน้าให้ยิ้ม    ข่มความโกรธให้มิด



    “อ่า.. ไม่มีอะไรนี่  เนอะ ชาร์ลี่”

    คุณน้องสาวหันหน้าไปขอเสียงสนับสนุนจากหมาผู้แสนดี



    ชาร์ลูลูส่งเสียงอ้อนๆในลำคอ  รุยวิ่งมานั่งอยู่ข้างๆ    เรนกับเมฆกำลังนั่งหัวเราะกันอยู่ 2 คนอย่างเบาๆ เพื่อไม่ให้ต้นสนได้ยิน







    “แล้วที่เขียนลงไปหมายความว่าไงเหรอ สาลี่” พี่ชายที่แสนดีกำลังจะเปลี่ยนเป็นซาตานผู้ชั่วร้าย  



    “พี่สน อย่าโกรธสิ แค่เขียนเล่นๆเอง นะ นะ”





    “แหม เล่นๆ เรียกพี่เป็นตัวเลยนะ แล้วเรียกหมาเป็นผู้แสนดี”



    ต้นสนพูดด้วยรอยยิ้ม ใบไม้เดินมาดูเรน กับเมฆที่กำลังหัวเราะอยู่เบื้องหลัง แล้วเอากระดาษโอนถ่ายทรัพย์สินไปอ่านบ้าง





    “เฮ้ยย!!! ไอ้สาลี่ มึงเห็นหมาดีกว่าพี่ชายมึงเรอะ”  





    “ใช่เลย สาลี่ วันนี้ลี่เล่นอะไรแผลงๆหลายอย่างแล้วนะ”  ต้นสนกับใบไม้ช่วยกันสามัคคีบ่น





    “เอาน่า แค่นี้เอง  พวกเฮียๆอย่าคิดมากเลย ฮ่าๆ”

    เรนพูดขึ้นมา ทั้งๆที่ยังหัวเราะไม่หาย แต่โดนไม้ด่ากลับไป







    “พวกมึงขำอะไรนักหนาวะ!!”







    “เปล่าครับ แค่เห็นว่ารุย กับชาร์ลูลูน่ารักดีแค่นั้นเอง”



    เมฆตอบแทนเพราะเรนลงไปนอนกลิ้งตรงพื้น ต้นสนเหลือบตามองทำให้ต้องลุกขึ้นมานั่งดีๆ





    “ก็ลี่เบื่อ ก็ต้องหาอะไรทำสิ” สาลี่ยังคงเถียงอย่างไม่หยุด และไม่ลดละ





    “เบื่อ แล้วทำอย่างงี้น่ะเหรอ แล้วถ้าเลือดหมดตัวตายจะทำยังไง”ท่านชายคนโต



    “แล้วที่บอกว่าจะโอนทรัพย์สินให้หมา 2 ตัวนี้ มึงเห็นไอ้พวกนี้สำคัญกว่าพี่ชายสุดหล่อที่แสนดี เลิศประเสริฐศรีของมึงเหรอ” คุณชายคนรอง



    “ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรทำ นั่นก็แค่เขียนเล่นๆเอง แล้วเรื่องกรีดข้อมือก็ไม่ได้เป็นไรซักหน่อย” น้องสาวคนเล็ก



    ครืดๆ!!

    เสียงมือถือของน้องสาวคนเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะสั่นดังขัดจังหวะสามัคคีเถียงของ 3 พี่น้อง







    เอาละหว่า..ใครโทรมาเนี่ย



    “ลี่..รับมือถือนะ”



    พูดบอกพี่สน กับพี่ไม้เสร็จก็รีบวิ่งไปที่มือถือ แต่พี่ไม้กลับดักขึ้นมาก่อน



    “ไม่ต้อง พี่รับเอง เดี๋ยวแกต้องฟังชั้นบ่นต่อ”





    ใบไม้เดินไปที่มือถือที่น่าสงสารของชั้น กดรับอย่างไม่ใส่ใจ  และไม่พูดอะไรซักคำ

    จากที่พี่ไม้เงียบ ก็คงจะเป็นฝ่ายนั้นที่พล่ามมา  ก่อนที่พี่ไม้จะพูดกลับไป



    “มึงเป็นใคร”

    ไอ่หย๋า...พี่ไม้นั่นเพื่อนเค้ารึเปล่า..ไหงพูดจาแบบนี้อ้ะ



      

    “หรอ..มึงกล้าถามกูเหรอว่ากูเป็นใคร!!”

    ใครโทรมาอ้ะ...ซวยจังเลยนะ..





    “อ้อ แน่ล่ะ กูเป็นพี่ของสาลี่ มีปัญหากับกูหรอ”

    ...ไม่ค่อยภูมิใจ..





    “..มันบอกว่าเป็นแฟนลี่”

    ไม้หันมาหาชั้น เฮ้ย !! กูไปตกลงปลงใจกับใครวะเนี่ย







    “ประสาทเปล่า พี่ไม้ มันเป็นใคร”



    ชั้นถามกลับ ใครหน้าไหนกล้ามาอ้างว่าเป็นแฟนชั้น ตลกแล้ว เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ จะหาแฟนได้ภายในข้ามคืนเดียว





    “มันบอกว่า..ชื่อ ภพ”

    ภพไหนวะ กูรู้แต่มึงจะต้องลงสู่ยมภพชัวร์





    “ไม่รู้จัก”

    เมื่อไม้ได้ยินคำตอบ แล้วก็ด่าไอ้ซวยที่ชื่อภพนั่นเป็นชุด





    “เอ่อ..ผมรับมือถือก่อนนะ”



    เรนพูดแล้วหยิบมือถือขึ้นมากดรับสาย

    “สวัสดีครับ”  ช่างต่างจากพี่ชายชั้น





    “อ้อ..อยู่บ้านเฮียสน เฮียไม้...อื้อๆ จะบอกให้..อืมม์..จะรอนะครับ”

    เด็กหนุ่มกดวางสายแล้วหันไปหาพี่สน





    “พวกพี่ชาจะมา บอกให้เฮียปูพรหมแดงไว้ด้วย แค่นี้แหละ”





    ไม้เอามือถืออกห่างหู แล้วบอกกับต้นสน “ชาจะมาเหรอ”

    สนพยักหน้า แล้วหันไปมองหน้าเรนที่ยิ้มรับอีกที







    “ไม้ พี่ไม้ พี่เลิกยุ่งกับมือถือลี่เหอะ”

    ไม่ไหวแล้วนา ถ้ามีคนโทรมาอีก มันจะโดนแบบนี้เหมือนกันหมดมั๊ยเนี่ย



    “ไม่”



    มันหันหน้ากลับไปด่าต่อ







      “สาลี่” ต้นสนเรียกให้หันหน้าไปหา





    “มานี่มา พี่จะพูดด้วย” สนกวักมือเรียก

    โดนบ่นอีกแน่เลย





    “อะไรหรอพี่สน”

    ตายแน่ตาย



    “ลี่มีแฟนแล้วหรอ”



    ผิดคาด...ปกติชั้นทายถูกทุกทีนี่ ทำไมคราวนี้มันผิดได้นา

    แล้วมาถามอะไรเป็นตาแก่โรคจิตเนี่ย





    “ไม่มี”

    พูดเรื่องจริงนะ    ต้นสนเกาหัวตัวเองอย่างไม่รู้จะพูดอะไร







    “งั้นก็ดี เพราะถ้ามีพี่ต้องรู้”



    พี่ชายที่แสนจะใจดียิ้มให้อย่างเคย  

    แต่ชั้นมีมาหลายคนแล้วแหละ..พี่ก็ไม่รู้อยู่ดี นะ





    “พี่ไม้ๆขอลี่คุยหน่อยสิ”



    ลี่รู้ว่าพวกพี่เป็นพี่ที่ดี  

    ใบไม้ทำหน้าไม่พอใจแล้วยื่นโทรศัพท์ให้



    “ฮัลโหล”



    “อ้ะ สาลี่หรอครับ ผม ภพ นะ ยินดีที่รู้จัก”

    ไอ้เสียงหื่นๆดังกลับมา  พวกงี่เง่า





    “...มีธุระอะไร..”

    ชั้นพูดเสียงเย็นๆอย่างที่เคยใช้ขู่คน





    “สาลี่ เมื่อกี้พี่ชายของลี่จริงๆหรอ พูดจาไม่ดีเลยนะครับ”

    ไอ้...มึงกล้าว่าพี่ชายกูเรอะ





    “แล้วทำไม”





    “ลี่ต้องจัดการให้ผมนะ”

    เหอะ ชั้นสิจะจัดการมึง กล้าสั่งชั้นเรอะ ประสาท





    “ทำไมชั้นต้องจัดการให้นายด้วย นั่นพี่ชายชั้นมีปัญหาเหรอ อยากโดนอัดมะ”





    “อ่า ไม่ครับๆ แต่ลี่วันเสาร์นี้ว่างมั๊ยครับ ไปดูหนังกันนะ”

    เรื่องอะไรจะไปให้โง่







    “ไม่ว่าง”







    “แต่ผมรู้นะว่าสาลี่ว่าง”







    “แล้วนายยุ่งอะไรกับชั้น You aren’t my dad!!!!”

    การตะคอกกลับไปบางครั้งก็ได้ผล  พี่สนสะดุ้งนิดหน่อย



    “สาลี่ อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ ผมแค่ชวนเอง”





    “จะให้ชั้นไปกับนาย ก็ควายเต็มทนแล้ว!! หรือต้องให้พูดเป็นภาษาญี่ปุ่นอีกภาษานึง!!! แต่ภาษาหมาชั้นพูดไม่เป็นหรอกนะ แค่นี้นะ ลาขาด!!!!”

    ชั้นกดตัดสายสนทนาทันที



    เมฆ กับเรนตบมือแปะๆ



    ให้มันรู้ซะมั่งว่าใครเป็นใคร









    “เฮ้ย!! พวกนาย”

    เสียงผู้ชายดังขึ้นจากนอกห้อง แล้วตามมาด้วยประตูที่ถูกเปิดออก



      กลุ่มผู้ชายที่เคยเจอตอนที่ไปที่สนามบิน แต่ตอนนี้มีเพิ่มผู้ชายมาอีก 4-5 คนที่ไม่คุ้นหน้า



    “อ้าว มาเร็วกันจัง”

    เมฆร้องทัก เรนหัวเราะเบาๆ  





    “ไอ้ชา ไหนฟลุ๊คบอกว่าไปดูหนังกันไง” พี่สนพูดทักทาย



      

    “อ้อ เปลี่ยนใจแล้ว พอดูรายการหนัง มันไม่น่าสนใจ” ชายหนุ่มคนหนึ่งหน้าตาหล่อ รูปร่าง บุคลิกดูดี  ซอยไล่ลงมาจนถึงต้นคอเข้ากับดวงหน้าที่หล่อเหลา  และดูเด่นกว่าคนอื่น



    “เฮ้ย ชา ลา ล่า นี่น้องสาวกรู ชื่อสาลี่” พี่ไม้แนะนำชั้นให้กับผู้ชายที่ชื่อชา...





    “ไอ้ไม้ กูไม่ได้ชื่อชาลาล่า เมิงอยากตายมากเหรอ” ชาพูดเสียงเรียบ แต่ยังคงยิ้มแย้มอยู่

    ใบไม้หัวเราะอย่างสะใจนิดหน่อย





    “อ้อ น้องชื่อสาลี่ใช่มั๊ย พี่ชื่อ ชา นะ”



    โอ้โห มารยาทงาม



    เอาไงล่ะ ยิ้มสู้พวกหน้าตาดีไว้ก่อน ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเพื่อนๆของพี่ถึงมีแต่คนหล่อ แล้วทำไมพี่ชายชั้นถึงไม่หล่ออย่างเค้ามั่งนะ



    “ค่ะ สวัสดีค่ะ”





    “เดี๋ยวสาลี่จะเข้าโรงเรียนเดียวกับพี่ใช่มั๊ย”





    “อืมม์ ใช่ค่ะ”



    คะ ขา ครองโลก



    ชาทำหน้าใช้ความคิดนิดหน่อย แล้วพูดต่อ  “งั้นลี่ก็เข้าแก๊งพี่ด้วยล่ะกันนะ”

    แก๊ง...G.K. สนุกเลยงานนี้ เข้าทางคุณหนูฟรายเดย์...





    “คงไม่ล่ะค่ะ”

    ตามแผนเฟ้ย ล้อเล่นหรอก...เดี๋ยวได้เกิดเรื่อง ต้องเลี่ยงไว้ก่อนล่ะน่า



    “ทำไมล่ะ  พี่ชาย 2 คนของลี่ก็อยู่ด้วยนะ” แล้วผู้พูดก็หันไปมองหน้าผู้ที่ถูกพูดถึง





    “ช่างหัวมันเถอะ ไม่เกี่ยวกับลี่ซักหน่อย”

    ไอ้ไม้ทำหน้าจะเข้ามาขย้ำคอชั้น อย่าหวัง มันโดนพี่สนดึงให้อยู่ที่เดิม





    “งั้นทำไมไม่เข้าล่ะ พี่อยากให้เข้านะ”

    ชาหันไปมองสน แล้วหันกลับมา





    “ไม่ดีหรอก เดี๋ยวเกิดเรื่อง”





    “เรื่องอะไรหรอ คนอื่นๆเค้าก็อยากเข้ากัน แต่ไม่ได้เข้านะ”

    เรนพูดขึ้นเสริม สนับสนุนพี่ชา  





    “งั้นเอาไว้โรงเรียนเปิดก่อนแล้ว ค่อยคุยกันล่ะกันค่ะ”

    เรนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย  แล้วมองหน้าพี่ชา



    “เอางั้นก็ได้ แล้วแต่สาลี่ล่ะนะ”

    พี่ชาพูดยิ้มๆ    



    “เอาแบบนี้ดีกว่า แนะนำตัวกันหน่อย น้องกรูจะได้รู้จัก”

    ใบไม้พูดอย่างอารมณ์ดี แล้วพูดไล่ไปทีละคน







    “คนนี้ชื่อ ชา  เป็นหัวหน้าแก๊ง ปีนี้อยู่ม.5 หล่ออันดับที่ 2 ของโรงเรียน อย่าไปมองมากๆเดี๋ยวจะนอนไม่หลับ” ไม้โดนพี่ชาตบหัวทีนึง  ก่อนมันจะพล่ามต่อ

    “ไอ้นี้มันชื่อ ฟรังค์  เป็นลูกครึ่งฝรั่งเศส มันเลยหน้าตะวันตกอย่างนี้ อยู่ม.3 อายุน้อย แต่..สูง”





    “ส่วนนี่ เทมส์ รู้จักอยู่แล้วล่ะนะ ปีนี้ม.5 หล่ออันดับ 6 รองจากกูกับไอ้สน” ไม้มันหัวเราะก๊ากๆอย่างดีใจที่ได้รับคะแนนโหวตมากกว่า  ต้นสนเลยแนะนำต่อแทน





    “นี่เรน  แล้วนี่ก็ เมฆ ปีนี้ม.4 เท่ากับลี่  ไอ้ 2 คนนี้มันน่าเกลียดน้อยเป็นอันดับที่ 4 ได้คะแนนเท่ากัน”

    พี่สนไม่อยากชมว่าหล่อกว่าตัวเองก็ว่ามาเถอะ ส่วนพี่ไม้ตอนนี้กำลังส่งสายตาอาฆาตไปให้รุ่นน้องที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลย  อย่าไปกินเค้านะ





    “ไอ้หน้าม่อนี่ชื่อ ฟลุค หน้าตามันงั้นๆ พอจีบหญิงติด  แต่มันก็สุภาพบุรุษใช่ได้ เปิดเรียนนี้อยู่ม. 5” ใบไม้ทำหน้าที่ต่อ

    ก่อนจะชี้ไปที่ผู้ชายอีกคน ที่ยืนอยู่ข้างๆพี่เทมส์





    “นั่น กั๊ส  ชั้นเดียวกับลี่ เรียนเก่ง พอที่จะให้แกลอกได้ ถึงหน้าตาจะไม่ดูเป็นเด็กเรียนก็เถอะ”



    อ้อ นะ จะจำไว้..ช่างมีประโยชน์

    ต้นสนลากผู้ชายคนนึงที่กำลังนั่งเล่นกับรุยออกมา



    “ไอ้นี่ชื่อ ฟอล  ม.6ปีนี้ปีสุดท้ายแล้ว  หล่ออันดับที่ 7 คุยกับมันได้ไม่กัด” พี่นั่นแหละจะกัดเค้า



    “เดี๋ยวๆ เฮียสน เฮียไม้”

    เมฆร้องบอกให้หยุดก่อน  ไม้หยุดแนะนำแล้วถามกลับ



    “ทำไมหรอ เมฆ”  เรนเป็นคนตอบกลับ

    “ก็พี่เล่นแนะนำอย่างนี้ สาลี่จะจำได้มั๊ยล่ะฮะ”



    ชั้นชอบผู้ชายที่พูด ฮะ

    เออ..แต่จำได้นะ นิดเดียวเอง







    “ลี่ ลี่จำได้ปะ”

    สนถามอย่างมั่นใจในความทรงจำของชั้น

    “จำได้”

    ไม้ชี้หน้ากั๊ส แล้วถาม “ไอ้นี่ใคร”







    “กั๊ส เรียนเก่ง เรียนชั้นเดียวกับลี่ใช่มั๊ย”

    จำได้แต่พวกหลักสำคัญ







    “เออ งั้นต่อ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×