ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : กลับสู่ชะตากรรม
เช้าวันจันทร์ที่เพิ่งเดินทางถึงสนามบิน มันคงจะดีกว่านี้  ถ้าเพื่อนสาวชาวญี่ปุ่นที่ชั้นลากกลับมาด้วยไปโวยวายหาทางกลับบ้านไม่ได้
“ซาริๆ นี่ๆ ถ้ามิยุลืมทางกลับบ้านไปแล้วทำไงอ้ะ”  มิยูกิถามอย่างกระวนกระวาย เพราะคุณเธอกลับมาประเทศไทยครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
 
อ้อ นี่มิยุ เค้าชื่อสาลี่น๊า ไม่ใช่ซาริ
“เดี๋ยวพวกฟินก็มารับ ไม่หลงหรอก ใจเย็นๆ โอ๋ๆ”
นี่ชั้นต้องมาทำหน้าที่เลี้ยงเด็กด้วยเหรอ หน้าอย่างสาลี่ สาลี่คนเนี้ย  ตายๆ  ไอ้มัฟฟินไปอยู่ที่ไหนฟะ  มาเอาอีบ้านี่ไปที
มิยูกิเริ่มหยุดแหกปากกลางสนามบิน เพราะอะไร..หว่า..
“เฮ้ๆ ซาริๆ มิยุอยากกินไอติม”
ของกิน..ไหนวะไอติม  ชั้นมองตามที่มันชี้ไป เห็นฝรั่งกลุ่มหนึ่งยืนเลียไอติมอยู่
“แล้วมันขายที่ไหนอ้ะ”
ไอ้ลี่ฉลาดจริงๆ ร้านขายไอติมอ้ะเด้
“ไม่รู้ แต่อยากกินอ้ะ ไปกินกันๆ”  มิยูกิดั้นด้นจะกิน
นี่มึงไม่เคยกินไอติมเหรอฟระ...เออ..แต่น่ากินจริงๆนะเนี่ย..
แล้วมันขายที่ไหนหว่า..อ้อ...สมองอันปราดเปรื่องของชั้นทำงานทันที
“มิยุๆ อยากกินใช่ไหม”
มันพยักหน้าหงึกๆ (_ _) (- -) (_ _) (-  -)
“ลุยโลดเพื่อนรัก ไปถามไอ้ฝรั่งหัวทองพวกนั้นว่ามันซื้อไอติมที่ไหน เย้ ”
มิยูกิมันทำหน้างงๆ แล้วมันก็..เดินไป...
เฮ้ย มึงเอาจริงเรอะ..ไอ้บ้า
มันเข้าไปถามจริงๆ เฮ้ย จริงๆ มันเดินไปแล้ว..แม่จ๋า.. นู๋ล้อเล่น..
ช่างมันๆระหว่างรอมันไปถามไอ้หัวทองคำ คนอย่างไอ้สาลี่ จะทำอะไรน่ะเหรอ หึ อย่าคิดนะว่าชั้นจะคอย ไม่มีทาง
ปฏิบัติการหาคนหล่อ...จากซ้ายไปขวา สอดส่ายจากขวากลับไปซ้าย
เอ..ผู้ชายกลุ่มนั้นหล่อดีนะ แต่ทำไมหน้ามันคุ้นๆหว่า..ไอ้สองตัวข้างหน้ายิ่งคุ้นไปใหญ่..ไหนดูใหม่ๆ ดูดีๆดิไอ้ลี่
อ้อ..พี่ชายมึงไง 
อ้าว เฮ้ย เวง พี่ชายตรูนี่หว่า..แล้วไอ้หล่อกลุ่มนั้นมัน..แก๊งพี่ชายที่รักสองตัวของกรู..บรรลัยเกิด.. ก่อนที่พวกหล่อมันจะมองเห็นชั้น ก็ต้องใส่
เกียร์ผีก่อนละวะ
 
มิยู มิยูกิโว้ยย มึงไปไหนแล้ว กรูบอกให้มึงไปถามฝรั่ง แล้วมึงไปไหนฟร้า 
“เฮ้ย ไอ้สน ไอ้ไม้ นั่นน้องสาลี่ของกูอ้ะเปล่า”  ไอ้หล่อหนึ่งตัวในแก๊งเจือกตาดีอิ๋บอ๊าย
ตายแน่งานนี้ ไอ้หล่อนั่นมันหน้าคุ้นๆอีกแล้ว ชื่ออะไรนะ..ลืม..เฮ้ย!! นี่ไม่ใช่เวลานึกชื่อคนหล่อ
ไอ้มิยุ มันหายเศียรไปไหนวะ..
“เออ..ใช่ น้องกู ไม่ใช่ของมึงไอ้ฟลุคกี้” พี่ใบไม้ หรือไอ้ไม้สุดที่รักของชั้นมันเห็นตูแล้ว..ตายแน่ อีมิยูมึงอย่าออกมานะ... มึงจะไปไหนก็ไป..
“กูชื่อฟลุคเฉยๆ ไม่ต้องเติมกี้ ฟังแล้วแสลงหู” ไอ้หน้าหล่อตาดีวันหลังกูจะเอาตะเกียบจิ้มตามึง
“โฮ้ยย  ลี่!! ไอ้ลี่!!สาลี่!! กลับบ้านเราเหอะน๊า!!”ไอ้พี่สน..มึงช่วยอายคนรอบตัวหน่อยได้ไหมเจ้าคะ...พี่ชายสุดหล่อสองตัวของตูมันวิ่งตรงเข้ามาหยั่งกะกระบือถึกเห็นหญ้าอ่อน
อ๊ายย อย่าเข้ามาน๊า ถึงมันจะหล่อ..เพื่อนๆในแก๊งมันวิ่งตามเข้ามาหมดเลย บางคนชั้นไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนด้วยซ้ำ
“เฮ้ สาลี่ ไม่ได้เจอตั้งนาน สูงขึ้นกี่คืบแล้วว่ะไอ้น้องตรู”
บ้านคุณพี่นับความสูงเป็นคืบเหรอคะ...เฮ้ย มันก็บ้านกูนี่หว่า หรือกูไม่กลับบ้านนาน บ้านกูเลยเปลี่ยนวัฒนธรรม
ไอ้บ้าไม้อย่ามาขยี้หัวตูนะ กลับบ้านกูกัดมึงแน่ แฮ่
“พี่สนๆ ดูน้องชายพี่สิ มันแกล้วลี่ พี่ถีบมันเลย พี่ไม้ใจร้าย”
กี่ปีแล้วหว่าที่กูไม่ได้อ้อนพี่เนี่ย  พี่สนสุดหล่อยังใจดีเหมือนเคย
“ไม้ อย่าไปแกล้งไอ้ลี่มันดิ เดี๋ยวถีบจริงๆนะ”พี่สนพี่อย่าไปพูดยิ้มๆกับไอ้พี่ไม้มัน มันเป็นซาตานรู้มั๊ยคะ
“สาลี่ๆ”  เสียงหล่อตัวไหนมันเรียกชื่อตู  โอ้ โหย หล่อจริงๆด้วย ไอ้แก๊งนี้มันกินอะไรเป็นอาหารฟะ เนี่ย ถึงหล่อเอาๆ  คนหล่อเรียกไอ้ลี่..มึงทำไง ก็แหม “คะ”
“ไม่ได้เจอตั้งนาน ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วล่ะ”
สุดหล่อหน้าคม แถมสุภาพบุรุษ เรียนดีนิสัยเลิศ มันจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก พี่เทมส์ เพื่อนสนิทไอ้ใบไม้  นิสัยต่างกันราวฟ้ากะเหวใต้มหาสมุทร
 
แต่แหม  ม.4 นี่มันอายุเท่าไหร่ล่ะฟะ
 
“16 แล้วค่า”  แล้วคิดว่าสาลี่ที่อยู่ชั้นม.4เนี๊ยะ อายุ 8 ขวบหรอคะ
เอ่อ...เหมือนลืมบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญไปนะ
เอ่อ..อ้าว..เฮ้ย!!เวงแล้ว โอ้พระเจ้ากล้วยช่วยลูกช้างที
มิยูจี้..มิยูกิจังจ๋า ที่รักอย่าเพิ่งเสด็จกลับมานะเจ้าคะ  แก๊งโรงเรียนพี่ตูเป็นโขลงเลย ถ้าหนึ่งในพวกมันจำแกได้ มีหวังแกโดนกระทืบแน่เลย มิยูกิเอ๋ย..
แล้วตอนนี้มันตัวหายไปไหนแล้วเนี่ย  เฮ้ย!!ไอ้ตา2ข้าง ช่วยกันมองหาหน่อยสิฟะ
”เฮ้ย!! ไอ้ลี่แกมองหาอะไรฟะ มองซ้ายมองขวาอยู่ได้” ไอ้พี่ไม้มันถามขั้นมา 
ก็หาเพื่อนกูน่ะดิ  ถามได้..
“เปล่านี่ ลี่ไม่ได้มองหาใครซักหน่อย แล้วนี่มากันทั้งแก๊งเลยเหรอ” เปลี่ยนเรื่องเฟ้ย สถานการณ์แบบนี้ตูต้องเปลี่ยนเรื่อง
ใบไม้สุดหล่อหันซ้ายมองขวาตามชั้นไปด้วย นี่มึงเล่นไซมอนด์เซย์เหรอเจ้าคะ
“ไม่ใช่หรอก อันที่จริง มันก็อยากจะมาทั้งกลุ่มน่ะแหละ แต่ให้มาแค่นี้เพราะเดี๋ยวจะเกะกะคนอื่นเค้า มีอีกเป็น 10 เลยนะ ไว้จะแนะนำให้รู้จัก”  ต้นสนพูดแล้วนับนิ้ว
นี่มันยังไม่หมดอีกเหรอฟะ....เออ..ไอ้มิยุแกอย่ากลับมาตอนนี้นะ มันเอามาแต่ผู้ชายนี่..มันคงไม่รุมกระทืบแกหรอก..แต่ความลับชั้นก็แตกหมดดิ..
“นี่ๆ คนนี้เหรอสาลี่ที่เล่าให้ฟังบ่อยๆ น่ารักจังเลยอ้ะ ไม่น่าเป็นน้องไอ้ไม้เลย มาเป็นน้องพี่มั๊ยจ๊ะ ฟลุคนะ ยินดีที่รู้จักนะสาลี่”
แหม..ขอปฏิเสธอย่างรุนแรงค่า ถึงหน้าหล่อ นิสัยม่อ  ตูก็ไม่เอา และ..ชั้นไม่ตัดใจจากพี่ต้นสนที่น่ารักหรอก ถึงจะมีใบไม้พ่วงมาอีกใบ....
“เฮ้ยๆ บอกว่าน้องกู ห้ามยุ่งเฟ้ย” ใบไม้มันขยี้หัวชั้นอีกแล้ว ฮือๆ..พี่สนช่วยด้วย
..เอ..มิยูกิอยู่ที่ไหนนะ ถ้าไปซื้อไอติมมันก็น่าจะมาได้แล้วนา..
..เฮ้ย!!! ไอ้มิยูมาแล้ว..เวง มึงอย่าเข้ามา
มิยูกิทำหน้าไร้เดียงสา มันไม่เข้ามาใกล้กลุ่มพี่ชายชั้น แต่มันยืนมองแบบอึ้งๆ  มันถือไอติมมา 2 โคน
..เออ..ชั้นลืมไป ไม่ต้องห่วงไอ้มิยู ถึงมันจะดูปัญญานิ่มแค่ไหน มันก็ฉลาดกว่าที่เห็นมากมาย
มิยูกิเอ่ยปากพูดอะไรซักอย่าง  ประมาณว่า  จะ เอา ยัง ไง
“กลับไป!!!”
ชั้นตะโกนใส่มัน พวกเพื่อนพี่ชายชั้นงงเป็นไก่ เอ๊ย คนหล่อตาโต
พี่สนหันหน้าไปตามสายตาชั้น มิยูกิวิ่งกลับไปทางที่ชั้นสั่งให้มันวางกระเป๋าสัมภาระของมันไว้  ซึ่งเป็นคนละที่กับชั้น กันปัญหาที่จะเกิดแบบตอนนี้ 
มิยูกิมันเลียไอติมแบบไม่รู้เรื่อง  พี่ๆทั้งแก๊งหันหน้ามามองชั้นเป็นตาเดียว
“กลับไปไหน สาลี่” พี่สนเอ่ยถาม แล้วหันกลับไปดูอีกรอบ
เออ นั่นเดะ กลับไปไหนฟะ  เอ่อ..
“กลับบ้านเรา!! พี่สน พี่ไม้ กลับบ้าน ใช่ กลับบ้าน”
ไอ้ใบไม้มันมองชั้นแบบอึ้งๆ  ทำไม..ไม่เห็นน้องสาวนาน ชั้นสวยขึ้นเรอะ..อ้อ มันแน่ ชั้นสวยวันสวยคืน ขอบใจ
“กลับ..เออ..ลี่ อยากกลับบ้านแล้วเหรอ.. อื้อๆ.. กลับก็ได้”
ใบไม้ วันนี้มึงเข้าใจอะไรง่ายจัง กูรักมึง เดี๋ยวลี่เอาอาหารหมาจากญี่ปุ่นมาให้กินนะจ๊ะ
“เอ่อ..ลี่ จริงสิ ญี่ปุ่น 1 ปีเป็นไงมั่ง  สนุกไหม” คุณพี่เทมส์ถามอย่างยิ้มแย้ม 
“สนุกค่ะ” ยิ้มไว้ก่อนแม่สอนไว้
“อ่า กลับแล้วเหรอ เรายังไม่รู้จัก สาลี่ เลย”
หนุ่มเท่ห์อีกคนเอ่ยขึ้น  นี่ถ้าชั้นอารมณ์ดี ชั้นจะลากไปดูหนังทั้งก๊กเลย แต่เสียใจ กำลังอารมณ์แปรปรวน
“อ้าว เมฆ  ก็นี่สาลี่ น้องของพี่ไง ก็รู้จักแล้วไม่ใช่เหรอ” พี่ไม้มันพูดจาดีๆกับคนก็เป็นเหรอเนี่ย 
ว่าแต่คนรู้จักของพี่ชายตูไม่รู้จัก สาลี่ เนี่ยนะ เชยจังตาหล่อ
ให้มันรู้ไป ว่าชื่อเสียงชั้นน่ะขนาดไหน
“อ้อ ครับ งั้น นี่ๆ สาลี่ เราชื่อเมฆ นะ อายุเท่ากับลี่ ยินดีที่รู้จัก” เมฆยิ้มมาให้ชั้น น่ารักจัง นายเป็นเทพบุตรเหรอ
“ยินดีที่รู้จัก ชื่อเมฆหรอ น่ารักจัง” 
ยิ้มไว้ๆ  ..นี่ ชั้นต้องทิ้งไอ้มิยูไว้นี่จริงๆเหรอ  ให้พวกพี่เห็นก็ไม่ได้เดี๋ยว 2 แก๊งได้ประกาศสงครามกัน
มิยูกิ เราขอโทษนะ ไว้สาลี่จะเลี้ยงไอศกรีมนะจ๊ะ  อย่าโกรธกันนะ
“แล้วนี่เพื่อนสนิทเรา ชื่อ เรน ที่แปลว่าฝนน่ะ เข้ากับชื่อเราดีมั๊ย”เมฆแนะนำเพื่อนผู้ชายอีกคนที่ดูหน้าตาไปทางหล่อมากกว่าเท่ห์  แต่ 2 คนนี้หน้าตาจัดว่าดีมาก ถ้าเข้าคู่กันล่ะขอซื้อ 1 แถม 1 จะได้มั๊ยเนี่ย
เรนยิ้มมาให้นิดนึง  ยิ้มชนิดที่ว่าเห็นแล้วอึ้ง หน้าตาน่ารักอยู่แล้ว พอยิ้มก็ยิ่งดูหล่อไปใหญ่ โอ้ ดูไปดูมาหล่อกว่าไอ้ไม้ซะอีก..ไม่ได้
พี่ชายชั้นต้องดีที่หนึ่งเฟ้ย      แต่รู้สึกว่าคนชื่อเรนนี่มันจะกวนส้นน่าดูเลยแฮะ ..
“สาลี่เมื่อกี้ขอบใจนะ แต่คำชมว่าน่ารักนี่ไม่ค่อยดีใจเลยอ้ะ แต่ก็ขอบใจนะ” เมฆเอ่ยยิ้มๆ
ก่อนที่พระวาจาชั้นจะเปล่งอะไรออกไป ไอ้ใบไม้ก็เจือกขัดขึ้นมาเฉย
“ไอ้เมฆ คนอย่าง สาลี่ อุตส่าห์ชม แกดีใจไว้เถอะ ปีนึงๆ มันเอ่ยปากชมจริงๆน่ะ  มีไม่กี่คน”
ไอ้ไม้ มึงอยากอายุสั้นนักเหรอ  นี่ ชั้นเห็นแก่มึงเป็นพี่หรอกนะ ไม่งั้น เจอประกาศศึก
“พี่ไม้  ลี่อุตส่าห์ตั้งใจจะชมว่าพี่หล่อขึ้นนะ  แต่ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร”
ต้องให้ใช้ไม้ตาย ..เป็นไง อึ้งเลย .. หลงตัวเองมากมันไม่ดีนะจ๊ะ
เพื่อนๆในแก๊งหล่อปล่อยฮาออกมาทันที  นี่ มันขำมากเรอะ  ไม่ใช่สภาโจ๊กนะ 
“ไอ้ลี่ ไม่ต้องชม พี่ชายมึงก็หล่ออยู่แล้วล่ะวะ ขอบใจนะที่ช่วยตอกย้ำความหล่อของกู”
กรี๊ดดด!!!  ไอ้หลงตัวเอง มึงหล่อนักเรอะ นิสัยก็เสีย ชิชะ  สู้ต้นสนที่น่ารักก็ไม่ได้  ฮื้อ แบบนี้ก็ต้อง..หึหึ
“พี่สนๆ ทำไมพี่ไม้หลงตัวเองมากขึ้นอ้ะ งั้นของฝากลี่ยกให้พี่สนหมดเลยนะ” สาลี่วิ่งไปเกาะต้นสนที่ยิ้มแหยๆ  ในขณะที่ใบไม้ทำหน้าอย่างเสียดายสุดขีด 
“ไอ้ลี่  ของฝากๆ ใช่ ของฝาก มึงสัญญากับกูก่อนไปญี่ปุ่นแล้ว ห้ามบู้บี้” ใบไม้พูดแบบกวนๆ
“กลับบ้านพี่สนกลับบ้าน” กูไม่ฟังซะอย่าง  พี่สนจ๋า เรากลับบ้านกันน๊า
“ของฝากกูก่อน ไอ้สาลี่” ใบไม้ยังไม่ล้มเลิก  ถึงมึงจะหล่อกูก็ไม่แคร์  อยากปากเหมือนเพื่อนมึงดีนัก ที่มีเล็บงามน่ะ
“อื้อๆ กลับบ้านๆ น่าๆไอ้ไม้  กลับบ้านก่อน เดี๋ยวพี่ซื้อเพ็ดดรีกรีให้กิน” ต้องอย่างนี้พี่สนสุดหล่อ
ใบไม้ทำหน้าหงุดหงิด มันจ้องกูอย่างกะจะกินเลือดกินเนื้อ  เนื้อตูแพงนะ ไม่ให้กินหรอก  หนุ่มๆในแก๊งหล่อจัดช่วยตูถือกระเป๋าเฉยเลย
อ้อ พี่ๆทั้งสองเรียกพวกมันมาเพื่อที่ว่าคุณท่านจะไม่ถืออะไรเลยใช่มะ
สาลี่หันไปสบตามิยูกิอีกรอบ มันยักคิ้วให้ แล้วทำท่าบอกให้โทรศัพท์
อ้อ..โทรหาไอ้มัฟฟิน ..อื้อๆ แกรอไปก่อนนะมิยู
หลังจากที่พวกหนุ่มๆมันจัดแจงกันขึ้นแท็กซี่  นั่งกันลงได้ไงฟะ สรุปคือเรียกมา 2 คัน  เชื่อเลยว่าคนทั้งโขยงนั่งเบียดกันลง สงสารรถจังเลยอ่ะ
“พี่สนๆ ยืมมือถือหน่อย” โทรหาฟินๆ ต้องรีบโทรหามัน  ใบไม้มันยื่นมือถือมาให้ ..ถ้าจำไม่ผิดลี่ยืมพี่สนน๊า
“ของไอ้สนมันเงินหมด”  ใบไม้ตอบง่ายๆ  เฮ้..ว่าแต่แกเปลี่ยนมือถือตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย..รุ่นใหม่ชัวร์  ลี่ไม่อยู่ปีเดียวริอาจเปลี่ยนมือถือ 
เบอร์ไอ้ฟินมันเบอร์อะไรหว่า คิดๆ
“ไอ้ลี่ ไม่เคยเห็นมือถือสุดหล่อ อึ้งจนค้างไปเลยเรอะ” 
ใบไม้มึงอยากเป็นใบไม้แห้ง หรือใบไม้อัดกระป๋องดี 
สาลี่ส่งสายตาเคืองๆไปให้มัน มันก็หันหน้ากลับไปชมวิวนอกกระจก
ให้มันรู้ซะมั่ง..
ออ..นึกออกแล้ว เย้      เบอร์เพื่อนเลิฟชั้นไม่มีทางลืมได้ลงหรอก
“ไฮโย่ว  หวัดดีค่า”
เสียงไอ้ฟินมันตอบกลับมา  รู้สึกว่ามันอยู่ที่สนามบินแล้ว ฟังจากเสียงประกาศที่ลอดเข้ามา และ..มันอยู่กันเป็นฝูง..    ดีนะที่ไม่เจอแก๊งพี่กู..
“เรา สาลี่ นะ”  สั้นๆแต่ได้ใจความ
“เฮ้ย ไอ้ลี่แกอยู่ไหนวะ แล้วไอ้มิยูอ้ะ”  มึงใจเย็นๆนะ  ตอนนี้กูอยู่กับพวกพี่กู เดี๋ยวเกิดสงครามพอดี
“เค้าอยู่ในรถอ้ะ กำลังกลับแล้ว พี่ กับเพื่อนพี่ชายมารับอ้ะ” 
สาลี่หันหน้าไปมองพวกหนุ่มที่อยู่บนรถร่วม 5 ชีวิต รวมคนขับ กับตัวชั้นเองเป็น 7 คน  กูกำลังสงสัยว่ามึงนั่งกันยังไงฟะ
รถคันที่ชั้นนั่ง เรียงกันได้โดย ข้างหน้าข้างคนขับ คือเมฆที่โดนพี่ชายชั้นถีบไป  ส่วนข้างหลัง 5 คน เรียงโดย เรน ชั้น สน เทมส์ ไม้ นั่งกันแบบเบียดเสียดอึดอัดอย่างมากมาย 
“พวกพี่ชายมึง แก๊งที่อันตรายที่สุดอ้ะนะ เวนกำ มันเห็นมิยูกิอ้ะเปล่า”  ฟินพูดแบบกังวล
“เปล่าหรอก ไม่เห็น” 
   
เมฆที่นั่งอยู่ข้างหน้าหันหน้ามามองสาลี่คุยโทรศัพท์ ที่ใช้เสียงเบาที่สุด
“อืมม์ แล้วตอนนี้มิยูกิอยู่ไหน” ปลายเสียงเริ่มพูดเป็นงานเป็นการมากขึ้น
“ตู้สื่อสารทางบูรพา” นี่ชั้นต้องใช้คำเยี่ยงนี้เชียวหรอ
“อ้อ ตู้โทรศัพท์ใกล้ๆล็อบบี้ใช่ไหม”  สมเป็นเพื่อนกู ฉลาดจริง
“เย้” สิ้นเสียงตอบรับ มัฟฟินมันก็วางสายทันที 
“พี่ไม้คืน ขอบคุณ”
ชั้นเอามือถือคืนไอ้คนที่เรียกตัวเองว่าสุดหล่ออย่างไม่อายปาก
“ทำไมต้องคุยเบาๆด้วยวะ กลัวหมาที่ไหนได้ยินหรอ”
หมาอย่างมึงนั่นแหละไอ้ไม้
“เปล่านี่ ก็คุยธรรมดา”  สงบ เงียบ สงัด
“ธรรมดาของแก มันต้องแหกปากลั่นบ้านไม่ใช่เหรอวะ”
ไอ้ไม้ รู้สึกว่ามึงส่งเสริมให้น้องมึงเป็นฆาตกรจังนะ
“พี่ไม้  อยากโดนฆ่าหมกแท็กซี่ไหม”
คนขับแท็กซี่หันหน้ามามองแล้วหันกลับไป
“โธ่ ปกติแกจะจับชั้นฆ่าหั่นศพไม่ใช่เหรอ คราวนี้ไปญี่ปุ่นกลับมาเปลี่ยนทัศนคติแล้วรึ”
“อ้อ จะเอาแบบหั่นแล้วยัดส้วมให้เป็นผีฮานาโกะในห้องน้ำไหม”  จบการเถียง ใบไม้หันหน้ากลับไปที่เดิม พี่เทมส์ที่นั่งติดกับมันหัวเราะขึ้นมาเบาๆ แต่ก็โดนไอ้ไม้ตบหัว
นี่มึงกล้าทำคนหล่อกว่ามึงเหรอฟะ..
“สาลี่อยู่โรงเรียนอะไรนะ”
เรนเทพบุตรที่นั่งเงียบๆ ถามขึ้นมา
“โรงเรียนเดียวกับมึง”
ใบไม้ตอบง่าย  ..ไม้กูว่ามึงเจือกจริงๆด้วย
แต่..เฮ้ย..กูไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกับมึงน๊า กูไม่เคยเห็นหน้าตานี่ เป็นไปไม่ได้หรอก
“ใบไม้ พูดใหม่ดิ”
“พูดอะไร สาลี่ อ้อ ใช่ แม่จะให้แกมาเรียนโรงเรียนเดียวกับกู กับสน”
“ห๊า!! ได้ไง  ทำไมแม่ทำแบบนี้”
เฮ้ย ช้างออกลูกเป็นลิงกูก็เชื่อแล้ว  ยังดีกว่าต้องมาเชื่อว่ากูต้องอยู่โรงเรียนเดียวกับมึง
“ทำไม” ไม้ถามเสียงแข็งๆ
“ไม่เอาอ้ะ เค้าไม่อยากย้ายโรงเรียน  ลี่รักโรงเรียนเก่ามากกว่า” ไม่ๆ ยังไงให้ตูตาย สาลี่คนนี้ ก็ไม่เอา
“ไม่รู้    แม่บอกจัดการเรียบร้อยแล้ว รอเปิดเทอมแกจะไปอยู่โรงเรียนชั้นเต็มตัว” ใบไม้ ไอ้ไม้ใบ ไอ้ใบไม้ กูเกลียดมึง
“ชิ โรงเรียนพี่มีอะไรดี”
“หึ มีผู้ชาย” ใบไม้มันพูดแล้วหัวเราะ  ไอ้บ้า  เออ กูรู้แล้ว
“โรงเรียนลี่ก็มีผู้ชายนะ”
“โรงเรียนกูหล่อกว่า”
แบบนี้ชั้นต้องออกจากแก๊งเดิมดิ ไม่ได้นะ ..
ตายแน่เลยอ่า.. แต่มึงบอกว่าเด็กโรงเรียนมึงหล่อกว่าเหรอ..โรงเรียนเค้าหล่อๆก็มีนะ อย่ามาดูถูก
“พี่ไม้ขอมือถืออีกรอบ” 
ใบไม้ทำหน้างงๆ แล้วหยิบมือถือส่งให้
เบอร์ไอ้ฟิน..เมื่อกี้..อ๊ะ เจอแล้ว
“ฮัลโหล สาลี่ปะ” ฟินพูดแบบอารมณ์ดี
มันคงได้ของฝากจากมิยูแล้ว เลยอารมณ์เอ็นจอย
“อื้อ เราเอง แก เราจะย้ายโรงเรียนนะ”
สิ้นเสียง เหมือนได้ยินเสียงอะไรกระแทกพื้นนะ เฮ้ย มันปล่อยมือถือ!! ..ไอ้ฟิน มือถือเครื่องนึงไม่ได้ 3 บาทนะเฟ้ย!!
เสียงเพื่อนๆในแก๊งดังเล็ดลอดเข้ามา
“แกๆ ไอ้ลี่มันจะย้ายโรงเรียน” เสียงไอ้ฟินมันแหกปากบอกเพื่อน แล้วมึงไม่เก็บมือถือเหรอคะ
เสียงแก๊งชั้นมันพูดอะไรกันยกใหญ่ลอดเข้ามาในมือถือ แล้วไอ้ฟินมึงจะทิ้งมือถืออีกนานไหม
เสียงแหกปากดังลั่นของไอ้ฟินดังออกมานอกโทรศัพท์จนเรนที่นั่งข้างๆหันมามอง แล้วถาม
“มีอะไรรึเปล่า”
ชั้นหันไปมองหน้ายิ้มๆ      “ไม่มีๆ”
“อืมม์..” เรนยิ้มให้แล้วหันไปมองนอกหน้าต่าง
“เอ่อๆ...ไอ้ลี่ ไอ้สาลี่ แก..จะย้ายไปเรียนที่ไหน”
ในที่สุดมันก็เก็บมือถือขึ้นมาใหม่
“ที่เดียวกับพี่กู...เออ..นั่นแหละ ใช่ๆ แกพูดถูกแล้ว..”  มัฟฟินมันยิงคำถามมาเรื่อยๆ นี่ไม่ใช่เกมเศรษฐีนะ
สาลี่ก็เลยต้องตอบๆไปตามเวรตามกรรม
“งั้นแกก็ต้องไปอยู่กับแก๊งพี่ชายแกอ้ะดิ”
“อาจจะ ถ้าพี่ชายเราใจดี”
สาลี่หันไปมองพี่สน กับพี่ไม้แล้วกลับมาพูดต่อ “แล้วจะเอายังไง”
“เมื่อกี้หวันโทรบอกพี่ไดซ์ พี่แกบอกว่าพรุ่งนี้ประชุมด่วนทั้งแก๊ง เจอกันหน้าโรงเรียน”
“งั้นแค่นี้นะ ไว้เจอกัน”
“พี่ไม้คืน”
สาลี่ยื่นมือถือคืนเป็นรอบที่สอง
“ไอ้สาลี่ นินทาอะไรกู”
ใบไม้เริ่มเปิดฉากเถียง
“เปล่านี่”
เงียบ....
“แน่ใจ” มันถามย้ำ
“ชัวร์มาก”
มันมาจาก ชั่วมาก ..
ใบไม้มันหันกลับไป เมื่อไหร่มึงจะหันกลับไปแบบตลอดไปเลยวะ
พอถึงบ้าน พ่อกับแม่ก็นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น
“สาลี่ ลูกแม่กลับมาแล้วเหรอ”
หม่าม้าสุดสวย หน้าตายังสาวใสอยู่เลย วิ่งเข้ามาหา
“กลับมาแล้วค่ะ” ชั้นยิ้มๆให้แม่ พ่อเดินตามมา
“สาลี่ ไปเรียนที่นั่นเป็นยังไงมั่งลูก”  พ่อที่แสนจะใจดี ไม่นึกว่าจะมีลูกเป็นคนอย่างไอ้ใบไม้
“สนุกค่า”
“ไว้มาเล่าให้พ่อฟังบ้างนะ  พ่อคิดว่าลูกน่าจะเอาของไปเก็บก่อนนะ”
พ่อมองไปที่แก๊งพี่ชายชั้น แล้วยิ้มแห้งๆ
 
“ลี่ก็ว่าอย่างนั้น” 
แล้วกระเป๋ากูอยู่ไหนหว่า
“ลี่ๆ กระเป๋าๆ” พี่ฟลุค หน้าม่อ แต่กลับดูเป็นสุภาพบุรุษน้อยครั้งเรียก แล้วยื่นกระเป๋าเดินทางของชั้นมาให้
“ขอบคุณมากนะคะ”
หลังจากรับกระเป๋ามาก็กลับไปพูดกับพี่ไม้ พี่สนต่อ
“พี่ๆจะเอาของฝากป่ะ”
ไอ้ไม้พยักหน้าอย่างรวดเร็ว ส่วนพี่สนแค่ยิ้มๆ
“งั้น แบก”
ชั้นโยนกระเป๋าให้พี่ใบไม้แล้ววิ่งขึ้นบันไดไปห้องชั้นที่ชั้นสอง
“ไอ้ลี่ มึงตาย!!!”
ใบไม้วิ่งตามขึ้นมาพร้อมกับยกกระเป๋าเดินทางของชั้นตามขึ้นมา  พี่สนเรียกให้พวกแก๊งหล่อวิ่งตามขึ้นมา
“มึงกล้าใช้พี่ชายสุดหล่อของมึงแบกกระเป๋าหรอ ห๊ะ”
“เฮ้ๆ พี่ใบไม้ใจเย็นสิ  เอ้า อย่าโกรธ น๊า”
คนอย่างชั้นยกมือไหว้พี่ไม้ที่ทำท่าจะวิ่งมากัดคอชั้นตาย
“ไม่โกรธก็ได้ แต่แกเอาของฝากมา”
ใบไม้มันนั่งลงที่เตียงชั้น  พี่สนกับแก๊งวิ่งเข้ามาพอดี
ใครใช้ให้เข้ามาวะ...มีมารยาทกันจังนะ ...เออ ช่างมัน คนหล่อไม่ผิด
“อืมม์ๆ พี่ไม้เอาเกมส์ปะ”
ใบไม้มันทำท่าจะคุ้ยกระเป๋าชั้น...มึงได้กลิ่นอาหารหมาเหรอ
มันเงยหน้าขึ้นมาทันทีที่ถูกถาม
“เอาๆ”
ชั้นก้มหาแผ่นเกมส์ที่ซื้อมาจากญี่ปุ่นในกระเป๋าสะพาย แล้วโยนให้มัน
มันแทบจะกระโดดรับ
“โย่ เกมส์ใหม่โว้ย ไอ้สนเกมส์ใหม่” ใบไม้มันก้มดูเกมส์แล้วแหกปาก วิ่งออกจากห้อง แล้ววิ่งกลับเข้ามาใหม่
“สาลี่ มีอีกปะ”
“มี น้ำหอมให้แม่ กะพ่อ  นาฬิกาให้พี่สน พี่ไม้เอาด้วยปะ นาฬิกาอ้ะ ดูเป็นเปล่า”
ไอ้ไม้มันพยักหน้าทันที ไอ้งก
“เอ้า” ชั้นโยนกล่องใส่นาฬิกาให้มัน มันรีบรับ เปิดดู แล้วก็วิ่งเอาไปเก็บในห้องมัน
“พี่สน” นาฬิกาข้อมืออีกกล่องถูกโยนให้ต้นสน    ซึ่งรับอย่างไม่รีบร้อน
เป็นฝาแฝดกันแต่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
“อ้ะ ขนมๆ”  สาลี่หอบขนมออกมาจากกระเป๋าเดินทางใบโตมาวางกองไว้บนเตียง
ใบไม้วิ่งกลับเข้ามาในห้องพอดี “โอ้ ขนมๆ”  แล้วมันก็โกยหอบกลับห้อง  ต้นสนมองแล้วหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหยิบ ช็อกโกแลตกล่องหนึ่งขึ้น
มาแกะกิน  แล้วโยนขนมแบ่งให้พวกเพื่อนๆ แต่ละคน
“มือถือเค้าอยู่ไหนพี่สน”
ชั้นถามหามือถืออย่างรวดเร็ว    ต้นสนที่กำลังยุ่งอยู่กับการเลือกขนมชี้ไปที่โต๊ะ โอ้ มือถือสุดที่รักของชั้น
“พวกเฮียๆกินขนมไปนะ” 
หลังจากคว้าโทรศัพท์แล้ววิ่งออกนอกห้อง
แต่ก่อนที่จะก้าวเท้าออกจากเขตแดนห้องนอน ก็มีตัวอะไร 2 ตัววิ่งมาประจันหน้าชั้นพอดี
สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า สุนัข 
สุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทีฟเวอร์ตัวใหญ่ 2 ตัวกำลังนั่งมองหน้าเจ้านาย กระดิกหางดิกๆ  ขนของมันเป็นเงางาม ซึ่งแสดงว่าได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี
ตัวแรกขนสีทองเป็นประกาย ส่วนอีกตัวขนเป็นสีขาวบริสุทธิ์
“อ้าว รุย ว่าไงจ๊ะ  ชาร์ลูลู”
รุย โกลเด้นขนสีทอง  และชาร์ลูลูโกลเด้นขนขาววิ่งเข้ามาหาผู้เป็นนายของมันทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกตอบ
“โห ไม่ได้เจอตั้งนาน สบายดีกันรึเปล่า”
ชาร์ลูลู เห่าตอบรับ รุยยกเท้าหน้าขึ้นมา เป็นการทักทาย
“รุย ชาร์ลูลู”เสียงหนึ่งดังขึ้น เพื่อนที่ภักดีของชั้นเห่าตอบ กระดิกหางอย่างสนิทสนม  เสียงนั้นดังมาจากชายหนุ่มที่ชื่อ เรน
“รุริ ชาลี่ สนิทกับเรนด้วยหรอ”ชั้นถามอย่างงงๆเพราะสองตัวนี้ไม่ค่อยสนิทกับใครง่ายๆ รุยหันหน้าไปมองเรน แล้วเห่าเบาๆ
“อืมม์ คงเพราะบ้านเราก็เลี้ยงหมามั้ง เลยสนิทกันง่าย” เรนตอบยิ้มแบบกวนๆเล็กๆ
“เลี้ยงด้วยหรอ..พันธุ์อะไร”
เรนยิ้มที่มุมปาก “ชิสุ”
“โหย น่ารักนะนั่น ไว้เอามาบ้านเรามั่งสิ”  ชิสุ ชั้นอยากเลี้ยงหมาพันธุ์นี้จัง
เรนหัวเราะเบาๆ “ก็ได้ ไว้ว่างๆจะอุ้มมาด้วย”
เย้  ท่าทางจะน่ารักน่าดูเลยนะ  “ขอโทรหาเพื่อนนิดนะ” แล้วหันมาพูดกับรุย และชาร์ลูลู
“รอแป๊ปนึงนะจ๊ะ มีของเล่นมาให้ด้วย”
เมื่อลูบหัวทักทายเพื่อนทั้ง 2 ตัวแล้ว รุยและชาร์ลูลูก็วิ่งเข้าไปในห้องนอน พร้อมกับเรน เพื่อนๆของพี่ก็ทักทายมันอย่างสนิทสนม แล้วยัง
แบ่งขนมให้มันกินด้วย
ในที่สุดชั้นก็ได้โทรถามข่าวคราวซักที
เสียรึยังวะ.. ว้าว ยังไม่เสียด้วย  มือถือที่รักของกู
“เบอร์ไดซ์อยู่ไหนเนี่ย อ๊ะ เจอแล้ว”
“ฮัลโหล”  เสียงปลายสายบ่งบอกถึงความง่วงสุดขีด
“ไดซ์หรอ นี่ สาลี่นะ”
พี่ตื่นรึยังอ้ะ น่าจะตื่นตั้งแต่ที่พวกมัฟฟินโทรไปบอกแล้วนา
“อือ..งื้มๆ”
........อ่า เฮ้ย.....
“พรุ่งนี้ไดซ์เรียกประชุมใช่ไหม”
ไดซ์ขา ช่วยคงความเป็นมนุษย์หน่อยจิ
“เปล่า..ฟรายเดย์เรียก..”
ฟรายเดย์...ทำไมท่านช่างรู้ข่าวเร็วจริงๆ
“ฟรายเดย์ รู้ข่าวแล้วหรอ”
“งืมม์..มันนั่งอยู่นี่ไง” ไดซ์พูดเว้นช่วง แล้วพูดต่อ “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ชั้นนอนต่อล่ะนะ ง่วงชะมัดเลย” 
เอ่อ..ฟรายเดย์ไปอยู่บ้านไดซ์เหรอ ..อืมม์..
“ค่ะ งั้นแค่นี้นะคะ ขอบคุณมาก” 
.....อยากจะหมดความนับถือ....
“เฮ้ย แกจะโทรมาแค่เนี้ยเหรอ ไอ้ลี่”
เสียงไดซ์ในโทรศัพท์ดังสวนกลับขึ้นมาก่อนจะกดวางสาย
“อื้อ แค่เอาความมั่นใจว่าไม่ถูกอำ”
ไดซ์สบถบางอย่างแบบหงุดหงิด
“ไดซ์”
“หือม์”
“..มีของฝากนะ..”
“ซาริๆ นี่ๆ ถ้ามิยุลืมทางกลับบ้านไปแล้วทำไงอ้ะ”  มิยูกิถามอย่างกระวนกระวาย เพราะคุณเธอกลับมาประเทศไทยครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
 
อ้อ นี่มิยุ เค้าชื่อสาลี่น๊า ไม่ใช่ซาริ
“เดี๋ยวพวกฟินก็มารับ ไม่หลงหรอก ใจเย็นๆ โอ๋ๆ”
นี่ชั้นต้องมาทำหน้าที่เลี้ยงเด็กด้วยเหรอ หน้าอย่างสาลี่ สาลี่คนเนี้ย  ตายๆ  ไอ้มัฟฟินไปอยู่ที่ไหนฟะ  มาเอาอีบ้านี่ไปที
มิยูกิเริ่มหยุดแหกปากกลางสนามบิน เพราะอะไร..หว่า..
“เฮ้ๆ ซาริๆ มิยุอยากกินไอติม”
ของกิน..ไหนวะไอติม  ชั้นมองตามที่มันชี้ไป เห็นฝรั่งกลุ่มหนึ่งยืนเลียไอติมอยู่
“แล้วมันขายที่ไหนอ้ะ”
ไอ้ลี่ฉลาดจริงๆ ร้านขายไอติมอ้ะเด้
“ไม่รู้ แต่อยากกินอ้ะ ไปกินกันๆ”  มิยูกิดั้นด้นจะกิน
นี่มึงไม่เคยกินไอติมเหรอฟระ...เออ..แต่น่ากินจริงๆนะเนี่ย..
แล้วมันขายที่ไหนหว่า..อ้อ...สมองอันปราดเปรื่องของชั้นทำงานทันที
“มิยุๆ อยากกินใช่ไหม”
มันพยักหน้าหงึกๆ (_ _) (- -) (_ _) (-  -)
“ลุยโลดเพื่อนรัก ไปถามไอ้ฝรั่งหัวทองพวกนั้นว่ามันซื้อไอติมที่ไหน เย้ ”
มิยูกิมันทำหน้างงๆ แล้วมันก็..เดินไป...
เฮ้ย มึงเอาจริงเรอะ..ไอ้บ้า
มันเข้าไปถามจริงๆ เฮ้ย จริงๆ มันเดินไปแล้ว..แม่จ๋า.. นู๋ล้อเล่น..
ช่างมันๆระหว่างรอมันไปถามไอ้หัวทองคำ คนอย่างไอ้สาลี่ จะทำอะไรน่ะเหรอ หึ อย่าคิดนะว่าชั้นจะคอย ไม่มีทาง
ปฏิบัติการหาคนหล่อ...จากซ้ายไปขวา สอดส่ายจากขวากลับไปซ้าย
เอ..ผู้ชายกลุ่มนั้นหล่อดีนะ แต่ทำไมหน้ามันคุ้นๆหว่า..ไอ้สองตัวข้างหน้ายิ่งคุ้นไปใหญ่..ไหนดูใหม่ๆ ดูดีๆดิไอ้ลี่
อ้อ..พี่ชายมึงไง 
อ้าว เฮ้ย เวง พี่ชายตรูนี่หว่า..แล้วไอ้หล่อกลุ่มนั้นมัน..แก๊งพี่ชายที่รักสองตัวของกรู..บรรลัยเกิด.. ก่อนที่พวกหล่อมันจะมองเห็นชั้น ก็ต้องใส่
เกียร์ผีก่อนละวะ
 
มิยู มิยูกิโว้ยย มึงไปไหนแล้ว กรูบอกให้มึงไปถามฝรั่ง แล้วมึงไปไหนฟร้า 
“เฮ้ย ไอ้สน ไอ้ไม้ นั่นน้องสาลี่ของกูอ้ะเปล่า”  ไอ้หล่อหนึ่งตัวในแก๊งเจือกตาดีอิ๋บอ๊าย
ตายแน่งานนี้ ไอ้หล่อนั่นมันหน้าคุ้นๆอีกแล้ว ชื่ออะไรนะ..ลืม..เฮ้ย!! นี่ไม่ใช่เวลานึกชื่อคนหล่อ
ไอ้มิยุ มันหายเศียรไปไหนวะ..
“เออ..ใช่ น้องกู ไม่ใช่ของมึงไอ้ฟลุคกี้” พี่ใบไม้ หรือไอ้ไม้สุดที่รักของชั้นมันเห็นตูแล้ว..ตายแน่ อีมิยูมึงอย่าออกมานะ... มึงจะไปไหนก็ไป..
“กูชื่อฟลุคเฉยๆ ไม่ต้องเติมกี้ ฟังแล้วแสลงหู” ไอ้หน้าหล่อตาดีวันหลังกูจะเอาตะเกียบจิ้มตามึง
“โฮ้ยย  ลี่!! ไอ้ลี่!!สาลี่!! กลับบ้านเราเหอะน๊า!!”ไอ้พี่สน..มึงช่วยอายคนรอบตัวหน่อยได้ไหมเจ้าคะ...พี่ชายสุดหล่อสองตัวของตูมันวิ่งตรงเข้ามาหยั่งกะกระบือถึกเห็นหญ้าอ่อน
อ๊ายย อย่าเข้ามาน๊า ถึงมันจะหล่อ..เพื่อนๆในแก๊งมันวิ่งตามเข้ามาหมดเลย บางคนชั้นไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนด้วยซ้ำ
“เฮ้ สาลี่ ไม่ได้เจอตั้งนาน สูงขึ้นกี่คืบแล้วว่ะไอ้น้องตรู”
บ้านคุณพี่นับความสูงเป็นคืบเหรอคะ...เฮ้ย มันก็บ้านกูนี่หว่า หรือกูไม่กลับบ้านนาน บ้านกูเลยเปลี่ยนวัฒนธรรม
ไอ้บ้าไม้อย่ามาขยี้หัวตูนะ กลับบ้านกูกัดมึงแน่ แฮ่
“พี่สนๆ ดูน้องชายพี่สิ มันแกล้วลี่ พี่ถีบมันเลย พี่ไม้ใจร้าย”
กี่ปีแล้วหว่าที่กูไม่ได้อ้อนพี่เนี่ย  พี่สนสุดหล่อยังใจดีเหมือนเคย
“ไม้ อย่าไปแกล้งไอ้ลี่มันดิ เดี๋ยวถีบจริงๆนะ”พี่สนพี่อย่าไปพูดยิ้มๆกับไอ้พี่ไม้มัน มันเป็นซาตานรู้มั๊ยคะ
“สาลี่ๆ”  เสียงหล่อตัวไหนมันเรียกชื่อตู  โอ้ โหย หล่อจริงๆด้วย ไอ้แก๊งนี้มันกินอะไรเป็นอาหารฟะ เนี่ย ถึงหล่อเอาๆ  คนหล่อเรียกไอ้ลี่..มึงทำไง ก็แหม “คะ”
“ไม่ได้เจอตั้งนาน ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วล่ะ”
สุดหล่อหน้าคม แถมสุภาพบุรุษ เรียนดีนิสัยเลิศ มันจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก พี่เทมส์ เพื่อนสนิทไอ้ใบไม้  นิสัยต่างกันราวฟ้ากะเหวใต้มหาสมุทร
 
แต่แหม  ม.4 นี่มันอายุเท่าไหร่ล่ะฟะ
 
“16 แล้วค่า”  แล้วคิดว่าสาลี่ที่อยู่ชั้นม.4เนี๊ยะ อายุ 8 ขวบหรอคะ
เอ่อ...เหมือนลืมบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญไปนะ
เอ่อ..อ้าว..เฮ้ย!!เวงแล้ว โอ้พระเจ้ากล้วยช่วยลูกช้างที
มิยูจี้..มิยูกิจังจ๋า ที่รักอย่าเพิ่งเสด็จกลับมานะเจ้าคะ  แก๊งโรงเรียนพี่ตูเป็นโขลงเลย ถ้าหนึ่งในพวกมันจำแกได้ มีหวังแกโดนกระทืบแน่เลย มิยูกิเอ๋ย..
แล้วตอนนี้มันตัวหายไปไหนแล้วเนี่ย  เฮ้ย!!ไอ้ตา2ข้าง ช่วยกันมองหาหน่อยสิฟะ
”เฮ้ย!! ไอ้ลี่แกมองหาอะไรฟะ มองซ้ายมองขวาอยู่ได้” ไอ้พี่ไม้มันถามขั้นมา 
ก็หาเพื่อนกูน่ะดิ  ถามได้..
“เปล่านี่ ลี่ไม่ได้มองหาใครซักหน่อย แล้วนี่มากันทั้งแก๊งเลยเหรอ” เปลี่ยนเรื่องเฟ้ย สถานการณ์แบบนี้ตูต้องเปลี่ยนเรื่อง
ใบไม้สุดหล่อหันซ้ายมองขวาตามชั้นไปด้วย นี่มึงเล่นไซมอนด์เซย์เหรอเจ้าคะ
“ไม่ใช่หรอก อันที่จริง มันก็อยากจะมาทั้งกลุ่มน่ะแหละ แต่ให้มาแค่นี้เพราะเดี๋ยวจะเกะกะคนอื่นเค้า มีอีกเป็น 10 เลยนะ ไว้จะแนะนำให้รู้จัก”  ต้นสนพูดแล้วนับนิ้ว
นี่มันยังไม่หมดอีกเหรอฟะ....เออ..ไอ้มิยุแกอย่ากลับมาตอนนี้นะ มันเอามาแต่ผู้ชายนี่..มันคงไม่รุมกระทืบแกหรอก..แต่ความลับชั้นก็แตกหมดดิ..
“นี่ๆ คนนี้เหรอสาลี่ที่เล่าให้ฟังบ่อยๆ น่ารักจังเลยอ้ะ ไม่น่าเป็นน้องไอ้ไม้เลย มาเป็นน้องพี่มั๊ยจ๊ะ ฟลุคนะ ยินดีที่รู้จักนะสาลี่”
แหม..ขอปฏิเสธอย่างรุนแรงค่า ถึงหน้าหล่อ นิสัยม่อ  ตูก็ไม่เอา และ..ชั้นไม่ตัดใจจากพี่ต้นสนที่น่ารักหรอก ถึงจะมีใบไม้พ่วงมาอีกใบ....
“เฮ้ยๆ บอกว่าน้องกู ห้ามยุ่งเฟ้ย” ใบไม้มันขยี้หัวชั้นอีกแล้ว ฮือๆ..พี่สนช่วยด้วย
..เอ..มิยูกิอยู่ที่ไหนนะ ถ้าไปซื้อไอติมมันก็น่าจะมาได้แล้วนา..
..เฮ้ย!!! ไอ้มิยูมาแล้ว..เวง มึงอย่าเข้ามา
มิยูกิทำหน้าไร้เดียงสา มันไม่เข้ามาใกล้กลุ่มพี่ชายชั้น แต่มันยืนมองแบบอึ้งๆ  มันถือไอติมมา 2 โคน
..เออ..ชั้นลืมไป ไม่ต้องห่วงไอ้มิยู ถึงมันจะดูปัญญานิ่มแค่ไหน มันก็ฉลาดกว่าที่เห็นมากมาย
มิยูกิเอ่ยปากพูดอะไรซักอย่าง  ประมาณว่า  จะ เอา ยัง ไง
“กลับไป!!!”
ชั้นตะโกนใส่มัน พวกเพื่อนพี่ชายชั้นงงเป็นไก่ เอ๊ย คนหล่อตาโต
พี่สนหันหน้าไปตามสายตาชั้น มิยูกิวิ่งกลับไปทางที่ชั้นสั่งให้มันวางกระเป๋าสัมภาระของมันไว้  ซึ่งเป็นคนละที่กับชั้น กันปัญหาที่จะเกิดแบบตอนนี้ 
มิยูกิมันเลียไอติมแบบไม่รู้เรื่อง  พี่ๆทั้งแก๊งหันหน้ามามองชั้นเป็นตาเดียว
“กลับไปไหน สาลี่” พี่สนเอ่ยถาม แล้วหันกลับไปดูอีกรอบ
เออ นั่นเดะ กลับไปไหนฟะ  เอ่อ..
“กลับบ้านเรา!! พี่สน พี่ไม้ กลับบ้าน ใช่ กลับบ้าน”
ไอ้ใบไม้มันมองชั้นแบบอึ้งๆ  ทำไม..ไม่เห็นน้องสาวนาน ชั้นสวยขึ้นเรอะ..อ้อ มันแน่ ชั้นสวยวันสวยคืน ขอบใจ
“กลับ..เออ..ลี่ อยากกลับบ้านแล้วเหรอ.. อื้อๆ.. กลับก็ได้”
ใบไม้ วันนี้มึงเข้าใจอะไรง่ายจัง กูรักมึง เดี๋ยวลี่เอาอาหารหมาจากญี่ปุ่นมาให้กินนะจ๊ะ
“เอ่อ..ลี่ จริงสิ ญี่ปุ่น 1 ปีเป็นไงมั่ง  สนุกไหม” คุณพี่เทมส์ถามอย่างยิ้มแย้ม 
“สนุกค่ะ” ยิ้มไว้ก่อนแม่สอนไว้
“อ่า กลับแล้วเหรอ เรายังไม่รู้จัก สาลี่ เลย”
หนุ่มเท่ห์อีกคนเอ่ยขึ้น  นี่ถ้าชั้นอารมณ์ดี ชั้นจะลากไปดูหนังทั้งก๊กเลย แต่เสียใจ กำลังอารมณ์แปรปรวน
“อ้าว เมฆ  ก็นี่สาลี่ น้องของพี่ไง ก็รู้จักแล้วไม่ใช่เหรอ” พี่ไม้มันพูดจาดีๆกับคนก็เป็นเหรอเนี่ย 
ว่าแต่คนรู้จักของพี่ชายตูไม่รู้จัก สาลี่ เนี่ยนะ เชยจังตาหล่อ
ให้มันรู้ไป ว่าชื่อเสียงชั้นน่ะขนาดไหน
“อ้อ ครับ งั้น นี่ๆ สาลี่ เราชื่อเมฆ นะ อายุเท่ากับลี่ ยินดีที่รู้จัก” เมฆยิ้มมาให้ชั้น น่ารักจัง นายเป็นเทพบุตรเหรอ
“ยินดีที่รู้จัก ชื่อเมฆหรอ น่ารักจัง” 
ยิ้มไว้ๆ  ..นี่ ชั้นต้องทิ้งไอ้มิยูไว้นี่จริงๆเหรอ  ให้พวกพี่เห็นก็ไม่ได้เดี๋ยว 2 แก๊งได้ประกาศสงครามกัน
มิยูกิ เราขอโทษนะ ไว้สาลี่จะเลี้ยงไอศกรีมนะจ๊ะ  อย่าโกรธกันนะ
“แล้วนี่เพื่อนสนิทเรา ชื่อ เรน ที่แปลว่าฝนน่ะ เข้ากับชื่อเราดีมั๊ย”เมฆแนะนำเพื่อนผู้ชายอีกคนที่ดูหน้าตาไปทางหล่อมากกว่าเท่ห์  แต่ 2 คนนี้หน้าตาจัดว่าดีมาก ถ้าเข้าคู่กันล่ะขอซื้อ 1 แถม 1 จะได้มั๊ยเนี่ย
เรนยิ้มมาให้นิดนึง  ยิ้มชนิดที่ว่าเห็นแล้วอึ้ง หน้าตาน่ารักอยู่แล้ว พอยิ้มก็ยิ่งดูหล่อไปใหญ่ โอ้ ดูไปดูมาหล่อกว่าไอ้ไม้ซะอีก..ไม่ได้
พี่ชายชั้นต้องดีที่หนึ่งเฟ้ย      แต่รู้สึกว่าคนชื่อเรนนี่มันจะกวนส้นน่าดูเลยแฮะ ..
“สาลี่เมื่อกี้ขอบใจนะ แต่คำชมว่าน่ารักนี่ไม่ค่อยดีใจเลยอ้ะ แต่ก็ขอบใจนะ” เมฆเอ่ยยิ้มๆ
ก่อนที่พระวาจาชั้นจะเปล่งอะไรออกไป ไอ้ใบไม้ก็เจือกขัดขึ้นมาเฉย
“ไอ้เมฆ คนอย่าง สาลี่ อุตส่าห์ชม แกดีใจไว้เถอะ ปีนึงๆ มันเอ่ยปากชมจริงๆน่ะ  มีไม่กี่คน”
ไอ้ไม้ มึงอยากอายุสั้นนักเหรอ  นี่ ชั้นเห็นแก่มึงเป็นพี่หรอกนะ ไม่งั้น เจอประกาศศึก
“พี่ไม้  ลี่อุตส่าห์ตั้งใจจะชมว่าพี่หล่อขึ้นนะ  แต่ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร”
ต้องให้ใช้ไม้ตาย ..เป็นไง อึ้งเลย .. หลงตัวเองมากมันไม่ดีนะจ๊ะ
เพื่อนๆในแก๊งหล่อปล่อยฮาออกมาทันที  นี่ มันขำมากเรอะ  ไม่ใช่สภาโจ๊กนะ 
“ไอ้ลี่ ไม่ต้องชม พี่ชายมึงก็หล่ออยู่แล้วล่ะวะ ขอบใจนะที่ช่วยตอกย้ำความหล่อของกู”
กรี๊ดดด!!!  ไอ้หลงตัวเอง มึงหล่อนักเรอะ นิสัยก็เสีย ชิชะ  สู้ต้นสนที่น่ารักก็ไม่ได้  ฮื้อ แบบนี้ก็ต้อง..หึหึ
“พี่สนๆ ทำไมพี่ไม้หลงตัวเองมากขึ้นอ้ะ งั้นของฝากลี่ยกให้พี่สนหมดเลยนะ” สาลี่วิ่งไปเกาะต้นสนที่ยิ้มแหยๆ  ในขณะที่ใบไม้ทำหน้าอย่างเสียดายสุดขีด 
“ไอ้ลี่  ของฝากๆ ใช่ ของฝาก มึงสัญญากับกูก่อนไปญี่ปุ่นแล้ว ห้ามบู้บี้” ใบไม้พูดแบบกวนๆ
“กลับบ้านพี่สนกลับบ้าน” กูไม่ฟังซะอย่าง  พี่สนจ๋า เรากลับบ้านกันน๊า
“ของฝากกูก่อน ไอ้สาลี่” ใบไม้ยังไม่ล้มเลิก  ถึงมึงจะหล่อกูก็ไม่แคร์  อยากปากเหมือนเพื่อนมึงดีนัก ที่มีเล็บงามน่ะ
“อื้อๆ กลับบ้านๆ น่าๆไอ้ไม้  กลับบ้านก่อน เดี๋ยวพี่ซื้อเพ็ดดรีกรีให้กิน” ต้องอย่างนี้พี่สนสุดหล่อ
ใบไม้ทำหน้าหงุดหงิด มันจ้องกูอย่างกะจะกินเลือดกินเนื้อ  เนื้อตูแพงนะ ไม่ให้กินหรอก  หนุ่มๆในแก๊งหล่อจัดช่วยตูถือกระเป๋าเฉยเลย
อ้อ พี่ๆทั้งสองเรียกพวกมันมาเพื่อที่ว่าคุณท่านจะไม่ถืออะไรเลยใช่มะ
สาลี่หันไปสบตามิยูกิอีกรอบ มันยักคิ้วให้ แล้วทำท่าบอกให้โทรศัพท์
อ้อ..โทรหาไอ้มัฟฟิน ..อื้อๆ แกรอไปก่อนนะมิยู
หลังจากที่พวกหนุ่มๆมันจัดแจงกันขึ้นแท็กซี่  นั่งกันลงได้ไงฟะ สรุปคือเรียกมา 2 คัน  เชื่อเลยว่าคนทั้งโขยงนั่งเบียดกันลง สงสารรถจังเลยอ่ะ
“พี่สนๆ ยืมมือถือหน่อย” โทรหาฟินๆ ต้องรีบโทรหามัน  ใบไม้มันยื่นมือถือมาให้ ..ถ้าจำไม่ผิดลี่ยืมพี่สนน๊า
“ของไอ้สนมันเงินหมด”  ใบไม้ตอบง่ายๆ  เฮ้..ว่าแต่แกเปลี่ยนมือถือตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย..รุ่นใหม่ชัวร์  ลี่ไม่อยู่ปีเดียวริอาจเปลี่ยนมือถือ 
เบอร์ไอ้ฟินมันเบอร์อะไรหว่า คิดๆ
“ไอ้ลี่ ไม่เคยเห็นมือถือสุดหล่อ อึ้งจนค้างไปเลยเรอะ” 
ใบไม้มึงอยากเป็นใบไม้แห้ง หรือใบไม้อัดกระป๋องดี 
สาลี่ส่งสายตาเคืองๆไปให้มัน มันก็หันหน้ากลับไปชมวิวนอกกระจก
ให้มันรู้ซะมั่ง..
ออ..นึกออกแล้ว เย้      เบอร์เพื่อนเลิฟชั้นไม่มีทางลืมได้ลงหรอก
“ไฮโย่ว  หวัดดีค่า”
เสียงไอ้ฟินมันตอบกลับมา  รู้สึกว่ามันอยู่ที่สนามบินแล้ว ฟังจากเสียงประกาศที่ลอดเข้ามา และ..มันอยู่กันเป็นฝูง..    ดีนะที่ไม่เจอแก๊งพี่กู..
“เรา สาลี่ นะ”  สั้นๆแต่ได้ใจความ
“เฮ้ย ไอ้ลี่แกอยู่ไหนวะ แล้วไอ้มิยูอ้ะ”  มึงใจเย็นๆนะ  ตอนนี้กูอยู่กับพวกพี่กู เดี๋ยวเกิดสงครามพอดี
“เค้าอยู่ในรถอ้ะ กำลังกลับแล้ว พี่ กับเพื่อนพี่ชายมารับอ้ะ” 
สาลี่หันหน้าไปมองพวกหนุ่มที่อยู่บนรถร่วม 5 ชีวิต รวมคนขับ กับตัวชั้นเองเป็น 7 คน  กูกำลังสงสัยว่ามึงนั่งกันยังไงฟะ
รถคันที่ชั้นนั่ง เรียงกันได้โดย ข้างหน้าข้างคนขับ คือเมฆที่โดนพี่ชายชั้นถีบไป  ส่วนข้างหลัง 5 คน เรียงโดย เรน ชั้น สน เทมส์ ไม้ นั่งกันแบบเบียดเสียดอึดอัดอย่างมากมาย 
“พวกพี่ชายมึง แก๊งที่อันตรายที่สุดอ้ะนะ เวนกำ มันเห็นมิยูกิอ้ะเปล่า”  ฟินพูดแบบกังวล
“เปล่าหรอก ไม่เห็น” 
   
เมฆที่นั่งอยู่ข้างหน้าหันหน้ามามองสาลี่คุยโทรศัพท์ ที่ใช้เสียงเบาที่สุด
“อืมม์ แล้วตอนนี้มิยูกิอยู่ไหน” ปลายเสียงเริ่มพูดเป็นงานเป็นการมากขึ้น
“ตู้สื่อสารทางบูรพา” นี่ชั้นต้องใช้คำเยี่ยงนี้เชียวหรอ
“อ้อ ตู้โทรศัพท์ใกล้ๆล็อบบี้ใช่ไหม”  สมเป็นเพื่อนกู ฉลาดจริง
“เย้” สิ้นเสียงตอบรับ มัฟฟินมันก็วางสายทันที 
“พี่ไม้คืน ขอบคุณ”
ชั้นเอามือถือคืนไอ้คนที่เรียกตัวเองว่าสุดหล่ออย่างไม่อายปาก
“ทำไมต้องคุยเบาๆด้วยวะ กลัวหมาที่ไหนได้ยินหรอ”
หมาอย่างมึงนั่นแหละไอ้ไม้
“เปล่านี่ ก็คุยธรรมดา”  สงบ เงียบ สงัด
“ธรรมดาของแก มันต้องแหกปากลั่นบ้านไม่ใช่เหรอวะ”
ไอ้ไม้ รู้สึกว่ามึงส่งเสริมให้น้องมึงเป็นฆาตกรจังนะ
“พี่ไม้  อยากโดนฆ่าหมกแท็กซี่ไหม”
คนขับแท็กซี่หันหน้ามามองแล้วหันกลับไป
“โธ่ ปกติแกจะจับชั้นฆ่าหั่นศพไม่ใช่เหรอ คราวนี้ไปญี่ปุ่นกลับมาเปลี่ยนทัศนคติแล้วรึ”
“อ้อ จะเอาแบบหั่นแล้วยัดส้วมให้เป็นผีฮานาโกะในห้องน้ำไหม”  จบการเถียง ใบไม้หันหน้ากลับไปที่เดิม พี่เทมส์ที่นั่งติดกับมันหัวเราะขึ้นมาเบาๆ แต่ก็โดนไอ้ไม้ตบหัว
นี่มึงกล้าทำคนหล่อกว่ามึงเหรอฟะ..
“สาลี่อยู่โรงเรียนอะไรนะ”
เรนเทพบุตรที่นั่งเงียบๆ ถามขึ้นมา
“โรงเรียนเดียวกับมึง”
ใบไม้ตอบง่าย  ..ไม้กูว่ามึงเจือกจริงๆด้วย
แต่..เฮ้ย..กูไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกับมึงน๊า กูไม่เคยเห็นหน้าตานี่ เป็นไปไม่ได้หรอก
“ใบไม้ พูดใหม่ดิ”
“พูดอะไร สาลี่ อ้อ ใช่ แม่จะให้แกมาเรียนโรงเรียนเดียวกับกู กับสน”
“ห๊า!! ได้ไง  ทำไมแม่ทำแบบนี้”
เฮ้ย ช้างออกลูกเป็นลิงกูก็เชื่อแล้ว  ยังดีกว่าต้องมาเชื่อว่ากูต้องอยู่โรงเรียนเดียวกับมึง
“ทำไม” ไม้ถามเสียงแข็งๆ
“ไม่เอาอ้ะ เค้าไม่อยากย้ายโรงเรียน  ลี่รักโรงเรียนเก่ามากกว่า” ไม่ๆ ยังไงให้ตูตาย สาลี่คนนี้ ก็ไม่เอา
“ไม่รู้    แม่บอกจัดการเรียบร้อยแล้ว รอเปิดเทอมแกจะไปอยู่โรงเรียนชั้นเต็มตัว” ใบไม้ ไอ้ไม้ใบ ไอ้ใบไม้ กูเกลียดมึง
“ชิ โรงเรียนพี่มีอะไรดี”
“หึ มีผู้ชาย” ใบไม้มันพูดแล้วหัวเราะ  ไอ้บ้า  เออ กูรู้แล้ว
“โรงเรียนลี่ก็มีผู้ชายนะ”
“โรงเรียนกูหล่อกว่า”
แบบนี้ชั้นต้องออกจากแก๊งเดิมดิ ไม่ได้นะ ..
ตายแน่เลยอ่า.. แต่มึงบอกว่าเด็กโรงเรียนมึงหล่อกว่าเหรอ..โรงเรียนเค้าหล่อๆก็มีนะ อย่ามาดูถูก
“พี่ไม้ขอมือถืออีกรอบ” 
ใบไม้ทำหน้างงๆ แล้วหยิบมือถือส่งให้
เบอร์ไอ้ฟิน..เมื่อกี้..อ๊ะ เจอแล้ว
“ฮัลโหล สาลี่ปะ” ฟินพูดแบบอารมณ์ดี
มันคงได้ของฝากจากมิยูแล้ว เลยอารมณ์เอ็นจอย
“อื้อ เราเอง แก เราจะย้ายโรงเรียนนะ”
สิ้นเสียง เหมือนได้ยินเสียงอะไรกระแทกพื้นนะ เฮ้ย มันปล่อยมือถือ!! ..ไอ้ฟิน มือถือเครื่องนึงไม่ได้ 3 บาทนะเฟ้ย!!
เสียงเพื่อนๆในแก๊งดังเล็ดลอดเข้ามา
“แกๆ ไอ้ลี่มันจะย้ายโรงเรียน” เสียงไอ้ฟินมันแหกปากบอกเพื่อน แล้วมึงไม่เก็บมือถือเหรอคะ
เสียงแก๊งชั้นมันพูดอะไรกันยกใหญ่ลอดเข้ามาในมือถือ แล้วไอ้ฟินมึงจะทิ้งมือถืออีกนานไหม
เสียงแหกปากดังลั่นของไอ้ฟินดังออกมานอกโทรศัพท์จนเรนที่นั่งข้างๆหันมามอง แล้วถาม
“มีอะไรรึเปล่า”
ชั้นหันไปมองหน้ายิ้มๆ      “ไม่มีๆ”
“อืมม์..” เรนยิ้มให้แล้วหันไปมองนอกหน้าต่าง
“เอ่อๆ...ไอ้ลี่ ไอ้สาลี่ แก..จะย้ายไปเรียนที่ไหน”
ในที่สุดมันก็เก็บมือถือขึ้นมาใหม่
“ที่เดียวกับพี่กู...เออ..นั่นแหละ ใช่ๆ แกพูดถูกแล้ว..”  มัฟฟินมันยิงคำถามมาเรื่อยๆ นี่ไม่ใช่เกมเศรษฐีนะ
สาลี่ก็เลยต้องตอบๆไปตามเวรตามกรรม
“งั้นแกก็ต้องไปอยู่กับแก๊งพี่ชายแกอ้ะดิ”
“อาจจะ ถ้าพี่ชายเราใจดี”
สาลี่หันไปมองพี่สน กับพี่ไม้แล้วกลับมาพูดต่อ “แล้วจะเอายังไง”
“เมื่อกี้หวันโทรบอกพี่ไดซ์ พี่แกบอกว่าพรุ่งนี้ประชุมด่วนทั้งแก๊ง เจอกันหน้าโรงเรียน”
“งั้นแค่นี้นะ ไว้เจอกัน”
“พี่ไม้คืน”
สาลี่ยื่นมือถือคืนเป็นรอบที่สอง
“ไอ้สาลี่ นินทาอะไรกู”
ใบไม้เริ่มเปิดฉากเถียง
“เปล่านี่”
เงียบ....
“แน่ใจ” มันถามย้ำ
“ชัวร์มาก”
มันมาจาก ชั่วมาก ..
ใบไม้มันหันกลับไป เมื่อไหร่มึงจะหันกลับไปแบบตลอดไปเลยวะ
พอถึงบ้าน พ่อกับแม่ก็นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น
“สาลี่ ลูกแม่กลับมาแล้วเหรอ”
หม่าม้าสุดสวย หน้าตายังสาวใสอยู่เลย วิ่งเข้ามาหา
“กลับมาแล้วค่ะ” ชั้นยิ้มๆให้แม่ พ่อเดินตามมา
“สาลี่ ไปเรียนที่นั่นเป็นยังไงมั่งลูก”  พ่อที่แสนจะใจดี ไม่นึกว่าจะมีลูกเป็นคนอย่างไอ้ใบไม้
“สนุกค่า”
“ไว้มาเล่าให้พ่อฟังบ้างนะ  พ่อคิดว่าลูกน่าจะเอาของไปเก็บก่อนนะ”
พ่อมองไปที่แก๊งพี่ชายชั้น แล้วยิ้มแห้งๆ
 
“ลี่ก็ว่าอย่างนั้น” 
แล้วกระเป๋ากูอยู่ไหนหว่า
“ลี่ๆ กระเป๋าๆ” พี่ฟลุค หน้าม่อ แต่กลับดูเป็นสุภาพบุรุษน้อยครั้งเรียก แล้วยื่นกระเป๋าเดินทางของชั้นมาให้
“ขอบคุณมากนะคะ”
หลังจากรับกระเป๋ามาก็กลับไปพูดกับพี่ไม้ พี่สนต่อ
“พี่ๆจะเอาของฝากป่ะ”
ไอ้ไม้พยักหน้าอย่างรวดเร็ว ส่วนพี่สนแค่ยิ้มๆ
“งั้น แบก”
ชั้นโยนกระเป๋าให้พี่ใบไม้แล้ววิ่งขึ้นบันไดไปห้องชั้นที่ชั้นสอง
“ไอ้ลี่ มึงตาย!!!”
ใบไม้วิ่งตามขึ้นมาพร้อมกับยกกระเป๋าเดินทางของชั้นตามขึ้นมา  พี่สนเรียกให้พวกแก๊งหล่อวิ่งตามขึ้นมา
“มึงกล้าใช้พี่ชายสุดหล่อของมึงแบกกระเป๋าหรอ ห๊ะ”
“เฮ้ๆ พี่ใบไม้ใจเย็นสิ  เอ้า อย่าโกรธ น๊า”
คนอย่างชั้นยกมือไหว้พี่ไม้ที่ทำท่าจะวิ่งมากัดคอชั้นตาย
“ไม่โกรธก็ได้ แต่แกเอาของฝากมา”
ใบไม้มันนั่งลงที่เตียงชั้น  พี่สนกับแก๊งวิ่งเข้ามาพอดี
ใครใช้ให้เข้ามาวะ...มีมารยาทกันจังนะ ...เออ ช่างมัน คนหล่อไม่ผิด
“อืมม์ๆ พี่ไม้เอาเกมส์ปะ”
ใบไม้มันทำท่าจะคุ้ยกระเป๋าชั้น...มึงได้กลิ่นอาหารหมาเหรอ
มันเงยหน้าขึ้นมาทันทีที่ถูกถาม
“เอาๆ”
ชั้นก้มหาแผ่นเกมส์ที่ซื้อมาจากญี่ปุ่นในกระเป๋าสะพาย แล้วโยนให้มัน
มันแทบจะกระโดดรับ
“โย่ เกมส์ใหม่โว้ย ไอ้สนเกมส์ใหม่” ใบไม้มันก้มดูเกมส์แล้วแหกปาก วิ่งออกจากห้อง แล้ววิ่งกลับเข้ามาใหม่
“สาลี่ มีอีกปะ”
“มี น้ำหอมให้แม่ กะพ่อ  นาฬิกาให้พี่สน พี่ไม้เอาด้วยปะ นาฬิกาอ้ะ ดูเป็นเปล่า”
ไอ้ไม้มันพยักหน้าทันที ไอ้งก
“เอ้า” ชั้นโยนกล่องใส่นาฬิกาให้มัน มันรีบรับ เปิดดู แล้วก็วิ่งเอาไปเก็บในห้องมัน
“พี่สน” นาฬิกาข้อมืออีกกล่องถูกโยนให้ต้นสน    ซึ่งรับอย่างไม่รีบร้อน
เป็นฝาแฝดกันแต่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
“อ้ะ ขนมๆ”  สาลี่หอบขนมออกมาจากกระเป๋าเดินทางใบโตมาวางกองไว้บนเตียง
ใบไม้วิ่งกลับเข้ามาในห้องพอดี “โอ้ ขนมๆ”  แล้วมันก็โกยหอบกลับห้อง  ต้นสนมองแล้วหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหยิบ ช็อกโกแลตกล่องหนึ่งขึ้น
มาแกะกิน  แล้วโยนขนมแบ่งให้พวกเพื่อนๆ แต่ละคน
“มือถือเค้าอยู่ไหนพี่สน”
ชั้นถามหามือถืออย่างรวดเร็ว    ต้นสนที่กำลังยุ่งอยู่กับการเลือกขนมชี้ไปที่โต๊ะ โอ้ มือถือสุดที่รักของชั้น
“พวกเฮียๆกินขนมไปนะ” 
หลังจากคว้าโทรศัพท์แล้ววิ่งออกนอกห้อง
แต่ก่อนที่จะก้าวเท้าออกจากเขตแดนห้องนอน ก็มีตัวอะไร 2 ตัววิ่งมาประจันหน้าชั้นพอดี
สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า สุนัข 
สุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทีฟเวอร์ตัวใหญ่ 2 ตัวกำลังนั่งมองหน้าเจ้านาย กระดิกหางดิกๆ  ขนของมันเป็นเงางาม ซึ่งแสดงว่าได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี
ตัวแรกขนสีทองเป็นประกาย ส่วนอีกตัวขนเป็นสีขาวบริสุทธิ์
“อ้าว รุย ว่าไงจ๊ะ  ชาร์ลูลู”
รุย โกลเด้นขนสีทอง  และชาร์ลูลูโกลเด้นขนขาววิ่งเข้ามาหาผู้เป็นนายของมันทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกตอบ
“โห ไม่ได้เจอตั้งนาน สบายดีกันรึเปล่า”
ชาร์ลูลู เห่าตอบรับ รุยยกเท้าหน้าขึ้นมา เป็นการทักทาย
“รุย ชาร์ลูลู”เสียงหนึ่งดังขึ้น เพื่อนที่ภักดีของชั้นเห่าตอบ กระดิกหางอย่างสนิทสนม  เสียงนั้นดังมาจากชายหนุ่มที่ชื่อ เรน
“รุริ ชาลี่ สนิทกับเรนด้วยหรอ”ชั้นถามอย่างงงๆเพราะสองตัวนี้ไม่ค่อยสนิทกับใครง่ายๆ รุยหันหน้าไปมองเรน แล้วเห่าเบาๆ
“อืมม์ คงเพราะบ้านเราก็เลี้ยงหมามั้ง เลยสนิทกันง่าย” เรนตอบยิ้มแบบกวนๆเล็กๆ
“เลี้ยงด้วยหรอ..พันธุ์อะไร”
เรนยิ้มที่มุมปาก “ชิสุ”
“โหย น่ารักนะนั่น ไว้เอามาบ้านเรามั่งสิ”  ชิสุ ชั้นอยากเลี้ยงหมาพันธุ์นี้จัง
เรนหัวเราะเบาๆ “ก็ได้ ไว้ว่างๆจะอุ้มมาด้วย”
เย้  ท่าทางจะน่ารักน่าดูเลยนะ  “ขอโทรหาเพื่อนนิดนะ” แล้วหันมาพูดกับรุย และชาร์ลูลู
“รอแป๊ปนึงนะจ๊ะ มีของเล่นมาให้ด้วย”
เมื่อลูบหัวทักทายเพื่อนทั้ง 2 ตัวแล้ว รุยและชาร์ลูลูก็วิ่งเข้าไปในห้องนอน พร้อมกับเรน เพื่อนๆของพี่ก็ทักทายมันอย่างสนิทสนม แล้วยัง
แบ่งขนมให้มันกินด้วย
ในที่สุดชั้นก็ได้โทรถามข่าวคราวซักที
เสียรึยังวะ.. ว้าว ยังไม่เสียด้วย  มือถือที่รักของกู
“เบอร์ไดซ์อยู่ไหนเนี่ย อ๊ะ เจอแล้ว”
“ฮัลโหล”  เสียงปลายสายบ่งบอกถึงความง่วงสุดขีด
“ไดซ์หรอ นี่ สาลี่นะ”
พี่ตื่นรึยังอ้ะ น่าจะตื่นตั้งแต่ที่พวกมัฟฟินโทรไปบอกแล้วนา
“อือ..งื้มๆ”
........อ่า เฮ้ย.....
“พรุ่งนี้ไดซ์เรียกประชุมใช่ไหม”
ไดซ์ขา ช่วยคงความเป็นมนุษย์หน่อยจิ
“เปล่า..ฟรายเดย์เรียก..”
ฟรายเดย์...ทำไมท่านช่างรู้ข่าวเร็วจริงๆ
“ฟรายเดย์ รู้ข่าวแล้วหรอ”
“งืมม์..มันนั่งอยู่นี่ไง” ไดซ์พูดเว้นช่วง แล้วพูดต่อ “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ชั้นนอนต่อล่ะนะ ง่วงชะมัดเลย” 
เอ่อ..ฟรายเดย์ไปอยู่บ้านไดซ์เหรอ ..อืมม์..
“ค่ะ งั้นแค่นี้นะคะ ขอบคุณมาก” 
.....อยากจะหมดความนับถือ....
“เฮ้ย แกจะโทรมาแค่เนี้ยเหรอ ไอ้ลี่”
เสียงไดซ์ในโทรศัพท์ดังสวนกลับขึ้นมาก่อนจะกดวางสาย
“อื้อ แค่เอาความมั่นใจว่าไม่ถูกอำ”
ไดซ์สบถบางอย่างแบบหงุดหงิด
“ไดซ์”
“หือม์”
“..มีของฝากนะ..”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น