คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 1
"น้ำ!!!"
"!!!"
"...เป็นอะไรไปจ๊ะ? เห็นหลานเงียบๆแบบนี้.."
"..." ...ผมเงียบ พลางมองหน้าท่านอย่างนิ่งๆ ..ในขณะที่ตัวเองนั้นยังคงจับช้อนมาเขี่ยกับจานที่มีเศษข้าวติดอยู่...
"...คิดอะไรเพลินๆอยู่รึเปล่า...?"
"..ก่ะ...ก็...นิดหน่อยน่ะครับ...แหะๆ ^^"
"...อย่าคิดอะไรให้มันมากก็แล้วกัน...มันจะส่งผลต่อร่างกายเจ้านะ.."
"...ครับ.."
"และก็แก...ยัยแก่...ข้าบอกแกแล้วใช่ไหม? ว่าให้เจ้าดูนายข้าให้ดีน่ะ.."
"...เห็นแบบนี้แล้ว ฉันก็ดูแลหลานของฉันเป็นอย่างดีนะ...อย่ามาว่าแต่ฉันเพียงแค่เหตุผลเพียงอย่างเดียวจะได้ไหม?"
"...ทำตามที่แกบอกหน่อยก็ดีหน่อยเถอะ.."
"เออ...อย่างน้อยฉันก็ดูแลหลานฉันล่ะนะ...แกน่ะ คอยแต่หายตัวหายหัวดูแลเองไม่ได้.."
"...นี่แกย้อนความข้าเรอะ?"
"ถ้างั้น...ผมขอตัวไปโรงเรียนก่อนก็แล้วกันนะครับ.." ผมพูดแทรกขึ้นมา เมื่อพวกผู้ใหญ่ที่ตอนนี้รู้สึกว่าจะทะเลาะกันอยู่...ซึ่งผมก็ค่อยๆลุกขึ้นยืนจนเก้าอี้ถอยหลังตาม ก่อนที่จะเดินไปทางประตูหน้าบ้านเพื่อที่จะออกไป...
"...เดินทางดีๆนะ...ค่อยๆเดินไปล่ะ.."
"...ครับ ^^" ผมบอก 'คุณยาย' ทิ้งท้าย...ให้ท่านได้รับรู้...ก่อนที่จะใส่รองเท้า และเตรียมตัสที่จะออกจากบ้านหลังนี้...ถึงใจจริงผมควรจะเอาจานของตัวเองที่กินเสร็จแล้ว ไปวางไว้ตรงที่ล้างจาน...แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรผมถึงได้รู้สึกไม่ดีแบบนั้น...เศร้าหรอ?
"...เหม่อลอยอะไรอยู่หรอ?"
"...........หือ...?"
"...เห็นแต่นายมองพื้นอยู่ทั้งวัน...ไม่พูดไม่จากับใคร...เครียด?"
"...........คงงั้น"
"...แต่...ก็...ไม่เห็นเป็นไรหรอกมั้ง? เพราะสอบแค่วิชาเดียวเอง ^^"
"......สอบแค่วิชาเดียว แต่ไม่หยุดก็เหมือนเดิมแหละ.."
"...ก็อย่าไปคิดมากสิ...แค่นี้เอง...ถือซะว่าเรียนแล้วได้ใช้แน่นอน ^^"
"..." ...เป็นคำพูดที่ให้กำลังใจดีหนิ...แต่มันดลใจกับคนอย่างฉันไม่ได้หรอกนะ..
"...น้าาาา~...ยิ้มหน่อยสิๆ ^^"
"นักเรียน ...ได้เวลาเข้าห้องสอบได้แล้วค่ะ.."
"ค่า/คร้าบ"
"...ป่ะ เข้าห้องกัน ^^"
".................อื้อ..."
.
.
.
.
.
.
..
..
..
..
..
..
..
..
...
...
...
...
...
...ทำไมกันนะ?
...ชีวิตของคนเราเนี่ย...ควรเป็นแบบนี้ไปตลอดเลยหรอ?
...เรียน อ่าน ฟัง สอบ...เพื่อที่เราจะได้ใบเกรดโง่ๆแค่ใบเดียวในแต่ละเทอมน่ะหรอ?
...เดินมาโรงเรียน แล้วกลับ...เพื่อนที่มีก็เหมือนไร้ตัวตน...ไม่ว่าผมจะมองใคร หรือใครจะมองผมก็ตาม...ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่เห็นกันอยู่แล้ว..
...คนเราเป็นสัตว์สังคมที่เราควรพึ่งพาอาศัยกัน? ..แต่ทำไมคนเราที่ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันต้องมาพูดนินทาลับหลังอย่างนี้ด้วยล่ะ?
...เพราะอะไรกันนะ? ที่ทำให้เราแตกต่างกัน? ..อย่างผมที่แปลกประหลาดไปกว่าคนทั่วๆไป...เพียงแค่อย่างเดียวก็สามารถทำให้คนเราต้องแตกแยกกันได้อย่างงั้นหรอ?
...ความเป็นตัวของตัวเองที่แตกต่างจากคนอื่นๆ ก็สามารถทำให้คนอื่นถอยห่างจากความเป็นตัวของตัวเราได้งั้นหรอ?
...สิ่งที่สอนมาตั้งแต่เด็กๆ ให้รู้จักคบเพื่อนที่ดี ให้รู้จักขยันหาความรู้เพื่อเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในอนาคต...ดันมาใช้เพื่อแข่งขันกันเองงั้นหรอ?
...โลกของเราน่ะ มันไม่แน่นอน...ความสับสน ความวุ่นวาย ไม่ใช่ความจริงที่ได้ยิน...แม้แต่ข่าวบางข่าวที่มีหลายรายการ ออกข่าวเหมือนกัน เหตุเกิดเหมือนกัน...
...แต่ทำไมคำพูดของนักข่าวหลายๆท่านถึงได้ไม่เหมือนกันล่ะ?
...ความสะดวกที่เราได้มันมา แต่ความอดทน...กลับไม่มีเหลือในกลุ่มวัยรุ่นสมัยนี้...ที่ส่วนมากได้แต่ก้มมองดู...และอ่านในสิ่งที่ข่าวมันแพร่หลายในนั้น...
...ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น...แต่บ่อยครั้งผมจะฟังมันแทนการอ่าน...
"...กลับมาแล้วครับ....." ผมเอ่ยพูดออกมา หลังจากปิดประตูแล้ว...ก่อนที่จะถอดรองเท้าและหูฟังออกทีละข้าง และยัดหูฟังเข้าไปในกระเป๋ากางเกง...แม้เพลงจะซ้ำซากจำเจเท่าไหร่ แต่ทำไมผมถึงยังฟังมันได้นะ?
"...กลับมาแล้วเหรอ?" เสียงยายชรากล่าวกลับ พร้อมกับเสียงฝีเท้าจากด้านบนดังขึ้น...ก่อนที่ผมจะค่อยๆก้าวขาเดินเข้ามาในห้องรับแขกแห่งนี้อย่างเหนื่อยล้า..
"ครับ..."
"...ท่าทางจะเหนื่อยนะเนี่ย...ไปนอนเลยไหม?"
"...คงงั้นมั้งครับ.."
"ถ้างั้น...เดี๋ยวจะเอาอาหารไปให้นะ.."
"...ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ.."
"...และถ้าต้องการอะไรก็ตะโกนบอกเลยนะ...เดี๋ยวจะตามเอาของไปให้..."
"...ครับ.. ^^ แหะๆ" ...แล้วผม...ก็ค่อยๆก้มหัวผ่านคุณยายไป แล้วก้าวข้าขึ้นบันไดไปอย่างเร็ว...
...ก๊อกแก๊ก ก๊อกแก๊ก...แอ๊ด...
...ผม...ค่อยๆเอื้อมมือบิดลูกประตู แล้วผลักออกไปราวกับคนที่ไม่มีเรี่ยวแรง...
...ผมค่อยๆปิดประตูลง ใช้หลังดันและถอยหลังใส่...
..เสียงกลอนประตูดังขึ้น...นั่นแปลว่าปิดจนมิดแล้ว...ผมจึงค่อยๆนั่งชันเข่า...หลังพิงกับประตูอยู่แบบนั้น...
....ผม...รู้สึกเหมือนตัวเองนั้นว่างเปล่า...ไร้ค่า...ไม่มีตัวตน...
...ทำไม...ผมถึงได้รู้สึกแบบนั้นกัน...แม้แต่กระเป๋าที่ตัวเองกำลังสะพาย...มันยังเบากว่าความรู้สึกที่ตัวเองนั้น...เป็นอยู่..
...เพิ่งจะเข้าเรียนม.ต้นได้แค่ครึ่งเทอมเอง...ทำไมเราถึง...ไม่มีความสุขแบบนี้กัน...
ผมก็...ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายยังไงดี....มันทั้ง...สับสน...อึดอัด...
ผม...เอาแขนทั้งสองมากอดเข่า ก้มหัวลงแล้วหลับตา...คอยเอาแต่ใช้หู ฟังเสียงเพียงอย่างเดียว...
...อดีตที่ผ่านมา...มันคอยกัดกินผมให้คอยจำในสิ่งต่างๆไว้...ไม่ว่าจะโลงศพสีขาว รูปสลักอักษรสีทอง...ดอกไม้สีขาวที่ปะปนกับดอกไม้ชนิดอื่นๆ..กรอบสีทองที่มีรูปแม่ของผมติดไว้ข้างในตัวกรอบ...เสื้อผ้าของแม่ที่ค่อยๆขนมันออกมาจากตู้เสื้อผ้า...กองแล้วกองเล่า...รอยยิ้มของแม่ที่เห็นผมทำอะไรสักอย่างเมื่อตอนยังเด็ก...สีหน้าตกใจ...สะอึ้กสะเอื้อน...ร้องไห้...ผมยัง...จำได้หมด...
"...อึก..." ภายในใจที่แสนว่างเปล่าของผม...ค่อยๆรู้สึกถึงดวงตา...พร้อมกับแก้มทั้งสองข้างที่ร้อนผาว...ระดับการมองเห็นค่อยๆเลอะเลื้อนกลายเป็นภาพที่ไม่ค่อยชัดนัก...
...ทำไมล่ะ? ทำไมกัน? ...ความสุขที่ท่านบอก...ทำไมมันไม่เห็นจะผ่านมาหาเราเลยล่ะ? ..วันแล้ววันเล่า...ครั้งแล้วครั้งเล่า...ก็มีเพียงแค่ความรู้สึกที่จะดำดิ่งลงไปทุกที...ที่คิดถึงมัน...
...แต่มัน...ก็เป็นเพียงการปลดปล่อยอารมณ์ออกมาแค่เพียงชั่วขณะเท่านั้นแหละ...
...ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นพร้อมกับตั้งสติ...แล้วใช้มือทั้งสองข้างปาดน้ำตาของตัวเองออก...ไม่รู้นะ...ว่าผมมานั่งปลดทุกข์แบบนี้กี่ครั้งแล้ว...แต่ผมก็ใช้มือทั้งสองข้างยันตัวเองให้ลุกขึ้น ก่อนที่จะออกแรงก้าวขาเดินตรงไปยังที่เตียงนอน...
...ผม...ทิ้งตัวลงนอนพร้อมกับกระเป๋าแบกที่ใส่เพียงดินสอ และของอื่นๆที่เกี่ยวกับการสอบในวันนี้ไปด้วย...วันนี้คงจะจบแล้วสินะ...จบเพียงแค่นี้...จบเพียงในเวลานี้...แต่ทำไมมันรู้สึกว่ายังไม่จบอีกนะ...?
...เพราะเสียงที่ไม่พึงประสงค์นี้ค่อยๆดังขึ้นจนผมเริ่มที่จะได้ยิน...ทำให้ผมต้องหันตัวพลิกซ้ายไปทางหน้าตาที่ตอนนี้กลายเป็นแสงสีแดงผ่านเข้ามาทางกระจก...ซึ่งทีแรกนั้นมัน...ไม่มีสีที่น่ากลัวแบบนี้ภายในห้อง...
...เพิ่งโดดขึ้นเตียงมาไม่ถึงนาที...แทนที่ตัวของผมจะลุกขึ้นไปสำรวจตรงบริเวณหน้าต่าง...แต่กลับดึงผ้าหุ้มที่อยู่ใต้เท้ามาคลุมจนมิดหัวไว้...ด้วยความรู้สึกหวาดกลัวและหวาดระแวงในเวลาเดียวกัน...ไม่รู้ว่าเพราะอะไรตัวเองถึงไม่กล้าเดินออกไปสำรวจแบบนั้น...ได้แตถามภายในใจสั้นๆว่า 'ห๊ะ?' อย่างเดียวอยู่แบบนั้นซ้ำๆ...
...คงจะตาฝาดไปเองมั้ง...เพราะเราเพิ่งจะร้องไห้เสร็จ พอผ่านไปจนเกิดอาการตาบวมก็ได้นี่เนอะ...........อืม...เพิ่งจะมาคิดในด้านดีก็ตอนนี้นี่แหละ...นี่เราเป็นอะไรไปกัน...กลัวงั้นเหรอ?
"*ก๊อกๆๆๆๆๆ* ...หลานจ้ะ!? ในนั้นเกิดอะไรขึ้นน่ะ?!" ...เสียงเคาประตูที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงที่ผมนั้นคุ้นเคย...ทำให้ผมรู้สึกโล่งอกขึ้นแล้วเอาผ้าหุ้มออก
"ยาย!"
"หลาน!! หลานเป็นอะไรไหม?! รู้รึเปล่าว่าอยู่ด้านล่าง ยายได้ยินเสียงดังๆมาจากห้องหลานน่ะ!" ผมรีบลุกออกจากเตียง แล้วรีบวิ่งไปตรงประตูโดยเร็ว...
"ผมก็ไม่รู้! จู่ๆมันก็แดง...แดงเต็มห้อง...ของผมหมด...เลย.." ...แต่ก็ต้องหยุดชะงักลง..และมองไปรอบๆห้องที่มีแต่...แสง? ...ไม่...ในห้องที่มีแต่คราบไหลลงมาตรงเพดานทั้งรอบด้าน พร้อมกลิ่นคาวนี่มัน...คืออะไรกัน...มันอบอวนไปทั่วห้องหมด...
"...งั้นหลานรีบเปิดประตูออกมา! เร็ว!!"
"ข่ะ ข่ะ...ครับ!" ผม...ไม่รู้ว่าควรที่จะทำอะไร จึงรีบตั้งสติของตัวเองให้นิ่ง แล้วจับลูกบิดประตูเพื่อที่จะออกจากห้องตามคำแนะนำที่ท่านบอก
...ภายในห้องที่เต็มไปด้วยสิ่งของอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เอาไว้สำหรับวางสิ่งของไว้เพิ่มความเพลิดเพลินหรือเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำการบ้านในยามที่ไม่อยากนอน...ทีวีตกยุคขนาดเล็กน้ำหนักประมาณ 4 กิโล...ที่ควรจะเอามันไปขายตั้งแต่ปีก่อนแล้ว...มันกลับทำงานได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับมัน และกำลังเปิดใช้งานอยู่...ผม..จ้องมองมันอย่างใจเย็น พร้อมกับความนุ่มนิ่มของโซฟาที่คอยทำให้ผมเคลิ้มไปกับมันอยู่หลายครั้ง...แต่วันนี้มันไม่ใช่...
...มันทำให้ผมใจเย็นลงก็จริง...แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันคอยตามรังควานผมไม่หยุด...ผมหยุดคิดถึงมันไม่ได้ว่าไอ้คราบสีแดงที่คล้ายๆกับอะไรสักอย่าง...ไหลลงมาเต็มห้อง...พร้อมกับกลิ่น...ที่อธิบายไม่ได้ว่ามันคืออะไร...เลือดเหรอ? ...แล้วกลิ่นเลือดมันเป็นยังไงกัน?
"...เป็นไงบ้าง? ดีขึ้นไหม?" ผม...ออกจากพะวังแห่งความคิดที่เกาะติดผมมานาน...แล้วละสายตาจากทีวีไปหาท่าน ที่ตอนนี้กำลังเดินมาหาผมพร้อมกับถือแก้วที่มีน้ำเปล่ามาด้วย...
"...ไม่มากก็น้อยครับ.."
"นั่นสินะ...ไม่คิดเลยว่าจะมีใครบ้างคน พาหลานเข้าไปในนั้นได้น่ะ.."
"...หมายถึง 'โลกอสูร' น่ะหรอครับ?" แล้วผมก็รับแก้วน้ำจากท่าน เมื่อท่านยื่นแก้วน้ำมาให้กับผม ก่อนที่ท่านจะนั่งลงบนโซฟาตัวข้างๆอย่างช้าๆ..
"ใช่ ทั้งที่ปิดกั้นไว้หมดแล้วแท้ๆ...โดยเฉพาะห้องหลานเลยนะนั่น.."
"...คงเป็นเรื่องบังเอิญล่ะมั้งครับ?" ...อืม...น้ำเย็นด้วย...
"ไม่...ไม่ใช่แน่ๆ...เดี๋ยวจะลองถามมันดูก่อนล่ะกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น...เดี๋ยวสักแปปมันก็มา.."
"ถามมาเลยสิ...ข้ามาละ.." จู่ๆ...เสียงมันก็ดังมาจากห้องครัว ก่อนที่จะตัวของเขาจะเผยตัวออกมา...และค่อยๆเดินมาทางผมอย่างใจเย็น...
"ดี...มาแล้วก็ดี...รู้อะไรไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายของแก ตอนที่แกไม่อยู่น่ะ?"
"...เกิดอะไรขึ้นล่ะ?"
"...แกต่างหากที่ควรจะตอบฉันมา...ว่าทำไมเจ้านายของแกถึงหลุดไปอยู่ในโลกอสูรได้.." แล้วเขาก็ค่อยๆนั่งลงบนพื้นห่างจากตัวผมไปประมาณ 1 ก้าว..และมีอาการทางสีหน้าที่ตกใจอยู่เล็กน้อยหันหน้าไปทางคุณยาย...
"...หา?"
"แกรู้ไหม ว่านายแกน่ะหลุดเข้าไปในโลกอสูร ทั้งๆที่อยู่ในห้องของตัวเองแท้ๆน่ะ.."
"...ได้อย่างไรกัน?" แล้วเขาก็หันหน้ามาหาผม และผมก็เผลอสะดุ้งเมื่อได้สบตากับเขา...
"..."
"ฉันเลยมาถามแกอยู่นี่ไง...ว่ามันเกิดอะไรขึ้นมา? แถมเป็นห้องที่แกบอกเองแท้ๆว่ามันปลอดภัยน่ะ.."
"..." ...เขา...จ้องดูผมอยู่สักพักใหญ่ๆ แล้วละสายตาไปมองตรงทีวีแทน...
"...งั้น...ข้าขอถามคำถามเพียงแค่ข้อเดียวก็แล้วกัน.."
"..." ...ผมรู้สึกเสี่ยวสันหลังขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินเขาพูดประโยคนั้นออกมา...ผมไม่ชอบเลยจริงๆ ประโยคแบบนี้...
"...เจ้าน้ำ...เจ้ากำลังกังวัลถึงอะไรอยู่กันแน่.."
"..." ...หลังจากที่เขาพูดจบ ก็หันหน้ามามองผมเล็กน้อย...
"และตอบคำถามของข้าด้วยความตรงไปตรงมาด้วยล่ะ..."
"...ทำไมแกถึงได้เสียมารยาทกั"
"ข้าแค่ถามเพื่อความแน่ใจว่าสิ่งที่ข้าคิดนั้นมันตรงกับสิ่งที่เจ้าน้ำเป็นอยู่ไหม.."
"แต่แกจะบังคับให้นายของเจ้าตอ"
"ข้าคิดว่าข้าถามและไม่มีการบังคับใดๆทั้งสิ้น.."
"..."
"และมัน...ก็เป็นสิ่งที่เจ้านายทุกคนต้องมี...แต่ข้าแค่ย้ำเตือนอีกครั้งเพื่อให้เจ้าน้ำ ซื่อตรงต่"
"แค่...รู้สึกไม่ค่อยดีนิดหน่อยน่ะครับ.." ผมชิงพูดตัดหน้า แล้วพยายามหาข้ออ้างต่างๆภายในหัว...
"..."
"...คง...จะเป็นไข้ล่ะมั้งครับ?"
"...อืม...นั่นสินะ ยายก็คิดแบบนั้นอยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้...แต่ว่า...ยายเอาน้ำเย็นให้หลานดื่มนี่สิ จะไม่เป็นไรเหรอ?"
"ก็...นะครับ...แค่จิบนิดเดียวก็คงจะไม่เป็นไรหรอกครับ แหะๆ ^^;;" ...การฝืนยิ้มของตัวเองให้คนอื่นเห็นเนี่ย เริ่มที่จะอึดอัดขึ้นซะแล้วสิ...
"...พอใจรึยังล่ะกับคำตอบที่นายเจ้าบอกน่ะ..."
"..." เขาเคลื่อนสายตาไปมองคุณยายครู่นึงเมื่อถูกเรียกแบบนั้น ก่อนที่จะเคลื่อนสายตามามองผมเหมือนเดิม...
"^^;;"
"...ถ้าเกิดแกพอใจแล้ว ฉันจะพาหลานฉันขึ้นข้างบนแ"
"...นั่น...สินะ.." เขาพูดตัดหน้า แล้วค่อยๆเอามือยันกับเบาะโซฟาด้านข้างของเขาให้ลุกขึ้น...
"...อะไรของแกอีกเนี่ย?"
"แม้ว่า...คำตอบที่ออกมาจะไม่ใช่ในสิ่งที่ข้าคิดไว้ แต่...มันก็คงเกี่ยวกับสภาพร่างกายของเจ้าสินะ.."
"...คงงั้น...มั้งครับ?" ผมตอบ...ด้วยความมึนงงเล็กน้อย...
"...ถ้าเกิดเจ้าอ่อนแอลง ไม่ว่าจะด้านร่างกายหรือจิตใจเข้า...มันก็คงไม่แปลกที่จะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น..." แม้เขาจะลุกขึ้นแล้วนั้น ก็ไม่ได้ช่วยให้สายตาของเขาละไปทางอื่นเลยสักนิด...แถมดูน่ากลัวขึ้นไปอีก...
"..."
"เจ้าก็คงจะรู้ดีหนิ...ใช่ไหม...ว่าถ้าพาชนะอย่างเจ้า อ่อนแอลง...ตัวข้าเองก็ต้องอ่อนแอลงตามด้วย..."
"..."
"แล้วมันเกิดขึ้นได้ยากมาก ถ้าเกิดเจ้าอ่อนแอลงด้านใดด้านนึง..."
"..." ผม...ยังคงเงียบต่อไป...และไม่มีทีท่าว่าจะตอบกลับไปเลย...
"......ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป...ข้าคงต้องฝึกซ้อมเจ้า...เตรียมกายให้ดีๆ.."
"...นี่แกพูดว่าไงนะ?" ...ในที่สุดเขาก็ละสายตาไปทางอื่นแทน แล้วตอบพวกเรากลับมา...
"...ตามที่ข้าบอกไปนั่นแหละ ตอนนี้ข้าขอตัวไปทำกิจส่วนตัวก่อน.." พอพูดจบ...เขาก็หันตัวไปทางหลังบ้าน แล้วค่อยๆเดินออกไปอย่างช้าๆ...
"...เดี๋ยว...ไหนแกเคยบอกว่า!"
"ตอนนั้นกับตอนนี้มันเหมือนกันไหมล่ะ? ข้าล่ะไม่แปลกใจที่นับวันคนสมัยนี้จะเกลียดค้านกันมากขึ้น..."
"แล้วแกก็มาพูด"
"ข้าคิดว่าข้าพูดชัดเจนแล้วนะ..."
"หนอย...แกมาพูดกับฉันให้รู้เรื่องเลยนะ ไอ้ผีสามหาวนี่!" จู่ๆเสียงโซฟาก็ดังขึ้นพอที่จะทำให้ผมหันหน้าไปหาท่าน...แล้วผมก็เห็นท่านเดินพรวดพราดผ่านหน้าผมไปเลย...
.....หมายความ...ว่าไงกัน?
ความคิดเห็น