ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สัตว์เทพสายลมกับเจ้าของวารี

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 63


    ..กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...ชายหนุ่มยากจนคนหนึ่งอาศัยอยู่ในกระท่อมกลางป่าแต่เพียงผู้เดียว เขามีอาชีพตัดไม้และหาของป่าที่พอจะประทังชีวิตในแต่ละวันได้...วันหนึ่ง..

     

    "ตัดไม้หรอ...?"

     

    "...อื่อ"

     

    "แต่...ผมไม่เคยได้ยินอาชีพแบบนี้เลยนะ"

     

    "...ถ้าให้เทียบกับในไทยแล้ว...คงจะเป็นช่างไม้นั่นแหละ.."

     

    "อ้อ..."

     

    "...เล่าต่อนะ"

     

    ขณะที่ชายหนุ่มกำลังทำงานในฟาร์มของเขาอย่างขะมักเขม้น มีนกกระเรียนสีขาวตกลงมาแทบเท้า ชายหนุ่มตกใจ แล้วก้มลงมองนกกระเรียนตัวนั้น กลับเห็นว่าที่ปีกของนกกระเรียนมีลูกธนูปักอยู่ ชายหนุ่มจึงช่วยโดยการดึงลูกธนูออกและรักษาบาดแผลให้ ในไม่ช้านกกระเรียนก็สามารถบินได้อีกครั้ง ชายหนุ่มเห็นจึงปล่อยนกกระเรียนไปพร้อมกับพูดว่า

    “รักษาตัวดีๆ ล่ะ ระวังพวกนายพรานเอาไว้ด้วย” นกกระเรียนบินวนรอบอยู่ 3 รอบ แล้วส่งเสียงร้องแทนการขอบคุณ ก่อนที่จะบินจากไป..

     

    "...จบแล้วหรอ?"

     

    "..."

     

    "ทำไมมันสั้นจัง?"

     

    "...ให้ได้พักหายใจหน่อยจะได้ไหม?"

     

    "..."

     

    "เฮ้อ...เอาละ มาต่อ.."

     

    พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าความมืดเริ่มเข้าปกคลุม ชายหนุ่มจึงออกเดินทางกลับบ้าน เมื่อชายหนุ่มมาถึงบ้านก็ต้องประหลาดใจ เมื่อพบหญิงสาวหน้าตาดีอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนมายืนรอเขาอยู่...

     

    "ผีหรอ? ผีใช่ไหม??"

     

    "...ฟังก่อนสิ.."

     

    "อะ...คะ ครับ.."

     

    "..."

     

    “ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ ฉันคือภรรยาของคุณ” หญิงสาวคนนั้นพูด จึงทำให้ชายหนุ่มเมื่อได้ยินดังนั้นก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้นไปอีก

     

    "...โจรหรอ!!?"

     

    "...โจรอะไรจะมาปล้นบ้านกระถ่อมโทรมๆภายในป่านี้กัน?"

     

    "...นั้นสินะ"

     

    "...ต่อนะ"

     

    “ผมจนมากๆ เลยนะ ผมคงดูแลคุณได้ไม่ดีหรอก” ชายหนุ่มตอบ หญิงสาวชี้มือไปที่ถุงใบเล็กที่เอามาด้วยพร้อมพูดว่า

     

    “ไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ ฉันมีข้าวเยอะแยะ” จากนั้นก็เริ่มลงมือทำกับข้าว ชายหนุ่มนั่งมองด้วยความงุนงง แต่ด้วยความที่ว่าเธอเป็นคนใจดี จึงไม่ค่อยเอะใจเท่าไหร่ หลังจากนั้นมาทั้ง 2 ก็ใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ก็น่าแปลกที่ถุงข้าวใบนั้นยังคงมีข้าวเต็มถุงอยู่เรื่อยมา

     

    "..."

     

    "...หือ? ...กำลังคิดอยู่เหรอ? ว่าทำไมถุงถึงเต็มตลอด.."

     

    "...ใช่ครับ..."

     

    "เดี๋ยวเล่าไปเรื่อยๆก็คงรู้เองแหละ.."

     

    วันหนึ่งหญิงสาวขอให้สามีของเธอสร้างห้องทอผ้าให้ เมื่อห้องเสร็จ เธอพูดกับชายหนุ่มว่า

     

    “สัญญานะ ว่าจะไม่เข้ามาในนี้” แล้วเธอก็ขังตัวเองอยู่ในห้องทอผ้าเป็นเวลานานชายหนุ่มก็รอแล้วรอเล่านานเป็นเวลา 7 วัน

     

    "ขะ ขังตัวเอง?"

     

    "...ใช่"

     

    "ว้าว...มันเหมือนการทรมานตัวเองเลย"

     

    "...พอได้เติบใหญ่เป็นวัยกลางคน แล้วเจ้าก็จะรู้เอง.."

     

    "..."

     

    ...จนในที่สุดเสียงของเครื่องทอผ้าก็หยุดลง หญิงสาวก็ออกมาด้วยร่างกายที่ซูบผอมลงอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับในมือถือผ้าผืนงาม..

    “เอาผ้านี้ไปขายที่ตลาดคงได้ราคาดีทีเดียว” หญิงสาวพูด

    พอวันรุ่งขึ้นชายหนุ่มนำผ้าผืนนี้ไปขายที่ตลาด และเป็นไปอย่างที่เธอพูด ผ้าขายได้ราคาสูงมาก เขานำเงินกลับบ้านอย่างมีความสุข

    หญิงสาวยังคงอยู่ในห้องทอผ้าต่อไป เสียงเครื่องทอผ้าดังต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน ชายหนุ่มเริ่มเกิดความคลางแคลงสงสัย..

    ‘หญิงสาวจะทอผ้าแสนสวยเช่นนี้ได้อย่างไรกัน...โดยปราศจากไหมนั่น..’ ชายหนุ่มคิด แล้วในที่สุดชายหนุ่มก็อดทนต่อความอยากรู้อยากเห็นของตนเองไม่ไหว จึงแอบมองเข้าไปในห้องทอผ้านั่น...แล้วชายหนุ่มก็ตกใจ เมื่อเขาเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า

    เพราะภาพที่เห็นคือนกกระเรียนกำลังทอผ้า โดยใช้ขนของตัวเองแทนเส้นไหมและไร้วี่แววว่าภรรยาจะอยู่ในห้องแห่งนั้น

     

    "...อ๋อ หรือก็คือ...นกตัวนั้นก็เป็นภรรยาของเขาน่ะสิ!"

     

    "...ใช่"

     

    "...แล้วข้าวล่ะ?"

     

    "...ขอเล่าให้จบก่อนจะได้ไหม?"

     

    "อะ เอาสิครับ.."

     

    ...นกกระเรียนรู้ตัวว่าชายหนุ่มกำลังแอบดูอยู่จึงกล่าวว่า

     

    “...ฉันคือนกกระเรียนที่คุณช่วยไว้ ฉันต้องการตอบแทนบุญคุณ ฉันเลยตัดสินใจมาเป็นภรรยาของคุณ แต่ตอนนี้คุณได้เห็นร่างจริงของฉันแล้ว ฉันก็ไม่สามรถจะอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป” นกกระเรียนยื่นผ้าที่ทอเสร็จแล้วให้ชายหนุ่ม แล้วพูดต่อ..

     

    “ฉันให้ผ้าผืนนี้กับคุณ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ลืมฉัน” เมื่อนกกระเรียนพูดจบก็บินขึ้นฟ้าไป และไม่กลับมาอีก...ตลอดไป

     

    "...จบแล้ว?"

     

    "ใช่...จบแค่นี้แหละ"

     

    "...แล้วข้าวล่ะ??"

     

    "...ข้าเองก็ไม่รู้.."

     

    "อ้าว...? ..ไงงั้นล่ะ?"

     

    "...ข้าไม่ใช่คนแต่งนิทานเรื่องนี้ขึ้นมานะ เพราะงั้นข้าน่ะไม่รู้อะไรหรอก"

     

    "แล้วไอ้ที่ว่าไปแล้วไม่กลับมาน่ะ คือนกกระเรียนไม่รักคนที่ช่วยชีวิตเธอเลยหรอ...? ..ทิ้งกันแบบนี้เลย??"

     

    "...มันก็คงจะมีเหตุต้องทำแบบนี้แหละ.."

     

    "ยังไงกัน?" ...ผมขมวดคิ้วมองหน้าอีกตนด้วยความไม่พอใจ เพราะมันขัดแย้งมากสำหรับมุมมองของผม...

     

    "...นางคงจะอายที่โดนเจอตัวจริงเข้า จึงไม่อยากให้อีกคน...ต้องลำบากมั้ง?"

     

    "...แต่ถ้ารักกันจริงๆ...ที่อยู่ด้วยกันมาเนี่ย ไม่มีความหมายเลยรึไงกัน..."

     

    "..."

     

    "...ผมดีใจด้วยซ้ำที่คนดีๆอย่างช่างไม้ได้ภรรยาที่สวย ใจดี...แค่นี้ช่างไม้ก็พอใจแล้วสำหรับการใช้ชีวิต...นี่อะไร? เพราะเจอความจริงแค่ครั้งเดียวเอง? ถึงกับหนีแล้วไม่กลับมาอีกเลยหรอครับ?? ..โหดร้าย...แล้วช่างไม้ล่ะ? ...แบบนี้เขาก็อยู่คนเดียวอย่างมีความสุข...อย่างนี้หรอ?"

     

    "...ข้าก็บอกแล้วว่าข้าเองก็ไม่รู้...ข้าแค่มาอ่านนิทานให้เจ้าฟัง แต่ทำไมเจ้าต้องมาอารมณ์เสียใส่ข้าด้วยเนี่ย.."

     

    "...ขอโทษด้วยครับ ...ก็มัน.."

     

    "...ข้าเองก็คงคิดแบบเดียวกับนางคนนั้นแหละ...ต่อให้อยู่ด้วยกันโดยยังมีร่างที่แตกต่างอยู่แบบนั้น มันก็ทุกข์ใจเปล่าๆเพราะยังไงความจริงก็ต้องถูกเปิดเผยอยู่แล้ว...และไม่ใช่แค่ช่างไม้คนนั้นที่จะรู้แค่คนเดียวถ้าเกิดยังคงอยู่ด้วยกัน...จึงควรตัดความสัมพันธ์ที่มีให้กันทั้งหมด เพื่อทั้งสองคนจะได้ไม่มีปัญหาต่อกัน.."

     

    "..."

     

    "..แต่ข้าเชื่อว่า...สักวัน...นกตัวนั้นคงจะกลับมาเหมือนเดิมแหละ...ก็เพราะความสัมพันธ์นั้น...มันตัดกันไม่ได้หนิ.."

     

    "..."

     

    "...แต่เอาจริงๆนะ...ทำไมต้องให้ข้ามาเล่านิทานเด็กแบบนี้ก่อนนอนให้เจ้าฟังด้วยเนี่ย? โตแล้วมิใช่รึ...?"

     

    "...แหะๆ ..ก็...เพราะนิทานนั่นเป็นนิทานเรื่องแรกที่แม่ผมเล่าก่อนนอนหนิ..."

     

    "...นั่นสินะ..เป็นใคร...ใครก็คิดถึงคนที่เรารักทั้งนั้น.."

     

    "..."

     

    "...อืม...ข้าคิดว่าคงต้องไปแล้วล่ะนะ..." เขาบอกแบบนั้น ก่อนที่จะเอาหนังสือวางไว้ข้างๆตัวของเขาไว้

     

    "...อย่าเพิ่งไปสิครับ.." ผมพูด พลางกระโดดลงจากเตียงของตัวเอง เมื่อผมรู้สึกถึง...ไม่รู้สิ....มันว่างๆ...

     

    "...นอนลงไป.." แต่ตัวเขาดันลุกขึ้นจากที่ของตัวเอง แล้วชี้นิ้วมาที่ตัวผมไปยังเตียงนอน เพื่อเป็นสัญญาณว่าให้ผมไปนอนที่เดิม..

     

    "...เอ๋...?"

     

    "ข้าบอกให้นอนลงไป" เขายังยืนยันคำเดิม แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมก็คือสีหน้าของเขาที่โกรธขึ้นเรื่อยๆ จนตัวผมต้องเงียบไปซักพักด้วยความกลัว...

     

    "..."

     

    "..."

     

    "...ผมแค่อยากจะกอดคุณเอง.."

     

    "..."

     

    "ผมคงนอนไม่หลับ...ถ้าเกิดไม่มีใครกอดผม...ผมน่ะคิดถึง.."

     

    "..."

     

    "..."

     

    "...เฮ้อ...แล้วจะลงมาทำไมกัน? ..ในเมื่อเจ้าก็ขอแบบนั้นได้จากปากของเจ้าเองแท้ๆ..." ตัวของเขาค่อยๆเดินมาหาผม ด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงจนผมรู้สึกโล่งใจ...ก่อนที่เขาจะยกตัวของผมลงบนเตียงให้ผมนั่ง ก่อนที่จะมานั่งข้างๆผม...แต่นั่งไกลผมอยู่เล็กน้อย ตัวของเขาอยู่ตรงปลายเตียง...ในขณะที่ตัวของผมอยู่ตรงหัวเตียงของตัวเอง..

     

    "...ก็ผมอยากทำด้วยตัวเองหนิ...ไม่อยากให้คุณทำตามที่ผมสั่งเลย.."

     

    "ก็เพราะข้าเป็นสัตว์เทพที่คอยรับใช้เจ้านายอย่างเจ้าอยู่แล้ว จะให้ข้าฝ่าฝืนแม้แต่คำสั่งของเจ้านายได้ไงกัน.."

     

    "...ถึงจะดีใจที่ผมได้เป็นเจ้านาย...หรือจะเรียกว่า 'นายน้อย' ดีนะ ฮะๆ ...แต่ผมไม่ชอบเลย..."

     

    "..."

     

    "ผมไม่รู้นะ...ถ้าเกิดคนที่เป็นเจ้านายอย่างแม่ของผมตายไป.."

     

    "...เด็กเล็กเด็กน้อยอย่าพูดแบบนั้นกับแม่ตัวเอง...พูดว่าเสียจะดีกว่านะ.."

     

    "...แม่ผมเสียไปแบบนั้น แล้วคิดว่าวิญญาณที่คุ้มครองอย่างคุณ...จะหายไปซะอีก.."

     

    "...แต่เพราะแม่เจ้าบอกให้ข้าปกป้องตัวเจ้ามาตั้งนานแล้ว...เจ้าคงจะไม่รู้ตัวหรอก.."

     

    "...ผม...คิดถึงแม่จัง.."

     

    "..."

     

    "...ถึงจะผ่านมาตั้งหลายวันแล้วนะครับ...แต่ผมก็ยังคิดถึง..."

     

    "..."

     

    "...ผ..คิดถึง....แม่จัง..ฮึก.." ...ผมที่ตอนนี้ได้แต่ก้มหน้ากำผ้าปูที่นอนจนแน่...พยายามที่จะห้ามน้ำตาและข่มอารมณ์ของตัวเองไว้...แม้ว่าจะอยากปล่อยมันออกมาทีไร...ผมก็ต้องข่มความรู้สึกนี้ไว้ให้ได้...

     

    "...มาหาข้านี่.." ...พอผมหันหน้าไปหาตัวเขา เขาก็ยกมือกวักเรียกผม...ทำให้ตัวผมนั้นค่อยๆคานไปหาเขาอย่างช้าๆ..เพราะผมตัวเล็กกว่าเขา..

     

    "...." ในขณะที่กำลังคานไปหา ผมยังคงกัดฟันข่มอารมณ์ของตัวเองไว้อย่างเข้มแข็งอยู่...

     

    "..." ตัวของเขาเอามือทั้งสองยื่นมาหาแล้วสอดเข้าใต้ระหว่างแขนทั้งสองของผม ทำให้ตัวของผมนั่นลอยมาที่ตักของเขา...เขาวางผมลงที่นั่น และก้มหน้ามองผมในขณะที่ผมก็เงยมองเขาเช่นกัน..

     

    "...จะ จะทำไรหรอครับ?" ผมถามเขาออกมาแบบนั้นด้วยน้ำเสียงที่ติดขัดเล็กน้อย เพราะตอนนี้ผมได้แต่มองหน้าเขาแบบมึนงง...

     

    "..." แล้วจู่ๆตัวของเขาก็เอามือทั้งสองเข้าโผกอดผมทันที โดยที่ผมยังไม่ทันตั้งตัวเลยสักนิด..

     

    "..."

     

    "..." ...ตัวของเขายังคงนิ่ง...ไม่พูดไม่จาไม่ตอบรับค้านอะไรเลยแม้แต่น้อย...

     

    "...ทำ...อะไรหร"

     

    "...เจ้าน่ะคงจะเหงา...สินะ"

     

    "..."

     

    "...อยู่กับแม่ที่เพิ่งเสียไป...แล้วพ่อก็จากไปอีกคนเนี่ย...คงจะเหงาเหมือนข้าสินะ.."

     

    "..."

     

    "...รู้อะไรหรือไม่ ข้าน่ะก็เหงาเหมือนกัน...ตอนที่ข้าเสียเจ้านายไป คนแล้วคนเล่าเนี่ย...ข้าน่ะต้อง...พยายามที่จะเข้มแข็งให้เจ้านายเห็นตอนกำลังจะเสียไปแล้ว.."

     

    "..."

     

    "...ข้าน่ะเหมือนจะไม่เหลือใครแล้วที่อยู่ข้างๆข้า...คิดว่าเจ้าจะเป็นเจ้านายของข้าจะได้ไหม?"

     

    "ฮึก..." ...อยู่ๆน้ำตาก็ไหลอย่าง...น่าอึดอัด แน่นตรงอกเหมือนจะหายใจไม่ออกแบบนั้น...แต่ก็พยายามที่จะข่มความรู้สึกตัวนั้นเอาไว้อย่างหนักแน่น...

     

    "...ข้าน่ะทั้งเหงาและเศร้าในเวลาเดียวกัน...เจ้าเองก็คงรู้สึกแบบนั้นใช่มั้ย?"

     

    "ฮึก...ไม่ ไม่ ไ..."

     

    "ร้องออกมาเลยก็ได้...ข้าน่ะเห็นเจ้าทนแบบนี้มาโดยตลอด..."

     

    "อึ...ฮึก...อย่า ไม่.."

     

    "...เด็กอย่างเจ้าน่ะ ทนกับความรู้สึกของตัวเองแบบนี้ไม่ได้หรอก..ปลดปล่อยออกมาเถอะ...ข้าน่ะก็...รู้สึ"

     

    "..............ฮึก........." ในที่สุด...ความอดทนที่ผมมีกลับไม่เหลือ...แม้แต่แรงที่จะผลักอีกคนออกไป...ก็ยังไม่มีเลย...ทำไมกันนะ...

     

    "...นั่นแหละ ปล่อยมันออกมาซะ...ความเหงาที่เจ้ามี...เพราะเด็กที่สามารถทนได้กับเรื่องพวกนี้แบบเจ้าได้...ถือว่าเก่งแล้วล่ะ.." ...แม้ว่ามันจะเป็นคำปลอบใจที่ผมนั้นได้ยินแล้วรู้สึกดี...แต่ภายในจิตใจของผมกับเรียกร้องอะไรซักอย่าง...แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงพูดเป็นคำออกมาไม่ได้

     

    ...นับว่ามันเป็นเวลาที่นานที่สุดของผมเลยล่ะ...ที่ผมได้อยู่กับคนๆนี้ เพราะเขาจะออกไปไหนไม่รู้ในตอนกลางคืน...พอผมถามแม่ของตัวเอง แม่ของผมก็จะบอกในเชิงทำงาน...แต่ไม่บอกผมว่าทำงานอะไร...ผมไม่รู้เกี่ยวกับเขาคนนี้ซะด้วยซ้ำ...รู้แต่ว่าตัวของเขานั้นเป็นเพียงแค่เพื่อนเล่นของผมตอนกลับมาถึงบ้านเท่านั้น...

     

    ผมน่ะทั้งเหงา...และทั้งเศร้าที่ต้องมาอยู่แบบนี้...คนในครอบครัวก็หายไปแล้วคนนึง...ซึ่งเป็นคนที่ผมรักและห่วงใยผมมากที่สุดเลยก็ว่าได้...ผมที่เพียงอายุประมาณ 9 ปีนั้นพยายามที่จะลืมเเรื่องของพ่อที่เพิ่งจากไปประมาณหนึ่งปีก่อนได้...กลับต้องมาเสียแม่อีกคนงั้นหรอก....ความพยายามที่ตัวผมมีน่ะ มันสูญเปล่างั้นหรอ...ทำไมกันนะ...ทั้งที่เราก็เข้มแข็งแล้วแท้ๆ แต่ทำไม...ถึงได้ใจอ่อน ใจสั่นแบบนี้กัน...ผม...ไม่เห็นจะุเข้าใจอะไรเลยสักนิด

     

    ...มีอยู่ครั้งนึงนะ...ที่ผมคิดว่าผมสามารถทนกับมันได้ ไม่ว่าจะเรื่องที่ได้แผลมันมาจากทางบ้าน การหกล้มที่โรงเรียน...แต่มันก็สามารถที่จะรักษาแผลเหล่านั้น...อาจจะต้องใช้เวลาเพียงแค่ 1 วันในการรักษา หรืออาจจะมากกว่านั้นเป็นสัปดาห์...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "...ฆ่าฉันเลย"

     

    "..."

     

    "...คุณน่ะ...จะรีบฆ่าฉันก็ฆ่าซะสิ!!"

     

    "..."

     

    "...ฆ่าสิ!!?"

     

    "ไม่...ข้าน่ะทำไม่ได้หรอก!!"

     

    "ทำไมล่ะ?! ..คุณน่ะฆ่าคนมาตั้งเยอะแล้วหนิ!? คุณจะฆ่าสักคนสองคนอย่างฉันเนี่ย!! ก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย?!!!"

     

    "...ข้าน่ะ...ทำแบบนั้นกับนายของข้าไม่ได้หรอก!!"

     

    "หรือจะให้ฉันทรมาณแบบนี้หรือไงคะ?!!!"

     

    "..."

     

    "...ฉันน่ะ...ทนต่อไปไม่ได้หรอก...ไหนจะถูกคนที่ฉันรัก และตัวเองก็เป็นแบบนี้ ฉันน่ะสมควรแล้วล่ะ...ที่จะโดนฆ่าโดยคุณแล้ว.."

     

    "..."

     

    "...ได้โปรด...เถอ-ค่อก...ชะฉันน่ะ...ไว้ใจคุณ...มาโดยตลอดเลยนะ ฉันน่ะ...มัน...อึก..โง่เอง.."

     

    ..นํ......

     

    "..."

     

    "อึก...ได้โปรด...เถอะค่ะ...คุณจะฆ่าฉันก็รีบๆ..ซะ...ฆ่าฉันซะ.."

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ...ตึก!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×