คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : Ben 10 : Episode 18
Ben 10 : Episode 18
![](https://i.pinimg.com/564x/af/ff/bd/afffbdd35f597ddd50e88a0212a7aa90.jpg)
“Be heroes of your own stories”
ความเดิมตอนที่แล้ว..
“หมายความว่ายังไงมาติส?”
“ก็เพราะเอเลี่ยนไม่ได้กินเหมือนชาวโลกน่ะสิ”คำพูดของมาติสก็ทำให้เกวนต้องกระจ่างพลางมองไปที่ภาพฉายอยู่บนโต๊ะ ซึ่งแน่นอนว่าสภาพของอันติโมสก็พร้อมแห้งและเหมือนคนหนาวทั้งๆที่บนโลกกลับอากาศร้อนปกติ ซึ่งคาดว่าก็เกิดมาจากการกินขนมที่เบ็นนั้นได้แบ่งให้ไป
ถ้าหากนั้นมันคือขนม สำหรับเอเลี่ยนอย่างอันติโมสแล้วก็คือสารพิษที่ร้ายแรงอย่างมากสำหรับเขา
“แล้วแบบนี้พวกเขาจะยังคงตามบัญญัติเขารึเปล่า?"เกวนเอ่ยถามพลางมองไปที่อันติโมสสภาพที่สั่นระริกไม่่ต่างกับลูกหมาตกน้ำมาเป็นแน่
“ก็คงไม่ แต่จะมีคนรับหน้าที่เขาแทน”
“และแน่นอนปู่ว่าเบ็นก็คงจะหัวดื้อรั้นไม่ตามหรอกนะ”
“งั้นก็คงแย่”x 2
มาติสและเกวนก็ต่างพูดพร้อมกัน พลางหันไปมองจอที่ฉายอยู่แบบนั้น แม้จะเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันสำหรับผู้พิทักษ์จักรวาล แต่ก็มีคนมารับช่วงต่อแทนก็คือซิโนแท็ก โดยเขาเองก็ออกไปเปล่าประกาศท่ามกลางที่ฝั่งเหล่าร้ายกำลังขนของตามเป้าหมายที่ได้รับจ้างมาแบบโต่งๆ
แน่นอนว่าทำให้ฝั่งเหล่าร้ายก็ต้องเข้ามาโจมตีและรีบขนของไปทันที ซึ่งดูเหมือนซิโนแท็กก็ยังคงความตามบัญญัติและกฏระเบียบของเขาอยู่ ก่อนที่ไทนี่นั้นก็พยายามโจมตีโดยไม่ให้ถึงตาย เบ็นที่เห็นก็คงจะรู้สึกขัดๆไม่ใช่แนวทางของเขาอย่างมากเท่าไหร่
พลางแปลงร่างเป็นเอ็กซาลาเรทบุกเข้าไปโดยไม่ได้คิดแผนเตรียมเผื่ออะไรเลยแม้แต่น้อย ผลที่ได้กลับก็คือโดนซัดเละ ไทนี่และซิโนแท็กที่ไปคอยคุ้มกันก็ได้เสียหลักให้กับพวกซิกส์ซิกส์อย่าไงม่เป็นท่า
ซึ่งพวกเราที่เห็นว่าท่าจะไม่ดีเลย ทำให้ต้องทำการวาปเหมือนที่อันติโมสเคยทำโดยใส่พิกัดที่ต้องการลง หลังจากนั้นก็เพียงแค่กดปุ่มก็พาวาปมาหยั่งที่ที่ต้องการได้พริบตาเดียว
“หวังว่าจะไม่อ้วกอีกแล้วนะ”เกวนรีบพูดดักอย่างมีความหวัง ส่วนมาติสก็ทำได้เพียงแค่ตั้งตารอกับสิ่งที่เธอต้องเผชิญหน้า
แต่ก็ดันวาปมาถูกเวลามากเกินไป พอพวกเราได้วาปลงมาก็พบว่าเป็นเงาสีดำขนาดใหญ่เหมือนสิ่งของสิ่งใดสิ่งหนึ่งกำลังจะหล่นทับใส่พวกเรา แต่ว่าเบ็นก็ได้มาช่วยพวกเราไว้ได้ทันซึ่งเหตุการณ์ก็รวดเร็วมากจนเธอไม่ทันได้มอง เพราะในตอนนั้นเธอก็โดนเบ็นรวบกระเด็นออกมาจากจุดวาป
กว่าจะได้สติก็พบว่าซิกส์ซิกส์กับวอลแคนัสก็ได้ขับยานออกไป พร้อมกับทำลายภูเขาสูงทำให้เกิดก้อนหินหลากหลายลูกและลูกใหญ่ที่กลิ้งลงมาทางพวกเธอได้อย่างรวดเร็ว แต่น่าเสียดายที่เบ็นนั้นเวลาการใช้ออมนิทริกซ์ได้หมดเวลาลงแล้ว แถมผู้พิทักา์จักรวาลทุกคนก็ได้สลบและไม่สามารถขยับไปไหนได้ด้วย
“คงต้องให้อุตราเบ็นออกโรง ถึงจะช่วยไทนี่ได้”ไม่ทันได้พูดจบมาติสที่ได้สติกลับมาเต็มประสิทธิภาพก็ได้กลายร่างเป็นเอ็กซาลาเรท
วิ่งหมุนรอบกลุ่มพวกเขาเพื่อให้แรงลมได้ปัดและกระเด็นพวกหินทั้งหมดออกไป พร้อมทั้งไม่ให้โดนพวกเขาก่อนไม่นานแรงลมที่เธอสร้างขึ้นมาก็ได้เบาจางลงพร้อมกับก้อนหินที่รายล้อมพวกเราไว้รอบด้านไม่สูงมากนัก ซึ่งพอซิโนแท็กกับไทนี่ที่ได้เห็นความสามารถก็รู้สึกพอใจและโล่งใจอย่างมาก
“การไม่ใช้หัวคิดมักมีข้อเสีย นายควรรู้ไว้สักครั้งหนึ่ง”มาติสตักเตือนเบ็นพลางเดินไปดูทั้งสองคนที่ได้สติกลับมาพอดี และเอ่ยถามพวกเขาด้วยความเป็นห่วง
“โหง่วเฮ้งอย่างนาย ใครก็หมั่นไส้”หนำซ้ำเกวนก็ยังซ้ำเติมเบ็นอีกคนสะอีก
“พรสวรรค์น่ะ”-เบ็น
ไม่นานยานของพวกซิกส์ซิกส์ก็ได้หายไปอย่างพริบตา ซึ่งแน่นอนว่าแผนการในการยับยั้งเหล่าร้ายนั้นล้มเหลวไม่เป็นท่าในทางที่จะดีมากเท่าไหร่เลยแม้แต่น้อย
“ซิกส์ซิกส์กับวอลแคนัสไปแล้ว”-ปู่แม็ก
“ไบเซนเทียมกับธาตุ x จะสามารถหล่อมพวกมันได้ก็ต่อเมื่อใช้พลังงานความร้อนสูง”ซิโนแท็กอธิบายถึงการหล่อมละลายด้วยความโกรธและดุดันเล็กน้อย เพราะเขานั้นก็แถบจะไม่ไว้ใจมนุษย์อยู่แล้วแถมพวกเขาก็ได้รับบาดเจ็บอีก
“ออ ก็เหมือนกับการหล่อมถลุงเหล็ก”-ปู่แม็ก
“แล้วแถวนี่มีที่ไหนทำแบบนั้นได้ไหมล่ะ?”-ซิโนแท็ก
“ขอโทษ นี่พิตต์สเบิร์กเมืองเหมืองเหล็กของสหรัฐ”-เกวน
ท่ามกลางของความเดือดร้อน แต่ประจวบเหมาะพอดีที่อันติโมสก็ได้โผล่มาพร้อมกับสภาพร่างกายที่กลับมาแบบคงเดิม กำยำและแข็งแกร่ง เขาลอยมาหาพวกเธอพลางพูดเสียงเข้ม
“นับว่าเป็นวิธีที่น่าสนใจนะ แต่ตามระเบียบปฎิบัติที่บัญญัติผู้พิทักษ์จักรวาลว่าไว้น่ะ-”ในระหว่างที่อันติโมสกำลังกล่าวถึงบัญญัติแต่เบ็นก็รีบเอ่ยขัดก่อนที่จะยาวไปกว่านี่
“ช่างบัญญัติมันเถอะน่า งานนี้ต้องใช้เทคนิคแบบเท็นนีย์สัน”
และใช่สิ่งที่เขาพูดที่กำลังหมายถึงก็คือ บุกกันซึ่งๆหน้า โดยไม่มีการวางแผนหรือมีมาตราที่ต้องมากำหนดไว้ว่าเขานั้นจะต้องทำตัวอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้แบบนั้น และอื่นๆอีกมากมาย มันเหมือนกับว่าเขานั้นต้องทำงานง่ายให้เป็นงานยาก ทั้งๆที่สามารถทำงานง่ายๆก็ทำง่ายไปเลยโดยไม่ต้องระแวงหรือรอบคอบอะไร
ผิดคือแก้ ถูกก็ต้องไปต่อ การตัดสินใจหรือคำพูดของเบ็นก็ล้วนมีส่วนหนึ่งที่ถูกต้อง ทำให้พวกเราและเหล่าผู้พิทักษ์จักรวาลก็ต้องมานั่งจับเข่าคุยกัน และกวาดหาสถานที่ที่พวกมันกำลังไปต่อ
ซึ่งแน่นอนว่าพวกเราก็ได้ที่อยู่พวกมันมาแล้ว เหลือเพียงแค่ที่จะต้องไปหาพวกมันแบบซึ่งๆหน้าก็เท่านั้น
“มาติส ครั้งนี้เธอห้ามทำอะไรเด็ดขาดเลยนะ”เบ็นกล่าวกับมาติสโดยเขาเองก็หมุนออมนิทริกซ์ไล่ดูตัวที่เขาต้องใช้ในวันนี้ ซึ่งมาติสที่โดนกล่าวแบบนั้นก็ต้องมีเลิกคิ้วอย่างสงสัยกับคำพูดของเบ็น
“ทำไหม?”
“เธออยู่ช่วยปู่กับเกวนก็พอแล้วล่ะ งานนี้ฉันจะจัดการเอง”เหมือนเป็นคำเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่มันก็ไม่ได้ผิดมากนักเท่าไหร่ ยังไงเธอก็คงทำอยู่แล้วเพราะถ้าหากปล่อยคนธรรมดาได้รับบาดเจ็บขึ้นมาแถมเธอก็เป็นถึงขั้นช่างประปาระดับแนวหน้าเสียอีก จะให้มีผู้บาดเจ็บ
ก็เหมือนกับต้องมาขายขี้หน้าที่ทำหน้าที่ไม่สมกับเกียรติยศที่ได้รับมาอย่างยากลำบากไปชั่วชีวิต
“เรื่องนั้นฉันรู้ แต่ฉันควรเตือนนายมากกว่า อย่าทำอะไรที่มันบ้าบิน”ใบหน้าที่เล็กกลมดั่งไข่ที่นวลสวย ดวงตากวาดไปมองด้วยสายตาเฉกเช่นเดิม พร้อมกับคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย"อีกอย่างอย่าเตือนฉันให้มาก ระวังตัวเองด้วย"
“ครับๆ ทราบแล้วครับ ฉันรู้อยู่แล้วน่าว่าเธอเก่ง แต่ใช่ว่าเธอจะเก่งไปขนาดนั้นสักหน่อย”
อีกฝ่ายว่าแบบนั้น ก่อนจะเดินออกไปเพื่อเตรียมบุกไปที่ศัตรู ส่วนมาติสก็ได้แต่มองก่อนจะถอนหายใจและรีบเดินไปหาปู่แม็กกับเกวนที่วิ่งเดินเข้าไปในโรงงานใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งที่นั้นมีเหล่าร้ายกำลังหล่อมพวกธาตุที่ก่อเหตุอันใหญ่ยักษ์อยู่ยังไงล่ะ
พอวิ่งเข้าไปก็พบเจอเป็นห้องสำหรับผู้ควบคุมหรือดูแลโรงงาน ซึ่งเกวนวิ่งเข้าไปและดูปุ่มต่างๆพลางกดนู้นนี้นั้นด้วยความรวดเร็ว และคล่องแคล่วโดยฉากเบื้องหน้าก็เป็นพวกผู้พิทักษ์จักรวาลที่ลอบเข้ามาโจมตีเหล่าร้ายก่อนพวกเธอเสียแล้ว
“ถลุงเหล็กก็เหมือนกับทำเค้กอ่ะ ถ้าถลุงไม่บริสุทธิ์พอธาตุ X ก็ไม่รวมตัว”-เกวน
“แน่นอนว่าต้องขัดขว้างพวกมันไม่ให้หล่อมละลายธาตุ Xไปได้”-มาติส
“แจ๋ว”x 2
______________________
การต่อกรกับเหล่าร้ายได้หยุดลง เมื่อเหล่าผู้พิทักษ์จักรวาลและเบ็นก็สามารถต่อกรกับเหล่าร้ายโดยพวกเขาก็โดนแช่ไปกับดินที่แข็งแห้งเลยทำให้ไม่สามารถขยับตัวไปไหนอีกได้ พร้อมทั้งตั้งแต่งเบ็นให้เป็นส่วนหนึ่งของผู้พิทักษ์จักรวาลเพราะไอเดียของเขาในการกำจัดเหล่าร้ายพวกนี้
ซึ่งเบ็นก็ได้รับตรามาแต่เขาก็ไม่ได้อยากเป็น แต่ยังไงพวกผู้พิทักษ์ก็ยังให้เขาเก็บไว้กับตัวเผื่ออนาคตได้เจอกันอีก พร้อมทั้งพวกเขาก็ได้ยื่นสัญลักษณ์แบบเดียวกันกับเบ็นมาให้มาติส เพราะเห็นว่าเธอเป็นผู้แกร่งกล้า กล้าหาญและตัดสินใจอย่างเด็ดขาด แต่เธอก็ได้แค่รับมันไว้ด้วยน้ำใจก่อนที่พวกเขาจะวาปกลับขึ้นไปที่ยานของพวกเขาต่อหน้าของพวกเธอ
หลังจากนั้นพวกเราก็ได้ออกได้เดินทางอีก โดยถนนหนทางกลับเป็นภูเขาโดยมีการพยากรณ์อากาศไว้ว่าฝนจะตกลงค่อนข้างแรง
แต่สิ่งที่แรงมากกว่านั้นก็คงมีอยู่..
“เปลี่ยนเลย!”-เบ็น
“เรื่องอะไรอ่ะ ก็เปลี่ยนเรื่องของเธอสิ”-เกวน
“ปีนี้ตาเธอนะ”-เบ็น
สิ่งที่แรงกว่าฝนตกก็ญาติพี่น้องที่ทะเลาะกันด้านหลังของเธอเนี้ยแหละ ที่ไม่เคยลงรอยกันสักทีแม้แต่น้อย แม้กระทั่งเรื่องงานวันเกิดก็เหมือนกัน ปู่แม็กที่ขับรถเองก็เริ่มหงุดหงิดที่ทั้งคู่ก็ต่างไม่ลงรอยสักครั้ง ส่วนมาติสก็ได้แค่มองถนนข้างหน้าอย่างกับว่าเฉยเหมยในเรื่องนี้
“ก็คนในปีนี้ที่จะได้ฉลองวันเกิดของตัวเองเป๊ะๆน่ะสิ”-เกวน
“คงจะได้หรอก เพราะว่าวันเกิดเราปีนี้ปู่สัญญาว่าจะพาเราไปเล่นศึกเลเซอร์”-เบ็น
“แต่คุณปู่ต้องไปงานวันเกิดหนูนะคะ”-เกวน
“นี่เธอสองคนน่ะ ใช้วันเกิดร่วมกันมา 10 ปีแล้วนะ ถ้ายังไม่เลิกตีกันล่ะก็ไม่ได้มีชีวิตอยู่ถึง 11 ทั้งคู่แน่”ปู่แม็กที่เริ่มหมดความอดทนก็กล่าวเสียงเเข็งด้วยความโกรธแต่ไม่มากเท่าไหร่ พลางหันไปมองทั้งคู่"เอาเบ็น เอานี้ไปโรยเท้าเจ้านี้ฆ่าเชื้อราได้ทุกชนิด"
พูดจบก็หยิบกระปุกโรยเท้าสีเหลืองโยนไปให้เบ็น เบ็นที่กำลังใช้มือเกาเท้าก็ต้องหันมารับและมองกระปุกนั้น
“ยังไงพวกเธอก็เป็นญาติกัน บางทีการได้อยู่ร่วมกันมันคือสิ่งสนุกไม่ใช่เหรอ?”ในระหว่างที่เงียบมาติสก็ได้กล่าวขึ้น โดยตาของเธอก็ยังคงมองด้านหน้าเหมือนเดิม
“ไม่มีทางอ่ะ”x 2
“ถ้าให้ฉันอยู่ใช้อยู่ร่่วมกับยัยนี้ ฉันได้เชื้อบ้าตายแน่ๆ”-เบ็น
“แหม่ ฉันก็ไม่ได้อยากอยู่กับนายแล้วติดเชื้อจอมเสร่อหรอกนะ”-เกวน
“เฮ้อ…-คุณเท็นนีย์สัน! มีคนอยู่ข้างหน้า!”มาติสที่เห็นคนที่มีลักษณะอ้วนๆเป็นผู้ชายที่กำลังยืนอยู่กลางถนน ก็รีบกล่าวด้วยความตกใจและเป็นสัญชาตญาณของเธอ ปู่แม็กที่ได้ยินก็รีบหักพวงมาลัยอย่างทันควัน แต่จะน่าเสียดายที่เด็กผู้ชายคนนั้นก็ตื่นกลัวจนลื่นล้มถนนกลิ้งลงไปนอกถนน
ซึ่งตรงนั้นถ้าหากตกลงไปคือกระดูกหักแน่นอน แต่ความโชคดีก็ยังเข้าข้างเขา คือเขาสามารถเกาะกิ่งไม้ได้ทัน แต่ความโชคดีก็มีความโชคร้ายก็คือกิ่งไม้นั้นไม่ได้แข็งแรงมากนัก เบ็นที่เห็นว่ามีผู้คนลำบากก็รีบใช้ออมนิทริกซ์แปลงร่างเป็นสติงค์ฟลาย
แต่เจ้าออมนิทริกซ์ดันสุ่มให้เขาเป็นตัวแคนนอนบอลแทน แต่เขาก็ไปช่วยเด็กผู้ชายคนนั้นได้
“มีแผลฟกช้ำและถลอกนิดหน่อย บริเวณต้นแขนมีราชนิดพิเศษ แต่ยังไงเขาแค่หนาวจนสลบไปก็เท่านั้น”พอได้เอาเด็กผู้ชายคนนั้นเข้ามาที่รถก็พบกับว่าเขาสลบไป โดยมาติสก็เป็นคนตรวจอาการพลางมองลายเสื้อด้วยความคุ้นชิน
“เด็กคนนี่่ชื่อกิวเบิร์ก”-เกวน
“โว้ว รู้ได้ไงเนี้ย?”-เบ็น
“คนมีญาณวิเศษ"-เกวน
“จร้า ใช้ญาณวิเศษกับป้ายชื่อ”ปู่แม็กก็ได้กล่าวขัดเกวนเพราะก็รู้อยู่แล้วว่าเด็กคนนี้ชื่อกิวเบิร์กจากป้ายชื่อที่โผล่ตรงเสื้อของเขา และดูเหมือนเขาก็น่าจะอยู่ช่วงการเข้าค่ายเสียด้วยเพราะการแต่งกายก็ทำให้ใครก็ต้องดูออก
“ว่าแต่ราแบบนี้ คุณเท็นนีย์สันพอรู้รึเปล่าคะ?”มาติสเอ่ยถามปู่แม็ก ซึ่งปู่แม็กก็ได้แต่ส่ายหน้าก็เลยทำให้เธอไม่ได้คำตอบอะไร แต่ก้ต้องคาใจคาเขาของเธออยู่ดีว่าราชนิดนี้มัน คืออะไรกัน
ยิ่งขี้สงสัยยิ่งดี เพราะจะได้มั่นหน้าคำตอบพวกนี้ แม้ว่าเธอจะเป็นช่างประปาและได้เรียนรู้เกี่ยวกับพวกวิทยาศาสตร์ไม่มากก็น้อย แต่ก็ไม่อยากจะคลาดเคลื่อนเรื่องข้อมูลแบบนี้เลยสักนิด
“อ่า..จะว่าไปเบ็นขอยืมแป้งโรยเท้านั้นหน่อยได้ไหม?”-มาติส
“ได้ จะเอาไปทำไรอ่ะ?”เบ็นก็พูดตอบพลางโยนแป้งโรยเท้ามาให้เธอ ซึ่งเธอก็ได้รับมาพลางใช้โรยไปส่วนที่บริเวณแขนของเด็กคนนั้น ก่อนที่รานั้นจะเริ่มจางหายไป"โห้วแหะ กำจัดราทุกชนิดจริงๆด้วย"
“จะว่าไปแล้ว รานี่มันเกิดขึ้นได้ด้วยกับคนด้วยเหรอ?”-เกวน
“ไม่มีหรอก นอกจากจะติดต่อใช้ของร่วมกันกับสัตว์มาก็ได้ แต่ในตอนฝนตกแบบนี้เด็กคนนี้เดินมาคนเดียวก็คงจะไม่ใช่แล้วล่ะ”มาติสพูดออกมาอย่างมีความรู้พลางใช้ผ้าเช็ดที่แขนเด็กคนนั้นเพื่อให้ผงแป้งโรยนั้นออกไป
“งั้นแสดงว่าต้องเป็นฝีมือของพวกเอเลี่ยน”-เบ็น
“แต่ฉันว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้สิ”-เกวน
“งั้นพวกเราต้องไปที่ค่ายของพวกเขาแล้วล่ะ เพราะปู่เองก็เหมือนจะเห็นป้ายไปค่ายอยู่”
ความคิดเห็น