ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ben 10 : แค่มือใหม่ของช่างประปา (oc)

    ลำดับตอนที่ #18 : Ben 10 : Episode 17

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 783
      50
      28 พ.ย. 64

    Ben 10 : Episode 17

    Believe you can and you’re halfway there.”

     

    ความเดิมตอนที่แล้ว…

     

    “ก็อยากหาที่เรียนไม่ไกลจากบ้านเกิดน่ะ แถวฮอลีวูดมีโรงเรียนไหนบ้างรึเปล่า?”

     

    “อออ ก็มีเยอะแยะเลยนะ รวมถึงโรงเรียนจอมเสลอก็มีด้วย แต่แน่นอนว่าคงไม่ใช่สถานที่แบบนั้นหรอก ที่นั้นมันเข้าง่ายน่ะ ฉันมีที่แนะนำตรงนี่ด้วยนะ คิดว่าเป็นไง”

     

    แน่นอนว่ามาติสและเกวนต่างก็คุยเข้าขากันเสียอีกแล้ว โดยเกวนก็ควานหาโรงเรียนให้มาติสกันสะยกใหญ่พร้อมกับท่าทีที่ดีใจเสียจนออกหน้าออกตาไปหมด แต่นั้นก็ไม่ได้สร้างความลำบากใจแถมอาจจะเปิดอกคุยกันสะด้วยซ้ำไป เรื่องที่มาติสไม่รู้เกวนก็เป็นคนสอนและอธิบายเธออย่างละเอียดเสียเชียวล่ะ

     

    ไม่นานมากนักพวกเราก็ได้มาถึงเมืองที่ค่อนข้างจะมีสถานที่ท่องเที่ยวสนใจค่อนข้างเยอะ แต่พวกเรานั้นไม่ได้มีเวลามากนักที่จะมาเที่ยวที่นี่ให้หมด เลยกะเอาเพียงแค่สถานที่ที่สำคัญและน่าท่องเที่ยวสำหรับพวกเราเท่านั้น

     

    ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสถานที่พิพิธภัทณ์

     

    “เบ็นไปไหนแล้วล่ะ?”เกวนได้ตั้งคำถามขึ้นมา เมื่อเธอรู้สึกเงียบๆในระหว่างที่เดินชมพิพิธภัทณ์ โดยปกติแล้วเธอจะได้ยินเสียงญาติบ่นเป็นระยะๆเท่านั้น ซึ่งปู่แม็กและมาติสที่เดินมาด้วยต่างก็หันไปมองรอบๆ ก่อนไม่นานนักก็ได้ยินเสียงระเบิดหรือเสียงกระทบอะไรสักอย่างดังขึ้น

     

    ทำให้พวกเขาต่างก็ต้องวิ่งออกมาดูก็ได้พบกับควันที่ลอยบนอากาศ แน่นอนว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้คงมีเพียงแค่

     

    “เดายังไงก็ไม่มีพลาด”คำพูดของปู่แม็กพลางหันไปมองที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะพากันวิ่งลงไปเพื่อไปดูต้นเหตุของเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งระหว่างทางก็มีผู้คนมากมายต่างที่วิ่งกรู่ออกมาจากตรงนั้น แม้จะรำคาญอยู่บางแต่ก็ต้องเข้าไปดูเหตุการณ์ให้ได้เสียก่อน

     

    มาติสวิ่งเขาไปได้คนแรกโดยที่เธอนั้นกระโดดข้ามตึกไปโดยไม่ได้ใช้ตัวช่วยอย่างไรพลางมองลงไปข้างล่างก็พบกับเอเลี่ยนสองตัวที่แปลกใหม่ ซึ่งดูเหมือนว่าก็น่าจะเก่งกาจอยู่เล็กน้อย โดยมีเบ็นในร่างของโฟร์อาร์มกำลังต่อกรกับพวกมันอยู่

     

    โดยดูเหมือนว่าเบ็นจะเสียเปรียบอย่างมากแน่นอนว่าช่างประปาอย่างเธอก็คงไม่ยืนอยู่เฉยๆ พลางเข้าไปป้องกันเบ็นจากด้านหลังโดยที่เขาไม่ได้ระวังตัวเลยวา่มีลูกกระสุนยิงมาทางเขา

     

    “นายรู้จักพวกเขารึเปล่า?”มาติสเอ่ยถามเบ็นในขณะที่เบ็นกำลังซัดกับอีกตัว

     

    “ฉันเคยเห็นพวกนี้จากที่ไหนมาก่อน แต่ไม่รู้จักกันแน่นอน”

     

    ระหว่างที่กำลังต่อกรก็ดูเหมือนพวกมันจะไม่ได้จ้องเล่นงานเธอ แต่กลับจะไปเล่นงานเบ็นแทนเสียอย่างงั้น ทำให้เธอก็พอเริ่มชักสงสัยพลางพยายามป้อมกันเบ็นจากด้านหลัง

     

    “คู่ต่อสู้ห้ามละสายตาเด็ดขาด”เธอพูดพลางตวัดเคียวอย่างแรงเควี้ยงใส่รถบรรทุก ทำให้เอเลี่ยนตัวนั้นก็บาดเจ็บอย่างมาก เธอรีบเดินเข้าไปดูพลางจับคอของเอเลี่ยนตัวนั้นยกขึ้นเพื่อที่จะถามจุดประสงค์"นายมาทำอะไรที่บนโลกนี้กันแน่"

     

    อีกฝ่ายไม่ได้ตอบกลับแต่กลับปล่อยอะไรบางอย่างลงมาจากตัวของเขารูปทรงก็คล้ายระเบิด ซึ่งมาติสก็ไม่ได้ทันระวังตั้งตัวไหวทัน เบ็นที่กำลังวัดอยู่ที่เห็นเข้าพอดีก็รีบกระโจนอุ้มมาติสออกไปทันที ซึ่งสายฟ้านั้นก็ได้ช็อตที่เจ้าตัวเป็นคนปล่อยแทน

     

    “ปลอดภัยนะ?”

     

    “แน่นอน ขอบคุณเมื่อกี้ด้วย”

     

    ในระหว่างนั้นเองก็ได้มีลำแสงสีฟ้าที่ส่องลงมาพร้อมกับการปรากฏตัวเอเลี่ยนตัวใหม่ขึ้นมาอีก 3 ตัว ทำให้มาติสและเบ็นต่างก้ยิ่งมองไปด้วยความสงสัย ก่อนที่แสงสีฟ้านั้นจะค่อยๆจางเป็นรูปเป็นร่างและเห็นร่างกายอย่างเด่นชัด ซึ่งเป็นพวกเอเลี่ยนที่มีชุดสีเหลืองเหมือนกันและมีตราสัญลักษณ์อะไรสักอย่างอยู่ทุกตัว

     

    พวกเขาท่าทางก็ดูเหมือนฮีโร่และฝ่ายธรรมมะอยู่หรอก ถ้าหากตอนนี้เธอสังเกตก็คงเห็นเบ็นยิ้มด้วยความไม่น่าเชื่อแน่นอนเพราะเขาเองก็อ่านหนังสือเกี่ยวกับพวกฮีโร่อยู่แล้วด้วย

     

    “อย่าอำกันน่า”แน่นอนว่ามือของเขาก็ยังคงโอบมาติสไม่เคยปล่อยเหมือนเดิม จนคิดว่ามันอาจจะเป็นนิสัยของเขาก็ได้จนมาติสต้องพยายามแกะมือของเบ็นและลงจากตรงนั้นเองในระหว่างที่เขาเอาแต่มองแบบนั้นอะนะ

     

    “ไหงเนี้ยไปกันใหญ่แล้วอ่ะ”เกวนกับปู่แม็กที่พึ่งวิ่งมาถึงก็ได้เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าพอดีก็ยิ่งงงเข้าไปกันใหญ่

     

    “กระบวนช่วยชีวิต อัลฟ่าไนท์”ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มโจมตีเอเลี่ยนฝ่ายร้ายที่เบ็นและมาติสเคยโจมตีไป โดยพวกเขาก็ดูเหมือนจะทำงานกันเป็นทีมมากสะด้วย แค่มาติสมองก็คงรู้ว่าพวกเขาทำงานแบบระเบียบมาก

     

    “รู้สึกคุ้นๆกับเอเลี่ยนสองตัวนั้นนะ”มาติสพึมพำเบาๆพลางนึกคิดในระหว่างที่พวกเขากำลังจัดการกันอยู่ โดยเบ็นเองก็ได้แต่มองพวกเขาที่จัดการอย่างเมามันส์อย่างกับหนังที่ฉายต่อหน้าเขาแบบ 3D เลยทีเดียว ไม่นานนักพวกเขาก็สามารถกำจัดเอเลี่ยนสองตัวนั้นได้ ทำให้เธอและเบ็นต่างก็ต้องไปยืนฟังพวกเขาพูด

     

    แม้จะเข้าใจบางอย่างและเริ่มรู้อะไรบางอย่างก็ยังคงนิ่งและฟังพวกเขา

     

    “ในนามของสมาพันธ์ของบัญญัติผู้พิทักษ์จักรวาล ข้าขอสั่งให้พวกเจ้ายอมแพ้ เจ้าจะหยุดหรือไม่”คิ้วถึงกับกระตุกไปทางขวาทันที ก่อนที่ไม่นานเจ้าเอเลี่ยนสองตัวนั้นก็ได้แอบลักลอบหนีพวกเธอไป โดยไม่ทันได้ระวังตัวพลางแอบโจมตีเสาขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลเพื่อหวังจะทับพวกเราให้ตาย

     

    แต่ดีที่ต่างคนก็ไหวทัน เบ็นในร่างโฟร์อาร์มและอีกคนหนึ่งซึ่งสายพันธุ์เดียวกันกับเบ็นต่างก็รีบช่วยยกเสาเพื่อพยุงโดยก็มีเอเลี่ยนอีกตัวใช้พลังจิตควบคุมยกเสาให้ตั้งและ เอเลี่ยนอีกตัวยิงลำเเสงความร้อนใส่เสาเพื่อให้ละลายสมานกันเพื่อจะตั้งเสาให้ได้สมดุล

     

    ผลงานเหล่านี้ทำให้เอเลี่ยนผู้พิทักษ์จักรวาลก็แอบชื่นชมเบ็นในร่างโฟร์อาร์มเล็กน้อย แต่ก็เวลาของการแปลงร่างเป็นเอเลี่ยนก็ได้หมดลงและกลับไปเป็นเด็กเหมือนเดิมอีกครั้ง ทำให้พวกเขาต่างก็เข้าใจแจ่มแจ้ง

     

    “แปลว่าจริงสิเนี้ย ที่ว่ากันว่าออมนิทริกซ์ตกอยู่ในมือของเด็กน่ะ ได้ยินมาว่าเธอไม่ค่อยมีวุฒิภาวะเท่าไหร่ด้วย เปล่าว่านะ”ซิกโนแท็กที่มีร่างคล้ายกับปลาหมึกแต่ไม่ใช่เอ่ยออกมาด้วยความรู้ เพราะเขานั้นชาญฉลาดอย่างมากพลางมองไปที่เบ็นและเอ่ยดักกล่าวไว้

     

    “ไม่เป็นไรค่ะ เขาโดนประจำยุแล้ว”เกวนที่ไม่ได้ห้ามแต่กลับตอกซ้ำเติมเบ็นไปเสียกว่าเดิมอีก

     

    “หวัดดี เราคือ อันติโมส อภิมหามนุษย์ ส่วนนี่ ซิโนแท็ก กับ ไทนี่ รวมเป็นผู้พิทักษ์จักรวาล”

     

    ทั้งสามคน เกวน ปู่แม็กและมาติสต่างก็ได้แต่ยืนนิ่งและมองหน้ากัน ส่วนเบ็นนั้นกลับมีออร่าดีใจสะจนออกหน้าออกตาไปหมด หากเป็นคนอื่นก็คงทำท่าทางเหมือนทั้งสามคนที่ไม่ใช่เบ็นแน่นอน ใครมันจะไปคิดว่ามีพวกเหล่าฮีโร่จากฝั่งเอเลี่ยนมาสะด้วย

     

    “โฮ้ว! มีเครื่องแบบ มีท่า สุดยอดไปเลยและแล้วก็ได้เจอยอดวีรบุรุษด้วยกัน”

     

    “และตามบัญญัติของผู้พิทักษ์จักรวาล พวกเราจะขออนุญาติปฏิบัติการในเขตรับผิดชอบของท่าน”คำพูดอันสวยหรูอันติโมสก็แอบทำให้มาติสแอบสะกิดๆใจไม่คุ้นชินอยู่เหมือนกัน แม้เธอเองก็เคยจะทำแบบนั้นมาแล้วก็ตามที

     

    “เอ่อ..ได้ครับ”

     

    “งั้นขอเชิญร่วมเข้าประชุม”ก่อนที่อันติโมสจะกดที่เข็มขัดของตนเหมือนสั่งการอะไรสะอย่างด้วยความล้ำสมัย ก่อนจะมีแสงสีฟ้าโผล่มาจากใต้เท้าของทุกคน ซึ่งแน่นอนว่าอีกท่าแบบนี้ก็คือการเทเลพอร์ตวาปกลับไปที่ไหนสักแห่ง

     

    ไม่นานนักพวกเราก็ได้โดนเทเลพอร์ตมาที่ยานอวกาศที่ในตอนนี้กำลังล่องลอยอยู่บนอวกาศ โดยทุกอย่างก็ยังคงความไฮเทคและล้ำสมัยในสิ่งที่มนุษย์บางคนไม่รู้ ซึ่งของพวกนี้ก็ล้วนล้ำค่าไปหมด

     

    “อะไรจะเจ๋งเป้ง สวรรค์สำหรับซุปเปอร์ฮีโร่”

     

    “หุบปากหน่อยก็ดีพ่อซุปเปอร์เบือก น้ำลายหกไปทั่วห้องแล้ว”เกวนเอ่ยยตักเตือนเบ็นพลางว่าดุเล็กน้อย พลางเดินไปที่จุดตรงกลางที่เหมือนโต๊ะประชุม

     

    “แล้วไอ้เจ้าวายร้ายจอมอุปกรณ์ถึงได้กลับมาที่โลกนี่อีกน่ะ”

     

    “มันไม่ใช่เจ้าวายร้ายจอมอุปกรณ์หรอกค่ะ คุณเท็นนีย์สัน แต่มันมีชื่อว่าซิกส์ซิกส์ใช่ไหมคะ?”มาติสกล่าวแก้ด่างพลางหันไปมองพวกเหล่าผู้พิทักษ์จักรวาลที่หันมามองเธอ อย่างจับสังเกต

     

    “ถูกต้อง ซิกส์ซิกส์มันได้แหกคุกออกมา จับมือกับโจมพลังวายร้ายนามว่า วอลแคนัส”ก่อนจะมีภาพฉายขึ้นมาท่ามกลางโต๊ะทำงานพร้อมกับเป็นร่างของโจมวายร้ายทั้งสองตัวที่เธอและเบ็นเคยต่อสู้กันมาแล้ว โดยลักษณะก็ไม่มีคลาดและเด่นชัดมากเสียด้วย

     

    “พวกเดดต้าบาย วุฒิภาวะทางจิตจำกัดเน้นกำลังไร้สมอง คล้ายใครไม่รู้”ซิโนแท็กลอยมาดูใกล้ๆพลางกล่าวและแอบเอ่ยกล่าวเปรียบเทียบกับเบ็นโดยเจ้าตัวเองก็ไม่รู้ว่าโดยกล่าวเปรียบเทียบกันอยู่

     

    “มันถูกจ้างให้ทำการโจรกรรมธาตุ X”

     

    “ธาตุ X ที่ว่ามาคือธาตุประกอบครึ่งหนึ่งของสารประกอบที่ให้พลังก่อระเบิดมหาศาล ทำไหมพวกมันถึงต้องทำงานพวกนี้ด้วย แล้วใครเป็นคนว่าจ้างพวกมันกันแน่”ทุกคนต่างนิ่งเงียบไปสักพัก ซึ่งแน่นอนว่าก็แอบทำให้ผู้พิทักษ์จักรวาลบางคนก็เป็นที่ปลื้มปลิมเล็กน้อย 

     

    “เรื่องนั้นเราก็ยังไม่ทราบ”

     

    “แล้วโลกเกี่ยวกันยังไง?”ปู่แม็กเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย 

     

    “มันก็คงจะมาหาธาตุประกอบอีกครึ่งหนึ่ง ไบเซนเทียมอะรอยด์ ซึ่งหายากมาก แต่ว่ากันว่ามีอยู่บนดวงดาวของท่าน เมื่อประสมกันไบเซนเทียมกับธาตุ X ก็จะแปรงเป็นสารระเบิดที่มีอำนาจอนุภาคทำลายล้างสุริยะจักรวาล”พอทั้งสองสารได้ประกอบก็ได้เกิดแสงที่ทำให้แสบตาเล็กน้อย

     

    เกวนก็ได้แต่มองธาตุพวกนั้นอย่างคุ้นๆ ซึ่งก็ได้ซิโนแท็กเป้ฯคนคลายคำถามในหัวแทน

     

    “งั้นเราควรลงไปบนโลกแล้วก็เริ่มตามหา”

     

    “ขอโทษนะครับ แต่บัญญัติผู้พิทักษ์จักรวาลระบุวิธีเอาไว้แล้ว ไทนี่ปล่อยยานสำรวจ 1 ถึง 4”ก่อนที่อันติโมสจะสังการไทนี่ และได้ปล่อยยานสำรวจตามที่ว่าเพียงไม่กี่วินาทีไป

     

    “ระหว่างนี่เราต้องพาท่านชมบนยานของเราก่อน”

     

    “ยินดีอย่างยิ่ง”

     

    “โอ้ว ขอโทษด้วยนะครับ แต่บัญญัติผู้พิทักษ์จักรวาลระบุเอาไว้มาตรา 373/87 ห้ามแบกพลเรือนร่วมล้ำส่วนอื่นของยาน ท่านกับหลานสาว 2 คนควรจะต้องรอที่ห้องบัญชาการนี้ก่อน”ทำเอาปู่แม็กและเกวนก็ต่างหุบยิ้มและมึนงงกับคำพูดของเขา โดยมาติสยืนฟังมาก็ได้ยินแต่คำว่าบัญญงบัญญัติอยู่เต็มทน

     

    ก่อนที่ไทนี่จะอุ้มตัวเบ็นและเดินเข้าไปในลำตัวยาน โดยเธอก็สังเกตเห็นซิโนแท็กทำใบหน้าไม่พอใจด้วยความหวาดระแวงเบ็น กลัวว่าเขาจะก่อให้เกิดอันตรายได้ ซึ่งแน่นอนว่ามาติสเธอก็สังเกตออกสะขนาดนั้น ก่อนที่จะเดินเข้าไปและปิดประตูทันที 

     

    ส่วนเธอ เกวนและปู่แม็กก็สำรวจดูยานเพียงแค่ห้องบัญชาการนี่ไปเท่านั้น

     

    “เธอคิดว่าไอ้เบ็นตอนนี่ทำหน้าแบบไหนอยู่ล่ะ”เกวนได้เอ่ยถามมาติสในขณะที่กำลังมองปุ่มกดต่างๆด้วยความละเอียด

     

    “มีความสุขล่ะมั้ง”

     

    “แน่ล่ะ ตอนนี้ยิ้มจนหน้าบานปากฉีกไปแล้วก็ได้”

     

    ตี้ดด ตี้ดด ตี้ด 

     

    เสียงการแจ้งเตือนอะไรสักอย่างที่เป็นลางร้าย ทำให้เหล่าผู้พิทักษ์ที่กำลังพาเบ็นเที่ยวชมยานก็ต้องรีบมาดูที่ห้องบัญชาการก็พบว่าได้ตรวจพบเหล่าวายร้ายได้แล้ว ซึ่งพวกมันในตอนนี้กำลังขนแร่ธาตุตามที่ว่านั้นอยู่ โดยบนโต๊ะก็มีภาพฉายอย่างเด่นชัด

     

    “เบ็น อยากปฏิบัติการพิเศษกับผู้พิทักษ์จักรวาลบางไหม”อันติโมสเอ่ยกล่าวชักชวนเบ็น โดยก็มีการโหวตหางเสียงโดยเป็นเอกฉันท์"ดูเหมือนว่า จะใช้คะแนนโหวตตัดสินกันสะแล้ว"

     

    “ไปสวมเครื่องแบบเลยเบ็น”

     

    และแน่นอนว่าเบ็นก็ตื่นเต้นรีบไปลองชุดอย่างทันที ส่วนพวกเธอก็ได้แต่ยืนรอมองภาพการ์ตูนที่อย่างกับฉายต่อหน้าของพวกเธอแบบถ่องแท้ แม้จะหน้าอายที่เธอจะต้องมายืนมองอะไรพวกนี่ก็ตามทีเถอะ แต่เธอก็คงไม่ได้มากความอะไรมาก

     

    พอเบ็นได้เดินออกมาจากห้องลองชุดก็ได้เดินออกมาพร้อมท่าทางอันเหมือนกับการ์ตูนเข้าไปใหญ่ ไม่นานก็สะดุดผ้าคลุมล้มไม่เป็นท่าเสียสะอย่างงั้น ทำเอาเกวนก็ต้องหลุดขำออกมา

     

    “พวกเราล่ะ?”ปู่แม็กได้เอ่ยถามออก ซึ่งแน่นอนว่าคำตอบของพวกเขาก็มีคำว่าบัญญัติมาตลอด

     

    “เกรงว่าบัญญัติผู้พิทักษ์จักรวาลจะระบุไว้ชัดเจนสำหรับผู้ที่ไม่ใช่ยอดมนุษย์ บอกว่ารออยู่นี่ดีกว่า”ก่อนที่ซิโนแท็กจะยิงลำแสงอะไรบางอย่างใส่มาที่พวกเรา มาติสรีบไปขว้างหน้าพลางรีบเรียกเคียวของเธอออกมากะจะป้องกันลำแสงนั้น 

     

    ทำให้ซิโนแท็กถึงกับมองเคียวบนมือของเธออย่างสงสัยที่แต่ก่อนเป็นสร้อยคอกลับกลายมาเป็นเคียวเสียแทน

     

    “เดี๋ยวก่อน ข้าว่าเอาผู้หญิงคนนั้นมาด้วยจะดีกว่า”

     

    “งั้นเจ้าคงจะเป็นยอดมนุษย์ล่ะสิท่า”

     

    “ฉันขอปฎิเสธ ยังไงฉันจะอยู่กับคุณเท็นนีย์สันไปเสียก่อน ถ้าหากเกิดอันตรายหรือขัดข้องจริงๆฉันถึงจะลงไปช่วยเอง”มาติสกล่าวอย่างแข็งกล้าพลางเอาเหตุผลมาไว้ ซึ่งเหตุผลก็ดูฟังขึ้นใจเลยทำให้พวกเขาต้องปล่อยมาติสไว้ที่นี้พร้อมกับปู่แม็กและเกวน ก่อนที่ม่านพลังของซิโนแท็กจะหายไป

     

    “ทำไหมเธอถึงปฎิเสธไปแบบนั้นล่ะ น่าจะไปช่วยตืบสมองเจ้าบ๊องนั้นได้”เกวนเอ่ยถามอย่างสงสัยกับการตัดสินใจของมาติส 

     

    “อย่างน้อยเขาก็จะได้เรียนรู้ว่าพวกผู้พิทักษ์จักรวาล เขาทำงานกันยังไงมากขึ้น”

     

    “ก็ถูกของมาติส แต่ยังไงก็ต้องไปช่วยอยู่ดี เพราะเบ็นเป็นคนที่ใช้แต่กำลังไม่ได้ใช้หัวคิดอาจทำให้คนอื่นลำบากไปด้วย"ระหว่างที่ปู่แม็กก็กังวลเรื่องหลานตัวเองมากเกินไปมาติสก็ได้เข้าไปห้ามเสียก่อน

     

    “อย่าเพิ่มเถอะค่ะ ต้องรอดูสถานการณ์ก่อนอย่าใจร้อนมากเกินไป ยังไงตอนนี้สถานการณ์ก็อาจจะย่ำแย่"

     

    “หมายความว่ายังไงมาติส?”

     

    “ก็เพราะเอเลี่ยนไม่ได้กินเหมือนชาวโลกน่ะสิ”คำพูดของมาติสก็ทำให้เกวนต้องกระจ่าพลางมองไปที่ภาพฉายอยู่บนโต๊ะ ซึ่งแน่นอนว่าสภาพของอันติโมสก็พร้อมแห้งและเหมือนคนหนาวทั้งๆที่บนโลกกลับอากาศร้อนปกติ ซึ่งขาดว่าก็เกิดมาจากการกินขนมที่เบ็นนั้นได้แบ่งให้ไป

     

    ถ้าหากนั้นมันคือขนม สำหรับเอเลี่ยนอย่างอันติโมสแล้วก็คือสารพิษที่ร้ายแรงอย่างมากสำหรับเขา 

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×