คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : Ben 10 : Episode 15
Ben 10 : Episode 15
![](https://i.pinimg.com/564x/d2/41/be/d241be04342d99ad92e6a0c72c096152.jpg)
"Somethings are better in dreams"
(บางสิ่งเหมาะสำหรับการพบในฝันมากกว่าความเป็นจริง)
ความเดิมจากตอนที่แล้ว...
“มีอะไรรึปล่ามาติส?”เกวนเอ่ยถามขึ้นมา เมื่อเห็นมาติสยืนจ้องมองด้านบนอยู่นาน
“พวกนั้นตามสืบพวกเราอยู่ ดูเหมือนพวกเขาจะรู้แล้วนะ บอกเบ็นให้มาหาเองทันไหมนะ?”
“ไม่รู้เหมือนกันยังไงพวกหน่วยสตีลนี้ก็น่ารำคาญจริง”
“อืม เข้าไปในรถเถอะ”
เมื่อตกค่ำพวกเราก็ขับรถมารับเบ็นในสถานที่ที่ไม่ผู้คนและลับ พอลงมาก็เจอเบ็นที่ซ่อนตัวอยู่นานไม่นานก็ได้ยินเสียงจากที่ไหนสักแห่งดังขึ้น นั้นทำให้พวกเราต่างตกใจยกเว้นเพียงมาติส เธอคิดอยู่แล้วว่าพวกหน่วยสตีลต้องแอบซุ้มจับแบบนี้ ไม่อย่างงั้นสายตาที่เธอสังเกตไว้ในช่วงเช้า
ก็คงจะเป็นคนอื่นถ้าไม่ใช่ฝ่ายสืบของหน่วยสตีลของเขาเอง
“หยุด! ขืนขยับนิดเดียวได้เละเป็นโจ๊กแน่”ผู้หมวดหน่วยสตีลที่คุ้นตาก็เดินเข้ามาในท่ามกลางหน่วยสมุนของเขาพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ แต่ยังเว้นระยะห่างไว้
“มีให้เลือกสองทาง บอกมาเกี่ยวยังไงกับพวกเอเลี่ยนหรือไม่ก็ไปกินข้าวแดงในคุกซะ”ชายที่ร่างกำยำสวมชุดเครื่องแต่งกายในหน่วยสตีลมีบาดแผลตรงหน้าเดินเข้ามาถามไถ่พวกเราพร้อมกับยื่นข้อเสนอเพียงแค่สองหนทางเท่านั้น เขาจ้องมองไปที่เด็กผู้หญิงผมสีน้ำตาล
เพราะมันคุ้นดีสำหรับเขา เขานั่งย่อลงเพื่อให้ได้เห็นหน้าตาชัดๆก็พบว่าเป็นเด็กสาวของช่างประปาสำหรับเด็ก
“จามาติส หน่วยสังกัดของช่างประปาสินะ ไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี้”เขาเพ่งมองเธอก่อนจะยันตัวเองยืนและมองไปที่นาฬิกาของเด็กชายที่มองนาฬิกาของตัวเอง
“มันเก็บไว้ในนาฬิกานี้ด้วยใช่ไหม ที่ว่าตัวส่งสัญญาณเรียกเอเลี่ยนมาน่ะ”เขาจับไปที่ของเบ็นพลางเงยหน้าไปมองเขา เพื่อเค้นคำถาม แต่พวกเราก็ได้เพียงแค่เงียบ
“แล้วยัยหนูเธอมาอยู่กับพวกนี้ได้ยังไงในเมื่อพวกเขาเป็นตัวที่จะทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย”เขาหันกลับมาสนทนาต่อกับมาติสอีกครั้ง เธอที่โดนถามก็เงยหน้ามามองและเลิกคิ้วสูง
“ฉันว่าคุณควรกลับไปทำงานหยุดเอเลี่ยนก่อนเถอะค่ะ ผู้หมวดหน่วยสตีล”
“ว่าไงนะ-”ไม่ได้เอ่ยกล่าวก็มีลูกน้องมาขัดแจ้งสถานการณ์เกิดเหตุเสียก่อน
“ผู้หมวดครับ ตอนนี้เอเลี่ยนคริสตัลกำลังถล่มโกลเดนเกตครับ ถ้าไม่รีบสกัดมัน มันถล่มทั้งสะพานพังแน่”
นั้นทำให้ผู้หมวดที่กำลังเคร่งเครียดและจะชักถามต่อก็ต้องกลับไปปฎิบัติงานของเขาตามที่เด็กผู้หญิงตรงหน้าพูดจริงๆ เขาปล่อยมือจากเบ็นก่อนจะหยิบเครื่องมือสื่อสารเพื่อแจ้งข่าวในอีกฝ่ายให้ทราบ
“เรายังไม่จบกันนะ แล้วก็เธอจะไปด้วยรึเปล่า แต่เป็นเด็กก็คงไม่เป็นไร”อีกฝ่ายว่าจบก็มีเฮลิคอปเตอร์มารับเขาอย่างรวดเร็ว
มาติสที่ได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็กำหมัดแน่น และจะเดินเข้าไปหาแต่ก็โดนเบ็นจับมือไว้ นั้นทำให้เธอหันไปมองด้วยความสงสัยปนไปด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย
“ไม่ต้องไป ฉันจะไปเองเขาไม่มีวันหยุดเคลวินได้หรอก”สีหน้าของเขาที่จริงจังออกมาและพูดอย่างหนักแน่นเต็มอกของเขา เพราะเรื่องนี้มีเพียงแค่เขาและเคลวินเท่านั้นที่สามารถเคลียร์ได้
มาติสที่เห็นใบหน้าเบ็นก็เงียบลงพลางสะบัดมือของเบ็นออกและกลับไปอยู่ข้างปู่แม็กแทน เธอไม่อยากเห็นคนที่ควบคุมนาฬิกาได้พลาดหรืออะไรหรอกแต่พอมีคนที่ใช้นาฬิกาในทางที่ถูกต้องเธอจะไม่ขวางอะไรเลย
เธอยังคงยึดหลักของคำพูดแอสมัสที่เธอทำการประดิษฐ์ด้วยกันอย่างแจ่มแจ้งอยู่แก่ใจ
‘ถ้าหากเจ้าเจอคนที่ได้ออมนิทริกซ์และใช้ในทางที่ถูกต้อง เจ้าก็อย่าไปขัดขวางเขาเลยจะดีกว่า’
แต่สิ่งที่เธอทำในตอนนี้คิดว่าเขาใช้ในทางที่ถูกต้องรึเปล่า เธอก็ไม่รู้เหมือนกันด้วยเขาที่ยังวัยเด็กละอ่อน แต่เขากลับท้าทายและไม่กลัวอุปสรรคที่กำลังมาหา เขาเผชิญหน้าด้วยออมนิทริกซ์ที่ได้ครอบครองมา โดยไม่รู้ว่าเป็นสิ่งเอเลี่ยนหลายๆคนต้องการมัน
เธอคิดทบทวนพวกนี้จนตัวเธอตอนนี้ก็มาอยู่ที่สะพานโกลเดนเกตโดยไม่รู้ตัวโดยมีหน่วยสตีลมาควบคุมพวกเราไว้เพื่อไม่ให้เข้าใกล้สิ่งอันตราย
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นไปก็พบกบเคลวินนร่างของไดมอนด์เฮดอยู่ที่กำลังถล่มอยู่ด้านบนของสะพานโกลเดนเกต ไม่นานผู้หมวดหน่วยสตีลก็ปรากฏขึ้นเพื่อกำจัดเอเลี่ยนตัวนั้นด้วยตัวคนเดียว โดยมีกำลังเสริมเป็นปืนเลเซอร์ขนาดใหญ่ที่สามารถยิ่งเอเลี่ยนให้กระเด้นไปใกล้ได้
“มาติสคือว่า..”เบ็นที่ดันเข้าใจผิดว่ามาติสนั้นดันมาโกรธเข้าแทนสะแล้วก็เอ่ยชื่ออีกฝ่ายให้หันกลับมา แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้หันมาแต่เพียงพูดออกมาเท่านั้น
“นายและเคลวินเป็นคนก่อเรื่อง นายก็ต้องไปเคลียร์เอง”
“นายเคยพูดไว้นิ”ธอหันมามองพลางจิ้มไปที่หน้าอกและยกยิ้มขึั้นมา เขาก็นิ่งงันและยกยิ้มกลับพร้อมยื่นมือมาเป็นหมัด เธอจึงหมัดตอบซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเพื่อนที่ดีต่อกัน
“ขอบใจนะมาติส”เสียงนั้นก็หายไปพร้อมกับผู้คนมากมายตรงหน้าของเธอ เธอเพียงถอนหายใจและนับความเป็นวีรบุรุษอยู่เล็กน้อย
ดูเหมือนว่าสภาพเธอในตอนนี้ก็เริ่มจะเคารพเขาในครึ่งส่วน 25 สะแล้วล่ะมั้ง ไม่นานก็มีเอเลี่ยนอีกตัวปรากฏขึ้นซึ่งนั้นก็คือ เบ็นในร่างของโฟร์อาร์มส์ที่ในตอนนี้เขาก็มาช่วยผู้หมวดหน่วยสตีลได้ทันเวลาพอดี
ทั้งคู่ต่างปะทะกันอยู่นานโดยมีผู้หมวดหน่วยสตีลที่อยู่ในเหตุการณ์ที่ใกล้ที่สุดก็มองทั้งสองปะทะกัน ไม่นานเคลวินก็เปลี่ยนร่างไปเรื่อยๆสุดท้ายก็กลับร่างของตนเองนั้นทำให้เบ็นก็คิดว่ามันจบแล้วเลยไม่ทำร้ายเคลวิน แต่จู่ๆพลังที่หมุนเวียนในตัวของเคลวิน
ก็เกิดผิดปกติขึ้นมาและทำให้เขากลายร่างเป้นเอเลี่ยนที่มีเอเลี่ยนที่เบ็นใช้มาทั้งหมดรวมตัวกันออกมาจนคลายสัตว์ประหลาด
เคลวินดูเหมือนจะเคียดแค้นเบ็นอย่างมากก็ปะทะกันต่อ แต่ดีที่ในขณะที่เบ็นกำลังจนมุมผู้หมวดหน่วยสตีลก็สั่งในลูกน้องยิงลำแสงเลเซอร์พลังแรงสูงใส่ตัวเคลวินทันที นั้นเลยทำให้เบ็นรอดกลับมาได้และไปช่วยผู้หมวดหน่วยสตีลที่ใกล้จะตกลงไปข้างล่างอย่างทันที
การถล่มของสะพานก็ถูกสกัดไว้ได้อยางสำเร็จนั้นทำให้พวกเราก็โล่งใจเรื่องความปลอดภัยและเรื่องเคลวินอยู่เล็กน้อย
เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
“เจอยิงร่วงขนาดนั้นน่ะ ต่อให้เคลวินคงไม่รอดหรอกใช่มะ?”เกวนเอ่ยถามขึ้นมาในขณะที่เธอนั่งมองข้างนอกหน้าต่างรถที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง
“ถามผิดคนแล้วเธอ คราวก่อนฉันก็ว่ามันปิดบัญชีไปแล้ว”
จู่ๆรถก็ริ่มวิ่งช้าลงและจอดทำให้พวกเราต่างก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นมาอย่างสงสัย แต่ก็ต้องเข้าใจเมื่อพบเจอกับผู้หมวดหนวยสตีลอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะเดินมาที่รถของปู่แม็กเพื่อพูดคุย
“ทำไหมเวลาเอเลี่ยนโผล่มาต้องเจอสามคนนี้ด้วยทุกคนทีเลย ไม่สิสี่คน”มาติสโผล่าดูเล็กน้อยก็เห็นใบหน้าผู้หมวดที่โดนอัดค่อนข้างเละกำลังยืนคุยอยู่พอดี
“จริงเหรอ? ยังงั้นเลยเหรอ อืม…ไม่ยักกะรู้นะเนี้ย”ปู่แม็กกล่าวตอบด้วยอารมณ์ขบขันเล็กน้อย
“จริง แต่คงเป็นแค่บังเอิญเเหละ ไม่แน่หรอกนะเราได้เจอกันอีกก็ได้นะ ขับระวังล่ะกัน แถวนี้ยิ่งมีอะไรพิลึกๆอยู่”
“ครับผม ผมก็ว่าอย่างงั้นแหละ”
“ออจริงสิ เธอน่ะจามมาติส”
เธอที่กำลังจะกลับเข้าไปนั่งที่เดิมก็ต้องหันวกกลับมามองที่ผู้หมวดหน่วยสตีลที่จู่ๆก็เรียกเธอ
“บอกพวกช่างประปาสังกัดเธอว่าสวัสดีด้วยนะ รักษาตัวด้วยล่ะยัยหนู”
“ทราบค่ะ คุณก็เช่นกันปฏิบัติงานอย่าได้เละแบบนี้อีกนะคะ”
“แหม่ ปากดีจริงนะ แต่ก็ขอบใจที่อุสาต์เป็นห่วง หวังว่าหน่วยงานเราจะมีผูกมิตรดีต่อกันนะ”
หลังจากนั้นเขาก็ถอยให้ปู่แม็กขับรถไปต่อ เธอก็กลับไปนั่งที่เดิมตามปกติ พลางนั่งมองผ่านกระจกรถที่ในตอนนี้พวกเรากำลังจะออกไปจากที่เมืองแห่งนี้ เธอรู้สึกว่ามันก็แอบโล่งใจแบบแปลกๆอยู่เหมือนกันในเวลาที่เธอโดนจับมือ
คล้ายๆกับผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่เธอด่าไปเธอก็กลับจมปลักและรักกลับแทน
“บ้าชะมัด”เธอพึมพำออกมาในขณะที่ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆจนดวงดาวก็เริ่มปรากฏประปราย
“เมื่อกี้เธอพึมพำว่าอะไรเหรอมาติส?”เบ็นเอ่ยถามขึ้นมาเพราะตอนนี้เขาก็นั่งอยู่ด้านหน้ามาติส ก็เพราะว่าเกวนชนะเขาในการแข่งทายของเลยไปนั่งอยู่ด้านหน้าแทน ส่วนมาติสรายนั้นไม่ร่วมการแข่งขันเพราะตนนั่งที่ตรงนี้ดีที่สุดแล้ว
“ไม่มีอะไรหรอก”สายตาของเบ็นก็จ้องมองที่มาติสอย่างจับผิด ก็เมื่อเจ้าตัวพูดออกมาแท้ๆแต่กลับบอกว่าไม่มีอะไร เขาว่าก็น่าสงสัยไม่แปลกแน่นอน แต่เขาก็ละจากความคิดนั้นหันมาเล่นเกมซูโม่แทน
เมื่อใกล้ถึงเวลานอนพวกเราก็ต่างพากันเข้านอนปกติ แต่ว่าวันนี้แปลกหน่อยก็คือเธอดันนอนไม่หลับสักเท่าไหร่ เธอจึงออกมาเดินเล่นเพื่อสูดอากาศ
จู่ๆเธอที่กำลังนั่งดูดาวอยู่ก็ได้ยินเสียงเหยียบอะไรบางอย่างทำให้เธอรีบเรียกเคียวออกมาและหันไปมองที่ต้นเหตุของเสียงก็พบว่าเป็นเบ็น ที่ในตอนนี้ก็ใส่ชุดนอนพร้อมกับเสื้อแขนยาวเพราะว่าอากาศค่อนข้างจะหนาวอยู่เล็กน้อย
“นายมาทำไหม?”เธอลดเคียวและหายไปไม่เพียงกี่พริบตาพลางเงยหน้าไปมองอีกครั้ง
“ฉันควรจะถามเธอมากกว่าว่าเธอออกมาทำไหม?”อีกฝ่ายก็เดินมานั่งอยู่ข้างๆเธอ พร้อมกับเงยหน้าไปดูดาวด้วยเช่นกัน
“ฉันนอนไม่หลับ แล้วนายล่ะ?”
“เช่นกัน ฉันมั่วแต่คิดเรื่องของหมอนั้นคิดว่าหมอนั้นไม่น่าจะตายได้ง่ายๆแน่”
“เหรอ…เหตุผลที่คิดอาจจะเหมือนกันอยู่หรอกมั้ง แต่ที่ฉันนอนไม่หลับจริงก็คงเพราะใครสักคน…”เธอว่าพลางเสียเริ่มแผ่วเบาลง จนเบ็นเลิกคิ้วอย่างสงสัย
“ใครเหรอ?”
“ก็…ไม่ใช่ใครหรอกอย่าใส่ใจเรื่องฉัน”
“อย่าใส่ใจอะไรเล่า!-เห้ย! ด-ด-เดี๋ยวสินี้เธอทำอะไรน่ะ”ไม่ทันได้พูดมาติสก็เอนกายมานอนลงที่ตักของเบ็นพร้อมกับหลับตาลง นั้นทำให้เขาเลิกลั่กและรนอย่างมาก
เพราะสภาพเขาตอนนี้เขินหน้าแดงมากๆก็ไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะทำ เขาก็ตัวเกร็งจนไปไม่ถูก
“ขอฉันอยู่แบบนี้สักนะ….”
ไม่ทันที่จะได้เอ่ยพูดกับเธออีกครั้ง เบ็นก็พบว่าอีกฝ่ายนั้นหลับปุ๋ยไปแล้ว เขาถึงกับถอนหายใจออกมาหน่ายๆพร้อมกับคิดเรื่องต่างๆที่เข้าสมองเขามาเรื่อยมา และเรื่องล่าสุดที่เขายังคงสงสัยกับคำพูดคนที่บนตักของเขา
แต่อีกฝ่ายก็หลับไม่ได้ให้เขาถามเลยสักนิดเดียว
ยัยบ้าเอ้ย…
อีกฝ่ายก็ถอดเสื้อแขนยาวคลุมตัวเธอและเงยหน้ามองดูดวงดาวที่ท่อแสงส่องประกายยามได้สบตากับดวงดาว ก็เหมือนเขานั้นจะระเริงไปกับมัน มันสามารถทำให้เขาผ่อนคลายในทางสายตาจนสมองก็พลอยสบายไปด้วย
การได้ออกมาดูดาวก็นับว่าไม่เลวเหมือนกัน
![นิยายแฟร์ 2024](https://image.dek-d.com/contentimg/2024/writer/assets/fair/07/reader_850x90.webp)
ความคิดเห็น