คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5 มีนาวายา
บทที่ 5 มีนาวายา
“โอ้ยเมื่อยจังเลย” เสียงของโพมีดังขึ้น “อย่าบ่นนักเลยเราก็เมื่อยไม่แพ้เธอนั่นแหล่ะ” จุงซุกพูดขึ้น “อย่าเถียงกันนักเลยเอาเป็นว่าเราไปทานอาหารร้านนั้นก่อนดีกว่าแล้วก็มาช่วยกันคิดว่าจะพักที่ไหน” ซินกิลพูดพร้อมกับชี้ไปที่ร้านอาหารที่มีชื่อว่า แดจังกึมเรสเทอร์ลอง “แล้วจะช้าอยู่ใยรีบเข้าไปกันเร็วฉันหิวจนกินช้างได้ 10 ตัวแล้ว” โพมีพูดพร้อมกับวิ่งนำหน้าเข้าร้านอาหารก่อนใคร
“รับอะไรดีคะ” เสียงของสาวเสร์ฟ์ในร้านดังขึ้นพร้อมกับส่งเมนูอาหารมาให้ “ทำไมมีแต่อาหารที่เราไม่เคยทานเลยอ่ะ”เสียงของดาจองพูดอย่างกระซิบกับทุกคน “ใจเย็นเดี๋ยวฉันส่งให้”ชินกิลพูด “เอ่อขอทาโกยากึมชุดใหญ่ชุดนึงแล้วก็น้ำแร่ 5 แก้วค่ะ” ซินกิลส่งอย่างชำนาญ “รอสักครู่ค่ะ” สาวเสริฟ์ตอบกลับมา “ นี่แล้วเราจะทำอย่างไงกันต่อไปจะไปอยู่ที่ไหน” เสียงหวาน ๆ ของชุนมีดังขึ้น “นั่นสิ” จุงซุกพูดอย่างเห็นด้วย “นี่เพิ่งบ่ายกว่า ๆ เองเดี๋ยวเราเดินหาบ้านเช่าเอาก็ได้” ชินกิลตอบแล้วพูดต่อว่า “ฉันคิดไว้ว่าเราจะหาบ้านพักกันซักหลังนึงแล้วเปิดร้านขายดอกไม้กันดีไหม” “เป็นความคิดที่เข้าท่า” เสียงเห็นด้วยของดาจองดังขึ้น “แต่พวกเราจะอยู่ที่เดียวกันตลอดไม่ได้ฉันคิดไว้แล้วว่าฉันจะให้พวกเราแต่ละคนไปทำอะไร” ชินกิลพูด “อะไรอ่ะ” โพมีถามกลับ “ดาจองฉันจะให้เธอไปเป็นครูสอนวิชาพฤชาติที่มหาวิทยาลัย จุงซุกฉันจะให้เธอไปเป็นพนักงานเดินเอกสารในบริษัทนึงส่วนเธอโพมีเธอยังเด็กเธอจะต้องไปเรียนที่มหาลัยเดียวกับดาจองส่วนฉันกับชุนมีจะคอยอยู่เฝ้าร้าน โอเค้” ชินกิลอธิบาย “โห...>0< ทำไมเธอกับชุนมีได้งานสบายจัง” โพมีพูด “แล้วมีวิธีที่ดีกว่านี้ไหมล่ะ” ชินกิลย้อนกลับ “ไม่มี” โพมีตอบสั้น ๆ “งั้นก็ตกลงตามนี้” ชินกิลพูด
เมื่อทั้ง 5 ปรึกษากันจบสาวเสริฟ์ก็จำอาหารมาเสริฟ์พอดี “หน้าตาแปลก ๆ นะ” ชุนมีพูดขึ้น “เอาเหอะแปลกไม่แปลกฉันกินได้ทั้งนั้น ตอนนี้หิวมาก” ()3() โพมีพูดขึ้นพร้อมตักอาหารมากินอย่างไม่ปราณีใคร
ณ อีกมุมหนึ่งของร้านอาหาร
“ทำไมวันนี้เราต้องมากินข้าวนอกบ้านกันด้วยล่ะ” เสียงชางมินบ่นขึ้น “ก็วันนี้ฉันขี้เกียจทำอาหาร” แจจุงตอบ “แต่มากินอย่างนี้ก็เปลี่ยนบรรยากาศดีนะ” ยุนโฮพูดขึ้น “นั่นสิฉันก็ซักจะเบื่อกับข้าวอย่างเดิม ๆ แล้ว” จุนซูพูดขึ้น “นี่จุนซูถ้านายเบื่อฝีมือฉันก็พูดตรง ๆ ก็ใด้นะฉันจะได้เลิกทำซะ” แจจุงบ่น “แหม..พูดเล่นแค่นี้น้อยใจไปได้” จุนซูแหย่ต่อ “เอ่อพรุ่งนี้ไม่ค่อยมีงานใช่มั้ยฮะ” ชางมินพูดขึ้น “ใช่ทำไมหรอชางมิน” ยูชอนตอบ “ฮันแน่.....จะไปเดทกะสาวล่ะสิถ้า” จุนซูแซว “จุนซู....นี่ถ้านายไม่พูดโลกมันก็ไม่แตกหรอกนะ” แจจุงพูดอย่างหมั่นไส้ “เปล่าฮะ...ไม่ได้ไปเดทกะใครที่ไหนเมื่อววานเพื่อนที่มหาลัยโทรมาบอกว่าพรุ่งนี้มีสอบ ผมก็เลยจะไปสอบขี้เกียจไปสอบย้อนหลัง” ชางมินตอบ “อืม....ไปเต้อะแต่อย่าเดทจนกลับบ้านมืดล่ะ ^_^” จุนซูยังแซวต่อ “จุนซู” เสียงของ ทั้ง 4 พูดพร้อมกันอย่างเบื่อหน่าย “แฮะ แฮะ ล้อเล่นนิดเดียวเอง” จุนซูพูด “งั้นฉันจะล้อเล่นมั่งโดยการพรุ่งนี้เช้าให้นายอดข้าว” แจจุงพูดพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัย “นายทำยังงี้กะฉันไม่ได้นะโบแจ” จุนซูพูดพร้อมกับทำท่าน้อยใจ
ณ ย่านชุนชนหนึ่งในกรุงโซล
“ทำไมโลกมนุษย์มันร้อนอย่างนี้เนี่ย” เสียงโพมีบ่น “แหม....พูดอย่างกับว่าโลกเวทมนต์ไม่ร้องงั้นแหล่ะ”ชุนมีย้อนกลับ “ก็มันร้อนจริง ๆ นี่อยู่ที่มีนาวายายังไม่ร้อนเท่านี้เลย” โพมีบ่นอีกรอบ “ก็อยู่ที่นู่นเธอเคยออกไปไหนมั่งไหมล่ะ” ชุนมีเถียงต่อ “ชุนมี โพมี หยุดทะเลาะกันได้แล้ว” ซินกิลตวาด “ก็ใครเริ่มก่อนล่ะ” โพมียังไม่เลิกเถียงต่อ “เธอนั่นแหล่ะโพมี” ชุนมีเถียง “โอ้ย..ทำไมเธอ 2 คนชอบเถียงกันจังเนี่ยหยุดทะเลาะกันซักวันไม่ตายหรอก” ซินกิลบ่นมั่ง “นี่พวกเราบ้านหลังนั้นเป็นไง” ดาจองพูดขัดขึ้นมาแล้วชี้ไปที่บ้านหลังหนึ่งที่ดูน่ารักมากเป็นบ้านสไตล์ยุโรปมีห้องมี 3 ชั้นชั้นบนสุดเป็นห้องใต้หลังคา หน้าบ้านติดป้ายว่าให้เช่าติดต่อบ้านถัดไป “น่ารักจัง”จุงซุกพูด “ขนาดไม่ใหญ่เกินไปกำลังพอดีเข้าไปติดต่อขอเช่ากันเถอะ” ซินกิลเสนอ “ไปซิ” ทั้ง 4 พูดพร้อมกันโดยลืมไปว่าเมื่อ 5 นาทีก่อนนี้ยังทะเลาะกันอยู่ “เขาบอกให้ติดต่อบ้านถัดไปอ่ะ” โพมีพูด “ก็หลังนั้นไง” ดาจองพูดแล้วชี้ไปที่บ้านอีกหลังนึงที่ดูเหมือนร้านหนังสือติดป้ายชื่อว่าสตอรี่บุ๊ค “ไปกันเถอะจะได้รีบ ๆ ติดต่อเช่า” ซินกิลพูด
เมื่อทั้ง 5 เดินเข้ามาในร้านก็ได้ยินเจ้าของร้านพูดว่า “ยินดีต้อนรับค่ะ” “เอ่อขอโทษค่ะเราเห็นบ้านข้าง ๆ ติดป้ายไว้ให้เช่าใช่ไหมคะ” ดาจองถามขึ้น “ใช่ค่ะ” เจ้าของร้านตอบสั้น ๆ แต่ได้ใจความ “คือเราอยากจะขอเช่าอ่ะค่ะ” ซินกิลพูด “อ๋อ...ได้ค่ะ เดี๋ยวดิฉันไปเอากุญแจบ้านก่อนนะคะจะได้ให้พวกคุณดูข้างใน” เจ้าของร้านพูด “ขอบคุณค่ะ” ทั้ง 5 พูดพร้อมกัน
“ไม่ค่อยมีเฟอร์นิเจอร์นะคะพวกคุณจะต้องหามาเอง” เจ้าของร้านพูดพรางพาทั้ง 5 เดิมชม “ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวเราเส......ก!” โพมีพูดแต่ยังไม่ทันจบก็โดนมือของชุนมีมาปิดปากไว้แล้วพูดกระซิบว่า “นี่อยากให้ความแตกหรือไงยัยงี่เง่า” “ฉันไม่ได้งี่เง่านะ” โพมีเถียง ชุนมีทำท่าจะเถียงกลับแต่โดนเสียงของดาจองขัดขึ้นมาก่อน “ตกลงพวกเราเช่าค่ะราคาเท่าไหร่คะ” “อืมเดือนละ 500,000 วอน แล้วอยู่ด้วยกันทั้ง 5 คนเลยหรือเปล่า” เจ้าของร้านตอบแล้วถามกลับ “ค่ะ” ทั้ง 5 ตอบพร้อมกัน “อืมงั้นค่าเช่าคงไม่มีปัญหานะส่งให้ฉันที่ร้านข้าง ๆ ทุกเดือน” เจ้าของร้านบอก “เอ่อ..แถวนี้คนเยอะไหมคะ”ซินกิลถาม “ทำไมหรอ” เจ้าของร้านตอบ “คือพวกเราจะเปิดร้านขายดอกไม้ด้วยค่ะ” ดาจองพูด “อืม..เยอะนะถ้าเป็นตอบเช้าถึงกลางวัน” เจ้าของร้านตอบ “มีอะไรอีกไหมถ้าไม่มีฉันจะได้ไปขายของต่อ” เจ้าของร้านถาม “ไม่มีค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” จุงซุกตอบ “งั้นฉันไปนะ อ้อ ฉันชื่อ ลี ซียอน มีอะไรก็ปรึกษาได้นะ” “ขอบคุณค่ะคุณซียอน” โพมีพูด
คืนนั้นทั้ง 5 วุ่นอยู่กับการจัดบ้านใหม่โดยทั้ง 5 ต้องคอยระวังไม่ให้ใครมาเห็นในระหว่างที่กำลังใช้เวทมนต์ในการจัดบ้าน “บึ้ม!!!!” (เสียงโพมีใช้คาคาเสกของแต่ไม่สำเร็จ) “นี่โพมีเธออยากให้ความแตกมากหรือไงนี่รอบที่ 2 แล้วนะ” ชุนมีบ่นขึ้น “ขอโทษก็ฉันร่ายคาถาผิดนิดเดียวเอง” โพมีพูดอย่างสำนึก จากนั้นทั้ง 5 ก็จัดบ้านได้สำเร็จแม้ค่อนข้างจะมีบ้างที่มองดูแล้วรู้สึกแปลก ๆ “แล้วเราจะตั้งชื่อร้านว่าอะไรดีล่ะ” ดาจองพูดขึ้น “ฉันคิดไว้แล้ว” ซินกิลตอบ “อะไรล่ะ” ทั้ง 4 พูดพร้อมกัน “มีนาวายาไง” ซินกิลตอบ “เป็นความคิดที่ดีนี่” จุงซุกพูด “อืม..งั้นก็ตกลงตานี้” ซินกิลพูดพร้อมกับร่ายคาถาไปที่หน้าประตูแล้วก็มีแสงพวยพุ่งออกมาจากปลายไม้กายยาสิทธิ์ของซินกิลปรากฏเป็นแผ่นป้ายไม้สักสลักไว้กลางป้ายว่า MENAWAYA “เสร็จหมดแล้วไปนอนกันพรุ่งนี้พวกเธอต้องไปทำงานและไปเรียนกันแต่เช้า” ซินกิลพูด แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปนอน
ความคิดเห็น