คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 : สถานการณ์บังคับ
ตอนที่ 2 : สถานการณ์บังคับ
ศิลา คือชื่อของผู้ว่าจ้างให้เขารับบทเป็น ‘ไม้กันหมา’
อีกฝ่ายสรุปให้ฟังสั้น ๆ ก่อนที่เขาจะต้องก้าวออกมาเล่นละครว่า ครอบครัวของตนอย่างให้หมั้นกับผู้หญิงที่หามาให้ ศิลาบ่ายเบี่ยงอยู่หลายครั้ง ปฏิเสธอีกเป็นสิบ ๆ รอบด้วยการพาคู่ควงที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ มาเป็นข้ออ้าง เพื่อให้ฝั่งผู้ใหญ่เห็นว่าตัวเองเป็นคนเจ้าชู้ประดิน ไม่เหมาะกับลูกสาวบ้านไหน
ชวัลฟังแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ โลกของผู้ใหญ่นี่ยุ่งยากชะมัด
แต่ในเมื่อตกปากรับคำไปแล้ว เขาจะผิดคำพูดไม่ได้ เพราะจำนวนเงินที่ศิลาเสนอมาให้นั้น พาผ่อนหนี้ของเดือนนี้ได้พอดี
ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน เขาถือคติแบบนั้น
“เอาว่ะ ไปเข้าห้องน้ำแป๊ปเดียว มึงไปล่อลวงใครมา?” สมาชิกในวงเหล้าหัวเราะร่าพลางยกแก้วเบียร์ขึ้นเหนือศีรษะเมื่้อเห็นเพื่อนในกลุ่มกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับเด็กหนุ่มแปลกหน้า “มาน้อง นั่ง ๆ ยังเรียนอยู่เลยใช่ปะ?”
“ล่อลวงบ้านพ่อมึง” ศิลาก่นด่าพลางกลอกตา แต่ก็เว้นที่นั่งเด็กมหาลัยฯ นั่งข้าง ๆ กันอย่างปิดเผย
“สวัสดีครับ” ชวัลเป็นคนอัธยาศัยดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การทำความรู้จักและตีสนิทกับคนอายุมากกว่าจึงไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรง “พอดีก่อนหน้านี้ได้พี่ศิลาช่วยไว้น่ะครับ แต่ไม่ได้เจอกันนานแล้ว”
“ช่วยเหรอ?” คนเดิมถามอย่างอยากรู้อยากเห็น “ช่วยยังไง?”
คนเด็กกว่ายิ้มให้คนเมาก่อนชำเลืองสายตากลับไปยังคนข้างตัว “แบบว่า…” ทิ้งหางเสียงยาวให้คนลุ้นตาม ก่อนเท้าศอกกับโต๊ะและวางคางบนฝ่ามือ แสร้งหลิ่วตาให้อีกฝ่าย “…เรื่องค่าเทอม อะไรแบบนี้น่ะครับ”
ศิลาดูคล้ายคิ้วกระตุกเล็กน้อย แน่ละสิ ในเมื่อไม่ได้เตี๊ยมบทกันไว้ก่อน แต่เจ้าตัวไหลตามน้ำได้อย่างไม่ยากเย็น “ฉันแค่ช่วยนิดหน่อย” เขาว่าพร้อมกับยกเบียร์ขึ้นดื่ม
“นิดหน่อยแต่ต่อชีวิตให้เด็กมหาลัยฯ เลยนะครับ แต่ผมยังไม่ได้ตอบแทนบุญคุณพี่เลยอะ”
“ไม่ต้อง”
“งั้นให้ผมไปส่งที่บ้านไหม? ผมดื่มไปแก้วเดียวเอง”
“…”
“มันร้ายว่ะ” เสียงกระซิบหนึ่งลอยมา
“จะโดนเคลมปะวะ”
“แต่มันไม่เคยบอกว่าสนใจผู้ชาย”
“รสนิยมเปลี่ยนกันได้”
“ศิลาคะ!” เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นอย่างไม่พอใจ เธออยู่ในเดรสสั้นพอดีตัวสีดำปักเลื่อม ดูวูบวาบล้อแสงไฟของร้าน ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอย่างจัดหนักจัดเต็มเหมาะกับการมาเที่ยวกลางคืน เธอยืนค้ำศีรษะของพวกเขา มองดูแล้วคล้ายกับถูกกีดกันเป็นคนนอกอยู่กลาย ๆ และนั่นทำให้เธอไม่พอใจมาก เพราะเด็กมหาลัยฯ หน้าซื่อคนนี้แย่งที่นั่งข้าง ๆ ศิลา
เสียงผิวปากดังขึ้นรอบวง ไม่มีใครเอ่ยห้าม ราวกับกำลังรอดูละครหนึ่งฉาก ในขณะเดียวกันศิลายังคงเฉยเมย เอนหลงพิงพนักเก้าอี้และมองเธออย่างสงบ “ครับคุณเกศ?”
ส่วนชวัลนั้นยิ้มแย้มเช่นเดิม หญิงสาวคนนี้คือเป้าหมายที่ศิลาของให้ตนกันอีกฝ่ายออกไปห่าง ๆ และเป็นเป็นคนเดียวกับที่ขยับมานั่งข้าง ๆ ผู้ชายคนนี้ตอนที่เขารู้ตัวว่าอีกฝ่ายแอบมอง
เขาจะทำยังไงดีให้เธอยอมตัดใจแต่โดยดี? แต่ดูแล้วน่าจะไม่ยาก เพราะตอนนี้สีหน้าของเธอถมึงทึงพอตัวเลย
“สวัสดีครับ” ชวัลทักทายยิ้มแย้ม
“คุณบอกว่าจะไปส่งเกศนี่คะ” เธอทวง เมินคำทักทายของอีกฝ่าย
“อ้าวเหรอครับ ไม่เห็นพี่ศิลาบอกผมเลย” เด็กหนุ่มไม่ยอมแพ้ให้ถูกเมินง่าย ๆ “เห็นว่าไม่ได้จะไปไหนต่อ ก็เลยชวนผมมาร่วมโต๊ะด้วยเนี่ย”
“เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กไม่ต้องยุ่ง” เกศสวนกลับพร้อมยกมือชี้หน้า “คิดจะเข้าหาศิลาเหรอ? อย่าหวังเลย แค่เขาทำดีด้วยหน่อย อย่าเหลิงให้มาก อีกอย่างเขาไม่ได้สนใจผู้ชายด้วย”
“จริงเหรอครับ?” ชวัลเลิกคิ้ว รอยยิ้มเหือดหาย แสร้งตีสีหน้าสลดให้ดูน่าสงสาร ก่อนจะค่อย ๆ เอนตัวพิงไหล่คนข้าง ๆ อย่างถือสิทธิ์ ช้อนสายตาขึ้นสบดวงตาสีดำ “ที่ผ่านมาของเรา ผมคิดไปเองคนเดียวเหรอครับ?”
สำหรับชวัล การแตะเนื้อต้องตัวคนเพศเดียวกันไม่ใช่เรื่องแปลก เขาเล่นแรง ๆ กับเพื่อนสนิทในกลุ่มอยู่หลายครั้ง…ต่อให้ไม่เคยซบไหล่แบบนี้ก็เถอะ
แต่เพื่อเงินห้าหลัก เขาทำได้!
อีกอย่าง…ศิลาคนนี้ก็ไม่ได้ดูรังเกียจกัน ท่าทางนิ่งเฉยต่างจากเมื่อครู่ที่เผยรอยยิ้มกว้างตอนเขาตอบตกลง มันยิ่งทำให้ชวัลรู้สึกอยากแกล้งขึ้นมาหน่อย ๆ เหมือนกัน
แต่ก็ไม่คิดว่าจู่ ๆ อีกฝ่ายจะยกมือขึ้นมาขยี้ผมกันแบบนี้
“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย” ศิลาถอนหายใจ
“พี่…”
“เห็นรึยัง”
“ฉันหมายถึงยังไม่ได้ปฏิเสธอะไรนายเลย”
“ศิลาคะ!!” เกศแทบจะกรีดร้องและกระทืบเท้า ในขณะที่เพื่อนร่วมวงเหล้าโห่ร้องและผิวปากอย่างถูกใจ
“เอาว่ะ มา”
“เชี่ย หรือกูจะแพ้พนัน”
“มึงพนันอะไรเรื่องกู!” ศิลาหันไปตวาด ทำเสียงจิ๊ในคอก่อนหันกลับไปหาหญิงสาวที่ยืนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่อย่างนั้น “คุณเกศ คุณกลับไปก่อนเถอะครับ ผมเห็นนะว่าคนขับรถคุณรออยู่”
เกศกำหมัดแน่น สีหน้ายังฉายแววไม่ยอมแพ้ “ฉันไม่เชื่อ!” เธอขึ้นเสียง “ก่อนหน้านี้คุณก็ใช้วิธีแบบนี้กันผู้หญิงที่แม่คุณหามาให้ ดังนั้นฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าไอ้เด็กนี่ไม่ใช่คนที่คุณเตี๊ยมมาก่อน”
‘ไอ้เด็กนี่’ ที่ว่านั่นยังคงซบไหล่คนข้างตัวอยู่ และใช้สายตาช้อนมอง “ดูถูกกันจังเลยครับ” อืม…ก็ดู ‘ถูก’ จริง ๆ นั่นละ “แต่ผมไม่สนหรอกนะว่าก่อนหน้านี้พี่ศิลาจะคบมาแล้วกี่คน จะเตี๊ยมใครเพื่อตบตาใครรึเปล่า เพราะนั่นน่ะอดีตทั้งนั้น ตอนนี้คือปัจจุบันต่างหาก”
“…”
“และปัจจุบันก็เป็นผมที่ได้นั่งอยู่ตรงนี้” ชวัลยิ้มจนตาปิด “ไม่ใช่คนที่ไม่ได้นั่ง และไม่มีที่ยืนครับ”
“ไอ้เด็กนี่!”
“พอเถอะเกศ คุณกลับไปเถอะ” ศิลาห้ามปรามพลางถอนหายใจยาว เอื้อมแขนข้างหนึ่งไปโอบไหล่เด็กหนุ่มต่อหน้าต่อตา แน่ละว่าทำเอาชวัลเกือบตัวแข็งทื่อและหลุดสีหน้าตกใจ
“ยังไง ๆ ฉันก็ไม่เชื่อค่ะศิลา” เกศยังคงไม่ยอมแพ้
“แล้วต้องทำยังไงคุณจะเชื่อ?” ศิลาถามอย่างอ่อนอกอ่อนใจ
เกศกัดฟันกรอด ยิ่งเห็นท่าทีสนิทสนมแบบนี้ก็ยิ่งอยากจะ…อ้วก เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าศิลา ชายหนุ่มที่เธอหมายปองมานานจะเป็นพวกรักร่วมเพศ
ใช่ ต้องเป็นแผนการตบตาแน่ ๆ
หญิงสาวเชิดหน้า เหยียดยิ้มอย่างผู้ชนะ “จูบกันสิ” เธอประกาศ
ไม่ใช่แค่ชายหนุ่มทั้งสองที่ตกใจ เพื่อนร่วมโต๊ะของศิลาก็เช่นกัน
“หรือไม่กล้าคะ? ถ้าไม่กล้า แสดงว่าศิลาจ้างคนมาตบตาฉันและ…!!”
คราวนี้ไม่ใช่แค่ชวัลและคนรอบโต๊ะที่ตกตะลึงแล้ว…เกศก็เช่นกัน เมื่อจู่ ๆ ศิลาดื่มเบียร์ที่เหลือในแก้วจนหมด จากนั้นจับปลายคางของเด็กหนุ่มแปลกหน้าให้หันมามองกัน
และประกบริมฝีปากลงไปที่อวัยวะเดียวกันอย่างรวดเร็ว
!!
ชวัลเบิกตากว้าง ในขณะอีกฝ่ายหลับตาพริ้ม รสขมปร่าของเบียร์ไหลผ่านเข้ามาในโพรงปากเพราะเมื่อครู่นี้เขาไม่ได้ปิดปากสนิท ลมหายใจอุ่นจนร้อนที่มีกลิ่นของแอลกอฮอล์เป่ารดผิวแก้ม
ทั้งรส ทั้งกลิ่น คล้ายกับทำให้ชวัลมึนงงไปชั่วขณะ
ไม่ใช่แค่เพราะถูกผู้ชายจูบ แต่เพราะนั่นน่ะ…จูบแรกของเขาเลยนะ
แต่มันไม่แย่เลย
เด็กหนุ่มกำลังจะเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบที่ถูกป้อนให้กะทันหัน สัมผัสอันเย้ายวนกลับผละจากไปเสียก่อน
“พอใจรึยัง?” ศิลาเลิกคิ้ว ถามหญิงสาวที่ตาโตเป็นไข่ห่านไปแล้ว ริมฝีปากของเธอสั่นระริก
“ไม่…” เกศพยายามเรียกติตัวเองกลับมา “ไม่เชื่อ ฉันจะรอดู!!” ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วเจ้าตัวก็จ้ำอ้าวหนีไปท่ามกลางความตกตะลึงที่ยังโรยลงมาโอบล้อมผองเพื่อนของศิลา
“เชี่ย มันเอาจริงว่ะ”
“ของจริงหรือแค่จะหนีคุณเกศวะ?”
“บอกตามตรงว่ากูก็ดูไม่ออก…”
“แต่น้องมันช็อคไปแล้วน่ะ”
ใช่ ชวัลยังช็อคอยู่ ตากะพริบปริบ ๆ เพราะยังตั้งสติไม่ได้ กระทั่งศิลาหันมายิ้มอ่อนให้พร้อมทั้งตบบ่าเขาเบา ๆ นั่นละถึงได้รู้ตัว “คือเมื่อกี้…”
“ขอโทษที ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ตกใจ” อีกฝ่ายว่าพลางถอนหายใจ “ถ้าทำให้รู้สึกแย่ต้องขอโทษด้วย”
ชวัลส่ายหน้า ใครจะไม่ตกใจบ้าง “ไม่ครับ คือมัน…เอ่อ ก็ตกใจแหละ ก็แค่…ไม่เป็นไรครับ” เขาตอบในที่สุด
“แน่ใจนะ?” ศิลาเลิกคิ้วถาม “ยังไงผมก็คิดว่าควรชดเชยให้ เพราะผมไม่รู้ว่าคุณโอเคไหมกับการจูบกับผู้ชาย ต่อให้ผมจ้างคุณมาแล้วก็เถอะ” ท้ายประโยคนี้เขาเบาเสียงลงพร้อมเปลี่ยนสรรพนามไปด้วย
“ครับ” ชวัลตอบรับเหม่อ ๆ “คือผมหมายถึง ผมไม่เคยจูบกับใครมาก่อน แต่เมื่อกี้มันก็ไม่ได้แย่อะไร”
“ไม่เคยจูบ?”
“ครับ”
ศิลาอึ้งไป ก่อนยกมือเขี่ยปลายจมูกตัวเองอย่างประหม่า “เวรกรรม ขอโทษที”
เด็กหนุ่มส่ายหน้า ต่อให้เป็นจูบแรกของเขา แต่มันก็แค่จูบ เขาไม่ได้มีความโรแมนติกถึงขนาดที่ว่าจะเก็บมันไว้ให้คนรัก อีกอย่างสถานการณ์เมื่อครู่จวนตัวมาก และเงินก้อนใหญ่ที่โอนเข้ามาแล้วครึ่งหนึ่งก่อนหน้านี้ทำให้เขาปรับอารมณ์ได้ไวพอสมควร
“แต่ดูเหมือนว่าเรายังต้องเล่นละครต่อไปนะครับ” ชวัลเปลี่ยนเรื่อง เพราะสายตาเหลือบไปเห็นหญิงสาวคนน้ันที่ยังคงจับจองที่นั่งมุมร้าน และจดจ้องมาทางนี้อย่างไม่วางตา “คุณคนนั้นยังไม่กลับไปเลย”
“ให้ตายสิ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมทำงานคุ้มค่าจ้างอยู่แล้ว” เด็กหนุ่มยิ้มกว้างก่อนหันไปหาเพื่อนร่วมโต๊ะของศิลา “พี่ครับ ผมขอหารเบียร์ด้วยคนสิ”
“เบียร์หมดแล้วน้อง เหลือแต่เหล้า เอาปะ?” หัวโจกของตี้หลิ่วตาให้พร้อมกับยกขวดเหล้าราคาแพงขึ้นมา
ชวัลสูดปากในใจ “เอาครับ จัดมาเลย”
“กูถูกใจมันจังวะ” ชายหนุ่มหัวเราะอย่างอารมณ์ดีตามประสาคนเมาพร้อมมีกับแกล้มเป็นละครฉากใหญ่เมื่อครู่ “ไอ้ศิ กูรู้นะว่ามึงจ้างน้องเขามาอะ เพราะฉะนั้นมึงต้องหารแทนน้องนะเว้ย”
ชวัลได้ยินเสียงของคนข้างตัวสบถเบา ๆ แต่ก็ตามมาด้วยคำตอบรับห้วนสั้น “เออ กูจ่ายแทนเอง”
To Be Continued
เห้ย บ้าน่า ไปขโมยจูบแรกน้องได้ไง
#สาดแสงศิลา
ความคิดเห็น