ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แสงสาดศิลา [มี Ebook]

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 12 : ไม้กันหมาอย่างเป็นทางการ

    • อัปเดตล่าสุด 2 มิ.ย. 66


    ตอนที่ 12 : ไม้กันหมาอย่างเป็นทางการ

     

    ศิลาอยู่ไหน?” ทว่านารีพูดไม่ทันจบประโยค กลับมีเสียงเฉียบขาดดังขึ้นเสียก่อน พนักงานทั้งหมดหันไปมอง พบว่าเป็นหญิงวัยกลางคนที่ศีรษะมีเส้นผมสีดอกเลาแต่งแต้มประปราย ใบหน้าที่คุ้นตาอย่างไรชอบกลแม้มีร่องรอยแห่งวัยฉายชัดถึงความไม่พอใจ เธออยู่ในชุดเซ็ทเบลซเซอร์และกางเกงขายาวสีน้ำตาลอ่อน ดูแล้วเป็นผู้บริหารคนใหญ่คนโต

    “คุณนายนั่งรอสักครู่นะคะ ดิฉันจะไปตาม...” นารีปรี่เข้าไปหาทันที

    “รอ? คิดจะให้แม่อย่างฉันงั้นเหรอ?”

    ชวัลร้องอ้อในคอทันที

    “คือ...”

    “ผมไม่รู้ว่าแม่จะมานี่ครับ” เสียงทุ้มต่ำเรียบเฉยโล่งออกมาขัดบรรยากาศคุกรุ่น เจ้าของร้านเดินออกมาจากหลังเคาน์เตอร์บาร์เทนเดอร์ด้วยสีหน้าไม่ยินดียินร้าย คล้ายกับว่าคาดเดาได้ถึงการมาเยือนของบุพการี

    “ชวัล เอิร์ลเกรย์!” นารีถอยหลังมากระซิบเด็กใหม่อีกรอบ คราวนี้เด็กหนุ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงได้รีบร้อนนัก

    ชวัลหลบฉากเข้าไปในครัว สั่งชาเอิร์เลเกรย์หนึ่งเหยือกกับลูกมือในครัวที่หน้าตาตื่นทันที อย่างกับรู้ว่าชาเหยือกนี้จะนำไปเสิร์ฟให้ใคร เขาไม่ต้องรอนาน ถาดเงินพร้อมเครื่องดื่มโปรดของคุณนายศิกานต์ก็อยู่ในมือแล้ว

    “มาแล้วครับพี่นารี” ชวัลบอก ตอนนี้ทั้งศิลาและแม่ของอีกฝ่ายย้ายพื้นที่ก่อสงครามไปยังโซนไพรเวทแล้ว

    “รออีกสองนาที ให้ชาได้ที่ก่อน” รุ่นพี่สาวกำชับ ก้มลงมองนาฬิกาข้อมืออย่างเป็นกังวล

    “บ้านคุณศิลามาที่นี่บ่อยเหรอครับ?” เด็กหนุ่มอดถามไม่ได้

    “ไม่เชิงหรอก ปกติแล้วจะไม่ใช่คุณนายที่มาเอง...”

    “แต่เป็นคนที่คุณนายอยากให้คุณศิลาแต่งงานด้วย?”

    นารีหันขวับมาทันที ชวัลจึงรู้ตัวว่าปล่อยไก่ตัวโตไปเสียแล้วว่าตนรู้จักเจ้าของร้านมาก่อนด้วย เขายิ้มแห้งแทนการตอบรับใด ๆ “ครบสองนาทีแล้ว ผมเอาชาไปเสิร์ฟเลยนะครับ” ว่าแล้วก็รีบเผ่นก่อนที่จะโดนซักไซ้ไปมากกว่านี้

    “ฉันเห็นข่าวแล้ว เหม็นโฉ่ซะขนาดนี้...ไม่คิดว่าจะทำให้ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลต้องแปดเปื้อนไปด้วยหรือไง!?” เสียงดุดันไม่สบอารมณ์ดังลอดฉากกั้น ชวัลที่เป็นเพียงพนักงานเสิร์ฟแทบจะทำตัวหดลีบเล็กเมื่อต้องเอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟ

    เขาเดาว่าน่าจะเป็นเรื่องที่เจ้าของโรงแรมแห่งนี้อาจพัวพันกับยาเสพติด... ดูเหมือนว่ายังไม่มีใครรู้เรื่องหลักฐานที่ตนมอบให้คริมสันและตำรวจไป จึงยังมีคนเข้าใจผิดอยู่

    “ผมนึกว่าแม่ตัดผมออกจากวงศ์ตระกูลซะแล้ว” ศิลาไหวไหล่

    “ศิลา!” ผู้เป็นแม่ขึ้นเสียง ตบโต๊ะเสียงดังจนเกือบทำเอาถ้วยชาล้ม โชคดีที่ชวัลยังไม่ได้รินน้ำชาให้ “แกอย่าคิดนะว่าฉันจะเชื่อเรื่องที่แกอ้างว่าคบกับผู้ชายน่ะ ฉันไม่เคยเลี้ยงแกมาให้เป็นพวกผิดเพศ!”

    ชวัลที่กำลังจะถอยออกไปถึงกับชะงัก คิ้วขมวดมุ่นเมื่อได้ยินถ้อยคำแลวงหู เขาลอบมองศิลาแวบหนึ่งด้วยใจที่เต้นถี่รัว ทว่าอีกฝ่ายชายตามองเขาแค่แวบหนึ่งเท่านั้นก่อนหันไปทางมารดาเช่นเดิม

    “ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรครับ เพราะคนที่คบกับผู้ชายคือผม... ไม่ใช่แม่หรือคุณเกศ”

    “ฉันไม่เชื่อค่ะ เพราะถ้าคบกันจริงคุณคงไม่ไปไหนมาไหนคนเดียว” คราวนี้เสียงหวานแต่เต็มไปด้วยความไม่พอใจแทรกขึ้นมา ชวัลจำเสียงนี้ได้ รู้สึกเหมือนอยากจะหายตัวไปจากตรงนี้เสียดื้อ ๆ เพราะตัวละครดันมาครบทุกตัวเลย เกศราในชุดเซ็ตแจกเกตและกระโปรงผ้าทวีทสีครีมเดินเข้ามาในโซนไพรเวทด้วยสีหน้าถมึงทึง

    อา...เจ้านายของเขาโดนรุมแย่เลย

    เขาควรจะทำอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้ดีนะ

    “ทำอะไรก็ช่วยเห็นหน้าแม่หรือครอบครัวหนูเกศบ้างเถอะ” ศิกานต์ตำหนิ ผายมือไปทางหญิงสาวผู้มาใหม่

    แล้วคุณนายไม่เห็นแก่หน้าลูกชายเหรอครับ?ชวัลทำได้แค่คิดในใจ เพราะมานึก ๆ ดูแล้ว เขาไม่มีสิทธิพูดเช่นนั้นหรอกก็ในเมื่อตัวเขาเองยังโดนผู้ให้กำเนิดทิ้งไปเลย

    เด็กหนุ่มที่ตอนแรกคิดว่าจะหลบฉากหนีไปเหลือบมองเจ้านายของตนอีกครั้ง สังเกตเห็นสีหน้าเรียบเฉย ทว่ามือที่วางอยู่บนหน้าตักนั้นกำหมัดแน่นจนเนื้อผ้ากางเกงยับย่น ศิลากำลังถูกกดดันและไล่ต้อน

    “เดี๋ยวนะ คนคนนี้...” ตอนนั้นเองที่เกศราช่วยให้ชวัลตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

    “สวัสดีครับ เจอกันอีกแล้วนะครับ” ชวัลยิ้มให้อย่างเป็นมิตรท่ามกลางความกลางความประหลาดใจของทุกคน คนที่ตกตะลึงมากที่สุดก็คงเป็นหญิงสาวผู้นี้ที่เผลอลุกขึ้นชี้หน้าเขาเลยด้วยซ้ำ

    “นี่นายที่ร้านเหล้าเมื่อวันก่อนนี่นา!”

    “ผมเองครับ” ชวัลค้อมตัวยอมรับ “บังเอิญจังเลยนะครับว่าไหม?”

    เกศราอ้าปากพะงาบ ๆ “หมายความว่าไงกัน?”

    “ก็หมายความว่าผมกับพี่ศิลารู้จักกันจริง ๆ ยังไงล่ะครับ” เด็กหนุ่มตอบ “เดาจากบทสนทนาเมื่อกี้แล้วพวกคุณคงไม่คิดแบบนั้น...ใช่ไหมครับ?”

    ศิกานต์ค่อย ๆ เบิกตากว้างขึ้นเมื่อเริ่มเดาได้แล้วว่าพนักงานเสิร์ฟคนนี้เป็นใคร “หรือว่าเด็กคนนี้...” สีหน้าของเธอบิดเบี้ยวขึ้นทุกที

    “เพิ่งมาทำงานที่ร้านของผมครับ” ศิลาเอ่ยแทรก ส่งสายตาให้เด็กหนุ่มขยับมายืนข้าง ๆ “อยู่ใกล้หูใกล้ตาหน่อย ผมค่อยสบายใจขึ้นมาบ้าง”

    ชวัลยอมรับว่ารู้สึกดีนิดหน่อยกับคำพูดนั้น

    ส่วนคุณนายศิกานต์ถึงกับลืมคำพูดไปชั่วขณะ “เพราะแกสินะที่ทำให้ลูกฉันผิดเพศ...” เธอกัดฟันกรอด “บอกมาว่าศิลาจ้างแกเท่าไร ฉันจะจ่ายให้มากกว่านั้น แกจะได้ออกไปจากชีวิตลูกชายฉัน!?”

    ชวัลรู้สักอยากแค่นเสียงหัวเราะอย่างเหยียดหยามในความคิดโบราณของหญิงสูงวัยคนนี้เหลือเกิน แต่ติดที่ว่าสร้างภาพเด็กหนุ่มหน้าซื่ออยู่ “คุณนายครับ ผมไม่ได้ขายตัว” เขาตอบเสียงหงอย “ผมมาทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่นี่เพื่อหาเงินครับ”

    “...”

    “ส่วนการได้อยู่ใกล้หูใกล้ตาพี่ศิลา...” ชวัลเอียงตัวเข้าหาคนอายุมากกว่า แอบแตะ ๆ บ่ากว้างนิดหน่อยให้ดูมีอะไร “...เป็นของรางวัลครับ”

    “ขนลุก!” เกศราโพล่งออกมา สีหน้าของเธอตอนนี้ดูไม่ได้เลยสักนิด “คุณแม่คะ เกศขอตัวกลับก่อนนะคะ” เธอหันไปหาคุณนายศิกานต์ ยกมือไหว้งาม ๆ ทีหนึ่ง หันมาส่งสายตาอาฆาตแค้นให้เด็กหนุ่มเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนสะบัดหน้าเดินจากไป

    ชวัลยิ้มรับก่อนเปลี่ยนมาเป็นทำหน้าเจี๋ยมเจี๊ยมต่อหน้าคุณนายอารมณ์ร้ายที่ตอนนี้พ่ายแพ้อย่างราบคาบ

    “ฉันจะรอดูวันที่พวกแกเลิกเล่นสนุก” ศิกานต์ประกาศกร้าว คว้ากระเป๋าสะพายไหล่ใบจิ๋ว และก้าวฉับ ๆ ออกไปจากโซนไพรเวทโดยมีเสียงขอบคุณจากนารีไล่ตามไป

    คล้อยหลังมรสุมลูกใหญ่ที่ผ่านพ้นไปแล้ว ชวัลจึงค่อยได้หายใจทั่วท้องหน่อย “ผมนึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว” เขาพึมพำเบา ๆ ก่อนหันไปยิ้มให้คนอายุมากกว่า “คราวนี้พี่...แหะ คุณศิลาติดหนี้ผมหนึ่งครั้งแล้วนะครับ”

    “...”

    “อ่า...ผมไปทำงานก่อนนะครับ”

    ชวัลอุตส่าหวังว่าจะได้ยินคำขอบคุณสักหน่อย”

    “เดี๋ยว”

    “ครับผม” ชวัลก้าวถอยกลับมาอย่างรวดเร็ว

    ศิลาดูยังไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าใดนัก แต่สีหน้าผ่อนคลายลงมากแล้ว “เมื่อกี้ขอบใจ” เขาเอ่ยสั้น ๆ เรียกรอยยิ้มกว้างจนคนฟังได้เป็นอย่างดี “แต่พอเป็นแบบนี้ฉันคงไม่มีทางเลือก”

    เด็กหนุ่มเลิกคิ้วด้วยด้วยความประหลาดใจ

    “ฉันคงต้องให้นายมาเล่นละครเป็นคนคุยของฉันสักพักจนกว่าแม่ฉันจะถอดใจ” ศิลาตอบพลางถอนหายใจ “เรื่องค่าเสียเวลา ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ให้น้อยกว่าครั้งก่อนแน่ ๆ”

    ชวัลไม่รู้ว่าจะดีใจกับเรื่องไหนก่อนดี เพราะไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะเสนอในสิ่งที่เขาแอบหวังอยู่ลึก ๆ

    ได้ทั้งเงิน...ได้ทั้งโอกาสอยู่ใกล้ ๆ ศิลามากกว่าเดิม

    “ผมขอรับไว้ด้วยความเต็มใจนะ” เขายิ้มจนตาปิด

    ศิลาแค่นเสียงหัวเราะออกมาทีหนึ่ง “จะเอาเงินไปทำอะไรนักหนา”

    ชวัลไม่ถือสากับคำบ่นเบา ๆ นั้น สำหรับบางคนเงินอาจเป็นแค่สิ่งของนอกกาย แต่สำหรับเขา...มันคือสิ่งที่จะทำให้ชีวิตของเขาดำเนินต่อไปได้ ทั้งค่าเทอม ค่าหอ...และหนี้สิน

    “ทำหน้าที่ให้ดี อย่าให้มีปัญหาก็พอ” ศิลาเหลือบสายตามองเด็กหนุ่มข้างตัว “เพราะฉันมีปัญหามากพออยู่แล้ว”

     

    To Be Continued

    หลบหน่อย พระเอกมา

    คิดว่าใครจะล้ำเส้นกันก่อน?

    #สาดแสงศิลา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×