ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Wezhakin ศึกการต่อสู้ข้ามพิภพ

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : หินปริศนา

    • อัปเดตล่าสุด 29 มี.ค. 49


    Wezhakin : Chapter 1

     

    บ่ายแก่ๆในวันปิดเทอมฤดูร้อน ในเมืองหลวง ของประเทศไทย ซึ่งตอนนี้กำลังมีปัญหาขัดแย้งทางการเมืองอยู่ไม่น้อยเช่นกัน  ซึ่งวันนี้ตรงกับวันพฤหัส ที่ 30 มีนาคม ปี 2549  เป็นวันที่เด็กกลุ่มหนึ่งนัดกันมาพบที่สวนสาธารณะประจำหมู่บ้าน

     

    ปิดเทอมครั้งนี้ฉันรู้สึกเบื่อหน่ายจัง... อะไรๆก็น่าเบื่อไปหมด  ทั้งความขัดแย้งทางการเมือง  เรื่องเกมส์ การ์ตูน  ทุกอย่างมันดูน่าเบื่อไปหมด  ทุกคนเห็นด้วยไหม ปอน เด็กชายร่างสูงโปร่ง ผมทรงรองหวีสีน้ำตาล หน้าทรงยาว คิ้วเข้มแต่มีรอยแผลเป็นเล็กๆด้านซ้าย ผ่ากลางคิ้ว เสนอขึ้น

     

    ใช่ๆ เด็กอีก 5 คน ร้องตามเป็นเสียงเดียวกัน  เดี๋ยวนี้ไม่มีอะไรทำกันแล้ว เกมส์ออนไลน์ก็น่าเบื่อ ragnarok ผู้เล่นก็เยอะ  แต่ความจริง บอทล้วนๆ คนเล่นมีแค่ 10% เอง  เกมส์อื่นๆก็เล่นจนเบื่อ  วันๆต้องนั่งแต่หาเพื่อนคุยทาง MSN ไม่ก็ฟังเพลงพลาง ลุกไปดูหนังพลางบ้าง พีท เด็กชายร่างสูงเช่นกัน ตัดผมรองทรง คิ้วเข้ม พูด

     

     ถูกอย่างที่บอกนั่นแหละ.... พวกเราเองก็ทนไม่ไหวแล้ว อยากจะทำอะไรที่สนุกๆจังเลย  ต้น กล่าวออกมาโดยครุ่นคิด  สายลมเริ่มพัดหวนปะทะกับหลังเขาเกิดความเย็นวาบขึ้นชั่วครู่

     

    มันจะไปมีได้ยังไง.... อะไรๆในตอนนี้ก็น่าเบื่อหมดแหละ บิล บ่นอุบอิบ

     

    ถ้าเบื่อนักก็ไปเรียนพิเศษสิ... เบส เด็กชายจอมหูดี เข้ามาร่วมวงเป็นคนที่ 7

     

    งั้นนายก็ไปเรียนคนเดียวแล้วกัน.... ว่าแต่ จู่ๆมาโดยไม่บอกกล่าวนี่แย่จริง ชิน บอกกับ เบส

     

    แล้วนายมีความคิดอะไรเสนอมั่งไหม นัท ต้นถามนัท ที่นั่งเงียบมาตั้งแต่แรก เขาทำท่าเหมือนไม่คิดอะไร เพียงแต่มาดเข้มไว้ก่อนเช่นเคย

     

    ฉันเหรอ... ไม่มีนี่ พวกนายอยากจะทำอะไรก็เชิญตามสบาย นัท เด็กชายวัย 13 ปี ซึ่งเป็นคนที่หน้าตาดีที่สุดในกลุ่ม มาดเท่ห์ที่สุด และบุคลิกแมนที่สุด  ทำให้สาวๆหลายคนหลงเขาโดยไม่รู้ตัว

     

    อืม... งั้นจับแกไปถ่วงน้ำดีกว่า  พูดเองไม่ใช่รึ ว่าอยากทำอะไรก็เชิญ บิล กระซิบข้างๆหูนัท อย่างกวนๆ เด็กชายพูดปนหัวเราะเป็นเชิงหยอกล้อ

     

    นัทหน้าแดงอย่างละอาย แล้วกดหัวบิลลงกับพื้นดังตึง

     

    โอ๊ย!! พูดเล่นแค่นี้ไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่! เชอะ บิลตะโกน

     

    สมน้ำหน้า พีทกับปอน พูดพร้อมกัน  เอาล่ะ มีความคิดเห็นอะไรอีกก็เสนอมาได้นะ ปอนบอกกับอีก 6 คน

    *****************************************************************************************

    เย็นวันนั้น

     

    ตุ้ย พ่อของ ปอน ซึ่งเป็นผู้จัดการบริษัททัวร์นำเที่ยว ออกจากที่ทำงานเร็วกว่าปกติ 2 ชั่วโมง เพราะรอบทัวร์ในวันนี้มีน้อยกว่าวันอื่นๆ

     

    ท้องฟ้าสีฟ้าเข้มค่อยๆเปลี่ยนเป็นม่วงคล้ำประปรายด้วยส้มนิดๆ ตุ้ย เหลือบมองนาฬิกาของตน ขณะนี้เข็มสั้นชี้ไปที่เลข 5  5 โมงเย็นแล้วหรือเนี่ย เขาพูดก่อนที่จะเดินผ่านย่านขายของชื่อดัง ที่สองข้างทางขนาบไปด้วยร้านขายสินค้าต่างๆ

     

        เปรี้ยง!

     

    เสียงชนกันดังจนเกิดเป็นที่สะดุดตาขึ้น จากนั้นไม่ถึงเสี้ยววิ  เสียงผู้ชายวัยกลางคนร้องดังขึ้นด้วยความตกใจ ช่วยด้วย!!! เจ้าขโมย! มันเอากระเป๋าสตางค์ผมไป!”

     

    เฮ้ย!หลบไป!” โจรซึ่งเป็นชายร่างเล็ก สูงประมาณ 150 เซนติเมตร วิ่งผ่าน ตุ้ย  เขากำมือแน่นระคนโกรธ แล้วยื่นอีกมือคว้าปลายเสื้อของโจรวิ่งราวได้ทันทีทันใด

     

    แก! ไอ้พวกมิจฉาชีพ!” ตุ้ยหน่วงมัดซ้ายเข้าใส่หน้าของโจรเต็มเหนี่ยว จนร่างเล็กกระเด็นไปไกล

     

    ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากๆ ชายคนนั้นกล่าวคำขอบคุณยกใหญ่  ก่อนที่จะหยิบ ก้อนหินกลมๆใสๆสีดำ ให้ตุ้ย  นี่ครับ.... ค่าตอบแทนที่คุณช่วยผมเอาไว้  ชายคนนั้นพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินจากไป

     

    ตุ้ยยืนงงเป็นไก่ตาแตก.... นี่มันอะไรกัน

     

     

    เมื่อตุ้ยกลับถึงบ้าน เขาก็เล่าเรื่องราวทั้งหมด ให้ ปอน กับ ภรรยา ของเขาฟัง  เมื่อทั้งสองฟังก็ตะลึงไปด้วย ทำไมคนๆนั้นถึงให้ของแปลกเช่นนี้

     

    พ่อก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ตอนที่ชายคนนั้นร้องให้ช่วย แต่กลับไม่มีใครสนใจขโมย... หรือพวกเขาไม่อยากยุ่ง เพราะกลัวโดนโจรทำร้ายกัน ตุ้ยบ่นเบาๆ

     

    เอาเถอะครับ ถ้าพ่อไม่อยากได้  ผมขอก็แล้วกัน ปอน เป็นเด็กที่ถูกพ่อแม่ตามใจ จึงคิดจะทำอะไรก็ทำ โดยไม่เกรงหรือคำนึงถึงความเสียมารยาท

     

    ปอน! พ่อเขายังไม่ให้ลูกเลย! เดี๋ยวเถอะ!” แม่ของปอนด์โวยตามหลังมา

     

    แฮะๆ ไอ้หินกลมนี่ ดูไปดูมา มันก็สวยดีเนอะ ระหว่างทางที่ ปอน วิ่งขึ้นห้องนอน เขาเชยชมหินก้อนใสนั่นยกใหญ่

     

    นี่!คุณ! ลูกเอาหินนั่นไปแล้วนะ

     

    ช่างเขาเถอะ คงตื่นเต้นที่เห็นของแปลกๆแบบนี้ล่ะสิ  ฮะๆๆ ตุ้ยพูดก่อนที่จะหัวเราะเบาๆ

     

    ……………………………………………….

     

    เอ.... ปอนบ่นพึมพำ แล้วพิจารณาก้อนหินสีดำใส ที่ดูคล้ายคริสตัลยังไงหยั่งงั้น ระหว่างที่เขาเพ่งมองอยู่นั่นเอง ปอนเห็นภาพชายแก่คลุมผ้าสีดำยาวมิดถึงขา ในช่องเว้าตรงกลางก้อนหิน ฮิๆๆๆชายแก่หัวเราะน่ากลัวใส่ปอน

     

    จ้าก~!!!!!!” ปอนร้องดังลั่นจนทำให้คนข้างล่างรีบวิ่งขึ้นมาดู

     

    อะไรเหรอลูก!” แม่กับพ่อของปอนถามเสียงดัง

     

    คะ..คนแก่.. คนแก่ หัวเราะในหินคริสตัลนั่น!” ปอนรีบวางหินคริสตัลลงบนพื้น แล้วกระเด้งตัวออกจากโต๊ะทำงานทันที

     

    ลูกคงจะตาฝาดไปล่ะมั้ง ...  ถ้ากลัวมากล่ะก็ เอามันไว้กับพ่อก่อนก็ได้นะ ตุ้ยบอกกับลูกชาย

     

    เชิญเลยครับ.... ปอน พูดพร้อมกับยิ้มน้อยๆ 

     

    (เอ๊ะ! คิดอะไรออกแล้ว พรุ่งนี้เราเอาไอ้หินนี่ไปให้เพื่อนดูดีกวา เผื่อจะมีอะไรสนุกๆเกิดขึ้น) จู่ๆ สมองของปอนก็คิดไอเดียอันบันเจิดนี่ได้   พ่อ! ไม่ต้องแล้วครับ เดี๋ยวผมเก็บเอาไว้เองดีกว่า ปอนคิดได้จึงขอคืน

     

    แน่นะ... เดี๋ยวใช่ว่าจะร้องจ๊ากอีกล่ะ แม่ปอนแซวก่อนที่จะเดินลงไปข้างล่าง

     

    ไม่มีทาง ปอนยักคิ้วๆกวนๆให้แม่กับพ่อ

     

    ให้มันจริงเถอะ ฮ่าๆๆ ตุ้ยพูดก่อนที่จะลงไปเช่นเดียวกัน

     

    เฮ้อ... เมื่อพ่อแม่ลงแล้ว ปอนถอนหายใจอย่างหน่ายๆ แล้ววางคริสตัลลงบนหัวเตียง  วันนี้รู้สึกเหนื่อยจัง.. นอนดีกว่า  เด็กชายพูดก่อนที่จะเอื้อมมือไปดับสวิตซ์ไฟข้างๆตัว

     

     

    TO BE CONTINUE
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×